เลวีนิติ 13-15
Thai New Testament: Easy-to-Read Version
กฎเกี่ยวกับโรคผิวหนัง
13 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า 2 “ถ้าคนๆหนึ่งเกิดมีแผล ตกสะเก็ดหรือตุ่มน้ำใสๆขึ้นบนผิวหนัง และลุกลามกลายเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง เขาต้องถูกนำตัวมาพบอาโรนหรือลูกชายอาโรนที่เป็นนักบวชคนใดคนหนึ่ง 3 นักบวชจะตรวจดูแผลที่ผิวหนังตามร่างกายของเขา ถ้าขนที่แผลเปลี่ยนเป็นสีขาว และแผลก็กินลึกเข้าไปในเนื้อชั้นในแล้ว นั่นหมายถึงเขาเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง เมื่อนักบวชตรวจดูเสร็จแล้ว เขาต้องประกาศออกมาว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์
4 แต่ถ้าผิวหนังตามร่างกายของคนๆนั้นเป็นจุดขาวๆแต่ไม่มีแผลที่กินลึกเข้าไปในเนื้อ และขนก็ไม่เปลี่ยนเป็นสีขาว นักบวชจะต้องแยกคนๆนั้นออกจากประชาชนเป็นเวลาเจ็ดวัน 5 ในวันที่เจ็ดนักบวชต้องกลับมาตรวจดูคนๆนั้นอีกครั้ง ถ้ารอยแผลนั้นไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ลุกลามไปบนผิวหนัง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกจากประชาชนอีกเจ็ดวัน 6 ในวันที่เจ็ดกลับมาตรวจดูอีกครั้ง ถ้ารอยแผลจางลงและแผลไม่กระจายลุกลามบนผิวหนัง นักบวชต้องประกาศให้คนๆนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ รอยแผลนั้นเป็นเพียงสะเก็ดแผล คนๆนั้นต้องซักล้างเสื้อผ้าของเขา หลังจากนั้นเขาก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์
7 แต่ถ้าสะเก็ดแผลนั้นเกิดลุกลามไปบนผิวหนัง หลังจากที่นักบวชป่าวประกาศให้คนๆนั้นบริสุทธิ์แล้ว เขาต้องกลับไปพบนักบวชอีกครั้ง 8 ถ้านักบวชตรวจดูแล้วพบว่าแผลลุกลามจริง นักบวชต้องประกาศใหม่ว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง 9 เมื่อคนๆหนึ่งเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง คนๆนั้นจะถูกนำตัวมาพบนักบวช 10 ถ้านักบวชตรวจดูและพบแผลพุพองสีขาวบนผิวหนัง ขนบางส่วนรอบๆกลายเป็นสีขาวและมีแผ่นเนื้อสดอยู่ในแผลพุพองนั้น 11 มันคือโรคผิวหนังชนิดเรื้อรัง นักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ โดยไม่ต้องแยกออกมาคอยดูอาการ เพราะเขาเป็นคนที่ไม่บริสุทธิ์อยู่แล้ว
12 ถ้าโรคผิวหนังเรื้อรังนั้น เกิดลุกลามไปบนผิวหนังส่วนอื่น จนเกิดเป็นโรคติดเชื้อไปทั่วผิวหนังของคนๆนั้น ตั้งแต่หัวจรดเท้า นักบวชต้องตรวจดูทุกส่วนของร่างกาย 13 นักบวชต้องดู ถ้าหากโรคมันลุกลามจนทั่วร่างกายของคนผู้นั้น จนตัวเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งหมด นักบวชต้องประกาศให้คนที่ติดเชื้อนั้น เป็นผู้บริสุทธิ์เพราะตัวเขาบริสุทธิ์แล้ว เพราะผิวหนังได้เปลี่ยนเป็นสีขาวหมดแล้ว 14 แต่ทันทีที่มีแผลสดเกิดขึ้น เขาจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ทันที 15 นักบวชต้องตรวจดูแผลสด และประกาศว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะแผลสดเป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ มันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง
16 ถ้าแผลสดนั้นหายดีแล้วเหลือแต่จุดขาว คนๆนั้นต้องไปพบนักบวช 17 ถ้านักบวชตรวจดูและพบว่าแผลนั้นได้เปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว นักบวชต้องประกาศให้คนที่ติดเชื้อนั้นเป็นคนบริสุทธิ์และคนๆนั้นก็จะบริสุทธิ์
