Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Bible in 90 Days

An intensive Bible reading plan that walks through the entire Bible in 90 days.
Duration: 88 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เยเรมียาห์ 48 - บทเพลง​ร้องทุกข์ 1

สิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับโมอับ

48 เกี่ยวกับโมอับนั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอล พูดว่า

“เราเสียใจกับเนโบ
    เพราะเธอถูกทำลายย่อยยับ
คิริยาธาอิมต้องอับอายขายหน้าและถูกยึด
    ป้อมปราการที่แข็งแกร่งก็ต้องอับอาย
ชื่อเสียงของโมอับสูญสิ้นแล้ว
    ในเฮชโบน ประชาชนได้วางแผนทำร้ายมัน
โดยพูดว่า มาเถอะ มาทำลายชนชาตินี้กัน
เมืองมัดเมนเอ๋ย เจ้าจะต้องถูกทำให้เงียบ
    สงครามไล่ตามเจ้ามา
มีเสียงร้องให้ช่วยดังมาจากโฮโรนาอิม
    เกิดการทำลายล้างและความหายนะครั้งใหญ่ขึ้น
โมอับถูกตีแตกแล้ว
    ลูกเล็กๆของเธอร้องไห้กันใหญ่
คนโมอับเดินร้องไห้สะอึกสะอื้น
    ในระหว่างทางที่เดินขึ้นไปลูฮีท
ส่วนตอนที่เดินลงมาที่เมืองโฮโรนาอิม
    คนโมอับก็ได้ยินเสียงร้องระทมทุกข์
หนีไปซะ เอาชีวิตเจ้าให้รอด
    ถึงจะต้องอยู่โดดเดี่ยวเหมือนพุ่มไม้ในทะเลทราย

เพราะเจ้าไว้วางใจในผลงานและในทรัพย์สมบัติของเจ้า
    ดังนั้นเจ้าก็จะโดนจับ
ส่วนเทพเจ้าเคโมชก็จะถูกเนรเทศไป
    พร้อมกับพวกนักบวชและพวกเจ้าหน้าที่ของมัน
นักทำลายก็จะเข้ามาในทุกเมือง
    และจะไม่มีเมืองไหนเหลือรอด
เขตแดนต่างๆตามหุบเขาจะพินาศ
    และที่ราบจะถูกทำลาย
เหมือนกับที่พระยาห์เวห์ได้บอกไว้แล้ว
เอาเกลือโรยบนโมอับ
    เพราะว่าโมอับจะถูกทำลายอย่างป่นปี้แน่ๆ
และเมืองต่างๆของมันจะกลายเป็นที่รกร้าง
    ไม่มีใครอาศัยอยู่
10 ความหายนะจะเกิดกับคนที่ไม่เต็มใจทำงานที่พระยาห์เวห์สั่ง
    ความหายนะจะเกิดกับคนที่ยั้งดาบไม่ยอมฆ่าคน

11 โมอับอยู่อย่างสบายๆมาตั้งแต่เด็ก
    เหมือนเหล้าองุ่นเก่าที่ปล่อยให้ตกตะกอน
ไม่เคยเทจากขวดหนึ่งไปอีกขวดหนึ่ง
    เขาไม่เคยถูกเนรเทศ
ดังนั้นรสชาติของเขายังคงเดิม
    และกลิ่นของเขาก็ไม่เปลี่ยน”
12 พระยาห์เวห์พูดว่า “ดังนั้น วันนั้นใกล้มาถึงแล้วที่เราจะส่งคนมาเทขวดพวกนั้น
    พวกเขาจะเทเจ้าและขวดของเจ้า
พวกเขาจะเทจนหมดขวด
    และทุบขวดเหล่านั้นให้แตกละเอียด”

13 แล้วโมอับก็จะต้องอับอายขายหน้าเพราะเทพเจ้าเคโมช เหมือนกับที่คนอิสราเอลอับอายขายหน้าที่ได้ไว้วางใจเมืองเบธเอล[a]

14 “เจ้าพูดได้อย่างไรว่า ‘พวกเราเป็นนักรบ
    เป็นนักรบที่กล้าหาญ’
15 นักทำลายได้เข้าโจมตีโมอับและเมืองต่างๆของมันแล้ว
    ชายฉกรรจ์ที่ดีที่สุดของมันก็ถูกฆ่าตาย”
กษัตริย์พูดว่าอย่างนั้น
    และชื่อของพระองค์คือพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
16 “หายนะของโมอับกำลังจะมาถึงแล้ว
    และความเลวร้าย ก็เข้ามาอย่างเร่งด่วน
17 ร้องไห้โศกเศร้าให้กับเขาสิ
    พวกเจ้าที่อยู่รอบๆเขา
    พวกเจ้าที่รู้จักชื่อของเขา พูดสิว่า
‘คทาที่แข็งแกร่งแตกละเอียดอย่างนี้ได้ยังไง
    คทาที่มีเกียรติขนาดนี้แตกอย่างนี้ได้ยังไงกัน’

18 ชาวเมืองดีโบนเอ๋ย
    ลงมาจากที่สูงอันทรงเกียรติของเจ้าเถอะ
แล้วก็มานั่งกับพวกคนหิวกระหายบนพื้นดินนี้
    เพราะผู้ที่ทำลายโมอับบุกมาตีเจ้าแล้ว
ป้อมปราการอันแข็งแกร่งของเจ้าถูกทลายลงแล้ว

19 ชาวเมืองอาโรเออร์เอ๋ย
    ให้ยืนอยู่ข้างถนนแล้วคอยดู
ให้ถามผู้ชายที่กำลังวิ่งหนี
    และผู้หญิงที่กำลังหลบหนีว่าเกิดอะไรขึ้น

20 โมอับได้รับความอับอายขายหน้าเพราะว่ามันถูกทำลายแล้ว
    ร้องไห้สะอึกสะอื้นสิ
ป่าวร้องไปตามแม่น้ำอารโนนสิว่า
    โมอับถูกทำลายแล้ว
21 การพิพากษาได้มาถึงที่ราบโมอับ
    โฮโลน ยาซาห์ และเมฟาอัทแล้ว
22 มันได้มาถึงดีโบน
    เนโบ เบธดิบลาอิม
23 คิริยาธาอีม เบธกามุล เบธเมโอน
24 เคริโอท โบสราห์ และเมืองทั้งหมดในแผ่นดินโมอับ
    ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล
25 เขาของโมอับถูกตัดเสียแล้ว
    แขนของเขาก็หัก”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

26 มอมโมอับให้เมาสิ
    เพราะเขาคุยโวใหญ่โตทับถมพระยาห์เวห์
โมอับจะเกลือกกลิ้งอยู่ในอ้วกของตัวเอง
    และโมอับก็จะกลายเป็นที่น่าขัน

27 โมอับ เจ้าคิดว่าอิสราเอลน่าขันใช่ไหมล่ะ
    ถึงแม้ว่าอิสราเอลไม่เคยร่วมกับพวกขโมย
แต่เจ้าก็ยังพูดต่อว่าพวกเขา
    และส่ายหัวไปมา
28 ชาวเมืองโมอับ ทิ้งเมืองต่างๆไปซะ
    ไปอยู่ตามซอกหินเถอะ
เป็นเหมือนนกเขาที่ทำรังอยู่ตามซอกเหวลึก

29 พวกเราได้ยินเรื่องความเย่อหยิ่ง
    ถือตัวอย่างมากของโมอับแล้ว
จองหอง อวดดี
    ทะนงตัวและยโสโอหัง

30 พระยาห์เวห์พูดว่า
“เรารู้ถึงความหยิ่งยโสของโมอับ
    ถึงแม้เขาจะอวดอ้างไปวันๆ
    แต่เราบอกได้เลยว่าเขาจะไม่มีวันทำได้อย่างที่อวดอ้าง”
31 ดังนั้น เราจะร้องคร่ำครวญให้กับโมอับ
    เราจะร้องไห้อย่างทุกข์ทรมานให้โมอับ
    เราจะร้องคร่ำครวญให้กับชาวเมืองคีร์เฮเรส
32 เพราะยาเซอร์ร้องไห้ เราจึงจะร้องไห้ให้กับเจ้า
    เถาองุ่นแห่งสิมาห์
กิ่งก้านของเจ้างอกออกไปถึงทะเล
    พวกมันไปไกลถึงทะเลยาเซอร์ทีเดียว
แต่ผู้ทำลายได้มาเอาผลไม้และผลองุ่นของเจ้าหมดแล้ว
33 ความยินดีถูกกวาดทิ้งไปหมดแล้วจากสวนผลไม้ในแผ่นดินโมอับ
    เราทำให้เหล้าองุ่นหยุดไหลออกมาจากบ่อย่ำองุ่น
ไม่มีเสียงโห่ร้องของคนย่ำองุ่นอีกแล้ว
    เสียงโห่ร้องไม่ใช่โห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดีอีกแล้ว

34 ผู้คนร้องไห้ด้วยความทุกข์ทรมานตั้งแต่เมืองเฮชโบน เรื่อยไปจนถึงเมืองเอเลอาเลห์ ถึงเมืองยาฮาส เขาร้องจากโศอาร์ ถึงโฮโรนาอิม และเอกลัท-เชลีชิยาห์ เพราะแม้แต่แหล่งน้ำในนิมริมก็ยังถูกทำลาย 35 พระยาห์เวห์พูดว่า “แล้วเราจะนำจุดจบมาถึงโมอับที่มีการเผาเครื่องบูชาในที่สูง และเผาเครื่องหอมให้กับเทพเจ้าต่างๆของเขา 36 ดังนั้น ใจของเราร้องคร่ำครวญอย่างโศกเศร้าให้โมอับเหมือนกับเสียงขลุ่ยงานศพ ใจของเราร้องคร่ำครวญอย่างโศกเศร้าให้กับคนเมืองคีร์เฮเรสเหมือนกับเสียงขลุ่ยในงานศพ เพราะความมั่งคั่งของโมอับสูญสิ้นไปแล้ว 37 นั่นก็เพราะทุกหัวถูกโกน ทุกเคราถูกตัดออก ทุกๆแขนเต็มไปด้วยบาดแผล และทุกคนก็สวมผ้ากระสอบรอบเอว 38 บนดาดฟ้าของทุกบ้านในโมอับ และตามพวกลานเมือง มีแต่การร้องไห้ไว้ทุกข์ เพราะเราทำลายโมอับแล้ว เหมือนไหที่ไม่มีใครอยากได้” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น 39 “โมอับถูกทำลายอะไรอย่างนั้น ร้องไห้คร่ำครวญเถอะ โมอับหันหลังให้เราด้วยความอับอาย โมอับกลายเป็นเรื่องน่าตลกขบขัน และเรื่องที่น่าท้อใจสำหรับเมืองที่อยู่แถวๆนั้น”

