Bible in 90 Days
22 อย่าพูดว่า “ฉันจะตอบแทนความชั่วด้วยความชั่ว”
ให้รอคอยพระยาห์เวห์เถิด พระองค์จะช่วยเจ้า
23 พระยาห์เวห์ขยะแขยงลูกตุ้มที่ไม่ซื่อตรง
ตาชั่งที่คดโกงนั้นก็ไม่ดี
24 มนุษย์จะเข้าใจทางชีวิตของตนได้อย่างไร
ในเมื่อพระยาห์เวห์เป็นผู้กำหนดทุกย่างก้าวของเขา
25 อย่าวางกับดักให้กับตัวเอง โดยสาบานอย่างพล่อยๆ
แล้วมาคิดได้ทีหลังเมื่อสาบานไปแล้ว
26 กษัตริย์ที่ฉลาดฝัดร่อนคนชั่วออก
หลังจากเอาล้อบดคนชั่วเหมือนบดเมล็ดข้าวจากรวง
27 จิตวิญญาณของมนุษย์คือตะเกียงของพระยาห์เวห์
พระองค์สามารถมองทะลุเข้าไปในส่วนลึกที่สุดของเรา
28 ความจงรักภักดี และความซื่อสัตย์ จะปกป้องกษัตริย์ไว้
บัลลังก์ของพระองค์จะตั้งอยู่บนความจงรักภักดีนั้น
29 พละกำลังเป็นความภาคภูมิใจของคนหนุ่ม
ผมหงอกเป็นศักดิ์ศรีของคนแก่
30 การเฆี่ยนตีที่ทำให้เกิดแผล ก็ชำระล้างความชั่วออกจากตัวเขา
การโบยตีชำระล้างส่วนลึกที่สุด
21 จิตใจของกษัตริย์ที่อยู่ในมือของพระยาห์เวห์เป็นเหมือนร่องน้ำ
พระองค์จะหันมันไปทางไหนก็ได้ แล้วแต่พระองค์
2 มนุษย์เห็นว่าทุกอย่างที่เขาทำนั้นถูกต้อง
แต่พระยาห์เวห์ตัดสินที่จิตใจ
3 พระยาห์เวห์อยากให้คนทำในสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรม
มากกว่าอยากได้เครื่องบูชา
4 ตาที่หยิ่งยโสและจิตใจที่หยิ่งผยองเป็นบาป
มันเป็นเหมือนตะเกียงส่องให้เห็นว่าคนนั้นชั่ว
5 แผนการต่างๆของคนขยันขันแข็ง นำไปถึงความอุดมสมบูรณ์
แต่คนที่ทำอะไรแบบไม่ยั้งคิดจะยากจน
6 ความร่ำรวยที่ได้จากลิ้นที่ปลิ้นปล้อน
จะจางไปอย่างรวดเร็วเหมือนหมอก เป็นกับดักแห่งความตาย
7 ความรุนแรงของคนชั่วจะลากพวกคนชั่วไป
เพราะพวกเขาไม่ยอมทำสิ่งที่ยุติธรรม
8 ทางของคนที่ทำผิดนั้นคดเคี้ยว
ส่วนคนบริสุทธิ์การกระทำของเขานั้นตรงไปตรงมา
9 อาศัยอยู่ที่ซอกมุมบนดาดฟ้า
ก็ยังดีกว่าร่วมชายคากับเมียที่ชอบหาเรื่อง
10 คนชั่วอยากทำชั่ว
เขาไม่ได้มองเพื่อนบ้านด้วยสายตาที่เมตตา
11 เมื่อคนที่เย่อหยิ่งถูกลงโทษ
คนที่อ่อนต่อโลกก็จะฉลาดขึ้น
เมื่อคนฉลาดได้รับคำแนะนำสั่งสอน
ตัวเขาเองก็ได้รับความรู้เพิ่มขึ้น
12 พระเจ้าผู้ยุติธรรมสังเกตดูบ้านของคนชั่วร้าย
พระองค์เหวี่ยงคนชั่วลงสู่ความพินาศ
13 คนที่ปิดหูไม่ฟังคนจนที่ร้องขอความช่วยเหลือ
ตัวคนนั้นเองจะร้องและจะไม่มีใครฟัง
14 ของกำนัลที่ให้ในที่ลับ ทำให้ความโกรธสงบลง
และสินบนในกระเป๋าก็ทำให้ความเดือดดาลหายไป
15 การตัดสินที่ยุติธรรม ทำให้คนดีมีความสุข
แต่เป็นความหายนะสำหรับพวกที่ทำชั่ว
16 คนที่หลงไปจากทางแห่งความเข้าใจ
จะมาพักอยู่ในที่ชุมชนของพวกผี
17 คนรักความสนุกสนานจะยากจน
คนที่รักเหล้าองุ่นและอาหารแพงๆจะไม่รวย
18 คนดีจะรอดพ้นจากอันตราย แต่คนชั่วจะต้องมารับอันตรายแทน
คนทรยศก็รับอันตรายแทนคนเที่ยงตรง[a]
19 อาศัยอยู่ในทะเลทราย
ก็ยังดีกว่าอยู่กับเมียที่ชอบหาเรื่องและขี้โมโห
20 สมบัติอันล้ำค่าและน้ำมันจะมีอยู่ในบ้านของคนฉลาดเสมอ
แต่คนโง่จะเขมือบทุกอย่างที่ตัวเองมี
21 คนที่ไล่ตามสิ่งที่ถูกต้องและความจงรักภักดี
ก็จะพบกับชีวิตที่ยืนยาว ความเจริญรุ่งเรืองและเกียรติยศ
22 คนฉลาดสามารถโจมตีเมืองของพวกนักรบได้
และสามารถทำลายป้อมปราการที่พวกนั้นไว้วางใจ
23 คนที่รักษาปากและลิ้นของเขา
เป็นคนที่รักษาชีวิตไม่ให้มีปัญหา
24 คนหยิ่ง คนอวดดี ได้ชื่อว่า “ไอ้คนชอบเยาะเย้ย”
เป็นคนเย่อหยิ่งจองหอง
25 คนขี้เกียจจะอดตาย[b]
เพราะมือของเขาไม่ยอมทำงาน
26 คนโลภก็โลภอยู่วันยังค่ำ
แต่คนที่ทำตามใจพระเจ้าก็ให้อย่างไม่ยั้ง
27 พระยาห์เวห์ขยะแขยงเครื่องบูชาของคนชั่ว
เพราะเขาเอามันมาถวายด้วยเจตนาที่ชั่วร้าย
28 พยานเท็จจะพินาศ
แต่คำพูดของคนที่ฟังอย่างรอบคอบจะคงอยู่ตลอดไป
29 คนชั่วแสร้งทำตัวว่าข้าแน่
แต่คนซื่อสัตย์สำรวจทางของตัวเอง
30 ถึงจะมีสติปัญญา ความเข้าใจ และคำปรึกษาดีแค่ไหนก็ตาม
ก็ช่วยไม่ได้หรอก ถ้าพระยาห์เวห์ต่อต้านเจ้า
31 ม้าก็เตรียมไว้พร้อมแล้วสำหรับวันทำสงคราม
แต่พระยาห์เวห์เป็นผู้ให้ชัยชนะ
22 ชื่อเสียงดี ย่อมดีกว่าความร่ำรวย
เป็นที่นับถือย่อมดีกว่าเงินทอง
2 คนรวยและคนจนเหมือนกันตรงนี้
คือพระยาห์เวห์เป็นผู้สร้างพวกเขาทุกคน
3 คนที่ฉลาดหลักแหลมเห็นอันตราย ก็หลบเข้าที่กำบัง
แต่คนที่อ่อนต่อโลก ก็เดินเข้าไปและได้รับอันตราย
4 ความถ่อมสุภาพอันได้แก่ การยำเกรงพระยาห์เวห์
จะนำมาซึ่ง ความมั่งคั่ง เกียรติยศ และชีวิตยืนยาว
5 ทางของคนคดโกงมีขวากหนามและบ่วงแร้ว
แต่คนที่ระมัดระวังการใช้ชีวิตก็จะอยู่ห่างไกลจากสิ่งเหล่านั้น
6 ช่วยเด็กหนุ่มให้เริ่มต้นในทางที่ถูกต้อง
แม้เมื่อเขาแก่ตัวลง เขาจะไม่ละทิ้งทางนั้นไป
7 คนรวยปกครองอยู่เหนือคนจน
และลูกหนี้ก็เป็นทาสของเจ้าหนี้
8 คนที่หว่านความชั่วช้าก็จะเก็บเกี่ยวความหายนะ
แล้วอำนาจในการทำชั่วของเขาก็จะสิ้นสุดลง
9 คนที่ใจดีจะได้รับพระพร
เพราะเขาแบ่งปันอาหารให้กับคนจน
10 ขับไล่พวกที่ชอบดูถูกคนอื่นออกไป แล้วเรื่องขัดแย้งก็จะออกไปด้วย
การฟ้องร้องและการพูดเหยียดหยามก็จะหยุดลง
11 คนที่จริงใจและพูดสุภาพอ่อนน้อม
ก็จะมีกษัตริย์เป็นเพื่อน
12 ดวงตาของพระยาห์เวห์เฝ้าดูแลความจริง
แต่พระองค์ทำลายคำพูดต่างๆของคนชั่ว
13 คนขี้เกียจร้องว่า “มีสิงโตอยู่ข้างนอก
ฉันอาจถูกฆ่าตายอยู่ที่กลางถนนนั้น”
14 คำพูดล่อลวงของหญิงเล่นชู้เป็นหลุมลึก
คนที่พระยาห์เวห์สาปแช่งจะตกลงในหลุมนั้น
