Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Bible in 90 Days

An intensive Bible reading plan that walks through the entire Bible in 90 days.
Duration: 88 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 41:19-52:12

19 เราจะปลูกต้นซีดาร์ในทะเลทรายนั้น รวมทั้งต้นกระถิน ไม้พุ่มหอม และต้นมะกอก
    เราจะปลูกต้นสนไซเพรส ต้นสนเฟอร์ และต้นสนไพน์ไว้ด้วยกัน
20 เราจะทำอย่างนี้ เพื่อทุกคนจะได้เห็นและรู้
    และพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้และเข้าใจว่า
เป็นมือของพระยาห์เวห์ที่ได้ทำสิ่งนี้
    ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา

พระยาห์เวห์ได้ท้าทายพวกพระปลอม

21 พระยาห์เวห์พูดว่า ‘พวกพระจอมปลอมทั้งหลาย นำคดีของเจ้ามาดูสิ’
    กษัตริย์ของยาโคบพูดว่า ‘เอาหลักฐานต่างๆของเจ้ามาดูสิ’
22 ให้พวกพระปลอมพวกนั้นเข้ามาและบอกเราหน่อยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
    ให้บอกเราถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในอดีต บอกความหมายของเหตุการณ์เหล่านั้น
เพื่อเราจะพิจารณาสิ่งเหล่านั้น
    และจะได้รู้ว่าผลออกมาเป็นยังไง
    หรือไม่ก็บอกเราว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
23 บอกเราหน่อยสิว่าต่อไปนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น
    เพื่อเราจะได้รู้แน่ๆว่าพวกเจ้าเป็นพระแท้จริง
หรืออย่างน้อยก็ทำอะไรสักอย่าง
    เรื่องดีหรือร้ายก็ได้ เราจะได้พากันขยาดกลัว
24 ดูสิ เจ้านี่มันน้อยกว่าศูนย์เสียอีก ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย
    และใครก็ตามที่เลือกที่จะนมัสการเจ้า มันช่างน่าขยะแขยงเสียจริงๆ”

25 “เราได้ยั่วยุชายคนหนึ่งจากทิศเหนือ
    และเขาก็ได้มาแล้ว
เราได้เรียกเขาตามชื่อของเขาให้มาจากทางทิศตะวันออก[a]
    เขาได้เหยียบย่ำพวกผู้นำเหมือนโคลน
    เหมือนกับช่างปั้นหม้อเหยียบย่ำดินเหนียว
26 ใครได้ทำนายเรื่องนี้ตั้งแต่แรก เพื่อเราจะได้รู้
    ใครได้ประกาศล่วงหน้า เพื่อเราจะได้พูดว่า ‘เขาแม่นจริงๆ’”
จริงๆแล้ว ไม่มีใครได้ทำนายเรื่องนี้ จริงๆแล้ว ไม่มีใครประกาศเรื่องนี้
    ไม่มีใครได้ยินพวกเจ้าพูดสักคำ
27 เราได้ประกาศเรื่องนี้ให้ศิโยนรู้ล่วงหน้าว่า “ดูสิ กองทัพของเขากำลังมา”
    เราได้ส่งผู้ส่งข่าวไปบอกเรื่องนี้ในเยรูซาเล็ม
28 แต่เมื่อเรามองดูพระปลอมพวกนั้น
    ไม่เห็นมีใครให้คำปรึกษาได้เลย
    เมื่อเราถามพวกมันก็ไม่มีใครตอบอะไรได้
29 ดูสิ พระปลอมพวกนั้นเป็นแค่ภาพลวงตา
    พวกมันทำอะไรไม่ได้เลย
    รูปปั้นของพวกมันว่างเปล่าเหมือนลม

ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์

42 “นี่คือผู้รับใช้ของเรา คนที่เราเสริมกำลังให้
    นี่คือผู้ที่เราเลือกมา ผู้ที่เราชื่นชม
เราได้ใส่พระวิญญาณของเราในเขา
    เขาจะนำความยุติธรรมมาให้กับชนชาติทั้งหลาย
เขาจะไม่ตะโกนหรือขึ้นเสียง
    คนจะไม่ได้ยินเสียงร้องของเขาตามท้องถนน
เขาจะไม่หักต้นอ้อที่ช้ำแล้ว
    เขาจะไม่ดับไส้ตะเกียงที่ริบหรี่แล้ว
    เขาจะนำความยุติธรรมมาจริงๆ
เขาเองจะไม่ริบหรี่หรือชอกช้ำจนกว่าเขาจะนำความยุติธรรมมาสู่โลกนี้
    ผู้คนแถบชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะทั้งหลายต่างรอคอยคำสอนของเขา”

นี่คือคำพูดของพระเจ้า พระยาห์เวห์ ผู้ที่สร้างท้องฟ้าและขึงพวกมันออก ผู้ที่ทุบโลกนี้ให้แผ่ออกมาและสร้างทุกสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ ผู้ที่ให้ลมหายใจกับมนุษย์ที่อยู่บนโลก และให้ชีวิตกับทุกคนที่เดินอยู่บนมัน พระองค์พูดว่า

“เรา ยาห์เวห์ ได้เรียกเจ้ามาเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    เราได้จูงมือเจ้าอยู่ เราได้ปกป้องเจ้า
และได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นคนกลางแห่งคำมั่นสัญญาต่อมนุษย์
    และเป็นแสงสว่างให้กับชนชาติต่างๆ
จะให้เจ้าเปิดตาของคนตาบอด
    และนำพวกนักโทษออกมาจากคุกใต้ดิน คือปลดปล่อยคนเหล่านั้นที่นั่งอยู่ในคุกมืดให้เป็นอิสระ
เราคือยาห์เวห์ นั่นคือชื่อของเรา
    เราจะไม่แบ่งเกียรติที่เราควรจะได้รับกับผู้อื่น
    จะไม่แบ่งคำสรรเสริญของเรากับพวกรูปเคารพ
เหตุการณ์ที่ผ่านไป ที่เราได้ทำนายไว้ล่วงหน้าก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
    และตอนนี้เรากำลังทำนายเรื่องใหม่ๆ
    เราจะบอกพวกเจ้าถึงเหตุการณ์เหล่านั้นก่อนที่มันจะงอกออกมา”

เพลงสรรเสริญพระเจ้า

10 ร้องเพลงใหม่ให้กับพระยาห์เวห์
    ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์จากสุดปลายโลก
ให้พวกท่านที่เป็นกะลาสีแห่งท้องทะเลและพวกสัตว์น้ำในท้องทะเลทั้งหมด
    สรรเสริญพระองค์เถิด
ให้ชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะทั้งหลายรวมทั้งผู้คนที่อยู่บนมัน
    สรรเสริญพระองค์เถิด
11 ให้ทะเลทราย และเมืองต่างๆในทะเลทรายนั้นส่งเสียงร้องและสรรเสริญพระองค์เถิด
    รวมทั้งหมู่บ้านต่างๆที่เผ่าเคดาร์อาศัยอยู่
ให้ชาวเมืองเสลาร้องเพลงด้วยความยินดี
    ให้พวกเขาร้องตะโกนลงมาจากยอดเขา
12 ให้พวกเขาถวายเกียรติแด่พระยาห์เวห์
    ให้พวกเขาสรรเสริญพระองค์ตามชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะทั้งหลาย
13 พระยาห์เวห์ออกไปสู้รบอย่างคนที่แข็งแรง
    พระองค์ปลุกเร้าความโกรธให้พุ่งพล่านขึ้นเหมือนกับนักรบ
พระยาห์เวห์ร้องออกมา พระองค์ร้องประจัญบาน
    พระองค์เอาชนะต่อศัตรูของพระองค์

14 พระองค์จะพูดว่า “เราเงียบมาเป็นเวลานานแล้ว
    เราได้อยู่เฉยๆและได้ยับยั้งตัวเองไว้
แต่เดี๋ยวนี้ เราจะร้องเหมือนกับผู้หญิงกำลังคลอดลูก
    เราจะหายใจหอบและใจเต้นถี่รัว
15 เราจะทำลายภูเขาและเนินเขาต่างๆ
    เราจะทำให้พืชผักทั้งหมดของพวกมันเหี่ยวแห้งไป
เราจะทำให้พวกแม่น้ำกลายเป็นดินแห้ง
    เราจะทำให้พวกสระแห้งไป
16 เราจะจูงคนตาบอดไปตามถนนที่พวกเขาไม่รู้จัก
    เราจะนำพวกเขาไปตามพวกทางที่พวกเขาไม่เคยเดินมาก่อน
เราจะทำให้ความมืดมิดที่อยู่ต่อหน้าพวกเขากลายเป็นความสว่าง
    และทำที่ขรุขระให้เป็นที่ราบ
    เราจะทำสิ่งเหล่านี้และเราจะไม่ทอดทิ้งพวกเขา
17 แต่คนพวกนั้นที่พึ่งในพวกรูปแกะสลัก
    คนที่พูดกับรูปหล่อพวกนั้นว่า ‘พวกท่านเป็นพระของเรา’
    คนพวกนี้จะหันกลับ พวกเขาจะต้องอับอายขายหน้าที่สุด

อิสราเอลไม่ฟังพระเจ้า

18 พระยาห์เวห์พูดว่า เจ้าหูหนวก ฟังให้ดี
    เจ้าตาบอด ดูซิ จะได้เห็น
19 ใครตาบอดหรือ ก็ไม่ใช่ผู้รับใช้ของเราหรอกหรือ
    ใครหูหนวกเท่ากับผู้ส่งข่าวของเราหรือ
ใครจะตาบอดเท่ากับผู้ที่อุทิศตัวให้กับเราหรือ
    หรือตาบอดเท่ากับผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์หรือ
20 เจ้าเห็นหลายสิ่ง แต่ไม่ได้สังเกต
    หูของเขาเปิดอยู่ แต่เขาไม่ได้ฟัง”
21 ตอนนั้นพระยาห์เวห์ต้องการที่จะทำให้คำสั่งสอนของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่และได้รับเกียรติ
    เพื่อคนจะได้เห็นว่าพระองค์นั้นยุติธรรม
22 คนพวกนี้ถูกขโมยและถูกปล้น
    พวกเขาทุกคนแอบอยู่ในหลุมติดอยู่ที่นั่นและซ่อนอยู่ในคุก
พวกเขาตกเป็นของที่ปล้นมาได้โดยไม่มีใครมาช่วยกู้เขา
    พวกเขาถูกริบไป โดยไม่มีใครพูดว่า “เอาคืนมาซะ”