40 พระยาห์เวห์พูดว่า
“ดูสิ ผู้ทำลายร่อนลงมาเหมือนนกอินทรี
    มันกางปีกบินเหนือโมอับ
41 เมืองคีริโอทถูกยึดครองและป้อมปราการต่างๆของมันก็โดนยึด
    และในวันนั้น หัวใจของนักรบชาวโมอับจะเหมือนหัวใจของหญิงที่กำลังคลอดลูก
42 ชาวโมอับจะถูกทำลายไม่เป็นชนชาติอีกต่อไป
    เพราะเขาได้คุยโวเบ่งทับพระยาห์เวห์

43 ความกลัว หลุมและบ่วงแร้วอยู่ต่อหน้าชาวโมอับ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
44 “คนที่วิ่งหนีไปจากความกลัวจะต้องหล่นลงไปในหลุม
    และคนที่ขึ้นจากหลุมก็จะถูกบ่วงแร้วครอบเอา
เพราะเราจะทำให้สิ่งนี้เกิดกับโมอับในปีที่พวกเขาถูกลงโทษ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้
45 “ในเงาของเฮชโบน
    ก็มีคนพวกนั้นที่ได้วิ่งหนีหมดเรี่ยวแรงมาอยู่
เพราะมีไฟพุ่งมาจากเฮชโบน
    และเปลวไฟได้พุ่งออกมาจากวังของสิโหน
มันจะเผาผลาญหน้าผากของโมอับ
    และหัวของคนเหล่านั้นที่กำลังอึกทึกครึกโครม
46 ความหายนะจะเกิดกับเจ้า โมอับ
    คนของเทพเจ้าเคโมช กำลังพินาศ
เพราะพวกลูกชายของเจ้ากำลังถูกจับไป
    และพวกลูกสาวของเจ้ากำลังถูกจับเป็นเชลย
47 แต่ต่อไปเราจะคืนสิ่งที่ถูกเอาไปจากโมอับ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
    การพิพากษาโมอับก็ได้จบลง

สิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับอัมโมน

49 เกี่ยวกับคนอัมโมน พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้

“คนอัมโมน เจ้าคิดว่าคนอิสราเอลไม่มีลูกชายหรือ
    เจ้าคิดว่าเขาไม่มีผู้รับมรดกหรือ
ถ้าอย่างนั้นทำไมเทพเจ้าโมเลคถึงอ้างว่าเป็นเจ้าของกาด[b] ล่ะ
    และทำไมคนของเขาถึงได้อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆของมันล่ะ”

พระยาห์เวห์พูดว่า
“วันเหล่านั้นใกล้จะมาถึงแล้ว
    คือวันที่เราจะทำให้เสียงแตรรบดังกึกก้อง
เพื่อทำศึกกับรับบาห์เมืองหลวงของอัมโมน
    มันจะกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
และหมู่บ้านรอบๆมันจะถูกเผา
    จากนั้นอิสราเอลก็จะครอบครองเขตแดนนั้น”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

เฮชโบน ร้องไห้สิ เพราะเมืองอัยถูกทำลายแล้ว
    ลูกสาวทั้งหลายของรับบาห์ ร้องขอความช่วยเหลือสิ
สวมใส่เสื้อผ้ากระสอบซะ
    ร้องไห้ และเร่ร่อนไปอย่างไม่มีจุดหมายในคอกแกะนั้น
เพราะพระโมเลคจะถูกเนรเทศไป
    พร้อมกับพวกนักบวชและพวกเจ้าหน้าที่ของมัน
ทำไมเธอถึงได้อวดถึงความแข็งแกร่ง
    ความแข็งแกร่งของเธอกำลังเสื่อมถอยไป
ลูกสาวที่ทรยศเอ๋ย เจ้าไว้วางใจในความร่ำรวยของเจ้า
    เจ้าพูดว่า “ใครจะมาโจมตีฉันล่ะ”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูดว่า
    “เรานี่แหละจะนำความหวาดกลัวมาให้เจ้าจากคนเหล่านั้นที่อยู่รอบๆเจ้า
พวกเจ้าทุกคนจะโดนขับไล่ออกไป
    และจะไม่มีการรวบรวมคนที่ระหกระเหินเข้าด้วยกัน

แล้วหลังจากนั้น เราจะคืนสิ่งที่คนอัมโมนถูกยึดไปกลับมาให้พวกเขา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

สิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับเอโดม

เกี่ยวกับเอโดม พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า

“ไม่มีความเฉลียวฉลาดหลงเหลืออยู่ในเทมานแล้วหรือ
    คนฉลาด ไม่มีปัญญาให้คำปรึกษาแล้วหรือ
    พวกเขาสูญเสียสติปัญญาไปหมดแล้วหรือ
คนที่อยู่ในเดดาน หนีไปซะ
    หันหลังกลับไปอยู่ให้ห่างไกล
เพราะเราจะนำหายนะมาสู่เอซาว
    ตอนที่เราลงโทษเขา

ถ้าคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า
    พวกเขาจะไม่เหลือองุ่นไว้บ้างเลยหรือ
ถ้าขโมยมาตอนกลางคืน
    พวกมันก็จะเอาเฉพาะสิ่งที่พวกมันอยากได้
10 เนื่องจากเราได้เปลื้องผ้าของเอซาว
    และเปิดเผยที่ซ่อนของเขา
    เขาก็เลยไม่สามารถซ่อนตัวได้อีกแล้ว
ลูกหลาน ครอบครัว และเพื่อนฝูงของเขาก็จะถูกทำลายไป
    ส่วนเขาก็จะไม่มีตัวตนอีกต่อไป
11 ทอดทิ้งเด็กกำพร้าของเจ้าซะ
    แล้วเราจะไว้ชีวิตพวกเขา
ทอดทิ้งพวกแม่ม่ายของเจ้าซะ
    พวกเขาถึงจะได้ไว้วางใจในเรา”

12 เพราะพระยาห์เวห์พูดว่า “บางคนดื่มถ้วยแห่งความโกรธของพระเจ้า ทั้งๆที่ยังไม่ได้ถูกตัดสินว่าบาป แต่เอโดม เจ้าดูเหมือนไร้เดียงสาแต่เจ้าไม่ไร้เดียงสา อย่างนั้นเจ้าก็เลยจะต้องดื่มจากถ้วยนั้นอย่างแน่นอน” 13 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราได้สาบานไว้กับตัวเองว่า เจ้าจะพินาศย่อยยับ กลายเป็นสิ่งที่คนหัวเราะเยาะ เป็นแผ่นดินที่ไม่มีประโยชน์ เป็นคำสาปแช่ง โบสราห์และเมืองต่างๆของมันจะกลายเป็นดินแดนที่ไม่มีประโยชน์ตลอดไป”

14 ผมได้ยินข่าวจากพระยาห์เวห์
    และผู้ส่งข่าวก็ถูกส่งไปตามชาติต่างๆ
พระองค์พูดว่า “ให้พวกเจ้ารวมตัวกันโจมตีเอโดม
    และลุกขึ้นมาทำสงคราม
15 เอโดม เราจะทำให้เจ้าเป็นชนชาติเล็กๆในบรรดาชาติต่างๆ
    ผู้คนจะดูถูกเจ้าไปทั่ว
16 เอโดม เจ้าทำให้คนอื่นเกรงกลัว
    เจ้าเลยหลงตัวเองนึกว่าแน่ เจ้ามันหยิ่งทะนง
เจ้าอาศัยอยู่ตามซอกหินผา
    เจ้าครอบครองเนินเขาสูง
ถึงเจ้าจะสร้างรังไว้สูงเหมือนนกอินทรี
    เราก็จะเอาเจ้าลงมาจากที่นั่น”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

17 “เอโดมจะกลายเป็นที่รกร้างน่ากลัว
    ทุกคนที่ผ่านมาจะตกตะลึง
    และทุกคนก็จะเย้ยหยันบาดแผลฟกช้ำของมัน
18 เหมือนกับที่ชาวเมืองโสโดม โกโมราห์และเมืองแถวๆนั้นถูกตีแตก
    ก็เลยไม่มีใครอยู่ที่นั่นและไม่มีมนุษย์ที่ไหนจะไปที่นั่น”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

19 เหมือนสิงโตที่ออกมาจากป่าของแม่น้ำจอร์แดน และเข้าไปที่ทุ่งหญ้าที่เขียวเสมอ อยู่ๆเราก็จะขับไล่ชาวเอโดมไปจากประเทศของมัน เราอยากแต่งตั้งใคร เราก็จะแต่งตั้งคนนั้นให้ครอบครองมัน เพราะจะมีใครเหมือนเราบ้าง ใครจะแต่งตั้งเราหรือ จะมีผู้เลี้ยงแกะ[c] คนไหนกล้ามายืนขวางหน้าเราหรือ

