Print Page Options Listen to Reading
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the GW. Switch to the GW to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
1 พงศ์กษัตริย์ 15:25-17:24

กษัตริย์นาดับแห่งอิสราเอล

25 นาดับลูกชายของเยโรโบอัมขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ตรงกับปีที่สองที่อาสาเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ นาดับปกครองอยู่เหนืออิสราเอลเป็นเวลาสองปี 26 เขาทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาเดินตามรอยพ่อเขาและทำบาปเหมือนกับพ่อซึ่งทำให้ชาวอิสราเอลหลงไปทำบาปด้วย

27 บาอาชา ลูกชายของอาหิยาห์ จากครอบครัวอิสสาคาร์วางแผนฆ่านาดับ และได้ฆ่านาดับตายที่เมืองกิบเบโธนของชาวฟีลิสเตีย ตอนที่นาดับและอิสราเอลทั้งหมดกำลังล้อมเมืองนั้นอยู่ 28 บาอาชาฆ่านาดับในปีที่สามที่อาสาเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ แล้วบาอาชาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากนาดับ

กษัตริย์บาอาชาของอิสราเอล

29 ทันทีที่บาอาชาขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาได้ฆ่าคนในครอบครัวของเยโรโบอัมทิ้งจนหมด เขาไม่ยอมไว้ชีวิตคนในครอบครัวนี้เลยแม้แต่คนเดียว แต่กลับทำลายพวกเขาจนหมด ซึ่งเป็นไปตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่เคยพูดไว้ผ่านทางอาหิยาห์ชาวชิโลห์ ผู้รับใช้ของพระองค์ 30 เป็นเพราะบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมที่ได้ทำไว้ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชาวอิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย และเพราะเขาได้ไปยั่วพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลให้โกรธ

31 เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของนาดับและทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำ ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของพวกกษัตริย์แห่งอิสราเอล 32 กษัตริย์อาสาและกษัตริย์บาอาชาทำสงครามกันตลอดเวลาในยุคของพวกเขา

33 ในปีที่สามที่อาสาเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ บาอาชา ลูกชายของอาหิยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์อยู่ที่ทีรซาห์ เขาได้ครอบครองอิสราเอลทั้งหมด และเขาครองราชย์อยู่เป็นเวลายี่สิบสี่ปี 34 เขาได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาเดินตามรอยเยโรโบอัม และทำบาปเหมือนกับเยโรโบอัม ซึ่งทำให้ชาวอิสราเอลหลงไปทำบาปด้วย

16 แล้วพระยาห์เวห์ก็ได้พูดต่อต้านบาอาชา ผ่านมาทางเยฮู ผู้พูดแทนพระองค์ เยฮูเป็นลูกชายของฮานานี พระองค์พูดว่า “เรายกเจ้าขึ้นมาจากผงดินและทำให้เจ้าเป็นผู้นำของประชาชนชาวอิสราเอลของเรา แต่เจ้ากลับไปเดินตามรอยของเยโรโบอัมและเป็นต้นเหตุให้ประชาชนชาวอิสราเอลของเราหลงไปทำบาป และพวกเขาก็ยั่วให้เราโกรธด้วยบาปทั้งหลายของพวกเขา ดังนั้น บาอาชา เราจะทำลายเจ้าและครอบครัวของเจ้า และเราจะทำให้ครอบครัวของเจ้าเป็นเหมือนกับครอบครัวเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท พวกหมาจะมารุมกินศพคนของเจ้าที่ตายอยู่ในเมือง และพวกนกบนฟ้าก็จะมากินศพคนที่ตายอยู่ในชนบท”

เหตุการณ์ต่างๆในยุคสมัยของบาอาชา สิ่งที่เขาได้ทำไปและความสำเร็จของเขา ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล บาอาชาตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังไว้ที่ทีรซาห์ และเอลาห์ลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

ในหนังสือนั้นก็มีเรื่องที่พระยาห์เวห์ได้พูดถึงบาอาชาและครอบครัวของเขา ผ่านมาทางเยฮู ผู้พูดแทนพระองค์ ที่เป็นลูกชายของฮานานี เพราะความชั่วทั้งหมดที่บาอาชาทำไปในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาทำตัวเหมือนกับครอบครัวของเยโรโบอัม แล้วเขาทำลายครอบครัวนั้นด้วย ทั้งหมดนี้ได้ไปยั่วให้พระองค์โกรธ

