ปฐมกาล 1-8
Thai New Testament: Easy-to-Read Version
จุดเริ่มต้นของโลกมนุษย์
1 ในปฐมกาลนั้น เมื่อพระเจ้าสร้างแผ่นดินและท้องฟ้า 2 แผ่นดินยังไร้ระเบียบ และว่างเปล่าอยู่ มีน้ำลึกปกคลุมแผ่นดิน และความมืดปกคลุมน้ำ
พระวิญญาณของพระเจ้า[a]เคลื่อนไหวเหมือนพายุอยู่เหนือน้ำนั้น
วันที่หนึ่ง สร้างแสงสว่าง
3 เมื่อพระเจ้าพูดว่า “จงมีแสงสว่างขึ้น” แสงสว่างก็เกิดขึ้น 4 พระเจ้าเห็นว่า แสงสว่างนั้นดี พระเจ้าได้แยกความสว่างออกจากความมืด 5 พระเจ้าเรียกความสว่างนั้นว่า “วัน” เรียกความมืดนั้นว่า “คืน” มีตอนเย็นและมีตอนเช้า นี่คือวันแรก
วันที่สอง สร้างท้องฟ้า
6 พระเจ้าพูดว่า “ขอให้มีโดม[b] เกิดขึ้นระหว่างน้ำ แยกน้ำนั้นออกจากกันเป็นสองส่วน” 7 พระเจ้าจึงสร้างโดมขึ้น พระองค์แยกน้ำที่อยู่ใต้โดมนั้นออกจากน้ำที่อยู่เหนือโดมนั้น แล้วมันก็เกิดขึ้นตามนั้น 8 พระเจ้าเรียกโดมนั้นว่า “ท้องฟ้า” มีตอนเย็นและมีตอนเช้า นี่คือวันที่สอง
วันที่สาม สร้างแผ่นดินและพืช
9 พระเจ้าพูดว่า “ให้น้ำที่อยู่ใต้ท้องฟ้านั้นมารวมอยู่ที่เดียวกัน เพื่อจะได้มีที่แห้งโผล่ขึ้น” มันก็เกิดขึ้นตามนั้น 10 พระเจ้าเรียกที่แห้งนั้นว่า “แผ่นดิน” พระเจ้าเรียกน้ำที่อยู่รวมกันนั้นว่า “ทะเล” พระเจ้าเห็นว่ามันดี
11 พระเจ้าพูดว่า “ขอให้มีหญ้างอกขึ้นบนแผ่นดิน ให้เกิดพืชพันธุ์ต่างๆที่ให้เมล็ด มีต้นไม้ต่างๆที่ออกลูกและมีเมล็ดตามชนิดของมันบนแผ่นดินนี้” แล้วมันก็เกิดขึ้นตามนั้น 12 แผ่นดินก็มีหญ้างอกขึ้น เกิดพืชพันธุ์ต่างๆที่ให้เมล็ดตามชนิดของมัน และมีต้นไม้ที่ออกลูกและมีเมล็ดตามชนิดของมัน พระเจ้าเห็นว่ามันดี
13 มีตอนเย็นและมีตอนเช้า นี่คือวันที่สาม
วันที่สี่ สร้างดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลาย
14 พระเจ้าพูดว่า “ขอให้มีดวงสว่างมากมายในช่องว่างบนท้องฟ้า เพื่อแยกกลางวันออกจากกลางคืน และพวกมันจะเป็นเครื่องบ่งบอกถึงฤดูกาลทั้งหลายของงานเทศกาล รวมทั้งวันและปี[c] 15 ขอให้พวกมันเป็นดวงสว่างต่างๆในโดมของท้องฟ้า เพื่อให้แสงสว่างกับโลกนี้” แล้วมันก็เกิดขึ้นตามนั้น
16 พระเจ้าจึงได้สร้างดวงสว่างที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาสองดวง พระเจ้าให้ดวงสว่างดวงใหญ่ ปกครองกลางวัน และให้ดวงสว่างดวงเล็ก ปกครองกลางคืน พระเจ้าได้สร้างดวงดาวต่างๆขึ้นมาด้วย 17 แล้วพระเจ้าก็ได้วางดวงสว่างพวกนี้ไว้ในท้องฟ้า เพื่อส่องสว่างให้กับโลก 18 เพื่อให้ปกครองกลางวัน และกลางคืน และเพื่อแยกความสว่างออกจากความมืด พระเจ้าเห็นว่ามันดี
19 มีตอนเย็นและมีตอนเช้า นี่คือวันที่สี่
วันที่ห้า สร้างสัตว์น้ำและนก
20 พระเจ้าพูดว่า “ขอให้น้ำเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมาย และขอให้มีนกเกิดขึ้นมากมายบินไปมาบนท้องฟ้าเหนือแผ่นดินโลก” 21 แล้วพระเจ้าก็ได้สร้างสัตว์ทะเล[d]ขนาดใหญ่ขึ้นมากมายให้อยู่ในทะเลนั้น และสร้างสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่เคลื่อนไหวได้ในน้ำ พระเจ้าสร้างนกทุกชนิดขึ้นมาบินอยู่บนท้องฟ้า พระเจ้าเห็นว่ามันดี
22 พระเจ้าอวยพรพวกมันว่า “ขอให้เกิดลูกมากมายเต็มท้องทะเล พวกนกก็เหมือนกัน ขอให้เกิดลูกมากมายบนโลกนี้”
23 มีตอนเย็นและมีตอนเช้า นี่คือวันที่ห้า
วันที่หก สร้างสัตว์บกและคน
24 พระเจ้าพูดว่า “ขอให้แผ่นดินเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นทุกชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก รวมทั้งสัตว์ป่าตามชนิดต่างๆของมัน” แล้วมันก็เกิดขึ้นตามนั้น
25 พระเจ้าสร้างสัตว์บกทุกชนิดขึ้นมา สร้างสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ทุกประเภท และสร้างสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กทุกประเภทบนโลก แล้วพระเจ้าก็เห็นว่ามันดี
26 พระเจ้าพูดอีกว่า “ขอให้เราสร้างมนุษย์[e] ขึ้นมาตามรูปแบบของเรา ให้เหมือนกับเรา และให้เขาปกครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศ สัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ และโลกทั้งโลก[f] รวมทั้งสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กทั้งหมดบนโลก”
27 แล้วพระเจ้าได้สร้างมนุษย์ขึ้นตามรูปแบบของพระองค์[g] พระองค์สร้างเขาขึ้นตามรูปแบบของพระเจ้า พระองค์สร้างพวกเขาเป็นชายและหญิง 28 พระเจ้าอวยพรพวกเขา และพูดกับพวกเขาว่า “ขอให้มีลูกดกทวีมากมายจนเต็มแผ่นดินโลก ให้ควบคุมโลกนี้ และปกครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศ และสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่บนโลกนี้”