20 ดังนั้น ให้ฟังแผนการที่พระยาห์เวห์ได้วางไว้ต่อต้านเอโดม
    และแผนต่างๆที่พระองค์วางไว้เพื่อทำลายคนที่อยู่ในเทมาน
แน่นอน พวกฝูงสัตว์หนุ่มสาวจะถูกลากออกไป
    แน่นอน คอกแกะของพวกมันจะว่างเปล่า
21 เสียงล่มสลายของเอโดม ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน
    เสียงร้องของพวกเขาจะได้ยินไปไกลถึงทะเลแดง
22 ดูสิ พระองค์จะบินขึ้น และโฉบลงมาอย่างนกอินทรี
    และกางปีกเหนือโบสราห์
ในวันนั้นหัวใจของนักรบเอโดมจะเป็นเหมือนหัวใจของหญิงที่กำลังเจ็บท้องคลอดลูก

สิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับดามัสกัส

23 เกี่ยวกับเมืองดามัสกัส

“เมืองฮามัทและเมืองอารปัดต้องอับอายขายหน้า
    เพราะเมืองทั้งสองได้ยินข่าวร้าย
ทั้งสองกลัวจนตัวอ่อนปวกเปียก
    เหมือนทะเลอันปั่นป่วนที่ไม่สามารถทำให้สงบได้
24 เมืองดามัสกัสนั้นอ่อนแอ
    เธอหันหลังวิ่งหนีไปแล้ว
    เธอกลัวจนตัวสั่น
ความทุกข์ระทมและความเจ็บปวด
    ตกลงบนเธอเหมือนหญิงที่กำลังคลอดลูก

25 เมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังนี้
    ถูกทอดทิ้งอย่างสิ้นเชิง
26 แน่นอน คนที่เก่งกาจของเธอจะล้มตายในลานกลางเมือง
    และพวกทหารของเธอทุกคนจะพินาศ”
พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนั้น
27 “เราจะจุดไฟเผากำแพงเมืองดามัสกัส
    และเราจะเผาผลาญวังของเบนฮาดัด”

สิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับเผ่าเคดาร์และอาณาจักรฮาโซร์

28 เกี่ยวกับเผ่าเคดาร์และอาณาจักรฮาโซร์ ที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนโจมตี

พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า
“ลุกขึ้นมา บุกไปทำลายเคดาร์ซะ
    ทำลายพวกคนทางตะวันออก
29 ให้ยึดเต็นท์และฝูงสัตว์ของพวกมันมา
    รวมทั้งผ้าเต็นท์และข้าวของเครื่องใช้ด้วย
จูงอูฐพวกเขาออกไป
    และร้องบอกพวกเขาว่า ‘หันไปทางไหนก็มีแต่เรื่องน่าสยดสยอง’
30 หนีไปซะ หนีไปให้ไกลๆเลย
    ชาวเมืองฮาโซร์ ไปหลบซ่อนตัวซะ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
“เพราะกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน
    ได้ร่างแผนการและวางแผนจะโจมตีเจ้าแล้ว

31 ลุกขึ้น ไปบุกชาติที่สงบสุขกัน
    ชาติที่รู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
“ชาติที่ไม่มีประตูหรือสลักกลอนประตู
    และอยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง
32 ศัตรูจะลักขโมยอูฐของพวกเขาไป
    และยังปล้นฝูงสัตว์ที่ส่งเสียงดังของพวกเขาไปด้วย
เราจะกระจัดกระจายคนที่เข้าพิธีโกนจอน[d] ไปทั่วสารทิศ
    และเราจะนำความหายนะมาสู่พวกเขาจากทุกด้าน”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
33 “และเมืองฮาโซร์จะกลายเป็นถ้ำของพวกหมาไน
    กลายเป็นที่รกร้างตลอดไป
จะไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่น
    และจะไม่มีใครย้ายไปอยู่ที่นั่นเลย”

สิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับเมืองเอลาม

34 นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์ที่มีมาถึงเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า เกี่ยวกับเมืองเอลาม ในช่วงแรกที่กษัตริย์เศเดคียาห์ปกครองยูดาห์

35 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า
    “เราจะทำลายธนูของเอลาม
36 เราจะนำลมสี่สายจากทั้งสี่ทิศของท้องฟ้ามาทำลายเอลาม
    และจะทำให้คนเอลามกระจัดกระจายไปตามที่ลมสี่สายนี้พัดไป
และคนเอลามที่ถูกขับไล่ออกไปนี้จะไปอยู่ทั่วทุกชนชาติเลย
37 เราจะทำให้ชาวเอลามกระจุยกระจายไปต่อหน้าต่อตาศัตรูและคนที่อยากจะฆ่าพวกเขา
และเราจะนำความหายนะมาสู่พวกเขา
    เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราโกรธพวกเขาแค่ไหน”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
“และเราจะส่งดาบมาไล่ล่าพวกเขา
    จนกว่าเราจะกำจัดพวกเขาจนหมด
38 เราจะตั้งบัลลังก์ของเราในเอลาม
    และจะถอดถอนกษัตริย์และพวกเจ้านายออกไปจากที่นั่น”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
39 “แต่หลังจากนั้น เราจะพลิกสถานการณ์ให้เอลามกลับมาดีเหมือนเดิม”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

สิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับบาบิโลน

50 นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์พูดต่อต้านบาบิโลนและต่อต้านแผ่นดินของชาวบาบิโลน พระองค์พูดผ่านมาทางเยเรมียาห์ว่า

“ให้ประกาศเรื่องนี้กับชนชาติต่างๆ
    รายงานให้พวกเขาได้ยิน
ยกธงขึ้นมาและรายงานให้พวกเขาได้ยิน
    อย่าซ่อนเรื่องนี้ไว้ บอกไปเลยว่าบาบิโลนถูกยึดแล้ว
    พระเบลได้รับความอับอายขายหน้า
    พระมาดุกก็หวาดกลัว
รูปเคารพต่างๆของบาบิโลนก็ได้รับความอับอายขายหน้า
    พวกรูปปั้นต่างๆของบาบิโลนก็หวาดกลัว
เพราะชนชาติหนึ่งจากทางเหนือได้ยกทัพมาบุกบาบิโลนแล้ว
    ชนชาตินั้นวางแผนจะทำให้แผ่นดินของเธอรกร้าง
และจะได้ไม่มีใครอาศัยอยู่ในบาบิโลน
    ทั้งคนและสัตว์ก็หนีไปที่อื่นกันหมด”
พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นและเวลานั้น ลูกหลานของอิสราเอลจะมาที่นี่
    พวกเขาจะมาพร้อมกับลูกหลานของยูดาห์
พวกเขาจะมา และร้องไห้
    แล้วพวกเขาก็จะแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา
พวกเขาจะถามหาทางไปศิโยน
    โดยหันหน้าตรงไปทางนั้น
แต่พวกเขาจะมาและผูกมัดตัวเองกับพระยาห์เวห์
    ในข้อตกลงชั่วนิรันดร์ที่จะไม่มีวันถูกลืมเลย”

“คนของเรากลายเป็นแกะที่หลงทาง
    พวกคนเลี้ยงพวกมันทำให้มันระหกระเหินไป พวกผู้เลี้ยงแกะทำให้พวกมันกระจัดกระจายไปตามภูเขา
พวกมันเดินจากภูเขาไปถึงเนินเขา
    แล้วพวกมันก็ลืมทุ่งหญ้าอันเป็นที่พักพิงของพวกมัน
สัตว์อะไรที่เจอพวกมันเข้าก็กินพวกมัน
ศัตรูที่รังควานพวกมันก็พูดว่า
    ‘พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด’
อันที่จริงพวกเขาได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์
พระยาห์เวห์เป็นทุ่งหญ้าอันแท้จริงของพวกเขา
    พระยาห์เวห์เป็นความหวังของบรรพบุรุษของพวกเขา

หนีไปจากใจกลางเมืองบาบิโลนซะ
    หนีไปจากดินแดนของพวกบาบิโลน
    ออกไปแล้วทำตัวเป็นเหมือนแพะตัวผู้ที่เดินนำหน้าฝูง
เพราะเราจะปลุกเร้ากองทัพอันยิ่งใหญ่ของชนชาติต่างๆทางเหนือมารบกับบาบิโลน
    กองทัพเหล่านั้นจะยกขบวนมาบุกเธอ แล้วบาบิโลนจะถูกยึดที่นั่น
ลูกธนูของพวกเขาเป็นเหมือนนักรบที่เก่งกาจ
    พวกมันจะไม่กลับมามือเปล่า
10 ดังนั้นชาวบาบิโลนจะมีไว้สำหรับให้ปล้นสะดม
    ส่วนคนที่ปล้นเธอก็จะพออกพอใจ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

11 “บาบิโลน ถึงแม้พวกเจ้าจะเฉลิมฉลอง ถึงแม้เจ้าจะชื่นชมยินดี
    เพราะปล้นมรดกของเราไป
ถึงพวกเจ้าจะเต้นระบำเหมือนวัวกระทืบ
    และร้องเหมือนม้าหนุ่มที่แข็งแกร่ง
12 แม่ของเจ้าจะต้องอับอายอย่างมาก
    คนที่คลอดเจ้าออกมาจะต้องอัปยศอดสู
แน่ล่ะ หลังจากชนชาติต่างๆถอนตัวออกไปแล้ว
    ที่นี่ก็จะกลายเป็นป่ารกร้าง แผ่นดินแห้งแล้ง และเป็นทะเลทราย
13 พระยาห์เวห์โกรธ
    ก็เลยไม่มีใครมาอาศัยอยู่ที่นั่น
แต่เธอจะถูกทำลายล้างอย่างสิ้นซาก
    ทุกคนที่ผ่านมาทางบาบิโลนจะตกใจและจะผิวปากเย้ยหยันลอยฟกช้ำของเธอ

