Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the NLT. Switch to the NLT to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
บทเพลง​ไพเราะ 5-8

ชายหนุ่มพูด

น้องจ๊ะ เจ้าสาวของฉันจ๋า ฉันได้เข้ามาในสวนของฉันแล้ว
    ฉันได้เก็บยางไม้หอมและเครื่องหอมอื่นๆแล้ว
ฉันได้กินรวงผึ้งกับน้ำเชื่อมผลไม้ของฉันแล้ว
    ฉันดื่มเหล้าองุ่นและนมของฉันแล้ว

พวกเพื่อนๆพูด

เพื่อนรักทั้งสอง กินและดื่มเถิด
    และเมามันกับการร่วมรักเถิด

หญิงสาวพูด

แม้ว่าฉันหลับ แต่จิตใจของฉันก็ยังตื่นอยู่ในความฝัน
    ฟังซิ ชายที่รักของฉันกำลังเคาะ ร้องเรียกว่า
“น้องจ๋า ที่รักจ๋า เปิดประตูให้พี่เข้าไปหน่อยซิจ๊ะ แม่นกเขาของพี่จ๊ะ แม่นางผู้สวยหมดจดของพี่จ๋า
    เพราะหัวของพี่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำค้าง
    ผมของพี่เปียกปอนไปด้วยละอองหมอกตอนกลางคืน”

แล้วฉันตอบเขาว่า
    “ฉันถอดเสื้อผ้าแล้วจะให้สวมกลับไปอีกหรือ
ฉันล้างเท้าสะอาดแล้ว
    จะให้กลับไปเปื้อนอีกหรือ”

เมื่อชายที่รักของฉันสอดมือเข้ามา
    ตรงรูประตู หัวใจของฉันก็เต้นระรัว
ฉันลุกขึ้น เพื่อไปเปิดประตูให้กับคนรักของฉัน
    มือของฉันก็มียางไม้หอมหยดอยู่
    นิ้วของฉัน ทำให้ยางไม้หอมหยดลงบนที่จับสลักประตู
ฉันเปิดประตูให้คนรักของฉัน
    แต่คนรักของฉัน ไปเสียแล้ว
เมื่อเขาจากไป ฉันแทบขาดใจ
    ฉันตามหาเขา แต่ก็หาไม่พบ
    ฉันร้องเรียกหาเขา แต่เขาไม่ตอบ
พวกยามที่ลาดตระเวนรอบเมืองพบฉัน
    พวกเขาตีฉันและทำให้ฉันบาดเจ็บ
พวกยามเหล่านี้ที่เฝ้ากำแพงเมือง
    ได้ดึงผ้าคลุมหน้าของฉันออกไป

สาวๆแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ฉันขอให้พวกเธอสาบานว่า
    หากเธอพบกับชายคนรักของฉัน พวกเธอต้องบอกเขาว่า “ฉันกำลังเป็นไข้ใจอยู่”

สาวๆแห่งเยรูซาเล็มตอบ

สาวงามกว่าหญิงอื่นใดเอ๋ย คนรักของเธอวิเศษกว่าชายหนุ่มคนอื่นตรงไหน
    เธอถึงได้มาให้พวกเราสาบานอย่างนี้

หญิงสาวพูด

10 ชายคนรักของฉันมีผิวสีดำแดงเปล่งปลั่ง
    โดดเด่นกว่าชายหนุ่มนับหมื่นคน
11 หัวของเขาเป็นเหมือนทองคำ ทองคำบริสุทธิ์
    ผมของเขาหยักลอน และดำขลับราวกับนกกา
12 ตาของเขาเป็นเหมือนนกเขาที่เกาะอยู่ริมสายน้ำ
    อาบเนื้อตัวด้วยน้ำนม เกาะอยู่ริมสายน้ำที่เต็มตลิ่ง
13 แก้มของเขาเป็นเหมือนสวนเครื่องเทศที่ออกเป็นสมุนไพรหอมหวาน
    ริมฝีปากของเขาเป็นเหมือนดอกลิลลี่ที่หยดยางหอมออกมา
14 แขนของเขาเป็นเหมือนท่อนทองคำฝังเพชรพลอย
    ส่วนท้องของเขาเป็นเหมือนงาช้างประดับด้วยพลอยสีน้ำเงินเข้ม
15 ขาของเขาเป็นเหมือนเสาหินอ่อนที่ตั้งอยู่บนฐานที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์
    รูปร่างของเขาเป็นเหมือนต้นไม้แห่งเมืองเลบานอน ดูสูงและแข็งแกร่งราวกับไม้สนซีดาร์แห่งเลบานอน
16 ปากของเขานั้นก็หวานที่สุด
    ทุกอย่างในตัวเขาดูน่ารักน่าใคร่ไปหมด
นั่นแหละคือคนรักของฉัน
    หญิงสาวแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย นั่นแหละเขาละ

