Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the NLT. Switch to the NLT to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 12-14

เพลงสรรเสริญพระเจ้า

12 ในเวลานั้นเจ้าจะพูดว่า
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระองค์
    ใช่แล้ว พระองค์โกรธข้าพเจ้าอยู่
ขอให้ความโกรธของพระองค์หันไปจากข้าพเจ้าด้วยเถิด
    ขอให้พระองค์ปลอบโยนข้าพเจ้าด้วยเถิด[a]
ดูสิ พระเจ้าคือผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะไว้วางใจในพระองค์และข้าพเจ้าจะไม่กลัว
เพราะพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์นั่นแหละเป็นกำลังและที่ปกป้องของข้าพเจ้า
    และพระองค์ได้มาเป็นผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า”

พวกเจ้าจะตักน้ำอย่างมีความสุข
    จากพวกบ่อน้ำแห่งความรอด
และในตอนนั้น พวกเจ้าจะพูดว่า
“ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์กันเถิด ให้ร้องเรียกชื่อของพระองค์เถิด
    ให้ประกาศให้ชนชาติทั้งหลายรู้ถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำนั้น
    ให้ประกาศว่าพระองค์นั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน
ร้องเพลงสรรเสริญให้กับพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ได้ทำสิ่งต่างๆที่ยิ่งใหญ่
    ให้สิ่งนี้เป็นที่รู้กันไปทั่วโลก
ชาวศิโยนเอ๋ย โห่ร้องและร้องเพลงด้วยความสุขเถิด
    เพราะองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลนั้นยิ่งใหญ่ท่ามกลางพวกเจ้า”

ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับบาบิโลน

13 อิสยาห์ลูกของอามอส ได้รับข้อความนี้เกี่ยวกับบาบิโลนผ่านทางนิมิต พระยาห์เวห์พูดว่า

“ยกธงขึ้นบนภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ขึ้นนั้น
    ให้ร้องตะโกนเรียกทหารทั้งหลาย
กวักมือเรียกพวกเขาให้เข้าไป
    ทางประตูเหล่านั้นของพวกสูงศักดิ์
เราได้ออกคำสั่งกับคนพวกนั้นที่เราได้แยกออกมาโดยเฉพาะสำหรับเรา
    เราได้เรียกพวกนักรบของเราที่มีความภาคภูมิใจและมีความมั่นใจให้ไปลงโทษคนพวกนั้นที่เราโกรธ”

“ฟังดูสิ มีเสียงดังอึกทึกบนภูเขาพวกนั้น มันฟังดูเหมือนเสียงของคนเป็นจำนวนมาก
    ฟังดูสิ มีเสียงอึกทึกครึกโครมท่ามกลางอาณาจักรต่างๆ
ชนชาติทั้งหลายต่างก็มารวมตัวกัน
    พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นกำลังรวบรวมพลเพื่อทำสงคราม
พวกเขามาจากดินแดนอันแสนไกลมาจากสุดขอบฟ้า
    พระยาห์เวห์และอาวุธแห่งความโกรธของพระองค์กำลังมา เพื่อทำลายแผ่นดินนี้ทั้งหมด”

