Add parallel Print Page Options

13 แต่กลับมีคนๆ หนึ่งหนีรอดมาได้ เขาจึงนำเรื่องไปบอกกับอับรามชาวฮีบรูผู้อาศัยอยู่ข้างสวนโอ๊กที่เป็นของมัมเรชาวอาโมร์ มัมเรกับญาติพี่น้องของเขาคือเอชโคล์และอาเนอร์เป็นพันธมิตรของอับราม 14 เมื่ออับรามได้ยินว่าญาติของตนถูกจับตัวไปเป็นเชลย จึงเลือกกองกำลังจากผู้ภักดีที่เกิดในบ้านของอับรามเองจำนวน 318 คน ติดตามไล่ล่าไปจนถึงเมืองดาน 15 ท่านแยกกองกำลังออกเป็นกลุ่มๆ โจมตีศัตรูในเวลากลางคืนจนพ่ายแพ้ไป และไล่ตามพวกเขาไปจนถึงโฮบาห์เหนือเมืองดามัสกัส 16 แล้วท่านก็ได้ขนทรัพย์สิ่งของทั้งหมดกลับคืนมาได้ พร้อมด้วยโลทญาติของตนรวมทั้งทรัพย์สินต่างๆ ของเขาด้วย รวมทั้งผู้หญิงและคนอื่นๆ

17 หลังจากกลับมาจากการรบชนะเคโดร์ลาโอเมอร์และบรรดากษัตริย์อื่นๆ แล้ว กษัตริย์เมืองโสโดมออกไปพบกับท่าน ณ หุบเขาชาเวห์ (คือหุบเขาของกษัตริย์)

18 เมลคีเซเดคกษัตริย์เมืองซาเล็ม[a]เป็นปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุด ได้นำขนมปังและเหล้าองุ่นมาให้ 19 และอวยพรอับรามโดยกล่าวว่า

“ขอให้อับรามได้รับพรจากพระเจ้าผู้สูงสุด
    องค์ผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
20 และสรรเสริญพระเจ้าผู้สูงสุด
    ผู้ได้ทำให้พวกศัตรูตกอยู่ในเงื้อมมือของท่าน”

ครั้นแล้วอับรามก็ถวายหนึ่งในสิบส่วนของจำนวนที่ได้มาจากการสู้รบให้แก่ท่าน[b]

21 แล้วกษัตริย์เมืองโสโดมได้พูดกับอับรามว่า “ท่านคืนคนให้กับเรา แต่ท่านจงเก็บข้าวของเอาไว้เถิด”

Read full chapter

Footnotes

  1. 14:18 ภายหลังเรียกว่า เยรูซาเล็ม
  2. 14:20 ฮีบรู 7:1,2