หญิงสาวแห่งเยรูซาเล็มพูด

สาวงามกว่าหญิงใดเอ๋ย ชายคนรักของเธอไปไหนเสียแล้ว
    ชายคนรักของเธอ หันไปทางไหนแล้ว
    บอกมาเถิด พวกเราจะช่วยเธอตามหาเขา

หญิงสาวตอบ

ชายคนรักของฉันลงไปในสวนของเขา ไปที่แปลงเครื่องเทศ
    เขาลงไปเล็มพืชอยู่ในสวน และไปเก็บดอกลิลลี่
ฉันเป็นของเขา และเขาก็เป็นของฉัน
    เขาเล็มพืชอยู่ท่ามกลางดอกลิลลี่

ชายหนุ่มพูด

ที่รักจ๋า เธอช่างสวยงามราวกับเมืองทีรซาห์[a]
    มีเสน่ห์ราวกับเมืองเยรูซาเล็ม
    เธอช่างน่าประทับใจดุจดังกองทหารพร้อมธงประจำหน่วย[b]
อย่ามองฉันเลยเพราะดวงตาของเธอทำให้ฉันแทบคลั่ง
    ผมของเธอเปรียบเหมือนฝูงแพะที่เดินพลิ้วลงมาเป็นระลอกจากภูเขากิเลอาด
ฟันของเธอนั้นขาวเหมือนกับฝูงแกะตัวเมียที่เพิ่งขึ้นมาจากการล้างตัว
    แต่ละซี่ก็มีคู่แฝดล่างบนไม่มีหลุดไปเลยสักซี่
แก้มที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าของเธอนั้น
    สีชมพูเหมือนผลทับทิมผ่าซีก
ถึงจะมีราชินีหกสิบคน
    เมียน้อยแปดสิบคน
    และหญิงสาวอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน
แต่แม่นกเขาของพี่ แม่นางผู้สวยหมดจดของพี่ก็เป็นหนึ่งเดียวไม่เหมือนใคร
    เธอก็ลูกสาวเพียงคนเดียวของแม่และเป็นหัวแก้วหัวแหวนของผู้ให้กำเนิด
หญิงสาวทั้งหลายที่พบเธอถือว่าเธอมีเกียรติจริงๆ
    อีกทั้งเหล่าราชินี และพวกเมียน้อยต่างก็สรรเสริญเยินยอเธอว่า
10 “ใครกันนี่ ผู้เปรียบเหมือนแสงอรุณ
    สวยงามราวกับดวงจันทร์
    เจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์
    และน่าประทับใจราวกับกองทหารพร้อมธงประจำหน่วย”
11 ฉันลงไปที่สวนต้นถั่ววอลนัทเพื่อไปดูช่อดอกไม้ที่ขึ้นตามหุบเขา
    ไปดูว่าพวกเถาองุ่นออกดอกแล้วหรือยัง
    ไปดูว่าพวกต้นทับทิมผลิดอกแล้วหรือยัง
12 ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว
    เธอก็ได้วางฉันอยู่ท่ามกลางรถม้าของคนของฉันอย่างเจ้าชาย

เพื่อนๆของผู้ชายเรียกหญิงสาว

13 กลับมาเถิด กลับมาก่อน แม่ชาวชูเลมเอ๋ย
    กลับมาให้พวกเราได้ชมดูเธอก่อน

ชายหนุ่มพูด

ทำไมพวกเจ้าถึงได้จ้องมองนางชาวชูเลม
    ราวกับว่านางกำลังเต้นรำอยู่เบื้องหน้าทหารสองกองทัพอย่างนั้นล่ะ