ร้องร่ำไห้สิ เพราะวันของพระยาห์เวห์ใกล้มาถึงแล้ว
    วันนั้นจะมากับความหายนะที่มาจากพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์
ดังนั้น มือทุกมือก็จะหมดแรง
    ความกล้าของทุกคนก็จะหลอมละลายไป
และพวกเขาจะขวัญหนีดีฝ่อและพบกับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน
    พวกเขาจะเจ็บปวดเหมือนกับผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก
พวกเขาจะมองหน้ากันอย่างตกตะลึง
    ใบหน้าของพวกเขาจะแดงเหมือนเปลวเพลิง
ดูสิ วันของพระยาห์เวห์กำลังมา
    เป็นวันอันโหดร้าย เพราะความโกรธแค้น ความโกรธที่ลุกเป็นไฟ
เพื่อทำให้แผ่นดินนี้รกร้างว่างเปล่า
    เพื่อกำจัดพวกคนบาปให้หมดไปจากมัน
10 ดวงดาวต่างๆในท้องฟ้าและหมู่ดาวนั้นจะไม่ส่องแสงของพวกมัน
    ดวงอาทิตย์ก็จะมืดเมื่อมันขึ้นมาและดวงจันทร์จะไม่ฉายแสงของมัน
11 พระยาห์เวห์พูดว่า
“เราจะลงโทษโลกนี้สำหรับความชั่วช้าของมัน
    เราจะลงโทษคนเลวทรามสำหรับความผิดบาปของมัน
เราจะทำให้ความเย่อหยิ่งของคนจองหองจบสิ้นไป
    และเราจะทำลายความหยิ่งยโสของคนโหดร้าย
12 เราจะทำให้มนุษย์นี้หายากยิ่งกว่าทองคำเนื้อดี
    และทำให้ผู้คนหายากยิ่งกว่าทองคำแห่งโอฟีร์
13 ดังนั้นเราจะทำให้ท้องฟ้าสะเทือนสะท้าน
    และแผ่นดินโลกก็จะถูกสั่นสะเทือนหลุดออกจากที่ของมัน”
ด้วยความโกรธแค้นของพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในวันที่ความโกรธของพระองค์ลุกเป็นไฟขึ้นมา
14 แล้วคนต่างชาติที่อยู่ในบาบิโลนก็จะกลับไปหาคนของตัวเองและวิ่งหนีกลับไปยังดินแดนของตัวเอง
    เหมือนกวางที่ถูกล่า และเหมือนแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง
15 เมื่อศัตรูเจอคนที่หลบซ่อนอยู่ คนนั้นก็จะถูกแทงตาย
    ใครที่ถูกจับได้ก็จะถูกฆ่าด้วยดาบ
16 ลูกเล็กเด็กแดงของพวกเขาก็จะถูกฟาดเป็นชิ้นๆต่อหน้าต่อตาพวกเขา
    บ้านของพวกเขาก็จะถูกปล้นและภรรยาของพวกเขาก็จะถูกข่มขืน

17 พระยาห์เวห์พูดว่า
“ดูไว้ เรากำลังยุแหย่ชาวมีเดียให้โจมตีบาบิโลน
    พวกชาวมีเดียนี้ไม่สนเรื่องเงินทอง
18 คันธนูของพวกเขาจะฆ่าคนหนุ่มๆ
    พวกเขาจะไม่เมตตาต่อเด็กๆและพวกเขาไม่มองเด็กด้วยความสงสาร
19 บาลิโลน อาณาจักรที่สวยงามที่สุดในท่ามกลางอาณาจักรทั้งหลาย เมืองที่คนบาบิโลน[b]ภาคภูมิใจมาก[c]
    บาบิโลนก็จะเป็นเหมือนเมืองโสโดมและโกโมราห์ ตอนที่พระเจ้าโค่นล้มสองเมืองนั้น
20 จะไม่มีใครอยู่ที่นั่นได้อีกต่อไปและจะไม่มีใครตั้งรกรากที่นั่นได้อีกตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
    คนอาหรับก็จะไม่ตั้งเต็นท์ที่นั่นและพวกคนเลี้ยงแกะก็จะไม่เอาแกะมานอนลงที่นั่น
21 แต่สัตว์ป่าจะมานอนลงที่นั่น
    และพวกบ้านในเมืองบาบิโลนจะเต็มไปด้วยพวกหมาป่า
พวกนกกระจอกเทศจะมาอาศัยอยู่ที่นั่น
    และพวกปีศาจในรูปแพะจะมาวิ่งเล่นอยู่แถวนั้น
22 พวกหมาไนก็จะมาเห่าหอนอยู่บนหอคอยของบาบิโลน
    และพวกหมาป่าก็จะมาเห่าหอนในวังอันสวยงามของบาบิโลน
จุดจบของบาบิโลนใกล้มาถึงแล้ว
    และพระองค์จะไม่ต่อเวลาให้กับพวกเขาอีกแล้ว”

