อิสยาห์ 60-62
New Thai Version
บารมีของอิสราเอลในอนาคต
60 “จงลุกขึ้น จงส่องสว่าง เพราะแสงสว่างของเจ้าได้มาถึงแล้ว
และพระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าได้อยู่เหนือตัวเจ้าแล้ว
2 ดูเถิด ความมืดจะปกคลุมแผ่นดินโลก
และความมืดมนจะปกคลุมบรรดาชนชาติ
แต่พระผู้เป็นเจ้าจะทอแสงมายังเจ้า
และพระบารมีของพระองค์จะเป็นที่ประจักษ์บนตัวเจ้า
3 และบรรดาประชาชาติจะมาที่แสงสว่างของเจ้า
และบรรดากษัตริย์ก็จะมาที่ความสุกสว่างแห่งความรุ่งโรจน์ของเจ้า
4 จงเงยหน้าขึ้นและมองดูรอบๆ ตัว
เขาทั้งปวงประชุมร่วมกันและมาหาเจ้า
บรรดาบุตรชายของเจ้าจะมาจากแดนไกล
และจะมีคนอุ้มบุตรหญิงของเจ้าเข้าสะเอวมา
5 เจ้าจะเห็นและยิ้มแย้ม
ใจของเจ้าจะยินดีและเบิกบานมาก
เพราะความมั่งมีจากทั่วโลกจะถูกนำมาให้เจ้า
ความมั่งคั่งของบรรดาประชาชาติจะมาหาเจ้า
6 ฝูงอูฐจะอยู่ทั่วแผ่นดินของเจ้า
อูฐตัวน้อยๆ ของชาวมีเดียนและเอฟาห์
อูฐขบวนยาวจะมาจากเช-บา
พวกมันจะนำทองคำและกำยาน
และประชาชนจะประกาศคำสรรเสริญถึงพระผู้เป็นเจ้า
7 ฝูงแพะแกะแห่งเคดาร์จะถูกรวมเข้าด้วยกัน
แกะผู้แห่งเนบาโยทจะปรนนิบัติรับใช้เจ้า
พวกมันจะเป็นที่ยอมรับสำหรับแท่นบูชาของเรา
และเราจะแต่งตำหนักของเราให้สวยงาม
8 คนเหล่านี้เป็นใครที่ลอยได้อย่างก้อนเมฆ
และอย่างนกพิราบที่บินไปเกาะหน้าต่าง
9 เพราะหมู่เกาะต่างๆ จะมีความหวังในตัวเรา
เรือจากเมืองทาร์ชิชแล่นนำหน้ามา
เพื่อนำบรรดาบุตรของเจ้ามาจากแดนไกล
นำเงินและทองคำติดตัวมาด้วย
เพื่อพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า
และเพื่อองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
เพราะพระองค์ทำให้เจ้าสวยงาม
10 บรรดาชาวต่างชาติจะสร้างกำแพงของเจ้า
และบรรดากษัตริย์ของพวกเขาจะปรนนิบัติรับใช้เจ้า
ด้วยว่า เราลงโทษเจ้าเมื่อเราโกรธกริ้ว
แต่เราได้มีเมตตาต่อเจ้าเมื่อเราโปรดปราน
11 ประตูของเจ้าจะเปิดเสมอไป
มันจะไม่ถูกปิดทั้งกลางวันและกลางคืน
เพื่อผู้คนจะนำความมั่งคั่งของบรรดาประชาชาติมาให้แก่เจ้า
พร้อมกับบรรดากษัตริย์ของพวกเขาที่ถูกนำมาในขบวนแห่
12 ด้วยว่า ประชาชาติและอาณาจักร
ที่ไม่รับใช้เจ้าจะรกร้าง
ประชาชาติเหล่านั้นจะถูกทำลายจนสิ้นซาก
13 ความสง่างามของเลบานอนจะเป็นของเจ้า
ทั้งต้นสน ต้นเพลนและต้นสนไซเปร็ส
จะทำให้ที่พำนักของเราสวยงาม
และเราจะทำให้ที่วางเท้าของเราสง่างาม
14 บรรดาบุตรของพวกที่ก่อความเดือดร้อนให้กับเจ้า
จะมาก้มคารวะเจ้า
และคนทั้งหลายที่ดูหมิ่นเจ้า
จะหมอบลงที่เท้าเจ้า