29 พระเจ้าพูดว่า “ดูเถิด เราได้มอบเมล็ดพันธุ์ทุกชนิดที่จะเติบโตขึ้นเป็นพืช และต้นไม้ทุกชนิดที่จะเกิดลูกพร้อมกับเมล็ดของมัน ให้กับเจ้าเป็นอาหาร 30 ส่วนสัตว์ทุกชนิดบนพื้นดิน นกทุกชนิดในอากาศ สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กทุกประเภทบนพื้นดิน ที่มีลมหายใจ เราได้ให้พืชสีเขียวกับพวกมันเป็นอาหาร” แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นตามนั้น
31 พระเจ้าได้มองดูทุกสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้น และพระองค์เห็นว่ามันดีมาก
มีตอนเย็นและมีตอนเช้า นี่คือวันที่หก
วันที่เจ็ด วันพักผ่อน
2 ดังนั้น ท้องฟ้า แผ่นดิน และทุกสิ่งทุกอย่างในนั้น ถูกสร้างขึ้นมาจนเสร็จสมบูรณ์ 2 ในวันที่เจ็ด พระเจ้าได้ทำงานที่พระองค์ทำอยู่เสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว ดังนั้นในวันที่เจ็ดพระเจ้าจึงหยุดพักจากการงานทุกอย่างที่พระองค์ทำ 3 พระเจ้าได้อวยพรวันที่เจ็ด และทำให้มันเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ เพราะในวันที่เจ็ดนี้ พระเจ้าได้หยุดจากงานสร้างที่พระองค์ทำอยู่
การเริ่มต้นของเผ่าพันธุ์มนุษย์
4 นี่เป็นที่มาของท้องฟ้าและแผ่นดินโลก ตอนที่พวกมันถูกสร้างขึ้นนั้น ตอนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าสร้างโลกและท้องฟ้าขึ้นนั้น 5 ยังไม่มีพุ่มไม้ในท้องทุ่งเกิดขึ้นบนโลกนี้ และยังไม่มีพืชในท้องทุ่งแตกหน่อออกมา เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้า ยังไม่ได้ทำให้มีฝนตกบนโลกนี้ และยังไม่มีมนุษย์ที่จะมาไถพรวนดินนั้น 6 แต่มีตาน้ำไหลออกมาจากพื้นดิน และมันก็ทำให้หน้าดินชุ่มชื้น
7 พระยาห์เวห์พระเจ้าได้ปั้นมนุษย์ผู้ชาย[h] ขึ้นจากผงดินบนพื้น พระองค์ปล่อยลมหายใจเข้าไปในจมูกของชายคนนั้น เป็นลมหายใจแห่งชีวิต และชายคนนั้นก็มีชีวิตขึ้นมา 8 พระยาห์เวห์พระเจ้าสร้างสวนแห่งหนึ่งขึ้นในเอเดนทางทิศตะวันออก[i] พระองค์ให้ชายคนที่พระองค์สร้างขึ้นมาอยู่ที่นั่น 9 พระยาห์เวห์พระเจ้าทำให้ต้นไม้ทุกชนิดงอกขึ้นมาจากพื้นดิน ทั้งต้นไม้ที่ให้ความสวยงาม กับต้นไม้ที่กินได้ ตรงกลางสวนนั้นมีต้นไม้แห่งชีวิต และต้นไม้แห่งการรู้จักผิดชอบชั่วดี
10 มีแม่น้ำสายหนึ่งไหลผ่านสวนเอเดน เพื่อจะได้มีน้ำให้กับสวนนั้น จากจุดนั้น แม่น้ำสายนี้ได้แยกออกมาเป็นแม่น้ำสายเล็กๆสี่สาย 11 แม่น้ำสายที่หนึ่งมีชื่อว่า ปิโชน เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองฮาวิลาห์[j] เมืองนี้มีทองคำ 12 เป็นทองคำเนื้อดี เมืองนี้ยังมียางไม้ครั่ง[k] และโมรา[l] ด้วย 13 แม่น้ำสายที่สองมีชื่อว่ากิโฮน เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองคูช[m] 14 แม่น้ำสายที่สามมีชื่อว่าไทกริส[n] เป็นแม่น้ำที่ไหลไปทางทิศตะวันออกของเมืองอัสซีเรีย แม่น้ำสายที่สี่มีชื่อว่ายูเฟรติส
15 พระเจ้าเอาผู้ชายคนนั้นไปอยู่ในสวนเอเดน ให้เขาดูแลเอาใจใส่สวนนั้น 16 พระยาห์เวห์พระเจ้าสั่งชายคนนั้นว่า “เจ้าจะกินจากต้นไม้ไหนๆก็ได้ในสวนนี้ 17 แต่เจ้าต้องไม่กินจากต้นไม้แห่งการรู้จักผิดชอบชั่วดี เพราะในวันที่เจ้ากินจากต้นไม้นั้น เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน”
ผู้หญิงคนแรก
18 พระยาห์เวห์พระเจ้าพูดว่า “มันไม่ดีที่จะให้ผู้ชายคนนี้อยู่คนเดียว เราจะสร้างผู้ช่วยคนหนึ่งที่เหมือนกับเขาให้กับเขา”
19 พระยาห์เวห์พระเจ้าได้ใช้ดินสร้างเป็นสัตว์ทุกชนิดในท้องทุ่งและนกทุกชนิดในอากาศ แล้วพระองค์ได้นำสัตว์พวกนี้แต่ละตัวไปมอบให้กับชายคนนี้ เพื่อดูว่าเขาจะเรียกมันว่าอะไร ชายคนนี้เรียกสิ่งมีชีวิตพวกนั้นว่าอะไร มันก็มีชื่อตามนั้น 20 ชายคนนี้ตั้งชื่อให้กับสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ พวกนกที่อยู่ในอากาศ และสัตว์ป่าทุกชนิด แต่ก็ไม่เจอผู้ช่วยที่เหมือนกับเขาเลย 21 พระยาห์เวห์พระเจ้าทำให้ชายคนนี้หลับสนิท ตอนที่เขาหลับอยู่นั้น พระองค์เอาซี่โครงซี่หนึ่งของเขาออกมา แล้วปิดแผลบนผิวหนังของเขา 22 จากนั้น พระยาห์เวห์พระเจ้าก็เอาซี่โครงที่มาจากชายนั้น มาสร้างเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วพระองค์ก็เอานางไปให้กับชายคนนั้น 23 ชายนั้นจึงพูดว่า
“ในที่สุด
นี่แหละคือกระดูกจากกระดูกของเรา
และเนื้อจากเนื้อของเรา
เธอจะถูกเรียกว่า ผู้หญิง[o]