อิสราเอลจะกลับบ้าน

14 แต่พระยาห์เวห์จะเมตตาต่อยาโคบ พระองค์จะเลือกคนอิสราเอลอีกครั้ง พระองค์จะให้พวกเขาอยู่อย่างปลอดภัยในแผ่นดินของพวกเขาเอง และคนต่างชาติก็จะมาสมทบกับพวกเขาและมาเป็นสมาชิกในครอบครัวของยาโคบ ชนชาติต่างๆเหล่านั้นจะนำพวกอิสราเอลกลับไปยังบ้านเมืองของคนอิสราเอลเอง และครอบครัวของอิสราเอลก็จะเอาคนต่างชาติเหล่านั้นทั้งชายและหญิง มาเป็นทาสในแผ่นดินของพระยาห์เวห์ คนอิสราเอลจะจับคนที่เคยจับพวกเขาไปเป็นทาส มาเป็นทาสเสียเอง และคนอิสราเอลก็จะปกครองเหนือคนพวกนั้นที่เคยข่มเหงอิสราเอลมาก่อน

เพลงแกล้งคร่ำครวญในงานศพของกษัตริย์บาบิโลน

เมื่อพระยาห์เวห์ให้เจ้าได้หลุดพ้นจากความเจ็บปวด ความเดือดร้อน และการถูกบังคับให้ทำงานอย่างทาส เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าจะได้ร้องเพลงเยาะเย้ยกษัตริย์ของบาบิโลนว่า

“น่าสมเพชจริงๆที่กษัตริย์ที่โหดร้ายนั้น พบกับจุดจบอย่างนี้
    น่าสมเพชจริงๆที่การปกครองด้วยความเย่อหยิ่งจองหองนั้นพบกับจุดจบอย่างนี้
พระยาห์เวห์ได้หักไม้ตะบองของพวกเลวทราม
    พระองค์ได้หักไม้คทาของพวกผู้ครอบครองทิ้งไป
กษัตริย์บาบิโลนตีชนชาติทั้งหลายด้วยความโกรธ ตีพวกเขาอย่างไม่หยุดยั้ง
    ครอบครองชนชาติทั้งหลายด้วยความโกรธ ข่มเหงคนอย่างไม่เคยผ่อนปรน
แต่ตอนนี้ ทั้งแผ่นดินโลกก็พักผ่อนและสงบเงียบ
    ผู้คนก็เริ่มร้องเพลงกัน
แม้แต่พวกต้นสนและสนซีดาร์ของเลบานอนก็ยังดีใจเพราะเจ้าพ่ายแพ้
    พวกต้นไม้นั้นพูดว่า ‘ตั้งแต่เจ้าถูกโค่นล้มลงก็ไม่มีใครมาตัดพวกเราอีกเลย’
แดนคนตายเบื้องล่างยังตื่นเต้นดีใจที่จะได้เจอกับเจ้าเมื่อเจ้าไปถึง
    มันปลุกวิญญาณต่างๆของคนตายเพื่อมาต้อนรับเจ้า
มันปลุกวิญญาณของทุกคนที่เคยเป็นผู้นำในโลกนี้
    มันบังคับให้ทุกคนที่เคยเป็นกษัตริย์ของชนชาติทั้งหลายให้ลุกขึ้นจากบัลลังก์ของพวกเขา
10 พวกนั้นทุกคนจะพูดกับเจ้าว่า ‘เจ้าได้กลายเป็นผู้อ่อนแอเหมือนพวกเราแล้ว
    เจ้าเป็นเหมือนกับพวกเราแล้ว’
11 สง่าราศีเจ้าถูกนำลงมาถึงแดนคนตาย
    พร้อมๆกับเสียงพิณต่างๆของเจ้า
ตัวหนอนแมลงวันก็แผ่อยู่ใต้เจ้าเหมือนเตียง
    และพวกตัวหนอนก็คลุมเจ้าเหมือนผ้าห่ม
12 น่าสมเพชจริงๆที่เจ้าตกลงมาจากสวรรค์ซะสูงขนาดนั้น
    เจ้าผู้เป็นดาวรุ่ง และลูกของรุ่งอรุณ
ดูเจ้าสิ ถูกโค่นลงมาบนดินแล้ว
    ถึงเจ้าจะเคยเป็นผู้พิชิตชนชาติทั้งหลายก็ตาม
13 เจ้าคิดในใจว่า ‘เราจะขึ้นไปบนสวรรค์
    เราจะยกบัลลังก์ของเราขึ้นสูงเหนือหมู่ดาวของพระเจ้า
    เราจะนั่งอยู่บนภูเขาที่พวกเทพมาชุมนุมกันบนเนินลาดของภูเขาซับฟอน[d]
14 เราจะขึ้นไปเหนือเมฆ
    เราจะเป็นเหมือนกับพระเจ้าผู้สูงสุด’

