Bible in 90 Days
7 ดังนั้นเราจะเป็นเหมือนสิงโตต่อพวกเขา
เราจะซุ่มคอยพวกเขาเหมือนเสือดาวข้างทาง
8 เราจะเข้าจู่โจมพวกเขาเหมือนแม่หมีที่ลูกถูกแย่งไป
เราจะฉีกอกพวกเขาออก
เราจะกัดกินพวกเขาเหมือนสิงโตกัดกินเหยื่อ
เราจะฉีกพวกเขาออกเป็นชิ้นเหมือนที่สัตว์ป่าฉีกเหยื่อของมัน
9 อิสราเอล เราจะทำลายเจ้า
ใครจะช่วยเจ้าได้
10 ไหนล่ะ กษัตริย์ของเจ้า
เขาจะให้ชัยชนะกับเจ้าในเมืองทั้งหลายของเจ้าได้หรือ
แล้วไหนล่ะ พวกผู้นำของเจ้า ที่เจ้าพูดว่า
“ขอกษัตริย์กับพวกผู้นำให้กับเราด้วย”
11 ตอนเราโกรธ เราให้กษัตริย์กับเจ้า
และเมื่อเราโกรธอีก เราได้เอากษัตริย์ไปจากเจ้า
12 ความผิดของเอฟราอิมถูกมัดไว้แล้วในหนังสือม้วน
ความบาปทั้งหลายของเขาได้เก็บบันทึกไว้แล้ว
13 การเจ็บท้องคลอด บอกให้รู้ว่าถึงเวลาที่เขาจะเกิดแล้ว
แต่เขาไม่เป็นเด็กที่ฉลาด
เมื่อถึงเวลาที่เขาจะคลอดออกมา
เขาไม่ยอมโผล่มาที่ปากช่องคลอด
14 เราควรจะไถ่พวกเขาให้พ้นจากแดนคนตายไหม
เราควรจะไถ่พวกเขาจากความตายไหม
เจ้าความตาย นำพวกภัยพิบัติของเจ้ามาเลย
เจ้าแดนคนตาย นำความหายนะของเจ้ามาเลย
ยังไงเราก็ไม่เปลี่ยนใจ ที่จะลงโทษพวกเขาหรอก
15 ถึงแม้ว่าเอฟราอิมจะเจริญเติบโตเหมือนต้นอ้อ
ลมทางทิศตะวันออกกำลังมา
ลมหายใจของพระยาห์เวห์กำลังพัดมาจากทะเลทราย
บ่อน้ำของเอฟราอิมกำลังเหือดแห้งไป
และตาน้ำของเขาจะแห้งไป
ลมนั้นจะปล้นสมบัติของเขาไป
และเอาของมีค่าทุกอย่างไป
16 สะมาเรียจะต้องรับผิด
เพราะเธอกบฏต่อพระเจ้าของเธอ
พวกเขาจะถูกดาบฟาดฟันให้ล้มลง
ลูกเด็กเล็กแดงของเขาจะถูกฟาดลงกับพื้นดิน
และพวกผู้หญิงของพวกเขาที่มีครรภ์จะถูกผ่าท้อง
ให้หันกลับมาหาพระยาห์เวห์
14 อิสราเอลเอ๋ย หันกลับไปหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าซะ
ความบาปของเจ้าทำให้เจ้าล้มลง
2 เตรียมคำพูดดีๆมา แล้วกลับไปหาพระยาห์เวห์
และพูดกับพระองค์ว่า
“ขอพระองค์โปรดอภัยให้กับความผิดบาปทั้งหมดที่พวกเราได้ทำไปด้วยเถิด
และโปรดยอมรับคำอธิษฐานของเรา
เราขอถวายคำสรรเสริญต่อพระองค์ด้วยริมฝีปากของเราเหมือนถวายพวกวัวตัวผู้
3 อัสซีเรียไม่สามารถช่วยกู้พวกเราได้
เราจะไม่ขี่ม้าไปขอความช่วยเหลือจากอัสซีเรีย
เราจะไม่พูดกับสิ่งที่เราสร้างขึ้นมากับมือว่า ‘ท่านเป็นพระเจ้าของเรา’
เพราะพระองค์เท่านั้นที่แสดงความเมตตาปรานีต่อคนไร้ที่พึ่งอย่างเด็กกำพร้า”
พระยาห์เวห์จะอภัยให้กับอิสราเอล
4 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะรักษาพวกเขา จากใจที่ชอบหลงทางไปจากเรา
เราจะรักพวกเขาอย่างไม่มีขีดจำกัด
เพราะเราหันความโกรธของเราไปจากพวกเขาแล้ว
5 เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างให้กับอิสราเอล
เขาจะบานออกเหมือนดอกลิลลี่
เขาจะหยั่งรากลงเหมือนพวกต้นสนซีดาร์ของเลบานอน
6 กิ่งก้านของมันจะแผ่ออกไป
เพื่อว่ามันจะสวยงามเหมือนต้นมะกอก
และจะมีกลิ่นหอมเหมือนป่าไม้ในเลบานอน
7 ผู้คนจะกลับมาอาศัยภายใต้ร่มเงาของมัน
พวกเขาจะปลูกข้าวสาลีกัน
พวกเขาจะบานออกมาเหมือนดอกของเถาองุ่น
อิสราเอลจะมีชื่อเสียงไปทั่วโลกเหมือนกับเหล้าองุ่นของเลบานอน
พระเจ้าเตือนอิสราเอลเรื่องรูปเคารพ
8 เอฟราอิมเอ๋ย เรากับพวกรูปเคารพนั้นเหมือนกันตรงไหนหรือ
เรานี่แหละที่ตอบคำอธิษฐานของเจ้า เรานี่แหละที่คอยดูแลเจ้า
เราเป็นเหมือนต้นสนสามใบที่เขียวตลอดเวลา
ผลผลิตของเจ้าเกิดมาจากเรา”
คำแนะนำสุดท้าย
9 ใครเป็นคนฉลาด ก็ให้เขาเข้าใจสิ่งเหล่านี้
ใครมีความเข้าใจ ก็ให้เขารู้จักเรื่องพวกนี้
คือว่า ทางต่างๆของพระยาห์เวห์นั้นเที่ยงตรง
คนดีจะเดินในทางเหล่านั้น
แต่พวกกบฏจะหกล้มในทางเหล่านั้น
ตั๊กแตนจะมาทำลายพืชผลในไร่นา
1 โยเอลลูกชายของเปธูเอลได้รับข่าวสารนี้จากพระยาห์เวห์
2 ฟังไว้ให้ดี พวกผู้เฒ่าทั้งหลาย
ฟังไว้ให้ดี ทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้
ชั่วชีวิตของพวกเจ้าหรือชั่วชีวิตของบรรพบุรุษเจ้า
เคยเห็นเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นหรือเปล่า ไม่เคยแน่
3 เล่าเรื่องนี้ให้กับลูกๆของเจ้าฟัง
และให้ลูกๆของเจ้าเล่าต่อให้กับลูกๆของเขาฟัง
และให้ลูกๆของเขาเล่าต่อให้กับรุ่นหลังจากเขาฟัง
4 เล่าให้พวกเขาฟังว่าพวกตั๊กแตนวัยเดินเหลืออะไรไว้ให้บ้าง
ฝูงตั๊กแตนวัยบินก็มากิน
และพวกมันเหลืออะไรไว้ให้บ้าง
พวกตั๊กแตนวัยกระโดดก็มากิน
และพวกมันเหลืออะไรไว้ให้บ้าง
พวกตั๊กแตนวัยคลานก็มากิน
ตั๊กแตนบุก
5 พวกขี้เมาทั้งหลาย ตื่นได้แล้ว และร้องไห้
พวกนักดื่มเหล้าองุ่นทั้งหลายคร่ำครวญเถอะ
เพราะจะไม่มีเหล้าองุ่นอันแสนหวาน
ให้เจ้าดื่มอีกต่อไปแล้ว
6 เพราะมีชนชาติหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มหาศาล นับไม่ถ้วน
ได้มาบุกแผ่นดินของเรา
ฟันของมันเหมือนฟันของสิงโต
และเขี้ยวของมันเหมือนเขี้ยวของนางสิงห์
7 พวกมันทำลายไร่องุ่นของเราอย่างราบคาบ
และทำลายต้นมะเดื่อของเราจนเหลือแต่ตอ
และลอกเปลือกของต้นมะเดื่อแล้วโยนทิ้งไป
พวกมันทำให้เถาองุ่นเหลือแต่ไส้ในสีขาว
ผู้คนร้องไห้
8 ให้คร่ำครวญเหมือนกับหญิงที่ใส่ชุดกระสอบไว้ทุกข์
ให้กับสามีของนางที่ตายไป
9 ไม่มีอาหารและเครื่องดื่มที่จะเอามาถวายในพระวิหารอีกต่อไปแล้ว
พวกนักบวชที่เป็นผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ กำลังคร่ำครวญ
10 ไร่นาถูกทำลาย พื้นดินคร่ำครวญ
ใช่แล้ว เมล็ดพืชถูกทำลาย
เหล้าองุ่นใหม่เหือดแห้งไป
น้ำมันมะกอกสดถูกใช้หมดแล้ว
11 หมดหวังแล้ว ชาวไร่ชาวสวนทั้งหลาย
ร้องไห้เถอะ ชาวไร่องุ่น
ร้องไห้ให้กับข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์
เพราะผลผลิตในไร่นาถูกทำลายหมดแล้ว
12 ต้นองุ่นเหือดแห้งไป
ต้นมะเดื่อเหี่ยวแห้งไป
ต้นทับทิม แม้แต่ต้นอินทผลัม และต้นแอปเปิลรวมทั้งต้นไม้อื่นๆในไร่นาเหี่ยวแห้งไปหมดแล้ว
ใช่แล้ว ความสุขสนุกสนานเหือดหายไปจากผู้คนด้วยเหมือนกัน
13 พวกนักบวช ใส่เสื้อกระสอบ แล้วร้องไห้เถิด
ท่านที่เตรียมของถวายที่แท่นบูชา ร้องไห้เถิด
มาสิ พวกผู้รับใช้ของพระเจ้า ให้สวมใส่ชุดกระสอบข้ามคืน