เพราะเธอถูกดึงออกมาจากผู้ชาย”
24 เพราะเหตุนี้ ผู้ชายจึงได้จากพ่อแม่ของเขา ไปผูกพันอยู่กับเมียของเขา และทั้งสองคนก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
25 ในเวลานั้น ทั้งผู้ชายและเมียของเขา ก็เปลือยกายอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกอับอาย
การเริ่มต้นของบาป
3 ในขณะนั้น งูเป็นสัตว์ที่ฉลาดเจ้าเล่ห์กว่าสัตว์ป่าทั้งหมดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าได้สร้างขึ้น งูตัวนั้นพูดกับผู้หญิงว่า “จริงหรือที่พระเจ้าพูดว่า ‘พวกเจ้าต้องไม่กินจากต้นไหนๆในสวนนี้’”
2 หญิงนั้นตอบงูว่า “พวกเรากินผลไม้จากต้นไหนๆก็ได้ในสวนนี้ 3 แต่พระเจ้าพูดว่า ‘พวกเจ้าต้องไม่กินผลไม้จากต้นที่อยู่กลางสวนนั้น อย่าแม้แต่จะแตะต้องมัน ไม่อย่างนั้นเจ้าจะตาย’”
4 งูนั้นพูดกับหญิงนั้นว่า “เจ้าจะไม่ตายหรอก 5 พระเจ้าเองก็ยังรู้เลยว่า เมื่อเจ้ากินจากต้นนั้น ตาของเจ้าจะสว่างขึ้น แล้วเจ้าจะเป็นเหมือนกับพระเจ้า รู้จักผิดชอบชั่วดี”
6 หญิงนั้นมองดู และเห็นว่าต้นไม้นั้นมีผลน่ากินมาก มันช่างสวยงาม และยั่วยวนใจเหลือเกิน เพราะมันสามารถทำให้คนเฉลียวฉลาดได้ หญิงนั้นจึงเด็ดเอาผลของมันมากิน แล้วเธอก็ส่งให้สามีของเธอกินด้วย และเขาก็กินมัน
7 แล้วตาของพวกเขาก็สว่างขึ้น พวกเขารู้ตัวว่ากำลังเปลือยกายอยู่ พวกเขาจึงเอาใบไม้มาเย็บเข้าด้วยกัน แล้วเอามาใส่ปกปิดร่างกาย
8 ในเวลาเย็นของวันนั้น พวกเขาได้ยินเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าเดินมาในสวน ทั้งชายนั้นและเมียของเขา ต่างพากันไปหลบซ่อนจากหน้าของพระยาห์เวห์พระเจ้า พวกเขาแอบอยู่ตามต้นไม้ในสวน 9 พระยาห์เวห์พระเจ้า ได้ส่งเสียงเรียกชายคนนั้น และพูดกับเขาว่า “เจ้าอยู่ที่ไหน”
10 ชายคนนั้นตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของพระองค์ในสวนนี้ ข้าพเจ้าเกรงกลัว เพราะข้าพเจ้าเปลือยกายอยู่ ข้าพเจ้าจึงมาแอบซ่อนตัวอยู่”
11 พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงตอบว่า “ใครบอกเจ้าว่าเจ้าเปลือยกายอยู่ นี่เจ้ากินจากต้นที่เราสั่งห้ามไม่ให้เจ้ากินแล้วใช่ไหม”
12 ชายคนนั้นตอบว่า “หญิงที่พระองค์ได้มอบให้กับข้าพเจ้า เป็นคนเอาผลไม้จากต้นนั้นมาให้ข้าพเจ้าแล้วข้าพเจ้าก็กินมัน”
13 พระยาห์เวห์พระเจ้าพูดกับหญิงคนนั้นว่า “เจ้าได้ทำอะไรลงไป” หญิงนั้นตอบว่า “งูตัวหนึ่งมาล่อลวงข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าก็กินผลไม้นั้น”
14 พระยาห์เวห์พระเจ้าพูดกับงูว่า
“เพราะเจ้าได้ทำอย่างนี้
เจ้าจะถูกสาปแช่งมากยิ่งกว่าสัตว์ทุกชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า
เจ้าจะต้องเลื้อยไปด้วยท้อง
เจ้าจะต้องกินฝุ่นไปตลอดชีวิต
15 เราจะทำให้เจ้ากับหญิงนั้นเป็นศัตรูกัน
ลูกหลานของเจ้ากับลูกหลานของหญิงนั้นจะเป็นศัตรูกัน
ลูกหลานของหญิงนั้นจะทำให้หัวของเจ้าฟกช้ำ
แล้วเจ้าจะทำให้ส้นเท้าของเขาฟกช้ำ”
16 แล้วพระองค์พูดกับหญิงนั้นว่า
“เราจะทำให้เจ้าต้องทำงานอย่างหนัก
เจ้าจะต้องตั้งท้องบ่อยๆ
นอกจากจะต้องทำงานหนักแล้ว
เจ้าจะต้องคลอดลูกอีกด้วย[p]
เจ้าจะอยากควบคุม[q]สามี
แต่สามีจะครอบงำเจ้า”
17 แล้วพระองค์พูดกับชายนั้นว่า
“เพราะเจ้าไปฟังเสียงของเมียเจ้า
และเจ้ากินจากต้นไม้ที่เราสั่งห้ามไม่ให้เจ้ากิน
เพราะเจ้าทำอย่างนั้น เราจะสาปแช่งผืนดิน
เจ้าจะได้กินจากผืนดินนั้นก็ต่อเมื่อเจ้าทำงานอย่างหนักทุกวันตลอดชั่วชีวิตของเจ้า
18 แผ่นดินจะเกิดหนามและวัชพืชให้กับเจ้า
และเจ้าจะต้องกินพืชที่อยู่ในท้องทุ่ง[r]
19 เจ้าจะต้องทำงานหนักอาบเหงื่อต่างน้ำเพื่อจะมีอาหารกิน
จนกว่าเจ้าจะตายกลับไปสู่ดินเพราะเจ้ามาจากดิน
เพราะเจ้าถูกสร้างมาจากผงดิน
ดังนั้นเจ้าจะต้องคืนกลับไปเป็นผงดินเหมือนเดิม”
20 ชายคนนั้นตั้งชื่อเมียของเขาว่า “เอวา”[s] เพราะนางจะเป็นแม่คนแรกของทุกคนที่จะเกิดมา
21 พระยาห์เวห์พระเจ้าทำเครื่องนุ่งห่มจากหนังสัตว์ ให้อาดัมกับเมียของเขาใส่เพื่อปกปิดร่างกาย 22 แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าพูดว่า “ดูสิ พวกมนุษย์ได้กลายมาเป็นเหมือนเราแล้ว คือรู้จักผิดชอบชั่วดี และตอนนี้เขาอาจจะยื่นมือออกไปหยิบผลไม้จากต้นไม้แห่งชีวิตมากิน และมีชีวิตอยู่ตลอดไป”
23 พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงขับไล่เขาออกจากสวนเอเดน ให้ไปทำงานบนดินที่พระเจ้าใช้สร้างเขาขึ้นมานั้น 24 พระองค์ได้ขับไล่ชายคนนั้นไป แล้วตรงทิศตะวันออกของสวนเอเดน พระองค์ได้ตั้งพวกทูตสวรรค์เครูบ ที่มีดาบเป็นประกายไฟลุกโพลง มาเฝ้าทางเข้าที่จะนำไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิตนั้น