15 ความโง่เขลาก็ผูกติดกับจิตใจของเด็กหนุ่ม
แต่ไม้เรียวที่ตีสอนก็จะขจัดมันให้ไกลจากเด็กหนุ่มนั้น
16 คนที่กดขี่คนจนเพื่อจะได้รวยขึ้น
และคนที่ให้ของขวัญกับคนรวย ทั้งคู่ก็จะจน
คำพูดของคนฉลาด
17 คำพูดของคนฉลาด
เงี่ยหูของเจ้ามาฟังคำพูดของคนฉลาด
แล้วใส่ใจในสิ่งที่เราสอน
18 ถ้ามันอยู่ที่ใจ และอยู่ที่ริมฝีปาก
เจ้าก็จะมีความสุข
19 เราสอนเรื่องเหล่านี้กับเจ้าในวันนี้
เพื่อเจ้าจะได้วางใจในพระยาห์เวห์
20 ก่อนหน้านี้[c] เราก็ได้เขียนคำแนะนำ
และสติปัญญาให้กับเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ
21 เพื่อสอนเจ้าให้รู้ถึงความจริงและคำสอนที่เชื่อถือได้
เพื่อเจ้าจะได้กลับไปรายงานคำสอนที่เชื่อถือได้นี้กับคนเหล่านั้นที่ส่งเจ้ามา
22 อย่าได้ขโมยจากคนจนเพราะมันง่าย
และอย่าได้เอาเปรียบคนเดือดร้อนที่ศาลตรงลานเมือง
23 เพราะพระยาห์เวห์ จะว่าความแทนพวกเขา
และปล้นชีวิตของคนที่ปล้นพวกเขา
24 อย่าได้เป็นเพื่อนกับคนที่ขี้โมโห
หรือคบค้ากับคนฉุนเฉียว
25 เพื่อว่าเจ้าจะได้ไม่เลียนแบบนิสัยของเขา
และสุดท้ายก็ติดเข้าไปในกับดัก
26 อย่าไปจับมือทำสัญญา
ว่าจะค้ำประกันหนี้ให้กับคนอื่น
27 ทำไมจะต้องเสี่ยงให้คนอื่นมายึดเตียงที่เจ้านอน
เมื่อเจ้าไม่มีปัญญาจ่ายหนี้นั้น
28 อย่าย้ายหลักเขตที่มีมาช้านาน
ที่บรรพบุรุษของเจ้าปักไว้
29 เจ้าเห็นคนที่ชำนาญงานนั้นไหม
เขาจะได้ยืนรับใช้พวกกษัตริย์
ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา
23 เมื่อเจ้านั่งกินอยู่กับผู้มีอำนาจคนหนึ่งของบ้านเมือง
ให้จำไว้ว่าเจ้ากำลังนั่งกินอยู่กับใคร
2 ถ้าเจ้าเป็นคนกินจุ
ก็ให้ยับยั้งใจไว้บ้าง[d]
3 อย่าได้ตะกละตะกรามนักต่ออาหารที่เลิศหรูนั้น
เพราะมันอาจจะดูดีแค่เปลือกนอก
4 อย่าได้ทำงานหนักจนหมดแรง เพราะหวังจะร่ำรวย
ให้ฉลาดและอย่าทำอย่างนั้น
5 ในพริบตาเดียว เงินก็จะหายไป
ราวกับมีปีกโผล่ออกมา
แล้วบินหนีไปในท้องฟ้าเหมือนนกอินทรี
6 อย่าได้กินอาหารของคนขี้เหนียว
อย่าได้ตะกละตะกรามนักต่ออาหารที่เลิศหรูนั้น
7 เพราะเขาเป็นเหมือนเส้นผมในลำคอ[e]
เขาบอกเจ้าว่า “กินและดื่มสิ”
แต่ใจของเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้น
8 เจ้าจะอาเจียนอาหารอันน้อยนิดที่เจ้ากินเข้าไปออกมา
และเสียดายคำพูดที่เจ้าชมเชยเขาไป
9 อย่าได้แนะนำอะไรให้เข้าหูของคนโง่เลย
เพราะเขาจะดูหมิ่นถ้อยคำอันชาญฉลาดของเจ้านั้น
10 อย่าได้โยกย้ายหลักเขตที่มีมาช้านานแล้ว
และอย่าได้บุกรุกไร่นาของเด็กกำพร้า
11 เพราะพระเจ้าผู้ที่ช่วยพวกเขานั้นมีกำลังมหาศาล
พระองค์จะสู้คดีของพวกเขากับเจ้า
12 ให้เปิดใจของเจ้ารับคำแนะนำสั่งสอน
ให้เปิดหูของเจ้าฟังถ้อยคำแห่งความรู้
13 อย่าได้ยั้งมือจากการตีสอนเด็กหนุ่ม
ถ้าเจ้าตีเขาด้วยไม้เรียว เขาจะไม่ตายหรอก
14 อันที่จริงถ้าเจ้าตีเขาด้วยไม้เรียว
เจ้าก็จะช่วยชีวิตของเขาให้พ้นจากแดนคนตาย
15 ลูกเอ๋ย ถ้าใจของเจ้าฉลาดขึ้นมา
จิตใจของเราก็จะมีความสุข
16 เมื่อริมฝีปากของเจ้าพูดสิ่งที่ถูกต้อง
จิตใจของเราก็จะชื่นบาน
17 อย่าให้ใจของเจ้าอิจฉาพวกคนบาป
แต่ให้ยำเกรงพระยาห์เวห์เสมอ
18 เมื่อนั้นแหละเจ้าจะมีอนาคตที่ดี
และเจ้าจะไม่ผิดหวัง
19 ลูกเอ๋ย ฟังให้ดี และให้ฉลาดไว้
ให้นำจิตใจของเจ้าไปในทางที่ถูก
20 อย่าได้ไปคลุกคลีกับพวกที่ดื่มเหล้าองุ่นจัด
หรือพวกนั้นที่กินเนื้ออย่างตะกละตะกลาม
21 เพราะคนขี้เมาและคนกินเติบจะยากจน
สะลึมสะลือตลอดเวลาจนเหลือแต่ผ้าขี้ริ้วห่อตัว
22 ให้ฟังพ่อของเจ้า ผู้ที่ให้เจ้าเกิดมา
และอย่าได้ดูหมิ่นแม่ของเจ้าเมื่อนางแก่ตัวลง
23 ให้ซื้อความจริงและอย่ายอมขายมันไป
ให้ซื้อความฉลาด การสั่งสอน และความเข้าใจ
24 ลูกดี ทำให้พ่อชื่นใจ
ลูกฉลาด ทำให้พ่อภูมิใจ
25 ทำให้พ่อแม่ของเจ้ามีความสุข
ทำให้แม่ที่ให้กำเนิดเจ้ามานั้นดีใจเถอะ
26 ลูกเอ๋ย มอบจิตใจของเจ้าให้กับเรา
ให้ดวงตาของเจ้าเฝ้าสังเกตทางต่างๆของเรา
27 เพราะหญิงโสเภณีนั้นคือหลุมลึก
และหญิงที่เล่นชู้คือบ่อที่คับแคบ
28 เธอหมอบซุ่มอยู่เหมือนโจร
และทำให้จำนวนคนไม่ซื่อสัตย์เพิ่มขึ้น
29 ใครล่ะที่ร้องครวญคราง ใครล่ะที่คร่ำครวญ
ใครล่ะที่ทะเลาะวิวาท ใครล่ะที่กลุ้มใจ
ใครล่ะที่มีบาดแผลฟกช้ำโดยไม่จำเป็น
ใครล่ะที่มีดวงตาแดงก่ำ
30 ก็คนเหล่านั้นไงที่ดื่มเหล้าองุ่นจนดึกดื่น
คนเหล่านั้นไงที่ไปทดลองดื่มเหล้าผสม
31 อย่าไปหลงใหลเหล้าองุ่น ตอนมันสีแดงสดเหมือนเลือด
ตอนที่มันเป็นประกายระยิบระยับในถ้วยเหล้า
มันไหลลื่นลงคอ
32 แต่ท้ายที่สุดมันก็ฉกเหมือนงู
และมันก็พ่นพิษออกมาดุจงูพิษร้าย[f]
33 สายตาของเจ้าจะเห็นภาพหลอน
แล้วเจ้าจะพูดสับสนเพราะความคิดเลอะเลือน
34 เจ้าจะเป็นเหมือนคนนอนอยู่บนเรือกลางทะเล
เหมือนนอนบนแท่นตรงยอดเสากระโดงเรือ
35 เจ้าจะพูดว่า “พวกเขาตีข้า แต่ข้าไม่รู้สึกเจ็บ
พวกเขาทุบข้า แต่ข้าไม่รู้สึกอะไร
เมื่อไหร่ข้าจะตื่นซักที
เพื่อข้าจะได้ไปดื่มต่อ”
24 อย่าอิจฉาคนชั่ว
อย่าคิดจะไปร่วมกับพวกเขา
2 เพราะใจของพวกเขาคบคิดกันวางแผนร้าย
และริมฝีปากพวกเขาก็มีแต่ก่อความเดือดร้อน
3 บ้านเรือนต้องใช้สติปัญญาสร้าง
ความเข้าใจจะทำให้มันมั่นคง
4 ความรู้จะทำให้ห้องต่างๆเต็มไปด้วย
ทรัพย์สินที่มีค่าและสวยงาม
5 คนฉลาดนั้นมีพลังยิ่งกว่าคนแข็งแรง
คนที่มีความรู้นั้นมีพลังยิ่งกว่าคนมีกำลังมาก
6 เจ้าต้องมีกลยุทธ์ที่ดีในการทำสงคราม
ถ้ามีที่ปรึกษามากๆก็จะชนะ