พวกเขาจะเรียกชื่อเจ้าว่า เมืองของพระผู้เป็นเจ้า
ศิโยนขององค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
15 แม้ว่าเจ้าถูกทอดทิ้งและเกลียดชัง
และไม่มีผู้ใดเดินทางผ่านมา
เราจะทำให้เจ้ายิ่งใหญ่ตลอดกาล
เป็นความยินดีทุกชั่วอายุคน
16 เจ้าจะดื่มนมจากบรรดาประชาชาติ
เจ้าจะดื่มจากอกของบรรดากษัตริย์
และเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า
เป็นผู้ช่วยให้รอดพ้นของเจ้า
ผู้ไถ่ของเจ้า องค์ผู้มีอานุภาพของยาโคบ
17 เราจะนำทองคำแทนทองสัมฤทธิ์
และเงินแทนเหล็ก
นำทองสัมฤทธิ์แทนไม้
และเหล็กแทนหิน
เราจะทำให้ความสันติสุขดูแลเจ้า
และให้ความชอบธรรมเป็นผู้คุมเจ้า
18 จะไม่เกิดความรุนแรงในแผ่นดินของเจ้าอีกต่อไป
ไม่มีความงงงันหรือความพินาศภายในเขตแดนของเจ้า
เจ้าจะเรียกกำแพงเมืองของเจ้าว่า ‘ความรอดพ้น’
และเรียกประตูเมืองของเจ้าว่า ‘สรรเสริญ’
19 เวลากลางวันจะไม่มีดวงอาทิตย์เป็นแสงสว่างของเจ้าอีกต่อไป
และดวงจันทร์จะไม่ส่องความสว่างให้แก่เจ้า
แต่พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นแสงอันเป็นนิรันดร์ของเจ้า
และพระเจ้าของเจ้าจะเป็นสง่าราศีของเจ้า
20 ดวงอาทิตย์ของเจ้าจะไม่ลับฟ้าอีกต่อไป
และดวงจันทร์จะไม่เลือนจากไป
เพราะพระผู้เป็นเจ้าจะเป็นแสงอันเป็นนิรันดร์ของเจ้า
และวันเศร้าโศกของเจ้าจะสิ้นสุดลง
21 ชนชาติของเจ้าทุกคนจะมีความชอบธรรม
พวกเขาจะเป็นเจ้าของแผ่นดินไปตลอดกาล
เป็นกิ่งก้านที่เราปลูก
คือผลงานจากฝีมือของเรา
เพื่อบารมีของเราจะเป็นที่ประจักษ์
22 ผู้ที่ด้อยสุดจะสร้างตระกูลขึ้นมา
และเป็นประชาชาติที่ใจฉกาจ
เราคือพระผู้เป็นเจ้า
เมื่อถึงเวลาเราจะให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว”
ปีแห่งความโปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า
61 “พระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สถิตอยู่เหนือเรา
เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าเจิมเรา
เพื่อนำข่าวอันประเสริฐมายังผู้ยากไร้
พระองค์ส่งเรามาเพื่อสมานหัวใจที่แตกร้าว
เพื่อประกาศกับนักโทษเพื่อให้ได้รับการปลดปล่อย
และเปิดคุกให้แก่บรรดาผู้ที่ถูกจองจำ
2 เพื่อประกาศปีที่โปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า[a]
และวันแห่งการแก้แค้นของพระเจ้าของพวกเรา
เพื่อให้กำลังใจทุกคนที่เศร้าโศก
3 เพื่อจัดเตรียมให้กับบรรดาผู้ที่เศร้าโศกในศิโยน
เพื่อมอบมงกุฎที่สวยงามแทนขี้เถ้าให้แก่พวกเขา
และให้น้ำมันแห่งความยินดีแทนความเศร้าโศก