ครอบครัวแรก
4 ฝ่ายอาดัมได้มีเพศสัมพันธ์กับเอวาเมียของตน แล้วนางก็ตั้งท้อง คลอดลูกชายคนหนึ่งชื่อ คาอิน เธอพูดว่า “ฉันได้[t]ลูกชายแล้วจากความช่วยเหลือของพระยาห์เวห์”
2 ต่อมานางก็ได้คลอดน้องชายของคาอิน ชื่ออาเบล เมื่ออาเบลโตขึ้นก็เป็นคนเลี้ยงแกะ ส่วนคาอินก็เป็นชาวนา
การฆ่ากันครั้งแรก
3 อยู่มาวันหนึ่ง คาอินได้นำเอาพืชผลที่เกิดจากผืนดินมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ 4 ส่วนอาเบลก็เอาพวกแกะหัวปีจากฝูงของเขา โดยเฉพาะส่วนไขมัน[u] มาถวายให้กับพระยาห์เวห์
พระยาห์เวห์ยอมรับอาเบลและเครื่องบูชาของเขา 5 แต่พระองค์ไม่ยอมรับคาอินกับเครื่องบูชาของเขา ทำให้คาอินโกรธมาก ไม่พอใจ หน้าบึ้งอยู่ 6 พระยาห์เวห์พูดกับคาอินว่า “เจ้าโกรธทำไม เจ้าหน้าบึ้งทำไม 7 ถ้าเจ้าทำในสิ่งที่ถูก เราก็จะยอมรับเจ้า แต่ถ้าเจ้าทำสิ่งที่ผิด ความบาปก็ดักซุ่มโจมตีเจ้าอยู่ที่ประตู มันอยากควบคุมเจ้า[v] แต่เจ้าจะต้องเป็นฝ่ายที่ครอบงำมัน”
8 คาอินบอกกับอาเบลน้องชายว่า ให้เราไปในทุ่งกันเถอะ[w] ตอนที่พวกเขาอยู่ในทุ่งนั้น คาอินก็โถมเข้าใส่อาเบลน้องชายและฆ่าเขา
9 พระยาห์เวห์ถามคาอินว่า “น้องชายของเจ้าอยู่ไหน”
คาอินตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่รู้ ข้าพเจ้าเป็นคนดูแลน้องชายหรือยังไง”
10 พระยาห์เวห์จึงพูดว่า “เจ้าได้ทำอะไรลงไป เลือดของน้องชายเจ้าที่ผืนดินนั้นได้ร้องออกมาถึงเรา 11 ตอนนี้เจ้าถูกสาปแช่งจากแผ่นดินที่อ้าปากของมันดื่มกินเลือดของน้องชายเจ้าจากมือของเจ้า 12 เมื่อเจ้าทำงานบนผืนดิน มันจะไม่ให้พืชผลกับเจ้าอีกแล้ว เจ้าจะกลายเป็นคนเร่ร่อนไม่มีหลักแหล่งในโลกนี้”
13 คาอินพูดกับพระยาห์เวห์ว่า “โทษของข้าพเจ้าหนักเกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะทนได้ 14 ดูเถิดในวันนี้พระองค์ได้ขับไล่ข้าพเจ้าออกไปจากแผ่นดิน แล้วข้าพเจ้าจะถูกซ่อนไปจากพระองค์ ข้าพเจ้าจะต้องกลายเป็นคนเร่ร่อนไม่มีหลักแหล่งในโลกนี้ และใครก็ตามที่พบข้าพเจ้าจะฆ่าข้าพเจ้า”
15 พระยาห์เวห์พูดกับเขาว่า “เพราะเครื่องหมายนี้ ใครก็ตามที่ฆ่าเจ้า จะต้องถูกลงโทษเจ็ดเท่า” แล้วพระเจ้าก็ใส่เครื่องหมายบนตัวคาอิน เพื่อว่าคนที่เจอเขาจะได้ไม่ฆ่าเขา
ครอบครัวของคาอิน
16 จากนั้น คาอินจากพระยาห์เวห์ไป เขาไปอยู่ที่เมืองโนด[x] ทางทิศตะวันออกของเอเดน
17 คาอินมีเพศสัมพันธ์กับเมียของเขา นางตั้งท้องและคลอดลูกชื่อเอโนค คาอินสร้างเมืองขึ้นเมืองหนึ่งและเขาตั้งชื่อเมืองนั้นว่า เอโนค ตามชื่อลูกชายของเขา
18 เอโนคมีลูกชายชื่ออิราด อิราดมีลูกชายชื่อเมหุยาเอล เมหุยาเอลมีลูกชายชื่อเมธูชาเอล เมธูชาเอลมีลูกชายชื่อลาเมค
19 ลาเมคมีเมียสองคนชื่ออาดาห์ กับศิลลาห์ 20 อาดาห์มีลูกชื่อยาบาล เขาเป็นบรรพบุรุษ[y] ของพวกที่อาศัยอยู่ในเต็นท์และเลี้ยงสัตว์ใช้งาน 21 น้องชายของยาบาลชื่อยูบาล เขาเป็นบรรพบุรุษของพวกคนที่เล่นพิณและเป่าขลุ่ยเก่ง 22 ศิลลาห์มีลูกชื่อ ทูบัลคาอิน เขาเป็นบรรพบุรุษของพวกช่างทำเครื่องมือทองสัมฤทธิ์และเหล็กต่างๆ[z] น้องสาวของทูบัลคาอินชื่อนาอามาห์
23 ลาเมคพูดกับเมียทั้งสองของเขาว่า
“อาดาห์กับศิลลาห์ฟังเราให้ดี
เจ้าที่เป็นเมียของลาเมคฟังสิ่งที่เราจะพูดให้ดี
เราได้ฆ่าชายคนหนึ่งที่ทำให้เราบาดเจ็บ
เราได้ฆ่าเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ได้มาทำร้ายเรา
24 ถ้าหากการฆ่าคาอินจะต้องรับโทษเจ็ดเท่า
การฆ่าเราลาเมค ก็จะต้องได้รับโทษถึงเจ็ดสิบเจ็ดเท่า”
อาดัมกับเอวามีลูกชายอีกคน
25 อาดัมมีเพศสัมพันธ์กับเมียของตนอีก นางคลอดลูกชายคนหนึ่ง นางตั้งชื่อเขาว่า เสท[aa] เพราะนางพูดว่า “พระยาห์เวห์ให้ลูกชายอีกคนหนึ่งกับฉันแทนอาเบล เพราะคาอินฆ่าเขาแล้ว” 26 แล้วเสทก็มีลูกชายคนหนึ่ง เขาตั้งชื่อลูกว่า เอโนช ในเวลานั้น ผู้คนเริ่มพากันมานมัสการพระยาห์เวห์[ab]
ประวัติของครอบครัวอาดัม
(1 พศด. 1:1-4)
5 นี่คือหนังสือประวัติครอบครัวของอาดัม[ac] ในวันที่พระเจ้าสร้างมนุษย์นั้น พระเจ้าสร้างพวกเขาให้เหมือนกับพระองค์[ad] 2 พระเจ้าได้สร้างชายและหญิงขึ้น ในวันที่พระองค์สร้างพวกเขานั้นพระองค์ได้อวยพรพวกเขา และเรียกพวกเขาว่ามนุษย์