เพราะไม่มีอาหารและเครื่องดื่ม ที่จะเอาไปถวายในพระวิหารของพระเจ้าของเจ้าอีกต่อไปแล้ว
การทำลายครั้งยิ่งใหญ่ของฝูงตั๊กแตน
14 ให้จัดเวลาสำหรับการอดอาหาร ให้เรียกประชุม ให้รวบรวมพวกผู้อาวุโส และประชาชนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้ ให้รวบรวมทุกคนมาที่พระวิหารของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเจ้า และให้พวกเขาร้องขอต่อพระยาห์เวห์
15 วันนั้นจะเป็นวันที่เลวร้าย เพราะใกล้จะถึงวันของพระยาห์เวห์แล้ว และจะมีหายนะอันยิ่งใหญ่ ที่จะมาจากพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ 16 มันเกิดต่อหน้าต่อตาของเราเลยไม่ใช่หรือ ที่ไม่มีอาหารเหลือแล้ว งานเฉลิมฉลองและความสุขไม่มีแล้วในพระวิหารของพระเจ้าของเรา
17 ผลไม้ที่โผล่ออกมา ก็ฝ่อลีบไปภายใต้กลีบดอกของพวกมัน ยุ้งฉางถูกทำลาย โรงนาก็ถูกรื้อถอน เพราะเมล็ดพืชฝ่อลีบไปหมด
18 ฝูงสัตว์เลี้ยงต่างร้องครวญคราง ฝูงวัวต่างก็เร่ร่อนไปมา เพราะไม่มีทุ่งหญ้าให้กับพวกมัน แม้แต่ฝูงแกะก็ยังถูกทอดทิ้ง 19 พระยาห์เวห์เจ้าข้า ข้าพเจ้า ร้องขอความช่วยเหลือต่อพระองค์ เพราะไฟได้เผาผลาญทุ่งหญ้าของที่เปล่าเปลี่ยว และเปลวเพลิงได้เผาไหม้ต้นไม้ทั้งหมดในท้องทุ่ง 20 แม้แต่สัตว์ป่าก็ยังส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์เพราะน้ำในลำธารได้แห้งขอดไป และไฟได้เผาผลาญทุ่งหญ้าของที่เปล่าเปลี่ยวไปหมดแล้ว
วันที่พระยาห์เวห์เสด็จมา
2 ให้เป่าแตรในเมืองศิโยน
ร้องตะโกนบนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
ให้ทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้กลัวจนตัวสั่น
เพราะวันของพระยาห์เวห์กำลังจะมาถึงเพราะวันของพระยาห์เวห์ใกล้เข้ามาแล้ว
2 มันเป็นวันแห่งความมืดครึ้ม
เป็นวันที่มืดมิดและเมฆดำทะมึน
เหมือนความมืดที่ปกคลุมภูเขาทั้งหลายคือกองทัพอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรมหาศาล
ไม่เคยมีกองทัพไหนที่ยิ่งใหญ่เท่านี้มาก่อน
และหลังจากนี้ก็จะไม่มีกองทัพไหนเทียบเท่ามันได้อีก
3 ไฟของกองทัพนั้นก็เผาผลาญไปข้างหน้า
และเมื่อมันผ่านไป เหลือไว้แต่เปลวเพลิงที่ลุกไหม้
ดินแดนที่อยู่ข้างหน้ามัน เหมือนกับสวนเอเดน
แต่พอมันผ่านไป ก็กลายเป็นทะเลทรายไม่มีอะไรเล็ดลอดไปได้เลย
4 พวกมันเหมือนฝูงม้า
พวกมันวิ่งเหมือนม้าศึก
5 เมื่อพวกมันกระโดดข้ามยอดเขา
เสียงเหมือนพวกรถรบ
เหมือนเสียงของไฟที่กำลังเผาฟางแห้ง
เหมือนเสียงของกองทัพอันยิ่งใหญ่มุ่งสู่สงคราม
6 ผู้คนต่างพากันกลัวจนตัวสั่นต่อหน้าพวกมัน
ทุกคนต่างหน้าซีดเผือด
7 กองทัพนั้นวิ่งเข้าสู่สนามรบอย่างทหารกล้า
พวกมันปีนกำแพงเหมือนนักรบ
พวกมันต่างเดินมุ่งตรงไปข้างหน้า
ไม่แตกแถวเลย
8 พวกมันไม่เดินกินที่ของเพื่อน
ต่างก็เดินในแถวของตัวเอง
ถึงแม้บางตัวถูกยิงด้วยธนูร่วงไป
คนอื่นๆก็ไม่เฉไปจากแถวของตน
9 พวกมันรีบบุกเข้าไปในเมือง
พวกมันบุกขึ้นกำแพงเมือง
พวกมันปีนเข้าไปในบ้านเรือน
ปีนเข้าไปทางหน้าต่างเหมือนพวกขโมย
10 ต่อหน้าพวกมัน แผ่นดินก็ไหว
ท้องฟ้าก็สั่นสะเทือน
ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ก็มืดไป
ดวงดาวก็หยุดส่องแสง
11 พระยาห์เวห์ได้ร้องตะโกนสั่งกองทัพของพระองค์
เพราะกองทัพของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่จริงๆ
กองทัพที่ทำตามคำสั่งของพระองค์นั้น
ยิ่งใหญ่มหาศาลจริงๆ
วันของพระยาห์เวห์นั้น ยิ่งใหญ่และน่ากลัวจริงๆ
ใครเล่าจะทนได้
การเรียกให้กลับตัวกลับใจ
12 พระยาห์เวห์พูดว่า “แต่ ถึงเดี๋ยวนี้ก็เถอะ
ให้กลับมาหาเรา ด้วยสุดใจของพวกเจ้า
ให้อดอาหาร ร้องไห้ และคร่ำครวญ
13 อย่าฉีกเสื้อผ้า[a] แต่ให้ฉีกใจของเจ้าแทน”
ให้กลับมาหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเจ้า
เพราะพระองค์มีความเมตตาปรานี อดทนนาน
พระองค์มีความรักที่ยิ่งใหญ่
และพร้อมเสมอที่จะเปลี่ยนใจไม่ลงโทษ
14 ใครจะรู้ล่ะ พระองค์อาจจะหันไปจากแผนการที่จะลงโทษ
และเปลี่ยนใจ
พระองค์อาจจะทิ้งพระพรไว้ให้
ที่พวกเจ้าจะได้ใช้เป็นอาหารและเครื่องดื่มถวายให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์
15 ให้เป่าแตรในเมืองศิโยน
จัดเวลาสำหรับการอดอาหาร
ให้เรียกประชุม
16 ให้รวบรวมประชาชนมา
และจัดเวลาประชุมกัน
ให้รวบรวมคนแก่ทั้งหลาย
และให้รวบรวมเด็กๆและทารกที่ยังดูดนม
ให้เจ้าบ่าวทิ้งห้องของเขาเถอะ
ให้เจ้าสาวทิ้งห้องหอของนาง
17 ให้พวกนักบวชที่เป็นผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์
ร้องไห้ระหว่างเฉลียงและแท่นบูชา
และให้พวกเขาพูดว่า
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอให้สงสารคนของพระองค์ด้วยเถิด
ขออย่าให้ทรัพย์สินส่วนตัวของพระองค์ถูกหัวเราะเยาะ
อย่าให้ชนชาติต่างๆมองคนของพระองค์เป็นตัวตลก
และอย่าให้พวกเขาพูดได้ว่า ‘พระเจ้าของพวกเขาอยู่ที่ไหน’”
พระเจ้าจะฟื้นฟูแผ่นดินของพระองค์
18 แล้วพระยาห์เวห์ ก็เกิดหึงหวงแผ่นดินของพระองค์
และพระองค์ก็เกิดความสงสารประชาชนของพระองค์
19 แล้วพระองค์ก็ตอบคนของพระองค์ว่า
“เราจะส่งเมล็ดพืช เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมันมะกอกให้กับพวกเจ้า
และเจ้าจะอิ่มหนำจากสิ่งนั้น
และเราจะไม่ทำให้เจ้ากลายเป็นที่เย้ยหยันท่ามกลางชนชาติอื่นๆอีก
20 เราจะไล่ศัตรูที่มาจากทางเหนือไปให้ห่างไกลจากพวกเจ้า
และเราจะขับไล่พวกมันไปอยู่ในดินแดนที่แห้งแล้ง
เราจะขับไล่ทหารกองหน้าของพวกมันไปลงทะเลทางตะวันออก
และขับไล่ทหารกองหลังของพวกมันไปลงทะเลทางตะวันตก
กลิ่นเหม็นคละคลุ้งของพวกมันจะขึ้นมา
และกลิ่นเหม็นเน่าของพวกมันจะกระจายไป
เราจะทำอย่างนี้เพราะพวกมันได้ทำความเสียหายไว้มาก”
21 แผ่นดินเอ๋ย อย่ากลัวเลย
ให้รื่นเริงยินดีและเฉลิมฉลองกันเถอะ
เพราะพระยาห์เวห์ได้ทำสิ่งต่างๆที่ยิ่งใหญ่
22 สัตว์ป่าทั้งหลาย อย่ากลัวเลย
เพราะทุ่งเลี้ยงสัตว์ในที่เปล่าเปลี่ยวจะมีหญ้าขึ้นเขียวขจีไปหมด
อย่ากลัวเลย เพราะต้นไม้จะออกผล
ต้นมะเดื่อและต้นองุ่นจะออกผลที่ดีที่สุด