18 เมื่อมีฝีเกิดขึ้นบนผิวหนังตามร่างกายของคนๆหนึ่ง และมันก็ได้รับการรักษาจนหาย 19 และมีรอยแผลพุพองหรือจุดขาวออกสีแดงเรื่อๆเกิดขึ้นในที่ที่เคยเป็นฝี คนๆนั้นต้องไปพบนักบวช 20 นักบวชจะตรวจดู ถ้าแผลนั้นกินลึกเข้าในผิวหนัง และขนบริเวณรอบๆเปลี่ยนเป็นสีขาว นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ มันคือโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากฝี 21 แต่ถ้านักบวชตรวจดูแผลแล้ว ไม่พบขนสีขาว แผลก็ไม่กินลึกลงไปและยังเริ่มจางลง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกเป็นเวลาเจ็ดวัน 22 ถ้าแผลยังลุกลามไปตามผิวหนัง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือแผลติดเชื้อ 23 แต่ถ้าจุดใสๆนั้นยังมีอยู่ที่เดิมและไม่กระจายลุกลาม มันเป็นเพียงสะเก็ดแผลจากฝี นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์
24 หรือเมื่อคนใดคนหนึ่งมีแผลไฟไหม้บนผิวหนัง และเกิดแผลรอยไหม้เป็นจุดสีขาวหรือสีออกแดงเรื่อๆ 25 นักบวชต้องตรวจแผลดู ถ้าขนที่บริเวณแผลเปลี่ยนเป็นสีขาวและมันเกิดเป็นแผลลึกเข้าไปในเนื้อ มันคือโรคผิวหนังอันตราย ที่เกิดจากแผลไฟไหม้ นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังอันตราย 26 แต่ถ้านักบวชตรวจดูแล้ว ไม่มีขนสีขาวบริเวณแผลและแผลก็ไม่กินลึกลงในเนื้อ ทั้งยังค่อยๆจางลง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกมาเป็นเวลาเจ็ดวัน 27 ในวันที่เจ็ดถ้านักบวชไปตรวจดูคนๆนั้นอีก แล้วถ้าเห็นว่าแผลลุกลามไปบนผิวหนัง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง 28 แต่ถ้าแผลนั้นยังอยู่แบบเดิมไม่ลุกลามออกไป และเริ่มจางลง มันเป็นเพียงแผลพุพองจากไฟไหม้ นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์ เพราะนั่นคือสะเก็ดแผลที่เกิดจากแผลไฟไหม้
29 ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงมีแผลติดเชื้อบนหนังหัวหรือที่คาง 30 แล้วนักบวชดูที่แผลติดเชื้อนั้น แล้วพบว่ามันกินลึกลงไปถึงเนื้อ และผมเริ่มบางลงและกลายเป็นสีเหลือง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคหิด เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังต่อหนังหัวและคาง 31 ถ้านักบวชตรวจดูแผลหิดนั้น แล้วพบว่ามันไม่ถึงกับเป็นแผลลึกเข้าไปในหนัง และไม่มีผมสีดำในแผล นักบวชต้องแยกคนติดเชื้อคนนั้นออกจากประชาชนเป็นเวลาเจ็ดวัน 32 ในวันที่เจ็ดนักบวชจะมาตรวจดูแผลอีกครั้ง ถ้าเห็นแผลไม่ลุกลาม ไม่มีผมสีเหลืองๆในแผล อีกทั้งเชื้อหิดไม่ได้กินลึกเข้าไปในเนื้อ 33 คนๆนั้นต้องโกนผมหรือหนวดทิ้ง แต่อย่าให้ถูกแผล แล้วนักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกมาเป็นเวลาอีกเจ็ดวัน 34 ในวันที่เจ็ดนักบวชจะตรวจดูแผลหิดอีก ถ้าเห็นเชื้อไม่ลุกลามไปบนผิวหนังและไม่มีแผลกินลึกไปในเนื้อ นักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์ เขาต้องเอาเสื้อผ้าไปซักล้าง แล้วเขาจะกลายเป็นคนบริสุทธิ์ 35 แต่ถ้าเชื้อหิดนั้นเกิดลุกลามหลังจากที่นักบวชได้ประกาศว่าเขาเป็นคนบริสุทธิ์แล้ว 36 นักบวชจะต้องตรวจสอบคนๆนั้น และถ้าพบว่าเชื้อหิดนั้นลุกลามกระจายไปบนผิวหนังจริง นักบวชไม่จำเป็นต้องตรวจหาผมสีเหลืองอีกต่อไป คนๆนั้นจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ 37 แต่ถ้าเชื้อหิดไม่มีการเปลี่ยนแปลงและมีผมสีดำเกิดขึ้นในนั้น แสดงว่าเชื้อนั้นกำลังจะหาย คนๆนั้นจะเป็นผู้บริสุทธิ์และนักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์