14 พวกเจ้าพลธนูเข้าประจำการล้อมรอบบาบิโลนไว้ทุกด้าน
    ยิงไปเลยไม่ต้องประหยัดลูกธนูเอาไว้
    เพราะเธอทำบาปต่อพระยาห์เวห์
15 ร้องตะโกนใส่เธอไปทุกด้าน
    เธอร้องขอความเมตตา
พวกเสาอันมั่นคงของเธอได้หักลงมา
    กำแพงของเธอถูกทำลายลงแล้ว
เพราะนี่เป็นการแก้แค้นของพระยาห์เวห์
    แก้แค้นเอากับเธอ
ให้ทำกับเธอเหมือนที่เธอได้ทำไว้กับคนอื่น
16 กำจัดคนเพาะปลูกและคนใช้เคียวเกี่ยวในช่วงเก็บเกี่ยวออกไปจากบาบิโลน
    ทุกคนจะหนีจากคมดาบของศัตรู
พวกเขาแต่ละคนจะหันหนีกลับไปหาคนของตัวเอง
    และพวกเขาแต่ละคนจะหนีกลับไปยังแผ่นดินของตัวเอง

17 อิสราเอลเป็นฝูงสัตว์ที่กระจัดกระจายไป
    พวกเขาถูกพวกสิงโตไล่กระเจิดกระเจิง
ตัวแรกที่กินอิสราเอลคือกษัตริย์อัสซีเรีย
    และตัวหลังที่กินกระดูกของเขาคือเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน
18 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูด
‘เรากำลังจะลงโทษกษัตริย์ของบาบิโลนและแผ่นดินของเขาเหมือนกับที่เราได้ลงโทษกษัตริย์ของอัสซีเรียไปแล้ว

19 เราจะนำอิสราเอลกลับมายังทุ่งหญ้าของเขา
แล้วเขาจะเล็มหญ้าบนภูเขาคารเมล และในบาชาน
    พวกเขาจะมีหญ้ากินเหลือเฟือ
    ตามแถบเนินเขาของเอฟราอิมและกิเลอาด’”
20 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นและเวลานั้น
    ผู้คนจะค้นหาความผิดบาปของอิสราเอลแต่ก็จะหาไม่พบ
และจะหาความบาปของยูดาห์แต่ก็จะหาไม่พบ
    เพราะเราจะยกโทษให้กับคนที่เราได้ไว้ชีวิต”

21 พระยาห์เวห์พูดว่า
“ให้บุกขึ้นไปทำลายแผ่นดินเมราธาอิมและชาวเมืองเปโขด
    ฆ่าพวกมันให้สิ้นซากอย่าให้เหลือ
    ให้ทำตามที่เราสั่งทุกอย่าง”

22 มีเสียงรบกึกก้อง
    และการทำลายล้างครั้งใหญ่ในแผ่นดิน
23 ค้อนของทั้งโลก
    ถูกตัดทิ้งและแตกหักไป
บาบิโลนกลายเป็นเมืองรกร้าง
    ท่ามกลางชนชาติอื่นๆ
24 บาบิโลน เราได้วางกับดักเจ้าไว้แล้วและเจ้าก็ติดกับ
    แถมเจ้ายังไม่รู้ตัวเสียอีก
เจ้าถูกค้นพบและถูกจับ
    เพราะเจ้าสู้รบกับพระยาห์เวห์
25 พระยาห์เวห์ได้เปิดคลังอาวุธแล้ว
    และพระองค์จะส่งอาวุธแห่งความเกรี้ยวกราดของพระองค์มา
เพราะนั่นคืองานขององค์เจ้าชีวิตพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    ในแผ่นดินของชาวบาบิโลน

26 เดินทางจากสุดแผ่นดินโลกไปที่บาบิโลนสิ
    เปิดยุ้งฉางของเธอเลย
กองเธอไว้เหมือนกองข้าว
    แล้วก็กำจัดเธอให้สิ้นซาก
อย่าให้มีส่วนไหนของเธอหลงเหลือเลย
27 ทำลายพวกวัวตัวผู้ของเธอให้หมด
    นำมันลงมาเพื่อฆ่า
เป็นช่วงเศร้าสำหรับพวกเขาเพราะวันของพวกเขามาถึงแล้ว
    เป็นเวลาที่พวกเขาจะต้องถูกลงโทษ
28 มีเสียงของคนวิ่งหนีไป เป็นเสียงของพวกบาบิโลนผู้รอดชีวิต
    จะมีการประกาศในศิโยน
เรื่องการแก้แค้นของพระยาห์เวห์
    เป็นการแก้แค้นของพระองค์สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับวิหารของพระองค์

29 “รวบรวมพลธนูไปบาบิโลน
    รวบรวมทุกคนที่ยิงธนูเป็นตั้งค่ายล้อมเธอไว้
อย่าให้มีใครหนีรอดออกมาได้แม้แต่คนเดียว
    ตอบแทนเธอให้สาสมกับการกระทำของเธอ
ทำกับเธอให้สาสมกับที่เธอทำกับคนอื่น
    เพราะเธอได้กบฏต่อพระยาห์เวห์
    กบฏต่อผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
30 ดังนั้น คนที่เก่งกาจทั้งหมดของเธอจะต้องตายอยู่ที่ลานกลางเมืองของเธอนั่นเอง
    และนักรบทุกคนของเธอก็จะถูกฆ่าในวันนั้น”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

31 “เราจะเป็นศัตรูกับเจ้า ไอ้พวกกบฏ”
องค์เจ้าชีวิตพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่าอย่างนั้น
    “เพราะว่าวันของเจ้ามาถึงแล้ว
    เวลาที่เราจะลงโทษเจ้ามาถึงแล้ว
32 ไอ้พวกกบฏจะสะดุดล้มลง
    จะไม่มีใครยกมันขึ้นมาอีก
เราจะจุดไฟเผาเมืองต่างๆของมัน
    แล้วไฟก็จะเผาผลาญพวกนั้นทั้งหมดที่อยู่รอบๆมันด้วย”

33 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า
“ทั้งลูกหลานของอิสราเอลและลูกหลานของยูดาห์ถูกกดขี่
    และพวกที่จับกุมพวกเขาทั้งหมดก็กักขังพวกเขาไว้ พวกมันไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป
34 แต่พระผู้ไถ่ของเขานั้นแข็งแกร่งกว่า
    พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นคือชื่อของพระองค์
พระองค์จะสู้คดีให้พวกเขาอย่างแน่นอน
    พระองค์จะทำให้แผ่นดินบาบิโลนสั่นสะเทือน
และทำให้ชาวบาบิโลนกลัวจนตัวสั่น”

35 พระยาห์เวห์พูดว่า
“มีดาบมาทำลายชาวบาบิโลน
    มีดาบมาทำลายคนที่อาศัยอยู่ในบาบิโลน พวกเจ้านาย และพวกคนฉลาดของเธอ
36 มีดาบมาทำลายพวกหมอดู
    พวกมันจะกลายเป็นไอ้โง่
มีดาบมาทำลายคนแข็งแกร่งของเธอ
    แล้วพวกเขาจะท้อแท้หมดกำลังใจ
37 มีดาบมาทำลายม้าและรถม้าของเธอ
    รวมทั้งกลุ่มต่างๆที่อาศัยอยู่ในบาบิโลน
    แล้วพวกเขาก็จะขี้กลัวเหมือนพวกผู้หญิง
มีดาบมาทำลายคลังทรัพย์สมบัติของเธอ
    แล้วพวกมันก็จะโดนปล้นไป
38 มีดาบมาทำลายแหล่งน้ำต่างๆของเธอ
    แล้วพวกมันก็จะแห้งขอดไป
สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพราะ
    บาบิโลนเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยรูปเคารพ
    ดังนั้นพวกมันจะถูกทำให้เป็นบ้าไปด้วยความน่าสยดสยอง
39 ดังนั้น สัตว์ร้ายต่างๆและพวกหมาไนจะมาอาศัยอยู่ที่นั่น
    นกเค้าแมวก็จะมาอาศัยอยู่
บาบิโลนจะไม่มีคนมาอาศัยอยู่อีกแล้วตลอดไป
    จะไม่มีคนอยู่ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน”
40 พระยาห์เวห์พูดว่า
“บาบิโลนก็จะเหมือนกับเมืองโสโดมและโกโมราห์ตอนที่พระยาห์เวห์ทำลายพวกมันและประชาชนของมัน
    และจะไม่มีมนุษย์คนไหนอพยพเข้าไปอยู่ด้วย

41 ดูสิ ชนกลุ่มหนึ่งกำลังบุกมาจากทางเหนือ
    ชนชาติที่ยิ่งใหญ่ และกษัตริย์ทั้งหลายกำลังถูกปลุกระดมจากแดนไกลสุดขอบโลก
42 พวกเขาจะถือธนูและหอกมา
    พวกเขาโหดเหี้ยมไร้ความเมตตาปรานี
เสียงพวกเขาดังกึกก้องเหมือนทะเล
    เมื่อพวกเขาควบม้ามา
ลูกสาวของบาบิโลน
    พวกเขาตั้งแถวเตรียมรบกับเจ้าแล้ว
43 กษัตริย์ของบาบิโลนได้ยินข่าวว่าพวกนั้นบุกใกล้เข้ามา
    มือไม้ของเขาก็เลยอ่อนปวกเปียก
เขาเจ็บปวดเหมือนหญิงที่กำลังคลอดลูก

44 เราจะเขย่าขวัญเขาเหมือนสิงโตที่ออกมาจากป่าของแม่น้ำจอร์แดน และเข้าไปที่ทุ่งหญ้าที่เขียวเสมอ อยู่ๆเราก็จะขับไล่พวกเขาไปจากเธอ เราอยากแต่งตั้งใคร เราก็จะแต่งตั้งคนนั้นให้ครอบครองเธอ เพราะจะมีใครเหมือนเราบ้าง ใครจะแต่งตั้งเราหรือ จะมีผู้เลี้ยง[e] คนไหนกล้ามายืนขวางหน้าเราหรือ[f] 45 ดังนั้น พวกเจ้า ให้ฟังแผนการของพระยาห์เวห์ที่ได้วางไว้เพื่อทำลายบาบิโลน และเป็นแผนที่พระองค์วางไว้ต่อต้านดินแดนของชาวบาบิโลน แน่นอน พวกศัตรูจะลากพวกแกะรวมทั้งพวกลูกแกะทั้งหลาย แน่นอน พระยาห์เวห์จะทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขา 46 เมื่อมีรายงานว่าบาบิโลนโดนยึดแล้ว แผ่นดินก็สั่นสะท้าน และชนชาติต่างๆก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความขมขื่น”

สิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับบาบิโลน

51 พระยาห์เวห์พูดว่า
“เรากำลังก่อลมแห่งการทำลายให้โหมกระหน่ำเข้าใส่บาบิโลนและคนที่อาศัยอยู่ในเลบคาเม[g]
เราจะส่งคนต่างชาติมาทำลายบาบิโลน
    แล้วพวกเขาจะทำให้เธอกระจุยกระจายไปตามลม
และทำให้แผ่นดินของเธอว่างเปล่า
    เพราะพวกเขาจะโจมตีเธอจากทุกทิศในวันแห่งความหายนะนั้น
อย่าให้พลธนูของบาบิโลนมีโอกาสได้ง้างคันธนู
    และอย่าให้เขามีโอกาสได้ใส่ชุดเกราะ
ไม่ต้องเหลือชายฉกรรจ์ที่เธอเลือกเอาไว้
    ทำลายกองทัพของเธอให้สิ้นซาก
พวกทหารที่บาดเจ็บจะล้มตายบนแผ่นดินบาบิโลน
    และคนที่ถูกแทงด้วยหอกก็จะล้มตายอยู่ตามท้องถนนของเธอ

พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ไม่ได้ทอดทิ้งอิสราเอลและยูดาห์
    แต่แผ่นดินของพวกเขาเต็มไปด้วยความผิด ต่อหน้าองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล

หนีไปจากบาบิโลนซะ
    พวกเจ้าแต่ละคนจะต้องหนีเอาชีวิตรอด
อย่าหุบปากเงียบเรื่องความชั่วร้ายของพวกเขา
    เพราะถึงเวลาที่พระยาห์เวห์จะล้างแค้นแล้ว
    พระองค์จะตอบแทนพวกเขาอย่างสาสม
บาบิโลนเป็นถ้วยทองในมือของพระยาห์เวห์
    บาบิโลนกำลังมอมทั้งแผ่นดินโลกให้เมามาย
ชนชาติต่างๆได้ดื่มเหล้าองุ่นจากเธอ
    ชนชาติเหล่านั้นก็เลยทำตัวเหมือนคนบ้า
บาบิโลนก็จะล้มลงในทันทีทันใดและเธอก็แตกสลาย
    ร้องคร่ำครวญให้กับเธอสิ
เอายาไปทาแผลให้เธอสิ
    เผื่อเธอจะหาย

พวกเราพยายามจะรักษาบาบิโลน
    แต่เธอไม่สามารถเยียวยารักษาได้
ทิ้งเธอไปเถอะ ให้พวกเราแต่ละคนกลับไปประเทศของเรา
    เพราะการลงโทษของเธอได้ขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์แล้ว และมันก็ถูกยกขึ้นสูงเทียมเมฆแล้ว
10 พระยาห์เวห์ได้พิสูจน์ให้คนเห็นว่าเราเป็นฝ่ายถูก
    มาสิ ให้เราประกาศในศิโยนถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราได้ทำ

11 ลับธนูของเจ้าให้คม
    สั่งสมอาวุธซะ
พระยาห์เวห์ได้ปลุกระดมกษัตริย์ทั้งหลายของมีเดียแล้ว
    เพราะพระองค์โกรธบาบิโลนและจะทำลายมัน
มันเป็นการแก้แค้นของพระยาห์เวห์
    เป็นการแก้แค้นให้กับวิหารของพระองค์
12 แขวนป้ายเตือนไว้บนกำแพงเมืองบาบิโลน
    เสริมกำลังทหารยาม
วางยามไว้ ตามจุดต่างๆ
    ตั้งทหารไว้ซุ่มโจมตี
เพราะพระยาห์เวห์ ได้วางแผนของพระองค์ไว้แล้ว
    และพระองค์จะทำสิ่งที่พระองค์บอกว่าจะทำกับชาวบาบิโลน
13 บาบิโลน เจ้าอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ
    กับสมบัติมากมาย จุดจบของเจ้ามาถึงแล้ว
    เส้นชีวิตของเจ้าถูกตัดเสียแล้ว”
14 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้สาบานกับพระองค์เองว่า
“บาบิโลน เราจะทำให้เจ้าเต็มไปด้วยศัตรู ให้พวกมันมีมากมายเหมือนฝูงตั๊กแตน
    แล้วพวกมันก็จะร้องเพลงแห่งชัยชนะที่มีต่อเจ้า
15 พระยาห์เวห์คือผู้ที่สร้างแผ่นดินโลกขึ้นมาด้วยพลังของพระองค์เอง
    เป็นผู้ที่ก่อตั้งโลกขึ้นมาด้วยสติปัญญาของพระองค์เอง
และได้ขยายฟ้าสวรรค์ให้แผ่ไพศาลด้วยความเข้าใจของพระองค์
16 ด้วยคำสั่งของพระองค์ก็เกิดเสียงน้ำดังขึ้นบนฟ้า
    แล้วเมฆหมอกก็ลอยขึ้นมาจากขอบโลก
พระองค์ได้สร้างสายฟ้าไว้ให้ฝน
    และสายลมก็พัดออกมาจากคลังของพระองค์
17 มนุษย์ทุกคนนั้นโง่และขาดความเข้าใจ
    ช่างแกะสลักทุกคนก็อับอายกับรูปเคารพที่สร้างขึ้นมา
เพราะรูปหล่อของพวกเขาเป็นของหลอกลวง
    และพวกมันก็ไม่มีลมหายใจ
18 พวกมันเป็นสิ่งเหลวไหล เป็นผลงานที่น่าหัวเราะเยาะ
    พวกมันจะถูกทำลายในเวลาพิพากษาลงโทษ
19 ส่วนแบ่งของยาโคบไม่ใช่แบบนี้
    เพราะพระองค์คือผู้สร้างทุกสิ่ง
รวมทั้งเผ่าที่เป็นมรดกของพระองค์
    ชื่อของพระองค์คือพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น”

20 พระยาห์เวห์พูดว่า
“บาบิโลน เจ้าเป็นกระบองของเรา เป็นอาวุธสงครามของเรา
เราใช้เจ้าทำลายชนชาติต่างๆกระจุยกระจาย
    เราใช้เจ้าทำลายอาณาจักรต่างๆ
21 เราใช้เจ้าทำลายม้ากับคนขี่
    และใช้เจ้าทำลายรถม้ากับคนขับ
22 เราใช้เจ้าทำลายผัวเมีย
    และใช้เจ้าทำลายทั้งคนแก่และคนหนุ่ม
    เราใช้เจ้าทำลายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว
23 เราใช้เจ้าทำลายผู้เลี้ยงแกะและฝูงแกะของเขา
    ใช้เจ้าทำลายชาวนาและวัวคู่เทียมแอกของเขา
    และใช้เจ้าทำลายพวกผู้ปกครองและพวกเจ้าเมือง
24 แล้วเราจะล้างแค้นเมืองบาบิโลนและชาวบาบิโลน
    สำหรับสิ่งชั่วช้าทั้งหลายที่เจ้าเห็นพวกมันทำไว้กับศิโยน”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

25 พระยาห์เวห์พูดว่า
“เราจะต่อต้านเจ้า ไอ้ภูเขาแห่งความหายนะ
    เจ้าที่เป็นนักทำลายโลกทั้งใบ
เราจะยื่นมือออกไปทำลายเจ้า
    เราจะกลิ้งเจ้าให้ตกลงมาจากหน้าผาสูง
    และเราจะทำให้เจ้ากลายเป็นภูเขาที่โดนเผา
26 ไม่มีใครสามารถจะเอาหินหัวมุม
    หรือหินฐานรากจากซากปรักหักพังของเจ้าได้อีกแล้ว
เพราะเจ้าจะถูกทำลายย่อยยับตลอดไป”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

27 “ให้ยกธงรบขึ้นในแผ่นดินนี้
    เป่าแตรไปตามชนชาติต่างๆ
เตรียมชนชาติต่างๆเพื่อทำสงครามกับบาบิโลน
    เรียกอาณาจักรต่างๆมาต่อสู้กับเธอ
    เรียกอารารัต มินนี และอัชเคนัสมา
แต่งตั้งแม่ทัพเหนือเธอ
    ส่งม้าไปเหมือนฝูงตั๊กแตนบุก
28 เตรียมชนชาติทั้งหลายไปสู้กับบาบิโลน
    เตรียมกษัตริย์ทั้งหลายแห่งมีเดีย
พวกผู้ปกครองและพวกเจ้าเมืองของมีเดีย
    รวมทั้งแผ่นดินทั้งหมดที่เขาปกครองให้มาต่อสู้กับบาบิโลน
29 แผ่นดินสั่นสะเทือนและชักดิ้นชักงอ
    เพราะพระยาห์เวห์กำลังวางแผนทำลายบาบิโลน
เพื่อเปลี่ยนแผ่นดินบาบิโลน
    ให้กลายเป็นที่รกร้างที่ไม่มีคนอาศัยอยู่
30 นักรบของบาบิโลนหยุดสู้รบแล้ว
    พวกเขายังคงอยู่ในป้อมปราการ
พวกเขาหมดเรี่ยวแรง
    เหมือนผู้หญิง
พวกตึกในบาบิโลนถูกเผา
    กลอนประตูเมืองของเธอหักหมด
31 คนวิ่งร้องส่งข่าวคนแล้วคนเล่า
    คนร้องประกาศข่าวคนแล้วคนเล่า
พวกเขาวิ่งไปส่งข่าวให้กษัตริย์บาบิโลนรู้ว่า เมืองของพระองค์ถูกยึดแล้ว
32 ทางข้ามแม่น้ำถูกยึดแล้ว
    แหล่งน้ำต่างๆถูกไฟเผา
    และทหารก็ขวัญหนีดีฝ่อ”