15 แต่เจ้ากลับถูกนำลงมาที่แดนคนตายนี้
    มาอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของหลุมนี้
16 คนเหล่านั้นที่เห็นเจ้า ก็จะจ้องเจ้า
    พวกเขาจะคิดอย่างนี้เกี่ยวกับเจ้า
‘นี่นะหรือเป็นคนเดียวกันกับที่ทำให้แผ่นดินโลกไหว
    คนที่ทำให้อาณาจักรต่างๆสะเทือนสะท้าน
17 นี่นะหรือคนที่ทำให้แผ่นดินโลกกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่าและพังทลายเมืองต่างๆของมัน
    นี่นะหรือคนที่ไม่ยอมปล่อยให้เชลยของเขากลับบ้าน’
18 กษัตริย์ทั้งหมดของชนชาติทั้งหลาย ต่างก็ถูกฝังอย่างสมเกียรติ
    ต่างคนต่างอยู่ในอุโมงค์ฝังศพของตน
19 แต่เจ้ากลับถูกโยนออกมาจากหลุมฝังศพของเจ้า
    เหมือนกับซากศพที่น่าขยะแขยง
เจ้าถูกทับด้วยศพของคนเหล่านั้นที่ถูกฆ่าในสนามรบ ที่ถูกดาบแทง
    ที่ลงไปในหลุมแห่งความตายที่เป็นหิน
    เจ้าเป็นเหมือนซากศพที่ถูกคนเหยียบย่ำไปมา
20 เจ้าจะไม่ได้ถูกฝังร่วมกับกษัตริย์อื่นๆเหล่านั้น
    เพราะเจ้าได้ทำลายประเทศของเจ้าเอง
เจ้าได้ฆ่าคนของเจ้าเอง
    อย่าให้มีใครพูดถึงลูกหลานของพวกที่ทำสิ่งที่ชั่วร้ายนั้นอีกเลย
21 เตรียมที่สำหรับฆ่าพวกลูกชายของเขาเพราะความบาปของพ่อของพวกเขา
    ขออย่าให้พวกเขาได้ลุกขึ้นมายึดครองโลกนี้หรือให้โลกนี้เต็มไปด้วยเมืองต่างๆของพวกเขา”

22 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า “เราจะลุกขึ้นมาต่อสู้กับพวกเขา เราจะทำลายบาบิโลน เราจะทำให้ชื่อเสียงของมันหมดไป เราจะไม่ปล่อยให้มีใครรอดชีวิต รวมถึงลูกและหลานของเจ้าด้วย” 23 พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูดว่า “เราจะทำให้บาบิโลนกลายเป็นที่อยู่ของพวกเม่นและเป็นหนองน้ำ เราจะกวาดมันทิ้งไปเหมือนใช้ไม้กวาด”

พระเจ้าจะลงโทษอัสซีเรีย

24 พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้สาบานไว้อย่างนี้ว่า
“เราตั้งใจจะให้มันเป็นยังไง
    มันก็จะเกิดขึ้นอย่างนั้น
เราได้วางแผนไว้ว่ายังไง
    มันก็จะเป็นไปตามนั้น
25 เราจะหักอัสซีเรีย[e] ทิ้งในแผ่นดินของเรา
    เราจะเหยียบย่ำพวกมันบนภูเขาทั้งหลายของเรา
เราจะเอาทั้งแอกที่อัสซีเรียวางไว้บนคอของยูดาห์
    และภาระหนักของอัสซีเรียที่ยูดาห์แบกไว้ออกไป”
26 นี่คือแผนที่ได้วางไว้สำหรับโลกทั้งโลก
    และนี่คือมือของพระองค์ที่ยื่นออกไปจัดการกับชนชาติทั้งหลาย
27 เพราะเมื่อพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้วางแผน
    ใครจะล้มเลิกมันได้
เมื่อพระองค์ยื่นมือของพระองค์ออกไปจัดการ
    ใครจะหันมันกลับได้