7 สำหรับคนโง่ สติปัญญานั้นก็สูงเกินเอื้อม
ในที่ประชุมตรงประตูเมือง คนโง่ก็ปิดปากเงียบไม่มีอะไรจะพูด
8 บางคนก็วางแผนที่จะทำชั่วอยู่เสมอ
คนอย่างนี้ได้ชื่อว่า “คนเจ้าเล่ห์”
9 สิ่งที่คนโง่วางแผนจะทำนั้นคือความบาป
คนที่ชอบเยาะเย้ยเป็นที่น่าขยะแขยง
10 ถ้าเจ้าอ่อนแอในยามคับขัน
เจ้าก็เป็นคนอ่อนแอจริงๆ
11 ให้ช่วยเหลือคนเหล่านั้นที่กำลังถูกนำไปฆ่า
และอย่าได้ยั้งมือที่จะช่วยเหลือคนที่กำลังโซซัดโซเซไปให้เขาฆ่า
12 เพราะถ้าเจ้าพูดว่า “ดูสิ พวกเราไม่รู้เรื่องนี้เลย”
พระเจ้าผู้ทดสอบใจจะไม่รู้เรื่องเชียวหรือ
พระองค์ผู้เฝ้าสังเกตเจ้าจะไม่รู้หรือ
พระองค์จะไม่ตอบแทนแต่ละคนตามการกระทำของเขาหรือ
13 ลูกจ๋า กินน้ำผึ้งนะ เพราะว่ามันดี
และรวงผึ้งนั้นมีรสชาติหวานต่อลิ้นของเจ้า
14 และให้รู้ไว้ด้วยว่าสติปัญญานั้นก็หวานต่อจิตวิญญาณของเจ้า
ถ้าเจ้าหามันพบ เจ้าก็จะมีอนาคตที่ดี
และเจ้าจะสมหวัง
15 อย่าทำเหมือนคนร้ายที่หมอบซุ่มอยู่คอยปล้นบ้านคนดี
อย่าจู่โจมบ้านของคนดีนั้น
16 เพราะคนดีถึงจะล้มลงเจ็ดครั้ง ก็จะลุกขึ้นมาได้ทั้งเจ็ดครั้ง
แต่คนชั่วเมื่อถูกความหายนะเล่นงานแค่ครั้งเดียว ก็จบกัน
17 เมื่อศัตรูของเจ้าล้มลง ก็อย่าได้สะใจ
เมื่อเขาถูกโค่นลงก็อย่าได้ดีใจ
18 ไม่อย่างนั้นเมื่อพระยาห์เวห์เห็น พระองค์จะไม่พอใจ
และหันความโกรธไปจากศัตรูของเจ้า
19 อย่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟต่อคนทำชั่ว
แล้วอย่าไปอิจฉาคนเลวเลย
20 เพราะคนชั่วนั้นไม่มีอนาคต
ตะเกียงของคนเลวจะถูกดับวูบไป
21 ลูกเอ๋ย ให้ยำเกรงพระยาห์เวห์และกษัตริย์
และอย่าได้กบฏต่อทั้งสองพระองค์นั้น
22 เพราะทั้งสองพระองค์สามารถส่งความหายนะมาสู่เจ้า อย่างไม่ทันตั้งตัว
แล้วใครจะรู้ว่าความล่มจมที่ทั้งสองจะนำมานั้นจะขนาดไหน
คำพูดอื่นๆของคนฉลาด
23 นี่ก็เป็นคำพูดของคนฉลาดด้วยคือ
การตัดสินที่ลำเอียงเป็นสิ่งที่ไม่ดี
24 ชนชาติต่างๆจะสาปแช่งและประณาม
พวกผู้พิพากษาที่ตัดสินคนชั่วว่า “เป็นผู้บริสุทธิ์”
25 ผู้คนจะอวยพรพวกผู้พิพากษาที่ตัดสินลงโทษคนผิด
พวกผู้พิพากษาเหล่านั้นจะได้ดี
26 คำตอบที่ซื่อตรง
ให้ความสุขเหมือนกับการจูบที่ริมฝีปาก
27 ก่อนอื่น เตรียมทุ่งนาให้พร้อม
แล้วหว่านพืชให้เสร็จ
แล้วค่อยปลูกบ้านของเจ้า
28 อย่าได้เป็นพยานปรักปรำเพื่อนบ้านในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
และอย่าพูดหลอกลวง
29 อย่าพูดว่า “ข้าจะทำกับมัน อย่างที่มันทำกับข้า
ข้าจะแก้แค้นมันให้สาสมกับที่มันทำกับข้า”
30 เราผ่านไร่นาของคนขี้เกียจ
และผ่านไร่องุ่นของคนโง่
31 มีแต่หนามขึ้นเต็มไปหมด
หญ้าก็รกปิดหน้าดิน
ส่วนกำแพงหินก็พังทลายลง
32 เรามองดู และครุ่นคิดในใจ
เราสังเกต และได้บทเรียนนี้ว่า
33 นอนสักนิด งีบสักหน่อย
กอดอกพักสักครู่
34 แล้วความจนก็จะจู่โจมเข้ามาหาเจ้าอย่างโจร
ความอดอยากจะจู่โจมเข้ามาอย่างคนที่ติดอาวุธ
สุภาษิตอื่นๆของกษัตริย์ซาโลมอน
25 ต่อไปนี้เป็นสุภาษิตของซาโลมอนเหมือนกันที่คนของกษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์ ได้คัดลอกไว้
2 เราเคารพพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระองค์ปิดซ่อนไว้เป็นความลับ
แต่เราเคารพพวกกษัตริย์สำหรับสิ่งที่พวกเขาค้นพบ
3 จิตใจของพวกกษัตริย์ก็สุดที่จะหยั่งรู้ได้
เหมือนกับความสูงของสวรรค์และความลึกของโลกนี้
4 ให้ขจัดขี้เงินออกไปจากตัวเงิน[g]
และช่างเงินจะได้มีเงินบริสุทธิ์ไปทำภาชนะ
5 ให้ขจัดคนชั่วออกไปจากเบื้องหน้ากษัตริย์
แล้วความยุติธรรมจะทำให้บัลลังก์ของพระองค์มั่นคง
6 อย่าได้อวดอ้างตัวเองต่อหน้ากษัตริย์
หรือทำตัวเป็นคนสำคัญ
7 ให้กษัตริย์เชิญคุณว่า “ขึ้นมานั่งตรงนี้สิ”
ก็ยังดีกว่าต้องถูกฉีกหน้าต่อหน้าผู้สูงศักดิ์
8 อย่าได้รีบเอาเรื่องที่คุณเห็นกับตามาฟ้องศาล
เพราะถ้ามีอีกคนหนึ่งมาพิสูจน์ให้เห็นว่าคุณผิด
คุณก็จะหน้าแตก
9 เมื่อคุณต้องฟ้องร้องกับเพื่อนบ้าน
อย่าเอาความลับของบุคคลที่สามมาอ้าง
10 ไม่อย่างนั้น ผู้พิพากษาจะทำให้คุณเสียหน้า
แล้วเรื่องที่คุณทำนี้จะทำให้คุณเสียชื่อไปตลอด
11 คำพูดที่ถูกกาลเทศะ[h]
ก็เหมือนกับผลไม้ทองคำในชามเงิน
12 คนฉลาดที่ให้คำตักเตือนกับหูที่รับฟัง
ก็เหมือนต่างหูทองและเครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์
13 หิมะให้ความเย็นกับคนเก็บเกี่ยวอย่างไร
ผู้ส่งข่าวที่ไว้ใจได้
ก็จะทำให้จิตใจของเจ้านายที่ส่งเขาไปชุ่มชื่นอย่างนั้น
14 คนที่สัญญาว่าจะให้ของขวัญแล้วไม่เคยให้
ก็เหมือนกับเมฆและลมที่ไม่ให้ฝน
15 ความใจเย็นสามารถโน้มน้าวผู้นำได้
คำพูดที่สุภาพอ่อนหวานนั้น มีพลังหักกระดูกที่แข็งแกร่งได้
16 ถ้าเจ้าพบน้ำผึ้ง ก็ให้กินพอประมาณ
กลัวว่าเจ้าจะเต็มกลืนและอาเจียนออกมา
17 ให้เท้าของเจ้าห่างๆจากบ้านของเพื่อนบ้านบ้าง อย่าไปถี่นัก
กลัวว่าเขาจะเอือมระอากับเจ้าและเกลียดขี้หน้าเจ้า
18 คนที่เป็นพยานเท็จต่อเพื่อนบ้าน
ก็เหมือนนักรบที่เหวี่ยงดาบและยิงธนูที่แหลมคม
19 การหวังพึ่งคนที่ไม่จริงใจในยามคับขัน
ก็เหมือนกับฟันที่ผุและเท้าที่เคล็ด
20 การร้องเพลงสนุกสนานให้คนทุกข์ใจฟัง
ก็เหมือนถอดเสื้อคลุมในวันที่มีอากาศหนาว
และเหมือนเทน้ำส้มสายชูลงบนแผล
21 ถ้าศัตรูของเจ้าหิว ก็ให้อาหารเขา
ถ้าเขากระหาย ก็เอาน้ำให้เขาดื่ม
22 เพราะเจ้าจะทำให้เขาอับอาย เหมือนเอาถ่านแดงๆออกจากหัวเขา[i]
และพระยาห์เวห์ก็จะให้รางวัลกับเจ้า
23 การนินทาก็นำความโกรธมา