33 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดว่า
“ลูกสาวของบาบิโลนเป็นเหมือนลานนวดข้าวในช่วงที่คนเหยียบย่ำข้าวอยู่
    อีกไม่นานก็จะถึงเวลาเก็บเกี่ยว”

34 เยรูซาเล็มพูดว่า “กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน
    กลืนกินข้าและบดขยี้ข้า
เขาเทข้าออกหมดเหมือนเทหม้อ
    เขากลืนกินข้าเหมือนมังกร
เขาเติมท้องตัวเองด้วยอาหารเลิศหรูของข้า
    แล้วเขาก็ถุยข้าทิ้ง”
35 ให้ศิโยนพูดว่า “ขอให้ความโหดร้ายที่บาบิโลนทำกับข้า
    และครอบครัวของข้าสนองมันเอง”
ให้เยรูซาเล็มพูดกันว่า “ขอให้ไอ้พวกบาบิโลนนั้นถูกลงโทษที่ทำให้ข้าเลือดสาด”
36 ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงพูดว่า
“ยูดาห์ เราจะแก้คดีให้กับเจ้า
    และจะแก้แค้นบาบิโลน
เราจะทำให้ทะเลของบาบิโลนเหือดแห้ง
    และจะทำให้บ่อน้ำของมันแห้งขอด
37 แล้วบาบิโลนก็จะกลายเป็นซากหิน
    เป็นที่อาศัยของหมาไน เป็นที่รกร้าง
และเป็นที่คนหัวเราะเยาะ
    ไม่มีคนอาศัยอยู่

38 ชาวบาบิโลนพากันคำรามเหมือนสิงโต
    พวกเขาคำรามเหมือนลูกสิงโต
39 เมื่อพวกเขาถูกยั่วให้โกรธ เราจะเตรียมงานเลี้ยงให้พวกเขา
    และจะมอมพวกเขาให้เมา พวกเขาจะหัวเราะอย่างขาดสติ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะหลับ หลับไปตลอดกาล และจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกเลย”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

40 “เราจะนำบาบิโลนลงมาเหมือนลูกแกะที่นำไปฆ่า
    เหมือนแกะตัวผู้และแพะที่เอาไปฆ่า

41 เชชัค[h] ถูกยึดแล้ว
    เมืองที่คนทั้งโลกเคยสรรเสริญถูกยึดไปแล้ว
ไม่น่าเชื่อ บาบิโลนกลายเป็นสิ่งน่าสยดสยอง
    ท่ามกลางชนชาติต่างๆไปแล้ว
42 ทะเลโถมเข้าท่วมบาบิโลน
    คลื่นยักษ์ที่เสียงกึกก้องซัดท่วมเธอ
43 เมืองต่างๆของเธอกลายเป็นที่รกร้างแห้งแล้ง
    ไม่มีใครอาศัยอยู่และไม่มีใครเดินผ่านไป
44 เราจะทำโทษพระเบลในบาบิโลน
    และล้วงสิ่งที่เธอกลืนลงไปออกมาจากปากของเธอ
ชนชาติต่างๆจะไม่หลั่งไหลไปหามันอีกต่อไป
    และกำแพงบาบิโลนจะพังทลาย
45 คนของเรา ออกมาจากเธอซะ
    พวกเจ้าแต่ละคนจะต้องหนีเอาชีวิตรอด
    จากไฟโกรธของพระยาห์เวห์

46 อย่าได้ท้อแท้
    อย่ากลัวข่าวลือที่ได้ยินในแผ่นดินนี้
ปีนี้ก็ข่าวลือหนึ่ง
    ปีหน้าก็อีกข่าวลือหนึ่ง
แล้วจะมีข่าวลือต่างๆเรื่องความรุนแรงในแผ่นดิน
    และข่าวลือต่างๆเรื่องผู้ครอบครองสู้กันเอง
47 ให้แน่ใจได้เลยว่า วันนั้นกำลังมา
    ที่เราจะลงโทษพวกรูปเคารพทั้งหลายของบาบิโลน
แผ่นดินทั้งหมดของเธอจะต้องอับอาย
    คนของเธอที่ถูกแทงจะล้มตายทั่วเมืองเธอ
48 แล้วฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก และทุกสิ่งที่มีชีวิตในมัน ก็จะตะโกนร้องเพลงด้วยความชื่นชมยินดีที่บาบิโลนพินาศ
    เพราะพวกผู้ทำลายจากทางเหนือกำลังจะมาเพื่อทำลายเธอ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

49 พระยาห์เวห์พูดว่า
“บาบิโลนทำให้คนอิสราเอลล้มตาย บาบิโลนทำให้คนทั่วโลกล้มตาย
    ดังนั้นบาบิโลนก็จะต้องล้มตายด้วย
50 พวกเจ้าที่หนีจากสงคราม
    มานี่ อย่าได้ยืนอยู่เฉยๆ
ให้ระลึกถึงพระยาห์เวห์จากที่ไกล
    และให้คิดถึงเยรูซาเล็มอย่างใจจดใจจ่อ”

51 พวกคนที่ถูกเนรเทศพูดว่า “เราอับอายเหลือเกิน
    เพราะว่าเราโดนดูถูกเหยียดหยาม
อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว
    เพราะคนต่างชาติบุกเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นวิหารของพระยาห์เวห์”

52 พระยาห์เวห์พูดว่า
“ดังนั้น วันนั้นใกล้มาถึงแล้ว
    คือวันที่เราจะลงโทษพวกรูปเคารพของบาบิโลน
    และคนบาดเจ็บทั่วแผ่นดินบาบิโลนจะร้องโหยหวน
53 ถึงแม้บาบิโลนจะสูงเทียมฟ้า
    และสร้างป้อมปราการอันแข็งแกร่ง เราก็จะส่งผู้ทำลายไปหาเธอ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

54 “เสียงร้องไห้ดังมาจากบาบิโลน
    เสียงพังพินาศมาจากแผ่นดินชาวบาบิโลน
55 เพราะพระยาห์เวห์กำลังทำลายบาบิโลน
    และพระองค์จะทำลายเสียงอันทรงพลังของเธอ
ศัตรูที่ไหลบ่าเข้ามาจะเสียงดังเหมือนกับเสียงน้ำหลาก
    พวกเขาจะโห่ร้องตะโกนกัน
56 เพราะศัตรูกำลังมาสู้กับบาบิโลน
    ผู้ทำลายกำลังมาต่อสู้กับเธอ
พวกนักรบของเธอจะถูกจับ
    และธนูของพวกเขาจะถูกหัก
เพราะพระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าที่จะตอบแทนให้อย่างสาสม
    พระองค์จะแก้แค้นคืนแน่ๆ
57 เราจะมอมพวกเจ้านาย พวกผู้รู้
    พวกเจ้าเมือง และพวกผู้ปกครองเมือง
และพวกนักรบของบาบิโลน ให้เมามาย
    พวกเขาจะหลับตลอดไปและจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย”
องค์กษัตริย์พูดว่าอย่างนั้น
    ชื่อของพระองค์คือพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น

58 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า
“กำแพงต่างๆของเมืองบาบิโลนนั้นกว้างใหญ่
    แต่ก็จะถูกทำลายอย่างราบคาบ
และประตูสูงๆของเธอก็จะถูกไฟเผา
    ผู้คนทำงานหนักแต่ไม่ได้อะไรจากมัน
    ทุกสิ่งที่พวกเขาได้มาจากงานของเขา จะถูกเผา”

เยเรมียาห์ส่งข่าวสารไปบาบิโลน

59 เมื่อกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์เดินทางไปบาบิโลน ซึ่งเป็นปีที่สี่ที่พระองค์ปกครองยูดาห์ เยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าก็ได้สั่งบางอย่างกับเสไรอาห์ลูกชายของเนริยาห์ ลูกชายของมาอาเสอาห์ เสไรอาห์เป็นเจ้าหน้าที่ส่งส่วยให้กับบาบิโลน 60 เยเรมียาห์ได้เขียนเกี่ยวกับหายนะทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นกับบาบิโลนลงในหนังสือม้วนหนึ่ง เยเรมียาห์ได้เขียนถ้อยคำเหล่านี้ทั้งหมด ที่เป็นเรื่องต่อต้านบาบิโลน

61 แล้วเยเรมียาห์ก็พูดกับเสไรอาห์ว่า “เมื่อท่านไปถึงบาบิโลน ท่านก็จะเห็นเอง แล้วท่านจะต้องประกาศถ้อยคำเหล่านี้ทั้งหมดให้คนบาบิโลนฟัง 62 ท่านต้องพูดว่า ‘พระยาห์เวห์เจ้าข้า พระองค์ได้พูดไว้ว่า พระองค์จะทำลายสถานที่นี้ จะไม่มีใครอาศัยอยู่เลย ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ เพราะมันจะถูกทำลายย่อยยับตลอดกาล’ 63 แล้วเมื่อท่านอ่านหนังสือม้วนนี้จบแล้ว ก็มัดมันไว้กับก้อนหิน แล้วก็ขว้างมันลงไปกลางแม่น้ำยูเฟรติส 64 จากนั้นให้ท่านพูดว่า ‘บาบิโลนก็จะจมลงไปเหมือนอย่างนี้แหละ และเธอจะไม่สามารถโงหัวขึ้นมาจากความทุกข์ทรมานที่เรากำลังจะนำไปให้เธอได้เลย แล้วพวกเขาก็จะหมดแรง’”