3 เมื่ออาดัมมีอายุได้หนึ่งร้อยสามสิบปี เขาก็มีลูกชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งรูปร่างหน้าตาคล้ายเขามาก เขาตั้งชื่อลูกว่าเสท 4 หลังจากเสทเกิดแล้ว อาดัมก็มีชีวิตต่อไปอีกแปดร้อยปี และเขายังมีลูกชายลูกสาวอีกหลายคน 5 อาดัมมีอายุถึงเก้าร้อยสามสิบปีจึงตาย
6 ส่วนเสทนั้น เมื่อมีอายุได้หนึ่งร้อยห้าปี ก็มีลูกชายชื่อเอโนช 7 หลังจากเอโนชเกิดมาแล้ว เสทก็มีชีวิตต่อไปอีกแปดร้อยเจ็ดปี เขายังมีลูกชายลูกสาวอีกหลายคน 8 เสทมีอายุถึงเก้าร้อยสิบสองปีจึงตาย
9 เมื่อเอโนชมีอายุได้เก้าสิบปี เขาก็มีลูกชายชื่อเคนัน 10 หลังจากที่เคนันเกิดมาแล้ว เอโนชมีชีวิตต่อไปอีกแปดร้อยสิบห้าปี เขายังมีลูกชายลูกสาวอีกหลายคน 11 เอโนชมีอายุถึงเก้าร้อยห้าปีจึงตาย
12 เมื่อเคนันอายุเจ็ดสิบปี ก็มีลูกชายชื่อ มาหะลาเลล 13 หลังจากมาหะลาเลลเกิดมาแล้ว เคนันมีชีวิตต่อไปอีกแปดร้อยสี่สิบปี เขายังมีลูกชายลูกสาวอีกหลายคน 14 เคนันมีอายุถึงเก้าร้อยสิบปีจึงตาย
15 เมื่อมาหะลาเลลมีอายุหกสิบห้าปี ก็มีลูกชายชื่อยาเรด 16 หลังจากที่ยาเรดเกิดมาแล้ว มาหะลาเลลมีชีวิตต่อไปอีกแปดร้อยสามสิบปี เขายังมีลูกชายลูกสาวอีกหลายคน 17 มาหะลาเลลมีอายุถึงแปดร้อยเก้าสิบห้าปีจึงตาย
18 เมื่อยาเรดมีอายุหนึ่งร้อยหกสิบสองปี ก็มีลูกชายชื่อเอโนค 19 หลังจากที่เอโนคเกิดมาแล้ว ยาเรดมีชีวิตต่อไปอีกแปดร้อยปี เขายังมีลูกชายลูกสาวอีกหลายคน 20 ยาเรดมีอายุถึงเก้าร้อยหกสิบสองปีจึงตาย
21 เมื่อเอโนคอายุได้หกสิบห้าปี ก็มีลูกชายชื่อเมธูเสลาห์ 22 หลังจากที่เมธูเสลาห์เกิดมาแล้ว เอโนคมีชีวิตที่อยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้า[ae]ต่อไปอีกสามร้อยปี ระหว่างนั้นเขามีลูกชายลูกสาวอีกหลายคน 23 เอโนคมีชีวิตอยู่จนมีอายุสามร้อยหกสิบห้าปี 24 เอโนคเดินไปกับพระเจ้า แล้วเขาก็หายตัวไปเพราะพระเจ้าเอาตัวเขาไป
25 เมื่อเมธูเสลาห์มีอายุหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดปี ก็มีลูกชายชื่อลาเมค 26 หลังจากที่ลาเมคเกิดมาแล้ว เมธูเสลาห์มีชีวิตต่อไปอีกเจ็ดร้อยแปดสิบสองปี เขามีลูกชายลูกสาวอีกหลายคน 27 เมธูเสลาห์ มีอายุถึงเก้าร้อยหกสิบเก้าปีจึงตาย
28 เมื่อลาเมคมีอายุหนึ่งร้อยแปดสิบสองปี ก็มีลูกชายคนหนึ่ง 29 เขาตั้งชื่อลูกว่าโนอาห์[af] เขาพูดว่า “ลูกคนนี้จะทำให้พวกเราได้หยุดพักจากการงานที่เหน็ดเหนื่อยของเรา เพราะพระเจ้าได้สาปแช่งแผ่นดินแห่งนี้ไว้”
30 หลังจากที่โนอาห์เกิดมาแล้ว ลาเมคก็มีชีวิตต่อไปอีกห้าร้อยเก้าสิบห้าปี และเขาก็มีลูกชายลูกสาวอีกหลายคน 31 ลาเมคมีอายุถึงเจ็ดร้อยเจ็ดสิบเจ็ดปีจึงตาย
32 เมื่อโนอาห์อายุได้ห้าร้อยปี ก็มีลูกชายชื่อเชม ฮาม และยาเฟท
ประชาชนเริ่มชั่วร้าย
6 เมื่อประชาชนบนแผ่นดินมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆและได้เกิดลูกสาวมากมาย 2 พวกลูกชายของพระเจ้า[ag] เห็นว่าลูกสาวของมนุษย์นั้นสวยงามเหลือเกิน พวกเขาจึงได้แต่งงานกับบรรดาลูกสาวของมนุษย์ที่พวกเขาได้เลือกมา
3 พระเจ้าจึงพูดว่า “วิญญาณของเราจะไม่อยู่กับพวกมนุษย์ตลอดไป เพราะพวกเขาตายได้ ดังนั้นพวกเขาก็จะมีอายุเพียงหนึ่งร้อยยี่สิบปี”[ah]
4 ในเวลานั้น มีชาวเนฟิล[ai] อาศัยอยู่บนแผ่นดินด้วย เมื่อพวกลูกชายของพระเจ้าได้มีเพศสัมพันธ์กับพวกลูกสาวของมนุษย์ ผู้หญิงเหล่านี้ได้คลอดลูกออกมาหลายคน ซึ่งพวกเขาได้เติบโตขึ้นเป็นนักรบที่กล้าหาญ มีชื่อเสียงมากในยุคโบราณนั้น[aj]
5 พระยาห์เวห์เห็นว่ามนุษย์บนโลกชั่วมาก สิ่งที่พวกเขาคิดในใจก็ล้วนชั่วร้ายตลอดเวลา 6 พระยาห์เวห์รู้สึกเสียใจที่พระองค์สร้างมนุษย์ขึ้นในโลก ใจของพระองค์เศร้าสลด 7 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะทำลายล้างมนุษย์ที่เราสร้างขึ้นจากดิน กับพวกสัตว์ใช้งาน สัตว์เลื้อยคลานทุกอย่างบนดิน รวมทั้งนกทุกชนิด เพราะเราเศร้าใจที่ได้สร้างพวกเขาขึ้นมา”
8 มีแต่โนอาห์[ak] เท่านั้นที่พระเจ้าชอบใจ
โนอาห์กับน้ำท่วมครั้งใหญ่
9 ต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของโนอาห์และครอบครัวของเขา โนอาห์เป็นคนดีมาก ไม่มีที่ติเลยในท่ามกลางคนในยุคสมัยของเขา โนอาห์ได้เดินไปกับพระเจ้า[al] 10 เขามีลูกชายสามคนชื่อ เชม ฮาม และยาเฟท
11 ในสายตาของพระเจ้านั้น โลกดูเสื่อมทรามมาก เต็มไปด้วยประชาชนที่ชอบความรุนแรง 12 พระเจ้ามองดูโลกนี้ และเห็นว่าโลกนี้เสื่อมทรามจริงๆ เพราะวิถีทางทั้งหลายของมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้เสื่อมทราม