เหมือนลมเหนือนำฝนมาให้
24 อาศัยอยู่ที่ซอกมุมบนดาดฟ้า
ก็ยังดีกว่าร่วมชายคากับเมียที่ชอบหาเรื่อง
25 ข่าวดีจากทางไกล
ก็เหมือนกับน้ำเย็นสำหรับคอที่แห้งผาก
26 คนดีๆที่พ่ายแพ้ต่อคนชั่ว
ก็เหมือนกับตาน้ำที่เป็นโคลน และบ่อที่มีน้ำเสีย
27 กินน้ำผึ้งมากเกินก็ไม่ดี
ถ้าพยายามทำสิ่งที่ยากเกินไป ไม่นำเกียรติยศมาให้
28 คนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
ก็เหมือนเมืองที่ไม่มีกำแพงป้องกัน
26 เกียรติยศไม่เหมาะกับคนโง่
เหมือนที่หิมะไม่เหมาะกับหน้าร้อนหรือฝนไม่เหมาะกับฤดูเก็บเกี่ยว
2 ถ้าคนสาปแช่งเจ้าโดยที่เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด คำสาปแช่งนั้นจะไม่มาเกาะบนเจ้า
มันจะเหมือนกับนกที่โฉบไปมา หรือนกนางแอ่นที่โผบิน
3 ม้าคู่กับแส้ ลาคู่กับบังเหียน
หลังคนโง่คู่กับไม้เรียว
4 เมื่อคนโง่พูดอะไรโง่ๆอย่าไปตอบ
ไม่อย่างนั้นจะเป็นเหมือนเขา
5 เมื่อคนโง่พูดอะไรโง่ๆตอบเขาสิ
ไม่อย่างนั้นเขาจะคิดว่าเขาฉลาด
6 คนที่ส่งข่าวสารไปกับมือของคนโง่
กำลังตัดเท้าตัวเอง และกำลังจะดื่มความเดือดร้อน
7 คำคมที่ติดปากคนโง่
เป็นเหมือนกับขาของคนพิการที่ห้อยอยู่ ไม่มีประโยชน์
8 การให้เกียรติคนโง่
เป็นเรื่องโง่พอๆกับผูกหินไว้กับสลิงแล้วเหวี่ยงไม่ไป
9 คำคมที่ติดปากคนโง่
เป็นเหมือนหนามที่ติดมือคนเมา
10 คนที่จ้างคนโง่หรือคนเมาที่เดินผ่านมา
ก็เหมือนนักธนูที่ยิงไปเรื่อยไม่เลือกหน้า
11 คนโง่ที่กลับทำเรื่องโง่ๆซ้ำแล้วซ้ำอีก
เหมือนหมาที่กลับไปกินสิ่งที่มันอ้วกออกมา
12 คุณเคยเห็นคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนฉลาดไหม
ยังมีความหวังสำหรับคนโง่มากกว่าคนอย่างนั้นเสียอีก
13 คนขี้เกียจร้องว่า “มีสิงโตอยู่บนถนน
มีสิงโตอยู่ตามท้องถนน” เขาก็เลยไม่ออกไปจากบ้าน
14 คนขี้เกียจพลิกไปมาอยู่บนเตียง
เหมือนบานพับประตูที่พลิกไปมา
15 คนขี้เกียจซุกมือไว้ในชาม
ขี้เกียจแม้แต่จะยกอาหารเข้าปากตัวเอง
16 คนขี้เกียจคิดว่าเขานี้ฉลาดกว่า
คนเจ็ดคนที่ตอบอย่างมีเหตุมีผล
17 คนที่ชอบเข้าไปแส่เรื่องของคนอื่นที่กำลังทะเลาะกันอยู่
ก็เหมือนกับคนที่ดึงหูทั้งสองข้างของหมาจรจัดที่เดินผ่านมา
18-19 คนที่หลอกลวงเพื่อนบ้าน
แล้วแกล้งทำเป็นพูดว่า “แค่ล้อเล่น”
ก็เหมือนกับคนบ้าที่เที่ยวยิงธนูไฟมั่วๆออกไปฆ่าใครต่อใคร
20 ไม่มีฟืน ไฟก็ดับ
ไม่มีการซุบซิบนินทา การทะเลาะวิวาทก็หยุดลง
21 ถ่านหินก่อให้ไฟเผาไหม้ ฟืนก่อให้ไฟติด
คนชอบทะเลาะก็ก่อให้เกิดการขัดแย้งอยู่เรื่อยไป
22 คำซุบซิบนินทา
เป็นเหมือนอาหารอร่อย ที่ตกลงไปในท้องของผู้ฟัง
23 จูบที่แสนอบอุ่น แต่ซ่อนใจชั่วร้าย
เหมือนน้ำยาสีเงินที่เคลือบหม้อดินถูกๆ
24 ศัตรูก็แอบแฝงตัวเอง ภายใต้คำพูดที่อ่อนหวาน
แต่ภายในใจเขานั้น แอบซ่อนการหลอกลวงไว้
25 ถ้าเขาพูดสุภาพเรียบร้อย อย่าไปหลงเชื่อ
เพราะใจของเขามีแต่เรื่องชั่วช้าน่าขยะแขยงร้อยแปด
26 เขาปิดบังความเกลียดชังของเขาด้วยการหลอกลวง
แต่ความชั่วของเขาจะถูกเปิดโปงในที่สาธารณะ
27 คนที่ขุดหลุมพรางจะตกลงไปเอง
คนที่พยายามกลิ้งหินใส่คนอื่น มันจะกลิ้งกลับมาทับเขาเอง
28 ลิ้นที่โกหก เกลียดคนที่มันโกหก
แต่ปากที่ประจบประแจง
ก็ทำให้ตัวเองพินาศได้
27 ไม่ต้องคุยโวถึงวันพรุ่งนี้
เพราะเจ้าไม่รู้ว่า
แต่ละวันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
2 ให้คนอื่นเยินยอเจ้า ไม่ใช่จากปากของเจ้าเอง
ให้คนอื่นเยินยอ ไม่ใช่ออกมาจากริมฝีปากของเจ้าเอง
3 หินนั้นหนัก ทรายก็แบกยาก
แต่การยุแหย่ของคนโง่ ก็หนักยิ่งกว่าสองสิ่งนั้นอีก
4 ความโกรธนั้นโหดร้าย ทำลายได้เหมือนน้ำท่วม
แต่ใครจะทนต่อความอิจฉาริษยาได้
5 การต่อว่ากันต่อหน้า
ก็ยังดีกว่าความรักที่ไม่แสดงออก
6 บาดแผลที่เกิดจากเพื่อน
ก็มาจากความตั้งใจที่ดี
แต่รอยจูบมากมายของศัตรูนั้น ก็ไม่จริงใจ
7 คนที่อิ่มตื้อ รังเกียจแม้แต่น้ำผึ้ง
แต่คนที่หิวจัด ของขมก็ว่าหวาน
8 คนที่เร่ร่อนไปไกลบ้าน
ก็เหมือนกับนกบินร่อนไปห่างรัง
9 น้ำหอมและเครื่องหอมให้ความสุขกับเจ้า
แต่คำแนะนำอันอ่อนหวานของเพื่อน
ทำให้เจ้าสุขใจยิ่งกว่าความคิดตัวเอง
10 อย่าได้ทอดทิ้งเพื่อนของเจ้า
หรือเพื่อนของพ่อเจ้า
เจ้าจะได้ไม่ต้องไปหาพี่น้องของเจ้าตอนที่เจ้าเจอปัญหา
เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆก็ดีกว่าพี่น้องที่อยู่ห่างไกล
11 ลูกเอ๋ย ให้ฉลาดไว้ แล้วพ่อจะดีใจ
แล้วถ้ามีใครมาว่าพ่อ พ่อจะได้โต้ตอบไป
12 คนที่ฉลาดหลักแหลมเห็นอันตราย
ก็หลบเข้าที่กำบัง
แต่คนที่อ่อนต่อโลก
ก็เดินเข้าไปและได้รับอันตราย
13 หากเขามาค้ำประกันให้กับคนแปลกหน้า
ให้ยึดเสื้อผ้าของเขาเป็นเครื่องมัดจำ
หากเขาค้ำประกันให้กับคนต่างด้าว
ก็ให้ยึดเครื่องประกันของเขาไว้
14 คนที่มาอวยพรให้กับเพื่อนบ้านของเขา
ด้วยเสียงอันดังตอนเช้ามืด
เพื่อนบ้านคงถือว่าเป็นคำสาปแช่ง
15 ภรรยาที่ชอบชวนทะเลาะวิวาท
ก็เปรียบเหมือนหลังคาที่รั่วไม่หยุดในวันที่ฝนตก
16 จะหยุดยั้งเธอไว้ก็เหมือนพยายามหยุดยั้งลม
หรือพยายามกำน้ำมันด้วยมือ
17 เหล็กลับเหล็กให้คมได้
คนก็ลับเพื่อนของเขาได้
18 คนที่คอยดูแลต้นมะเดื่อ ก็ได้กินผลของมัน
คนที่คอยเอาใจใส่ดูแลเจ้านายของเขา
ก็จะได้รับรางวัล
19 จิตใจสะท้อนให้เห็นตัวตนที่แท้จริง
เหมือนกับน้ำที่สะท้อนให้เห็นใบหน้า
20 แดนคนตายและแดนพินาศไม่เคยอิ่ม
กิเลสของตาก็ไม่เคยอิ่มเหมือนกัน