กษัตริย์เอลาห์ของอิสราเอล

ในปีที่ยี่สิบหกของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ เอลาห์ลูกชายของบาอาชาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล และเขาครองบัลลังก์อยู่ในทีรซาห์เป็นเวลาสองปี

ศิมรี ผู้บังคับบัญชารถรบครึ่งหนึ่งของเขาวางแผนฆ่าเอลาห์ ในเวลานั้นเอลาห์อยู่ที่เมืองทีรซาห์ เขากำลังเมาอยู่ที่บ้านของอารซา อารซาเป็นผู้ควบคุมดูแลวังที่เมืองทีรซาห์ 10 ศิมรีเข้ามาและฆ่าเอลาห์ ตรงกับปีที่ยี่สิบเจ็ดที่กษัตริย์อาสาปกครองยูดาห์ แล้วศิมรีก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากเอลาห์

กษัตริย์ศิมรีของอิสราเอล

11 ทันทีที่ศิมรีขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาฆ่าครอบครัวของบาอาชาตายจนหมด เขาไม่ไว้ชีวิตผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียวไม่ว่าจะเป็นญาติหรือเพื่อนของบาอาชา 12 ดังนั้นศิมรีจึงได้ทำลายครอบครัวของบาอาชาทั้งหมด เรื่องนี้เกิดขึ้นตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่ได้พูดไว้เกี่ยวกับบาอาชา ผ่านทางเยฮูผู้พูดแทนพระเจ้า 13 เพราะบาปทั้งหลายที่บาอาชาและเอลาห์ลูกชายของเขาทำไว้ และเป็นต้นเหตุให้อิสราเอลต้องทำบาปไปด้วย พวกเขาไปกราบไหว้รูปเคารพที่ไร้ค่าเหล่านั้น ซึ่งเป็นการยั่วยุให้พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลโกรธ

14 เหตุการณ์ต่างๆในยุคสมัยของเอลาห์และทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล

15 ในปีที่ยี่สิบเจ็ดของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ ศิมรีได้ขึ้นครองราชย์อยู่ในทีรซาห์เจ็ดวัน กองทัพเขาได้หยุดตั้งค่ายอยู่ใกล้กิบเบโธนซึ่งเป็นเมืองของชาวฟีลิสเตีย 16 เมื่อบรรดาชาวอิสราเอลในค่ายได้ยินว่าศิมรีได้วางแผนต่อต้านกษัตริย์และฆ่าเขาตายแล้ว พวกเขาจึงป่าวประกาศให้อมรีซึ่งเป็นแม่ทัพ ขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลในวันนั้นที่ในค่าย 17 แล้วอมรีและชาวอิสราเอลทั้งหมดก็พากันถอนทัพออกจากกิบเบโธนและไปล้อมเมืองทีรซาห์ไว้ 18 เมื่อศิมรีเห็นว่าเมืองถูกล้อม เขาจึงเข้าไปในป้อมของวังกษัตริย์ แล้วเผาวังพร้อมกับตัวเอง แล้วเขาก็ตายไปในกองไฟนั้น 19 ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะบาปที่เขาทำ เขาทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ และเดินตามรอยของเยโรโบอัมที่ทำบาปและเป็นเหตุทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย

20 เหตุการณ์ต่างๆในยุคสมัยของศิมรีและการทรยศของเขา ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล

กษัตริย์อมรีของอิสราเอล

21 แล้วประชาชนชาวอิสราเอลก็แตกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนให้ทิบนีลูกชายของกีนัทขึ้นเป็นกษัตริย์ และอีกฝ่ายหนึ่งสนับสนุนอมรี 22 แต่คนที่ติดตามอมรีนั้นแข็งแกร่งกว่าฝ่ายของทิบนีลูกชายของกีนัท ดังนั้นทิบนีจึงตายและอมรีก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์

