Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the NLT. Switch to the NLT to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศาวดาร 35-36

โยสิยาห์ฉลองเทศกาลปลดปล่อย

(2 พกษ. 23:21-23)

35 โยสิยาห์เฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยถวายให้กับพระยาห์เวห์ในเมืองเยรูซาเล็ม และฆ่าลูกแกะตัวผู้ของเทศกาลปลดปล่อยในวันที่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่ง กษัตริย์โยสิยาห์แต่งตั้งพวกนักบวชให้ทำงานตามหน้าที่ของพวกเขา และส่งเสริมให้พวกนักบวชรับใช้ในวิหารของพระยาห์เวห์ เขาพูดกับพวกชาวเลวีที่คอยสั่งสอนชาวอิสราเอลทั้งหมดและได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์แล้วสำหรับรับใช้พระยาห์เวห์ว่า “ให้วางหีบศักดิ์สิทธิ์ไว้ในวิหาร ที่ซาโลมอนลูกชายของกษัตริย์ดาวิดของอิสราเอลได้สร้างขึ้น พวกเจ้าจะไม่ต้องแบกมันอยู่บนบ่าอีก ตอนนี้ให้รับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้ากับประชาชนชาวอิสราเอลของพระองค์เถิด ให้แบ่งพวกเจ้าออกเป็นกลุ่มๆตามครอบครัว อย่างที่กษัตริย์ดาวิดแห่งอิสราเอลและซาโลมอนลูกชายของเขาได้เขียนกำหนดไว้ ให้ยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับกลุ่มของชาวเลวี ตามกลุ่มย่อยของแต่ละครอบครัวของญาติพี่น้องเจ้าที่ไม่ได้เป็นนักบวช ให้ฆ่าพวกลูกแกะของเทศกาลปลดปล่อย และชำระตัวพวกเจ้าเองให้บริสุทธิ์ และให้จัดเตรียมพวกลูกแกะสำหรับญาติพี่น้องของพวกท่าน พระยาห์เวห์ได้สั่งทั้งหมดนี้ผ่านมาทางโมเสส”

โยสิยาห์ได้จัดเตรียมแกะกับแพะไว้รวมสามหมื่นตัวเพื่อเป็นเครื่องบูชาสำหรับเทศกาลปลดปล่อยให้กับพวกคนที่ไม่ใช่นักบวช และยังมีวัวสามพันตัว สัตว์ทั้งหมดนี้มาจากสมบัติส่วนตัวของกษัตริย์ พวกเจ้าหน้าที่ของเขาสมัครใจนำของมาด้วย พวกเขาเอามาให้กับประชาชน พวกนักบวช และชาวเลวี ฮิลคียาห์นักบวชสูงสุด เศคาริยาห์และเยฮีเอลเป็นผู้ทำพิธีในวิหารของพระเจ้า พวกเขาเอาลูกแกะสองพันหกร้อยตัวและวัวสามร้อยตัวให้กับพวกนักบวชเพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาสำหรับเทศกาลปลดปล่อย โคนานิยาห์ เชไมอาห์และเนธันเอลน้องชายทั้งสองของเขา รวมทั้งฮาชาบิยาห์ เยอีเอลและโยซาบาดซึ่งเป็นผู้นำของชาวเลวี ก็ได้จัดหาพวกแพะและแกะรวมห้าพันตัว และวัวห้าร้อยตัว ให้กับชาวเลวี เพื่อใช้เป็นเครื่องบูชาสำหรับเทศกาลปลดปล่อย