13 พระเจ้าพูดกับโนอาห์ว่า เราได้ตัดสินใจที่จะทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหมด เพราะโลกนี้เต็มไปด้วยความรุนแรง ดังนั้นเราจะทำลายพวกมันไปพร้อมๆกับโลก 14 ให้เจ้าต่อเรือสำหรับเจ้าเองลำหนึ่ง โดยใช้ไม้สนโกเฟอร์[am] สร้างห้องขึ้นหลายห้องในเรือลำนั้น[an] เอาน้ำมันดิน[ao] มาทาอุดร่องไม้ทั้งด้านในและด้านนอก
15 ให้ต่อเรือขึ้นมีความยาวหนึ่งร้อยสี่สิบเมตร กว้างยี่สิบสามเมตรและสูงสิบสามเมตรครึ่ง 16 ให้ทำหลังคาบนเรือด้วย เมื่อทำหลังคาเสร็จแล้ว ควรให้มันมีทางเอียงลาด[ap] ขนาดครึ่งเมตร[aq] ให้ทำประตูไว้ทางด้านข้างบานหนึ่งด้วย ให้สร้างดาดฟ้า พื้นชั้นล่าง ชั้นที่สอง และชั้นที่สามด้วย
17 เราจะให้น้ำท่วมโลก เพื่อทำลายทุกๆชีวิตภายใต้ท้องฟ้านี้ ทุกอย่างบนโลกนี้จะตายหมด 18 แต่เราจะให้สัญญาพิเศษกับเจ้า เจ้าจะเข้าไปอยู่ในเรือ พร้อมกับพวกลูกชาย เมียและลูกสะใภ้ของเจ้า 19 เจ้าควรจะนำสิ่งมีชีวิตทุกชนิดอย่างละคู่ เข้าไปอยู่ในเรือเพื่อให้มีชีวิตรอดรวมอยู่กับเจ้าด้วย สัตว์แต่ละอย่างให้มีทั้งตัวเมียและตัวผู้ 20 นกทุกชนิดอย่างละหนึ่งคู่ สัตว์ทุกชนิด และสัตว์เลื้อยคลานบนแผ่นดินทุกชนิดจะมากับเจ้า เพื่อให้เจ้ารักษาชีวิตของพวกมันให้รอด 21 เจ้าต้องรวบรวมเสบียงอาหาร และนำมาเก็บสะสมไว้เพื่อตัวเจ้า และสัตว์เหล่านั้น
22 โนอาห์ก็ทำตามที่พระเจ้าสั่งให้ทำทุกอย่าง
น้ำเริ่มท่วม
7 จากนั้นพระเจ้าพูดกับโนอาห์ว่า “ให้เข้าไปอยู่ในเรือ ทั้งตัวเจ้าและครอบครัว เพราะเห็นว่ามีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เป็นคนดีในหมู่คนรุ่นนี้ 2 ให้นำสัตว์ต่างๆที่สะอาดอย่างละเจ็ดคู่ ทั้งตัวผู้และตัวเมีย ส่วนสัตว์ที่ไม่สะอาด[ar] ให้เอาไปอย่างละคู่ ทั้งตัวผู้และตัวเมีย 3 นกในอากาศอย่างละเจ็ดคู่ทั้งตัวผู้และตัวเมีย เพื่อให้สัตว์ทั้งหลายมีชีวิตรอดต่อไปในโลกนี้ 4 เพราะภายในเจ็ดวันนี้ เราจะทำให้ฝนตกเป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืน เราจะทำลายสิ่งที่มีชีวิตทุกอย่างที่เราได้สร้างขึ้นบนพื้นผิวของโลก” 5 ฝ่ายโนอาห์ก็ทำตามที่พระยาห์เวห์สั่งไว้ทุกอย่าง
6 ตอนที่เกิดน้ำท่วมขึ้นบนแผ่นดิน โนอาห์มีอายุหกร้อยปี 7 โนอาห์เข้าไปอยู่ในเรือ พร้อมกับลูกชาย เมีย และลูกสะใภ้ เพื่อหนีให้พ้นจากน้ำท่วม 8 พวกสัตว์ที่สะอาด สัตว์ที่ไม่สะอาด นกต่างๆและสัตว์เลื้อยคลานบนพื้นดิน 9 ก็ได้เข้าไปอยู่ในเรือของโนอาห์ เป็นคู่ๆทั้งตัวผู้และตัวเมีย ตามที่พระเจ้าได้สั่งโนอาห์ไว้ 10 หลังจากนั้นเจ็ดวัน น้ำก็เริ่มท่วม
11 เมื่อโนอาห์มีอายุได้หกร้อยปี ในวันที่สิบเจ็ดของเดือนที่สอง น้ำจากใต้ดินได้ไหลพลุ่งขึ้นมา ช่องฟ้าก็เปิด 12 ฝนได้เทลงมาอย่างหนัก เป็นเวลานานถึงสี่สิบวันสี่สิบคืน 13 ในวันเดียวกันนั้นเอง โนอาห์ก็ได้เข้าไปอยู่ในเรือกับลูกชายทั้งสาม คือ เชม ฮาม และยาเฟท พร้อมกับเมียและลูกสะใภ้ทั้งสามคน 14 พวกเขาและสัตว์ป่าทุกชนิด สัตว์ใช้งาน สัตว์เลื้อยคลาน นกทุกชนิด 15 สัตว์ทุกชนิดได้มาหาโนอาห์ที่เรือเป็นคู่ๆ 16 บรรดาสัตว์ที่มาอยู่ในเรือ มีทั้งตัวผู้และตัวเมียตามที่พระเจ้าได้สั่งโนอาห์ไว้ทุกอย่าง จากนั้นพระยาห์เวห์ก็ปิดประตูเรือ
17 น้ำได้ท่วมบนแผ่นดินต่อไปอีกเป็นเวลาถึงสี่สิบวัน จำนวนน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและยกเรือให้ลอยสูงขึ้น เรือนั้นลอยสูงขึ้นเหนือแผ่นดิน 18 ส่วนน้ำก็ยังคงไหลต่อเนื่องกันไป และเพิ่มปริมาณน้ำขึ้นเรื่อยๆบนแผ่นดิน เรือนั้นลอยไปบนพื้นน้ำ 19 น้ำก็สูงขึ้นเรื่อยๆบนแผ่นดิน จนกระทั่งภูเขาสูงทุกลูกจมอยู่ใต้น้ำ 20 น้ำนั้นยังคงไหลต่อเนื่องไปอีก จนยอดเขาจมลึกลงไปใต้น้ำประมาณหกเมตร[as]
21 สิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนแผ่นดินตายหมด คือบรรดานก สัตว์ใช้งาน สัตว์ป่า สิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนแผ่นดิน รวมทั้งมนุษย์ด้วย 22 สิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่อยู่บนบกก็ตายหมด 23 พระเจ้าทำลายสิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนแผ่นดินทั้งหมด บรรดามนุษย์ สัตว์ต่างๆ สัตว์เลื้อยคลาน และพวกนกในท้องฟ้า ก็ล้วนถูกทำลายไปจากโลก มีเพียงโนอาห์เท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ กับบรรดาคนและสัตว์ที่อยู่กับเขาในเรือ 24 น้ำนั้นยังคงท่วมโลกอยู่ต่อไปนานถึงหนึ่งร้อยห้าสิบวัน
น้ำท่วมสิ้นสุดลง
8 แต่พระเจ้าก็ยังคงระลึกถึงโนอาห์ และบรรดาสัตว์ป่ากับสัตว์ใช้งานทั้งหลายที่อยู่กับโนอาห์ในเรือนั้น แล้วพระเจ้าก็ให้ลมพัดบนแผ่นดินโลก น้ำนั้นก็ค่อยๆลดลง