23 ชาวเมืองศิโยน ให้ชื่นชมยินดี และเฉลิมฉลองให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้าเถิด
เพราะพระองค์จะให้ฝนฤดูใบไม้ร่วงกับพวกเจ้าเพื่อเป็นสิ่งพิสูจน์ถึงความซื่อสัตย์ของพระองค์
และพระองค์จะส่งฝนลงมาให้พวกเจ้า
ทั้งฝนต้นฤดูและฝนปลายฤดูเหมือนเมื่อก่อน
24 ลานนวดข้าวจะเต็มไปด้วยเมล็ดพืช
พวกถังจะเต็มล้นไปด้วยเหล้าองุ่นใหม่และน้ำมันมะกอก
25 “เราจะชดใช้ให้กับพวกเจ้าจำนวนปีต่างๆของการเก็บเกี่ยว
ที่ฝูงตั๊กแตนวัยบิน วัยกระโดด วัยคลาน และวัยเดิน ได้มากินพืชผลไปนั้น
พวกมันเป็นกองทัพอันยิ่งใหญ่ที่เราได้ส่งมาลงโทษเจ้า
26 พวกเจ้าจะได้กินอยู่เรื่อยๆและอิ่มอยู่เสมอ
พวกเจ้าจะสรรเสริญชื่อของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
ผู้ทำสิ่งต่างๆอันวิเศษสุดให้กับเจ้า
คนของเราจะไม่ต้องอับอายขายหน้าอีกเลย
27 เจ้าจะรู้ว่าเราอยู่กับชนชาติอิสราเอล
เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
และประชาชนของเราจะไม่ต้องถูกทำให้ขายหน้าอีกเลย”
พระเจ้าจะให้พระวิญญาณกับทุกคน
28 หลังจากนี้ เราจะเทพระวิญญาณของเราลงบนทุกคน
เพื่อว่าลูกสาวและลูกชายของพวกเจ้าจะพูดแทนเรา
พวกผู้อาวุโสของเจ้าจะเข้าใจความต้องการของเราผ่านทางความฝัน
และพวกคนหนุ่มของเจ้าจะเห็นสิ่งที่เราเปิดเผยให้เห็น
29 ในเวลานั้น แม้แต่คนใช้ชายหญิงของเจ้า
เราก็จะเทพระวิญญาณของเราให้
30 เราจะทำลางอัศจรรย์ในท้องฟ้าและบนดิน มันจะมีทั้งเลือด ไฟและกลุ่มควัน 31 ก่อนที่วันอันยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวของพระยาห์เวห์จะมาถึง ดวงอาทิตย์จะมืดไป ดวงจันทร์จะแดงเหมือนเลือด 32 แต่ทุกคนที่ร้องเรียกชื่อพระยาห์เวห์จะรอด เพราะจะมีพวกเหลือรอดชีวิตอยู่บนภูเขาศิโยนและในเมืองเยรูซาเล็มเหมือนที่พระยาห์เวห์ได้พูดไว้ และในท่ามกลางผู้ที่รอดชีวิตเหล่านั้นจะมีคนเหล่านั้นที่พระยาห์เวห์เรียก
ศัตรูของชาวยูดาห์จะถูกลงโทษ
3 “จำไว้ให้ดี ในช่วงวันเวลาเหล่านั้น เราจะพลิกสถานการณ์ให้กับชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็ม 2 เราจะรวบรวมชนชาติทั้งหมดมา และเราจะพาพวกเขาลงไปยังหุบเขาเยโฮชาฟัท[b] และที่นั่น เราจะตัดสินพวกเขาตามที่พวกเขาสมควรจะได้รับ เพื่อเห็นแก่อิสราเอลที่เป็นประชาชนและมรดกของเรา เพราะชนชาติพวกนี้ทำให้คนของเราต้องกระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆและพวกมันยังแบ่งแยกดินแดนของเราท่ามกลางพวกมันด้วย 3 พวกชนชาติเหล่านี้ได้จับสลากแบ่งคนของเรา พวกเขาได้แลกเด็กผู้ชายกับค่าเที่ยวโสเภณีของพวกเขา และได้ขายเด็กผู้หญิงเพื่อแลกกับเหล้าองุ่นที่พวกเขาดื่มกินกัน
4 ไทระ ไซดอน และพวกเขตแดนต่างๆของฟีลิสเตีย พวกเจ้าจะเอายังไงกับเรา พวกเจ้ากำลังแก้แค้นเราหรือ พวกเจ้ากำลังทำอะไรเพื่อทำร้ายเราหรือ เราจะคืนสิ่งที่เจ้าได้ทำกับเราลงบนหัวเจ้าเองในทันทีทันใด 5 พวกเจ้าได้เอาเงินและทองคำของเราไป และพวกเจ้าได้เอาพวกของที่มีค่าที่สุดของเราไปไว้ตามวัดต่างๆของพวกเจ้า
6 พวกเจ้าได้ขายคนหนุ่มสาวชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มให้พวกกรีก เพื่อให้พวกเขาไปอยู่ห่างไกลจากเขตแดนของพวกเขา 7 ดูให้ดี เราจะเอาพวกเขาขึ้นมาจากดินแดนที่พวกเจ้าขายพวกเขาไปนั้น และเราจะตอบแทนการกระทำต่างๆของพวกเจ้าลงบนหัวของพวกเจ้าเอง
8 เราจะขายลูกชายและลูกสาวของเจ้าให้กับชาวยูดาห์ และชาวยูดาห์จะขายพวกเขาต่อไปให้กับชาวเสบา ซึ่งเป็นชาติที่อยู่ห่างไกลออกไป เพราะเรายาห์เวห์ได้พูดไว้ว่าอย่างนั้น”
เตรียมเข้าสงคราม
9 ให้ประกาศสิ่งนี้ต่อชนชาติทั้งหลาย
ให้เตรียมตัวกันเข้าสู่สงครามศักดิ์สิทธิ์
ไปปลุกทหารทั้งหลาย
ให้พวกนักรบบุกโจมตี
10 ให้ตีคันไถของเจ้าให้เป็นดาบ
และตีขอสำหรับลิดกิ่งของเจ้าให้เป็นทวน
ให้คนอ่อนแอพูดว่า “ข้าเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง”
11 มาเร็วๆทุกชนชาติที่อยู่รอบๆ
มารวมตัวกันที่นั่น
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ได้โปรดนำพวกทหารของพระองค์ลงมา
12 พระยาห์เวห์พูดว่า ปลุกให้ชนชาติต่างๆตื่นตัว
และมุ่งหน้าสู่หุบเขาเยโฮชาฟัท
เพราะเราจะนั่งอยู่ที่นั่นตัดสินทุกๆชนชาติที่อยู่รอบๆยูดาห์
13 ส่งเคียวมาได้แล้ว
เพราะพืชผลสุกงอมให้เก็บเกี่ยวแล้ว
มาย่ำผลองุ่นได้แล้ว
เพราะมีองุ่นเต็มบ่อย่ำแล้ว
ถังเก็บเหล้าองุ่นก็เต็มจนล้น
เพราะความเจ็บปวดที่พวกเขาก่อขึ้นนั้นมันมากมายนัก
14 มีฝูงชนจำนวนมากในหุบเขาแห่งการตัดสิน
เพราะวันของพระยาห์เวห์ใกล้มาถึงแล้วอย่างแน่นอนในหุบเขาแห่งการตัดสิน
15 ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์จะมืดไป
และดวงดาวทั้งหลายจะหยุดส่องแสง
16 พระยาห์เวห์จะคำรามจากภูเขาศิโยน
พระองค์จะร้องตะโกนก้องจากเยรูซาเล็ม
ทำให้ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกสั่นสะเทือน
แต่พระยาห์เวห์จะเป็นที่คุ้มภัยให้กับคนของพระองค์
และจะเป็นที่กำบังที่เข้มแข็งให้กับชาวอิสราเอล
17 แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่าเราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า
ผู้ที่อาศัยอยู่บนศิโยน ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
เมืองเยรูซาเล็มจะเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์
และคนต่างชาติจะไม่ได้บุกเข้ามาอีก
18 เมื่อถึงตอนนั้นจะมีน้ำองุ่นอันหอมหวานหยดออกมาจากภูเขาต่างๆ
จะมีน้ำนมไหลออกมาจากเนินเขาต่างๆ
จะมีน้ำไหลไปทั่วหุบเขาต่างๆของยูดาห์
จะมีน้ำพุไหลพุ่งออกมาจากพระวิหารของพระยาห์เวห์
และจะให้ความชุ่มชื่นกับหุบเขาอาคาเซีย
19 อียิปต์จะกลายเป็นดินแดนรกร้าง
และเมืองเอโดมจะกลายเป็นทะเลทรายร้าง
เพราะพวกเขาโหดร้ายต่อชาวยูดาห์
และทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ตกไปทั่วแผ่นดินยูดาห์
20 จะมีคนอาศัยอยู่ในยูดาห์ตลอดไป
และจะมีคนอาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
21 เราจะไม่ลงโทษพวกที่ทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ไหลนองหรือ