23 จะมีใครในพวกเจ้าได้รับบทเรียนจากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้
    ใครจะสนใจและตั้งใจฟังในอนาคต
24 ใครมอบยาโคบไปให้กับผู้ริบ
    หรือมอบอิสราเอลไปให้กับผู้ปล้น
ก็พระยาห์เวห์นี่แหละ
    เพราะพวกเราทำบาปต่อพระองค์
คนของเราไม่ยอมเดินในทางของพระองค์
    พวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์
25 พระองค์ก็เลยเทความโกรธแค้นอันร้อนแรงของพระองค์ พร้อมกับสงครามอันดุเดือดเลือดพล่านลงบนเขา
    มันทำให้เกิดไฟล้อมรอบเขา แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
    มันเผาไหม้เขา แต่เขาก็ไม่ได้บทเรียนอะไรเลย

พระเจ้าอยู่กับคนของพระองค์เสมอ

43 ยาโคบ พระยาห์เวห์ที่สร้างเจ้าขึ้นมา
    อิสราเอล พระยาห์เวห์ที่ปั้นเจ้าขึ้นมานั้น
ตอนนี้พระองค์พูดอย่างนี้ว่า
    “ไม่ต้องกลัว เพราะเราได้ไถ่เจ้าให้เป็นอิสระแล้ว
เราได้เรียกชื่อของเจ้าโดยเฉพาะ
    และเจ้าเป็นของเรา
เมื่อเจ้าต้องลุยน้ำลึกไป เราจะอยู่กับเจ้า
    เมื่อเจ้าต้องข้ามแม่น้ำ เจ้าก็จะไม่จมลงไป
เมื่อเจ้าต้องเดินลุยไฟ เจ้าก็จะไม่ไหม้
    และเปลวเพลิงก็จะไม่เผาผลาญเจ้า
เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
    เราคือผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลพระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า
เราได้ให้อียิปต์เป็นค่าไถ่ตัวเจ้า
    เราได้แลกเอธิโอเปียและเสบากับตัวเจ้า
เพราะเจ้ามีค่ามาก
    และมีเกียรติในสายตาเราและเรารักเจ้า
เราได้ให้คนอื่นเพื่อแลกเปลี่ยนกับเจ้า
    และให้ชนชาติต่างๆเพื่อแลกกับชีวิตเจ้ามา”
“ไม่ต้องกลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า
    เราจะนำลูกหลานของเจ้ามาจากทางทิศตะวันออก
    และเราจะรวบรวมเจ้าจากทางทิศตะวันตก
เราจะพูดกับทิศเหนือว่า ‘ปล่อยพวกเขาไป’
    และพูดกับทิศใต้ว่า ‘อย่าได้ยึดพวกเขาไว้’
ให้นำพวกลูกชายของเรากลับมาจากแดนไกล
    และนำพวกลูกสาวของเรากลับมาจากสุดปลายโลก
ให้นำทุกคนที่เป็นของเรามา
    คือคนที่เราสร้างขึ้นเพื่อประดับบารมีของเรา
    คนที่เราได้ปั้นและทำขึ้นมา”

อิสราเอลเป็นพยานให้กับพระเจ้า

ให้นำคนเหล่านั้นออกมา คือคนที่มีตา แต่กลับบอด
    และคนที่มีหู แต่กลับหนวก
ให้ชนชาติทั้งหมดรวบรวมกันเข้ามา
    ให้ประชาชาติทั้งหมดมาชุมนุมกัน
ใครในพวกพระของเขาได้ทำนายว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น
    หรือได้ประกาศล่วงหน้าถึงเหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต
ก็ให้พวกเขานำพวกพยานของเขามาพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาถูก
    เพื่อว่าคนอื่นจะได้ฟัง และพูดว่า “เป็นจริง”
10 พระยาห์เวห์พูดว่า “พวกเจ้าเป็นพยานของเรา
    และเป็นผู้รับใช้ของเราที่เราได้เลือกมา
เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รู้จักและเชื่อเราและจะได้เข้าใจเสียทีว่าเราคือพระองค์ พระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว
    ก่อนหน้าเราไม่มีพระเจ้าอื่นที่ถูกปั้นขึ้นและหลังจากเราก็จะไม่มีเหมือนกัน
11 เรา เรานี่แหละคือยาห์เวห์
    และนอกจากเรา ไม่มีใครเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
12 เราได้ทำนายเรื่องเหล่านี้ให้กับเจ้าล่วงหน้าและได้มาช่วยกู้เจ้าและเราได้ประกาศสิ่งเหล่านี้ออกไปล่วงหน้า
    ไม่ใช่พระต่างชาติในหมู่พวกเจ้าทำหรอกและเจ้าเป็นพยานให้กับเรา”
    พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
13 เราคือพระเจ้า และเราก็จะเป็นพระเจ้าต่อไป
    ไม่มีพระไหนสามารถช่วยกู้ใครก็ตามให้พ้นจากเงื้อมมือของเราได้
    เมื่อเราทำอะไรไป ใครจะมาเปลี่ยนมันกลับไปได้

พระเจ้าจะช่วยคนของพระองค์อีกครั้งหนึ่ง

14 พระยาห์เวห์ องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
    ผู้ที่ไถ่พวกเจ้าให้เป็นอิสระ พูดว่า
“เราจะส่งกองทัพไปบาบิโลนเพื่อช่วยเจ้า
    และจะพังทลายสลักประตูทั้งหลายลง
    และจะทำให้เสียงโห่ร้องแห่งชัยชนะของคนบาบิโลนกลายเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญ
15 เราคือยาห์เวห์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า
    พระผู้สร้างแห่งอิสราเอลผู้เป็นกษัตริย์ของเจ้า”
16 พระยาห์เวห์
    ผู้สร้างทางข้ามในทะเล
    เป็นทางในน้ำที่ซัดส่ายไปมา
17 ผู้ที่นำรถรบและม้ารวมทั้งกองทัพและนักรบ
    ออกไปให้ถูกทำลายพร้อมๆกัน
พวกเขานอนลงที่นั่น และไม่ได้ลุกขึ้น
    พวกเขาถูกดับไปเหมือนไส้ตะเกียง
18 พระองค์พูดว่า “ไม่ต้องจดจำถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว
    หรือไปคิดถึงอดีต
19 ดูสิ เรากำลังจะทำสิ่งใหม่
    และตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นแล้ว
    เจ้าไม่เห็นหรือ
เราจะทำทางในทะเลทราย
    และให้พวกแม่น้ำในที่แห้งแล้ง
20 พวกสัตว์ป่ารวมถึงหมาป่าและนกฮูกจะให้เกียรติเรา
    เพราะเราได้ทำให้น้ำเกิดขึ้นในทะเลทราย
พวกแม่น้ำเกิดขึ้นในที่แห้งแล้ง
    เพื่อจะได้ให้น้ำดื่มกับชนชาติที่เราได้เลือกไว้
21 เป็นชนชาติที่เราได้ปั้นขึ้นเพื่อตัวเราเอง
เพื่อพวกเขาจะได้ประกาศถึง
สิ่งอันน่าสรรเสริญนี้ที่เราได้ทำ
22 แต่ยาโคบเอ๋ย เจ้าก็ไม่ได้ร้องเรียกหาเรา
    อิสราเอลเอ๋ย เจ้าเบื่อหน่ายเราแล้ว
23 เจ้าไม่ได้เอาแพะแกะของเจ้ามาเผาทั้งตัวบูชาให้กับเรา
    และเจ้าก็ไม่ได้ให้เกียรติเราด้วยพวกเครื่องบูชาของเจ้า
เราไม่ได้บังคับให้เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช
    หรือทำให้เจ้าเหน็ดเหนื่อยเพราะต้องถวายเครื่องหอม
24 เจ้าไม่ได้เอาเงินไปซื้อไม้หอมให้เรา
    เจ้าไม่ได้ทำให้เราอิ่มหนำสำราญด้วยไขมันสัตว์จากพวกเครื่องบูชาของเจ้า
แต่พวกเจ้ากลับทำให้เราแบกภาระหนักคือบาปทั้งหลายของพวกเจ้านั่นแหละ
    และความผิดทั้งหลายของเจ้าทำให้เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อย
25 เรา เราคือพระองค์นั้นที่ลบล้างการกบฏทั้งหลายของเจ้าเพราะเห็นแก่หน้าเรา
    และเราจะไม่จดจำความบาปทั้งหลายของเจ้า
26 กล่าวหาเราได้เลย ไปขึ้นศาลสู้คดีกัน
    ให้การของเจ้ามา เพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าถูก
27 บรรพบุรุษคนแรกของเจ้าทำบาป
    และพวกตัวแทนของเจ้าก็ได้กบฏต่อเรา
28 เราจึงทำให้พวกผู้นำในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป
    มอบยาโคบให้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
    มอบอิสราเอลให้ถูกหัวเราะเยาะ

พระยาห์เวห์จะอวยพรอิสราเอล

44 พระยาห์เวห์พูดว่า ‘ยาโคบ ผู้รับใช้ของเรา
    อิสราเอล ผู้ที่เราเลือกมา ตอนนี้ฟังให้ดี’
พระยาห์เวห์ผู้ที่สร้างเจ้าขึ้นมานั้น
    ผู้ที่ปั้นเจ้าตอนอยู่ในครรภ์ ผู้ที่จะช่วยเจ้า พูดอย่างนี้ว่า
‘ยาโคบ ผู้รับใช้ของเรา
    เยชุรูน[b] ผู้ที่เราเลือกมาไม่ต้องกลัว
เพราะเราจะเทน้ำลงบนแผ่นดินที่กระหาย
    และให้ลำธารต่างๆไหลบนดินแห้ง
เราจะเทพระวิญญาณของเราลงบนลูกหลานของเจ้า
    และเทพระพรของเราลงบนลูกๆของเจ้า
พวกเขาจะงอกขึ้นมาเหมือนกับต้นป๊อปลาร์สีเขียว
    และเหมือนพวกต้นหลิวที่ขึ้นอยู่ตามลำธาร’
คนหนึ่งจะบอกด้วยความภาคภูมิใจว่า ‘เราเป็นของพระยาห์เวห์’
    และอีกคนหนึ่งก็จะบอกว่า ‘ข้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของยาโคบ’
และอีกคนหนึ่งจะเขียนลงบนมือของเขาว่า ‘ของพระยาห์เวห์’
    และตั้งนามสกุลว่า ‘อิสราเอล’”

พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้

พระยาห์เวห์ผู้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล
    พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ปกป้องอิสราเอลพูดอย่างนี้ว่า
“เราเป็นผู้แรกและผู้สุดท้าย
    นอกจากเราแล้วไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
พระไหนเป็นเหมือนเรา ก็ให้พระนั้นพูดออกมาและประกาศออกมา
    และให้แสดงหลักฐานต่อหน้าเรา
ใครได้ทำนายนานแสนนานมาแล้วถึงสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้น
    ก็ให้พระพวกนั้นออกมาบอกพวกเราถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องขวัญผวา
    เราได้บอกเจ้าตั้งแต่สมัยโบราณแล้วไม่ใช่หรือ เราได้ทำนายว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่หรือ
    เจ้าก็เป็นพยานให้กับเราได้
นอกจากเราแล้วยังมีพระเจ้าอื่นอีกหรือ
    เราไม่เห็นรู้จักเลย ไม่มีหิน[c] หลบภัยอื่นนอกจากเราอีกแล้ว”

พวกรูปเคารพไม่มีประโยชน์

คนพวกนั้นทั้งหมดที่ทำรูปเคารพต่างๆขึ้นมาก็ไม่มีค่าอะไรเลย และรูปเคารพที่พวกเขาชื่นชอบนักหนาก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย พวกที่นมัสการรูปเคารพนั้นก็เป็นพยานให้กับพวกรูปเคารพนั้น คนที่นมัสการรูปเคารพนั้นก็มองไม่เห็นและไม่เข้าใจ ดังนั้นพวกเขาจะได้รับความอับอาย 10 ใครจะไปปั้นพระหรือหล่อรูปเคารพที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้ 11 ดูสิ พวกนั้นทั้งหมดที่นับถือรูปเคารพจะต้องอับอาย พวกช่างฝีมือที่สร้างมันก็เป็นแค่มนุษย์ ให้พวกเขาชุมนุมกันทุกคนและยืนขึ้นสู้คดี พวกเขาก็จะต้องขวัญผวาและอับอายขายหน้าไป

12 ช่างเหล็กก็ตัดเหล็กเอามาทำให้ร้อนบนไฟและเขาใช้ค้อนตีขึ้นรูปและทำงานกับเหล็กนั้นด้วยแขนอันแข็งแกร่งของเขา แต่เมื่อเขาหิว เขาก็จะหมดแรงไป ถ้าเขาไม่ดื่มน้ำเขาก็จะอ่อนเปลี้ยไป 13 ช่างไม้ก็ขึงเชือกวัดและใช้ปากกาเหล็ก และวงเวียนขีดเขียนเป็นรูปร่างขึ้นมา และเขาก็แกะสลักมันด้วยเครื่องมือแกะสลัก เขาสร้างมันขึ้นมาเหมือนรูปร่างคน และมีความสวยงามของมนุษย์ แล้วเอามันไปตั้งไว้ในศาลเจ้า 14 เขาไปตัดต้นสนซีดาร์ หรือไม่ก็ไปเลือกต้นโฮม์หรือต้นโอ๊ก เขาปล่อยให้ต้นไม้โตขึ้นตามลำพังท่ามกลางไม้อื่นๆในป่า เขาปลูกต้นสนซีดาร์และฝนก็ทำให้มันสูงขึ้น 15 และเมื่อถึงเวลาที่จะเอามันมาทำฟืนให้กับมนุษย์ เขาก็เอาไม้นั้นมาส่วนหนึ่ง มาเผาให้ความอบอุ่นกับตัวเอง เอามาก่อไฟและอบขนมปังและเขาก็เอาอีกส่วนหนึ่งมาสร้างเป็นพระและนมัสการมัน เขาแกะสลักรูปเคารพขึ้นมาและกราบไหว้อยู่ต่อหน้ามัน 16 เขาเอาไม้ครึ่งหนึ่งมาเผาไฟและย่างเนื้อบนมัน เอามากินจนอิ่มหนำสำราญและผิงไฟนั้นให้ร่างกายอบอุ่น และพูดว่า “ข้าอุ่นจัง ขณะที่ดูไฟนี้” 17 และไม้ที่เหลือก็เอามาสร้างเป็นพระ ให้เป็นรูปเคารพของเขา และเขาก็ก้มกราบและนมัสการมัน แถมเขาได้อธิษฐานกับมันว่า “ช่วยกู้ชีวิตข้าด้วย เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของข้า”

18 พวกเขาไม่รู้ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำอยู่ ตาของพวกเขาปิดสนิท เขาจึงมองอะไรไม่เห็น และจิตใจของเขาก็เหมือนกันเขาก็เลยไม่เข้าใจ 19 ไม่มีใครหยุดพิจารณา และพวกเขาก็ไม่มีความรู้ หรือความคิดแยกแยะ ที่จะพูดว่า “ข้าเผาไม้ครึ่งหนึ่งในไฟ และอบขนมปังบนมัน ข้าย่างเนื้อและกินเนื้อนั้น แล้วต่อไปข้าควรจะเอาไม้ที่เหลือมาสร้างสิ่งที่น่าขยะแขยงนี้หรือเปล่า ข้าควรจะก้มลงกราบต่อหน้าท่อนไม้ท่อนหนึ่งหรือเปล่า” 20 มันเหมือนกับการเลี้ยงสัตว์ด้วยขี้เถ้า จิตใจที่หลอกลวงของเขาได้นำเขาให้หลงทางไป เขาไม่สามารถช่วยกู้ตัวเองได้ หรือพูดว่า “สิ่งนี้ที่อยู่ในมือขวาของข้าเป็นเรื่องหลอกลวงไม่ใช่หรือ”

พระยาห์เวห์ไถ่อิสราเอล

21 พระยาห์เวห์พูดว่า “ยาโคบเอ๋ย จำเรื่องพวกนี้ไว้ให้ดี
    อิสราเอลเอ๋ย จำเรื่องพวกนี้ให้ดี เพราะเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
เราได้ปั้นเจ้าขึ้นมา เจ้าคือผู้รับใช้ของเรา
    อิสราเอลเอ๋ย เราจะไม่มีวันลืมเจ้า
22 เราได้กวาดการกบฏของเจ้าทิ้งไปเหมือนลมพัดเมฆไป
    และกวาดความบาปของเจ้าทิ้งไปเหมือนหมอกปลิวไป
    กลับมาหาเราเถิด เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว”

23 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย ร้องเพลงเถิด
    เพราะพระยาห์เวห์ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ส่วนลึกที่สุดของโลกเอ๋ย โห่ร้องเถิด
    ภูเขา ป่าไม้ และต้นไม้ทั้งหลายเอ๋ย ระเบิดเสียงเพลงออกมาเลย
เพราะพระยาห์เวห์ได้ไถ่ยาโคบแล้ว
    และพระองค์ได้เสริมบารมีของพระองค์โดยช่วยอิสราเอล
24 พระยาห์เวห์ผู้ไถ่เจ้า ผู้ปั้นเจ้าในครรภ์
    พูดไว้ว่าอย่างนี้
    “เราคือยาห์เวห์ ผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง
เราได้ขึงท้องฟ้านี้ออกแต่เพียงผู้เดียว
    เราได้กางแผ่นดินออกด้วยตัวเราเอง
25 เราคือผู้ที่ทำให้คำทำนายของพวกนักต้มตุ๋นผิดเพี้ยนไป
    และทำให้พวกหมอดูกลายเป็นตัวตลกโง่ๆไป
และเราเป็นผู้ที่ทำให้คนฉลาดหัวหมุน
    และทำให้ความรู้ของเขานั้นโง่เขลาไป
26 แต่เราทำให้คำพูดของผู้รับใช้เราเกิดขึ้นจริง
    และทำให้คำทำนายของพวกทูตของเราสำเร็จผล
เราพูดถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะมีคนมาอาศัยอยู่ที่นี่อีกครั้งหนึ่ง’
    และเราก็พูดถึงเมืองต่างๆของยูดาห์ว่า
    ‘พวกมันจะถูกสร้างขึ้นใหม่’
และเราพูดถึงซากปรักหักพังของเยรูซาเล็มว่า
    ‘เราจะยกซากปรักหักพังเหล่านั้นขึ้นมาใหม่’
27 เราพูดกับมหาสมุทรว่า ‘เหือดแห้งไปซะ’
    เราจะทำให้แม่น้ำทั้งหลายของเจ้าเหือดแห้งไป
28 เราพูดถึงไซรัส[d] ว่า ‘เขาเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา
    เขาจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เราอยากให้เขาทำ’
ไซรัสจะพูดถึงเยรูซาเล็มว่า ‘ให้สร้างมันขึ้นมาใหม่’
    และพูดถึงพระวิหารว่า ‘ให้วางฐานรากของมันขึ้นมาใหม่’”