ชายหนุ่มชื่นชมความงามของหญิงสาวว่า

เจ้าหญิงเอ๋ย เท้าคู่นั้นของเธอที่สวมรองเท้าสานอยู่ช่างงดงามเหลือเกิน
    ต้นขาอันกลมกลึงของเธอเหมือนเพชรพลอยที่ช่างฝีมือดีได้เจียระไนไว้
สะดือของเธอนั้นเหมือนชามทรงกลมที่มีเหล้าองุ่นผสมเครื่องเทศเติมเต็มอยู่เสมอ
    ส่วนหน้าท้องอันโค้งมนของเธอนั้นเหมือนกองเมล็ดข้าวสาลีที่นวดแล้วล้อมรอบด้วยดอกลิลลี่
นมสองเต้าของเธอนั้นเปรียบเหมือนลูกกวางคู่หนึ่ง
    หรือเลียงผาฝาแฝด
ลำคอระหงของเธอเปรียบเหมือนหอคอยงาช้าง
    ดวงตาของเธอนั้นเหมือนสระน้ำที่ส่องประกายในเมืองเฮชโบนตรงประตูบัทรับบิม
    จมูกของเธอสูงโด่งเหมือนหอคอยแห่งเลบานอนที่มองเห็นเมืองดามัสกัส
หัวของเธอสูงส่งเหมือนภูเขาคารเมล
    เส้นผมของเธอเหมือนผ้ามันวาวสีม่วง
    ผมยาวสลวยของเธอนั้นทำให้กษัตริย์ต้องสยบลง
ที่รักของฉัน เธอช่างงดงาม และมีเสน่ห์น่าชื่นชมยิ่งนัก
    เธอทำให้ฉันเพลิดเพลินใจ
เธอช่างสูงระหงราวกับต้นอินทผลัม
    เต้าทั้งสองของเธอนั้นเหมือนพวงอินทผลัม
ฉันพูดว่า “ฉันจะปีนต้นอินทผลัม และจะคว้าผลอินทผลัมนั้น”
    ขอให้เต้าทั้งสองของเธอเป็นเหมือนพวงองุ่น
    ขอให้ลมปากของเธอหอมเหมือนผลแอปเปิ้ล
ขอให้จูบของเธอเป็นเหมือนเหล้าองุ่นชั้นเยี่ยม[c]

หญิงสาวแทรกขึ้นว่า

    ที่ไหลลื่นไปยังคนรักของฉัน
    และเลื่อนไหลผ่านริมฝีปากและฟันของฉัน
10 ฉันเป็นของที่รักของฉัน
    และเขาก็อยากได้แต่ฉันเท่านั้น
11 มาเถิด ที่รักของฉัน ออกไปที่ทุ่งกว้างข้างนอกนั้น
    และคืนนี้เราจะพักอยู่ท่ามกลางพุ่มดอกเฮนนาที่หอมนั้น
12 เราจะตื่นแต่เช้าตรู่ แล้วออกไปที่สวนองุ่น
    ไปดูว่าพวกต้นองุ่นออกดอกแล้วหรือยัง
ไปดูว่าพวกช่อดอกองุ่นผลิบานแล้วหรือยัง
    ไปดูว่าต้นทับทิมออกดอกแล้วหรือยัง
และที่นั่นฉันจะมอบความรักให้กับเธอ
13 ที่รักของฉันจ๋าพืชแห่งรักได้ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วแล้ว
    ผลไม้เลิศรสทั้งหลายได้สะสมไว้แล้วเหนือประตูของเรา
ฉันได้สะสมผลไม้เลิศรสทั้งหลายไว้
    ทั้งที่เคยลิ้มรสและไม่เคยลิ้มรสมาก่อนไว้ให้กับเธอ

แหม ถ้าเธอเป็นพี่ชายของฉันก็น่าจะดีนะ
    ผู้ดูดนมจากเต้าของแม่ฉัน
เพราะเมื่อฉันพบเธอตามท้องถนน
    ฉันจะได้จูบเธอโดยไม่มีใครเหยียดหยาม
แล้วฉันจะได้นำเธอ ฉันจะพาเธอไปที่บ้านของแม่ฉัน เธอจะได้สอนเรื่องอย่างว่ากับฉัน
    ฉันจะให้เธอดื่มไวน์ผสมเครื่องเทศที่ทำจากน้ำทับทิมของฉัน
แขนซ้ายของเขาช้อนอยู่ใต้หัวฉัน
    และมือขวาของเขาก็ลูบไล้ฉัน

นางพูดกับพวกเพื่อนสาว

พวกสาวๆแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ฉันขอให้เธอทั้งหลายสาบานว่า
    พวกเธอจะไม่ปลุกเร้าหรือกระตุ้นความรักให้ตื่นจนกว่าความรักนั้นจะสุกงอมเสียก่อน

พวกสาวๆแห่งเยรูซาเล็มพูดว่า

นางผู้มาจากที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง
    ที่อิงแอบมากับชายคนรักของนางนั้นเป็นใครกันหนอ