เครื่องประดับแห่งการสรรเสริญแทนจิตวิญญาณที่สิ้นหวัง
เพื่อพวกเขาจะได้รับเรียกว่า ต้นโอ๊กแห่งความชอบธรรม
ที่พระผู้เป็นเจ้าปลูก
เพื่อพระบารมีของพระองค์จะเป็นที่ประจักษ์”
4 พวกเขาจะสร้างเมืองโบราณที่พังพินาศขึ้นใหม่
พวกเขาจะบูรณะสถานที่ซึ่งพังยับเยิน
พวกเขาจะซ่อมเมืองที่ปรักหักพัง
ซึ่งรกร้างมาหลายชั่วอายุคน
5 คนแปลกหน้าจะยืนและดูแลฝูงแพะแกะของพวกท่าน
ชาวต่างชาติจะเป็นคนพรวนดิน
และคนดูแลสวนองุ่นของท่าน
6 แต่ท่านจะได้รับเรียกว่า บรรดาปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้า
พวกเขาจะพูดถึงท่านว่า ท่านเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าของเรา
ท่านจะได้รับความมั่งมีจากบรรดาประชาชาติ
และท่านจะโอ้อวดที่ได้อยู่ในความรุ่งเรืองของพวกเขา
7 แทนที่จะต้องอับอาย
ท่านจะได้รับส่วนแบ่งเป็นสองเท่า
แทนที่จะไร้เกียรติ
พวกเขาจะร่าเริงใจในส่วนแบ่ง
ฉะนั้นพวกเขาจะเป็นเจ้าของส่วนแบ่งในแผ่นดินของพวกเขาสองเท่า
พวกเขาจะมีความยินดีอันยั่งยืนตลอดไป
8 “ด้วยว่า เราผู้เป็นพระผู้เป็นเจ้ารักความยุติธรรม
เราเกลียดชังการปล้นและการกระทำความชั่ว
เราจะตอบสนองพวกเขาด้วยความสัตย์จริง
และเราจะทำพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์กับพวกเขา
9 ทายาทของพวกเขาจะเป็นที่รู้จักในบรรดาประชาชาติ
และบรรดาผู้สืบเชื้อสายของพวกเขาในท่ามกลางบรรดาชนชาติ
ทุกคนที่เห็นพวกเขาจะแสดงความรู้จักว่า
พวกเขาคือทายาทที่พระผู้เป็นเจ้าได้อวยพร”
10 ข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในพระผู้เป็นเจ้า
จิตวิญญาณข้าพเจ้ายินดีในพระเจ้าของข้าพเจ้า
เพราะพระองค์สวมเสื้อแห่งความรอดพ้นให้แก่ข้าพเจ้า
พระองค์ห่มข้าพเจ้าด้วยเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรม
อย่างกับเจ้าบ่าวสวมเครื่องประดับศีรษะอย่างงดงามดั่งปุโรหิต
และอย่างกับเจ้าสาวที่ตกแต่งด้วยเพชรพลอย
11 ด้วยว่า แผ่นดินโลกทำให้พืชงอก
และสวนทำให้เมล็ดถูกหว่านและงอกขึ้นมาเช่นไร
พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าก็จะโปรดให้ความชอบธรรม
และการสรรเสริญสะพรั่งขึ้น เพื่อประชาชาติทั้งปวงเช่นนั้น
ความรอดพ้นของศิโยน
62 เพื่อเห็นแก่ศิโยน ข้าพเจ้าจะไม่นิ่งเงียบ
และเพื่อเยรูซาเล็ม ข้าพเจ้าจะไม่นิ่งเฉย
จนกว่าความชอบธรรมของเมืองจะก้าวออกไปดุจความสว่าง
และความรอดพ้นของเมืองจะเป็นดุจคบไฟที่ลุกอยู่
2 บรรดาประชาชาติจะเห็นความชอบธรรมของเจ้า
และกษัตริย์ทั้งปวงจะเห็นความสุกสว่างของเจ้า