23 ในปีที่สามสิบเอ็ดของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ อมรีขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล เขาเป็นกษัตริย์อยู่สิบสองปี โดยช่วงหกปีแรกอยู่ในเมืองทีรซาห์ 24 เขาซื้อเนินเขาสะมาเรียมาจากเชเมอร์ด้วยเงินสองตะลันต์[a] และสร้างเมืองขึ้นเมืองหนึ่งบนเขานั้น และให้ชื่อว่าเมืองสะมาเรีย ตามชื่อของเจ้าของเนินเขาคนก่อน

25 แต่อมรีได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์และทำบาปมากยิ่งกว่ากษัตริย์องค์ก่อนๆเสียอีก 26 เขาเดินตามรอยของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัทและทำบาปตามเขา ซึ่งเป็นเหตุทำให้อิสราเอลทั้งหมดพลอยทำบาปไปด้วย พวกเขาไปกราบไหว้รูปเคารพที่ไร้ค่าเหล่านั้น เป็นการยั่วยุพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลให้โกรธ

27 เหตุการณ์ต่างๆในยุคสมัยของอมรี รวมทั้งสิ่งต่างๆที่เขาทำไปและความสำเร็จของเขา ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล 28 อมรีตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและศพของเขาถูกฝังอยู่ในเมืองสะมาเรีย และอาหับผู้เป็นลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

กษัตริย์อาหับของอิสราเอล

29 ในปีที่สามสิบแปดของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ อาหับลูกชายของอมรีขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล เขาครองราชย์อยู่ในเมืองสะมาเรีย ปกครองอยู่เหนืออิสราเอลเป็นเวลายี่สิบสองปี 30 อาหับลูกชายของอมรีทำสิ่งที่ชั่วช้าในสายตาของพระยาห์เวห์มากยิ่งกว่ากษัตริย์องค์ไหนๆที่อยู่ก่อนหน้าเขาเคยทำเสียอีก 31 แค่ทำตามบาปต่างๆของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัทนั้นยังน้อยไป เขายังไปแต่งงานกับเยเซเบลลูกสาวของกษัตริย์เอ็ทบาอัลของชาวไซดอน และเริ่มไปรับใช้พระบาอัล และนมัสการพระนั้นอีกด้วย 32 เขาสร้างแท่นบูชาสำหรับพระบาอัลขึ้นในวิหารของพระบาอัลที่เขาสร้างขึ้นในเมืองสะมาเรีย 33 อาหับยังสร้างเสาเจ้าแม่อาเชราห์และยิ่งยั่วพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลให้โกรธมากยิ่งขึ้นกว่าที่พวกกษัตริย์แห่งอิสราเอลเคยทำมาก่อนหน้าเขา

34 ในสมัยของอาหับ ฮีเอลชาวเบธเอลได้สร้างเมืองเยริโคขึ้นใหม่อีกครั้ง เมื่อเขาสร้างฐานของเมืองนั้น อาบีรัมลูกชายคนแรกของเขาก็ตาย และเมื่อเขาสร้างประตูต่างๆขึ้น เสกุบลูกชายคนสุดท้องของเขาก็ต้องมาตายลงอีก ซึ่งตรงกับคำพูดของพระยาห์เวห์ ที่ได้พูดไว้ผ่านทางโยชูวาลูกชายของนูน[b]

เอลียาห์กับช่วงเวลาที่ฝนแล้ง

17 ขณะนั้นเอลียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าจากเมืองทิชบีที่อยู่ในกิเลอาด ได้พูดกับกษัตริย์อาหับว่า “ข้าพเจ้ารับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล พระองค์มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่าจะไม่มีฝนหรือน้ำค้างตกลงมาเลยภายในสองสามปีนี้ นอกจากข้าพเจ้าจะสั่งให้มันตกลงมาเท่านั้น”

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับเอลียาห์ว่า “ไปจากที่นี่เสีย มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกและหลบซ่อนอยู่ข้างลำธารเครีท ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน เจ้าจะได้ดื่มน้ำจากลำธารนั้น และเราได้สั่งพวกนกกาให้หาอาหารมาเลี้ยงเจ้าที่นั่น” เขาจึงทำตามสิ่งที่พระยาห์เวห์บอกไว้ เขาไปที่ลำธารเครีทที่อยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน และอยู่ที่นั่น พวกกาทั้งหลายได้นำขนมปังและเนื้อสัตว์มาให้เอลียาห์ทั้งเช้าและเย็น และเขาก็ดื่มน้ำจากลำธารนั้น