หญิงสาวพูดกับชายคนรักว่า

ฉันได้ปลุกเธอตื่นขึ้นใต้ต้นแอปเปิ้ลนั้น เป็นที่ที่แม่ของเธอตั้งท้องเธอ
    และที่นั่นแหละคือที่ที่นางคลอดเธอมา
เอาตัวฉันแนบชิดไว้กับตัวเธอ
    เหมือนดวงตราที่ห้อยแนบชิดกับหน้าอกเธอ
    เหมือนดวงตราที่แนบชิดกับข้อมือเธอ
เพราะฤทธิ์แห่งความรักนั้นแรงพอๆกับความตาย
    อารมณ์รักนั้นก็ทนนานเท่ากับแดนคนตาย
ความรักจุดประกายขึ้นดังไฟ
    เป็นไฟลูกใหญ่ที่ลุกโชติช่วง
แม้น้ำจะมากเพียงใดก็ไม่อาจดับไฟรักลงได้
    และแม่น้ำทั้งหลายก็ไม่อาจท่วมท้นความรักได้
ถ้าหากมีใครสักคนพยายามจะซื้อความรักด้วยทุกสิ่งที่เขามี
    ข้อเสนอของเขาจะถูกปฏิเสธอย่างแน่นอน

พวกพี่ชายของหญิงสาวพูดว่า

เรามีน้องสาวตัวน้อยอยู่หนึ่งคนซึ่งนมยังไม่ตั้งเต้าเลย
    เราจะทำยังไงกับเธอดีเมื่อมีคนมาสู่ขอเธอ
ถ้าเปรียบเธอเหมือนกำแพง เราจะเอาเงินมาตกแต่งกำแพงนั้น
    และถ้าเปรียบเธอเป็นประตู เราจะหาไม้สนซีดาร์มาเสริมแต่งประตูนั้น

หญิงสาวพูดว่า

10 ใช่สิ ฉันเปรียบเหมือนกำแพงนั้น
    และเต้าทั้งสองของฉันก็ตั้งขึ้นเหมือนหอคอย
    นั่นเป็นเหตุที่ เขาพึงพอใจฉัน

ชายหนุ่มพูดว่า

11 ซาโลมอนมีสวนองุ่นอยู่แปลงหนึ่งที่บาอัลฮาโมน
    และเขาก็ให้คนเช่าสวนองุ่นนั้น
    และทุกๆปี คนเช่าสวนจะต้องจ่ายเขาคนละหนึ่งพันเหรียญเงินจากเงินที่ได้จากการขายผลองุ่นนั้น
12 แต่ฉันมีสวนองุ่นส่วนตัวของฉันเอง
    ซาโลมอนเอ๋ย ท่านเก็บพันเหรียญเงินของท่านไว้เถิด
    แล้วก็จ่ายคนเฝ้าสวนของท่านคนละสองร้อยเหรียญเงินด้วย

ชายหนุ่มพูดกับหญิงสาวว่า

13 เธอผู้ที่กำลังนั่งในสวนนั้นน่ะ เพื่อนๆของฉันอยากได้ยินเสียงของเธอ
    ฉันเองก็เหมือนกัน

หญิงสาวพูดว่า

14 ที่รักของฉัน เร็วเข้าเถิด
    ขอให้ท่านเป็นดังเลียงผาหรือกวางหนุ่มที่อยู่ภูเขาแห่งเครื่องเทศเหล่านี้เถิด

2 โครินธ์ 9

การช่วยเหลือคนของพระเจ้า

ผมว่าไม่จำเป็นต้องเขียนเกี่ยวกับเรื่องการช่วยเหลือคนที่เป็นของพระเจ้าที่เมืองเยรูซาเล็มอีกแล้ว เพราะผมรู้ว่าคุณพร้อมที่จะช่วยอยู่แล้ว ผมอวดเรื่องของคุณให้กับชาวมาซิโดเนียฟังอยู่บ่อยๆ ผมบอกเขาว่าพวกคุณที่อยู่ในแคว้นอาคายานั้น พร้อมที่จะช่วยตั้งแต่ปีที่แล้ว และความกระตือรือร้นของคุณนี้กระตุ้นให้พวกมาซิโดเนียอยากจะช่วยด้วย แต่ที่ผมส่งพี่น้องมาหาคุณนั้น ก็เพื่อให้เขาเห็นว่าเรื่องที่เราอวดเกี่ยวกับคุณนั้นเป็นจริง และผมก็อยากให้คุณพร้อมอย่างที่ผมบอกไปด้วย ไม่อย่างนั้น ถ้ามีชาวมาซิโดเนียบางคนมากับผม และพบว่าคุณไม่ได้เตรียมพร้อมอย่างที่เราบอก เราก็จะเสียหน้าที่เรามั่นอกมั่นใจในตัวพวกคุณเหลือเกิน (ไม่ต้องพูดถึงคุณเลยว่าจะเสียหน้ามากแค่ไหน) ผมจึงคิดว่าจำเป็นที่จะต้องขอให้พี่น้องพวกนี้มาเยี่ยมพวกคุณก่อน พวกเขาจะได้มาช่วยเตรียมเงินที่คุณสัญญาว่าจะบริจาคนี้ ให้พร้อมตั้งแต่เนิ่นๆก่อนที่ผมจะมา เพื่อจะได้เป็นการบริจาคด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ถูกบังคับ