คำพูดของเยเรมียาห์ก็จบลงแค่นี้

เยรูซาเล็มแตกและชาวเยรูซาเล็มถูกจับไปเป็นเชลย

(2 พกษ. 24:18-25:30; 2 พศด. 36:11-20; ยรม. 39:1-10)

52 เศเดคียาห์มีอายุยี่สิบเอ็ดปีตอนที่ขึ้นเป็นกษัตริย์ แล้วพระองค์ก็ครองบัลลังก์อยู่สิบเอ็ดปี แม่ของพระองค์ชื่อฮามุทาล เป็นลูกสาวของเยเรมียาห์ผู้มาจากลิบนาห์ พระองค์ทำสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าชั่วร้ายเหมือนกับที่เยโฮยาคิมเคยทำ ดังนั้น พระยาห์เวห์โกรธเยรูซาเล็มและยูดาห์มากจนถึงกับไล่พวกเขาไปจากพระองค์ เศเดคียาห์กบฏต่อกษัตริย์บาบิโลน ในวันที่สิบ เดือนสิบ ปีที่เก้าที่เศเดคียาห์เป็นกษัตริย์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน และกองทัพทั้งหมดของพระองค์ก็ยกมาที่เยรูซาเล็มและตั้งค่ายรอบเมือง และสร้างอุปกรณ์โจมตีทั้งหลายไว้รอบกำแพงเมือง

พวกนั้นโจมตีป้อมปราการครั้งแล้วครั้งเล่า จนถึงปีที่สิบเอ็ดของกษัตริย์เศเดคียาห์ ในวันที่เก้า เดือนสี่ ความอดอยากในเมืองนั้นก็แสนสาหัสนัก จนไม่มีอาหารให้ประชาชนกินกัน แล้วศัตรูก็ทลายกำแพงเข้ามาในเมือง ทหารทั้งหมดก็วิ่งหนี พวกเขาหนีออกนอกเมืองตอนกลางคืนไปตามถนน ผ่านทางประตูที่อยู่ระหว่างกำแพงสองชั้น ใกล้ๆสวนของกษัตริย์ ในขณะที่พวกบาบิโลนล้อมเมืองไว้ และพวกเขาก็หนีไปตามถนนที่ไปยังทะเลทรายอารบา

ทหารบาบิโลนก็ไล่ตามกษัตริย์เศเดคียาห์ไป แล้วก็จับพระองค์ได้ในที่ราบของเยริโค แล้วทหารของเขาต่างพากันหนีกระเจิดกระเจิงไป พวกเขาจึงจับกุมกษัตริย์ไว้ และนำตัวไปให้กษัตริย์บาบิโลนที่ริบลาห์ในเขตฮามัท แล้วกษัตริย์บาบิโลนก็ตัดสินโทษพระองค์ 10 กษัตริย์บาบิโลนฆ่าบรรดาลูกชายของเศเดคียาห์ต่อหน้าพระองค์ แล้วก็ฆ่าเจ้านายทั้งหมดของยูดาห์ที่ริบลาห์ด้วย 11 พระองค์ได้ควักดวงตาทั้งสองข้างของกษัตริย์เศเดคียาห์ และเอาโซ่ทองสัมฤทธิ์มาล่ามพระองค์ไว้ กษัตริย์บาบิโลนเอาเศเดคียาห์ไปบาบิโลน แล้วขังพระองค์ไว้ในคุกจนตาย

คนยูดาห์ตกเป็นเชลย

12 ในวันที่สิบเดือนที่ห้า ปีที่สิบเก้าที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ปกครองบาบิโลน เนบูซาระดานหัวหน้าทหารองครักษ์ เจ้าหน้าที่ของกษัตริย์ ได้เข้าไปที่เยรูซาเล็ม 13 เขาได้เผาวิหารของพระยาห์เวห์ วังของกษัตริย์ และบ้านเรือนทั้งหมดในเยรูซาเล็ม เขาเผาบ้านที่ใหญ่โตทุกหลัง

14 แล้วกองทัพบาบิโลนทั้งสิ้นที่มากับหัวหน้าองครักษ์ ก็ทลายกำแพงทั้งหมดที่อยู่ล้อมรอบเมืองเยรูซาเล็มลง 15 แล้วเนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ ได้กวาดต้อน คนจนบางคน คนที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมือง และคนที่ก่อนหน้านี้ได้ไปมอบตัวกับชาวบาบิโลนแล้ว และพวกช่างฝีมือที่เหลือ ไปบาบิโลนจนหมด 16 แต่เนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ ได้ทิ้งคนจนบางคนไว้ในแผ่นดิน เพื่อดูแลไร่องุ่นและทุ่งนา

17 เสาทองสัมฤทธิ์ที่อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ รวมทั้งแท่นบูชาเคลื่อนที่ และขันทะเลทองสัมฤทธิ์ที่อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ พวกทหารบาบิโลนก็ทุบเป็นชิ้นๆแล้วขนเอาทองสัมฤทธิ์ทั้งหมดกลับไปที่บาบิโลน 18 แล้วพวกบาบิโลนก็ขนเอา พวกหม้อ พลั่ว กรรไกรตัดไส้ตะเกียง พวกชามประพรม ชามเครื่องหอม และเครื่องใช้ทองสัมฤทธิ์ที่ใช้ในวิหารไปด้วย

19 รวมทั้งชามเล็ก พวกกระถางใส่ขี้เถ้า และพวกชามสำหรับประพรม พวกหม้อ ที่ตั้งตะเกียง และชามสำหรับเครื่องหอม ขันเครื่องดื่มบูชา หัวหน้าองครักษ์เอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำจากทองและทำจากเงิน เพราะอยากได้ทองและเงินนั้น

20 ส่วนทองสัมฤทธิ์ที่ได้จากเสาสองต้น ขันทะเล วัวทองสัมฤทธิ์สิบสองตัวที่เป็นฐานรองอยู่ใต้ขันทะเล และพวกแท่นบูชาเคลื่อนที่ ที่กษัตริย์ซาโลมอนได้สร้างไว้สำหรับวิหารของพระยาห์เวห์นั้น หนักเกินกว่าที่จะชั่งได้

21 ส่วนพวกเสานั้น เสาต้นหนึ่งสูงสิบแปดศอก วัดโดยรอบได้สิบสองศอก หนาหนึ่งฝ่ามือ และตรงกลางกลวง 22 หัวของเสาทำจากทองสัมฤทธิ์ สูงห้าศอก มีลายตาข่าย มีผลทับทิมล้อมอยู่รอบหัวเสานั้น ทั้งหมดทำจากทองสัมฤทธิ์ เสาต้นที่สองและผลทับทิมก็สร้างแบบเดียวกัน 23 ในแต่ละด้านมีผลทับทิมฝังอยู่เก้าสิบหกลูก และมีผลทับทิมร้อยลูกล้อมรอบตาข่ายแต่ละอัน

24 จากวิหาร หัวหน้าองครักษ์ ได้จับตัวเสไรอาห์หัวหน้านักบวช เศฟันยาห์ รองหัวหน้านักบวช และผู้ดูแลประตูวิหารสามคนไป 25 จากเมือง หัวหน้าองครักษ์ได้จับแม่ทัพคนหนึ่งที่เคยดูแลทหาร พร้อมกับที่ปรึกษาเจ็ดคนของกษัตริย์ที่เขาเจอในเมือง และเลขาที่เป็นแม่ทัพที่เป็นคนเกณฑ์ทหาร และชาวบ้านหกสิบคนที่พบอยู่ที่กลางเมือง

26 เนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ ได้ส่งคนพวกนี้ทั้งหมดไปให้กษัตริย์แห่งบาบิโลนที่ริบลาห์ 27 กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้แทงพวกเขาตายในริบลาห์ในเขตฮามัท ชาวยูดาห์ก็เลยถูกกวาดต้อนไปจากแผ่นดินของตน

28 นี่คือจำนวนคนที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้กวาดต้อนไป ในปีที่เจ็ดของการปกครองของพระองค์ พระองค์ได้กวาดต้อนพลเมืองยูดาห์ไปสามพันยี่สิบสามคน 29 ในปีที่สิบแปด พระองค์ได้กวาดต้อนคนไปจากเยรูซาเล็มแปดร้อยสามสิบสองคน 30 ในปีที่ยี่สิบสามแห่งรัชกาลของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ เนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์กวาดต้อนพลเมืองยูดาห์ไปเจ็ดร้อยสี่สิบห้าคน รวมคนที่ถูกกวาดต้อนไปทั้งหมดได้สี่พันหกร้อยคน

เยโฮยาคีนได้รับเกียรติในบาบิโลน

(2 พกษ. 25:27-30)

31 ในวันที่ยี่สิบห้า เดือนสิบสอง ปีที่สามสิบเจ็ดที่กษัตริย์เยโฮยาคีนแห่งยูดาห์เป็นเชลยนั้น ในปีที่เอวิลเมโรดักเป็นกษัตริย์แห่งบาบิโลน พระองค์ได้ยกฐานะของกษัตริย์เยโฮยาคีนขึ้นมา แล้วกษัตริย์เอวิลเมโรดักได้นำตัวกษัตริย์เยโฮยาคีนออกมาจากคุก

32 กษัตริย์เอวิลเมโรดักพูดกับกษัตริย์เยโฮยาคีนอย่างสุภาพ และให้พระองค์นั่งในที่สำคัญกว่ากษัตริย์องค์อื่นๆที่อยู่กับพระองค์ในบาบิโลน

33 กษัตริย์เยโฮยาคีนได้ถอดชุดนักโทษของพระองค์ แล้วได้กินอาหารร่วมกับกษัตริย์เอวิลเมโรดักทุกวันตลอดชีวิต

34 กษัตริย์เยโฮยาคีนก็ได้รับส่วนแบ่งจากกษัตริย์บาบิโลนทุกๆวันตามความจำเป็น ตลอดชีวิตจนถึงวันตายของพระองค์