พระยาห์เวห์สถิตอยู่ที่ศิโยนแน่ขนาดไหน
เราก็จะลงโทษพวกมันแน่ขนาดนั้น
คำนำ
1 นี่คือคำพูดของอาโมส อาโมสเป็นเจ้าของฝูงแกะคนหนึ่งจากเมืองเทโคอา
อาโมสได้รับถ้อยคำเหล่านี้ เกี่ยวกับอิสราเอลผ่านทางนิมิตต่างๆสองปีก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นช่วงที่อุสซียาห์ เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ และเยโรโบอัมลูกชายของโยอาชเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล
2 “อาโมสพูดว่า
พระยาห์เวห์คำรามเหมือนสิงโตจากศิโยน
และพระองค์เปล่งเสียงดังเหมือนฟ้าร้องจากเมืองเยรูซาเล็ม
ทุ่งหญ้าของผู้เลี้ยงแกะก็เหือดแห้ง
แม้แต่ยอดเขาคารเมล[c]ยังเหี่ยวแห้งไปด้วย”
การลงโทษคนอาราม
3 พระยาห์เวห์บอกว่า
“เราจะลงโทษคนดามัสกัสในซีเรียอย่างแน่นอน
เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
ถึงขนาดบี้คนกิเลอาด
เหมือนใช้เครื่องมือเหล็กนวดเมล็ดข้าว
4 ดังนั้นเราจะส่งไฟลงมาบนวังของกษัตริย์ฮาซาเอล[d]
และเราจะเผาผลาญพวกป้อมปราการของกษัตริย์เบนฮาดัด[e] ให้ราบคาบ
5 เราก็จะหักกลอนประตูของดามัสกัส
และเราจะกำจัดผู้นั่งบนบัลลังก์ในหุบเขาอาเวน[f]
เราจะทำลายคนที่ถือคทาในเบธเอเดน[g]
และคนอารามก็จะถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่แผ่นดินคีร์[h]
พระยาห์เวห์พูดไว้อย่างนี้”
การลงโทษคนฟีลิสเตีย
6 พระยาห์เวห์บอกว่า
“เราจะลงโทษคนกาซาอย่างแน่นอน
เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
ถึงขนาดกวาดต้อนคนทั้งชุมชน
ให้ไปเป็นทาสที่ประเทศเอโดม
7 ดังนั้น เราจะส่งไฟลงมาที่กำแพงเมืองกาซา
และมันจะเผาผลาญพวกป้อมปราการต่างๆของมันอย่างราบคาบ
8 และเราจะกำจัดผู้ที่นั่งบนบัลลังก์ของเมืองอัชโดด
และเราก็จะทำลายคนที่ถือคทาของเมืองอัชเคโลน
และเราจะลงมือจัดการกับเมืองเอโครน
แล้วคนฟีลิสเตียที่จะหลงเหลืออยู่ก็จะตาย”
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดไว้อย่างนั้น
การลงโทษคนโฟนีเซีย
9 พระยาห์เวห์บอกว่า
“เราจะลงโทษคนไทระอย่างแน่นอน
เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
ถึงขนาดขายคนทั้งชุมชนให้ไปเป็นทาสในประเทศเอโดม
และพวกเขาก็ไม่ได้รักษาข้อตกลงที่พวกเขาได้ทำร่วมกันฉันท์พี่น้อง
10 ดังนั้นเราจะส่งไฟลงมาบนกำแพงเมืองไทระ
และมันก็จะเผาผลาญพวกป้อมปราการต่างๆของมันจนราบคาบ”
การลงโทษคนเอโดม
11 พระยาห์เวห์บอกว่า
“เราจะลงโทษคนเอโดมอย่างแน่นอน
เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
ถึงขนาดเอาดาบไล่ฟันคนอิสราเอลพี่น้องของเขา อย่างไม่มีความเมตตาปรานี
เขาฉีกเนื้อของพี่น้องเขาอย่างไม่หยุดพักด้วยความโกรธ
เขาโจมตีพี่น้องเขาอย่างไม่หยุดหย่อนด้วยความแค้น
12 ดังนั้นเราจะส่งไฟลงมาบนเมืองเทมาน
และมันจะเผาผลาญพวกป้อมปราการของเมืองโบสราห์ลงจนราบคาบ”
การลงโทษคนอัมโมน
13 พระยาห์เวห์บอกว่า
“เราจะลงโทษคนอัมโมนอย่างแน่นอน
เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
ถึงขนาดได้แหวะท้องของคนท้องในเมืองกิเลอาด
ในช่วงที่พวกเขาทำสงครามขยายดินแดนของเขา
14 ดังนั้นเราจะจุดไฟบนกำแพงของเมืองรับบาห์
และมันจะเผาผลาญพวกป้อมปราการของมันลงจนราบคาบ
เรื่องนี้จะเกิดขึ้นในวันทำศึกตอนที่ศัตรูโห่ร้อง
และโจมตีพวกเขาอย่างพายุหมุน
15 แล้วกษัตริย์ พร้อมทั้งพวกเจ้าฟ้าของเขา
ก็จะถูกจับไปเป็นเชลยพร้อมๆกันหมด”
พระยาห์เวห์พูดไว้อย่างนี้
การลงโทษคนโมอับ
2 พระยาห์เวห์บอกว่า
“เราจะลงโทษคนโมอับอย่างแน่นอน
เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
ถึงขนาดเผากระดูกของกษัตริย์เอโดมไปทำปูนขาว
2 ดังนั้นเราจะส่งไฟมาบนโมอับ
และมันก็จะเผาผลาญพวกป้อมปราการของเมืองเคริโอทลงจนราบคาบ
แล้วโมอับก็จะตายไปท่ามกลางเสียงรบ
ในท่ามกลางเสียงโห่ร้องและเสียงแตรเขาสัตว์
3 เราจะกำจัดผู้นำของโมอับ
และเราจะฆ่าพวกเจ้าฟ้าทั้งหมดของเขาไปพร้อมๆกับเขา”
นั่นคือสิ่งที่พระยาห์เวห์บอก
การลงโทษคนยูดาห์
4 พระยาห์เวห์บอกว่า “เราจะลงโทษคนยูดาห์อย่างแน่นอน
เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
คือเขาไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งสอนของเรา
และไม่ยอมรักษากฎต่างๆของเราด้วย
พระเทียมเท็จที่บรรพบุรุษของพวกเขาเฝ้าติดตามนั้น นำพวกเขาให้ทิ้งเราไป
5 ดังนั้นเราจะส่งไฟลงมาบนยูดาห์
และมันจะเผาผลาญพวกป้อมปราการของเมืองเยรูซาเล็มลงจนราบคาบ”
การลงโทษคนอิสราเอล
6 พระยาห์เวห์บอกว่า “เราจะลงโทษคนอิสราเอลอย่างแน่นอน
เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
อย่างเช่น พวกเขาขายคนที่ซื่อสัตย์ไปเป็นทาส เพราะคนซื่อสัตย์ไม่มีเงินมาชดใช้หนี้
ขายคนยากจนไปเป็นทาสเพราะคนยากจนไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ หนี้ที่มีค่าแค่รองเท้าสานคู่เดียว
7 พวกเขาเหยียบย่ำกดหัวคนจนจมลงในดิน
และผลักไสพวกคนจนไปให้พ้นทาง
พ่อกับลูกชายก็ร่วมเพศกับหญิงสาวคนเดียวกัน
ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
8 พวกเขาเอาเสื้อผ้าของคนจนๆมาปูนอนอยู่ข้างๆแท่นบูชาของพวกเขา
เสื้อผ้าพวกนี้เป็นเสื้อผ้าที่คนจนเอามาค้ำประกันหนี้
และพวกเขาทำให้ผู้คนต้องจ่ายค่าปรับเป็นเหล้าองุ่น
แล้วพวกเขาก็เอามาดื่มกินกันในวิหารของพระเจ้าของพวกเขา
9 เป็นเราเองที่ทำลายคนต่อหน้าพวกเขา
คนอาโมไรต์[i]นี้สูงเหมือนกับพวกต้นสนซีดาร์
และแข็งแรงเหมือนกับพวกต้นโอ๊ค
เราได้ทำลายทั้งผลบนต้น
และรากในดิน
10 เป็นเราเองที่นำเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
และนำทางเจ้าในช่วงที่เจ้าอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งเป็นเวลาสี่สิบปี
เราเองที่ทำให้เจ้าได้ยึดครองแผ่นดินของคนอาโมไรต์
11 เราได้เลือกลูกของเจ้าบางคนให้เป็นพวกผู้พูดแทนพระเจ้า
และเลือกคนหนุ่มของเจ้าบางคนเป็นพวกนาศีร์[j]
ว่าไง คนอิสราเอล เจ้าว่ามันจริงตามนี้หรือเปล่า”
พระยาห์เวห์บอกไว้ว่าอย่างนี้
12 “แต่พวกเจ้าทำให้พวกนาศีร์ดื่มเหล้าองุ่น