พระยาห์เวห์เลือกไซรัสมาปลดปล่อยอิสราเอล

45 ไซรัส ผู้ที่เราได้เจิมไว้เป็นกษัตริย์
    ผู้ที่เราได้จูงมือขวาของเขาไว้
เพื่อเขาจะมีชัยชนะเหนือชนชาติต่างๆ
    และปลดอำนาจไปจากกษัตริย์ทั้งหลาย
เราได้เปิดประตูทั้งหลายต่อหน้าเขา
    พวกประตูเมืองจะไม่ปิดไปจากเขา
    เรายาห์เวห์ ได้พูดกับเขาว่า
“เราจะนำหน้าเจ้าไป
    และทำให้ภูเขาทั้งหลายราบเป็นหน้ากลอง
เราจะพังทลายประตูเมืองที่ทำจากทองสัมฤทธิ์
    และจะตัดกลอนประตูเหล็กให้ขาด
เราจะยกทรัพย์สมบัติที่แอบซ่อนไว้ในความมืด
    และขุมทรัพย์ที่แอบซ่อนไว้ในที่ลับให้กับเจ้า
เพื่อเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
    พระเจ้าของอิสราเอลผู้ที่เรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า
เราทำเรื่องพวกนี้ เพื่อช่วยยาโคบผู้รับใช้ของเรา
    ทำเพื่ออิสราเอล ผู้ที่เราเลือกมา
เราได้เรียกเจ้าตามชื่อของเจ้าและให้เจ้ามีตำแหน่งพ่วงท้าย
    ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่รู้จักเราก็ตาม
เราคือยาห์เวห์ ไม่มีพระอื่นอีก
    นอกจากเราแล้ว ก็ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
เราติดอาวุธให้เจ้า
    ถึงแม้เจ้าจะไม่รู้จักเรา
เราทำอย่างนี้เพื่อว่าผู้คนจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก จะได้รู้ว่าไม่มีพระอื่นใดนอกจากเรา
    เราคือยาห์เวห์ ไม่มีพระอื่นอีก
เราปั้นความสว่างและสร้างความมืด
    เรานำความร่มเย็นเป็นสุขมาและสร้างความหายนะ
    เรา ยาห์เวห์ ทำทุกสิ่งทุกอย่างนี้

ฟ้าสวรรค์เอ๋ย ให้ปล่อยฝนลงมาจากเบื้องบน
    ให้พวกเมฆเทความยุติธรรมลงมา
ให้แผ่นดินเปิดออกเพื่อความรอดจะได้เติบโตขึ้นมา
    เพื่อความยุติธรรมจะได้งอกขึ้นมา
    เรา ยาห์เวห์ เป็นผู้สร้างเรื่องนี้ขึ้นมา

พระเจ้าควบคุมสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้น

เฮ้ย ไอ้พวกที่โต้เถียงกับผู้ที่สร้างเจ้ามา
    เจ้าเป็นแค่หม้อหนึ่งในพวกหม้อดินทั้งหลาย
ดินเหนียวมีสิทธิ์ที่จะถามคนปั้นมันได้หรือว่า ‘เจ้ากำลังทำอะไรอยู่นี่’
    หรือ ต่อว่าคนปั้นว่า ‘เจ้าไร้ฝีมือ’
10 เฮ้ย ไอ้คนที่เสือกไปถามคนที่กำลังจะเป็นพ่อว่า ‘มีลูกทำไม’
    หรือพูดกับคนเป็นแม่ว่า ‘กำลังคลอดลูกทำไม’”
11 พระยาห์เวห์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลผู้สร้างเขามา พูดว่าอย่างนี้
    “เจ้าจะมาเสือกถามเราเกี่ยวกับเรื่องลูกๆของเราหรือ
    หรือจะมาสั่งเราเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้สร้างขึ้น
12 เราได้สร้างโลกนี้
    และได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาบนโลก
เราได้กางท้องฟ้าออกด้วยมือของเราเอง
    และเราได้ให้คำสั่งกับพวกดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลาย
13 เราได้ยั่วยุไซรัสให้ลงมือเพื่อให้สำเร็จตามจุดประสงค์ที่ดีของเรา
    และเราจะทำทางต่างๆของเขาให้ราบเรียบ
เขาจะสร้างเมืองของเราขึ้นมาใหม่ เขาจะปลดปล่อยคนของเราที่ถูกจับไปเป็นเชลยโดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือสินบน”
    พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดไว้ว่าอย่างนั้น

14 พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้
“ความร่ำรวยของอียิปต์และกำไรของเอธิโอเปีย
    และคนเสบา คนร่างสูงนั้น
ก็จะถูกนำมาให้เจ้า และกลายเป็นของเจ้า
    พวกเขาจะติดตามเจ้า
    เป็นเชลยถูกล่ามโซ่มาก้มกราบอยู่ต่อหน้าเจ้า
พวกเขาจะอ้อนวอนและพูดกับเจ้าว่า
    ‘พระเจ้าสถิตอยู่กับท่านแน่
    ไม่มีพระอื่นใดอีกนอกจากพระองค์’”
15 ข้าแต่พระเจ้าของอิสราเอล พระผู้ช่วยให้รอด
    พระองค์เป็นพระเจ้าที่ทำงานอย่างลับๆจริงๆ
16 พวกเขาทุกคนจะต้องได้รับความอับอายและขายหน้าไป
    พวกที่ทำรูปเคารพจะได้รับความอัปยศอดสูไปด้วยกัน
17 แต่พระยาห์เวห์ ได้ช่วยให้อิสราเอลรอดเป็นชัยชนะที่อยู่ถาวรตลอดไป
    พวกเจ้าจะไม่มีวันได้รับความอับอายหรือขายหน้าตลอดไปเป็นนิตย์
18 พระยาห์เวห์คือพระเจ้าผู้สร้างฟ้าสวรรค์
    พระองค์ปั้นโลกนี้ขึ้นมา
    พระองค์สร้างมันและตั้งมันให้มั่นคง
พระองค์ไม่ได้สร้างให้มันว่างเปล่า
    พระองค์ปั้นมันขึ้นมาให้คนอยู่
พระองค์คือพระยาห์เวห์ที่พูดว่า
    “เราคือยาห์เวห์ ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
19 เราไม่ได้พูดในที่ลี้ลับ
    หรือพูดอยู่ในที่มืดมิด
เราไม่ได้บอกกับลูกหลานของยาโคบว่า
    ‘ให้ค้นหาเราในแผ่นดินที่ว่างเปล่า’
เรา คือยาห์เวห์ เราพูดความจริง
    และประกาศในสิ่งที่ถูกต้อง”

พระยาห์เวห์พิสูจน์ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว

20 เจ้าที่หนีรอดมาจากชนชาติต่างๆรวบรวมกันเข้า
    และมานี่ เข้ามาใกล้ๆกัน
คนพวกนั้นที่เดินแบกรูปเคารพต่างๆที่ทำจากไม้และอธิษฐานถึงพระที่ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้
    คนพวกนี้ไม่มีความรู้
21 ให้พวกเขามาและยื่นคดีของเขา
    ให้พวกเขาหารือกันในเรื่องพวกนี้
“ใครเป็นคนทำนายเรื่องนี้ให้เจ้ารู้เมื่อนานมาแล้ว
    หรือใครเป็นคนบอกเรื่องนี้ให้เจ้ารู้ก่อนล่วงหน้า[e]นานแสนนานมาแล้ว
ก็ไม่ใช่เรา ยาห์เวห์ หรอกหรือ
    ไม่มีพระเจ้าอื่นอีกแล้วนอกจากเรา
เราเป็นพระเจ้าที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
    ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา
22 ทุกคนที่อยู่สุดปลายโลก หันมาหาเราแล้วจะรอด
    เพราะเราคือพระเจ้า ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
23 เราได้สาบานอ้างชื่อเราเอง
    คำสัญญาที่ได้ออกจากปากของเรานั้นยุติธรรม
และเราจะไม่กลับคำพูด
    ทุกหัวเข่าจะต้องกราบลงต่อหน้าเรา
    และลิ้นทุกลิ้นจะสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเรา
24 พวกเขาจะพูดว่า ‘ชัยชนะและพละกำลังมาจากพระยาห์เวห์เท่านั้น’
    ทุกคนที่โกรธแค้นพระองค์จะมาหาพระองค์และได้รับความอับอายขายหน้า
25 แต่ลูกหลานของอิสราเอลทุกคนจะได้รับชัยชนะจากพระยาห์เวห์
    และพวกเขาก็จะสรรเสริญพระองค์”

พวกพระจอมปลอมไม่มีประโยชน์

46 ต่อหน้าพระเจ้า พระเบลต้องก้มกราบลง พระเนโบ ต้องหมอบตัวลง
    รูปเคารพของพระทั้งสองนี้จะต้องวางอยู่บนพวกสัตว์และวัว
พวกรูปเคารพที่เจ้าหามแห่แหนไปมานั้น
    ตอนนี้กำลังถูกบรรทุกอยู่บนพวกสัตว์ที่เหน็ดเหนื่อยนั้น
พวกมันต้องหมอบตัวลงและต้องก้มกราบลงด้วยกัน
    พวกพระนั้นไม่สามารถช่วยกู้รูปปั้นของตนเองได้
    พระพวกนั้นเองก็ตกไปเป็นเชลยเหมือนกัน
พระยาห์เวห์พูดว่า “ครอบครัวยาโคบเอ๋ย
    คือพวกที่ยังเหลือรอดในครอบครัวของอิสราเอล ฟังเราให้ดี
เราได้แบกพวกเจ้าตั้งแต่เจ้าเกิดมา
    เราได้แบกพวกเจ้าตั้งแต่เจ้าคลอดจากครรภ์มา
จนกระทั่งเจ้าแก่เฒ่า เราก็คือพระองค์นั้น
    ถึงแม้ผมของเจ้าจะขาวไป เราก็ยังจะแบกเจ้าอยู่
เราได้สร้างเจ้ามา เราจะดูแลเจ้า
    เราจะแบกเจ้าและช่วยเจ้าให้รอด
เจ้าจะเอาเราไปเปรียบกับใคร ใครจะมาเทียบเทียมกับเราได้
    เจ้าจะเปรียบเทียบเรากับใคร และทำยังกับว่าเหมือนกันอย่างนั้นหรือ
คนพวกนั้นที่เททองมากมายออกจากถุง
    และเอาเงินมาชั่งบนตราชั่ง
ได้จ้างช่างทองมาคนหนึ่งมาสร้างมันขึ้นเป็นพระ
    แล้วพวกเขาก็ก้มกราบนมัสการมัน
พวกเขายกมันใส่บ่าและแบกมันไป
    แล้วไปวางไว้ในที่ของมัน
    มันก็ตั้งอยู่ที่นั่นไม่กระดุกกระดิกไปไหน
ถ้ามีคนมาร้องขอความช่วยเหลือจากมัน
    มันก็ไม่ตอบ
    มันไม่สามารถช่วยใครให้พ้นจากความเดือดร้อนได้เลย
เจ้าพวกชอบกบฏทั้งหลาย จดจำเรื่องนี้ไว้ให้ดี และกล้าหาญไว้
    ให้หวนคิดอยู่เสมอในใจ
คือให้จดจำเรื่องเหล่านั้นที่เราได้ทำตั้งแต่สมัยโบราณ
    เพราะเราเป็นพระเจ้า ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
    เราเป็นพระเจ้า ไม่มีใครเหมือนเรา
10 เราได้ทำนายตอนจบไว้ตั้งแต่เริ่มต้นเลย
    ตั้งแต่สมัยโบราณ เราได้บอกเจ้าถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
เราบอกว่า ‘เมื่อเราวางแผน มันก็จะเกิดขึ้นตามนั้น
    เราจะทำทุกสิ่งที่เราอยากจะทำ’
11 เราได้เรียกนกอินทรีตัวหนึ่งมาจากทางตะวันออก
    คือเรียกชายคนหนึ่งจากแดนไกลให้มาทำตามแผน
เราได้พูดเอาไว้ และเราจะทำให้มันเกิดตามนั้น
    เราได้วางแผนไว้ และเราจะทำมัน
12 พวกเจ้าหัวดื้อ
    พวกเจ้าที่คิดว่าความรอดอยู่ห่างไกล ฟังเราให้ดี
13 เราได้เอาความรอดของเรามาใกล้แล้ว มันอยู่ไม่ไกล
    และความรอดของเราก็ไม่ล่าช้าด้วย
เราจะเอาความรอดมาไว้ที่ศิโยน
    และเราจะให้สง่าราศีของเรากับอิสราเอล”