10 เมื่อทุกอย่างพร้อมที่จะเริ่มพิธี พวกนักบวชและชาวเลวีก็ได้ไปยืนอยู่ประจำที่ตามกลุ่มของตน ตามที่กษัตริย์ได้สั่งไว้ 11 มีการฆ่าพวกลูกแกะตัวผู้สำหรับเทศกาลปลดปล่อย แล้วพวกชาวเลวีก็ถลกหนังของสัตว์เหล่านั้น ส่วนเลือดของพวกมัน พวกเขาเอาไปให้กับพวกนักบวช พวกนักบวชก็เอาเลือดไปสาดบนแท่นบูชา 12 พวกเขาได้แบ่งสัตว์ที่จะเอาไปเป็นเครื่องเผาบูชานี้ให้กับแต่ละครอบครัว เพื่อเอาไปถวายพระยาห์เวห์ตามที่เขียนไว้ในหนังสือของโมเสส พวกเขาได้ทำอย่างเดียวกันนี้กับพวกวัวด้วย 13 พวกเลวีใช้ไฟย่างสัตว์ที่ใช้สำหรับเทศกาลปลดปล่อยตามที่กฎสั่งไว้ และพวกเขาก็ต้มของถวายอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในหม้อ ในหม้อใบใหญ่และในกระทะ แล้วพวกเขาก็เอาเนื้อไปแบ่งให้กับประชาชนทันที 14 หลังจากนั้นพวกเลวีก็เอาเนื้อเก็บไว้สำหรับตัวพวกเขาเอง และสำหรับพวกนักบวชที่เป็นลูกหลานของอาโรนด้วย เพราะนักบวชพวกนี้กำลังยุ่งอยู่กับการเผาเครื่องเผาบูชา และส่วนที่เป็นไขมันจนมืดค่ำ 15 พวกนักดนตรีที่เป็นลูกหลานของอาสาฟ อยู่ประจำที่ตามที่ดาวิด อาสาฟ เฮมานและเยดูธูนคนของกษัตริย์ที่เห็นนิมิตได้นั้น ได้กำหนดให้กับพวกเขา พวกคนเฝ้าประตูก็อยู่ที่ประตูของตนโดยไม่ต้องออกไปที่ไหน เพราะพวกชาวเลวีด้วยกันได้จัดเตรียมของทุกอย่างไว้ให้กับพวกเขาแล้วสำหรับเทศกาลปลดปล่อย

16 ดังนั้น ในวันนั้น การนมัสการพระยาห์เวห์ก็สำเร็จลุล่วงไปตามคำสั่งของกษัตริย์โยสิยาห์ มีทั้งการเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อย และมีการเผาเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ 17 ชาวอิสราเอลที่อยู่ที่นั่นได้เฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยในเวลานั้น และพวกเขาได้เฉลิมฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อต่อไปอีกเป็นเวลาเจ็ดวัน 18 นับตั้งแต่สมัยของซามูเอลผู้พูดแทนพระเจ้าเป็นต้นมา ยังไม่เคยมีการเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยอย่างนี้ในอิสราเอลมาก่อน ไม่เคยมีกษัตริย์ของอิสราเอลองค์ไหนที่เคยเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยอย่างที่กษัตริย์โยสิยาห์ พวกนักบวช ชาวเลวี ชาวยูดาห์และชาวอิสราเอลทั้งหมดที่อยู่ที่นั่น รวมทั้งชาวเมืองเยรูซาเล็มเฉลิมฉลองกัน 19 งานเทศกาลปลดปล่อยนี้ได้จัดให้มีขึ้นในปีที่สิบแปดในสมัยของโยสิยาห์

โยสิยาห์ตาย

(2 พกษ. 23:28-30)

20 เมื่อโยสิยาห์ได้จัดการวิหารให้อยู่ในระเบียบเรียบร้อยแล้ว ต่อมากษัตริย์เนโคของประเทศอียิปต์ได้ยกทัพขึ้นไปสู้รบกับเมืองคารเคมิชที่แม่น้ำยูเฟรตีส โยสิยาห์ยกกองทัพออกไปสู้รบกับเขา 21 แต่เนโคส่งพวกคนส่งข่าวมาหาโยสิยาห์โดยพูดว่า

“กษัตริย์ของยูดาห์ ทำไมท่านกับเราจะต้องมาทะเลาะกันด้วย เราไม่ได้มาโจมตีท่าน แต่เราจะสู้กับครอบครัวที่เราจะทำสงครามด้วยต่างหาก พระเจ้าบอกให้เราเร่งมือด้วย ดังนั้น หยุดต่อต้านพระเจ้าที่อยู่กับเราซะ ไม่อย่างนั้นพระองค์จะทำลายท่าน”