และเจ้าก็สั่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ไม่ให้พูดแทนพระเจ้า
13 ดังนั้น ตอนนี้เราจะทำให้พวกเจ้าติดหนึบอยู่ในที่ของพวกเจ้า
เหมือนกับรถที่บรรทุกข้าวสารเกินน้ำหนัก ติดอยู่ในโคลน
14 พวกนักวิ่งลมกรดก็จะยังวิ่งหนีไม่ทัน
คนที่แข็งแรงก็จะยังแข็งแรงไม่พอ
พวกทหารก็จะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้
15 พวกยิงธนูก็จะไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้
และพวกนักวิ่งลมกรดก็จะยังวิ่งหนีไม่ทัน
และพวกทหารม้าก็จะไม่สามารถรักษาชีวิตของตนเองได้
16 แม้แต่นักรบผู้กล้าก็ยังจะต้องวิ่งหนีตัวล่อนจ้อนในวันนั้น”
พระยาห์เวห์บอกไว้ว่าอย่างนี้
คำเตือนต่อคนอิสราเอล
3 คนอิสราเอล ฟังไว้ให้ดี นี่เป็นคำพูดของพระยาห์เวห์ ที่พระองค์พูดต่อต้านพวกเจ้า ต่อต้านครอบครัวของอิสราเอลทั้งหมด ที่พระยาห์เวห์เคยนำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ 2 จากชนชาติทั้งหมดในโลกนี้ มีแต่พวกเจ้าเท่านั้นที่เราเอาใจใส่เป็นพิเศษ แต่เจ้ากลับไม่เชื่อฟังเรา เพราะอย่างนี้ เราจะลงโทษพวกเจ้า สำหรับความผิดบาปที่เจ้าทำ
3 ถ้าไม่ได้นัดพบกันก่อน
คนสองคนจะเดินทางไปด้วยกันได้หรือ
4 ถ้าสิงโตยังไม่เจอเหยื่อของมัน
มันจะแผดเสียงร้องในป่าหรือ
ถ้าสิงโตหนุ่มยังจับอะไรไม่ได้
มันจะแผดเสียงจากถ้ำของมันหรือ
5 ถ้าไม่มีเหยื่อมาล่อนก
มันจะติดกับดักที่พื้นหรือ
ถ้าไม่มีอะไรมาติดกับดักนั้น
กับดักจะเด้งขึ้นมาจากพื้นหรือ
6 ถ้ามีเสียงแตรเตือนในเมือง
คนจะไม่กลัวหรือ
ถ้ามีความหายนะเกิดขึ้นกับเมือง
ก็ไม่ใช่เพราะพระยาห์เวห์ทำให้มันเกิดขึ้นหรอกหรือ
7 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจะไม่ทำอะไร
จนกว่าพระองค์จะเปิดเผยแผนการนั้นให้กับพวกผู้รับใช้ของพระองค์ที่เป็นพวกผู้พูดแทนพระเจ้ารู้เสียก่อน
8 เมื่อสิงโตคำราม
คนจะไม่กลัวหรือ
ถ้าพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
คนของพระองค์จะไม่ประกาศออกไปหรือ
9-10 ให้บอกสิ่งนี้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ตามป้อมปราการต่างๆของเมืองอัชโดด และของแผ่นดินอียิปต์
ให้บอกกับพวกเขาว่า “มารวมตัวกันที่ภูเขาต่างๆของสะมาเรีย
แล้วเจ้าจะเห็นความโหดร้ายทารุณที่มีต่อกัน
และเห็นการกดขี่ข่มเหงกันและกัน
เพราะผู้คนไม่รู้ว่าจะทำดียังไง
คนเหล่านั้นไปแย่งชิงและปล้นสิ่งของของคนอื่น แล้วเอามาเก็บสะสมไว้ในป้อมปราการต่างๆของพวกเขา”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
11 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต พูด คือ “ศัตรูจะมาปิดล้อมแผ่นดินนี้ไว้ทุกด้าน
และทำลายแนวป้องกันต่างๆของเจ้า
และปล้นเอาทรัพย์สมบัติที่อยู่ตามป้อมปราการต่างๆของเจ้าไป”
12 พระยาห์เวห์พูดว่า
“เราจะช่วยคนอิสราเอลที่อยู่ในสะมาเรียเหมือนกับที่ผู้เลี้ยงแกะพยายามช่วยแกะให้รอดจากปากสิงโต แต่ช่วยออกมาได้แค่ขาสองขาและหูหนึ่งข้าง
พวกเขาเหลือรอดแค่เสี้ยวหนึ่งของเก้าอี้นอนยาวและขาเตียงข้างหนึ่ง”
13 ฟังให้ดี และให้เป็นพยานถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของยาโคบ
นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด
14 “ในวันที่เราจะลงโทษอิสราเอล สำหรับความผิดบาปของเขานั้น
เราจะทำลายแท่นบูชาที่เมืองเบธเอล[k] ด้วย
และจะตัดมุมทั้งสี่ของแท่นบูชานั้นทิ้ง
และมันก็จะล่วงลงกับพื้น
15 เราจะทำลายบ้านพักฤดูหนาวและบ้านพักฤดูร้อน
และจะทำลายบ้านที่ตกแต่งด้วยงาช้าง
และทำลายบ้านอื่นๆอีกมากมาย”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้
อิสราเอลไม่หลาบจำ
4 ฟังถ้อยคำนี้ให้ดี พวกแม่วัวของบาชาน[l] ที่อยู่บนภูเขาของสะมาเรีย
เจ้าข่มเหงคนยากจน และบดขยี้คนที่ยากจนข้นแค้น
เจ้าบอกกับสามีของพวกเจ้าว่า “เอาอะไรมาให้ดื่มหน่อยสิ”
2 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตนั้นศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ได้สัญญาว่า
“เวลานั้นจะมาถึงเจ้าอย่างแน่นอน
เป็นเวลาที่พวกเขาจะมาลากพวกเจ้าไปด้วยเบ็ด
พวกเจ้าจะถูกลากไปด้วยเบ็ดตกปลาหมดทุกคน
3 เจ้าแต่ละคนจะตรงออกไปนอกเมืองได้เลย
ตามช่องกำแพงที่แตกทั้งหลาย
และเจ้าจะถูกโยนข้ามไปที่ฮารโมน”
พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้
4 “มาที่เมืองเบธเอล[m] และทำบาปไปเลย
มาที่กิลกาลและทำบาปมากขึ้นไปอีก
ให้นำเครื่องเซ่นไหว้ของเจ้ามาทุกๆเช้า
และทุกๆสามวันให้เอาสิบเปอร์เซ็นต์ของพืชผลของเจ้ามาถวาย
5 ให้เผาขนมปังเป็นเครื่องบูชาขอบคุณ
ให้โฆษณา อวดไปเลยถึงเครื่องบูชาที่เจ้าสมัครใจเอามาถวาย
เพราะเจ้า คนอิสราเอลชอบทำอย่างนั้นนี่”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดไว้ว่าอย่างนี้
6 “เราทำให้ฟันของพวกเจ้าสะอาดเกลี้ยงเกลา
เพราะขาดอาหารกิน ไปทั่วทุกหนแห่งและทุกเมืองของเจ้า
แต่พวกเจ้าก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาเรา”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
7 “เราหยุดยั้งฝนไปจากพวกเจ้า สามเดือนก่อนที่จะถึงฤดูเก็บเกี่ยว
เราให้เมืองหนึ่งมีฝน
อีกเมืองหนึ่งไม่มี
เราทำให้ท้องทุ่งหนึ่งมีฝน
อีกแปลงหนึ่งแห้งแล้ง
8 คนจากเมืองโน้นเมืองนี้จะต้องเดินโซเซไปหาน้ำที่เมืองอื่น
แต่ก็มีน้ำไม่พอดื่ม
ถึงอย่างนั้นพวกเจ้าก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาเรา”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
9 “เราได้ทำลายพืชผลของเจ้า ให้มันเกิดโรคและเป็นราเน่าเปื่อย
เราทำให้สวนผักและสวนองุ่นของเจ้าแห้งแล้งไป
ตั๊กแตนมากินต้นมะเดื่อและต้นมะกอกของเจ้า
แต่เจ้าก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาเรา”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
10 “เราส่งเชื้อโรคร้ายแรงมาในท่ามกลางพวกเจ้า เหมือนกับที่เราเคยทำกับอียิปต์
เราฆ่าคนหนุ่มๆของเจ้าในสงคราม
และพวกม้าก็ถูกยึดไป
เราทำให้คนตายในค่ายต่างๆของเจ้า ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งมาเข้าจมูกเจ้า
แต่เจ้าก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาเรา”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
11 “เราได้ทำลายพวกเจ้าบางคน
เหมือนกับที่เราได้ทำลายเมืองโสโดมและโกโมราห์
พวกเจ้าเป็นเหมือนไม้ที่ถูกเผาที่ถูกดึงออกมาจากไฟ
แต่เจ้าก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาเรา”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
12 “ดังนั้น อิสราเอล เราจะลงโทษเจ้า
เราจะทำอย่างนี้กับเจ้า
เตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเราพระเจ้าของเจ้าที่จะมาตัดสินเจ้า”
13 เพราะพระองค์เป็นผู้ที่สร้างภูเขาทั้งหลาย รวมทั้งสายลม
แล้วพระองค์บอกให้มนุษย์รู้ถึงแผนการของพระองค์
พระองค์สร้างเวลาเช้าและเวลาค่ำ
และพระองค์เดินไปบนภูเขาสูงๆของโลก
ชื่อของพระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
เพลงไว้ทุกข์สำหรับอิสราเอล
5 คนอิสราเอลเอ๋ย ฟังเพลงนี้ที่เราร้องขึ้นมาต่อต้านพวกเจ้า เป็นเหมือนเพลงไว้ทุกข์
2 อิสราเอลผู้เป็นหญิงสาวล้มลง
และนางก็จะไม่ลุกขึ้นมาอีก
นางถูกทอดทิ้งให้นอนอยู่ในที่ดินของนางเอง
แล้วไม่มีใครช่วยยกนางขึ้น
3 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พูดเรื่องครอบครัวของอิสราเอลว่า
“เมืองที่ส่งทหารออกไปสู้รบเป็นพัน
ก็จะเหลือรอดกลับมาเป็นร้อย
เมืองที่ส่งทหารออกไปสู้รบเป็นร้อย
ก็จะเหลือรอดกลับมาเป็นสิบ”
4 เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดไว้กับคนอิสราเอล
“แสวงหาเราสิ แล้วเจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
5 อย่าไปแสวงหาที่เมืองเบธเอล
อย่าเข้าไปในเมืองกิลกาล
และอย่าข้ามไปที่เมืองเบเออร์เชบา
เพราะคนกิลกาลจะถูกต้อนไปเป็นเชลยอย่างแน่นอน
และเมืองเบธเอลก็จะถูกทำลาย
6 แสวงหาพระยาห์เวห์สิ แล้วเจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
ไม่อย่างนั้นพระองค์จะพลุ่งออกไปเหมือนไฟต่อครอบครัวของโยเซฟ[n]
และไฟนั้นก็จะไปเผาผลาญเมืองเบธเอล และจะไม่มีใครดับได้
7 นี่ เจ้าผู้ที่เปลี่ยนความยุติธรรมให้ขมอย่างบอระเพ็ด
และซัดความถูกต้องลงกับพื้นดิน
8 พระเจ้าเป็นผู้สร้างกลุ่มดาวลูกไก่และกลุ่มดาวไถ
พระองค์เป็นผู้ที่เปลี่ยนความมืดให้เป็นรุ่งเช้า
และเปลี่ยนกลางวันให้มืดเป็นกลางคืน
พระองค์เรียกน้ำจากทะเล
และเทเป็นฝนลงบนพื้นโลก
ยาห์เวห์คือชื่อของพระองค์
9 พระองค์ทำลายคนที่เข้มแข็ง
ป้อมปราการจึงถูกทำลายลง”
10 พวกเจ้าเกลียดคนที่ศาลที่ต่อต้านความชั่วร้าย
พวกเจ้าเกลียดชังคนที่พูดความจริงในศาล
11 ดังนั้น เนื่องจากเจ้าเหยียบย่ำคนจน
และเจ้าก็รีดไถข้าวสาลีที่เป็นส่วนแบ่ง[o] ของพวกเขา
พวกเจ้าได้สร้างพวกบ้านที่สวยงามจากหินที่สกัดแล้ว
แต่เจ้าจะไม่ได้อยู่ในบ้านพวกนั้นหรอก
พวกเจ้าได้ปลูกสวนองุ่นที่มีค่า
แต่เจ้าจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนนั้นหรอก
12 เพราะเรารู้ว่าความผิดบาปของเจ้านั้นมีมากขนาดไหน
และรู้ว่าความบาปต่างๆของพวกเจ้านั้นมันมากมายมหาศาล
พวกเจ้าที่ชอบกดขี่คนเหล่านั้นที่ทำถูกต้อง
พวกเจ้าที่ชอบรับสินบน
และกีดกันไม่ให้คนจนได้รับความยุติธรรมที่ศาล
13 ดังนั้น ในเวลาที่ชั่วร้ายอย่างนี้
คนที่ฉลาดก็จะนิ่งเสีย
14 ให้แสวงหาความดีไม่ใช่ความชั่วร้าย
เพื่อเจ้าจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
และเพื่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะอยู่กับพวกเจ้า
เหมือนกับที่เจ้าชอบอ้างนั้น
15 ให้เกลียดความชั่วแต่รักความดี
และให้ตั้งความยุติธรรมขึ้นในศาล
ไม่แน่บางทีพระยาห์เวห์พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
อาจจะมีความเมตตากับคนของโยเซฟที่ยังเหลืออยู่ก็ได้
เวลาแห่งความเศร้าโศกครั้งใหญ่กำลังมา
16 พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น องค์เจ้าชีวิต ได้พูดไว้อย่างนี้ว่า “ตามลานเมืองทั้งหมดจะมีเสียงคร่ำครวญ
และตามท้องถนนทั้งหมดจะมีเสียงพูดว่า ‘แย่แล้ว แย่แล้ว’
และพวกเขาจะเรียกให้ชาวนาร้องคร่ำครวญ
และเรียกให้พวกที่ร้องไห้เป็นอาชีพมาร้องคร่ำครวญ
17 และจะมีการร้องไห้คร่ำครวญทั่วสวนองุ่นทุกแห่ง
เพราะเราจะผ่านไปท่ามกลางเจ้า”
พระยาห์เวห์บอกว่าอย่างนั้น
18 นี่ เจ้าคนที่ตั้งหน้าตั้งตาคอยวันพิพากษาของพระยาห์เวห์
ทำไมเจ้าถึงอยากเจอวันพิพากษาของพระยาห์เวห์นัก
วันนั้นจะมืดมิดไม่สว่าง
19 มันจะเหมือนกับคนที่วิ่งหนีสิงโต
แต่ไปเจอหมี
หรือคนที่หนีเข้าไปในบ้าน
และเอามือพิงฝาแล้วถูกงูกัดเข้า
20 วันของพระยาห์เวห์นั้น จะมืดมิดไม่สว่างไสว
มันจะมืดสนิทชนิดที่ไม่มีแสงรอดเข้ามาได้เลย
พระยาห์เวห์เหลืออดกับการนมัสการของคนอิสราเอล
21 พระยาห์เวห์พูดว่า
“เราเกลียดชัง เราเหยียดหยามงานเทศกาลต่างๆของเจ้า
เราทนไม่ได้กับการประชุมทางศาสนาต่างๆของเจ้า
22 ถึงแม้เจ้าจะถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องถวายจากเมล็ดพืชให้กับเรา
เราก็จะไม่ยอมรับพวกมัน
เราจะไม่สนใจเครื่องสังสรรค์บูชา
จากสัตว์เลี้ยงที่อ้วนพีของเจ้า
23 เอาเสียงเพลงหนวกหูของเจ้าไปให้ไกลๆจากเรา
เราจะไม่ฟังเสียงเพลงจากพิณใหญ่ของเจ้า
24 แต่ให้ความยุติธรรมหลั่งไหลมาเหมือนน้ำ
และความถูกต้องหลั่งไหลมาเหมือนลำธารที่ไหลอยู่ตลอดเวลา
25 ครอบครัวอิสราเอลเอ๋ย เจ้าเอาเครื่องเซ่นไหว้และเครื่องบูชามาถวายเราตลอดสี่สิบปีที่เจ้าอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งหรือ ไม่หรอก 26 แต่ตอนนี้ เจ้าจะยกสัคคูท[p]มาเป็นกษัตริย์ของเจ้าหรือ และเอาดวงดาวไควัน มาเป็นรูปเคารพและเทพเจ้าของเจ้า อย่างนั้นหรือ ซึ่งรูปเคารพทั้งสองนี้เจ้าเองเป็นคนสร้างขึ้นมาสำหรับตัวเจ้าเอง 27 ดังนั้นเราจะบีบบังคับเจ้าให้ไปเป็นเชลยไกลพ้นเมืองดามัสกัสไปเสียอีก” พระองค์ผู้มีชื่อว่ายาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้พูดไว้ว่าอย่างนั้น
อิสราเอลที่หยิ่งยโสจะไม่มีชีวิตที่ฟู่ฟ่าอีกต่อไป
6 นี่ พวกเจ้า พวกเจ้าที่ชอบอยู่อย่างสบายๆในเมืองศิโยน
พวกเจ้าที่รู้สึกปลอดภัยบนภูเขาสะมาเรีย
พวกเจ้าที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้นำที่สำคัญมากของชนชาติที่ดีที่สุด
คนที่ครอบครัวของอิสราเอลต้องมาพึ่งพิง
2 พวกผู้นำของเจ้าอวดกับเจ้าว่า “ข้ามไปที่เมืองคาลเนห์[q] และไปดูสิ
จากที่นั่นก็ให้ไปที่เมืองฮามัท[r] ที่ยิ่งใหญ่
แล้วให้ลงไปที่กัทของชาวฟีลิสเตีย
เมืองพวกนั้นดีกว่าเมืองศิโยนกับเมืองสะมาเรียหรือ
หรือดินแดนของพวกเขาใหญ่กว่าดินแดนของเจ้าหรือ”
3 พวกเจ้าคิดที่จะผลักวันแห่งความพินาศออกไปไกลๆ
แต่เจ้ากลับนำบัลลังก์แห่งความโหดร้ายให้เข้ามาใกล้ๆ
4 พวกเจ้านอนลงบนเตียงที่ตกแต่งด้วยงาช้าง
เจ้าเหยียดแข้งเหยียดขานอนอยู่บนโซฟา
และกินพวกลูกแกะที่คัดมาจากฝูง
และพวกลูกวัวอ้วนพีจากคอก
5 พวกเจ้าร้องตามเสียงพิณใหญ่
เหมือนกับดาวิด พวกเจ้าแต่งเพลงให้ตัวเองเข้ากับเครื่องดนตรี
6 พวกเจ้าดื่มจากชามเหล้าองุ่น
และทาตัวเองด้วยน้ำมันอย่างดี
แต่ไม่เศร้าโศกเสียใจกับความล่มจมของครอบครัวโยเซฟ
7 ดังนั้น ตอนนี้พวกเจ้าก็จะถูกจับไปเป็นเชลยชุดแรก และงานเลี้ยงของพวกเจ้าที่นอนเหยียดแข้งเหยียดขาอยู่บนโซฟาก็จะถึงจุดจบ 8 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตได้สาบานโดยอ้างชื่อของพระองค์เอง นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นบอก
“เราเกลียดชังความหยิ่งยโสของยาโคบ
และเราเกลียดชังป้อมปราการของเขา
ดังนั้นเราจะปล่อยให้ศัตรูมายึดเมืองสะมาเรีย
และทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนั้นไป”
จะมีคนอิสราเอลรอดชีวิตไม่กี่คน
9 ถ้ามีสิบคนหลงเหลืออยู่ในบ้านหลังหนึ่ง พวกเขาจะตายหมดทุกคน 10 แล้วญาติที่ใกล้ชิดที่สุดและสัปเหร่อก็จะมาแบกศพเหล่านั้นออกจากบ้านและจะมีคนหนึ่งถามคนที่อยู่ในสุดของบ้านว่า “ยังมีใครเหลืออยู่กับเจ้าในนั้นหรือเปล่า” เขาจะตอบว่า “ไม่มี” แล้วคนแรกก็จะพูดว่า “จุ๊ จุ๊ อย่าเอะอะไป อย่าได้เอ่ยชื่อของพระยาห์เวห์”
11 เพราะ ดูสิ พระยาห์เวห์จะออกคำสั่ง
พระองค์ก็จะขยี้บ้านหลังใหญ่ให้เป็นชิ้นๆ
และบ้านหลังเล็กให้ละเอียดไป
12 ม้าวิ่งอยู่บนชะเงื้อมหินได้หรือ
หรือว่าเขาเอาวัวมาไถทะเลหรือ
แต่เจ้าได้เปลี่ยนความยุติธรรมให้กลายเป็นยาพิษ
และเปลี่ยนผลไม้แห่งความถูกต้องให้กลายเป็นบอระเพ็ด
13 พวกเจ้าที่ชื่นชมยินดีที่ได้ยึดเมืองโลเดบาร์[s]
พวกเจ้าที่พูดว่า “เราได้ยึดเอาคารนาอิม[t] มาเป็นของเราด้วยกำลังของเราเองไม่ใช่หรือ”
14 “ครอบครัวอิสราเอลเอ๋ย คอยดูให้ดี เราจะทำให้ชนชาติหนึ่งมาต่อสู้กับพวกเจ้า” พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูดว่าอย่างนั้น “และพวกเขาก็จะกดขี่ข่มเหงเจ้าจากเมืองลีโอฮามัทไปจนถึงลำธารอาราบาห์”
นิมิตเกี่ยวกับตั๊กแตน
7 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตแสดงสิ่งนี้ให้ผมเห็น พระองค์กำลังทำให้ฝูงตั๊กแตนเกิดขึ้น ในขณะที่ผลผลิตชุดหลังกำลังเกิดผล มันเป็นผลผลิตชุดหลัง หลังจากที่กษัตริย์ได้เก็บเกี่ยวชุดแรกไปแล้ว 2 หลังจากที่ฝูงตั๊กแตนกินพืชผักในแผ่นดินจนหมดแล้ว ผมก็พูดว่า “พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต โปรดยกโทษให้ด้วย ยาโคบจะทนได้ยังไง เขาเป็นชนชาติที่อ่อนแอและเล็กมาก”
3 แล้วพระยาห์เวห์ก็เปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “มันจะไม่เกิดขึ้น”
นิมิตเกี่ยวกับไฟ
4 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต แสดงสิ่งนี้ให้ผมเห็น พระองค์เรียกห่าไฟให้ตกลงมา ไฟนั้นเผาผลาญมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ และไฟนั้นก็เริ่มเผาผลาญทุ่งนา 5 แล้วผมก็พูดว่า “พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ได้โปรดหยุดเถอะ ยาโคบจะไปทนได้ยังไง เพราะเขาเป็นชนชาติที่อ่อนแอและเล็กมาก” 6 แล้วพระยาห์เวห์ก็เปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “มันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว”
นิมิตเกี่ยวกับกำแพงที่ทำจากแร่ดีบุก
7 พระองค์แสดงสิ่งนี้ให้กับผมเห็น องค์เจ้าชีวิตยืนอยู่ข้างกำแพงที่ทำจากแร่ดีบุก[u] และพระองค์ก็ถือแร่ดีบุกอยู่ในมือ 8 แล้วพระองค์ก็ถามผมว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไรบ้าง” ผมตอบว่า “แร่ดีบุกครับท่าน” แล้วพระองค์ก็พูดกับผมว่า “ดูนี่สิ เรากำลังเอาแร่ดีบุกวางไว้ท่ามกลางอิสราเอลที่เป็นคนของเรา เราจะไม่ยอมยกโทษให้กับพวกเขาอีกต่อไป 9 สถานที่บูชาต่างๆของอิสอัคจะถูกทำลายลง และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลจะต้องพังพินาศ และเราจะลุกขึ้นมาต่อต้านและฆ่าฟันราชวงศ์ของเยโรโบอัมด้วยดาบ”
อามาซิยาห์พยายามหยุดอาโมส
10 อามาซิยาห์ นักบวชคนหนึ่งที่เบธเอล ส่งคนไปบอกกษัตริย์เยโรโบอัมของอิสราเอลว่า “อาโมสกำลังวางแผนชั่วร้ายต่อต้านท่านในอิสราเอลนี่เอง ผู้คนทั้งประเทศทนฟังคำพูดทั้งหลายของอาโมสไม่ได้
11 เพราะอาโมสพูดว่า ‘เยโรโบอัมจะต้องตายด้วยคมดาบ และคนอิสราเอลก็จะต้องถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยจากแผ่นดินของเขาอย่างแน่นอน’”
12 อามาซิยาห์พูดกับอาโมสว่า “ไปให้พ้น เจ้าผู้ที่เห็นนิมิต หนีกลับไปอยู่ที่แผ่นดินยูดาห์ ไปทำมาหากินและไปพูดแทนพระเจ้าที่นั่นซะ 13 แต่อย่าได้มาพูดแทนพระเจ้าที่เบธเอลอีกเป็นอันขาด เพราะที่นี่เป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ของกษัตริย์ และเป็นวิหารของอาณาจักร”
14 แล้วอาโมสก็ตอบอามาซิยาห์ว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นผู้พูดแทนพระเจ้ามืออาชีพ และข้าพเจ้าก็ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของผู้พูดแทนพระเจ้าด้วย ข้าพเจ้าเป็นคนดูแลฝูงสัตว์และต้นมะเดื่อ 15 แต่พระยาห์เวห์เอาข้าพเจ้ามาจากการติดตามดูแลฝูงแพะแกะ และพระยาห์เวห์พูดกับข้าพเจ้าว่า ‘ไปพูดแทนเรา ให้กับชาวอิสราเอลคนของเรา’ 16 ดังนั้น ตอนนี้ให้ท่านฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์ให้ดี ท่านพูดว่า ‘อย่าพูดแทนพระเจ้าต่อว่าคนอิสราเอล และอย่าเทศนาต่อว่าครอบครัวของอิสอัค’ 17 ดังนั้น พระยาห์เวห์ถึงได้พูดอย่างนี้ว่า ‘เมียของเจ้าจะกลายเป็นหญิงโสเภณีในเมืองนี้ และลูกชายลูกสาวของเจ้าจะถูกฆ่าฟันด้วยดาบ และคนอื่นๆก็จะมายึดที่ดินของเจ้าไปแบ่งปันกัน และเจ้าก็จะต้องไปตายในต่างแดน และอิสราเอลก็จะถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย และต้องย้ายออกไปจากดินแดนของตน’”