ข่าวสารของพระเจ้าถึงชาวบาบิโลน

47 พระยาห์เวห์พูดว่า “บาบิโลนสาวพรหมจรรย์เอ๋ย
    ลงมานั่งบนฝุ่น
นางสาวเคลเดียเอ๋ย
    มานั่งบนพื้นโดยไม่มีบัลลังก์
เพราะจะไม่มีใครเรียกเจ้าว่าเจ้าหญิงเนื้อนุ่ม และเจ้าหญิงเนื้อเนียน อีกต่อไป
ไปจับโม่หินและโม่แป้งซะ
    เอาผ้าคลุมหน้าออก
ให้ถอดกระโปรงออกจนเห็นขาของเจ้า
    แล้วเดินข้ามแม่น้ำไป
เจ้าจะเปลือยเปล่าไม่มีอะไรปกปิด
    คนจะเห็นส่วนที่น่าอับอายของเจ้า[f]
เราจะแก้แค้นเจ้า
    และเราจะไม่ไว้ชีวิตใครเลย”
ผู้ที่ไถ่พวกเราให้เป็นอิสระคือองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
    พระองค์มีชื่อว่าพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
พระยาห์เวห์ พูดว่า “นางสาวเคลเดียเอ๋ยเข้าไปในที่มืดและนั่งเงียบๆ
    เพราะจะไม่มีใครเรียกเจ้าว่า ‘ราชินีแห่งอาณาจักรทั้งหลาย’ อีกต่อไป

ตอนนั้นเราโกรธคนของเรา
    เราทำให้ทรัพย์สมบัติของเราเสื่อมเสียเกียรติไป
เราได้มอบพวกเขาไว้ในมือเจ้า
    แต่เจ้าไม่ได้มีความเมตตาต่อพวกเขาเลย
เจ้าทำให้แอกของเจ้าหนักมากแม้แต่บนบ่าของคนชรา
เจ้าได้พูดว่า ‘ข้าจะเป็นราชินีตลอดชั่วนิรันดร์’
    เจ้าไม่ได้คิดถึงสิ่งที่เจ้าทำลงไป
    เจ้าไม่ได้นึกถึงผลที่จะตามมา
ตอนนี้ ฟังไว้ให้ดี เจ้าที่รักความสนุกสนาน
    เจ้าที่นั่งอยู่ในความปลอดภัย
เจ้าพูดในใจของตนว่า
    ‘ข้านี่แหละพระเจ้า และไม่มีผู้อื่นนอกจากข้า
    ข้าจะไม่มีวันเป็นแม่หม้ายและข้าจะไม่มีวันสูญเสียลูกๆของข้าไป’
แต่ทั้งสองอย่างนี้จะเกิดขึ้นกับเจ้า ในทันทีทันใด ภายในวันเดียว
    เจ้าจะสูญเสียทั้งลูกๆและสามีไป ทั้งๆที่เจ้ามีเวทมนตร์มากมาย
    ทั้งๆที่เจ้ามีคาถาอาคมที่มีฤทธิ์อันยิ่งใหญ่
10 เจ้ารู้สึกปลอดภัยอยู่ในความเลวทรามของเจ้า
    เจ้าคิดว่า ‘ไม่มีใครเห็นข้า’
ความฉลาดและความรู้ของเจ้านำเจ้าหลงทางไป
    เจ้าคิดในใจว่า ‘ข้านี่แหละพระเจ้า ไม่มีผู้อื่นนอกจากข้า’

11 ดังนั้น เรื่องเลวร้ายจะตกมาบนเจ้า
    เจ้าไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ความพินาศจะตกมาบนเจ้า
    เจ้าจะไม่มีทางกำจัดมันไปได้
ความหายนะจะเกิดขึ้นกับเจ้าในทันทีทันใด
    เจ้าจะไม่มีวันรู้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไหร่
12 ใช้คาถาอาคมของเจ้าต่อไปและใช้เวทมนตร์ทั้งหมดของเจ้า
    ที่เจ้ายุ่งอยู่กับมันตั้งแต่เป็นเด็กมาแล้ว
ไม่แน่เจ้าอาจจะสำเร็จก็ได้
    ไม่แน่เจ้าอาจจะทำให้บางคนกลัวก็ได้
13 เจ้าปรึกษาพวกหมอดูมากมายจนเหนื่อย
    ให้พวกโหราจารย์ลุกขึ้นมาช่วยชีวิตเจ้าสิ
ให้พวกที่ดูดวง ดูดาว และดวงจันทร์ใหม่ทุกเดือน
    ทำนายสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า
14 ดูสิ พวกเขาเป็นเหมือนฟาง
    ไฟก็จะเผาผลาญพวกมันจนหมด
พวกเขาไม่สามารถเอาตัวรอดให้พ้นจากฤทธิ์แห่งเปลวไฟ
    มันไม่ใช่ถ่านไฟสำหรับผิงอุ่นกาย
    หรือเป็นแสงไฟให้กับใครมานั่งชม
15 นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเจ้า
    คือคนพวกนั้นที่เจ้าร่วมงานด้วยจะทำให้เจ้าผิดหวังอย่างนั้น
คนที่เจ้าค้าขายด้วยตั้งแต่สาวๆ
    ก็จะแยกย้ายไปตัวใครตัวมันจนไม่เหลือใครที่จะมาช่วยกู้เจ้าได้”

พระเจ้าปกครองโลกของพระองค์

48 พระยาห์เวห์พูดว่า “ฟังสิ่งนี้ให้ดีครอบครัวของยาโคบ ผู้ที่มีชื่อเรียกว่าอิสราเอล
    ผู้สืบเชื้อสายมาจากยูดาห์
เจ้าอ้างชื่อของพระยาห์เวห์ในการสาบาน
เจ้าสรรเสริญพระเจ้าของอิสราเอล
    แต่เจ้าไม่ได้ทำด้วยความซื่อสัตย์และความจริงใจ

พวกเจ้าเรียกตัวเองว่าประชากรของเมืองศักดิ์สิทธิ์
    ที่เชื่อพึ่งในพระเจ้าของอิสราเอล
    ที่มีชื่อเรียกว่าพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น

พระยาห์เวห์พูดว่า เราได้ทำนายนานมาแล้วถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นนี้
    สิ่งเหล่านั้นได้ออกมาจากปากของเรา
เราได้ทำให้พวกมันเป็นที่รู้กันไปทั่ว
    แล้วจู่ๆ เราก็ลงมือทำ แล้วมันก็เกิดขึ้น
เพราะเรารู้ว่าเจ้านั้นดื้อดึง
    คอเจ้าเหมือนเอ็นเหล็กจูงยาก
    หัวแข็งเหมือนกับทองเหลือง
เราได้ประกาศให้เจ้ารู้นานมาแล้ว
    ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเกิด เราก็ได้บอกเจ้าแล้ว
เพื่อเจ้าจะไม่สามารถพูดได้ว่า ‘รูปเคารพของฉันทำสิ่งเหล่านั้น
    รูปแกะสลักไม้และรูปหล่อของฉันได้สั่งให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น’”
เจ้าเคยได้ยินคำทำนายของเราแล้ว
    ดูสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นสิ
แล้วพวกเจ้าจะยอมรับว่าสิ่งที่เราได้ทำนายนั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่
    ต่อจากนี้ไป เราจะบอกเจ้าเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆที่แอบซ่อนอยู่ ที่เจ้ายังไม่รู้
พวกมันเพิ่งถูกสร้างขึ้นมาเดี๋ยวนี้เอง ไม่ใช่นานมาแล้ว
    ก่อนหน้านี้เจ้ายังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้
    ดังนั้น เจ้าไม่สามารถพูดได้ว่า
    “เออ เรารู้แล้ว”
เจ้าไม่เคยได้ยินหรือรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
    หูของเจ้าไม่ได้เปิดตั้งนานมาแล้ว
เพราะเรารู้ว่าเจ้านั้นชอบหักหลัง
    และเรารู้ว่าตั้งแต่เกิดแล้ว เจ้าได้ชื่อว่า “ไอ้กบฏ”
เพราะเราไม่อยากเสียชื่อของเรา เราจึงได้ยับยั้งความโกรธของเราไว้
    เพื่อให้คนสรรเสริญเรา
    เราจึงได้ระงับมันไว้เพื่อเจ้าและไม่ได้ทำลายเจ้า
10 เราได้หลอมเจ้าแล้ว แต่ไม่ได้หลอมด้วยไฟอย่างเงิน
    แต่เราได้ทดสอบเจ้าด้วยเตาหลอมแห่งความทุกข์ยาก
11 เพื่อเกียรติของเรา เพื่อเกียรติของเราเอง เราจะจัดการแล้ว
    เราจะปล่อยให้ชื่อเสียงของเราเสื่อมเสียได้ยังไง
    เราจะไม่ยอมมอบเกียรติที่เราสมควรจะได้รับให้กับผู้อื่น