และเจ้าจะได้รับเรียกด้วยชื่อใหม่
ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าจะเป็นผู้ให้จากปากของพระองค์
3 เจ้าจะเป็นมงกุฎแห่งความงามในมือของพระผู้เป็นเจ้า
และราชมงกุฎในมือของพระเจ้าของเจ้า
4 เจ้าจะไม่ถูกเรียกว่าเป็น “ผู้ถูกทอดทิ้ง” อีกต่อไป
และแผ่นดินของเจ้าจะไม่ถูกเรียกว่าเป็น “ที่รกร้าง”
แต่เจ้าจะได้รับเรียกว่า “เฮฟซีบาห์”[b]
และแผ่นดินของเจ้าจะได้รับเรียกว่า “เบอูลาห์”[c]
เพราะพระผู้เป็นเจ้าชื่นชอบในตัวเจ้า
และแผ่นดินของเจ้าจะได้สมรส
5 ด้วยว่า เท่าที่ชายหนุ่มแต่งงานกับหญิงสาวเช่นไร
บรรดาบุตรชายของเจ้า[d]จะแต่งงานกับเจ้าเช่นนั้น
และเท่าที่เจ้าบ่าวชื่นชมยินดีในตัวเจ้าสาวเช่นไร
พระเจ้าของเจ้าก็จะชื่นชมยินดีในตัวเจ้าเช่นนั้น
6 โอ เยรูซาเล็มเอ๋ย เราได้วางยามไว้บนกำแพงเมืองของเจ้าแล้ว
พวกเขาจะไม่เงียบงันอีกเลยตลอดทั้งวันและคืน
พวกเจ้าที่ระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า
จงอย่าพักผ่อน
7 และไม่ยอมให้พระองค์พักผ่อน
จนกว่าพระองค์สถาปนาเยรูซาเล็ม
และทำให้เยรูซาเล็มเป็นที่สรรเสริญในโลก
8 พระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิญาณด้วยมือขวา
และด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ว่า
“เราจะไม่ให้พวกศัตรูของเจ้าได้รับธัญพืช
ของเจ้าเป็นอาหารอีกแล้ว
และชาวต่างชาติจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นของเจ้า
ซึ่งเจ้าได้ออกแรงสกัดเอง
9 แต่บรรดาผู้เก็บเกี่ยวจะเป็นผู้รับประทาน
และสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
และบรรดาผู้เก็บรวบรวมผลจะดื่ม
ในลานของสถานที่บริสุทธิ์ของเรา”
10 จงผ่านเข้าไป จงผ่านเข้าประตูเมือง
จงเตรียมทางให้ประชาชน
จงสร้าง จงสร้างถนนใหญ่
อย่าให้มีก้อนศิลาขวางทาง
จงยกธงชัยให้บรรดาชนชาติเห็น
11 ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าได้ประกาศ
ถึงสุดมุมโลก
จงบอกธิดาแห่งศิโยนว่า
“ดูเถิด ความรอดพ้นของเจ้ามาแล้ว[e]
ดูเถิด รางวัลของพระองค์อยู่กับพระองค์
และพระองค์จะตอบสนอง”
12 และพวกเขาจะได้รับเรียกว่า “ประชาชนที่บริสุทธิ์
ผู้ที่ได้รับการไถ่ของพระผู้เป็นเจ้า”
และเจ้าจะได้รับเรียกว่า “เป็นที่ปรารถนา
เมืองที่ไม่ถูกทอดทิ้ง”
Footnotes
- 61:2 ลูกา 4:18,19
- 62:4 ความหมายคือ เราชื่นชอบในตัวนาง
- 62:4 ความหมายคือ สมรสแล้ว
- 62:5 หรือผู้สร้างของเจ้า
- 62:11 เศคาริยาห์ 9:9; มัทธิว 21:5
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation