Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Bible in 90 Days

An intensive Bible reading plan that walks through the entire Bible in 90 days.
Duration: 88 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เลวีนิติ 1:1-14:32

พิธีบูชาและเครื่องบูชา

แล้วพระยาห์เวห์เรียกโมเสสมาและพูดกับเขาจากเต็นท์นัดพบว่า “ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘เมื่อใครก็ตามในหมู่พวกเจ้านำสัตว์มาถวายเป็นเครื่องบูชาให้กับพระยาห์เวห์ สัตว์ที่จะเอามาถวายนั้นจะต้องเอามาจากฝูงวัวหรือฝูงแพะแกะ

ถ้าเครื่องบูชานั้นเป็นเครื่องเผาบูชา ที่เอามาจากฝูงวัว เขาจะต้องเลือกวัวตัวผู้ที่ไม่มีตำหนิ แล้วให้เอามันไปที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ เพื่อมันจะได้เป็นที่ยอมรับ

เขาต้องวางมือลงบนหัวของสัตว์ตัวนั้นที่เอามาถวาย เพื่อให้พระยาห์เวห์ยอมรับมันจากคนนั้น เพื่อกำจัดบาปให้กับคนนั้น

เขาจะต้องฆ่าวัวตัวนั้นเองต่อหน้าพระยาห์เวห์ แล้วลูกชายของอาโรนที่เป็นนักบวชจะเป็นคนเอาเลือดของวัวนั้นมาให้พระยาห์เวห์ พวกเขาต้องสาดเลือดนั้นไปทุกๆด้านของแท่นบูชาที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าของเต็นท์นัดพบ หลังจากนั้น เจ้าของจะต้องถลกหนังวัวตัวนั้นและตัดเนื้อของมันออกเป็นชิ้นๆ แล้วพวกนักบวช ที่เป็นลูกชายของอาโรน ก็จะก่อไฟขึ้นที่แท่นบูชาและนำไม้ฟืนมาวางเรียงกันบนกองไฟ พวกเขาต้องเอาส่วนที่เป็นเนื้อ ส่วนหัวและไขมันของวัวตัวนั้นมาวางเรียงกันบนฟืนที่สุมไฟอยู่บนแท่นบูชา ส่วนเครื่องในและขาของมันให้เจ้าของนำไปล้างน้ำ แล้วนักบวชจะนำไปเผาจนหมดบนแท่นบูชา เป็นของขวัญอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

10 ถ้าเขาเอาวัวหรือแกะหรือแพะ มาถวายเป็นเครื่องเผาบูชา เขาต้องถวายสัตว์ตัวผู้ที่ไม่มีตำหนิ 11 เขาต้องเอามันไปฆ่าต่อหน้าพระยาห์เวห์ ทางทิศเหนือของแท่นบูชา และพวกนักบวชที่เป็นลูกชายของอาโรน จะเอาเลือดของมันไปสาดทุกๆด้านของแท่นบูชา 12 เจ้าของจะต้องหั่นสัตว์ตัวนั้นออกเป็นชิ้นๆและนักบวชจะเอาส่วนที่เป็นเนื้อ ส่วนหัวและไขมันของมัน ไปวางเรียงกันบนฟืนที่สุมไฟอยู่บนแท่นบูชา 13 ส่วนเครื่องในและขาของมันให้เจ้าของเอาไปล้างน้ำ แล้วนักบวชจะเอาไปเผาจนหมดบนแท่นบูชา มันเป็นของขวัญอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

14 ถ้าเขาเอานกมาถวายเป็นเครื่องเผาบูชาให้กับพระยาห์เวห์ เขาต้องใช้นกเขาหรือนกพิราบที่ยังหนุ่มๆ 15 นักบวชต้องเป็นคนเอานกนั้นไปที่แท่นบูชา และบิดหัวมัน นำไปเผาบนแท่นบูชา เลือดของมันจะไหลลงทางด้านข้างของแท่นบูชา 16 เจ้าของต้องดึงกระเพาะข้าว[a] และถอนขนนกออก แล้วโยนทิ้งไปทางด้านตะวันออกของแท่นบูชาซึ่งเป็นที่ทิ้งขี้เถ้า 17 นักบวชต้องจับปีกทั้งสองแล้วฉีกนกออกแต่ต้องไม่ขาดจากกัน นักบวชจะนำมันไปเผาบนแท่นบูชาที่มีไม้ฟืนสุมอยู่บนกองไฟ เป็นของขวัญอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

เครื่องบูชาจากเมล็ดพืช

เมื่อมีคนถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชให้กับพระยาห์เวห์ ขอให้เครื่องบูชาของเขานั้นเป็นแป้งอย่างดีที่สุด และเขาต้องเทน้ำมันลงไปและใส่กำยาน[b] ลงไปด้วย จากนั้น เขาต้องเอาเครื่องบูชานี้ไปให้พวกนักบวช ที่เป็นลูกชายของอาโรน แล้วนักบวชจะต้องหยิบแป้งอย่างดี ที่มีน้ำมันกับกำยานนั้นขึ้นมาหนึ่งกำมือ แล้วก็เอาไปเผาบนแท่นบูชา เป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชทั้งหมด เป็นของขวัญอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชส่วนที่เหลือ จะเป็นของอาโรนและพวกลูกชายของเขา เพราะมันเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์

เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชอบ

เมื่อเจ้าถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชที่อบจากเตา คือ ขนมปังไม่ใส่เชื้อฟู ผสมน้ำมัน หรือขนมปังแผ่นบางๆไม่ใส่เชื้อฟู ทาด้วยน้ำมัน เจ้าต้องใช้แป้งอย่างดีที่สุดมาทำ ถ้าเจ้าถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ที่ปิ้งบนแผ่นเหล็กกลม เจ้าก็ต้องทำจากแป้งอย่างดี ที่ผสมน้ำมันและไม่ใส่เชื้อฟู เจ้าต้องทำให้มันแตกเป็นชิ้นเล็กๆแล้วเทน้ำมันลงบนมัน มันคือเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ถ้าเจ้าถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ที่ทอดในกระทะ เจ้าต้องทำจากแป้งอย่างดี ในน้ำมัน

เมื่อเจ้าเอาเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช มาถวายให้กับพระยาห์เวห์ ไม่ว่าจะทำด้วยวิธีไหนก็ตามที่บอกมาแล้ว เจ้าต้องเอามันไปให้กับนักบวช แล้วนักบวชก็จะเอาไปที่แท่นบูชา หลังจากนั้น นักบวชจะหยิบออกมาบางส่วน เป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชาทั้งหมด แล้วนำไปเผาบนแท่นบูชา เป็นของขวัญ อันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ 10 เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชส่วนที่เหลือ จะเป็นของอาโรนและพวกลูกชายของเขา เพราะมันเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์

11 เครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ที่เจ้าเอามาถวายให้พระยาห์เวห์นั้น ต้องไม่ใส่เชื้อฟู เพราะเจ้าไม่สามารถเผาเชื้อฟูหรือน้ำเชื่อมจากผลไม้ เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ได้ 12 แต่เจ้าใช้เชื้อฟูกับน้ำหวานจากผลไม้ ถวายพระยาห์เวห์ได้ ถ้ามันเป็นผลผลิตที่ได้จากการเก็บเกี่ยวครั้งแรกของปี แต่จะต้องไม่เอาไปเผาบนแท่นบูชาเพื่อเป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ 13 เจ้าจะต้องปรุงเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชทุกอย่างด้วยเกลือ[c] เจ้าจะต้องไม่ลืมใส่เกลือที่เป็นเครื่องเตือนใจถึงสัญญาที่เจ้ากับพระเจ้าของเจ้ามีต่อกัน ลงในเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชด้วย และเจ้าจะต้องถวายเกลือพร้อมๆกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชทั้งหมดของเจ้าด้วย

เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชรุ่นแรก

14 ถ้าเจ้าเอาเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ที่เก็บเกี่ยวเป็นรุ่นแรก มาถวายให้กับพระยาห์เวห์ เจ้าต้องถวายรวงใหม่ๆที่บดเมล็ดจนละเอียดและย่างไฟมาแล้ว เป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ที่เก็บเกี่ยวเป็นรุ่นแรก 15 เจ้าต้องใส่น้ำมันลงไปในเมล็ดพืชที่บดแล้วนั้น พร้อมกับกำยานบนมันด้วย มันเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช 16 นักบวชต้องเอากำยานทั้งหมดกับส่วนหนึ่งของเมล็ดพืชที่บดนี้และน้ำมัน มาเป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ เป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชาทั้งหมด

เครื่องสังสรรค์บูชา

ถ้าเครื่องบูชาของเขาเป็นเครื่องสังสรรค์บูชา และถ้าเขาใช้วัว เขาสามารถใช้วัวตัวผู้หรือตัวเมียถวายให้กับพระยาห์เวห์ก็ได้ แต่ต้องเป็นวัวที่ไม่มีตำหนิ เขาต้องวางมือลงบนหัวของมัน และเอามันไปฆ่าที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ และพวกนักบวชที่เป็นลูกชายของอาโรน จะต้องเอาเลือดของมันไปสาดทุกๆด้านของแท่นบูชา เครื่องสังสรรค์บูชา เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ เขาจะต้องถวายส่วนที่เป็นไขมันที่ติดอยู่ในเครื่องใน และไขมันทั้งหมดที่อยู่รอบๆเครื่องใน ไตทั้งสองข้าง ไขมันที่ติดอยู่รอบๆไต คือส่วนที่ติดกับกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง และพังผืดของตับ เขาจะต้องเอามันออกพร้อมกับไต ลูกชายของอาโรนต้องเอามันไปเผาบนแท่นบูชาพร้อมกับเครื่องเผาบูชา ที่อยู่บนกองฟืนที่สุมไฟอยู่ เป็นของขวัญอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

ถ้าคนเอาแกะหรือแพะมาถวายเป็นเครื่องสังสรรค์บูชาให้กับพระยาห์เวห์ สัตว์นั้นจะเป็นตัวผู้หรือตัวเมียก็ได้ แต่ต้องไม่มีตำหนิ ถ้าเขาถวายแกะเป็นเครื่องบูชา เขาต้องนำมันไปไว้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ แล้ววางมือของเขาลงบนหัวของแกะตัวนั้น แล้วเขาต้องฆ่าแกะตัวนั้นที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ และพวกนักบวชที่เป็นลูกชายของอาโรน ก็จะเอาเลือดของมันไปสาดทุกๆด้านของแท่นบูชา แล้วเขาต้องเอาส่วนหนึ่งของเครื่องสังสรรค์บูชา มาเป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ เขาจะต้องถวายส่วนที่เป็นไขมันทั้งหมด ตั้งแต่หางไปถึงปลายสุดของกระดูกสันหลัง ไขมันที่อยู่ใกล้กับส่วนเครื่องใน และที่ติดอยู่รอบๆเครื่องใน 10 ไตทั้งสองข้าง กับไขมันของมันที่ติดอยู่กับกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง และพังผืดของตับ เขาต้องเอามันออกไปพร้อมๆกับไตทั้งสองข้าง 11 แล้วนักบวชจะเอามันไปเผาบนแท่นบูชา เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์

12 ถ้าเขาใช้แพะเป็นเครื่องสังสรรค์บูชา เขาต้องนำมันมาต่อหน้าพระยาห์เวห์ 13 แล้ววางมือของเขาลงบนหัวของมัน และฆ่ามันที่หน้าเต็นท์นัดพบ พวกนักบวชที่เป็นลูกชายของอาโรน ต้องเอาเลือดของมันไปสาดทุกๆด้านของแท่นบูชา 14 เขาต้องนำส่วนหนึ่งของเครื่องสังสรรค์บูชานี้มาเป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ คือ ส่วนไขมันที่ติดอยู่กับเครื่องใน และที่ติดอยู่รอบๆเครื่องใน 15 ส่วนไตทั้งสองข้าง กับไขมันของมันที่อยู่ส่วนล่างของกล้ามเนื้อหลัง และพังผืดของตับ เขาต้องเอามันออกมาพร้อมๆกับไตทั้งสองข้าง 16 แล้วนักบวชจะเป็นคนเอามันไปเผาบนแท่นบูชา เป็นของขวัญ อันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ ส่วนของไขมันทั้งหมดจะต้องเป็นของพระยาห์เวห์ 17 นี่จะเป็นกฎที่เจ้าต้องทำตามตลอดชั่วลูกชั่วหลานไม่ว่าเจ้าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม คือ เจ้าจะต้องไม่กินส่วนที่เป็นไขมันและเลือดของสัตว์’”

เครื่องบูชาสำหรับบาปที่ไม่ได้ตั้งใจ

(ลนต. 6:24-30)

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า เมื่อมีใครทำบาปโดยไม่ได้ตั้งใจ และเกิดไปทำอะไรก็ตามที่พระยาห์เวห์สั่งไว้ว่าอย่าทำ

ถ้าคนที่ทำผิดบาปนั้นเป็นนักบวชที่ได้รับการเจิมมาแล้ว[d] เขาก็จะทำให้ประชาชนพลอยมีความผิดไปด้วย เขาจะต้องเอาวัวตัวผู้จากฝูงมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง สำหรับบาปที่เขาได้ทำลงไป และวัวตัวนั้นต้องไม่มีตำหนิ เขาต้องเอาวัวตัวนั้นไปที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าพระยาห์เวห์ และวางมือของเขาลงบนหัวของมัน แล้วฆ่ามันต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชที่ได้รับการเจิมนั้น จะต้องเอาเลือดส่วนหนึ่งของวัวตัวผู้นั้นไปที่เต็นท์นัดพบ แล้วจุ่มนิ้วมือของเขาลงในเลือดและพรมเลือดเจ็ดครั้งที่หน้าผ้าม่านของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชคนนั้นต้องเอาเลือดป้ายตรงปลายเชิงงอนของแท่นบูชาที่เผาเครื่องหอม แท่นบูชานี้อยู่ในเต็นท์นัดพบ ต่อหน้าพระยาห์เวห์ และเขาต้องเอาส่วนที่เป็นไขมันของวัวตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาชำระล้างตัวนั้น รวมทั้งไขมันที่อยู่ในเครื่องในและรอบๆเครื่องในนั้น เขาต้องเอาไตทั้งสองข้างกับไขมันที่ติดอยู่กับไตนั้น ที่อยู่ส่วนล่างของกล้ามเนื้อหลัง และเขาต้องเอาพังผืดของตับ เขาต้องเอามันออกไปพร้อมๆกับไตทั้งสองข้าง 10 เขาต้องเอาส่วนไขมันทั้งหมดออกจากเครื่องบูชาชำระล้าง เหมือนกับที่เขาเอาไขมันออกจากวัวที่ใช้เป็นเครื่องสังสรรค์บูชา แล้วนักบวชต้องเอาไขมันพวกนั้นมาถวายบนแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา 11-12 แต่นักบวชจะต้องเอาส่วนที่เหลือทั้งหมดของวัว คือส่วนหนัง ส่วนเนื้อทั้งหมด ส่วนหัว ส่วนขา ส่วนเครื่องในและขี้ของมันออกไปนอกค่าย ไปยังที่ที่บริสุทธิ์ คือที่ทิ้งขี้เถ้า แล้วเผามันบนกองฟืนที่สุมไฟอยู่ ตรงที่ทิ้งขี้เถ้านั้น

13 ถ้าชนชาติอิสราเอลทั้งหมดทำผิดบาปโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่มีใครรู้ตัวว่าได้ทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์สั่งห้ามไม่ให้ทำ พวกเขาก็จะมีความผิด 14 เมื่อพวกเขารู้ถึงความบาปที่ได้ทำนั้น คนในที่ประชุมต้องนำวัวตัวผู้มาตัวหนึ่งจากฝูง มาเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง พวกเขาต้องเอามันมาที่หน้าเต็นท์นัดพบ 15 แล้วพวกผู้นำของชุมชนนั้นต้องวางมือลงบนหัวของมันต่อหน้าพระยาห์เวห์ และต้องฆ่าวัวตัวนั้นต่อหน้าพระยาห์เวห์ 16 แล้วนักบวชที่ได้รับการเจิมมาแล้ว ต้องนำเลือดบางส่วนของวัวตัวผู้นั้นไปที่เต็นท์นัดพบ 17 แล้วนักบวชนั้นต้องจุ่มนิ้วของเขาลงในเลือด แล้วพรมลงไปที่หน้าผ้าม่านเจ็ดครั้งต่อหน้าพระยาห์เวห์ 18 แล้วเอาเลือดส่วนหนึ่งทาที่เชิงงอนของแท่นบูชาที่ตั้งอยู่หน้าพระยาห์เวห์ในเต็นท์นัดพบ ส่วนเลือดที่เหลือทั้งหมด ให้เทลงไปที่ฐานแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา ที่ตั้งอยู่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 19 เขาต้องเอาส่วนที่เป็นไขมันทั้งหมดออกมาและนำไปเผาบนแท่นบูชา 20 เขาต้องทำกับวัวตัวผู้นี้เหมือนกับที่ทำกับวัวที่เป็นเครื่องบูชาชำระล้างให้กับนักบวช และด้วยวิธีนี้นักบวชจะชำระล้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทนประชาชนชาวอิสราเอลและพวกเขาจะได้รับการอภัย 21 หลังจากนั้น ให้แบกวัวตัวนั้นออกไปนอกค่ายและเผามันเหมือนกับที่เผาวัวตัวแรกนั้น มันเป็นเครื่องบูชาชำระล้างสำหรับชุมชน

22 เมื่อผู้นำทำผิดบาปและได้ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาสั่งห้ามไว้ โดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเขาก็จะมีความผิด 23 เมื่อเขาเกิดรู้ตัวขึ้นมาว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นบาป เขาต้องเอาแพะตัวผู้มาตัวหนึ่งจากฝูง สำหรับเป็นเครื่องบูชา แพะตัวนี้ต้องไม่มีตำหนิ 24 แล้วเขาต้องวางมือลงบนหัวของมัน และนำมันไปฆ่าในที่สำหรับฆ่าเครื่องเผาบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ มันเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง 25 นักบวชจะต้องเอานิ้วป้ายเลือดของเครื่องบูชาชำระล้างนี้ และไปทาที่เชิงงอนของแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา ส่วนเลือดที่เหลือทั้งหมด เขาจะนำไปเทที่ฐานแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา 26 นักบวชต้องเอาส่วนที่เป็นไขมันทั้งหมดของแพะมาเผาบนแท่นบูชา เขาต้องเผามันให้เหมือนที่เขาเผาส่วนไขมันจากเครื่องสังสรรค์บูชา ด้วยวิธีนี้นักบวชจะชำระล้างแท่นบูชาแทนผู้นำคนนั้นเพราะบาปที่เขาทำให้แท่นบูชาแปดเปื้อน แล้วเขาจะได้รับการอภัย

27 ถ้าคนหนึ่งคนใดในชุมชนทำผิดบาปโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์สั่งห้ามไว้ไม่ให้ทำ เขาก็จะมีความผิด 28 เมื่อเขารู้ตัวขึ้นมาว่าทำผิด เขาต้องนำแพะตัวเมียจากฝูงมาตัวหนึ่ง เป็นเครื่องบูชาสำหรับบาปที่เขาทำ แต่แพะตัวนั้นจะต้องไม่มีตำหนิ 29 เขาต้องวางมือลงบนหัวของสัตว์ที่จะใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และนำมันไปฆ่าในที่สำหรับฆ่าเครื่องเผาบูชา 30 แล้วนักบวชต้องเอานิ้วป้ายเลือดบางส่วนของแพะ เอาไปทาที่เชิงงอนของแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา และเทเลือดแพะส่วนที่เหลือลงที่ฐานของแท่นบูชานั้น 31 เขาต้องเลาะส่วนที่เป็นไขมันทั้งหมดของแพะตัวนั้นออกเหมือนกับที่เขาเอาไขมันออกจากเครื่องสังสรรค์บูชา และนักบวชต้องเอาไขมันเหล่านี้ไปเผาบนแท่นบูชา เป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ โดยวิธีนี้ นักบวชจะชำระล้างแท่นบูชาแทนคนๆนั้นและเขาจะได้รับการอภัย

32 ถ้าเขาใช้แกะเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เขาต้องเอาแกะตัวเมียที่ไม่มีตำหนิ 33 แล้วเขาต้องวางมือลงบนหัวเครื่องบูชาชำระล้างนั้น และเอามันไปฆ่าในที่สำหรับฆ่าเครื่องเผาบูชา 34 นักบวชต้องเอานิ้วป้ายเลือดบางส่วนของมัน ไปทาที่เชิงงอนของแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา และเทเลือดแกะส่วนที่เหลือทั้งหมดลงที่ฐานของแท่นบูชานั้น 35 แล้วนักบวชต้องเอาส่วนไขมันทั้งหมดของแกะออก เหมือนกับที่เอาไขมันออกจากแกะที่ใช้เป็นเครื่องสังสรรค์บูชา และนักบวชก็เอาไขมันทั้งหมดไปเผาบนแท่นบูชา พร้อมกับเครื่องบูชาอื่นๆเป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ โดยวิธีนี้ นักบวชจะชำระล้างแท่นบูชาแทนคนๆนั้นเพราะบาปที่เขาทำให้แท่นบูชาแปดเปื้อนและเขาจะได้รับการอภัย

บาปอย่างอื่นที่ทำโดยไม่ได้ตั้งใจ

ถ้าคนทำบาปในกรณีดังต่อไปนี้ คือ ถ้าคนไหนไปเห็นหรือได้ยินอะไรมา แต่ไม่ยอมพูด ทั้งๆที่รู้เห็นเป็นพยาน เขาจะต้องรับโทษจากบาปนี้

หรือมีใครไปจับต้องถูกสิ่งที่ไม่สะอาด[e] อาจจะเป็นซากของสัตว์ป่า หรือซากของสัตว์ที่ไม่สะอาด หรือซากสัตว์เลื้อยคลานที่ไม่สะอาด โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ เขาก็ยังคงไม่สะอาดและมีความผิดอยู่ดี

หรือเมื่อมีใครไปแตะต้องถูกสิ่งที่ไม่สะอาดของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่สะอาดแบบไหนก็ตามโดยไม่รู้ตัว ซึ่งทำให้เขาไม่สะอาด แล้วสุดท้ายเขาก็รู้เข้า เขาก็มีความผิด

หรือมีใครสาบานแบบชุ่ยๆไม่ได้คิดเสียก่อน ไม่ว่าสาบานที่จะทำเรื่องร้ายหรือเรื่องดีก็ตาม ไม่ว่าเขาจะสาบานชุ่ยๆอะไรไป แล้วเกิดลืมขึ้นมา สุดท้ายถึงนึกขึ้นได้ เขาก็มีความผิด ถ้าใครที่ทำผิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่บอกมานี้ ก็ให้คนๆนั้นสารภาพบาปที่เขาทำ เขาต้องเอาค่าปรับมาถวายพระยาห์เวห์ สำหรับบาปที่เขาทำไป เขาต้องเอาแกะตัวเมีย หรือแพะตัวเมียมาจากฝูง เพื่อเป็นของถวายชดใช้ ด้วยวิธีนี้นักบวชจะชำระล้างแท่นบูชาแทนคนๆนั้นเพราะบาปที่เขาทำให้แท่นบูชาแปดเปื้อน

ถ้าคนๆนั้นไม่สามารถซื้อแกะ เขาอาจใช้นกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว มาเป็นค่าปรับสำหรับบาปที่เขาทำไป นกตัวหนึ่งใช้เป็นของถวายชดใช้ อีกตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชา เขาต้องเอานกทั้งสองตัวไปให้กับนักบวช แล้วนักบวชก็จะถวายตัวที่ใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้างก่อน นักบวชต้องบิดคอมัน แต่ไม่ให้ส่วนหัวหลุดจากตัว แล้วเขาต้องพรมเลือดบางส่วนของเครื่องบูชาชำระล้างนี้ไปที่ด้านข้างของแท่นบูชา เลือดส่วนที่เหลือให้เทลงที่ฐานของแท่นบูชา มันเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง 10 นกตัวที่สอง ให้เอาไปเป็นเครื่องเผาบูชาตามกฎที่ให้ไว้ ด้วยวิธีนี้นักบวชจะชำระล้างแท่นบูชาแทนคนๆนั้น เพราะบาปที่เขาทำไปทำให้แท่นบูชาแปดเปื้อน แล้วเขาจะได้รับการอภัย

11 ถ้าคนๆนั้นไม่สามารถซื้อนกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว ก็ให้เขาใช้แป้งอย่างดีแปดถ้วย[f] มาเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง แต่ต้องไม่เทน้ำมันและกำยานลงในแป้งนั้น เพราะมันเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง 12 เขาต้องนำแป้งนั้นไปให้นักบวช แล้วนักบวชจะหยิบแป้งขึ้นมาหนึ่งกำมือ เป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชาทั้งหมด และนำไปเผาบนแท่นบูชา เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ มันเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง 13 ด้วยวิธีนี้นักบวชจะชำระล้างแท่นบูชาแทนคนๆนั้น เพราะบาปหนึ่งบาปใดในบาปเหล่านี้ที่คนนั้นทำไป ทำให้แท่นบูชาแปดเปื้อน แล้วเขาจะได้รับการอภัย ส่วนแป้งที่เหลือจะเป็นของนักบวช เหมือนกับเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช”

14 แล้วพระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 15 “เมื่อมีใครทำผิดโดยไม่รู้ตัวต่อสิ่งที่ได้สงวนไว้ให้กับพระยาห์เวห์[g] เขาจะต้องชดใช้ให้กับพระยาห์เวห์ เป็นแกะตัวผู้อย่างดีที่ไม่มีตำหนิจากฝูง หรือเป็นจำนวนเงินที่เท่าเทียมกัน โดยใช้น้ำหนักมาตรฐานของวิหาร มันเป็นของถวายชดใช้ 16 คนๆนั้นต้องชดใช้สำหรับความผิดที่เขาได้ทำต่อสิ่งที่ได้สงวนไว้ให้กับพระยาห์เวห์ และจ่ายเพิ่มอีกหนึ่งในห้า แล้วเอาไปให้กับนักบวช และโดยวิธีนี้นักบวชจะกำจัดบาปเพื่อเขา โดยใช้แกะตัวผู้เป็นของถวายชดใช้ และเขาจะได้รับการอภัย

17 เมื่อคนๆหนึ่งทำบาปและทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์สั่งห้ามไว้ว่าอย่าทำ โดยไม่รู้ตัว เขาก็มีความผิดและต้องรับโทษจากบาปนั้นอยู่ดี 18 เขาต้องนำแกะตัวผู้ที่ไม่มีตำหนิจากฝูงมาให้นักบวช ให้มีมูลค่าเท่ากับที่กำหนดไว้สำหรับเป็นของถวายชดใช้ โดยวิธีนี้นักบวชจะกำจัดบาปเพื่อเขาเพราะเขาทำผิดโดยไม่รู้ตัว แล้วเขาจะได้รับการอภัย 19 มันเป็นของถวายชดใช้สำหรับความผิดที่เขาได้ทำต่อพระยาห์เวห์”

ของชดใช้สำหรับสิ่งที่โกงเขา

(กดว. 5:5-10)

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “เมื่อมีคนๆหนึ่งทำผิดและล่วงเกินพระยาห์เวห์ ด้วยการทำบาปต่อไปนี้ คือโกหกเพื่อนบ้านเกี่ยวกับของที่เพื่อนบ้านฝากให้เขาดูแล หรือเกี่ยวกับของที่เอามาวางมัดจำ[h]ที่เขาได้รับ หรือเกี่ยวกับสิ่งที่กู้ยืมมา หรือของที่ไปปล้นหรือโกงเพื่อนบ้านมา หรือเจอของหายแต่โกหกว่าไม่เจอ หรือสาบานว่าไม่ได้ทำในสิ่งที่ได้ทำลงไปซึ่งเป็นบาป เมื่อคนๆนั้นได้ทำบาป เขามีความผิด เขาต้องคืนสิ่งที่เขาได้ปล้นมา หรือโกงมา หรือของที่คนอื่นฝากให้เขาดูแล หรือของที่เขาเจอ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เขาได้สาบานเท็จไว้ เขาต้องชดใช้เต็มมูลค่าของนั้น และต้องเพิ่มไปอีกหนึ่งในห้าของมูลค่าของนั้น เขาต้องชดใช้ให้กับเจ้าของ ในวันที่พิสูจน์ได้ว่าเขาทำผิดจริง

และเขาต้องเอาของถวายชดใช้มาให้กับพระยาห์เวห์ เป็นแกะตัวผู้ที่ไม่มีตำหนิจากฝูง ตามมูลค่าที่ถูกต้องสำหรับเป็นของถวายชดใช้ แล้วเอามาให้กับนักบวช และโดยวิธีนี้นักบวชจะกำจัดบาปเพื่อเขาต่อหน้าพระยาห์เวห์ และเขาจะได้รับการอภัยสำหรับอะไรก็ตามที่เขาทำไปซึ่งทำให้เขามีความผิด”

เครื่องเผาบูชา

(อพย. 29:38-43; กดว. 28:1-8)

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้สั่งอาโรนและพวกลูกๆของเขาว่า ‘นี่คือกฎระเบียบสำหรับเครื่องเผาบูชา เครื่องเผาบูชาจะต้องอยู่บนไฟบนแท่นบูชาตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า และไฟบนแท่นบูชาจะต้องเผาอยู่ตลอดเวลา 10 นักบวชต้องสวมเสื้อคลุมที่เป็นผ้าลินิน และสวมชุดชั้นในที่เป็นผ้าลินินด้วย เครื่องเผาบูชาที่ถูกไฟเผาบนแท่นบูชา จนกลายเป็นขี้เถ้านั้น นักบวชจะต้องโกยเอาขี้เถ้านั้นมาวางไว้ข้างๆแท่นบูชา 11 จากนั้นนักบวชก็ถอดเสื้อผ้าออก แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวอื่นแทน แล้วเอาขี้เถ้านั้นออกไปนอกค่าย ไปไว้ในสถานที่ที่บริสุทธิ์ 12 แต่ไฟบนแท่นบูชาจะต้องเผาต่อไปเรื่อยๆ ระวังให้ดี อย่าให้ไฟนั้นดับ นักบวชจะต้องคอยเติมฟืนลงไปทุกๆเช้า และคอยจัดการเรื่องเครื่องเผาบูชาบนแท่นนี้ และเผาส่วนไขมันของเครื่องสังสรรค์บูชาบนแท่นบูชานี้ 13 ไฟบนแท่นบูชาต้องเผาอยู่ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้มันดับ

เครื่องบูชาจากเมล็ดพืช

14 นี่คือกฎระเบียบสำหรับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช พวกลูกชายของอาโรนต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชต่อหน้าพระยาห์เวห์บนแท่นบูชา 15 นักบวชต้องหยิบแป้งอย่างดี กับน้ำมัน จากเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชมาหนึ่งกำมือ พร้อมกับกำยาน[i] ทั้งหมด แล้วก็เอาส่วนนี้ ซึ่งเป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชาทั้งหมด ไปเผาบนแท่นบูชา เป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

16 อาโรนกับพวกลูกชายของเขากินส่วนที่เหลือได้ ต้องกินมันโดยไม่มีเชื้อฟู และต้องกินในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาต้องกินมันในลานของเต็นท์นัดพบ 17 ต้องเอามันไปอบโดยไม่ใส่เชื้อฟู เราให้ส่วนนี้กับพวกเขาเป็นส่วนแบ่งจากพวกของขวัญ มันเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เหมือนกับเครื่องบูชาชำระล้างและเป็นของถวายชดใช้ 18 ชายทุกคนที่เป็นลูกหลานของอาโรนก็กินมันได้ มันเป็นส่วนแบ่งจากพวกของขวัญที่นำมาถวายพระยาห์เวห์ ที่ให้กับลูกหลานของเขาตลอดไป ใครก็ตามที่แตะต้องเครื่องบูชาเหล่านี้ก็จะถูกอุทิศไว้ให้กับพระยาห์เวห์’”

เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชของนักบวช

19 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 20 “นี่คือเครื่องบูชาที่อาโรนและพวกลูกชายของเขา ต้องเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ ในวันที่อาโรนได้รับการเจิม ให้เป็นนักบวชสูงสุด คือแป้งอย่างดีประมาณสองลิตรเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชประจำวัน ถวายครึ่งหนึ่งในตอนเช้าและอีกครึ่งหนึ่งในตอนเย็น 21 ให้เอาแป้งผสมกับน้ำมันให้เข้ากัน แล้วเอาไปเตรียมบนกระทะเหล็ก และถวายเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ที่เป็นชิ้นๆเป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

22 ลูกหลานของอาโรนรุ่นต่อไป ที่ได้รับการเจิมให้มาเป็นนักบวชสูงสุดแทนอาโรน จะต้องเป็นคนเตรียมเครื่องบูชานี้ มันคือส่วนแบ่งของพระยาห์เวห์ตลอดไป มันจะต้องเผาจนหมดเกลี้ยง 23 และเครื่องบูชาทั้งหมดที่นักบวชทำขึ้นมา จะต้องเอาไปเผาให้หมดเกลี้ยง ห้ามเอามากิน”

กฎของเครื่องบูชาชำระล้าง

(ลนต. 4:1, 2)

24 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 25 “ให้บอกอาโรนกับลูกๆของเขาว่า ‘นี่เป็นกฎระเบียบสำหรับเครื่องบูชาชำระล้าง คือให้ฆ่าเครื่องบูชาชำระล้างตรงที่เดียวกับที่ฆ่าเครื่องเผาบูชา ต่อหน้าพระยาห์เวห์ มันเป็นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 26 นักบวชที่ถวายเครื่องบูชาชำระล้าง ก็จะต้องกินมัน แต่ต้องกินในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในลานของเต็นท์นัดพบ 27 ใครก็ตามที่แตะต้องเนื้อของเครื่องบูชานี้ จะต้องถูกอุทิศไว้ให้กับพระยาห์เวห์ ถ้าเลือดมันกระเด็นไปถูกเสื้อผ้าของใครเข้า คนๆนั้นจะต้องล้างมันในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 28 และต้องทุบทิ้งหม้อดินทุกใบที่ใช้ต้มเนื้อของเครื่องบูชาชำระล้างนั้น แต่ถ้าใช้หม้อทองสัมฤทธิ์ต้ม ต้องขัดหม้อนั้นและล้างด้วยน้ำ

29 ผู้ชายทุกคนที่เป็นนักบวชจะกินเนื้อของเครื่องบูชาชำระล้างนี้ได้ มันคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 30 แต่ถ้าพวกนักบวชนำเลือดเข้าไปในเต็นท์นัดพบเพื่อชำระล้างพวกของศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ห้ามกินเครื่องบูชานั้น แต่ให้เอาไปเผาไฟเสีย

เป็นของถวายชดใช้

(ลนต. 5:14-19)

นี่คือกฎระเบียบสำหรับของถวายชดใช้ มันศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ให้ฆ่าเป็นของถวายชดใช้ตรงที่เดียวกับที่ฆ่าเครื่องเผาบูชาด้วย แล้วให้นักบวชสาดเลือดของมันไปทุกๆด้านของแท่นบูชา

นักบวชต้องถวายไขมันทั้งหมดของมัน ไขมันที่ส่วนหาง และที่ติดกับเครื่องใน ไตทั้งสองข้างกับไขมันที่อยู่รอบๆไต ตรงส่วนล่างของกล้ามเนื้อหลัง และพังพืดที่ตับ เขาต้องเอามันออกไปพร้อมๆกับไตทั้งสองข้าง นักบวชต้องเผามันบนแท่นบูชา เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ มันเป็นของถวายชดใช้

ผู้ชายทุกคนที่เป็นนักบวชกินของถวายชดใช้นี้ได้ เขาต้องกินมันในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ของถวายชดใช้จะเหมือนกับเครื่องบูชาชำระล้าง ทั้งสองจะใช้กฎระเบียบเดียวกัน เครื่องบูชานั้นจะตกเป็นของนักบวชที่ถวายมัน เมื่อนักบวชถวายเครื่องเผาบูชาของคนๆหนึ่ง เขาก็จะได้ส่วนที่เป็นหนังของเครื่องเผาบูชาที่เขาถวายนั้น เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชทุกชนิดจะเป็นของนักบวชที่ถวายมัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบูชาที่อบในเตา หรือที่เตรียมในกระทะเหล็กหรือในกระทะ 10 แต่เครื่องบูชาอื่นๆที่ทำจากเมล็ดพืช ไม่ว่าจะผสมน้ำมันหรือจะแห้งก็ตาม จะเป็นของพวกนักบวชในครอบครัวของอาโรน โดยจะแบ่งให้เท่าๆกันหมด

เครื่องสังสรรค์บูชา

11 นี่คือกฎระเบียบสำหรับเครื่องสังสรรค์บูชา ที่คนเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ 12 ถ้าคนๆหนึ่งเอาเครื่องสังสรรค์บูชามาถวาย เพื่อเป็นการขอบพระคุณ เขาก็ควรเอาของพวกนี้มาด้วย พร้อมกับเครื่องบูชาขอบพระคุณนั้น คือขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟู ที่ผสมกับน้ำมัน และขนมปังแผ่นบางๆที่ไม่ใส่เชื้อฟู ที่มีน้ำมันลาดอยู่ด้านบน และขนมปังที่ทำจากแป้งอย่างดี ที่ผสมด้วยน้ำมันคลุกเคล้าเข้ากัน 13 เขาควรจะถวายขนมปังไม่ใส่เชื้อฟู กับขนมปังที่ใส่เชื้อฟู พร้อมกันกับเครื่องสังสรรค์บูชาเพื่อเป็นการขอบพระคุณนั้น 14 ให้เขาถวายเครื่องบูชาเหล่านี้อย่างละชิ้น เพื่อเป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ และเอามันไปให้กับนักบวชที่พรมเลือดของเครื่องสังสรรค์บูชา 15 และเนื้อของสัตว์จากเครื่องสังสรรค์บูชาที่เอามาถวาย เพื่อเป็นการขอบพระคุณนี้ จะต้องกินภายในวันที่เอามันมา อย่าให้เหลือถึงวันรุ่งขึ้น

16 ถ้าของถวายที่เอามานั้น เป็นเครื่องบูชาแก้บน หรือเป็นเครื่องบูชาที่สมัครใจ เขาต้องกินมันภายในวันที่เขาเอามา และถ้ายังเหลือ ก็ให้กินในวันถัดไปได้ 17 แต่ถ้ายังเหลือจนถึงวันที่สาม ให้เผามันทิ้งให้หมด 18 ถ้าในวันที่สาม เขาเอาเนื้อที่เหลือจากเครื่องสังสรรค์บูชามากิน มันจะไม่เป็นที่ยอมรับ และคนที่เอามันมาถวายก็จะไม่เป็นที่ยอมรับด้วย เพราะมันไม่สะอาด[j] คนที่กินเข้าไปจะต้องถูกลงโทษสำหรับบาปของเขา

19 อย่ากินเนื้อที่ไปถูกของไม่สะอาดมา ให้เอาไปเผาไฟทิ้ง ส่วนเนื้ออื่นๆนั้น คนที่สะอาด[k] ก็กินมันได้ 20 ส่วนคนที่กินเนื้อจากเครื่องสังสรรค์บูชาที่เอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ ในขณะที่ตัวเขายังไม่สะอาด คนๆนั้นจะต้องถูกตัดออกจากประชาชนของเขา

21 เมื่อคนๆหนึ่งไปแตะต้องสิ่งที่ไม่สะอาดมา ไม่ว่าจะเป็นคนที่ไม่สะอาด หรือสัตว์สี่เท้าหรือสัตว์เลื้อยคลานชนิดใดก็ตามที่ไม่สะอาด แล้วมากินเนื้อจากเครื่องสังสรรค์บูชาที่เอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ คนๆนั้นจะต้องถูกตัดออกจากประชาชนของเขา’”

22 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 23 “ให้บอกประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘พวกเจ้าต้องไม่กินไขมันของวัวตัวผู้ ของแกะหรือแพะ 24 หรือไขมันของสัตว์ที่ตายแล้ว หรือสัตว์ที่ถูกสัตว์ป่าอื่นฉีกทึ้งจนตาย พวกเจ้าเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้ แต่ต้องไม่เอามากิน 25 ถ้าใครกินไขมันของสัตว์ที่เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ คนๆนั้นจะต้องถูกตัดออกจากประชาชนของเขา

26 ไม่ว่าพวกเจ้าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ต้องไม่กินเลือดของนกหรือสัตว์ใดๆ

27 ใครที่กินเลือดจะถูกตัดออกจากประชาชนของเขา’”

เครื่องบูชายื่นถวาย

28 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 29 “ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘คนที่จะถวายเครื่องสังสรรค์บูชาให้กับพระยาห์เวห์ ให้คนนั้นเอาเครื่องบูชามาถวายให้กับพระยาห์เวห์จากเครื่องสังสรรค์บูชาของเขาเอง 30 ให้เขานำของขวัญมาให้กับพระยาห์เวห์ด้วยตนเอง ให้เขานำไขมันพร้อมกับเนื้อส่วนหน้าอกของสัตว์ไปให้กับนักบวช และเนื้อส่วนหน้าอกนี้จะต้องถูกยื่นถวายต่อหน้าพระยาห์เวห์ เพื่อเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย 31 นักบวชจะต้องเผาไขมันบนแท่นบูชา แต่เนื้อส่วนหน้าอกนั้นจะเป็นของอาโรนและพวกลูกชายของเขา 32 เนื้อส่วนต้นขาด้านขวา จากเครื่องสังสรรค์บูชาที่พวกเจ้าเอามาถวายนั้น จะต้องให้กับนักบวชเป็นของขวัญ 33 เนื้อต้นขาข้างขวานี้จะเป็นส่วนแบ่งของนักบวช ที่ถวายเลือดและไขมันของเครื่องสังสรรค์บูชานั้น 34 เพราะเราได้เอาเนื้อส่วนอกของเครื่องบูชายื่นถวาย และเนื้อส่วนต้นขาของเครื่องสังสรรค์บูชา ของประชาชนชาวอิสราเอลแล้ว และเราก็ได้ให้พวกมันกับนักบวชอาโรน และลูกๆของเขา เป็นส่วนแบ่งของพวกเขาจากชาวอิสราเอลตลอดไป

35 นี่คือส่วนแบ่งของอาโรนและส่วนแบ่งของลูกๆเขา จากพวกของขวัญที่นำมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ ในวันที่พวกเขาได้รับการเจิมให้เป็นนักบวชเพื่อรับใช้พระยาห์เวห์ 36 พระยาห์เวห์สั่งให้เอาเครื่องบูชาส่วนนี้ แบ่งให้กับพวกเขา ในวันที่พวกเขาได้รับการเจิม และพวกเขาจะได้รับส่วนแบ่งนี้จากประชาชนชาวอิสราเอลตลอดไป ชั่วลูกชั่วหลาน’”

37 นี่คือกฎระเบียบสำหรับเครื่องเผาบูชา เครื่องบูชาจากเมล็ดพืช เครื่องบูชาชำระล้าง เป็นของถวายชดใช้ เครื่องบูชาบวช และเครื่องสังสรรค์บูชา 38 พระยาห์เวห์ได้มอบคำสั่งพวกนี้ให้กับโมเสสบนภูเขาซีนาย ในวันที่พระองค์สั่งให้ประชาชนชาวอิสราเอลถวายเครื่องบูชาของพวกเขาให้กับพระยาห์เวห์ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนาย

การแต่งตั้งนักบวช

(อพย. 29:1-37)

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้พาอาโรนและพวกลูกชายของเขาไปพร้อมกับเขา และให้เอาเสื้อผ้าพิเศษสำหรับนักบวช น้ำมันสำหรับเจิม วัวตัวผู้สำหรับเครื่องบูชาชำระล้าง แกะตัวผู้สองตัว และขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูหนึ่งตะกร้า แล้วให้เรียกชุมชนทั้งหมดให้มาประชุมกันที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ”

แล้วโมเสสก็ทำตามที่พระยาห์เวห์สั่ง ผู้คนต่างก็มาชุมนุมกันที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ แล้วโมเสสพูดกับประชาชนพวกนั้นว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์สั่งให้ทำ”

แล้วโมเสสก็พาอาโรนและพวกลูกชายของเขามาข้างหน้า และชำระล้างพวกเขาด้วยน้ำ แล้วโมเสสก็สวมเสื้อชั้นในให้อาโรน และผูกผ้าคาดเอวรอบตัวเขา แล้วโมเสสก็สวมเสื้อชุดยาวให้อาโรน หลังจากนั้นก็ใส่เอโฟดให้เขา แล้วเอาผ้าคาดเอวที่ตกแต่งอย่างสวยงามมาผูกรอบตัวอาโรน ผ้าคาดเอวก็เลยมัดเอโฟดเข้ากับตัวอาโรนอีกชั้นหนึ่ง จากนั้นโมเสสเอาถุงผ้าทับอกมาใส่ให้เขา แล้วเอาอูริมและทูมมิม ใส่ลงในกระเป๋าของถุงผ้าทับอกนั้น แล้วเขาก็พันผ้าโพกหัวให้อาโรน ตรงด้านหน้าของผ้าโพกหัว โมเสสใส่แผ่นทองคำ ซึ่งเป็นมงกุฎศักดิ์สิทธิ์ โมเสสทำทุกอย่างตามที่พระยาห์เวห์สั่งเขาไว้

10 แล้วโมเสสก็เอาน้ำมันสำหรับเจิมมา และเจิมเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และทุกอย่างในเต็นท์นั้น ด้วยวิธีนี้ โมเสสก็ทำให้สิ่งเหล่านี้ศักดิ์สิทธิ์[l] 11 แล้วโมเสสก็พรมน้ำมันนี้บนแท่นบูชาเจ็ดครั้ง และเจิมแท่นบูชา เครื่องใช้ไม้สอยของมัน ทั้งขันอันใหญ่พร้อมพานรองของมัน เพื่อทำให้มันศักดิ์สิทธิ์ 12 แล้วโมเสสก็เทน้ำมันสำหรับเจิมนี้ลงบนหัวของอาโรน และเจิมเขาเพื่อทำให้เขาศักดิ์สิทธิ์ 13 หลังจากนั้น โมเสสก็เอาตัวพวกลูกชายของอาโรนมาข้างหน้า และสวมเสื้อชั้นในให้พวกเขา ผูกผ้าคาดเอวและพันผ้าโพกหัวให้พวกเขา โมเสสทำตามที่พระยาห์เวห์สั่งเขาไว้

14 แล้วโมเสสเอาวัวตัวผู้ที่ใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้างมาข้างหน้า อาโรนกับพวกลูกชายของเขาวางมือลงบนหัววัวตัวนั้น 15 แล้วหลังจากวัวตัวนั้นถูกฆ่า โมเสสก็เอาเลือดของมันมา แล้วเอานิ้วจุ่มเลือดมาป้ายที่เชิงงอนทั้งสี่ด้านของแท่นบูชา เขาทำอย่างนี้เพื่อทำให้แท่นบูชาบริสุทธิ์ และเขายังเทเลือดที่เหลือลงตรงฐานของแท่นบูชา ด้วยวิธีทั้งหมดนี้เขาทำให้แท่นบูชานั้นศักดิ์สิทธิ์ พร้อมที่จะรับเครื่องบูชาที่กำจัดบาปและความไม่บริสุทธิ์ 16 แล้วโมเสสก็เอาไขมันของเครื่องใน พังผืดของตับและไตทั้งสองข้างกับไขมันของมันออกมา แล้วโมเสสก็เอาพวกมันไปเผาบนแท่นบูชา 17 ส่วนที่เหลือของวัวตัวผู้นั้น คือ ส่วนหนัง ส่วนเนื้อและขี้วัว ถูกนำออกไปเผานอกค่าย ตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้

18 แล้วโมเสสก็เอาแกะตัวผู้ที่จะใช้เป็นเครื่องเผาบูชามาข้างหน้า อาโรนกับพวกลูกชายของเขาวางมือลงบนหัวของแกะตัวนั้น 19 แล้วโมเสสก็ฆ่าแกะตัวนั้น แล้วเอาเลือดของมันสาดไปที่แท่นบูชาทุกๆด้าน 20-21 แล้วโมเสสก็หั่นแกะออกเป็นชิ้นๆเอาเครื่องในและขาไปล้างน้ำ แล้วโมเสสก็เผาแกะตัวผู้นั้นทั้งตัวบนแท่นบูชา เขาเผาทั้งหัว ชิ้นส่วนต่างๆและไขมัน เป็นเครื่องเผาบูชาอันมีกลิ่นหอม เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้

22 แล้วโมเสสก็เอาแกะตัวผู้ตัวที่สองที่ใช้สำหรับแต่งตั้งนักบวช มาที่ด้านหน้า อาโรนกับพวกลูกชายของเขาวางมือลงบนหัวแกะตัวนั้น 23 โมเสสก็ฆ่าแกะตัวนั้น แล้วเอาเลือดของมันไปป้ายที่ติ่งหูข้างขวากับหัวแม่มือข้างขวาและหัวแม่เท้าข้างขวาของอาโรน 24 เขานำตัวพวกลูกชายอาโรนมาที่ด้านหน้า และโมเสสก็ป้ายเลือดแกะที่ติ่งหูข้างขวากับหัวแม่มือข้างขวาและหัวแม่เท้าข้างขวาของพวกเขา แล้วโมเสสก็สาดเลือดแกะลงที่แท่นบูชาทุกๆด้าน 25 โมเสสเอาไขมันส่วนหาง ไขมันในเครื่องใน พังผืดของตับ ไตสองข้างกับไขมันของมัน และสะโพกข้างขวา 26 โมเสสหยิบขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูมาหนึ่งก้อน ขนมปังผสมน้ำมันหนึ่งก้อน และขนมปังแผ่นบางๆหนึ่งชิ้น จากตะกร้าที่ใส่ขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูที่วางอยู่ตรงหน้าพระยาห์เวห์ แล้วเขาก็เอาพวกมันไปวางบนไขมัน และบนต้นขาข้างขวาของแกะตัวผู้นั้น 27 จากนั้นโมเสสก็เอาของเหล่านี้ไปวางบนฝ่ามือของอาโรนและฝ่ามือของพวกลูกชายอาโรน แล้วโมเสสก็ให้อาโรนและพวกลูกชายยื่นถวายอาหารเหล่านั้นขึ้น ให้เป็นเครื่องบูชายื่นถวายต่อหน้าพระยาห์เวห์ 28 โมเสสหยิบอาหารส่วนหนึ่งมาจากมือพวกเขา แล้วเอาไปเผาบนแท่นบูชาพร้อมกับเครื่องเผาบูชา นี่คือเครื่องบูชาบวช เป็นของขวัญอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ 29 แล้วโมเสสก็เอาส่วนอกของแกะมา และยื่นถวายมันขึ้นเป็นเครื่องบูชายื่นถวายต่อหน้าพระยาห์เวห์ ส่วนอกนี้ เป็นส่วนแบ่งของโมเสส จากแกะที่ใช้ในการแต่งตั้งนักบวช ตามที่พระยาห์เวห์สั่งเขาไว้

30 โมเสสเอาน้ำมันสำหรับเจิม และเลือดบางส่วนจากแท่นบูชา แล้วพรมลงบนตัวอาโรนและเสื้อผ้าของเขา และพรมลงบนตัวพวกลูกชายของอาโรนกับเสื้อผ้าของพวกเขา ด้วยวิธีนี้ โมเสสได้อุทิศอาโรน เสื้อผ้าของอาโรน พวกลูกชายอาโรนพร้อมกับเสื้อผ้าของพวกเขาให้กับพระยาห์เวห์

31 โมเสสพูดกับอาโรนและพวกลูกชายของเขาว่า “ให้เอาเนื้อไปต้มที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบและกินมันที่นั่น พร้อมกับขนมปังที่อยู่ในตะกร้า ขนมปังที่ใช้แต่งตั้งนักบวช เหมือนกับที่เราได้รับคำสั่งมาว่า[m] ‘อาโรนกับพวกลูกชายของเขาต้องกินมัน’ 32 เนื้อกับขนมปังที่เหลือ พวกท่านต้องเอาไปเผาไฟให้หมด 33 ห้ามพวกท่านออกไปจากทางเข้าเต็นท์นัดพบ เป็นเวลาเจ็ดวัน จนกว่ามันจะครบกำหนดเวลาของการแต่งตั้งนักบวช เพราะพิธีบวชนี้จะกินเวลาเจ็ดวัน 34 ทุกสิ่งที่พวกเราทำลงไปในวันนี้ เป็นไปตามที่พระยาห์เวห์สั่งเราไว้ เพื่อกำจัดบาปและความไม่บริสุทธิ์ทั้งหลายของพวกท่านให้กับพวกท่าน 35 พวกท่านต้องอยู่แต่ที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบทั้งวันทั้งคืนเป็นเวลาเจ็ดวัน และพวกท่านต้องเชื่อฟังคำสั่งของพระยาห์เวห์ เพื่อพวกท่านจะได้ไม่ตาย เพราะพระยาห์เวห์ได้สั่งเราไว้อย่างนี้”

36 อาโรนกับพวกลูกชายของเขาจึงได้ทำทุกอย่างตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งผ่านมาทางโมเสส

พระเจ้ายอมรับพวกนักบวช

ในวันที่แปด โมเสสเรียกอาโรนและพวกลูกชายของเขากับพวกผู้อาวุโสชาวอิสราเอลมา โมเสสพูดกับอาโรนว่า “ให้เอาลูกวัวตัวหนึ่งจากฝูง มาเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และเอาแกะตัวผู้ที่ไม่มีตำหนิตัวหนึ่งมาเป็นเครื่องเผาบูชา และถวายพวกมันต่อหน้าพระยาห์เวห์ และให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘ให้เอาแพะตัวผู้ตัวหนึ่งมาเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และให้เอาลูกวัวตัวหนึ่งกับลูกแกะตัวหนึ่ง อายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิ มาเป็นเครื่องเผาบูชา ให้เอาวัวตัวผู้และแกะตัวผู้ มาถวายเป็นเครื่องสังสรรค์บูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ พร้อมกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชผสมน้ำมัน เพราะในวันนี้พระยาห์เวห์จะมาปรากฏกับพวกท่าน’”

อาโรนกับประชาชนจึงนำของที่โมเสสสั่ง มาไว้ที่หน้าเต็นท์นัดพบ ประชาชนทั้งหมดต่างก็ออกมายืนกันอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ แล้วโมเสสก็พูดว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์สั่งให้พวกท่านทำ เพื่อรัศมีของพระยาห์เวห์ จะได้ปรากฏกับพวกท่าน”

แล้วโมเสสก็พูดกับอาโรนว่า “ก้าวมาที่แท่นบูชา และถวายเครื่องบูชาชำระล้าง และเครื่องเผาบูชาของท่าน และให้กำจัดความไม่บริสุทธิ์และบาปทั้งหลายให้กับตัวท่านและประชาชน และให้ถวายเครื่องบูชาของประชาชน และให้กำจัดความไม่บริสุทธิ์และบาปทั้งหลายให้กับพวกเขา ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งไว้”

อาโรนจึงไปที่แท่นบูชา และฆ่าลูกวัวที่ใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้างให้กับตัวเอง แล้วลูกชายของอาโรนก็เอาเลือดมาให้อาโรน แล้วอาโรนก็จุ่มนิ้วลงในเลือดแล้วนำไปป้ายที่เชิงงอนของแท่นบูชา อาโรนเทเลือดส่วนที่เหลือลงที่ฐานแท่นบูชา 10 แล้วเขาก็เอาไขมัน ไตสองข้างและพังผืดรอบตับ จากเครื่องบูชาชำระล้างนั้น ไปเผาบนแท่นบูชา ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้ 11 ส่วนที่เป็นเนื้อกับหนังถูกนำไปเผาที่นอกค่าย

12 แล้วอาโรนก็ฆ่าแกะตัวผู้ตัวที่ใช้เป็นเครื่องเผาบูชา พวกลูกชายของอาโรนเอาเลือดของมันมาให้เขา เขานำมันไปสาดใส่ทุกๆด้านของแท่นบูชา 13 พวกเขาเอาเครื่องเผาบูชาที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆกับส่วนหัวมาให้อาโรน ให้เขาเอาไปเผาบนแท่นบูชา 14 แล้วนำเครื่องในกับขาไปล้างน้ำและนำไปเผารวมกับเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชา

15 จากนั้น อาโรนก็นำเครื่องบูชาของประชาชนมาที่ด้านหน้า รวมทั้งแพะตัวผู้ ที่ประชาชนใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เขาฆ่าแพะตัวนั้น และใช้มันเป็นเครื่องบูชาชำระล้างเหมือนกับตัวแรก 16 เขานำเครื่องเผาบูชามาที่ด้านหน้าเพื่อทำพิธีบูชาตามกฎระเบียบ 17 แล้วตามด้วยเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช เขาหยิบมันขึ้นมากำหนึ่ง นำไปเผาบนแท่นบูชากับเครื่องเผาบูชาของตอนเช้า

18 อาโรนฆ่าวัวตัวผู้ และแกะตัวผู้ ที่ประชาชนเอามาถวายเป็นเครื่องสังสรรค์บูชา พวกลูกชายอาโรนนำเลือดของพวกมันมาให้อาโรน ให้เขาเอาไปสาดใส่ทุกๆด้านของแท่นบูชา 19 ลูกชายของอาโรนเอาไขมันของวัวตัวผู้และแกะตัวผู้ทั้งส่วนหาง ไขมันที่ติดอยู่กับเครื่องใน ไตทั้งสองข้าง และพังผืดรอบตับ 20 พวกเขาวางส่วนไขมันไว้บนเนื้อส่วนอก อาโรนได้เผาไขมันบนแท่นบูชา 21 อาโรนยื่นถวายเนื้อส่วนอกและสะโพกข้างขวาขึ้นให้พระยาห์เวห์ เป็นเครื่องบูชายื่นถวาย ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้

22 แล้วอาโรนก็ชูมือทั้งสองขึ้น ไปยังประชาชนและอวยพรให้กับพวกเขา เมื่อเผาเครื่องบูชาชำระล้าง เครื่องเผาบูชา และเครื่องสังสรรค์บูชา เสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ลงจากแท่นบูชา

23 โมเสสและอาโรนเข้าไปในเต็นท์นัดพบ เมื่อพวกเขาออกมาก็อวยพรให้ประชาชนเหล่านั้น แล้วรัศมีของพระยาห์เวห์ก็ปรากฏกับประชาชนทั้งหมด 24 มีไฟออกมาจากที่พระยาห์เวห์อยู่นั้น และมาเผาเครื่องเผาบูชาและไขมันที่อยู่บนแท่นบูชา เมื่อประชาชนทุกคนเห็นอย่างนั้น ต่างก็ร้องด้วยความชื่นชมยินดีและซบหน้าลงกับพื้น

พระยาห์เวห์ทำลายนาดับกับอาบีฮู

10 ในตอนนั้น นาดับและอาบีฮู ลูกชายสองคนของอาโรน ต่างก็เอากระถางไฟของเขามาเพื่อเผาเครื่องหอม พวกเขาเอาไฟใส่ในกระถางนั้น และใส่เครื่องหอมลงในไฟนั้น แล้วเอามาถวายต่อหน้าพระยาห์เวห์ พวกเขาใช้ไฟที่ผิดไปจากที่โมเสสสั่งให้พวกเขาใช้ พระยาห์เวห์จึงส่งไฟลงมาเผานาดับกับอาบีฮู และเขาก็ตายต่อหน้าพระยาห์เวห์

โมเสสพูดกับอาโรนว่า “นี่แหละคือสิ่งที่พระยาห์เวห์หมายถึง เมื่อพระองค์พูดว่า ‘นักบวชที่เข้ามาใกล้เรา จะต้องให้ความเคารพเราในฐานะผู้ศักดิ์สิทธิ์ และประชาชนทั้งหมดจะต้องให้เกียรติกับเรา’” อาโรนก็นิ่งเงียบ

อุสซีเอล เป็นลุงของอาโรน เขามีลูกชายสองคนชื่อมิชาเอลและเอลซาฟาน โมเสสเรียกเขาทั้งสองว่า “มานี่สิ มาแบกร่างสองคนนี้ ที่เป็นญาติของพวกท่าน ออกไปนอกค่าย ไปให้พ้นจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้”

พวกเขาเข้ามา ช่วยกันลากร่างของคนตายด้วยเสื้อที่ติดอยู่กับร่างนั้น ออกไปนอกค่ายตามที่โมเสสสั่ง

แล้วโมเสสก็พูดกับอาโรนและลูกชายคนอื่นๆของเขา คือเอเลอาซาร์กับอิธามาร์ ว่า “พวกท่านต้องไม่ปล่อยผมรุงรังหรือฉีกเสื้อผ้า[n] ของพวกท่าน ท่านจะได้ไม่ตาย และพระยาห์เวห์จะได้ไม่โกรธชาวอิสราเอลทั้งหมดด้วย แต่ญาติของท่านคือชาวอิสราเอลทั้งหมดไว้ทุกข์ได้ ในเรื่องที่พระยาห์เวห์เผานาดับและอาบีฮู พวกท่านต้องไม่ออกไปจากทางเข้าเต็นท์นัดพบ ไม่อย่างนั้น พวกท่านจะต้องตาย เพราะพวกท่านได้รับการเจิมด้วยน้ำมันเจิม[o] ของพระยาห์เวห์แล้ว” แล้วอาโรน เอเลอาซาร์และอิธามาร์ก็ทำตามที่โมเสสบอก

แล้วพระยาห์เวห์พูดกับอาโรนว่า “เจ้าและลูกชายของเจ้าต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่น หรือเบียร์เมื่อเข้าไปในเต็นท์นัดพบ เพื่อเจ้าจะได้ไม่ตาย นี่เป็นกฎที่จะใช้ไปตลอดชั่วลูกชั่วหลานของเจ้า 10 เพราะเจ้าจะต้องแยกให้เห็นชัดเจนระหว่างสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์กับสิ่งที่ธรรมดา ระหว่างสิ่งที่บริสุทธิ์กับสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ 11 และเจ้าจะต้องสอนกฎทั้งหมดให้กับชาวอิสราเอล เป็นกฎที่พระยาห์เวห์พูดกับพวกเขาผ่านมาทางโมเสส”

12 โมเสสพูดกับอาโรน และลูกทั้งสองที่เหลืออยู่ของอาโรน คือเอเลอาซาร์และอิธามาร์ ว่า “ให้เอาเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ที่เหลือจากพวกของขวัญที่ถวายให้กับพระยาห์เวห์ แล้วกินเครื่องบูชานั้นที่ไม่ได้ใส่เชื้อฟูข้างแท่นบูชา เพราะมันศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 13 และท่านต้องกินมันภายในบริเวณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะมันเป็นส่วนแบ่งของท่านและลูกๆของท่านจากพวกของขวัญที่ถวายให้กับพระยาห์เวห์ เพราะเราได้รับคำสั่งมาอย่างนั้น

14 แต่เนื้อส่วนอกของเครื่องบูชายื่นถวาย และเนื้อสะโพกของของขวัญบูชา ท่านเอาไปกินที่อื่นได้ แต่ต้องเป็นสถานที่ที่สะอาด ท่าน ลูกชายและลูกสาวของท่านก็กินได้ เพราะมันเป็นส่วนแบ่งของท่านและลูกหลานของท่าน เป็นส่วนแบ่งจากเครื่องสังสรรค์บูชา ที่ชาวอิสราเอลเอามาถวาย 15 พวกเขาจะต้องเอาส่วนที่เป็นสะโพกของของขวัญบูชาและส่วนที่เป็นอกของเครื่องบูชายื่นถวาย มายื่นถวายต่อหน้าพระยาห์เวห์ รวมกับพวกของขวัญที่เป็นไขมัน ส่วนเหล่านี้ก็จะเป็นส่วนแบ่งของท่านและลูกหลานท่านตลอดไป ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งไว้”

16 แล้วโมเสสก็ถามถึงแพะที่ใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง แต่มันถูกเผาไปแล้ว โมเสสจึงโกรธเอเลอาซาร์กับอิธามาร์ลูกชายที่เหลือของอาโรน โมเสสพูดว่า 17 “ทำไมพวกท่านถึงไม่กินเครื่องบูชาชำระล้างในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เล่า เนื้อนั้นศักดิ์สิทธิ์มาก และพระเจ้าได้ให้มันกับพวกท่านเป็นค่าแรงที่ไปกำจัดความผิดของชุมชนโดยชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทนพวกเขาต่อหน้าพระยาห์เวห์ 18 ในเมื่อไม่ได้เอาเลือดของแพะตัวนั้นเข้ามาภายในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ พวกท่านก็น่าจะกินเนื้อมันในที่ที่ศักดิ์สิทธิ์นอกเต็นท์ ตามที่เราได้สั่งไว้”

19 อาโรนจึงพูดกับโมเสสว่า “ดูเอาเถอะ วันนี้พวกเขาได้เอาเครื่องบูชาชำระล้างและเครื่องเผาบูชามาไว้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ และก็เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นกับพี่ ถ้าพี่กินเครื่องบูชาชำระล้างในวันนี้ พระยาห์เวห์จะเห็นดีด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้” 20 เมื่อโมเสสได้ยินดังนั้น ก็เห็นด้วย

กฎเกี่ยวกับการกินเนื้อสัตว์

(ฉธบ. 14:3-8)

11 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า “ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘ต่อไปนี้คือสัตว์ที่พวกเจ้ากินได้ จากท่ามกลางสัตว์ใหญ่ทั้งหมดในโลกนี้ สัตว์อะไรก็ตามที่มีเท้าเป็นกีบ แยกจากกันและเคี้ยวเอื้อง[p] เจ้าก็กินสัตว์นั้นได้

แต่สัตว์ที่มีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง คือเคี้ยวเอื้องหรือมีเท้าเป็นกีบ เจ้าต้องไม่กินสัตว์นั้น เช่น อูฐ มันเคี้ยวเอื้องแต่เท้าไม่เป็นกีบแยกออก มันไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า ตัวไฮแรกซ์[q] เท้าไม่เป็นกีบแยกออก ถึงแม้จะเคี้ยวเอื้อง มันจึงไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า กระต่ายก็เหมือนกัน เคี้ยวเอื้องแต่เท้าไม่เป็นกีบแยกออก จึงไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า ส่วนหมู ถึงแม้เท้าจะเป็นกีบ แต่ไม่เคี้ยวเอื้อง มันจึงไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า เจ้าต้องไม่กินเนื้อของพวกมันและต้องไม่แตะต้องซากของพวกมันด้วย เพราะมันไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า

กฎเกี่ยวกับอาหารทะเล

(ฉธบ. 14:9, 10)

จากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในน้ำ เจ้ากินสิ่งต่อไปนี้ได้ คือสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในน้ำที่มีทั้งครีบและเกล็ด ไม่ว่าจะมีอยู่ในทะเลหรือแม่น้ำก็ตาม 10 แต่ถ้าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นที่อยู่ในทะเลและในแม่น้ำ ไม่มีครีบและเกล็ด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เลื้อยคลานในน้ำ หรือสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นที่อาศัยอยู่ในน้ำ ถือเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับพวกเจ้า 11 และเจ้าต้องเห็นพวกมันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ เจ้าต้องไม่กินเนื้อของพวกมัน และต้องไม่แตะต้องซากของพวกมัน 12 สิ่งมีชีวิตทุกอย่างในน้ำที่ไม่มีครีบและเกล็ด เจ้าต้องเห็นมันเป็นสิ่งน่ารังเกียจ

นกที่ไม่ควรกิน

(ฉธบ. 14:11-18)

13 พวกนกต่อไปนี้ เจ้าจะต้องถือว่ามันน่ารังเกียจ และต้องไม่กินพวกมัน มันเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน คือ นกอินทรี นกแร้ง นกเหยี่ยว 14 นกเหยี่ยวหางยาว เหยี่ยวทุกชนิด 15 นกที่มีขนสีดำทุกประเภท 16 นกกระจอกเทศ นกเค้าโมง นกนางนวล เหยี่ยวนกเขาทุกชนิด 17 นกฮูก นกกาน้ำ นกแสก 18 นกอีโก้ง นกกระทุง นกแร้ง 19 นกกระสาดำ นกกระสาทุกชนิด นกกะรางหัวขวานและค้างคาว

กฎของการกินแมลง

(ฉธบ. 14:19-20)

20 พวกแมลงมีปีกที่คลาน[r] เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับเจ้า 21 ยกเว้นแมลงมีปีกที่คลานต่อไปนี้ เจ้ากินได้ คือ พวกที่มีข้อต่ออยู่เหนือขาของพวกมันเพื่อใช้กระโดดบนพื้นดิน 22 เจ้าสามารถกินตั๊กแตนทุกชนิด ตั๊กแตนที่มีปีกทุกชนิด จิ้งหรีดทุกชนิด และเรไรทุกชนิด

23 แต่แมลงที่คลานนอกเหนือไปจากนี้ เจ้าต้องไม่กิน 24 เพราะพวกมันจะทำให้เจ้าไม่บริสุทธิ์ ใครที่ไปแตะต้องซากของสัตว์ต่อไปนี้ก็จะเป็นผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น 25 และคนที่ไปจับส่วนใดส่วนหนึ่งของซากพวกมัน จะต้องเอาเสื้อไปซัก และตัวเขาก็จะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น

26 คือซากของสัตว์ทุกชนิดที่มีเท้าเป็นกีบแต่กีบไม่แยกออกเป็นสองส่วนหรือไม่เคี้ยวเอื้องเป็นของไม่บริสุทธิ์สำหรับเจ้า ทุกคนที่แตะต้องพวกมันจะไม่บริสุทธิ์ 27 รวมทั้งซากของสัตว์ที่เดินด้วยอุ้งตีน[s] ที่แบนราบทั้งสี่ข้าง เป็นสัตว์ที่ไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า ทุกคนไปแตะต้องพวกมันจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น 28 และทุกคนที่ถือซากของพวกมัน ต้องเอาเสื้อไปซักและตัวเขาก็จะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น เพราะพวกมันเป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า

กฎเกี่ยวกับสัตว์ที่คลาน

29 สัตว์ที่คลานไปบนพื้น ที่ไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้าคือ ตัวตุ่น หนู สัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ 30 ตุ๊กแก จระเข้ จิ้งจก จิ้งเหลน กิ้งก่า 31 สัตว์ที่คลานเหล่านี้ไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า ทุกคนที่ไปแตะต้องซากของพวกมัน คนๆนั้นจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น

กฎเกี่ยวกับสัตว์ที่ไม่บริสุทธิ์

32 ถ้าสัตว์ที่ไม่บริสุทธิ์เหล่านี้ตาย และตกไปบนอะไรก็ตาม ของนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นของที่ทำด้วยไม้ ผ้า หนัง ขนแพะ หรือภาชนะใดก็แล้วแต่ จะต้องเอาของนั้นไปแช่น้ำ และมันจะคงไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น หลังจากนั้นมันก็จะบริสุทธิ์เหมือนเดิม 33 และถ้าสัตว์เหล่านั้นตกไปบนภาชนะที่ทำจากดิน ของทุกอย่างที่อยู่ในภาชนะนั้นจะไม่บริสุทธิ์ และเจ้าต้องทำลายภาชนะใบนั้นทิ้งเสีย 34 ถ้าเจ้าเทน้ำที่อยู่ในภาชนะที่ไม่บริสุทธิ์นั้น ลงไปในของที่กินได้ ของนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ตามไปด้วย[t] สิ่งที่ดื่มได้ถ้าอยู่ในภาชนะที่ไม่บริสุทธิ์ มันก็จะไม่บริสุทธิ์เหมือนกัน[u] 35 ถ้าส่วนหนึ่งส่วนใดของซากสัตว์นั้นตกลงบนอะไรก็ตาม ของนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ไปด้วย ถ้าไปตกบนเตาอบหรือเตา ก็ให้ทำลายของพวกนั้นเสีย เพราะมันจะกลายเป็นของไม่บริสุทธิ์และจะไม่บริสุทธิ์ตลอดไป

36 แต่ถ้าเป็นตาน้ำหรือบ่อเก็บน้ำ มันจะยังคงบริสุทธิ์อยู่ แต่คนที่ไปแตะต้องซากสัตว์ที่อยู่ในนั้นจะเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ 37 และถ้าซากสัตว์เหล่านี้ตกลงไปในเมล็ดพืชที่กำลังจะนำไปปลูก เมล็ดพืชเหล่านั้นจะยังบริสุทธิ์อยู่ 38 แต่ถ้าเจ้าเทน้ำลงบนเมล็ดพืชแล้วเกิดมีซากสัตว์เหล่านี้ตกลงไป เมล็ดพืชเหล่านั้นจะไม่บริสุทธิ์สำหรับเจ้าอีก

39 ถ้าสัตว์ที่เจ้าใช้เป็นอาหารตายเองตามธรรมชาติ คนที่ไปจับต้องซากของมันจะกลายเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์จนถึงเย็น 40 ใครที่ไปกินซากของมัน ต้องเอาเสื้อไปซักและจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์จนถึงเย็น และใครที่ไปเก็บส่วนใดส่วนหนึ่งของซากนั้นมา เขาต้องเอาเสื้อไปซักและจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น

41 สัตว์เลื้อยคลานทุกประเภท เจ้าต้องรังเกียจและไม่กินมัน 42 สัตว์เลื้อยคลานทุกชนิด ที่เลื้อยไปมาบนพื้นดิน หรือที่คลานสี่ขา หรือที่มีหลายขา เจ้าก็ต้องไม่กินพวกมัน เพราะพวกมันน่ารังเกียจ 43 อย่าทำตัวเจ้าให้เป็นที่น่ารังเกียจเพราะพวกมัน อย่าทำให้ตัวเจ้าต้องไม่บริสุทธิ์เพราะพวกมัน เพราะเจ้าจะต้องกลายเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ 44 เพราะเราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเจ้า ให้รักษาตัวเองให้แตกต่างจากคนอื่น เพราะเราเองก็แตกต่าง ดังนั้น พวกเจ้าจึงต้องไม่ทำตัวเองให้ไม่บริสุทธิ์ ด้วยสัตว์ที่เลื้อยคลานเหล่านั้น 45 เพราะเราคือยาห์เวห์ ที่ได้นำพวกเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเราจะได้เป็นพระเจ้าของพวกเจ้า พวกเจ้าจึงต้องทำตัวให้แตกต่างจากคนอื่น เพราะเราเองก็แตกต่างจากผู้อื่น’”

46 นี่คือกฎต่างๆเกี่ยวกับสัตว์ นก สิ่งมีชีวิตในน้ำ และสิ่งมีชีวิตที่เลื้อยคลานบนพื้นดิน 47 กฎต่างๆเหล่านี้ช่วยให้คนรู้ถึงความแตกต่างระหว่างสัตว์ที่สะอาดและไม่สะอาด และสัตว์ที่กินได้กับสัตว์ที่กินไม่ได้

กฎสำหรับแม่คนใหม่

12 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ผู้หญิงที่ตั้งท้องและคลอดลูกมาเป็นเด็กผู้ชาย นางจะไม่บริสุทธิ์เป็นเวลาเจ็ดวันเหมือนกับตอนที่นางมีประจำเดือน ในวันที่แปด เด็กชายจะต้องถูกขลิบ เพราะเลือดที่เกิดจากการคลอดบุตร นางจะต้องคอยอีกสามสิบสามวัน และต้องไม่แตะต้องของศักดิ์สิทธิ์ใดๆหรือเข้าไปในพื้นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ จนกว่าช่วงเวลานี้จะสิ้นสุดลง ถ้านางคลอดลูกสาว นางจะไม่บริสุทธิ์เป็นเวลาสิบสี่วัน เหมือนกับตอนที่นางมีประจำเดือน และเพราะเลือดที่เกิดจากการคลอดบุตร นางจะต้องคอยอีกหกสิบหกวัน จนกว่านางจะบริสุทธิ์อีกครั้ง

เมื่อช่วงเวลานั้นหมดลง ไม่ว่านางจะได้ลูกชายหรือลูกสาว นางต้องนำลูกแกะอายุหนึ่งปีมาตัวหนึ่ง เพื่อเป็นเครื่องเผาบูชา และนกพิราบหนุ่มหรือนกเขาตัวหนึ่งมาเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง แล้วเอาไปให้นักบวชที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ แล้วนักบวชจะนำของเหล่านี้ไปถวายต่อหน้าพระยาห์เวห์ และชำระแท่นบูชาแทนนาง และนางจะบริสุทธิ์จากเลือดที่เกิดจากการคลอดบุตร นี่คือกฎสำหรับผู้หญิงที่คลอดลูกไม่ว่าจะได้ลูกชายหรือลูกสาว ถ้านางไม่มีเงินที่จะซื้อแกะตัวผู้ นางก็ต้องใช้นกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชา อีกตัวใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และนักบวชจะชำระล้างแท่นบูชาแทนนาง แล้วนางก็จะบริสุทธิ์”

กฎเกี่ยวกับโรคผิวหนัง

13 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า “ถ้าคนๆหนึ่งเกิดมีแผล ตกสะเก็ดหรือตุ่มน้ำใสๆขึ้นบนผิวหนัง และลุกลามกลายเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง เขาต้องถูกนำตัวมาพบอาโรนหรือลูกชายอาโรนที่เป็นนักบวชคนใดคนหนึ่ง นักบวชจะตรวจดูแผลที่ผิวหนังตามร่างกายของเขา ถ้าขนที่แผลเปลี่ยนเป็นสีขาว และแผลก็กินลึกเข้าไปในเนื้อชั้นในแล้ว นั่นหมายถึงเขาเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง เมื่อนักบวชตรวจดูเสร็จแล้ว เขาต้องประกาศออกมาว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์

แต่ถ้าผิวหนังตามร่างกายของคนๆนั้นเป็นจุดขาวๆแต่ไม่มีแผลที่กินลึกเข้าไปในเนื้อ และขนก็ไม่เปลี่ยนเป็นสีขาว นักบวชจะต้องแยกคนๆนั้นออกจากประชาชนเป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดนักบวชต้องกลับมาตรวจดูคนๆนั้นอีกครั้ง ถ้ารอยแผลนั้นไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ลุกลามไปบนผิวหนัง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกจากประชาชนอีกเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดกลับมาตรวจดูอีกครั้ง ถ้ารอยแผลจางลงและแผลไม่กระจายลุกลามบนผิวหนัง นักบวชต้องประกาศให้คนๆนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ รอยแผลนั้นเป็นเพียงสะเก็ดแผล คนๆนั้นต้องซักล้างเสื้อผ้าของเขา หลังจากนั้นเขาก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์

แต่ถ้าสะเก็ดแผลนั้นเกิดลุกลามไปบนผิวหนัง หลังจากที่นักบวชป่าวประกาศให้คนๆนั้นบริสุทธิ์แล้ว เขาต้องกลับไปพบนักบวชอีกครั้ง ถ้านักบวชตรวจดูแล้วพบว่าแผลลุกลามจริง นักบวชต้องประกาศใหม่ว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง เมื่อคนๆหนึ่งเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง คนๆนั้นจะถูกนำตัวมาพบนักบวช 10 ถ้านักบวชตรวจดูและพบแผลพุพองสีขาวบนผิวหนัง ขนบางส่วนรอบๆกลายเป็นสีขาวและมีแผ่นเนื้อสดอยู่ในแผลพุพองนั้น 11 มันคือโรคผิวหนังชนิดเรื้อรัง นักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ โดยไม่ต้องแยกออกมาคอยดูอาการ เพราะเขาเป็นคนที่ไม่บริสุทธิ์อยู่แล้ว

12 ถ้าโรคผิวหนังเรื้อรังนั้น เกิดลุกลามไปบนผิวหนังส่วนอื่น จนเกิดเป็นโรคติดเชื้อไปทั่วผิวหนังของคนๆนั้น ตั้งแต่หัวจรดเท้า นักบวชต้องตรวจดูทุกส่วนของร่างกาย 13 นักบวชต้องดู ถ้าหากโรคมันลุกลามจนทั่วร่างกายของคนผู้นั้น จนตัวเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งหมด นักบวชต้องประกาศให้คนที่ติดเชื้อนั้น เป็นผู้บริสุทธิ์เพราะตัวเขาบริสุทธิ์แล้ว เพราะผิวหนังได้เปลี่ยนเป็นสีขาวหมดแล้ว 14 แต่ทันทีที่มีแผลสดเกิดขึ้น เขาจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ทันที 15 นักบวชต้องตรวจดูแผลสด และประกาศว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะแผลสดเป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ มันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง

16 ถ้าแผลสดนั้นหายดีแล้วเหลือแต่จุดขาว คนๆนั้นต้องไปพบนักบวช 17 ถ้านักบวชตรวจดูและพบว่าแผลนั้นได้เปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว นักบวชต้องประกาศให้คนที่ติดเชื้อนั้นเป็นคนบริสุทธิ์และคนๆนั้นก็จะบริสุทธิ์

18 เมื่อมีฝีเกิดขึ้นบนผิวหนังตามร่างกายของคนๆหนึ่ง และมันก็ได้รับการรักษาจนหาย 19 และมีรอยแผลพุพองหรือจุดขาวออกสีแดงเรื่อๆเกิดขึ้นในที่ที่เคยเป็นฝี คนๆนั้นต้องไปพบนักบวช 20 นักบวชจะตรวจดู ถ้าแผลนั้นกินลึกเข้าในผิวหนัง และขนบริเวณรอบๆเปลี่ยนเป็นสีขาว นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ มันคือโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากฝี 21 แต่ถ้านักบวชตรวจดูแผลแล้ว ไม่พบขนสีขาว แผลก็ไม่กินลึกลงไปและยังเริ่มจางลง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกเป็นเวลาเจ็ดวัน 22 ถ้าแผลยังลุกลามไปตามผิวหนัง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือแผลติดเชื้อ 23 แต่ถ้าจุดใสๆนั้นยังมีอยู่ที่เดิมและไม่กระจายลุกลาม มันเป็นเพียงสะเก็ดแผลจากฝี นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์

24 หรือเมื่อคนใดคนหนึ่งมีแผลไฟไหม้บนผิวหนัง และเกิดแผลรอยไหม้เป็นจุดสีขาวหรือสีออกแดงเรื่อๆ 25 นักบวชต้องตรวจแผลดู ถ้าขนที่บริเวณแผลเปลี่ยนเป็นสีขาวและมันเกิดเป็นแผลลึกเข้าไปในเนื้อ มันคือโรคผิวหนังอันตราย ที่เกิดจากแผลไฟไหม้ นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังอันตราย 26 แต่ถ้านักบวชตรวจดูแล้ว ไม่มีขนสีขาวบริเวณแผลและแผลก็ไม่กินลึกลงในเนื้อ ทั้งยังค่อยๆจางลง นักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกมาเป็นเวลาเจ็ดวัน 27 ในวันที่เจ็ดถ้านักบวชไปตรวจดูคนๆนั้นอีก แล้วถ้าเห็นว่าแผลลุกลามไปบนผิวหนัง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคผิวหนังเรื้อรัง 28 แต่ถ้าแผลนั้นยังอยู่แบบเดิมไม่ลุกลามออกไป และเริ่มจางลง มันเป็นเพียงแผลพุพองจากไฟไหม้ นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์ เพราะนั่นคือสะเก็ดแผลที่เกิดจากแผลไฟไหม้

29 ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงมีแผลติดเชื้อบนหนังหัวหรือที่คาง 30 แล้วนักบวชดูที่แผลติดเชื้อนั้น แล้วพบว่ามันกินลึกลงไปถึงเนื้อ และผมเริ่มบางลงและกลายเป็นสีเหลือง นักบวชต้องประกาศว่าคนๆนั้นเป็นคนไม่บริสุทธิ์ เพราะมันคือโรคหิด เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังต่อหนังหัวและคาง 31 ถ้านักบวชตรวจดูแผลหิดนั้น แล้วพบว่ามันไม่ถึงกับเป็นแผลลึกเข้าไปในหนัง และไม่มีผมสีดำในแผล นักบวชต้องแยกคนติดเชื้อคนนั้นออกจากประชาชนเป็นเวลาเจ็ดวัน 32 ในวันที่เจ็ดนักบวชจะมาตรวจดูแผลอีกครั้ง ถ้าเห็นแผลไม่ลุกลาม ไม่มีผมสีเหลืองๆในแผล อีกทั้งเชื้อหิดไม่ได้กินลึกเข้าไปในเนื้อ 33 คนๆนั้นต้องโกนผมหรือหนวดทิ้ง แต่อย่าให้ถูกแผล แล้วนักบวชต้องแยกคนๆนั้นออกมาเป็นเวลาอีกเจ็ดวัน 34 ในวันที่เจ็ดนักบวชจะตรวจดูแผลหิดอีก ถ้าเห็นเชื้อไม่ลุกลามไปบนผิวหนังและไม่มีแผลกินลึกไปในเนื้อ นักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์ เขาต้องเอาเสื้อผ้าไปซักล้าง แล้วเขาจะกลายเป็นคนบริสุทธิ์ 35 แต่ถ้าเชื้อหิดนั้นเกิดลุกลามหลังจากที่นักบวชได้ประกาศว่าเขาเป็นคนบริสุทธิ์แล้ว 36 นักบวชจะต้องตรวจสอบคนๆนั้น และถ้าพบว่าเชื้อหิดนั้นลุกลามกระจายไปบนผิวหนังจริง นักบวชไม่จำเป็นต้องตรวจหาผมสีเหลืองอีกต่อไป คนๆนั้นจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ 37 แต่ถ้าเชื้อหิดไม่มีการเปลี่ยนแปลงและมีผมสีดำเกิดขึ้นในนั้น แสดงว่าเชื้อนั้นกำลังจะหาย คนๆนั้นจะเป็นผู้บริสุทธิ์และนักบวชจะต้องประกาศว่าคนๆนั้นบริสุทธิ์

38 ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงเกิดมีจุดขาวๆขึ้นเต็มตัว 39 นักบวชต้องตรวจสอบดู ถ้าพบว่าจุดขาวเหล่านั้นเป็นเพียงสีขาวหม่นๆแสดงว่าเป็นผื่นคันธรรมดาที่ไม่เป็นอันตรายบนผิวหนัง และคนๆนั้นก็ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์

40 ถ้าผู้ชายผมร่วงจนหัวล้าน เขาจะยังคงบริสุทธิ์อยู่ 41 ถ้าผมเขาร่วงจากด้านหน้าไปจนหัวเขาเถิก เขาจะยังคงบริสุทธิ์อยู่ 42 แต่ถ้าเกิดมีแผลออกสีแดงเรื่อๆเกิดขึ้นบนหัวหรือบริเวณที่ผมร่วงบนหน้าผาก มันคือโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดบนหัวและหน้าผาก 43 นักบวชต้องตรวจดูแผลเหล่านั้น ถ้าพบว่ามีแผลสดเกิดขึ้นบนหัวหรือบนหน้าผาก ที่กลายเป็นสีแดงเรื่อๆและมีลักษณะเหมือนแผลของโรคผิวหนังชนิดอันตรายที่เกิดบนร่างกายแล้ว 44 แสดงว่าชายผู้นั้นเป็นโรคผิวหนังอันตราย เขาคือคนที่ไม่บริสุทธิ์ นักบวชต้องประกาศว่าเขาคือคนไม่บริสุทธิ์ เพราะเขาติดเชื้อที่หัว

45 ถ้าคนๆหนึ่งเป็นโรคผิวหนังชนิดอันตราย เขาต้องฉีกเสื้อผ้าตัวเองให้ขาดและต้องไว้ผมยาว และปล่อยให้หนวดยาวรุงรัง[v] และคอยตะโกนว่า ‘ไม่สะอาด ไม่สะอาด’ 46 คนๆนั้นจะไม่บริสุทธิ์ตลอดเวลาที่เขายังมีแผลติดเชื้อ เขาจะเป็นคนไม่บริสุทธิ์ และต้องไปอยู่คนเดียวที่นอกค่าย

47 หากเกิดเชื้อรา[w] ขึ้นบนเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อขนสัตว์หรือลินิน[x] 48 ของใดก็ตามที่ถักหรือทอจากขนสัตว์หรือลินิน หรือแม้กระทั่งบนหนังสัตว์และของที่ทำจากหนังสัตว์ 49 ถ้าจุดที่เป็นราบนเสื้อผ้า หรือบนหนัง หรือของที่ถักหรือทอ หรืออะไรก็ตามที่ทำจากหนังสัตว์นั้น เป็นสีเขียวหรือสีแดง มันเป็นเชื้อที่กำลังลุกลามกระจายไปทั่ว ต้องนำของนั้นไปให้นักบวชดู 50 นักบวชจะตรวจสอบจุดที่เป็นเชื้อราเหล่านั้น และแยกของสิ่งนั้นออกมาไว้ต่างหากเป็นเวลาเจ็ดวัน 51 ในวันที่เจ็ด นักบวชจะไปตรวจสอบดูจุดเหล่านั้นอีกครั้ง ถ้ามันยังกระจายไปบนเสื้อผ้า บนของถักหรือทอ หรือบนหนังสัตว์ หรือสิ่งที่ทำจากหนังสัตว์ก็ตาม โดยลุกลามเป็นเชื้อรา มันจะเป็นของที่ไม่บริสุทธิ์ 52 นักบวชต้องเอาเสื้อผ้า ของถักหรือทอจากลินินหรือขนสัตว์หรือของที่ทำจากหนังสัตว์ที่เกิดเป็นเชื้อรานั้นไปเผาทิ้ง เพราะมันเป็นเชื้อราลุกลาม มันต้องถูกไฟเผา

53 ถ้านักบวชตรวจดูพบว่าเชื้อราเหล่านั้นไม่ได้กระจายไปบนเสื้อผ้า บนของถักหรือทอ หรือบนของที่ทำจากหนังสัตว์นั้นแต่อย่างใด 54 นักบวชต้องสั่งให้คนนำผ้านั้นไปซักล้างจุดเหล่านั้นออก และนักบวชต้องแยกของนั้นออกมาไว้ต่างหากเป็นเวลาเจ็ดวัน 55 หลังจากนั้น นักบวชจะกลับมาตรวจดูอีกครั้ง ถ้าพบว่าเชื้อราเหล่านั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้จะไม่กระจายออก มันจะเป็นของไม่บริสุทธิ์ ท่านต้องเอาไปเผาไฟ ไม่ว่าจุดนั้นจะอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังบนของนั้นก็ตาม

56 แต่ถ้านักบวชตรวจดูแล้ว พบว่าเชื้อราเหล่านั้นเริ่มจางลงหลังจากถูกซักล้าง ให้เขาตัดส่วนที่เป็นเชื้อราออกจากหนังสัตว์ ผ้า หรือสิ่งทอเหล่านั้น 57 และถ้ามันยังปรากฏอีกบนผ้าหรือเครื่องหนังเหล่านั้น และลุกลามไป ท่านต้องเอาของเหล่านั้นไปเผาไฟทิ้ง 58 แต่ถ้าจุดนั้นหายไปจากผ้า สิ่งทอ หรือเครื่องหนังที่ท่านได้นำไปล้าง ท่านต้องเอามันไปล้างซ้ำอีกครั้ง แล้วมันจะบริสุทธิ์”

59 นี่คือกฎเกี่ยวกับเชื้อราบนเสื้อผ้า ทั้งที่ทำจากขนสัตว์หรือลินิน ทั้งที่ทำโดยการถัก หรือทอ หรือบนเครื่องหนัง เพื่อตัดสินว่าของเหล่านี้บริสุทธิ์หรือไม่

กฎสำหรับคนที่หายจากโรคผิวหนัง

14 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ต่อไปนี้จะเป็นกฎสำหรับคนที่เคยเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงแต่หายดีแล้ว เขาต้องถูกนำตัวมาหานักบวช นักบวชต้องออกไปพบคนๆนั้นที่นอกค่าย และถ้าเขาตรวจดูคนๆนั้นแล้วพบว่า โรคผิวหนังของคนๆนั้นหายดีแล้ว นักบวชต้องสั่งให้เขานำนกป่าบริสุทธิ์มาสองตัว ไม้สนซีดาร์หนึ่งชิ้น เชือกสีแดงหนึ่งเส้น กิ่งหุสบ[y] หนึ่งกิ่ง สำหรับใช้ในพิธีชำระล้างให้เขาบริสุทธิ์ นักบวชต้องสั่งให้เอานกตัวหนึ่งมาฆ่าและให้เลือดของมันไหลลงไปในชามดินเผาที่อยู่เหนือน้ำที่ไหลอยู่ แล้วสั่งให้เอานกอีกตัวที่เหลือ มาพร้อมกับ ไม้สน เชือกแดง และกิ่งหุสบ แล้วเอานกตัวนั้นจุ่มลงในเลือดของนกตัวที่ถูกฆ่า ที่อยู่เหนือน้ำที่กำลังไหลนั้น ให้พรมเลือดลงไปเจ็ดครั้งบนตัวคนที่เข้าพิธีชำระจากโรคผิวหนังนั้น แล้วประกาศว่าคนๆนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วนักบวชจะปล่อยนกตัวที่เหลืออยู่นั้นเป็นอิสระกลางท้องทุ่ง

แล้วคนที่ได้รับการประกาศให้เป็นคนบริสุทธิ์แล้ว ต้องเอาเสื้อของเขาไปซักล้าง โกนผมให้เกลี้ยงและอาบน้ำ แล้วเขาจะกลายเป็นคนบริสุทธิ์ หลังจากนั้นเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาในค่ายได้ แต่ต้องอยู่นอกเต็นท์เป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดเขาต้องโกนผม โกนหนวดและขนคิ้วออกให้หมด และต้องซักเสื้อผ้าใหม่ และอาบน้ำชำระร่างกาย แล้วเขาจะเป็นคนบริสุทธิ์

10 ในวันที่แปด คนๆนั้นต้องเอาลูกแกะตัวผู้สองตัวที่ไม่มีตำหนิ และลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิมาตัวหนึ่ง แป้งสาลีอย่างดีประมาณหกลิตรครึ่งผสมกับน้ำมันสำหรับเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร 11 นักบวชที่จะทำพิธีชำระล้าง ต้องนำคนที่จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ พร้อมกับเครื่องบูชาเหล่านี้ มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ 12 แล้วนักบวชต้องเอาลูกแกะตัวผู้มาตัวหนึ่ง ถวายเป็นของถวายชดใช้ และนำน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร มายกขึ้นให้เป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ 13 เขาต้องฆ่าลูกแกะตัวนั้นในบริเวณพื้นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ใช้สำหรับฆ่าเครื่องบูชาชำระล้างและเครื่องเผาบูชา เพราะของถวายชดใช้นี้เป็นเหมือนเครื่องบูชาชำระล้าง มันจะเป็นของนักบวช เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

14 นักบวชจะเอาเลือดส่วนหนึ่งจากของถวายชดใช้ มาแต้มที่ติ่งหูข้างขวา พร้อมกับหัวแม่มือกับหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง 15 นักบวชจะแบ่งน้ำมันมะกอกที่มีอยู่ประมาณหนึ่งในสามลิตรนั้น แล้วเทใส่ฝ่ามือซ้ายของตัวเขาเอง 16 แล้วนักบวชจะเอานิ้วข้างขวาของเขาจุ่มลงในน้ำมันที่อยู่บนฝ่ามือซ้ายของเขา แล้วเอาไปพรมต่อหน้าพระยาห์เวห์เจ็ดครั้ง 17 น้ำมันที่เหลือบนฝ่ามือนักบวช เขาก็จะเอาไปแต้มที่ติ่งหูด้านขวา นิ้วหัวแม่มือด้านขวา และนิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง โดยแต้มทับรอยเลือดจากของถวายชดใช้ที่แต้มไว้ก่อนหน้านี้แล้ว 18 น้ำมันที่เหลือทั้งหมดบนฝ่ามือของนักบวช เขาก็จะเอาไปลูบบนหัวของคนที่จะรับการชำระล้าง ด้วยวิธีนี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะกำจัดบาปหนึ่งบาปใดแทนคนๆนั้นที่เขาได้ทำไปต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์

19 แล้วนักบวชจะถวายเครื่องบูชาชำระล้าง เพื่อชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทนคนๆนั้นที่กำลังได้รับการชำระจากความไม่บริสุทธิ์ของเขา หลังจากนั้น นักบวชก็จะฆ่าเครื่องเผาบูชา 20 แล้วนักบวชก็จะถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชบนแท่นบูชา และด้วยวิธีนี้นักบวชจะทำให้เกิดการคืนดีขึ้นสำหรับคนนั้น และคนนั้นก็จะบริสุทธิ์

21 แต่ถ้าคนที่จะรับการชำระล้างนั้นยากจน ไม่สามารถหาของถวายพวกนั้นมาได้ ก็ให้เขาเอาลูกแกะมาตัวหนึ่ง เป็นของถวายชดใช้ มันจะเป็นเครื่องยื่นบูชาสำหรับเขา เพื่อกำจัดบาปหนึ่งบาปใดที่เขาทำต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์ เขาต้องเอาแป้งอย่างดีมาประมาณสองลิตร ผสมน้ำมัน เป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช พร้อมกับน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร 22 และเอานกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว อย่างใดอย่างหนึ่งที่เขาสามารถให้ได้ ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวใช้เป็นเครื่องเผาบูชา

23 คนที่จะรับการชำระล้าง ต้องนำเครื่องบูชาเหล่านี้มาให้นักบวชในวันที่แปด เพื่อนักบวชจะทำพิธีชำระล้างให้กับเขา ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าพระยาห์เวห์ 24 แล้วนักบวชจะเอาลูกแกะมาเป็นของถวายชดใช้ พร้อมกับน้ำมันมะกอกประมาณหนึ่งในสามลิตร และนักบวชจะถวายพวกมันเป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ 25 แล้วนักบวชก็จะฆ่าลูกแกะที่เป็นของถวายชดใช้ตัวนั้น นักบวชจะเอาเลือดส่วนหนึ่งของมัน มาแต้มที่ติ่งหูข้างขวา หัวแม่มือข้างขวา และหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง 26 จากนั้นนักบวชจะเทน้ำมันส่วนหนึ่งใส่ฝ่ามือซ้ายของตนเอง 27 แล้วใช้นิ้วมือข้างขวาจุ่มน้ำมันที่อยู่ในฝ่ามือซ้ายของเขา แล้วเอาไปพรมต่อหน้าพระยาห์เวห์เจ็ดครั้ง 28 แล้วนักบวชจะเอาน้ำมันส่วนหนึ่งจากฝ่ามือ ไปแต้มที่ติ่งหูข้างขวา หัวแม่มือข้างขวาและหัวแม่เท้าข้างขวาของคนที่จะรับการชำระล้าง โดยแต้มทับไปบนรอยเลือดที่มาจากของถวายชดใช้ ที่แต้มอยู่ก่อนแล้ว 29 น้ำมันที่เหลือบนฝ่ามือของนักบวช เขาจะเอาไปลูบบนหัวของคนที่จะรับการชำระล้าง เพื่อกำจัดบาปหนึ่งบาปใดที่เขาทำต่อพวกของศักดิ์สิทธิ์แทนเขาต่อหน้าพระยาห์เวห์

30 จากนั้นนักบวชจะถวายนกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่คนนั้นสามารถให้ได้ 31 ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง อีกตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชา พร้อมๆกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ด้วยวิธีนี้ ต่อหน้าพระยาห์เวห์ นักบวชจะทำให้เกิดการคืนดีกันขึ้นเพื่อเขาคนนั้นที่กำลังได้รับการชำระล้าง

32 นั่นคือกฎสำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนังร้ายแรง ที่ไม่สามารถหาเครื่องบูชาที่ใช้กันตามปกติสำหรับพิธีการชำระล้างของเขา”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International