22 แต่โยสิยาห์ก็ไม่ยอมถอยไปไหน และได้ปลอมตัวปะปนอยู่ในการสู้รบ เขาไม่ยอมฟังสิ่งที่เนโคพูดเกี่ยวกับคำสั่งของพระเจ้า แต่ยังออกไปสู้รบกับเขาในที่ราบเมกิดโด 23 พวกพลธนูยิงธนูถูกกษัตริย์โยสิยาห์และเขาบอกกับพวกเจ้าหน้าที่ของเขาว่า “พาเราออกไป เราได้รับบาดเจ็บสาหัส”

24 ดังนั้นพวกเขาจึงนำตัวโยสิยาห์ออกจากรถรบของเขา และวางเขาไว้ในรถรบอีกคันหนึ่งที่มีอยู่ และนำตัวเขากลับเยรูซาเล็ม เขาตายที่นั่น ศพของเขาถูกฝังอยู่ในหลุมฝังศพของบรรพบุรุษของเขา และชาวยูดาห์กับชาวเยรูซาเล็มทั้งหมดก็ไว้ทุกข์ให้กับเขา 25 เยเรมียาห์แต่งเพลงไว้อาลัยให้กับโยสิยาห์และพวกนักร้องชายหญิงก็ยังคงร้องเพื่อระลึกถึงเขาอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพลงนี้ได้กลายเป็นประเพณีอย่างหนึ่งในอิสราเอลและได้รับการเขียนรวมอยู่ในหนังสือเพลงไว้อาลัย

26-27 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของโยสิยาห์และการกระทำต่างๆที่เขาทำตั้งแต่ต้นจนจบ ได้ถูกจดบันทึกไว้ในหนังสือพงศ์กษัตริย์ของอิสราเอลและยูดาห์ หนังสือนี้พูดถึงสิ่งที่เขาทำอย่างซื่อสัตย์ ตามสิ่งที่เขียนไว้ในกฎของพระยาห์เวห์

กษัตริย์เยโฮอาหาสปกครองยูดาห์

(2 พกษ. 23:30-35)

36 และประชาชนชาวยูดาห์ก็ยกเยโฮอาหาสลูกชายของโยสิยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์ในเมืองเยรูซาเล็มต่อจากพ่อของเขา เยโฮอาหาสมีอายุยี่สิบสามปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มได้สามเดือน กษัตริย์เนโคของประเทศอียิปต์ได้ปลดเขาออกจากบัลลังก์ในเยรูซาเล็ม และบีบบังคับให้ชาวยูดาห์ส่งส่วยเป็นเงินหนักประมาณสามตันครึ่ง และทองคำหนักประมาณสามตันครึ่ง กษัตริย์เนโคของประเทศอียิปต์ตั้งเอลียาคิมน้องชายของเยโฮอาหาสขึ้นเป็นกษัตริย์เหนือยูดาห์และเยรูซาเล็ม และเปลี่ยนชื่อของเอลียาคิมเป็นเยโฮยาคิม แต่เนโคได้เอาตัวเยโฮอาหาสพี่ชายของเอลียาคิมไปที่ประเทศอียิปต์

กษัตริย์เยโฮยาคิมปกครองยูดาห์

(2 พกษ. 23:36-24:7)

เยโฮยาคิมมีอายุยี่สิบห้าปีเมื่อเขาเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสิบเอ็ดปี เขาได้ทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา

กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้เข้าโจมตีเขาและจับตัวเขาล่ามโซ่ทองสัมฤทธิ์และพาไปที่บาบิโลน เนบูคัดเนสซาร์ยังได้ขนเอาพวกเครื่องใช้ออกมาจากวิหารของพระยาห์เวห์ และขนไปไว้ที่วิหารของเขาที่บาลิโลนด้วย เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของเยโฮยาคิม สิ่งที่น่ารังเกียจที่เขาได้ทำและสิ่งต่างๆที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเขา ได้ถูกจดบันทึกไว้ในหนังสือพงศ์กษัตริย์ของอิสราเอลและยูดาห์ และเยโฮยาคีนลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากเขา

กษัตริย์เยโฮยาคีนปกครองยูดาห์

(2 พกษ. 24:8-17)

เยโฮยาคีนมีอายุสิบแปดปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเยรูซาเล็มสามเดือน[a] เขาทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ 10 ในฤดูใบไม้ผลิ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ส่งคนไปพาตัวเขามาที่บาบิโลนพร้อมกับพวกเครื่องใช้ที่มีค่าจากวิหารของพระยาห์เวห์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ให้เศเดคียาห์ อาของเยโฮยาคีนขึ้นเป็นกษัตริย์เหนือยูดาห์และเยรูซาเล็มแทนเขา

กษัตริย์เศเดคียาห์ปกครองยูดาห์

(2 พกษ. 24:18-20; ยรม. 52:1-3)

11 เศเดคียาห์มีอายุยี่สิบเอ็ดปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสิบเอ็ดปี 12 เขาทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และไม่ยอมถ่อมตัวและไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ที่ผ่านมาทางเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า

เมืองเยรูซาเล็มถูกทำลาย

13 เศเดคียาห์กบฏต่อกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ก่อนหน้านี้ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์บังคับให้เขาสาบานโดยอ้างชื่อของพระเจ้าว่าเขาจะจงรักภักดีต่อบาบิโลน แต่ต่อมาเขาเริ่มดื้อดึงและใจแข็งกระด้าง ไม่ยอมหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของชนชาติอิสราเอล 14 ยิ่งกว่านั้น พวกผู้นำทั้งหลายของเหล่านักบวชและประชาชนก็ยิ่งไม่ซื่อสัตย์มากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาไปทำตามการกระทำที่น่าขยะแขยงของชนชาติอื่นๆและทำให้วิหารของพระยาห์เวห์ที่พระองค์ได้ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองเยรูซาเล็มนั้นต้องเสื่อมไป 15 พระยาห์เวห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษพวกเขา ส่งคำพูดมาถึงพวกเขาผ่านทางพวกผู้ส่งข่าวของพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์ไม่อยากทำลายประชาชนของพระองค์และสถานที่อาศัยของพระองค์ 16 แต่พวกเขากลับล้อเลียนพวกผู้ส่งข่าวพระเจ้าเหล่านั้น พวกเขาดูถูกคำพูดของพระองค์ เย้ยหยันพวกผู้พูดแทนพระเจ้า จนในที่สุดพระยาห์เวห์ก็ทนไม่ไหว พระองค์โกรธประชาชนของพระองค์จนไม่มีอะไรสามารถหยุดความโกรธของพระองค์ได้ 17 พระองค์ได้ยกกษัตริย์ของชาวบาบิโลนขึ้นมาต่อต้านเขา กษัตริย์บาบิโลนได้ฆ่าพวกคนหนุ่มของพวกเขาตายด้วยดาบในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และไม่ไว้ชีวิตใครเลยแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มคนสาว คนชราหรือแม้แต่คนแก่ พระเจ้าได้มอบพวกเขาทั้งหมดไว้ในเงื้อมมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ 18 เขาได้ขนเอาข้าวของเครื่องใช้ออกจากวิหารของพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ และยังเอาสมบัติในวิหารของพระยาห์เวห์และสมบัติของกษัตริย์กับพวกเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์ไปจนหมดด้วย 19 พวกเขาจุดไฟเผาวิหารของพระเจ้าและทำลายกำแพงเยรูซาเล็มลง พวกเขายังเผาพวกวังทั้งหมดและทำลายของมีค่าทุกอย่าง 20 ที่นั่น กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้กวาดต้อนเอาคนที่ยังมีชีวิตเหลือรอดจากคมดาบกลับไปที่บาบิโลนเพื่อไปเป็นทาสของเขากับพวกลูกชายของเขา จนกว่าอาณาจักรเปอร์เซียจะมาตั้งแทนอาณาจักรบาบิโลน 21 ดังนั้นสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้บอกกับคนอิสราเอลผ่านมาทางเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าก็เกิดขึ้นจริง ที่ว่า “สถานที่นี้จะต้องถูกทิ้งให้รกร้างอยู่เป็นเวลาเจ็ดสิบปี เพื่อแผ่นดินจะได้หยุดพัก ชดเชยให้กับปีที่เจ็ดเหล่านั้น[b] ที่คนยูดาห์ไม่ยอมหยุดหว่านพืช”

22 ในปีแรก[c]ที่ไซรัสขึ้นมาเป็นกษัตริย์ของเปอร์เซีย พระยาห์เวห์ดลใจให้กษัตริย์ไซรัสออกคำสั่งไปทั่วอาณาจักรของเขาและจดมันไว้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพื่อให้สำเร็จตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่พูดผ่านมาทางเยเรมียาห์ ข้อความที่กษัตริย์ไซรัสป่าวประกาศออกไปนั้น คือ

23 “กษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียพูดว่าอย่างนี้

‘พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ได้ให้อาณาจักรทั้งหมดบนโลกนี้แก่เรา พระองค์ได้แต่งตั้งให้เราเป็นผู้สร้างวิหารให้กับพระองค์ในเมืองเยรูซาเล็ม ที่อยู่ในยูดาห์ บัดนี้ ใครก็ตามท่ามกลางพวกเจ้าที่เป็นชนชาติของพระองค์ สามารถกลับไปเยรูซาเล็มได้ ขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าสถิตอยู่กับเจ้า’”

1 โครินธ์ 1:1-17

จากเปาโล คนที่พระเจ้าตัดสินใจเรียกให้มาเป็นศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์ และจาก โสสเธเนส พี่น้องของเรา

ถึงหมู่ประชุมของพระเจ้าในเมืองโครินธ์ พระเจ้าทำให้พวกคุณเป็นของพระองค์เพราะพวกคุณได้เข้าส่วนในพระเยซูคริสต์ พระเจ้าเรียกคุณให้มาเป็นคนของพระองค์ เหมือนกับที่พระองค์ได้ทำกับทุกคนในทุกที่ ที่อธิษฐานในนามของพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเขาและของเรา

ขอให้พระเจ้าพระบิดาของเรา และพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับพวกคุณ

เปาโลขอบคุณพระเจ้า

ผมขอบคุณพระเจ้าของผมเสมอสำหรับพวกคุณ เพราะพระเจ้าเมตตากรุณาพวกคุณ ผ่านทางพระเยซูคริสต์ ในพระเยซูคริสต์นั้น พระเจ้าอวยพรคุณอย่างล้นเหลือในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านคำพูดทุกชนิดหรือความรู้ทุกอย่าง ที่พวกคุณเป็นอย่างนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างที่เราบอกเกี่ยวกับพระคริสต์นั้นเป็นความจริง ตอนนี้คุณจึงมีพรสวรรค์ทุกอย่างที่พระเจ้าให้ โดยไม่ขาดอะไรเลย ในขณะที่คุณกำลังคอยพระเยซูคริสต์เจ้าของเรากลับมา พระองค์จะทำให้คุณยืนหยัดมั่นคงอยู่ได้จนถึงที่สุด เพื่อคุณจะได้ไม่มีข้อเสื่อมเสียในวันที่พระเยซูคริสต์เจ้าของเรากลับมา พระเจ้านั้นไว้ใจได้แน่นอน พระองค์เรียกให้พวกคุณเข้ามามีส่วนร่วมกับพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์