12 ฟังเราให้ดี ยาโคบ
    อิสราเอล ผู้ที่เราได้เรียกมา
เราคือพระองค์ผู้นั้น เราเป็นผู้แรก
    และผู้สุดท้าย
13 มือของเราได้วางรากฐานของโลก
    มือขวาของเราได้แผ่ฟ้าสวรรค์ออก
เมื่อเราเรียกพวกมันมา
    พวกมันก็จะมายืนพร้อมอยู่ต่อหน้าเรา

14 เจ้าทั้งหลาย รวมกันเข้ามา และฟังให้ดี
    ในพวกพระนั้นมีใครบ้างที่เคยทำนายสิ่งเหล่านี้
พระยาห์เวห์ได้เลือกไซรัสมาเป็นพันธมิตร
    เขาจะทำตามความต้องการของพระองค์
    ต่อบาบิโลน ต่อเชื้อสายของเคลเดีย
15 เราเองเป็นผู้ที่ออกคำสั่ง เราได้เรียกเขามา
    เราได้นำเขามาที่นี่ และงานของเขาจะประสบผลสำเร็จแน่
16 เข้ามาใกล้ๆเรา และฟังเรื่องนี้
    “ตั้งแต่เริ่มต้น เราไม่เคยพูดในที่ลับ
และเมื่อมันเป็นจริงขึ้นมา เราก็อยู่ที่นั่น”

ตอนนี้ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ได้ส่งผมและพระวิญญาณของพระองค์มาแล้ว 17 พระยาห์เวห์ ผู้ที่ปกป้องพวกเจ้าไว้ ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล พูดว่า

“เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า
    เราสอนเจ้าเพื่อเป็นประโยชน์กับเจ้า
    เรานำเจ้าไปในทางที่เจ้าควรไป
18 เสียดาย ที่พวกเจ้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องคำสั่งสอนของเรา
    ไม่อย่างนั้นเจ้าคงสุขสบายไปแล้วเหมือนแม่น้ำที่ไหลตลอดไม่หยุด
    และคงประสบความสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนคลื่นซัดมาครั้งแล้วครั้งเล่า
19 ลูกหลานของเจ้าก็คงมีมากมายเหมือนกับเม็ดทราย
    เชื้อสายของเจ้าก็คงมีมากมายดั่งกับเม็ดทราย
แล้วชื่อของพวกเขาคงไม่โดนลบออกไป
    และพวกเขาคงไม่ถูกทำลายไปต่อหน้าเรา”

20 ออกมาจากบาบิโลนซะ ให้วิ่งหนีจากชาวเคลเดีย
    โห่ร้อง ประกาศมันด้วยความยินดี
ให้เล่าเรื่องนี้ ให้มันกระจายไปไกลถึงสุดขอบโลกให้พูดว่า
    “พระยาห์เวห์ได้ไถ่ยาโคบผู้รับใช้ของพระองค์แล้ว”
21 เมื่อพระองค์ได้นำพวกเขาผ่านทะเลทราย พวกเขาก็ไม่ขาดน้ำดื่ม
    พระองค์ให้น้ำไหลออกมาจากก้อนหินเพื่อพวกเขา
    พระองค์ได้ผ่าหินและน้ำก็ทะลักออกมา
22 แต่พระยาห์เวห์พูดว่า
    “ไม่มีสันติสุขสำหรับคนชั่วช้า”

งานของผู้รับใช้ของพระองค์

49 พวกเจ้าที่อยู่แถบชายฝั่งและหมู่เกาะต่างๆฟังเราให้ดี
    ชนชาติทั้งหลายที่มาจากแดนไกล ตั้งใจฟังให้ดี
พระยาห์เวห์ได้เรียกผมให้มารับใช้พระองค์ก่อนที่ผมจะเกิดเสียอีก
    พระองค์ตั้งชื่อให้ผม ตั้งแต่ผมยังอยู่ในท้องแม่
พระองค์ทำให้ปากของผมเหมือนกับดาบที่คมกริบ
    พระองค์ซ่อนและปกป้องผมไว้ใต้มือพระองค์
พระองค์ทำให้ผมเป็นเหมือนลูกธนูที่ขัดมัน
    พระองค์ซ่อนผมไว้ในซองธนูของพระองค์
พระองค์พูดกับผมว่า “อิสราเอล เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
    เราจะได้รับเกียรติเพราะเจ้า”
แต่ผมคิดว่า “ผมได้ทำงานเหนื่อยเปล่า”
    ผมได้ทุ่มแรงไปจนหมด เสียแรงเปล่าๆไม่ได้อะไรซักอย่าง
แต่อย่างไรก็ตามพระยาห์เวห์จะให้สิ่งที่ผมสมควรจะได้รับอย่างแน่นอน
    และรางวัลของผมอยู่กับพระเจ้าของผม
พระยาห์เวห์ได้ปั้นผมในครรภ์ให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
    พระองค์ทำอย่างนี้เพื่อพระองค์จะได้นำครอบครัวของยาโคบกลับมาหาพระองค์ และเพื่อรวบรวมคนอิสราเอลกลับมาหาพระองค์
ผมจะได้รับเกียรติในสายตาของพระยาห์เวห์
    และพระเจ้าของผมได้เป็นพละกำลังของผมแล้ว

ตอนนี้พระยาห์เวห์พูดว่า “เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเราที่กำลังช่วยเราฟื้นฟูเผ่าต่างๆของยาโคบ
    และนำผู้รอดชีวิตของชนชาติอิสราเอลกลับมา
แค่นั้นยังน้อยเกินไป เราจะทำให้เจ้าเป็นแสงสว่างให้กับชนชาติต่างๆด้วย
    เพื่อความรอดของเราจะได้ไปถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”

พระยาห์เวห์พระผู้ไถ่และผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
    ได้พูดกับคนนั้นที่ถูกดูหมิ่นที่ชนชาติอื่นๆเกลียดชัง
    และที่เป็นทาสของผู้ครอบครองทั้งหลายอย่างนี้ว่า
“เมื่อพวกกษัตริย์เห็นเจ้า พวกเขาก็จะยืนขึ้นให้เกียรติเจ้า เมื่อพวกเจ้านายเห็นเจ้าก็จะโค้งคำนับเจ้า”
    เพราะพระยาห์เวห์องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ที่ได้เลือกเจ้ามานั้นรักษาคำสัญญาของพระองค์เสมอ

วันแห่งความรอด

พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ “ในเวลาที่เราแสดงความเมตตา เราจะตอบคำอธิษฐานของเจ้า
    ในวันแห่งความรอด เราจะช่วยเจ้าและปกป้องเจ้า
เราจะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวกลางแห่งคำสัญญาที่เรามีกับมนุษย์
    เพื่อว่าเราจะได้ฟื้นฟูแผ่นดินขึ้นมาใหม่ และคืนแผ่นดินที่ถูกทำลายกลับไปให้เจ้าของเดิม
เราจะบอกกับพวกนักโทษว่า ‘ออกมาได้แล้ว’
    เราจะบอกกับคนเหล่านั้นที่อยู่ในความมืดว่า
    ‘โผล่ออกมาได้แล้ว’
พวกเขาจะเป็นเหมือนแกะที่กินไปตามทางเดิน
    และพวกเขาจะมีทุ่งหญ้าบนเนินเขาโล้นทั้งหลาย
10 พวกเขาจะไม่ขาดอาหารหรือน้ำ
    แสงแดดและลมร้อนของทะเลทรายจะไม่โจมตีพวกเขา
เพราะพระองค์ผู้ปลอบโยนพวกเขาจะนำหน้าพวกเขา
    และพระองค์จะนำทางพวกเขาไปถึงตาน้ำทั้งหลาย
11 เราจะทำให้ภูเขาทั้งหลายของเราแบนเป็นถนน
    และถมที่ต่ำขึ้นมาเป็นทางหลวงของเรา
12 ดูสิ จะมีบางคนมาจากแดนไกล
    จะมีบางคนมาจากทิศเหนือและทิศตะวันตก
    และจะมีบางคนมาจากทางภาคใต้ของอียิปต์”

13 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย ร้องเพลงเถิด แผ่นดินโลกเอ๋ย ชื่นชมยินดีเถิด
    ภูเขาทั้งหลายเอ๋ย ระเบิดเป็นเสียงเพลงแห่งความชื่นชมยินดีเถิด
เพราะพระยาห์เวห์ได้ปลอบโยนคนของพระองค์
    และพระองค์จะให้ความรักกับคนของพระองค์ที่ทุกข์ยากลำบาก
14 แต่ศิโยน ได้พูดว่า
    “พระยาห์เวห์ทอดทิ้งฉัน องค์เจ้าชีวิตลืมฉัน”

15 พระยาห์เวห์พูดว่า “ผู้หญิงที่ให้นมลูก จะลืมลูกของเธอได้หรือ
    หรือ ผู้หญิงที่คลอดลูกออกมาจะไม่ให้ความรักต่อลูกของเธอ ได้หรือ
ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะลืมได้
    แต่เราจะไม่มีวันลืมเจ้า
16 ดูสิ เยรูซาเล็ม เราวาดเมืองของเจ้าลงบนฝ่ามือของเรา
    กำแพงของเจ้าอยู่ต่อหน้าต่อตาเราเสมอ
17 ลูกๆของเจ้ากำลังรีบกลับมาหาเจ้า
    และคนพวกนั้นที่พังทลายเจ้าและทำลายเจ้าก็จะจากเจ้าไป
18 ลืมตาขึ้นมามองไปรอบๆ
    พวกลูกหลานของเจ้ากำลังรวมตัวกันกลับมาหาเจ้า”
พระยาห์เวห์พูดว่า “เจ้ารู้ว่าเรามีชีวิตอยู่แน่ ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า
    เจ้าจะได้สวมใส่ลูกหลานของเจ้าเหมือนเครื่องเพชร
    หรือเหมือนกับเจ้าสาวที่สวมใส่เครื่องเพชร