21 เบ้าหลอมทำให้รู้ธาตุแท้ของเงิน
เตาหลอมทำให้รู้ธาตุแท้ของทอง
คำสรรเสริญทำให้รู้ธาตุแท้ของคน
22 ถึงจะเอาคนโง่ใส่ครก
แล้วตำด้วยสาก เหมือนตำเมล็ดข้าว
ความโง่ก็ยังไม่หลุดออกไปจากเขาอยู่ดี
23 ให้รู้จักสภาพฝูงแพะแกะของเจ้าให้ดี
ให้เอาใจใส่ดูแลฝูงสัตว์เหล่านั้น
24 เพราะความมั่งคั่งไม่อยู่ถาวรตลอดไป
และมงกุฎก็ไม่อยู่ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน
25 ให้ตัดหญ้าเอามาเป็นฟาง
แล้วหญ้าใหม่ก็จะขึ้นมาแทน
และให้ขึ้นไปเก็บเกี่ยวหญ้าบนเนินเขา
26 แล้วเจ้าจะได้ตัดขนแกะมาทำเสื้อผ้า
เจ้าจะได้ขายแพะบางส่วนมาซื้อท้องทุ่ง
27 เจ้าจะมีนมแพะเหลือเฟือ
เป็นอาหารของเจ้าและของครัวเรือนเจ้า
และมีอาหารเลี้ยงดูพวกสาวใช้ของเจ้า
28 คนชั่วช้าวิ่งหนี ทั้งๆที่ไม่มีใครไล่ตาม
แต่คนดีนั้นกล้าหาญเหมือนสิงโต
2 ชนชาติที่มีแต่การกบฏก็เปลี่ยนผู้นำเป็นว่าเล่น
แต่ชนชาติที่มีผู้นำที่หัวไวและรอบรู้ จะมั่นคง
3 คนจนที่เอาเปรียบพวกคนจนด้วยกัน
ก็เหมือนกับน้ำฝนที่ไหลเชี่ยวไม่เหลือผลผลิตไว้เลย
4 คนที่ละทิ้งกฎของพระเจ้า
ก็สรรเสริญคนชั่วช้า
แต่คนที่เชื่อฟังกฎของพระเจ้า
ก็ต่อต้านคนชั่ว
5 คนชั่วไม่เข้าใจความยุติธรรม
แต่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระยาห์เวห์ เข้าใจมันอย่างครบถ้วน
6 จนแต่ซื่อสัตย์
ดีกว่ารวยแต่ขี้โกง
7 ลูกที่ฉลาด ก็เชื่อฟังกฎของพระเจ้า
แต่ลูกที่คบกับคนเสเพล นำความอับอายมาสู่พ่อของเขา
8 คนที่ร่ำรวยจากการขูดรีดดอกเบี้ยสูงๆ
สุดท้ายเงินนั้นก็จะตกไปเป็นของคนที่เมตตาคนจน
9 ถ้าใครหันหูไปจากกฎของพระเจ้า
พระองค์ก็จะขยะแขยง
แม้แต่จะฟังคำอธิษฐานของเขา
10 คนที่ชักจูงให้คนดีหลงไปในทางชั่ว
คนนั้นก็จะตกลงไปในหลุมกับดักของตัวเอง
แต่คนที่บริสุทธิ์นั้น ก็จะได้รับสิ่งที่ดีๆเป็นมรดก
11 คนรวยมองว่าตัวเองฉลาด แต่คนยากจนที่หัวไว
ก็จะมองคนรวยเหล่านั้นออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
12 เมื่อคนดีประสบความสำเร็จ ทุกคนก็ดีใจ
แต่เมื่อคนชั่วมีอำนาจขึ้น ทุกคนพากันหลบซ่อน
13 คนที่ปกปิดความผิดบาปของตัวเอง จะไม่เจริญรุ่งเรือง
แต่คนที่สารภาพและละทิ้งบาปเหล่านั้น จะพบกับความเมตตา
14 คนที่กลัวบาปก็น่านับถือจริงๆ
แต่คนดื้อรั้นจะตกอยู่ในความทุกข์ยากลำบาก
15 ผู้นำที่ชั่วช้าที่ปกครองอยู่เหนือชนชาติที่ยากจน
เป็นเหมือนสิงโตที่คำรามหรือหมีที่จู่โจมเข้าใส่
16 ผู้นำที่ขาดความเข้าใจคือเผด็จการจอมโหด
แต่คนที่เกลียดชังเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย ก็จะปกครองเป็นเวลายาวนาน
17 อย่าไปช่วยคนที่มีความผิด
เพราะฆ่าคนอื่น
ปล่อยให้เขาหลบหนีไปจนตาย
18 คนที่เดินในทางสัตย์ซื่อ จะปลอดภัย
แต่คนที่เดินในทางคดโกง จะล้มลงอย่างฉับพลัน
19 คนที่ทำงานในไร่นาของตน จะมีอาหารอย่างเหลือเฟือ
แต่คนที่วิ่งไล่ตามสิ่งที่ไร้สาระ จะมีความยากจนอย่างเหลือเฟือ
20 คนซื่อสัตย์จะได้รับพระพรอย่างเหลือล้น
แต่คนที่คิดจะรวยทางลัด จะหนีไม่พ้นการลงโทษ
21 การลำเอียงนั้นไม่ดี
แต่ก็ยังมีบางคนยอมรับสินบนที่มีค่า
แค่ขนมปังชิ้นเดียว
22 คนโลภก็อยากรวยเร็วๆ
แต่หารู้ไม่ว่า เขาจะยากจนในเร็วๆนี้
23 คนที่ว่ากล่าวตักเตือนคนอื่น ทีหลังก็จะเป็นที่ชื่นชอบ
มากกว่าคนที่แกล้งยกยอคนอื่น
24 คนที่ขโมยของของพ่อแม่
แล้วบอกว่าไม่ผิด
ก็ไม่ต่างจากพวกอันธพาล
25 คนโลภมีแต่จะกวนให้ทะเลาะกัน
แต่คนที่ไว้วางใจในพระยาห์เวห์จะสมบูรณ์พูนสุข
26 คนที่ไว้วางใจในความคิดของตน คือคนโง่
แต่คนที่เดินตามสติปัญญาของครู
จะปลอดภัย
27 คนที่หยิบยื่นให้กับคนจน จะไม่มีวันจน
แต่คนที่ปิดหูปิดตาจากคนจน
จะถูกสาปแช่งมากมาย
28 เมื่อคนชั่วช้ามีอำนาจขึ้น ผู้คนต่างก็พากันแอบซ่อน
แต่เมื่อพวกเขาหมดอำนาจ คนดีจะกลับมามีอำนาจแทน
29 คนที่ถูกตักเตือนบ่อยๆแต่ยังหัวดื้อ
เขาจะถูกทำลายในพริบตา
เกินกว่าที่จะรักษาได้
2 เมื่อคนดีมีอำนาจ ผู้คนก็ชื่นชมยินดี
แต่เมื่อคนชั่วปกครอง ผู้คนก็คร่ำครวญ
3 คนที่รักสติปัญญา จะทำให้พ่อดีใจ
แต่คนที่คบกับพวกหญิงโสเภณี
จะสิ้นเนื้อประดาตัว
4 กษัตริย์ที่ยุติธรรม ทำให้ประเทศมั่นคง
แต่กษัตริย์ที่รีดไถภาษี
จะทำลายประเทศนั้น
5 คนที่ป้อยอเพื่อนบ้านเพื่อหวังผลตอบแทน
กำลังกางตาข่ายไว้ดักขาตัวเอง[j]
6 คนชั่วช้าก็ติดกับในความบาปของตัวเอง
แต่คนที่ทำตามใจพระเจ้าก็ร้องเพลงและดีใจ
7 คนยุติธรรมต้องการปกป้องสิทธิ์ของคนจน
แต่คนชั่วช้าไม่สนใจ
8 คนเย่อหยิ่งจองหองก็ทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ
แต่คนฉลาดดับไฟโกรธลง
9 เมื่อคนฉลาดขึ้นศาลกับคนโง่
คนโง่ก็เกรี้ยวกราดและหัวเราะเยาะ
หาข้อยุติไม่ได้
10 พวกกระหายเลือดเกลียดคนซื่อสัตย์
คนชั่วช้าก็ตามล่าชีวิตของคนซื่อสัตย์นั้น
11 คนโง่ก็ระบายความโกรธออกมาหมด
แต่คนฉลาดก็ระงับความโกรธไว้
12 ผู้นำที่ฟังความเท็จ
ข้าราชการของเขาก็พลอยชั่วช้าไปด้วย
13 ทั้งคนจนและคนที่ข่มเหงเขาเหมือนกันตรงนี้ คือ
พระยาห์เวห์ให้เขาทั้งสองเกิดมาเห็นแสงสว่าง
14 ถ้ากษัตริย์ตัดสินคนจนอย่างยุติธรรม
บัลลังก์ของเขาก็จะยั่งยืนตลอดไป
15 ไม้เรียวและคำดุด่าก่อให้เกิดสติปัญญา
แต่เด็กหนุ่มที่ถูกปล่อยให้ทำตามใจตัวเอง ก็จะทำให้แม่เขาอับอาย
16 เมื่อคนชั่วมีอำนาจ ความบาปก็เพิ่มขึ้น
แต่ในที่สุดคนดีจะได้เห็นคนชั่วเหล่านั้นล้มลง
17 ตีสอนลูกชายของเจ้า แล้วเจ้าจะไม่ต้องเป็นห่วงกังวลเขา
เขาจะทำให้จิตใจของเจ้าชื่นบาน