จำเอาไว้ว่า คนที่หว่านน้อยก็จะเก็บเกี่ยวน้อย และคนที่หว่านมากก็จะเก็บเกี่ยวมาก แต่ละคนควรจะให้ตามที่ตั้งใจไว้ ไม่ใช่ให้ด้วยความเสียดายหรือถูกบังคับ เพราะพระเจ้ารักคนที่ให้ด้วยใจที่ชื่นชมยินดี พระเจ้าสามารถให้สิ่งดีๆมากมาย เพื่อคุณจะได้มีทุกอย่างเพียงพอเสมอไป และมีส่วนร่วมในงานการกุศลดีๆ มากมาย เหมือนกับที่พระคัมภีร์พูดไว้ว่า

“เขาแจกจ่ายให้กับคนยากจนอย่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
    ใจกว้างขวางของเขาจะคงอยู่ตลอดไป”[a]

10 พระเจ้าผู้ที่ให้เมล็ดกับคนหว่าน และให้อาหารกับคนกิน ก็จะให้เมล็ดกับคุณและทำให้มันเพิ่มมากยิ่งขึ้น และจะให้พวกคุณได้เก็บเกี่ยวชีวิตที่พระเจ้าพอใจเป็นผล และพระองค์จะใช้จิตใจกว้างขวางของคุณนี้ทำให้เกิดมีการเก็บเกี่ยวอย่างเหลือเฟือ 11 พระเจ้าจะทำให้คุณร่ำรวยในทุกทาง เพื่อคุณจะสามารถให้อย่างใจกว้างในทุกๆโอกาส เมื่อคุณให้อย่างใจกว้างผ่านมาทางเรานั้น ก็จะทำให้คนขอบคุณพระเจ้า

12 งานรับใช้ที่คุณทำนี้ได้ช่วยทั้งคนที่เป็นของพระเจ้าที่ขัดสน และยังทำให้มีการขอบคุณพระเจ้าอย่างท้วมท้นอีกด้วย 13 ที่คุณรับใช้อย่างนี้ พิสูจน์ให้เห็นถึงความเชื่อ จึงทำให้คนของพระเจ้าสรรเสริญพระองค์ เพราะคุณมีใจเชื่อฟังที่มาจากความเชื่อในข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ และเพราะความใจดีของคุณที่ได้ช่วยเหลือพวกเขาและคนอื่นๆด้วย 14 เมื่อพวกเขาอธิษฐานเผื่อคุณนั้น พวกเขาก็จะทำไปด้วยความรักและคิดถึงคุณ เพราะพระเจ้าเมตตาคุณอย่างล้นเหลือ 15 ขอบคุณพระเจ้าสำหรับของขวัญอันยอดเยี่ยมของพระองค์ที่ดีเกินกว่าจะบรรยายได้

สดุดี 51

คำอธิษฐานขอการยกโทษ

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด เขียนตอนที่นาธันผู้พูดแทนพระเจ้ามาหาดาวิด หลังจากที่ดาวิดไปมีเพศสัมพันธ์กับบัทเชบาแล้ว[a]

ข้าแต่พระเจ้า โปรดแสดงความรักมั่นคงของพระองค์ และมีเมตตาปรานีต่อข้าพเจ้าด้วยเถิด
    โปรดแสดงความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์และขจัดการกบฏของข้าพเจ้าด้วยเถิด
ช่วยขัดถูความผิดของข้าพเจ้าให้หมดไป
    และชำระข้าพเจ้าจากบาปของข้าพเจ้า