นิมิตเกี่ยวกับผลไม้ที่สุกงอม
8 พระยาห์เวห์แสดงสิ่งนี้ให้ผมเห็น คือผลไม้ที่สุกงอมตะกร้าหนึ่ง 2 พระยาห์เวห์พูดว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร”
ผมตอบว่า “ผลไม้ที่สุกงอมตะกร้าหนึ่งครับ”
แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “จุดจบ[v] มาถึงอิสราเอลคนของเราแล้ว เราจะไม่ยอมยกโทษให้กับพวกเขาอีกต่อไป 3 ในวันนั้น เสียงร้องเพลงต่างๆในวิหารจะกลายเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญ” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น “จะมีซากศพมากมาย และผู้คนก็จะมาขนพวกมันไปทิ้งอย่างเงียบๆในที่ทุกหนแห่ง”
นักธุรกิจสนใจแต่กำไรเท่านั้น
4 ฟังให้ดีเจ้าที่ชอบเหยียบย่ำคนจน
และพยายามกำจัดพวกเขาให้หมดไปจากแผ่นดิน
5 เจ้าพูดว่า “เมื่อไหร่เทศกาลพระจันทร์ใหม่จะหมดนะ
เราจะได้ไปขายข้าวสารของเราซะที
เมื่อไหร่วันหยุดทางศาสนาจะหมดนะ
เราจะได้เปิดคลังข้าวสารของเราออกขาย
เราจะทำถ้วยตวงให้เล็กกว่าปกติ ทำลูกตุ้มให้หนักกว่ามาตรฐานและโกงตราชั่ง
6 เราจะเอาแกลบมาผสมข้าวสารขาย
แล้วเราจะเอาเงินซื้อคนจนมาเป็นทาส
และซื้อคนที่ขัดสนด้วยราคาเท่ากับรองเท้าสานคู่เดียว”
7 พระยาห์เวห์ ที่คนอิสราเอลภาคภูมิใจนั้น พระองค์สาบานโดยอ้างชื่อของพระองค์เองว่า
“เราจะไม่มีวันลืมความชั่วร้ายทั้งหลายที่พวกเขาทำลงไป
8 แผ่นดินจะสะท้านเพราะสิ่งที่เจ้าทำนี้
และทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินนั้นก็จะเศร้าโศกเสียใจ
ทั้งแผ่นดินก็จะเอ่อท่วมท้นขึ้นมาเหมือนแม่น้ำไนล์
และจะซัดไปซัดมา สุดท้ายก็จมลงเหมือนแม่น้ำไนล์ในอียิปต์”
9 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
“ในวันนั้นเราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกในตอนเที่ยงวัน
และจะทำให้โลกนี้มืดมนไปตอนกลางวัน
10 เราจะเปลี่ยนการเฉลิมฉลองของเจ้าให้กลายเป็นเวลาเศร้าหมอง
และเปลี่ยนเสียงเพลงของเจ้าให้กลายเป็นเพลงไว้ทุกข์
เราจะทำให้เจ้าต้องสวมใส่ผ้ากระสอบรอบเอวของเจ้าทุกคน
และจะทำให้พวกเจ้าต้องโกนหัวเพราะเศร้าโศกเสียใจ
เราจะทำให้ความเศร้าโศกนั้นเหมือนเศร้าโศกที่สูญเสียลูกชายเพียงคนเดียวไป
วันเวลานั้นจะขมขื่นถึงที่สุด”
เวลาแห่งความอดอยากพระคำของพระเจ้า
11 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
“ดูสิ วันเหล่านั้นกำลังจะมาแล้ว
เป็นวันที่เราจะส่งความอดอยากหิวโหยมาในแผ่นดินนี้
มันไม่ใช่ความอดอยากหิวโหยอาหารและก็ไม่ใช่ความกระหายน้ำด้วย
แต่จะเป็นความอดอยากหิวโหยโอกาสที่จะได้ฟังพระคำของพระยาห์เวห์
12 พวกเขาท่องไปจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงทะเลตาย
และท่องจากเหนือจดตะวันออก
พวกเขาจะท่องกลับไปกลับมาเพื่อแสวงหาพระคำของพระยาห์เวห์
แต่พวกเขาก็จะหาไม่เจอ
13 ในวันนั้น หญิงสาวสวยๆและคนหนุ่มๆ
ก็จะเป็นลมล้มพับไปเพราะความกระหาย
14 และพวกนั้นที่สาบานว่าจะทำโน่นทำนี่โดยอ้างพระรูปปั้นของสะมาเรีย[w]
อ้างพระเจ้าของดาน[x]
อ้างพระเจ้าของเบเออร์เชบา[y]
คนที่สาบานพวกนี้จะล้มลงและจะไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกเลย”
นิมิตเห็นพระยาห์เวห์ยืนอยู่ที่แท่นบูชา
9 ผมเห็นองค์เจ้าชีวิต ยืนอยู่ข้างๆแท่นบูชา และพระองค์ก็พูดว่า
“ตีหัวเสาพวกนี้แล้วทั้งตึกนี้ก็จะสั่นสะเทือน
ทุบเสาพวกนี้ให้พังลงมาบนหัวของคนพวกนี้
และที่เหลือเราจะฆ่าด้วยดาบ
จะไม่มีใครวิ่งหนีไปได้
จะไม่มีใครรอดชีวิตไปได้
2 ถึงพวกเขาจะมุดลงไปถึงแดนคนตาย
มือของเราก็จะเอาพวกเขาขึ้นมาจากที่นั่น
ถ้าพวกเขาปีนขึ้นไปถึงสวรรค์
เราก็จะเอาพวกเขาลงมาจากที่นั่น
3 ถ้าพวกเขาไปแอบถึงยอดเขาคารเมล
เราก็จะค้นหาและเอาพวกเขามาจากที่นั่น
ถ้าพวกเขาไปแอบอยู่ใต้ก้นทะเลลึก
เราก็จะสั่งให้พญานาคไปกัดพวกเขาที่นั่น
4 ถ้าพวกเขาถูกกวาดต้อนอยู่ต่อหน้าศัตรูของเขา
เราจะให้พวกเขาถูกฆ่าฟันด้วยดาบ
และเราก็จะคอยจ้องทำร้ายพวกเขา
ไม่ใช่คอยเฝ้าดูแลพวกเขา”
5 องค์เจ้าชีวิต พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์อำนาจทั้งสิ้น
พระองค์แตะแผ่นดิน และมันก็หลอมละลายไป
และคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินก็เศร้าโศกเสียใจ
และแผ่นดินโลกก็เอ่อท่วมขึ้นมาเหมือนแม่น้ำไนล์
และจมลงเหมือนแม่น้ำไนล์ในอียิปต์
6 พระองค์สร้างห้องชั้นบนของพระองค์บนฟ้าสวรรค์
และเอาท้องฟ้ามาครอบโลกไว้
พระองค์เรียกน้ำจากทะเล
และเทมันเป็นฝนลงบนพื้นโลก
ยาห์เวห์คือชื่อของพระองค์
พระยาห์เวห์ประกาศว่าอิสราเอลจะต้องพินาศ
7 พระยาห์เวห์พูดว่า
“อิสราเอลเอ๋ย ในสายตาเรา พวกเจ้าเหมือนกับคนเอธิโอเปียเลย
เรานำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์
และนำคนฟีลิสเตียมาจากคัฟโทร์[z]
และนำคนอารัมมาจากคีร์[aa]
8 ดูสิ สายตาของพระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตคอยจ้องมองอาณาจักรที่เต็มไปด้วยบาป[ab]
และเรายาห์เวห์ ก็จะทำลายอาณาจักรนั้นให้หายไปจากโลกนี้
แต่เราจะไม่ทำลายครอบครัวของยาโคบไปจนหมดสิ้น”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
9 “เพราะดูสิ เราจะออกคำสั่ง
และเราจะเขย่าครอบครัวของอิสราเอลให้กระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆ
เราจะร่อนอิสราเอลเหมือนกับร่อนเมล็ดทรายบนตะแกรง
และจะไม่มีเมล็ดกรวดเล็ดลอดตกดินไปได้เลย
10 คนของเราทุกคนที่เป็นคนบาป
ที่ชอบพูดว่า ‘เรื่องเลวร้ายตามเราไม่ทันหรอก’
คนพวกนี้ทุกคนจะต้องตายด้วยคมดาบ
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International