18 ที่ไหนที่ไม่มีการทรงนำจากพระเจ้า
คนก็จะไม่มีการยับยั้งชั่งใจ
แต่คนที่เชื่อฟังกฎของพระเจ้ามีเกียรติจริงๆ
19 แค่คำพูดอย่างเดียวปรับปรุงแก้ไขคนใช้
ไม่ได้หรอก
ถึงเขาจะเข้าใจ เขาก็ไม่เชื่อฟัง
20 ยังมีความหวังสำหรับคนโง่
มากกว่าคนปากไว
21 ถ้านายเอาใจทาสของเขาตั้งแต่เด็ก
ทาสคนนั้นจะเป็นคนดื้อด้าน
22 คนโมโหร้ายทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท
คนขี้โมโหก็ทำบาปมากมาย
23 ความเย่อหยิ่งจะทำให้คนตกต่ำ
แต่คนที่ถ่อมตัวจะได้รับเกียรติ
24 คนที่สมรู้ร่วมคิดกับโจรก็เกลียดตัวเอง
เขาไม่ยอมพูดความจริงในศาล ทั้งๆที่เขาจะต้องตกอยู่ใต้คำสาปแช่ง
25 การกลัวคนนั้นคนนี้ อาจกลายเป็นกับดัก
แต่คนที่ไว้วางใจในพระยาห์เวห์จะปลอดภัย
26 หลายคนมาขอความช่วยเหลือจากผู้นำ
แต่พระยาห์เวห์เท่านั้น ที่ให้ความยุติธรรมกับแต่ละคน
27 คนดีขยะแขยงคนไม่ยุติธรรม
คนชั่วขยะแขยงคนยุติธรรม
คำพูดของอากูร์
30 คำพูดของอากูร์ ลูกชายของยาเคห์ จากเมืองมัสสา
อากูร์พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า
ข้าพเจ้าเหนื่อยล้าเหลือเกิน
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าเหนื่อยล้าเหลือเกิน
ข้าพเจ้าก็หมดเรี่ยวแรงแล้ว”
2 ข้านี่โง่เกินกว่าที่จะเป็นมนุษย์
ข้าไม่มีความเฉลียวฉลาดของมนุษย์เลย
3 ข้าไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสติปัญญา
และข้าก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วย
4 มีใครบ้างหรือที่ได้ขึ้นไปบนสวรรค์แล้วลงมา
มีใครบ้างหรือที่ได้กำสายลมทั้งหมด
ไว้ในอุ้งมือของเขา
มีใครบ้างหรือที่ได้ห่อมหาสมุทร
ไว้ในเสื้อของเขา
มีใครบ้างหรือที่ได้ตั้งขอบเขตของโลกนี้
คนนั้นมีชื่อว่าอะไร และลูกชายของเขาชื่อว่าอะไร
บอกข้าหน่อย ถ้าเจ้ารู้
5 คำพูดของพระเจ้าทุกคำ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าจริง
พระองค์เป็นโล่กำบังให้กับคนที่เข้ามาลี้ภัยในพระองค์
6 สิ่งที่พระองค์ไม่ได้พูด
อย่าไปอ้างว่าพระองค์พูด
ไม่อย่างนั้นพระองค์จะมาตักเตือนเจ้า
แล้วเจ้าจะถูกเปิดโปงว่าพูดโกหก
7 พระองค์เจ้าข้า ก่อนที่ข้าพเจ้าจะตายข้าพเจ้าขอสองสิ่งจากพระองค์
ขอพระองค์อย่าได้ปฏิเสธข้าพเจ้าเลย
8 คือขอให้คำพูดหลอกลวงหรือโกหกอยู่ห่างไกลจากปากของข้าพเจ้า
และขออย่าให้ข้าพเจ้าจนเกินไปหรือรวยเกินไป
ขอโปรดเลี้ยงข้าพเจ้าให้มีกินพอดิบพอดี
9 ไม่อย่างนั้น ข้าพเจ้าอาจมีมากเกินไป
แล้วปฏิเสธพระองค์โดยพูดว่า “พระยาห์เวห์เป็นใครกัน”
หรือข้าพเจ้าอาจจะมีน้อยเกินไป แล้วไปขโมยเขากิน ซึ่งจะทำให้ชื่อเสียงของพระเจ้าของข้าพเจ้าเสื่อมเสียไป
คำคมอื่นๆ
10 อย่าได้นินทาทาสให้นายของเขาฟัง
ไม่อย่างนั้น ทาสคนนั้นอาจจะสาปแช่งเจ้า และเจ้าก็จะต้องรับโทษ
11 บางคนสาปแช่งพ่อตัวเอง
และไม่อวยพรแม่ตัวเอง
12 บางคนคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์
แต่พวกเขายังไม่ได้รับการชำระล้างจากความชั่วช้าของเขา
13 บางคนก็โคตรหยิ่งเลย
เชิดหน้าใส่คนอื่น
14 บางคนมีฟันเป็นดาบ
มีคางเป็นมีด
กลืนกินคนจนจนหมดโลก
คนขัดสนสูญพันธุ์ไปจากมนุษย์ชาติ
15 ปลิงตัวหนึ่งมีลูกตัวเมียสองตัว
พวกลูกพูดว่า “ขออีก ขออีก”
มีอยู่สามอย่างที่ไม่เคยอิ่ม
มีอยู่สี่อย่างที่ไม่เคยพูดว่า “พอแล้ว”
16 นั่นคือ แดนคนตาย ครรภ์ที่เป็นหมัน
แผ่นดินที่ไม่เคยอิ่มน้ำ
และก็ไฟที่ไม่เคยพูดว่า “พอแล้ว”
17 สายตาที่เย้ยหยันพ่อ
และดูถูกแม่ที่ชราแล้ว
จะถูกกาป่าจิกออกมา
และถูกพวกแร้งรุมทึ้งกิน
18 มีอยู่สามสิ่งที่ข้าตะลึงงัน
มีสี่สิ่งที่เกินความเข้าใจข้า
19 คือการบินของนกอินทรีในท้องฟ้า
การเลื้อยของงูบนหิน
การแล่นของเรือในใจกลางทะเล
และการร่วมรักของชายหญิง
20 นี่คือหนทางของหญิงที่มีชู้
นางกิน[k] แล้วก็เช็ดปาก
และพูดว่า “ฉันไม่ได้ทำผิดอะไร”
21 แผ่นดินจะสั่นภายใต้สามสิ่งนี้
มีสี่สิ่งที่มันทนไม่ไหว
22 คือ เมื่อทาสกลายเป็นกษัตริย์
เมื่อคนโง่ มีกินอย่างเหลือเฟือ
23 เมื่อหญิงที่ไม่มีใครรักเลยยังได้แต่งงาน
และเมื่อสาวใช้มาแทนที่นายหญิงของเธอ
24 ในโลกนี้ มีอยู่สี่อย่างที่ตัวเล็กเหลือเกิน
แต่ก็ฉลาดมาก
25 คือพวกมดที่ไม่ค่อยแข็งแรง
แต่รู้จักเก็บสะสมอาหารไว้ในหน้าร้อน
26 พวกตัวไฮแรกซ์[l] ที่มีแรงน้อย
แต่สามารถหาที่อยู่ตามซอกหิน
27 พวกตั๊กแตนที่ไม่มีกษัตริย์
แต่ออกไปเป็นขบวน
28 แล้วพวกตุ๊กแกแคระ ที่จับได้ด้วยมือเปล่า
แต่เจออยู่ในวังของกษัตริย์
29 มีสามสิ่งที่เคลื่อนไหวอย่างสง่างาม
มีสี่สิ่งที่ย่างก้าวอย่างสง่าผ่าเผย
30 คือสิงโต สัตว์ที่มีกำลังมากที่สุด
และไม่เคยถอยให้กับอะไรเลย
31 พ่อไก่ที่เดินเชิดหน้า แพะตัวผู้
และกษัตริย์ที่เดินนำหน้าประชาชนของพระองค์
32 ถ้าเจ้าไปอวดตัวอย่างโง่ๆ
และถ้าเจ้าวางแผนชั่วในใจ
ก็ให้เอามือปิดปากตัวเองซะ
33 กวนนม จะได้เนย
บิดจมูก จะได้เลือด
กวนโมโห เดี๋ยวได้เรื่อง
คำพูดที่ฉลาดของแม่กษัตริย์เลมูเอล
31 คำพูดต่างๆของเลมูเอลกษัตริย์ของมัสสาซึ่งเป็นสิ่งที่แม่ของพระองค์สอนพระองค์มา
2 ลูกแม่ ฟังแม่ให้ดี
ลูกที่เกิดมาจากท้องของแม่ ฟังแม่ให้ดี
ลูกที่แม่ได้อธิษฐานขอมา ฟังแม่ให้ดี
3 ลูกแม่ อย่าไปหมดเรี่ยวแรงกับพวกผู้หญิง
อย่าสูญเสียพละกำลังของลูกให้กับ
ผู้หญิงพวกนั้นที่ทำลายพวกกษัตริย์
4 เลมูเอลเอ๋ย มันไม่เหมาะสมที่พวกกษัตริย์จะดื่มเหล้าองุ่นหรอก
พวกผู้นำไม่ควรจะหวนหาเบียร์