การแตกแยกในหมู่ประชุมที่เมืองโครินธ์

10 พี่น้องครับ ผมขอร้องพวกคุณในนามของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ขอให้สามัคคีกันไว้ อย่าแบ่งพรรคแบ่งพวกกันเลย แต่ขอให้มีแนวความคิดและเป้าหมายเดียวกัน 11 เพราะมีบางคนในพวกของนางคะโลเอ มาบอกผมว่า พวกคุณทะเลาะวิวาทกัน 12 ผมหมายถึงว่า พวกคุณต่างคนต่างก็พูดกันว่า “ผมเป็นของเปาโล” หรือ “ผมเป็นของอปอลโล” หรือ “ผมเป็นของเปโตร” หรือ “ผมเป็นของพระคริสต์” 13 พระคริสต์ถูกแยกออกเป็นกลุ่มๆแล้วหรือ เปาโลถูกตรึงบนไม้กางเขนเพื่อพวกคุณหรืออย่างไร พวกคุณเข้าพิธีจุ่มน้ำเพื่อจะเป็นของเปาโลหรืออย่างไร 14 ขอบคุณพระเจ้าที่ผมไม่ได้ทำพิธีจุ่มน้ำให้กับพวกคุณคนไหนเลย นอกจากคริสปัสกับกายอัส 15 จะได้ไม่มีใครพูดได้ว่า เขาเข้าพิธีจุ่มน้ำเพื่อเป็นของผม 16 (อ๋อนึกได้แล้ว ยังมีครอบครัวของสเทฟานัสด้วยที่ผมทำพิธีจุ่มน้ำให้ นอกจากนั้น ผมก็จำไม่ได้แล้วว่าทำให้กับใครอีกบ้าง) 17 เพราะพระคริสต์ไม่ได้ส่งผมมาทำพิธีจุ่มน้ำ แต่ส่งผมมาประกาศข่าวดีและไม่ใช่ด้วยคำพูดที่แสนฉลาด เพราะเกรงว่ากางเขนของพระคริสต์จะหมดฤทธิ์เดชไป

สดุดี 27:1-6

เพลงแห่งความมั่นใจในพระยาห์เวห์

เพลงสดุดีของดาวิด

พระยาห์เวห์คือแสงสว่างและผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะต้องไปหวาดกลัวใครอีก
พระยาห์เวห์คือที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะต้องไปหวั่นเกรงใครอีก

ถ้าคนชั่วโจมตีข้าพเจ้าและพยายามที่จะกินเลือดกินเนื้อข้าพเจ้า
    พวกปรปักษ์และศัตรูเหล่านั้นก็จะสะดุดล้มลง
แม้ว่าจะมีกองทัพตั้งค่ายล้อมข้าพเจ้าไว้ ข้าพเจ้าจะไม่กลัว
    ถึงแม้พวกเขามาบุกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ยังคงไว้วางใจพระยาห์เวห์อยู่ดี

ข้าพเจ้าขอเพียงสิ่งหนึ่งจากพระยาห์เวห์ เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าอยากได้มากที่สุด คือ
    ขอให้ได้อาศัยอยู่ในวิหารของพระองค์ทุกวันตลอดชีวิต
    เพื่อข้าพเจ้าจะได้สัมผัสถึงความปรานีของพระยาห์เวห์
    และแสวงหาการทรงนำของพระองค์ในวิหารของพระองค์

เพราะพระองค์จะได้ปกป้องข้าพเจ้าไว้ในที่กำบังของพระองค์ในวันที่มีภัยอันตราย
    พระองค์จะซ่อนข้าพเจ้าไว้ในเต็นท์ของพระองค์
    พระองค์จะยกข้าพเจ้าไว้ในที่ปลอดภัยบนผาสูง

และตอนนี้ พระยาห์เวห์จะยกหัวของข้าพเจ้าขึ้นเหนือพวกศัตรูที่ล้อมรอบข้าพเจ้าอยู่
    ข้าพเจ้าจะถวายเครื่องบูชาพร้อมเสียงโห่ร้องยินดีในวิหารของพระองค์
    และข้าพเจ้าจะร้องเพลงและเล่นดนตรีเพื่อถวายเกียรติให้กับพระยาห์เวห์

สุภาษิต 20:20-21

20 คนที่สาปแช่งพ่อแม่ของตน
    ตะเกียงของเขาจะดับมืดไป
21 ทรัพย์สมบัติที่ได้มาก่อนเวลาอันควร
    ในที่สุดจะไม่เป็นผลดีต่อผู้นั้น

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International