38 ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงเกิดมีจุดขาวๆขึ้นเต็มตัว 39 นักบวชต้องตรวจสอบดู ถ้าพบว่าจุดขาวเหล่านั้นเป็นเพียงสีขาวหม่นๆแสดงว่าเป็นผื่นคันธรรมดาที่ไม่เป็นอันตรายบนผิวหนัง และคนๆนั้นก็ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์
40 ถ้าผู้ชายผมร่วงจนหัวล้าน เขาจะยังคงบริสุทธิ์อยู่ 41 ถ้าผมเขาร่วงจากด้านหน้าไปจนหัวเขาเถิก เขาจะยังคงบริสุทธิ์อยู่ 42 แต่ถ้าเกิดมีแผลออกสีแดงเรื่อๆเกิดขึ้นบนหัวหรือบริเวณที่ผมร่วงบนหน้าผาก มันคือโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดบนหัวและหน้าผาก 43 นักบวชต้องตรวจดูแผลเหล่านั้น ถ้าพบว่ามีแผลสดเกิดขึ้นบนหัวหรือบนหน้าผาก ที่กลายเป็นสีแดงเรื่อๆและมีลักษณะเหมือนแผลของโรคผิวหนังชนิดอันตรายที่เกิดบนร่างกายแล้ว 44 แสดงว่าชายผู้นั้นเป็นโรคผิวหนังอันตราย เขาคือคนที่ไม่บริสุทธิ์ นักบวชต้องประกาศว่าเขาคือคนไม่บริสุทธิ์ เพราะเขาติดเชื้อที่หัว
45 ถ้าคนๆหนึ่งเป็นโรคผิวหนังชนิดอันตราย เขาต้องฉีกเสื้อผ้าตัวเองให้ขาดและต้องไว้ผมยาว และปล่อยให้หนวดยาวรุงรัง[a] และคอยตะโกนว่า ‘ไม่สะอาด ไม่สะอาด’ 46 คนๆนั้นจะไม่บริสุทธิ์ตลอดเวลาที่เขายังมีแผลติดเชื้อ เขาจะเป็นคนไม่บริสุทธิ์ และต้องไปอยู่คนเดียวที่นอกค่าย
47 หากเกิดเชื้อรา[b] ขึ้นบนเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อขนสัตว์หรือลินิน[c] 48 ของใดก็ตามที่ถักหรือทอจากขนสัตว์หรือลินิน หรือแม้กระทั่งบนหนังสัตว์และของที่ทำจากหนังสัตว์ 49 ถ้าจุดที่เป็นราบนเสื้อผ้า หรือบนหนัง หรือของที่ถักหรือทอ หรืออะไรก็ตามที่ทำจากหนังสัตว์นั้น เป็นสีเขียวหรือสีแดง มันเป็นเชื้อที่กำลังลุกลามกระจายไปทั่ว ต้องนำของนั้นไปให้นักบวชดู 50 นักบวชจะตรวจสอบจุดที่เป็นเชื้อราเหล่านั้น และแยกของสิ่งนั้นออกมาไว้ต่างหากเป็นเวลาเจ็ดวัน 51 ในวันที่เจ็ด นักบวชจะไปตรวจสอบดูจุดเหล่านั้นอีกครั้ง ถ้ามันยังกระจายไปบนเสื้อผ้า บนของถักหรือทอ หรือบนหนังสัตว์ หรือสิ่งที่ทำจากหนังสัตว์ก็ตาม โดยลุกลามเป็นเชื้อรา มันจะเป็นของที่ไม่บริสุทธิ์ 52 นักบวชต้องเอาเสื้อผ้า ของถักหรือทอจากลินินหรือขนสัตว์หรือของที่ทำจากหนังสัตว์ที่เกิดเป็นเชื้อรานั้นไปเผาทิ้ง เพราะมันเป็นเชื้อราลุกลาม มันต้องถูกไฟเผา
53 ถ้านักบวชตรวจดูพบว่าเชื้อราเหล่านั้นไม่ได้กระจายไปบนเสื้อผ้า บนของถักหรือทอ หรือบนของที่ทำจากหนังสัตว์นั้นแต่อย่างใด 54 นักบวชต้องสั่งให้คนนำผ้านั้นไปซักล้างจุดเหล่านั้นออก และนักบวชต้องแยกของนั้นออกมาไว้ต่างหากเป็นเวลาเจ็ดวัน 55 หลังจากนั้น นักบวชจะกลับมาตรวจดูอีกครั้ง ถ้าพบว่าเชื้อราเหล่านั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้จะไม่กระจายออก มันจะเป็นของไม่บริสุทธิ์ ท่านต้องเอาไปเผาไฟ ไม่ว่าจุดนั้นจะอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังบนของนั้นก็ตาม
56 แต่ถ้านักบวชตรวจดูแล้ว พบว่าเชื้อราเหล่านั้นเริ่มจางลงหลังจากถูกซักล้าง ให้เขาตัดส่วนที่เป็นเชื้อราออกจากหนังสัตว์ ผ้า หรือสิ่งทอเหล่านั้น 57 และถ้ามันยังปรากฏอีกบนผ้าหรือเครื่องหนังเหล่านั้น และลุกลามไป ท่านต้องเอาของเหล่านั้นไปเผาไฟทิ้ง 58 แต่ถ้าจุดนั้นหายไปจากผ้า สิ่งทอ หรือเครื่องหนังที่ท่านได้นำไปล้าง ท่านต้องเอามันไปล้างซ้ำอีกครั้ง แล้วมันจะบริสุทธิ์”
59 นี่คือกฎเกี่ยวกับเชื้อราบนเสื้อผ้า ทั้งที่ทำจากขนสัตว์หรือลินิน ทั้งที่ทำโดยการถัก หรือทอ หรือบนเครื่องหนัง เพื่อตัดสินว่าของเหล่านี้บริสุทธิ์หรือไม่
กฎสำหรับคนที่หายจากโรคผิวหนัง
14 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 2 “ต่อไปนี้จะเป็นกฎสำหรับคนที่เคยเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงแต่หายดีแล้ว เขาต้องถูกนำตัวมาหานักบวช 3 นักบวชต้องออกไปพบคนๆนั้นที่นอกค่าย และถ้าเขาตรวจดูคนๆนั้นแล้วพบว่า โรคผิวหนังของคนๆนั้นหายดีแล้ว 4 นักบวชต้องสั่งให้เขานำนกป่าบริสุทธิ์มาสองตัว ไม้สนซีดาร์หนึ่งชิ้น เชือกสีแดงหนึ่งเส้น กิ่งหุสบ[d] หนึ่งกิ่ง สำหรับใช้ในพิธีชำระล้างให้เขาบริสุทธิ์ 5 นักบวชต้องสั่งให้เอานกตัวหนึ่งมาฆ่าและให้เลือดของมันไหลลงไปในชามดินเผาที่อยู่เหนือน้ำที่ไหลอยู่ 6 แล้วสั่งให้เอานกอีกตัวที่เหลือ มาพร้อมกับ ไม้สน เชือกแดง และกิ่งหุสบ แล้วเอานกตัวนั้นจุ่มลงในเลือดของนกตัวที่ถูกฆ่า ที่อยู่เหนือน้ำที่กำลังไหลนั้น 7 ให้พรมเลือดลงไปเจ็ดครั้งบนตัวคนที่เข้าพิธีชำระจากโรคผิวหนังนั้น แล้วประกาศว่าคนๆนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วนักบวชจะปล่อยนกตัวที่เหลืออยู่นั้นเป็นอิสระกลางท้องทุ่ง
8 แล้วคนที่ได้รับการประกาศให้เป็นคนบริสุทธิ์แล้ว ต้องเอาเสื้อของเขาไปซักล้าง โกนผมให้เกลี้ยงและอาบน้ำ แล้วเขาจะกลายเป็นคนบริสุทธิ์ หลังจากนั้นเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาในค่ายได้ แต่ต้องอยู่นอกเต็นท์เป็นเวลาเจ็ดวัน 9 ในวันที่เจ็ดเขาต้องโกนผม โกนหนวดและขนคิ้วออกให้หมด และต้องซักเสื้อผ้าใหม่ และอาบน้ำชำระร่างกาย แล้วเขาจะเป็นคนบริสุทธิ์
10 ในวันที่แปด คนๆนั้นต้องเอาลูกแกะตัวผู้สองตัวที่ไม่มีตำหนิ และลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิมาตัวหนึ่ง แป้งสาลีอย่างดีประมาณหกลิตรครึ่งผสมกับน้ำมันสำหรับเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร 11 นักบวชที่จะทำพิธีชำระล้าง ต้องนำคนที่จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ พร้อมกับเครื่องบูชาเหล่านี้ มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ 12 แล้วนักบวชต้องเอาลูกแกะตัวผู้มาตัวหนึ่ง ถวายเป็นของถวายชดใช้ และนำน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร มายกขึ้นให้เป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ 13 เขาต้องฆ่าลูกแกะตัวนั้นในบริเวณพื้นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ใช้สำหรับฆ่าเครื่องบูชาชำระล้างและเครื่องเผาบูชา เพราะของถวายชดใช้นี้เป็นเหมือนเครื่องบูชาชำระล้าง มันจะเป็นของนักบวช เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
14 นักบวชจะเอาเลือดส่วนหนึ่งจากของถวายชดใช้ มาแต้มที่ติ่งหูข้างขวา พร้อมกับหัวแม่มือกับหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง 15 นักบวชจะแบ่งน้ำมันมะกอกที่มีอยู่ประมาณหนึ่งในสามลิตรนั้น แล้วเทใส่ฝ่ามือซ้ายของตัวเขาเอง 16 แล้วนักบวชจะเอานิ้วข้างขวาของเขาจุ่มลงในน้ำมันที่อยู่บนฝ่ามือซ้ายของเขา แล้วเอาไปพรมต่อหน้าพระยาห์เวห์เจ็ดครั้ง 17 น้ำมันที่เหลือบนฝ่ามือนักบวช เขาก็จะเอาไปแต้มที่ติ่งหูด้านขวา นิ้วหัวแม่มือด้านขวา และนิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง โดยแต้มทับรอยเลือดจากของถวายชดใช้ที่แต้มไว้ก่อนหน้านี้แล้ว 18 น้ำมันที่เหลือทั้งหมดบนฝ่ามือของนักบวช เขาก็จะเอาไปลูบบนหัวของคนที่จะรับการชำระล้าง ด้วยวิธีนี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะกำจัดบาปหนึ่งบาปใดแทนคนๆนั้นที่เขาได้ทำไปต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์
19 แล้วนักบวชจะถวายเครื่องบูชาชำระล้าง เพื่อชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทนคนๆนั้นที่กำลังได้รับการชำระจากความไม่บริสุทธิ์ของเขา หลังจากนั้น นักบวชก็จะฆ่าเครื่องเผาบูชา 20 แล้วนักบวชก็จะถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชบนแท่นบูชา และด้วยวิธีนี้นักบวชจะทำให้เกิดการคืนดีขึ้นสำหรับคนนั้น และคนนั้นก็จะบริสุทธิ์
21 แต่ถ้าคนที่จะรับการชำระล้างนั้นยากจน ไม่สามารถหาของถวายพวกนั้นมาได้ ก็ให้เขาเอาลูกแกะมาตัวหนึ่ง เป็นของถวายชดใช้ มันจะเป็นเครื่องยื่นบูชาสำหรับเขา เพื่อกำจัดบาปหนึ่งบาปใดที่เขาทำต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์ เขาต้องเอาแป้งอย่างดีมาประมาณสองลิตร ผสมน้ำมัน เป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช พร้อมกับน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร 22 และเอานกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว อย่างใดอย่างหนึ่งที่เขาสามารถให้ได้ ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวใช้เป็นเครื่องเผาบูชา
23 คนที่จะรับการชำระล้าง ต้องนำเครื่องบูชาเหล่านี้มาให้นักบวชในวันที่แปด เพื่อนักบวชจะทำพิธีชำระล้างให้กับเขา ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าพระยาห์เวห์ 24 แล้วนักบวชจะเอาลูกแกะมาเป็นของถวายชดใช้ พร้อมกับน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร และนักบวชจะถวายพวกมันเป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ 25 แล้วนักบวชก็จะฆ่าลูกแกะที่เป็นของถวายชดใช้ตัวนั้น นักบวชจะเอาเลือดส่วนหนึ่งของมัน มาแต้มที่ติ่งหูข้างขวา หัวแม่มือข้างขวา และหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง 26 จากนั้นนักบวชจะเทน้ำมันส่วนหนึ่งใส่ฝ่ามือซ้ายของตนเอง 27 แล้วใช้นิ้วมือข้างขวาจุ่มน้ำมันที่อยู่ในฝ่ามือซ้ายของเขา แล้วเอาไปพรมต่อหน้าพระยาห์เวห์เจ็ดครั้ง 28 แล้วนักบวชจะเอาน้ำมันส่วนหนึ่งจากฝ่ามือ ไปแต้มที่ติ่งหูข้างขวา หัวแม่มือข้างขวาและหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง โดยแต้มทับไปบนรอยเลือดที่มาจากของถวายชดใช้ ที่แต้มอยู่ก่อนแล้ว 29 น้ำมันที่เหลือบนฝ่ามือของนักบวช เขาจะเอาไปลูบบนหัวของคนที่จะรับการชำระล้าง เพื่อกำจัดบาปหนึ่งบาปใดที่เขาทำต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์แทนเขาต่อหน้าพระยาห์เวห์
30 จากนั้นนักบวชจะถวายนกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่คนนั้นสามารถให้ได้ 31 ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชา พร้อมๆกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ด้วยวิธีนี้ ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะทำให้เกิดการคืนดีกันขึ้นเพื่อเขาคนนั้นที่กำลังได้รับการชำระล้าง
32 นั่นคือกฎสำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนังร้ายแรง ที่ไม่สามารถหาเครื่องบูชาที่ใช้กันตามปกติสำหรับพิธีการชำระล้างของเขา”
กฎสำหรับเชื้อราในบ้าน