2 น้ำได้หยุดไหลจากใต้พื้นดิน ท้องฟ้านั้นปิดลง ฝนจากฟ้าก็หยุดตก 3 น้ำจึงค่อยๆลดลงจากแผ่นดิน ในวันที่หนึ่งร้อยห้าสิบ น้ำก็ลดลงเพียงพอ 4 ที่จะให้เรือจอดอยู่บนเทือกเขาอารารัต[at] เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่สิบเจ็ดของเดือนที่เจ็ด 5 แล้วน้ำก็ค่อยๆลดลง จนถึงเดือนที่สิบ ในวันที่หนึ่งของเดือนที่สิบ ยอดเขาก็ค่อยๆโผล่ขึ้นมา
6 เมื่อเวลาผ่านไปสี่สิบวัน โนอาห์เปิดหน้าต่างของเรือลำที่เขาสร้างขึ้นนั้น 7 โนอาห์ส่งอีกาตัวหนึ่งออกไป มันบินวนเวียนไปและกลับมาที่เรือ น้ำค่อยๆแห้งลง 8 แล้วโนอาห์ส่งนกพิราบออกไปตัวหนึ่ง เพื่อดูว่าน้ำลดไปจากแผ่นดินหรือยัง
9 แต่นกนั้นยังหาที่เกาะไม่ได้ นกจึงบินกลับมาหาโนอาห์ที่เรืออีก เพราะน้ำยังท่วมแผ่นดินอยู่ โนอาห์ยื่นมือออกไปจับนกนั้น เอามันกลับเข้ามาในเรือ
10 โนอาห์รอต่อไปอีกเจ็ดวัน จึงส่งนกพิราบออกไปจากเรืออีก 11 นกตัวนั้นบินกลับมาหาเขาในเย็นวันนั้น ปากของมันคาบเอาใบมะกอกสดที่เด็ดมาใบหนึ่ง โนอาห์จึงรู้ว่าน้ำบนแผ่นดินลดลงแล้ว 12 โนอาห์รอต่อไปอีกเจ็ดวัน จึงค่อยส่งนกพิราบออกไปอีกตัวหนึ่ง นกตัวนั้นก็ไม่ได้บินกลับมาหาเขาอีก
13 เมื่อโนอาห์มีอายุหกร้อยหนึ่งปี ในวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่ง น้ำก็แห้งไปจากแผ่นดิน โนอาห์ได้เปิดประตู[au] เรือออกไปดูข้างนอก และเห็นว่าผืนดินแห้งแล้ว 14 เมื่อถึงวันที่ยี่สิบเจ็ดของเดือนที่สอง แผ่นดินก็แห้งสนิท
15 พระเจ้าจึงพูดกับโนอาห์ว่า 16 “ออกไปจากเรือได้แล้ว ทั้งตัวเจ้า เมียของเจ้า ลูกชาย และลูกสะใภ้ของเจ้า 17 นำทุกสิ่งที่มีชีวิตบนเรือออกไปกับเจ้าด้วย สัตว์ทุกชนิด นกต่างๆ สัตว์ใช้งาน และสัตว์เลื้อยคลานบนแผ่นดินทุกชนิด เพื่อพวกมันจะได้อยู่กันจนเต็มแผ่นดิน พวกมันจะมีลูกหลานและจะเพิ่มจำนวนขึ้นบนโลกนี้”
18 โนอาห์กับลูกชาย เมีย และลูกสะใภ้จึงพากันออกจากเรือ 19 สัตว์แต่ละครอบครัวได้พากันเดินออกมาจากเรือ ทั้งสัตว์เลื้อยคลานทุกตัวบนพื้นดินและนกทุกชนิด
20 จากนั้นโนอาห์จึงสร้างแท่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์ เขาได้นำนกที่สะอาดทุกชนิดและสัตว์ที่สะอาด[av] ทุกชนิดมา และเอาพวกมันมาเผาถวายบนแท่นบูชานั้น
21 ซึ่งเป็นกลิ่นที่พระยาห์เวห์พอใจมาก พระองค์จึงพูดกับตัวเองว่า “เราจะไม่สาปแช่งแผ่นดินโลกนี้อีกต่อไป เพราะเห็นแก่มนุษย์ มนุษย์นั้นมีความคิดชั่วร้ายตั้งแต่เด็กแล้ว ดังนั้นเราจะไม่มีวันทำลายสิ่งที่มีชีวิตทั้งหมดอย่างที่เราได้ทำไปแล้วนั้นอีก 22 ตราบใดที่โลกนี้ยังอยู่ การเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยว ความเย็นและความร้อน ฤดูร้อนและฤดูหนาว กลางวันและกลางคืน จะไม่มีวันหมดไป”
Footnotes
- 1:2 พระวิญญาณของพระเจ้า หรือแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า “ลมจากพระเจ้า” หรือ “ลมพายุ”
- 1:6 โดม คำนี้ในภาษาฮีบรูหมายถึง “แผ่นโค้ง” มีลักษณะเหมือนกับชามที่คว่ำอยู่
- 1:14 และพวกมัน … วันและปี ลักษณะของดวงจันทร์จะเป็นสิ่งบ่งบอกการเริ่มต้นของวันหยุดและงานเทศกาลทั้งหลายของชาวอิสราเอล
- 1:21 สัตว์ทะเล หรือ “สัตว์ประหลาดในทะเล”
- 1:26 มนุษย์ คำนี้ในภาษาฮีบรูหมายถึง “ผู้คน” หรือชื่อ “อาดัม” เหมือนกับคำที่หมายถึง “ดิน” หรือ “โคลนแดง”
- 1:26 โลกทั้งโลก หรือในฉบับซีเรียโบราณอ่านได้ว่า “สัตว์ป่าทุกตัว”
- 1:27 พระเจ้า … ของพระองค์ เปรียบเทียบกับใน ปฐมกาล 5:1 และ 5:3
- 2:7 ผู้ชาย คำนี้ในภาษาฮีบรูหมายถึง “มนุษย์” หรือ ชื่อ “อาดัม” เหมือนกับคำที่หมายถึง “ดิน” หรือ “โคลนแดง”
- 2:8 ทิศตะวันออก น่าจะหมายถึงบริเวณที่อยู่ระหว่างแม่น้ำไทกริสกับแม่น้ำยูเฟรติสไปจนถึงทางตะวันออกของอ่าวเปอร์เชีย
- 2:11 ฮาวิลาห์ แผ่นดินที่อยู่แถบชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรอารเบียและอาจจะรวมถึงส่วนทางด้านใต้ของเอธิโอเปียที่อยู่ในแอฟริกาด้วย
- 2:12 ยางไม้ครั่ง ยางไม้ที่มีกลิ่นหอมมีราคาแพง
- 2:12 โมรา หินมีค่าชนิดหนึ่งมีสีฟ้าและสีเทาเรียงเป็นชั้นหลายชั้น
- 2:13 คูช ปกติหมายถึงเอธิโอเปีย แต่ในที่นี้คงหมายถึงบริเวณแถวทางตอนเหนือและทางตะวันออกของแม่น้ำไทกริส
- 2:14 ไทกริส ไทกริสและยูเฟรติสเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่สองสายที่ไหลผ่านประเทศต่างๆในอาณาจักรบาบิโลนและอัสซีเรีย
- 2:23 ผู้หญิง คำว่าผู้หญิงและคำว่าผู้ชาย ในภาษาฮีบรูสองคำนี้ออกเสียงคล้ายกันมาก