แต่ต่อมาภายหลังลำธารนั้นได้แห้งขอดลง เพราะฝนไม่ตกลงบนแผ่นดินนั้น แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับเอลียาห์ว่า “ให้ไปที่เมืองศาเรฟัทในไซดอนทันที และอยู่ที่นั่น เราได้สั่งให้แม่หม้ายคนหนึ่งในสถานที่นั้น จัดหาอาหารให้กับเจ้า”

10 เขาก็เลยเดินทางไปที่เมืองศาเรฟัท เมื่อเขามาถึงที่ประตูเมือง มีแม่หม้ายคนหนึ่งกำลังเก็บฟืนอยู่ เขาเรียกนางและบอกว่า “ขอน้ำใส่ไหของท่านมาให้เราดื่มหน่อย” 11 เมื่อนางกำลังจะเอามันมาให้เขา เขาก็เรียกนาง บอกว่า “ขอขนมปังสักก้อนให้เราด้วย”

12 นางตอบว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านมีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจได้เลยว่าฉันไม่มีขนมปัง มีเพียงแป้งหนึ่งกำมืออยู่ก้นไห กับน้ำมันอีกเพียงเล็กน้อยในเหยือก นี่ฉันกำลังเก็บฟืน เพื่อนำกลับไปทำอาหารที่บ้านให้ตัวเองและลูกชายของฉัน เพื่อเราจะได้กินมันแล้วก็อดตาย”

13 เอลียาห์พูดกับนางว่า “อย่ากลัวเลย กลับไปบ้านและทำอย่างที่ท่านได้พูดไว้ แต่ท่านต้องทำขนมปังก้อนเล็กๆให้เราก่อนจากของที่ท่านมีอยู่ และเอามันมาให้กับเรา หลังจากนั้นก็ทำขนมปังให้กับตัวท่านเองและลูกชายของท่าน 14 เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลพูด ‘แป้งในไหจะไม่มีวันหมดและน้ำมันในเหยือกจะไม่มีวันขาดไป จนกว่าจะถึงวันที่พระยาห์เวห์ทำให้ฝนตกลงบนแผ่นดินนี้’”

15 นางจากไปและทำตามที่เอลียาห์บอกนางไว้ และหลังจากนั้น ทั้งเอลียาห์ หญิงคนนั้นกับครอบครัวของนางก็มีอาหารกินทุกวัน 16 เพราะแป้งในไหไม่เคยหมด และน้ำมันในเหยือกก็ไม่เคยขาดไป ตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่ได้พูดไว้ผ่านทางเอลียาห์

17 ต่อมาลูกชายของหญิงคนนั้น ที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนั้น เกิดไม่สบายขึ้นมา อาการของเขาทรุดหนักลงเรื่อยๆและในที่สุดก็หยุดหายใจ 18 นางได้พูดกับเอลียาห์ว่า “คนของพระเจ้า นี่ท่านโกรธฉันด้วยเรื่องอะไรหรือ ท่านมาที่นี่เพื่อที่จะมาย้ำเตือนถึงบาปของฉันและมาทำให้ลูกชายของฉันตายอย่างนั้นหรือ”

19 เอลียาห์ตอบว่า “มอบลูกชายของท่านมาให้เราเถิด” เขาเอาเด็กมาจากอ้อมแขนของนาง เขาอุ้มเด็กขึ้นไปบนห้องที่เขาอยู่ และวางตัวเด็กไว้บนเตียง 20 แล้วเขาก็ร้องต่อพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์นำความเศร้าโศกมาให้กับหญิงหม้ายคนนี้ที่ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ด้วยอย่างนี้หรือ พระองค์ทำให้ลูกชายของนางตายอย่างนี้หรือ” 21 แล้วเขาก็เหยียดตัวนอนทับเด็กชายคนนั้นสามครั้ง และร้องต่อพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า ขอชีวิตของเด็กชายคนนี้กลับคืนมาด้วยเถิด”