เยรูซาเล็มเศร้าโศกที่ถูกทำลาย

แย่แล้ว แย่แล้ว
เยรูซาเล็ม ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน
    แต่ตอนนี้ถูกทอดทิ้งให้เดียวดาย
ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ท่ามกลางชนชาติต่างๆ
    แต่ตอนนี้ เธอเป็นเหมือนแม่ม่าย
เธอเคยเป็นเจ้าหญิงที่สูงศักดิ์ท่ามกลางจังหวัดทั้งหลาย
    แต่ตอนนี้ เธอกลับกลายเป็นทาส
เธอร้องไห้คร่ำครวญอย่างขมขื่นในยามค่ำคืน
    และน้ำตาอาบแก้ม
ไม่มีใครปลอบโยนเธอเลย
    ในท่ามกลางคนเหล่านั้นที่รักเธอ
เพื่อนๆของเธอต่างก็พากันทรยศเธอ
    พวกเขาได้กลายเป็นศัตรูของเธอ
ยูดาห์ทนทุกข์เวทนาและถูกกดขี่ข่มเหงอย่างหนัก
    และถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย
เธออาศัยอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆ
    แต่ก็ไม่มีความสงบสุขหรือความมั่นคงเลย
คนพวกนั้นที่ไล่ล่าเธอก็ตามเธอทัน
    พวกเขาตามเธอมาทันตรงทางแคบ
ถนนต่างๆที่มุ่งหน้าไปศิโยน ต่างร้องไห้คร่ำครวญ
    เพราะไม่มีใครเดินทางมาร่วมงานเทศกาล
ประตูทั้งหมดของศิโยน ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า
    พวกนักบวชของเธอครวญคราง
นางสาวทั้งหลายของศิโยนต่างก็เศร้าโศกเสียใจ
    ตัวศิโยนเองรู้สึกขมขื่นยิ่งนักกับเรื่องทั้งหมดนี้
พวกศัตรูของเยรูซาเล็มได้กลายเป็นพวกเจ้านายของเธอ
    ศัตรูของเธอก็ได้พักผ่อนอย่างสบายใจ
ที่เป็นอย่างนี้ ก็เพราะ พระยาห์เวห์ได้ทำให้เยรูซาเล็มต้องทนทุกข์ทรมาน
    เพราะเธอฝ่าฝืนกฎอย่างมากมาย
ลูกเล็กทั้งหลายของเธอได้จากไป
    ศัตรูของเธอได้จับพวกเขาไป
สง่าราศีทั้งหมดของนางสาวศิโยนหมดไปแล้ว
พวกผู้สูงศักดิ์ของเธอก็เป็นเหมือนกวางที่หาทุ่งหญ้าไม่เจอ
ดังนั้นพวกเขาต้องเดินต่อไปอย่างหมดเรี่ยวแรงต่อหน้านักล่าสัตว์
ในช่วงเวลาที่เยรูซาเล็มตกทุกข์ได้ยาก
    เธอได้ระลึกถึงของมีค่าทั้งหลายที่เธอเคยมีในอดีต
เมื่อคนของเธอตกไปอยู่ในกำมือศัตรู
    และไม่มีใครช่วยเธอ
พวกศัตรูของเธอก็มองเธอ
    และหัวเราะเยาะที่เธอล่มสลาย
เยรูซาเล็ม ได้ทำบาปอันยิ่งใหญ่
    ดังนั้นเธอจึงกลายเป็นของที่น่ารังเกียจ
คนเหล่านั้นที่เคยให้เกียรติกับเธอ
    เดี๋ยวนี้กลับดูหมิ่นเธอเพราะพวกเขาได้เห็นเธอเปลือยเปล่า
เธอร้องครวญคราง
    และหันจากไปด้วยความอับอายขายหน้า
ความไม่บริสุทธิ์ของเธอติดอยู่ที่ชุดของเธอ
    เธอไม่ได้คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
ความล่มสลายของเธอเกิดขึ้นอย่างน่าใจหาย
    และไม่มีใครปลอบโยนเธอ
เธอร้องออกมาว่า “พระยาห์เวห์ ดูความทุกข์ของฉันสิ
    ดูสิ ว่าศัตรูของฉันคุยทับฉันขนาดไหน”

10 ศัตรูของเธอได้ยื่นมือออกมาคว้าสิ่งที่มีค่าทั้งหมดของเธอไป
    ใช่แล้ว เธอได้เห็นชนชาติอื่นๆบุกเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเธอ
ชนชาติเหล่านี้ เป็นชนชาติที่พระองค์ได้สั่งไว้ว่า
    “ห้ามไม่ให้คนพวกนี้เข้าไปในที่ประชุมของเจ้า”
11 คนเยรูซาเล็มทั้งหมดร้องครวญครางหาอาหารกัน
    พวกเขาได้เอาสิ่งมีค่าของพวกเขามาแลกกับอาหาร
เพื่อประทังชีวิตของพวกเขา เธอพูดว่า “พระยาห์เวห์เจ้าข้า ดูสิว่า
    ฉันได้กลายเป็นขอทานไปแล้ว”
12 เฮ้ พวกเจ้า พวกเจ้าที่เดินผ่านมา
มองไปทั่วๆสิ ดูสิว่า มีความเจ็บปวดไหนบ้างเหมือนกับความเจ็บปวดที่ได้เกิดขึ้นกับฉัน
    เป็นความเจ็บปวดที่พระยาห์เวห์ทำให้เกิดขึ้นกับฉันตอนที่พระองค์โกรธฉันอย่างแรง
13 พระองค์ส่งไฟลงมาจากเบื้องบน
    และทำให้มันลึกเข้าไปในกระดูกของฉัน
พระองค์ได้กางตาข่ายออกเพื่อดักเท้าฉัน
    และนำฉันกลับมา
พระองค์ทำให้ฉันกลายเป็นดินแดนที่ว่างเปล่า
    และทำให้ฉันป่วยตลอดวัน

14 พวกความบาปนั้นของฉันถูกผูกมัดเข้ากับแอก
    พระองค์ใช้มือของพระองค์ทอความบาปเหล่านั้นเข้าด้วยกัน
ความบาปเหล่านั้นได้วางอยู่บนคอของฉัน
    มันดูดเอากำลังของฉันไป
พระองค์ทำให้ฉันตกไปอยู่ในกำมือของคนเหล่านั้นที่ฉันต่อต้านไม่ไหว

15 องค์เจ้าชีวิตได้ทอดทิ้งนักรบทุกคนของฉันที่เคยอยู่ข้างในกำแพงของฉัน
    พระองค์ได้เรียกระดมพลมาต่อต้านฉันเพื่อทำลายทหารหนุ่มของฉัน
องค์เจ้าชีวิตได้เหยียบย่ำองุ่นอยู่ในบ่อองุ่นซึ่งเป็นของนางสาวยูดาห์

16 ฉันร้องคร่ำครวญเพราะเรื่องเหล่านี้
    ดวงตาของฉันนองไปด้วยน้ำตา
ฉันรู้สึกอย่างนี้ เพราะไม่มีผู้ปลอบใจอยู่ใกล้ฉัน
    ไม่มีใครทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น
ลูกๆของฉันเป็นเหมือนกับดินแดนที่รกร้าง
    เพราะศัตรูของพวกเขามีชัยเหนือพวกเขา

17 ศิโยนได้ยื่นมือออกมาทั้งสองข้าง
    แต่ไม่มีใครจะปลอบโยนเธอ
พระยาห์เวห์ได้สั่งให้ชนชาติรอบๆยาโคบให้กลายเป็นศัตรูของเขา
    เยรูซาเล็มได้กลายเป็นเหมือนสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ท่ามกลางพวกเขา

18 เยรูซาเล็มพูดว่า “พระยาห์เวห์นั้นทำถูกต้องแล้วที่ลงโทษฉัน
    เพราะฉันไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระองค์
ชนชาติทั้งหลายในโลกนี้ ฟังให้ดี
    ดูความเจ็บปวดของฉันสิ
    ทั้งคนหนุ่มสาวของฉันถูกจับไปเป็นเชลยหมดแล้ว
19 ฉันได้เรียกคนเหล่านั้นที่รักฉันให้มาช่วย
    แต่พวกเขาทำให้ฉันผิดหวัง
พวกนักบวชและพวกผู้อาวุโสของฉันได้ตายไปในเมือง
    ตอนที่พวกเขาออกไปหาอาหารเพื่อประทังชีวิต

20 พระยาห์เวห์เจ้าข้า ดูสิ ฉันกำลังตกทุกข์ได้ยาก
    ท้องของฉันกำลังปั่นป่วน
ใจของฉันแตกสลายอยู่ภายใน
    เพราะฉันได้กบฏอย่างมาก
เด็กๆถูกฆ่าฟันด้วยดาบอยู่บนท้องถนนด้านนอก
    ส่วนในบ้าน ความตายก็รออยู่

21 ผู้คนได้ยินว่า ฉันกำลังร้องไห้คร่ำครวญ
    แต่ไม่มีใครปลอบใจฉัน
ศัตรูของฉันทุกคนได้ยินถึงความเจ็บปวดของฉัน
    พวกเขาดีใจที่พระองค์ทำอย่างนี้กับฉัน
ขอให้พระองค์โปรดนำวันแห่งการลงโทษนั้นเป็นวันที่พระองค์ได้ประกาศไว้ให้มาตกลงบนพวกเขาด้วย
    ให้พวกเขาเป็นเหมือนกับฉันด้วยเถิด

22 ขอให้ความชั่วทั้งหมดที่พวกเขาทำปรากฏอยู่ต่อหน้าพระองค์ด้วยเถิด
    และขอให้พระองค์ทำกับพวกเขาอย่างร้ายแรง
เหมือนกับที่พระองค์ทำกับฉันอย่างร้ายแรงเพราะสิ่งชั่วช้าทั้งหมดที่ฉันได้ทำไป
    ที่ฉันพูดอย่างนี้ ก็เพราะฉันครวญครางอย่างหนักและจิตใจฉันก็เจ็บป่วย”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International