- 3:16 เราจะ … เจ้าจะต้องคลอดลูกอีกด้วย หรือแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า “เราจะทำให้เจ้าลำบากตอนมีท้อง และเจ้าจะคลอดลูกด้วยความเจ็บปวด”
- 3:16 อยากควบคุม หรือแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า “อยากได้”
- 3:18 กินพืชที่อยู่ในท้องทุ่ง ดูใน ปฐมกาล 1:28-29
- 3:20 เอวา ชื่อนี้เหมือนกับคำในภาษาฮีบรู ที่หมายถึง “ชีวิต”
- 4:1 ฉันได้ ในภาษาฮีบรู คำนี้ออกเสียงเหมือนกับชื่อ “คาอิน”
- 4:4 ส่วนไขมัน ส่วนที่เป็นไขมันของแกะหัวปีถือว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุด
- 4:7 มันอยากควบคุมเจ้า หรือ “อยากได้ตัวเจ้า”
- 4:8 ไปในทุ่งกันเถอะ ข้อความนี้พบในฉบับแปลโบราณ แต่ไม่พบในหนังสือภาษาฮีบรูฉบับมาตรฐาน
- 4:16 โนด ชื่อนี้หมายถึง “การเร่ร่อน”
- 4:20 บรรพบุรุษ น่าจะหมายความว่า คนที่ได้ประดิษฐ์สิ่งเหล่านี้ขึ้นมาใช้เป็นคนแรก หรือ ที่เรามักจะเรียกกันว่าเป็นบิดาแห่งเรื่องนั้นๆ
- 4:22 เขาเป็น … เหล็กต่างๆ การแปลประโยคนี้ใช้หนังสือภาษาฮีบรูฉบับปรับปรุงแก้ไขเป็นเกณฑ์ ในหนังสือเล่มนี้แปลตรงๆได้ว่า “ได้เป็นคนงานผู้หนึ่งที่ได้ทำให้ทองสัมฤทธิ์และเหล็กเกิดเป็นรูปร่างขึ้นมา”
- 4:25 เสท คำนี้เหมือนคำในภาษาฮีบรูที่หมายถึง “การให้”
- 4:26 ผู้คน … พระยาห์เวห์ แปลตรงๆได้ว่า “ผู้คนเริ่มร้องเรียกชื่อของพระยาห์เวห์”
- 5:1 อาดัม คำนี้หมายถึง “ผู้ชาย” หรือ “ผู้คน” เหมือนกับคำที่หมายถึง “ดิน” หรือ “โคลนแดง”
- 5:1 พระเจ้าสร้าง … พระองค์ แปลตรงๆคือ “พระองค์ได้สร้างเขาตามแบบของพระเจ้า” ดูใน ปฐมกาล 1:27
- 5:22 มีชีวิตที่อยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้า แปลตรงๆว่า “เดินกับพระเจ้า” เหมือนมนุษย์ในสวนเอเดน 3:8 ฉบับแปลกรีกโบราณแปลคำเหล่านี้ว่า “ทำให้พระเจ้าพอใจ” (ดูใน 5:24 และ 6:9 ด้วย)
- 5:29 โนอาห์ ชื่อนี้เหมือนคำในภาษาฮีบรูที่หมายถึง “การพักผ่อน” หรือ “การปลอบใจ”
- 6:2 พวกลูกชายของพระเจ้า ข้อความนี้น่าจะพูดถึงพวกทูตสวรรค์หรือพวกวิญญาณชั้นสูง แต่มีอาจารย์พระคัมภีร์บางท่านเสนอว่าเป็นกษัตริย์ หรือพวกเคร่งศาสนาหรืออาจจะเป็นคนในครอบครัวของเสท
- 6:3 วิญญาณ … หนึ่งร้อยยี่สิบปี หรือแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า “ประชาชนเป็นเพียงมนุษย์ เราจะไม่ปล่อยให้พวกเขามารบกวนพระวิญญาณของเราตลอดไป เราจะให้พวกเขามีชีวิตอยู่หนึ่งร้อยยี่สิบปี”
- 6:4 ชาวเนฟิล ชื่อนี้เหมือนคำในภาษาฮีบรูที่หมายถึง “ประชาชนที่ตกต่ำ” ต่อมาชาวเนฟิลเป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงในเรื่องความเป็นนักรบที่ตัวใหญ่ คำนี้อาจจะหมายถึง “พวกยักษ์” ก็ได้ ดูใน หนังสือกันดารวิถี 13:32-33
- 6:4 ในเวลานั้น … ในยุคโบราณนั้น หรือ “ชาวเนฟิลที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินในเวลานั้นและในเวลาต่อมา เมื่อพวกลูกชายของพระเจ้าแต่งงานกับบรรดาลูกสาวของคนเหล่านี้ พวกผู้หญิงนี้ได้คลอดลูก และลูกของพวกเขาก็เป็นวีรบุรุษที่มีชื่อเสียงในยุคโบราณ”
- 6:8 โนอาห์ ชื่อนี้เหมือนคำในภาษาฮีบรูที่หมายถึง “รู้สึกเสียใจในภายหลัง”
- 6:9 โนอาห์ได้เดินไปกับพระเจ้า หมายถึงโนอาห์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า ดูในปฐมกาล 5:21-24
- 6:14 ไม้สนโกเฟอร์ แปลตรงๆคือไม้ไซเพรส ชนิดของไม้ยังไม่แน่นอน
- 6:14 สร้างห้อง … เรือลำนั้น หรือ “อุดช่องว่างของเรือ” น่าจะหมายถึงพืชเล็กๆที่ถูกยัดเข้าไปตามรอยแยกของเรือและทาทับด้วยน้ำมันดิน
- 6:14 น้ำมันดิน เป็นน้ำมันชนิดข้นที่ต้องถูกความร้อนถึงจะละลาย
- 6:16 ให้ทำ … เอียงลาด หรือ “ให้สร้างหน้าต่างบานหนึ่งให้อยู่ต่ำจากหลังคาลงมา 18 นิ้ว”
- 6:16 ครึ่งเมตร ถ้าวัดด้วยศอกสั้นจะเท่ากับ 45 เซนติเมตร แต่ถ้าเป็นศอกยาวจะเท่ากับ 52.5 เซนติเมตร
- 7:2 ที่สะอาด … ไม่สะอาด สัตว์สะอาดคือพวกสัตว์ที่พระเจ้ายอมรับเป็นเครื่องบูชา ส่วนพวกสัตว์ที่ไม่สะอาดจะใช้เป็นเครื่องบูชาไม่ได้
- 7:20 หกเมตร หรือ หกเมตรกับอีกเก้าเซนติเมตร
- 8:4 อารารัต เป็นเทือกเขาที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศตุรกี
- 8:13 เปิดประตู แปลตรงๆคือ “เปิดฝาออก”
- 8:20 นกที่สะอาด … ที่สะอาด พวกนกและสัตว์ทั้งหลายที่พระเจ้าบอกว่าสามารถใช้เป็นเครื่องบูชาได้
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International