22 พระยาห์เวห์ได้ยินเสียงร้องของเอลียาห์ และชีวิตของเด็กชายคนนั้นก็กลับคืนมาสู่ร่างของเขา และเขาก็มีชีวิตขึ้นมา 23 เอลียาห์อุ้มเด็กลงมาจากห้องในบ้านหลังนั้น เขาได้มอบเด็กคืนให้กับแม่ และพูดว่า “ดูสิ ลูกชายของท่านมีชีวิตขึ้นมาแล้ว”

24 แล้วหญิงคนนั้น พูดกับเอลียาห์ว่า “ตอนนี้ ฉันรู้แล้วว่าท่านคือคนของพระเจ้า และพระยาห์เวห์ได้พูดผ่านมาทางปากของท่านจริงๆ”

กิจการ 10:24-48

24 ถัดมาอีกวันหนึ่งพวกเขาก็มาถึงเมืองซีซารียา ขณะนั้นโครเนลิอัสกำลังคอยพวกเขาอยู่ เขาเชิญญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทมาด้วย 25 เมื่อโครเนลิอัสเห็นเปโตรเดินเข้ามาในบ้าน เขาก็ก้มลงกราบที่เท้าของเปโตร 26 แต่เปโตรพยุงเขาขึ้นและพูดว่า “ลุกขึ้นเถิด ผมก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น” 27 ตอนที่เปโตรพูดกับโครเนลิอัส เขาก็เดินเข้าไปข้างใน และพบกับกลุ่มคนที่มารวมกันอยู่ที่นั่นมากมาย 28 เปโตรพูดกับพวกเขาว่า “คุณก็รู้ว่า มันผิดกฎนะ ที่คนยิวจะไปคบค้าสมาคมหรือมาเยี่ยมเยียนคนที่ไม่ใช่ยิว แต่พระเจ้าได้แสดงให้ผมเห็นว่า ไม่ควรจะเรียกใครว่าคนต้องห้าม หรือไม่สะอาด 29 ดังนั้นพอมีคนไปเชิญผมมา ผมก็ไม่ได้คัดค้านอะไร แต่ผมขอถามหน่อยว่า คุณเชิญผมมาทำไม”

30 โครเนลิอัสจึงตอบว่า “เมื่อสี่วันก่อน เวลานี้ตอนบ่ายสามโมง ผมกำลังอธิษฐานอยู่ในบ้าน จู่ๆก็มีชายคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าแพรวพราวมายืนอยู่ตรงหน้า 31 เขาพูดว่า ‘โครเนลิอัส พระเจ้าได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าแล้ว และสิ่งของที่เจ้าบริจาคช่วยเหลือคนจนนั้น ก็ทำให้พระเจ้านึกถึงเจ้า 32 ให้เจ้าส่งคนไปเมืองยัฟฟา เพื่อเชิญซีโมนที่คนเรียกว่าเปโตรมาที่นี่ เขาพักอยู่ที่บ้านของซีโมนช่างฟอกหนัง ที่ติดทะเลนั้น’ 33 ผมจึงส่งคนไปเชิญท่านมาทันที และท่านก็กรุณามากที่มา ตอนนี้พวกเราก็ได้อยู่กันพร้อมแล้วที่นี่ต่อหน้าพระเจ้า เพื่อฟังทุกสิ่งที่องค์เจ้าชีวิตสั่งให้ท่านพูด”