33 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า 34 “เมื่อพวกเจ้าเข้าสู่แผ่นดินคานาอันที่เรากำลังให้เป็นสมบัติของเจ้า และเราได้ทำให้เกิดเชื้อรา[e] ในบ้านเรือน บนแผ่นดินที่เจ้าเป็นเจ้าของนั้น 35 เจ้าของบ้านหลังนั้นต้องไปบอกนักบวชว่า ‘ผมพบสิ่งที่ดูเหมือนเชื้อราในบ้านของผม’
36 นักบวชต้องสั่งพวกเขาให้ขนของออกจากบ้านให้หมด ก่อนที่นักบวชจะไปตรวจดูเชื้อรานั้น ไม่อย่างนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านหลังนั้นจะไม่บริสุทธิ์ แล้วนักบวชจะมาตรวจดูบ้านหลังนั้น 37 เขาจะตรวจสอบดูเชื้อรานั้น ถ้าเชื้อราบนกำแพงบ้านเป็นจุดสีแดงหรือสีเขียวและดูเหมือนมันฝังลึกลงในกำแพง 38 นักบวชต้องออกมายืนที่ทางเข้าบ้านหลังนั้นและปิดบ้านหลังนั้นไว้เป็นเวลาเจ็ดวัน
39 ในวันที่เจ็ด นักบวชต้องกลับไปตรวจดูบ้านหลังนั้นใหม่ ถ้าเชื้อราบนกำแพงกระจายออกไป 40 นักบวชต้องออกคำสั่งให้คนกะเทาะหินส่วนที่เป็นเชื้อรานั้นออกมาและขว้างทิ้งไปที่นอกเมืองในสถานที่ไม่บริสุทธิ์ 41 แล้วนักบวชต้องสั่งให้พวกเขาขัดถูภายในบ้านให้ทั่วและนำผงปูน[f] ที่เขาขัดออกมานั้น ไปเททิ้งนอกเมืองในสถานที่ไม่บริสุทธิ์ 42 แล้วหาหินก้อนใหม่มาวางแทนหินก้อนเดิม และฉาบปูนทับหินก้อนใหม่และทั้งบ้าน
43 ถ้าเชื้อรากลับมาอีกและกระจายไปทั่วบ้านหลังจากหินที่เป็นเชื้อราถูกกะเทาะออกและบ้านก็ถูกขัดถูและฉาบปูนใหม่แล้ว 44 นักบวชต้องมาตรวจสอบดูอีก ถ้ารากระจายในบ้าน มันจะทำลายข้าวของในบ้าน บ้านก็จะไม่บริสุทธิ์ 45 บ้านหลังนั้นต้องถูกรื้อทิ้งทั้งส่วนที่เป็นหิน ไม้และปูนที่ฉาบทั้งหมด และนำไปทิ้งนอกเมืองในสถานที่ไม่บริสุทธิ์ 46 ใครที่เข้าไปในบ้านในช่วงที่ถูกปิดอยู่ จะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น 47 ใครที่เข้าไปนอนหรือไปกินในบ้านหลังนั้นต้องเอาเสื้อที่ใส่ไปซัก
48 แต่ถ้านักบวชมาตรวจสอบบ้านหลังนั้น และเห็นว่าราไม่ได้แพร่กระจายไปในบ้าน หลังจากที่ได้ฉาบปูนบ้านหลังนั้นแล้ว นักบวชจะประกาศว่าบ้านหลังนั้นบริสุทธิ์ เพราะเชื้อราหายไปแล้ว
49 การทำพิธีชำระล้างให้บ้าน นักบวชต้องใช้นกสองตัว ไม้สน เชือกสีแดงและกิ่งหุสบ 50 เขาต้องฆ่านกตัวหนึ่งในชามดินเผาที่อยู่เหนือน้ำที่ไหลอยู่ 51 เขาต้องนำไม้สน กิ่งหุสบ เชือกแดงและนกตัวที่ยังมีชีวิต เอาทั้งหมดนี้จุ่มลงในเลือดของนกตัวที่ถูกฆ่า และในน้ำที่ไหลนั้น แล้วเอาไปพรมบ้านนั้นเจ็ดครั้ง 52 ด้วยวิธีนี้ นักบวชจะทำให้บ้านนั้นบริสุทธิ์ด้วยเลือดนก ด้วยน้ำที่ไหล และด้วยนกเป็นๆตัวนั้น ไม้สน กิ่งหุสบ และเชือกแดง 53 แล้วนักบวชก็จะปล่อยนกเป็นๆตัวนั้น นอกเมืองในท้องทุ่ง ด้วยวิธีนี้ นักบวชจะชำระล้างบ้านนั้น แล้วมันก็จะบริสุทธิ์
54 นี่จะเป็นกฎสำหรับโรคผิวหนังร้ายแรงทุกชนิด สำหรับขี้กราก 55 สำหรับเชื้อราบนผ้าหรือในบ้าน 56 สำหรับแผลบวมอักเสบ แผลตกสะเก็ด หรือตุ่มน้ำใสบนผิวหนัง 57 กฎเหล่านี้ สอนให้รู้ว่า อะไรบริสุทธิ์และอะไรไม่บริสุทธิ์ กฎพวกนี้เกี่ยวกับโรคผิวหนังและเชื้อรา”
กฎสำหรับของที่ไหลออกจากร่างกาย
15 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า 2 “ไปพูดกับประชาชนชาวอิสราเอล บอกพวกเขาว่า ‘เมื่อผู้ชายคนใดก็ตามมีหนอง[g] ไหลออกมาจากอวัยวะเพศ เขาจะเป็นคนไม่บริสุทธิ์ 3 เมื่อเขามีหนองไหลออกมา สิ่งนี้จะทำให้เขาไม่บริสุทธิ์ ไม่ว่าหนองนี้จะไหลออกมาหรือจะคั่งอยู่ในอวัยวะเพศก็ตาม มันเป็นสิ่งไม่บริสุทธิ์ของเขา