19 เราได้ทำลายเจ้าและทำให้เจ้ากลายเป็นซากปรักหักพัง และรื้อเจ้าลงกับพื้น
    แต่ต่อไปนี้แผ่นดินของเจ้าก็จะแคบเกินไปแล้วสำหรับประชาชนมากมายของเจ้า
    และคนพวกนั้นที่เคยกลืนกินเจ้าก็อยู่ห่างไกล
20 และลูกๆของเจ้าที่เจ้าคิดว่าสูญเสียไปแล้ว
    วันหนึ่งพวกเขาจะกลับมาพูดใส่หูเจ้าว่า
‘ที่นี่แคบเกินไปสำหรับเราแล้ว
    หาที่ใหม่ให้พวกเราอยู่กันหน่อย’
21 แล้วเจ้าก็จะพูดกับตัวเองว่า
    ‘ใครกันนะที่คลอดเด็กพวกนี้มาให้กับข้า
ข้าได้สูญเสียลูกของข้าไป และข้าเป็นหมัน
    ข้าถูกขับไล่ออกจากแผ่นดินของข้า
ข้าถูกสามีทิ้ง
    อย่างนั้น ใครได้เลี้ยงเด็กๆพวกนี้ขึ้นมา
ข้าถูกทิ้งไว้ตัวคนเดียว
    แล้วนี่ เด็กๆพวกนี้มาจากไหนกัน’”

22 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูด “เราจะยกมือของเราขึ้นเป็นสัญญาณให้กับชนชาติต่างๆ
    เราจะยกธงของเราขึ้นให้คนเห็น
และพวกเขาก็จะอุ้มพวกลูกชายของเจ้ามาในอ้อมอกของเขา
    และพวกเขาก็จะแบกพวกลูกสาวของเจ้าไว้บนบ่า
23 พวกกษัตริย์จะสอนพวกลูกๆของเจ้า
    พวกราชินีของพวกเขาก็จะดูแลลูกๆของเจ้า
พวกเขาจะก้มหน้ากราบลงถึงพื้นต่อหน้าเจ้า
    และพวกเขาก็จะเลียฝุ่นที่เท้าของเจ้า
แล้วเจ้าก็จะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
    คนพวกนั้นที่ไว้วางใจในเราจะไม่มีวันผิดหวัง”

24 จะแย่งของที่ยึดมาได้จากทหารได้หรือ
    หรือจะไปช่วยกู้เชลยจากผู้ก่อการร้ายได้หรือ
25 พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้ “ได้สิ ของที่ยึดมาได้จะถูกแย่งไปจากผู้ก่อการร้าย
    และเชลยก็จะได้รับการช่วยกู้จากทหาร
เพราะเราจะต่อสู้กับคนเหล่านั้นที่ต่อสู้กับเจ้า
    และเราจะช่วยกู้ลูกๆของเจ้า
26 เราจะทำให้พวกที่กดขี่เจ้าต้องกินเนื้อตัวเอง
    และเมาเลือดของตัวเองเหมือนดื่มเหล้าองุ่น
และทุกคนจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์ พระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า
    พระผู้ไถ่ของเจ้า ผู้มีฤทธิ์อำนาจของยาโคบ”

พระยาห์เวห์ช่วยกู้อิสราเอลได้

50 พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า
“อิสราเอล เจ้าคิดว่าเราหย่ากับเยรูซาเล็มแม่ของเจ้าแล้วหรือ
    ไหนละใบหย่าของแม่เจ้าที่เราให้กับนางตอนส่งนางไป
หรือเราได้ขายพวกเจ้าไปจ่ายหนี้ใครหรือ
    ไม่เลย แต่ที่พวกเจ้าถูกขายไปนั้น
ก็เพราะความบาปต่างๆของเจ้าเอง
    และแม่ของเจ้าถูกส่งไปก็เพราะการกบฏต่างๆของเจ้า
ทำไมถึงไม่มีใครอยู่ที่นั่นตอนที่เรามา
    ทำไมถึงไม่มีใครตอบตอนที่เราเรียก
เจ้าคิดว่าแขนของเราสั้นเกินไป
    ที่จะเอื้อมออกมาช่วยเจ้าให้เป็นอิสระหรือ
หรือ เจ้าคิดว่าเราไม่มีแรงที่จะช่วยกู้เจ้าได้
    ถ้าเราตะโกนใส่ทะเล มันก็จะเหือดแห้งไป
เราสามารถทำให้พวกแม่น้ำกลายเป็นทะเลทราย
    ปลาของพวกมันก็จะเน่าเหม็นเพราะขาดน้ำและตายไปเพราะกระหาย
เราเอาความมืดมาสวมท้องฟ้า
    และเราให้มันใส่ผ้ากระสอบ”

ผู้รับใช้พระยาห์เวห์พึ่งพระองค์จริงๆ

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตได้สอนผมว่าควรจะพูดอะไร
    เพื่อผมจะได้รู้ว่าจะพูดให้กำลังใจกับคนที่อ่อนแออย่างไร
ทุกๆเช้าพระองค์ปลุกผม
    พระองค์ทำให้หูผมพร้อมที่จะฟัง เหมือนกับพวกเด็กนักเรียน
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ได้เปิดหูผม
    และผมก็ไม่ได้กบฏต่อพระองค์
    ผมไม่ได้หันหลังไปจากพระองค์
ผมหันหลังให้คนตี
    ผมยอมให้คนดึงเคราจากแก้ม
ผมไม่ได้ซ่อนหน้าไว้
    เมื่อมีคนพูดดูถูกและถ่มน้ำลายใส่ผม
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ช่วยผม
    ผมจึงไม่รู้สึกขายหน้า
ผมจึงเชิดหน้าไว้
    และผมรู้ว่าผมจะไม่เสียหน้า
ผู้ที่จะกู้หน้าผมอยู่ใกล้ๆ
    ใครจะเอาเรื่องมาฟ้องร้องผมหรือ
ให้พวกเราไปยืนอยู่ต่อหน้าศาลด้วยกัน
    ใครเป็นผู้กล่าวหาผมหรือให้เขามาฟ้องผมต่อหน้า
ดูสิ พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต
    ช่วยผมไว้ ใครจะมาตัดสินว่าผมผิด
พวกเขาทั้งหมดจะเปื่อยยุ่ยไป
    เหมือนเสื้อผ้าที่ถูกตัวมอดกัดกิน
10 มีใครบ้างในพวกเจ้าที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์
    และเชื่อฟังผู้รับใช้ของพระองค์
ใครก็ตามที่เดินอยู่ในความมืดโดยไม่มีแสงสว่าง
    ควรจะไว้วางใจในพระยาห์เวห์และพึ่งพิงพระเจ้าของเขา
11 แต่ดูสิ พวกเจ้าทุกคนทั้งก่อไฟและจุดดุ้นไฟเอง
    ไปเลย เดินเข้าไปในเปลวไฟของพวกเจ้านั้น
และท่ามกลางดุ้นไฟที่พวกเจ้าจุดขึ้นมานั้น
    นี่คือสิ่งที่เจ้าจะได้รับจากมือของเรา คือเจ้าจะต้องนอนลงด้วยความเจ็บปวด

พระยาห์เวห์จะช่วยกู้คนของพระองค์อีกครั้ง

51 พระยาห์เวห์พูดว่า “ฟังเราให้ดี พวกเจ้าที่พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    พวกเจ้าที่แสวงหาพระยาห์เวห์
ให้ดูหินนั้น ที่เจ้าถูกสกัดออกมาสิ
    ให้ดูบ่อหินนั้น ที่เจ้าถูกขุดออกมา
มองดู อับราฮัมบรรพบุรุษของพวกเจ้าและซาราห์คนที่คลอดเจ้ามาสิ
    ตอนที่เราเรียกอับราฮัมนั้น เขายังอยู่ตัวคนเดียวเลย
    แต่เราได้อวยพรเขา และทำให้เขามีลูกมากมาย”
พระยาห์เวห์จะปลอบโยนศิโยน
    พระองค์จะมองพวกตึกที่พังทลายพวกนั้นของเธอ ด้วยความเห็นอกเห็นใจ
พระองค์จะทำให้ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งของเธอกลายเป็นสวนเอเดน
    พระองค์จะทำให้ทะเลทรายของเธอเป็นเหมือนสวนของพระยาห์เวห์
ที่นั่นจะเต็มไปด้วยความสุขและการเฉลิมฉลองกัน
    พวกเขาจะขอบพระคุณและร้องเพลงสรรเสริญ

พระยาห์เวห์พูดว่า “คนของเราเอ๋ย ฟังเราให้ดี
    ชนชาติของเราเอ๋ย ตั้งใจฟังเราให้ดี เพราะเราจะให้คำสั่งสอน
    และความยุติธรรมของเราจะส่องสว่างออกไปให้กับชนชาติต่างๆ
ชัยชนะของเรากำลังเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
    ความรอดที่มาจากเรากำลังเดินทางมาแล้ว ฤทธิ์อำนาจของเราจะนำความยุติธรรมมาให้กับชนชาติต่างๆ
แผ่นดินแถบชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะต่างๆกำลังเฝ้าคอยเรา
    พวกเขาฝากความหวังไว้กับฤทธิ์อำนาจของเรา
เงยหน้าเงยตาขึ้นไปมองบนท้องฟ้าสิ
    มองลงไปยังโลกเบื้องล่าง
ให้รู้ว่าท้องฟ้าจะสูญหายไปเหมือนควัน
    โลกจะเปื่อยยุ่ยไปเหมือนเสื้อผ้า
    และคนที่อาศัยอยู่บนโลกก็จะตายเหมือนแมลงวัน
แต่ความรอดของเราจะอยู่ตลอดไป
    และการช่วยกู้อันยุติธรรมของเราจะไม่มีวันแตกสลายไป
ฟังเราให้ดี พวกเจ้าที่รู้ว่าอะไรถูกต้อง
    พวกเจ้าที่เก็บคำสั่งสอนของเราไว้ในใจ
ไม่ต้องไปกลัวคำพูดเหยียดหยามของคนอื่น
    ไม่ต้องไปวุ่นวายใจกับคำดูถูกทั้งหลายของเขา
เพราะพวกตัวมอดจะกัดกินพวกเขาเหมือนเสื้อผ้า
    และพวกตัวแมลงจะกัดกินพวกเขาเหมือนผ้าขนแกะ
แต่การช่วยกู้อันยุติธรรมของเราจะอยู่ตลอดไป
    และความรอดของเราจะอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน”