เปโตรประกาศข่าวดีที่บ้านของโครเนลิอัส

34 เปโตรจึงเริ่มพูดว่า “ตอนนี้ผมเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้วว่าพระเจ้าไม่ได้ลำเอียง 35 พระองค์ยอมรับคนทุกชาติที่เคารพยำเกรงพระองค์ และทำตามความต้องการของพระองค์ 36 คุณรู้ถึงพระคำที่พระเจ้าได้มอบให้กับชาวอิสราเอล ที่พูดถึงข่าวดีแห่งสันติภาพที่ผ่านมาทางพระเยซูผู้เป็นพระคริสต์ผู้เป็นองค์เจ้าชีวิตของมนุษย์ทุกคน 37 คุณรู้ถึงเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นทั่วแคว้นยูเดีย เริ่มตั้งแต่แคว้นกาลิลีหลังจากที่ยอห์นได้ประกาศเรื่องการทำพิธีจุ่มน้ำ 38 คุณรู้เรื่องเกี่ยวกับพระเยซูชาวนาซาเร็ธว่าพระเจ้าเจิมพระองค์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยฤทธิ์อำนาจอย่างไร และพระเยซูได้ทำสิ่งดีๆไปทั่ว และรักษาทุกคนที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของมารร้าย ที่พระองค์ทำได้ก็เพราะพระองค์มีพระเจ้าอยู่ด้วย 39 เราก็ได้เห็นและเป็นพยานถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทำในดินแดนของชาวยิวและในเมืองเยรูซาเล็ม พวกเขาฆ่าพระองค์โดยจับไปตรึงบนไม้กางเขน 40 แต่พระเจ้าทำให้พระองค์ฟื้นจากความตายในวันที่สาม และให้พระองค์มาปรากฏตัวให้เห็น 41 แต่ไม่ใช่กับคนยิวทุกคน พระองค์ปรากฏตัวเฉพาะกับคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้ก่อนหน้านี้ที่จะให้มาเป็นพยานเท่านั้น พยานพวกนี้ก็คือพวกเราที่ได้กินและดื่มกับพระองค์หลังจากที่พระองค์ฟื้นขึ้นจากความตายแล้ว 42 พระเยซูสั่งให้พวกเราออกไปประกาศกับคนทั่วไป และเป็นพยานว่า พระองค์เป็นคนนั้นที่พระเจ้าได้แต่งตั้งไว้ให้เป็นผู้ตัดสินทั้งคนเป็นและคนตาย 43 พวกผู้พูดแทนพระเจ้าทุกคนต่างเป็นพยานให้พระองค์ว่า พระเยซูจะยกโทษบาปให้กับทุกคนที่ไว้วางใจในพระองค์”

คนที่ไม่ใช่ยิวได้รับพระวิญญาณ

44 ขณะที่เปโตรกำลังพูดอยู่นั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ลงมาอยู่กับทุกคนที่ได้ฟังพระคำของพระเจ้า 45 พวกยิวที่เชื่อในพระเยซูที่มากับเปโตรต่างพากันประหลาดใจ เพราะพระเจ้าได้เทของขวัญแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้กับคนที่ไม่ใช่ยิวด้วย 46 เพราะพวกเขาได้ยินคนที่ไม่ใช่ยิวพวกนี้พูดภาษาที่ไม่รู้จัก[a] และยกย่องสรรเสริญพระเจ้า เปโตรพูดขึ้นว่า 47 “ใครจะห้ามคนพวกนี้ ไม่ให้เข้าพิธีจุ่มน้ำได้ล่ะ ในเมื่อพวกเขาก็ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนกับพวกเรา” 48 เปโตรจึงสั่งให้พวกเขาเข้าพิธีจุ่มน้ำในนามของพระเยซูผู้เป็นพระคริสต์ จากนั้นพวกเขาก็ได้ชวนให้เปโตรพักอยู่กับพวกเขาอีกสองสามวัน

สดุดี 134

ผู้รับใช้ในวิหารสรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด

เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร

สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด พวกผู้รับใช้ทุกคนของพระองค์
    ผู้ที่ยืนทำหน้าที่อยู่ในวิหารในตอนกลางคืน
ยกมือของท่านขึ้นต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    และสรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด

ขอให้พระยาห์เวห์ ผู้สร้างสวรรค์และแผ่นดินโลก
    อวยพรท่านจากศิโยน

สุภาษิต 17:9-11

คนที่ปกปิดความผิดของคนอื่นไว้รักษามิตรภาพ
    ส่วนคนที่เล่าความผิดของเพื่อนให้คนอื่นฟังก็ทำลายมิตรภาพ
10 ต่อว่าคนหัวไวแค่ครั้งเดียว
    ก็ยังได้ผลมากกว่าตีคนโง่ร้อยครั้ง
11 คนชั่วนั้นก็คิดแต่การกบฏ[a]
    แต่พระเจ้าจะส่งคนโหดเหี้ยมไปลงโทษเขา

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International