4 คนที่มีหนองไหลออกมานี้ไปนอนที่เตียงไหน เตียงนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ ชายคนนี้ไปนั่งบนอะไรก็ตาม สิ่งนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ 5 ใครก็ตาม ที่ไปถูกเตียงของชายคนนี้ จะต้องถอดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ไปซัก และต้องอาบน้ำ และจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น 6 ใครที่ไปนั่งบนอะไรก็ตามที่ชายคนที่มีหนองไหลนี้ไปนั่งมา จะต้องเอาเสื้อผ้าที่ใส่ไปซัก และต้องอาบน้ำและจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น 7 ใครที่ไปถูกต้องร่างของชายคนที่มีหนองไหลนี้ จะต้องถอดเสื้อไปซักและอาบน้ำ และจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น
8 ถ้าชายคนที่มีหนองไหลนี้ ถ่มน้ำลายถูกคนบริสุทธิ์ คนที่ถูกถ่มน้ำลายใส่ จะต้องถอดเสื้อผ้ามาซัก อาบน้ำ และจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น 9 ถ้าชายคนที่มีหนองไหลนี้ไปนั่งบนหลังอาน[h]มา อานนั้นก็จะกลายเป็นของไม่บริสุทธิ์ 10 ใครที่ไปแตะต้องอะไรก็ตามที่เคยอยู่ใต้ชายคนที่มีหนองไหลนี้ จะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์จนถึงตอนเย็น คนที่ไปถือของที่เคยอยู่ใต้เขานั้น ต้องถอดเสื้อผ้าออกซัก ไปอาบน้ำ และจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น
11 ถ้าชายคนที่มีหนองไหลนี้ ไม่ได้เอาน้ำล้างมือ แล้วไปแตะต้องตัวคนอื่นเข้า คนที่ถูกแตะต้องตัวจะต้องถอดเสื้อผ้าออกซัก อาบน้ำ และจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น
12 ภาชนะดินเผาที่ชายคนที่มีหนองไหลนี้ ไปแตะต้อง จะต้องทุบทิ้ง ส่วนภาชนะที่ทำจากไม้ต้องเอาไปล้างน้ำ
13 ถ้าชายคนที่มีหนองไหลนี้หายจากอาการหนองไหลแล้ว เขาต้องคอยอยู่เจ็ดวัน ก่อนที่จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ เขาต้องซักเสื้อผ้าของเขา ชำระร่างกายในน้ำที่ไหลอยู่ แล้วเขาจะบริสุทธิ์ 14 ในวันที่แปด เขาต้องเอานกเขาหรือนกพิราบมาสองตัว มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ และเอาพวกมันให้กับนักบวช 15 นักบวชจะใช้ตัวหนึ่งถวายเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา ด้วยวิธีนี้ ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะชำระแท่นบูชาแทนคนนั้น เพราะหนองของเขาไปทำให้แท่นบูชาแปดเปื้อน
กฎสำหรับผู้ชาย
16 ถ้าผู้ชายหลั่งน้ำกามออกมา เขาต้องอาบน้ำชำระร่างกายให้ทั่ว และจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น 17 ถ้าเสื้อผ้าหรือเครื่องหนังใดๆไปโดนน้ำกามเข้า ต้องนำไปล้างในน้ำและจะกลายเป็นของไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น 18 ถ้าผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงและหลั่งน้ำกามออกมา พวกเขาต้องอาบน้ำชำระร่างกายและจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น
กฎสำหรับผู้หญิง
19 เมื่อผู้หญิงมีประจำเดือน นางจะเป็นคนไม่บริสุทธิ์ไปเป็นเวลาเจ็ดวัน ใครที่ไปถูกตัวนางจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น 20 ในระหว่างที่มีประจำเดือน ไม่ว่านางไปนอนบนอะไร หรือนั่งบนอะไร สิ่งเหล่านั้นก็จะกลายเป็นของที่ไม่บริสุทธิ์ 21 ใครที่ไปแตะต้องเตียงของนาง ต้องถอดเสื้อผ้าไปซัก อาบน้ำชำระร่างกายและจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น 22 ใครที่ไปถูกต้องอะไรก็ตามที่นางไปนั่งมา ต้องถอดเสื้อผ้าออกซัก ไปอาบน้ำและจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น 23 ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่อยู่บนเตียงหรือบนเก้าอี้ที่นางกำลังนั่งอยู่ ถ้าใครไปแตะต้องถูกสิ่งนั้น เขาก็จะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น