พลังของพระยาห์เวห์เองจะช่วยกู้คนของพระองค์

ตื่นเถิด ตื่นเถิด พระยาห์เวห์เจ้าข้า สวมพลังไว้
    ใช้พละกำลังของพระองค์เถิด[g]
    ตื่นขึ้นเหมือนกับในสมัยก่อนนานมาแล้ว
เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ตัดราหับเป็นชิ้นๆ[h]
    เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่แทงมังกรทะลุไป[i]
10 เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ทะเลแห้งไป
    คือทำให้น้ำในมหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่แห้งไป
เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ส่วนลึกที่สุดของทะเล
    กลายเป็นทางให้กับคนที่พระองค์ไถ่ให้เป็นอิสระเดินข้ามไป
11 คนที่พระยาห์เวห์ได้ไถ่ให้เป็นอิสระ
    แล้วจะกลับมาที่ศิโยนด้วยเสียงโห่ร้องดีใจ
ความสุขจะสวมอยู่บนหัวของพวกเขาตลอดไป
    ความชื่นชมยินดีก็จะท่วมท้นพวกเขา
    ความเศร้าโศกและการครวญครางจะวิ่งหนีไปจากพวกเขา

12 พระยาห์เวห์พูดว่า “เรา คือเราเองเป็นผู้ที่ปลอบโยนพวกเจ้า
    เยรูซาเล็ม ทำไมเจ้าถึงได้กลัวมนุษย์ที่จะต้องตาย
    คือคนที่ถูกสร้างเป็นเหมือนหญ้า
13 ทำไมเจ้าถึงได้ลืมพระยาห์เวห์ผู้ที่สร้างเจ้ามา
    ผู้ที่กางแผ่นฟ้าออก
    ผู้ที่วางรากฐานของโลก
ทำไมเจ้าถึงได้หวาดกลัวคนพวกนั้นอยู่เรื่อยทั้งวัน คือพวกที่โกรธแค้นและข่มเหงเจ้า
    พวกที่ตั้งใจจะทำลายเจ้า
    แล้วตอนนี้ พวกที่โกรธแค้นและที่เคยข่มเหงเจ้าหายไปไหนกันหมดแล้ว
14 คนพวกนั้นที่ถูกข่มเหงในคุกจะได้รับการปลดปล่อยในไม่ช้า
    พวกเขาจะไม่ตายในคุกใต้ดินหรอก
    และพวกเขาก็จะไม่ขาดอาหาร
15 เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า
    เราเป็นผู้ที่ทำให้ทะเลสงบลงตอนที่เกิดคลื่นคะนอง
    ชื่อของเราคือยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น”

16 “อิสราเอลเอ๋ย เราได้ใส่คำพูดของเราไว้ในปากของเจ้า
    เราได้ซ่อนและปกป้องเจ้าไว้ใต้มือของเรา
เราคือผู้ที่กางท้องฟ้าออกและวางรากฐานของโลก
    เราพูดกับศิโยนว่า ‘เจ้าเป็นชนชาติของเรา’”

ถึงตาคนอื่นถูกลงโทษแล้ว

17 เยรูซาเล็มเอ๋ย ตื่นเถิด ตื่นเถิด ลุกขึ้นเถิด
    ตอนนั้นพระยาห์เวห์โกรธเจ้ามาก พระองค์ถึงได้ลงโทษเจ้า
เจ้าได้ดื่มจากถ้วยในมือของพระยาห์เวห์ เป็นถ้วยแห่งความโกรธแค้นของพระองค์
    เจ้าได้ดื่มเข้าไปจนหมดถ้วย ถ้วยที่ทำให้ผู้คนต้องเมาโซเซ
18 จากลูกมากมายที่เยรูซาเล็มคลอด
    ไม่เหลือซักคนที่นั่นที่จะนำทางเธอ
จากลูกมากมายที่เธอเลี้ยงจนเติบโตขึ้นมา
    ไม่เหลือซักคนที่นั่นที่จะจูงมือเธอ
19 มีสองสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับเจ้าคือแผ่นดินได้ถูกล้างผลาญและพินาศไป
    แล้วคนก็ตายจากกันดารอาหารและสงคราม
ไม่เหลือใครที่จะไว้ทุกข์ให้กับเจ้า
    ไม่เหลือใครที่จะปลอบโยนเจ้า
20 ลูกๆของเจ้าได้เป็นลมไป
    พวกเขาก็นอนอยู่ตามทุกหัวถนนเหมือนกับกวางที่ติดตาข่าย
ความโกรธแค้นของพระยาห์เวห์ตกบนพวกเขาอย่างเต็มที่
    พวกเขาได้ยินพระเจ้าของเจ้าตะคอกใส่พวกเขา
21 ดังนั้น ฟังสิ่งนี้ไว้ให้ดี เจ้าที่ทนทุกข์ทรมาน
    เจ้าที่เมา แต่ไม่ได้เมาด้วยเหล้าองุ่น
22 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตของเจ้า
    พระเจ้าของเจ้าที่ต่อสู้คดีให้กับคนของพระองค์
พูดว่าอย่างนี้ “เห็นไหม เราได้เอาถ้วยที่ทำให้ผู้คนเมาโซเซไปจากมือของเจ้าแล้ว
    เจ้าจะไม่ต้องดื่มจากชามแห่งความโกรธแค้นของเราอีกแล้ว[j]
23 เราจะเอาถ้วยนั้นไปใส่ไว้ในมือของคนพวกนั้นที่เคยทรมานเจ้า
    คนที่เคยสั่งเจ้าว่า ‘ก้มลงกับพื้น เราจะเหยียบเจ้าไป’
ในตอนนั้นเจ้าต้องยอมให้หลังของเจ้าเป็นเหมือนพื้น
    และเป็นเหมือนถนน ให้พวกเขาเดินเหยียบย่ำไป”

อิสราเอลจะรอด

52 ศิโยนเอ๋ย ตื่นเถิด ตื่นเถิด
    สวมพลังของเจ้าเถิด
เยรูซาเล็ม เมืองอันศักดิ์สิทธิ์เอ๋ย
    สวมใส่เสื้อผ้าที่สวยงามของเจ้าเถิด
    เพราะพวกคนต่างชาติที่ไม่ได้ทำพิธีขลิบและคนที่ไม่บริสุทธิ์จะไม่ได้เข้ามาในเจ้าอีกแล้ว
เยรูซาเล็ม ผู้เป็นเชลยเอ๋ย
    ปัดฝุ่นซะ ลุกขึ้นได้แล้ว
นางสาวศิโยน ผู้เป็นเชลยเอ๋ย
    ถอดพวกโซ่ที่ล่ามคอเจ้าออกได้แล้ว
เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด
    “เจ้าถูกขายไปแบบให้เปล่า
    และเจ้าก็จะได้รับการไถ่โดยไม่ต้องเสียเงินด้วยเหมือนกัน”

เพราะพระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต พูดไว้ว่าอย่างนี้ “ในตอนแรก คนของเราได้ลงไปที่อียิปต์ และไปอยู่เป็นคนต่างด้าวที่นั่น แล้วหลังจากนั้น ชาวอัสซีเรียก็ได้เอาพวกเขาไปเป็นทาสโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย” พระยาห์เวห์พูดว่า “แล้วตอนนี้ ดูสิว่าเราต้องเจอกับอะไร พวกเขาเอาคนของเราไปเปล่าๆ แล้วยังโอ้อวดหมิ่นประมาทชื่อของเราไปเรื่อยทั้งวัน”

แล้วเมื่อเรามาช่วยกู้คนของเรา พวกเขาจะได้สัมผัสกับฤทธิ์อำนาจอันโด่งดังของเรา ในตอนนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเป็นเราเองที่พูดว่า “เราอยู่นี่”

น่ายินดีขนาดไหน ที่จะได้เห็นเท้าของผู้ประกาศข่าวดีกำลังข้ามภูเขาทั้งหลายมา
    ผู้ที่มาประกาศสันติภาพ
ผู้ที่นำข่าวดีมา
    ผู้ที่มาประกาศชัยชนะ
    ผู้ที่มาบอกกับศิโยนว่า “พระเจ้าของท่านกำลังครอบครองอยู่”

ฟังให้ดี ทหารยามของท่านกำลังส่งเสียงร้อง
    พวกเขาโห่ร้องพร้อมกันด้วยความยินดี
เพราะพวกเขาได้เห็นกับตาตัวเองว่าพระยาห์เวห์กำลังกลับมาที่ศิโยน

พวกซากปรักหักพังของเยรูซาเล็มเอ๋ย
    ระเบิดเสียงเพลงแห่งความยินดีออกมาพร้อมกันเลย
เพราะพระยาห์เวห์ได้ปลอบโยนคนของพระองค์
    พระองค์ได้ไถ่เมืองเยรูซาเล็มแล้ว
10 พระยาห์เวห์ได้ถกเสื้อให้เห็นแขนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังของพระองค์ต่อหน้าต่อตาชนชาติทั้งหมด
    และทุกคนบนโลกนี้จะได้เห็นการช่วยกู้ที่มาจากพระเจ้าของเรา

11 ไปซะ ไปซะ ออกไปจากบาบิโลนซะ
    อย่าได้จับอะไรที่ไม่บริสุทธิ์
ออกไปจากท่ามกลางเธอซะ
    เจ้าที่ถือข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้ในวิหารของพระยาห์เวห์ ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์
12 แต่เจ้าจะไม่ต้องจากไปอย่างเร่งรีบ
    เจ้าจะไม่ต้องวิ่งหนีเหมือนกับพวกอพยพ
เพราะพระยาห์เวห์จะนำหน้าพวกเจ้าไป
    พระเจ้าของอิสราเอลจะคุ้มครองด้านหลังให้กับเจ้า

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International