เพราะข้าพเจ้ารู้ถึงการกบฏที่ได้ก่อไว้
    ข้าพเจ้ายังคิดถึงบาปของข้าพเจ้าอยู่เรื่อย
ข้าพเจ้าทำบาปต่อพระองค์ต่อพระองค์ผู้เดียว
    ข้าพเจ้าทำในสิ่งที่พระองค์เห็นว่าชั่วร้าย
ดังนั้นพระองค์ทำถูกต้องแล้วที่ประณามข้าพเจ้า
    พระองค์ตัดสินโทษข้าพเจ้าอย่างยุติธรรม
ดูเถิด ข้าพเจ้าเกิดมาในความผิดบาป
    และแม่ของข้าพเจ้าก็ตั้งท้องข้าพเจ้ามาในบาป

พระองค์ต้องการให้ความจริงฝังลึกเข้าไปภายในข้าพเจ้า
    พระองค์ต้องการให้ข้าพเจ้ารู้จักสติปัญญาภายในส่วนลึกนั้นของข้าพเจ้า
โปรดกำจัดความบาปของข้าพเจ้าด้วยกิ่งหุสบ[b] เพื่อข้าพเจ้าจะได้บริสุทธิ์
    ขัดถูข้าพเจ้าให้สะอาดและทำให้ข้าพเจ้าขาวยิ่งกว่าหิมะด้วยเถิด
ช่วยพูดสิ่งที่จะนำความยินดีและความสุขมาให้กับข้าพเจ้าด้วยเถิด
    โปรดทำให้กระดูกพวกนี้ที่พระองค์หักเป็นชิ้นๆได้กลับชื่นชมยินดีอีกครั้ง
เมินหน้าไปจากบาปทั้งหลายของข้าพเจ้า
    ขจัดความผิดทั้งหมดของข้าพเจ้าด้วยเถิด

10 ข้าแต่พระเจ้า โปรดสร้างใจอันบริสุทธิ์ให้กับข้าพเจ้า
    โปรดใส่จิตวิญญาณใหม่ที่จงรักภักดีลงไปในข้าพเจ้า
11 โปรดอย่าได้ผลักไสข้าพเจ้าให้พ้นไปจากหน้าของพระองค์
    โปรดอย่าเอาพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ไปจากข้าพเจ้า
12 โปรดคืนความชื่นชมยินดีที่ข้าพเจ้าได้รับตอนที่พระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้รอด
    โปรดช่วยค้ำชูข้าพเจ้าโดยให้จิตวิญญาณที่เต็มใจเชื่อฟังพระองค์

13 แล้วข้าพเจ้าจะสอนพวกที่ชอบกบฏให้รู้จักทางต่างๆของพระองค์
    แล้วคนบาปพวกนั้นจะได้หันกลับมาหาพระองค์
14 ข้าแต่พระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า
    โปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นโทษตายด้วยเถิด[c]
    แล้วข้าพเจ้าจะได้ร้องเพลงถึงความดีของพระองค์อย่างมีความสุข

15 องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า โปรดเปิดริมฝีปากของข้าพเจ้า
    แล้วปากของข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์
16 รู้อยู่แล้วว่า พระองค์ไม่ยินดีในเครื่องบูชา
    ไม่อย่างนั้น ข้าพเจ้าก็นำมาถวายให้แล้ว พระองค์ไม่พอใจในเครื่องเผาบูชา
17 แต่เครื่องบูชาที่พระองค์ต้องการคือจิตวิญญาณที่อ่อนน้อม
    พระองค์จะไม่ดูถูกคนที่มีใจที่อ่อนน้อมและเสียใจกับบาปที่เขาทำ

18 ข้าแต่พระเจ้า ด้วยความกรุณาของพระองค์ ขอพระองค์ช่วยทำสิ่งดีๆให้กับเมืองศิโยน
    และสร้างกำแพงเมืองเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ด้วยเถิด
19 แล้วเมื่อนั้น พระองค์จะยอมรับเครื่องบูชาที่คนถวายอย่างถูกต้อง
    และเครื่องเผาบูชาทั้งตัว
    และเมื่อนั้นประชาชนจะสามารถถวายพวกวัวผู้บนแท่นบูชาของพระองค์ได้อีกครั้งหนึ่ง

สุภาษิต 22:24-25

24 อย่าได้เป็นเพื่อนกับคนที่ขี้โมโห
    หรือคบค้ากับคนฉุนเฉียว
25 เพื่อว่าเจ้าจะได้ไม่เลียนแบบนิสัยของเขา
    และสุดท้ายก็ติดเข้าไปในกับดัก

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International