24 และถ้าผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงในระหว่างที่นางมีประจำเดือน ชายคนนั้นจะไม่บริสุทธิ์ไปเป็นเวลาเจ็ดวัน เตียงที่ชายคนนี้นอนก็จะไม่บริสุทธิ์ไปด้วย
25 เมื่อผู้หญิงมีเลือดไหล[i] ออกมาหลายวัน ไม่ใช่ช่วงที่มีประจำเดือน หรือมีเลือดไหลออกมาหลังจากมีประจำเดือนแล้ว ตลอดเวลาที่นางยังมีเลือดไหลอยู่นั้น นางจะไม่บริสุทธิ์ เหมือนกับตอนที่นางมีประจำเดือน 26 เตียงทุกเตียงที่นางนอนในช่วงที่เลือดยังไหลอยู่นั้นก็จะไม่บริสุทธิ์เหมือนเตียงที่นางนอนตอนมีประจำเดือน ทุกสิ่งที่นางนั่งก็จะไม่บริสุทธิ์เหมือนในช่วงเวลาที่นางมีประจำเดือน 27 ใครที่ไปถูกของเหล่านี้จะไม่บริสุทธิ์ เขาต้องถอดเสื้อผ้าไปซัก ไปอาบน้ำและจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น 28 เมื่อนางหายจากเลือดไหลแล้ว นางต้องคอยอยู่อีกเจ็ดวันจึงจะบริสุทธิ์เหมือนเดิม 29 ในวันที่แปด นางต้องนำนกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว มาให้นักบวชที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 30 นักบวชจะเอานกตัวหนึ่งมาถวายเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวหนึ่งถวายเป็นเครื่องเผาบูชา ด้วยวิธีนี้ ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะชำระแท่นบูชาแทนนางเพราะของเหลวของนางไปทำให้แท่นบูชาแปดเปื้อน
31 เจ้าต้องแยกชาวอิสราเอลออกจากความไม่บริสุทธิ์ของพวกเขานั้น เพื่อพวกเขาจะได้ไม่ต้องตายเพราะความไม่บริสุทธิ์ของพวกเขา เนื่องจากไปทำให้เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ท่ามกลางพวกเขาไม่บริสุทธิ์
32 นั่นคือพวกกฎสำหรับคนที่มีหนองไหล หรือคนที่หลั่งน้ำกามออกมา ซึ่งทำให้พวกเขาไม่บริสุทธิ์ 33 และสำหรับผู้หญิงในช่วงที่มีประจำเดือน สำหรับคนที่มีของเหลวไหลอย่างผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง และสำหรับผู้ชายที่ไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงในช่วงที่นางไม่บริสุทธิ์’”
Footnotes
- 13:45 ต้องฉีกเสื้อผ้า … รุงรัง สิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงว่าคนผู้นั้นกำลังเศร้าโศกกับบางสิ่งบางอย่าง
- 13:47 เชื้อรา เชื้อประเภทหนึ่งที่เกิดบนผ้า หนังหรือไม้ที่อยู่ในที่ร้อนชื้น ในภาษาฮีบรูยังหมายถึงโรคผิวหนังด้วย
- 13:47 ลินิน ผ้าที่ทอมาจากใยของพืชประเภทต้นปอ
- 14:4 หุสบ เป็นพืชที่มีกิ่งก้านและใบเล็กๆมากมาย ใช้สำหรับปะพรมเลือดหรือน้ำ ในพิธีชำระให้บริสุทธิ์
- 14:34 เชื้อรา เชื้อประเภทหนึ่งที่เกิดบนผ้า หนังหรือไม้ที่อยู่ในที่ร้อนชื้น ในภาษาฮีบรูยังหมายถึงโรคผิวหนังด้วย
- 14:41 ผงปูน มาจากโคลนหรือปูนที่ประชาชนใช้ฉาบกำแพงเพื่อทำให้เรียบ
- 15:2 หนอง สิ่งที่ไหลออกจากร่างกาย รวมถึงน้ำหนองที่ไหลออกจากแผล น้ำกามของผู้ชายและประจำเดือนของผู้หญิง แต่ในบทที่ 15:2-15 นี้จะหมายถึงสิ่งที่ไหลออกจากอวัยวะเพศชายเนื่องจากการติดเชื้อ
- 15:9 อาน หรือที่นั่งในรถรบ
- 15:25 เลือดไหล สิ่งที่ไหลออกจากร่างกาย รวมถึงน้ำหนองที่ไหลออกจากแผล น้ำกามของผู้ชายและประจำเดือนของผู้หญิง
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International