5 กลัวว่าเมื่อเขาดื่มเข้าไปแล้ว จะทำให้เขาลืมข้อกฎหมาย
แล้วไปทำให้คนจนไม่ได้รับสิทธิ์ที่ควรจะได้
6 เอาเบียร์ไปให้กับคนที่กำลังจะพินาศสิ
และเอาเหล้าองุ่นไปให้กับคนที่สิ้นหวังสิ
7 ให้เขาดื่มเพื่อลืมความยากจนของเขา
แล้วเขาจะได้ลืมปัญหาของเขาจนหมดสิ้น
8 อ้าปากพูดแทนคนที่ไม่มีสิทธิไม่มีเสียง
เพื่อสิทธิของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
9 อ้าปากของลูก พิพากษาอย่างยุติธรรม
และปกป้องสิทธิให้กับคนยากจนและคนขัดสน
เมียที่ยอดเยี่ยม
10 เมียที่ดีๆนั้น หาได้ยากมาก
เธอมีค่ายิ่งกว่าทับทิมมากนัก
11 จิตใจของสามีเธอก็ไว้วางใจในตัวเธอ
และเขาไม่ขาดสิ่งดีอะไรเลย
12 ตลอดชีวิตของเธอ
เธอนำประโยชน์มาให้เขา
ไม่ใช่ความเสียหาย
13 เธอหาขนแกะและปอ เอามาทำเสื้อผ้า
และเธอก็ทำงานด้วยมืออย่างมีความสุข
14 เธอเป็นเหมือนพวกเรือสินค้า
เธอนำอาหารมาจากที่ห่างไกล
15 เธอลุกขึ้นแต่เช้ามืด
เธอจัดเตรียมอาหารให้กับครัวเรือนของเธอ
และแบ่งงานให้กับพวกสาวใช้ทำ
16 เธอสำรวจไร่นาอย่างถี่ถ้วน แล้วซื้อมันมา และเธอก็ปลูกสวนองุ่นไว้ที่นั่น
เธอทำทั้งหมดนี้ด้วยเงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอเอง
17 เธอเตรียมตัวทำงานอย่างขยันขันแข็ง
และทุ่มเททำงานด้วยพละกำลังของเธอ
18 เธอรู้ว่าการค้าของเธอมีกำไร
เธอทำงานทั้งวันทั้งคืน ตะเกียงไม่เคยดับ
19 เธอจับไม้พันด้าย
และเธอก็ปั่นด้ายทำเสื้อเอง
20 เธอหยิบยื่นให้กับคนยากจน
และเธอก็ยื่นมือเข้าช่วยคนขัดสน
21 เมื่อหิมะตก เธอก็ไม่กลัวว่า ครัวเรือนของเธอจะหนาว
เพราะเธอได้เตรียมเสื้อผ้าอย่างดี
ที่ทำจากขนแกะสีแดงเข้ม
ให้กับครัวเรือนของเธอแล้ว
22 เธอทำผ้าปูที่นอนเอง
เสื้อผ้าของเธอก็เป็นผ้าลินินสีม่วงอย่างดี
23 สามีของเธอเป็นที่นับถือที่ประตูเมือง
เขานั่งอยู่ท่ามกลางผู้อาวุโสของแผ่นดิน
24 เธอทำเสื้อผ้าลินินและขายพวกมัน
และเธอก็จัดหาผ้าคาดเอวมาขายส่งให้กับพ่อค้า
25 ทุกคนมองว่าเธอมีพละกำลังและศักดิ์ศรี
เธอหัวเราะให้กับอนาคตที่กำลังจะมาถึง
26 เธออ้าปากพูดด้วยสติปัญญา
และลิ้นของเธอสอนอย่างสุภาพอ่อนโยน
27 เธอคอยควบคุมดูแลการงานต่างๆในครัวเรือนของเธอ
เธอกินอาหารที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอเอง
28 ลูกๆของเธอยืนขึ้นพูดให้เกียรติกับเธอ
สามีของเธอก็ทำอย่างนั้นด้วย
และเขาก็ชมเธอ
29 ว่า “มีผู้หญิงจำนวนมากที่พิสูจน์ว่าตัวเองมีค่า
แต่เธอมีค่ากว่าพวกเขาทั้งหมด”
30 เสน่ห์เป็นเรื่องหลอกลวง และความสวยงามก็ไม่ยั่งยืน
แต่ผู้หญิงที่ยำเกรงพระยาห์เวห์
สมควรจะได้รับคำยกย่อง
31 ให้เธอได้รับรางวัลสำหรับสิ่งที่เธอทำ
และให้การงานต่างๆของเธอ
นำเกียรติมาให้กับเธอ ที่ประตูเมือง
1 นี่คือคำสอนของอาจารย์ผู้ที่เป็นลูกของดาวิด และเป็นกษัตริย์ในเมืองเยรูซาเล็ม
2 อาจารย์พูดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างช่างไม่เที่ยงเอาเสียเลย ไม่เที่ยงจริงๆทุกสิ่งช่างไม่เที่ยง 3 คนเราได้ประโยชน์อะไรบ้าง จากการบากบั่นทำงานภายใต้ดวงอาทิตย์นี้
จริงหรือที่ว่าเรากำลังพัฒนา
4 คนรุ่นหนึ่งตายไป อีกรุ่นหนึ่งก็เกิดมา ในขณะที่โลกก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมตลอดไป 5 ดวงอาทิตย์ขึ้น แล้วก็ตก แล้วมันก็รีบกลับไปอยู่ที่จุดเดิม พร้อมที่จะขึ้นมาใหม่
6 ลมพัดไปทางทิศใต้ แล้วก็หันไปทางทิศเหนือ พัดไปรอบๆและกลับมาอีก เพราะมันมีเส้นทางหมุนเวียนของมัน
7 แม่น้ำลำธารทุกสายไหลลงสู่ทะเล แต่ทะเลก็ไม่เคยเต็ม แม่น้ำลำธารไหลลงมาจากที่ไหน พวกมันก็กลับไปที่นั่นและไหลกลับลงมาอีก
8 คำพูดทุกอย่างช่างน่าเหนื่อยหน่าย
เพราะไม่เห็นมีใครพูดอะไรใหม่ขึ้นมาเลย
ตามองเท่าไหร่ก็ไม่เคยอิ่ม
หูฟังเท่าไหร่ก็ไม่เคยเต็ม
9 สิ่งที่เคยเป็นมา นั่นแหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นอีก สิ่งที่เคยทำมา นั่นแหละคือสิ่งที่จะทำกันอีก ไม่มีอะไรใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้
10 อาจจะมีคนหนึ่งพูดว่า “ดูนี่สิ มันเป็นสิ่งใหม่” แต่จริงๆแล้วมันก็มีมาตั้งนานแล้วก่อนที่เราจะเกิด
11 คนในสมัยนี้ไม่มีใครจดจำคนในอดีต
และคนในอนาคตก็จะไม่จำคนรุ่นก่อนหน้าเขาเหมือนกัน
จริงหรือที่ว่าสติปัญญาจะนำความสุขมาให้
12 ตัวอาจารย์เองเป็นกษัตริย์ในเมืองเยรูซาเล็ม และปกครองชนชาติอิสราเอลมาหลายปีแล้ว
13 เราได้ตั้งใจใช้สติปัญญาเพื่อค้นคว้า สำรวจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้ฟ้านี้ การค้นคว้าที่พระเจ้าให้คนทำกันนี้ มันยุ่งยากอย่างร้ายกาจ และหาความสนุกไม่ได้เลย
14 เราสังเกตเห็นการงานทุกอย่างที่คนทำกันภายใต้ดวงอาทิตย์นี้แล้วค้นพบว่า ทุกอย่างไม่เที่ยง เหมือนกับไล่ตามลม
15 สิ่งที่คดงอแล้ว จะทำให้กลับมาตรงอีกก็ไม่ได้แล้ว และสิ่งที่ไม่มีตัวตนก็จะนับไม่ได้
16 เราพูดกับตัวเองว่า “เราได้กลายเป็นใหญ่ และมีสติปัญญามากกว่ากษัตริย์ทุกองค์ที่ปกครองเยรูซาเล็มก่อนหน้าเรา จิตใจของเราก็ได้เจอกับสติปัญญาและความรู้มากมาย”
17 เราเลยตั้งใจเรียนรู้ทั้งสติปัญญา ความรู้ ความบ้าๆบอๆและความโง่เขลา แล้วเราก็พบว่า การเรียนรู้นี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการวิ่งไล่ตามลม 18 เพราะยิ่งมีสติปัญญามากเท่าใด ก็ยิ่งหงุดหงิดรำคาญมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งรู้มาก ก็จะยิ่งทุกข์มาก
ความสนุกสนานให้ความสุขแน่หรือ
2 เราพูดกับจิตใจว่า “มาเถอะ มาลองลิ้มรสความสนุกสนานกันดู และเจอกับสิ่งดีๆ” แต่แล้วนี่ก็เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงเหมือนกัน 2 เราพูดกับการหัวเราะว่า
“เจ้ามีผลงานอะไรอวดอ้างได้หรือ” และพูดว่า “เจ้าก่อให้เกิดประโยชน์อะไรได้หรือ”
3 จิตใจเราได้สำรวจดูว่า มันจะเป็นยังไงที่จะให้เหล้าองุ่นควบคุมร่างกายเรา
แต่สติปัญญายังนำจิตใจของเราอยู่และสามารถรู้ทันความโง่เขลา เราอยากรู้ว่าจะมีอะไรดีๆให้มนุษย์ทำบ้างในช่วงชีวิตอันแสนสั้นของเขาภายใต้ฟ้าสวรรค์นี้
โครงการใหญ่ๆให้ความสุขแน่หรือ
4 เราได้ทำงานต่างๆอันยิ่งใหญ่ ได้สร้างวังต่างๆสำหรับตัวเราเอง ได้ทำไร่องุ่น 5 ได้ทำสวนผลไม้และสวนพักผ่อนต่างๆให้กับตัวเราเอง และได้ปลูกผลไม้ทุกชนิดไว้ในสวนพวกนั้น 6 ได้สร้างบรรดาสระน้ำไว้เพื่อผันน้ำเข้าไปรดต้นไม้ที่ผลิดอกออกผล 7 เรามีทาสชายหญิงมากมาย และมีทาสหลายคนที่เกิดภายในเรือนของเรา นอกจากนี้ เราก็ยังมีฝูงสัตว์เลี้ยง ฝูงวัวและฝูงแกะ มากกว่าใครๆที่อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มมาก่อนหน้าเราอีกด้วย
8 เราได้รวบรวมเงินทองมาเป็นของรักของหวงอันเหมาะสมกับฐานะกษัตริย์ และรวบรวมหัวเมืองต่างๆมาเป็นของเราด้วย เราได้ให้ชายหญิงมาขับร้องเพลงให้ฟัง และเรายังมีทรัพย์สมบัติที่หรูหราฟู่ฟ่าที่มนุษย์ชื่นชอบเป็นหีบๆ หีบแล้วหีบเล่า
9 เราได้เป็นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าใครๆทั้งหมดที่เคยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มก่อนหน้าเรา และสติปัญญาของเราก็ช่วยเรา
10 ไม่ว่าดวงตาของเราอยากได้อะไร เราก็จะหามาให้ เราไม่เคยหักห้ามจิตใจของเราในเรื่องของความสุขใดๆ
จิตใจของเราสนุกกับงานหนักที่ได้ทำไปนั้น และความสนุกนั่นแหล่ะเป็นรางวัลเดียวที่เราได้รับจากงานหนักซึ่งเราได้ทำไป
11 แล้วเราก็หันมามองดูสิ่งทั้งหมดซึ่งเราได้ลงมือทำไป งานที่เราได้ลงมือลงแรงทำอย่างลำบากลำบนนั้น เราได้ค้นพบว่า มันไม่เที่ยง เหมือนกับไล่ตามลม ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ที่ให้ประโยชน์ถาวร
ใช่สติปัญญาหรือเปล่าที่เราหาอยู่
12 แล้วเราก็หันมาดูเรื่องสติปัญญา ความบ้าๆบอๆและความโง่เขลา เพราะไม่รู้ว่าคนแบบไหนจะขึ้นมาครองราชย์ต่อจากเรา แล้วเขาจะมีปัญญาครอบครองทุกสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาได้หรือเปล่า
13 และเราก็เห็นว่าสติปัญญานั้นได้เปรียบกว่าความโง่เขลา เช่นเดียวกับที่ความสว่างได้เปรียบกว่าความมืด
14 คนฉลาดมีดวงตาอยู่ในหัว แต่คนโง่เดินอยู่ในความมืด แต่ตัวเราเองนั้นได้เรียนรู้ว่า ทั้งคนฉลาดและคนโง่ก็จะต้องเผชิญกับสิ่งเดียวกัน 15 ดังนั้นเราจึงคิดในใจว่า เราเองจะต้องเผชิญกับสิ่งที่คนโง่ต้องเผชิญ ถ้าอย่างนั้นจะเป็นคนฉลาดเลิศเลอไปทำไมกัน แล้วเราจึงคิดในใจว่า เรื่องนี้ก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน 16 เพราะทั้งคนฉลาดและคนโง่ ต่างก็ไม่อยู่ในความทรงจำของคนตลอดไปหรอก เพราะอีกไม่ช้า ทุกคนก็จะถูกลืมไปหมด มันแย่จริงๆที่คนฉลาดต้องตายเหมือนกันกับคนโง่ต้องตาย
เซ็งชีวิต
17 เพราะอย่างนี้เราถึงได้เกลียดชีวิต เรารู้สึกเจ็บปวดใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ทุกอย่างไม่เที่ยง และเป็นการวิ่งไล่ตามลม
18 เราเกลียดผลจากงานหนักที่เราได้ตรากตรำทำไปภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ เพราะเราจะต้องทิ้งมันให้กับคนรุ่นหลัง 19 แล้วใครจะไปรู้ได้ล่ะว่าเขาจะเป็นคนฉลาดหรือคนโง่ แต่ถึงยังไง เขาก็จะครอบครองทุกอย่างซึ่งเราได้ตรากตรำทำมาภายใต้ดวงอาทิตย์ ทุกสิ่งที่เราได้ลงมือทำไปอย่างชาญฉลาด เรื่องนี้ก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน
20 แล้วจิตใจของเราก็ท้อแท้สิ้นหวังกับการงานที่เราได้ตรากตรำทำไปภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ 21 เพราะคนๆหนึ่งจะต้องตรากตรำทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ได้สติปัญญา ความรู้และความสำเร็จ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องมอบส่วนของเขาไปให้กับอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ได้ลงแรงทำอะไรเลย นี่ก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน และมันเป็นสิ่งเลวร้ายเหลือเกิน
22 มนุษย์ได้อะไรบ้างจากงานหนักที่ทำและทุ่มเทชีวิตจิตใจกับงานภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ 23 วันเวลาของเขามีแต่ความเจ็บปวด และงานอันยุ่งเหยิงของเขาก็มีแต่จะทำให้เขาหงุดหงิด แม้เวลากลางคืนจิตใจของเขาก็ยังไม่ได้นอนหลับพักผ่อน นี่ก็เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงเหมือนกัน
ขอให้สนุก
24 สำหรับมนุษย์แล้ว ไม่มีอะไรดีไปกว่า การกิน ดื่ม และมีความสุขกับงานของเขา เราเห็นว่าสิ่งนี้มาจากพระเจ้า 25 เพราะทั้งการมีกินอย่างเหลือเฟือและการต้องเก็บเศษข้าวในทุ่งนากิน ล้วนมาจากพระเจ้า 26 พระองค์จะให้สติปัญญา ความรู้และความสุขกับคนซึ่งพระองค์ชอบใจ ส่วนคนที่ไม่เอาไหน[m] พระองค์ก็ให้เขาวุ่นวายอยู่กับการเก็บรวบรวมและสะสม เพื่อเขาจะได้มอบของพวกนั้นให้กับคนที่พระเจ้าชอบใจ นี่ก็เป็นสิ่งไม่เที่ยง เป็นการวิ่งไล่ตามลมเหมือนกัน
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International