ข่าวสารของพระเจ้าถึงคนฟีลิสเตีย

28 ในปีที่กษัตริย์อาหัสตาย[f] ข่าวสารนี้ได้มาถึงว่า

29 “พวกเจ้าคนฟีลิสเตียทุกคน
    อย่าได้ดีใจเลยที่ไม้ตะบองที่ตีพวกเจ้านั้นได้หักไปแล้ว
เพราะจากครอบครัวของงูตัวนั้นก็จะเกิดงูพิษที่อันตรายกว่าตัวมันขึ้นมา
    และลูกของมันนั้นก็จะเป็นงูไฟที่บินได้
30 คนยากจนที่สุดจะมีกินอย่างเหลือเฟือเหมือนแกะเล็มหญ้า
    และคนขัดสนก็จะนอนลงอย่างปลอดภัย
แต่เราจะทำให้ครอบครัวของเจ้าอดอาหารตาย
    และคนที่เหลืออยู่ของเจ้า เราจะฆ่าเสีย

31 ประตูเมืองเอ๋ย ร้องคร่ำครวญเถิด เมืองเอ๋ย ร้องไห้ออกมา
    คนฟีลิสเตียทุกคนเอ๋ย ให้พวกเจ้ากลัวจนหลอมละลายไป
ดูทางเหนือนั้นซิ มีควันตลบฟุ้งขึ้นมาแล้ว
    และกองทัพที่กำลังลงมานั้น ไม่มีใครในพวกเขาที่ตามไม่ทัน”
32 จะตอบกับพวกผู้ส่งข่าวที่มาจากฟีลิสเตียนั้นว่ายังไงดี ให้ตอบพวกมันไปว่า
    “พระยาห์เวห์ตั้งศิโยนให้แข็งแรง และแม้แต่คนยากจนของพระองค์ก็ยังเข้าไปหลบภัยในเมืองศิโยนได้”

2 โครินธ์ 13

คำเตือนและคำทักทายสุดท้าย

13 นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ผมจะได้มาเยี่ยมพวกคุณ ตามที่มีข้อพระคัมภีร์เขียนเอาไว้ว่า “ข้อกล่าวหาทุกข้อจะต้องมีพยานสองหรือสามปาก ถึงจะเชื่อถือได้”[a]

เมื่อมาเยี่ยมครั้งที่สองนั้น ผมก็ได้เตือนพวกคุณไปแล้ว ตอนนี้ถึงแม้ผมจะไม่อยู่ก็ขอย้ำอีกครั้ง ครั้งหน้าที่จะมา ผมจะไม่เว้นโทษให้กับคนพวกนั้นที่ทำบาปอยู่ก่อนแล้ว และคนอื่นๆทุกคน ที่ผมทำอย่างนี้ก็เพราะพวกคุณต้องการให้ผมพิสูจน์ว่าพระคริสต์พูดผ่านผมจริง พระคริสต์ไม่ได้ทำตัวอ่อนแอกับพวกคุณ แต่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจในหมู่พวกคุณ จริงอยู่พระองค์เคยถูกตรึงบนไม้กางเขนเพราะความอ่อนแอของพระองค์ แต่เดี๋ยวนี้พระองค์ก็มีชีวิตอยู่โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ใช่แล้ว ในพระคริสต์เราก็อ่อนแอ แต่เราจะมีชีวิตอยู่กับพระคริสต์ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า และใช้ฤทธิ์อำนาจนั้นจัดการกับพวกคุณ

สำรวจตัวเองดูสิว่า คุณใช้ชีวิตอย่างคนที่ไว้วางใจในพระเจ้าหรือเปล่า ทดสอบตัวเองดู คุณไม่รู้หรือว่าพระเยซูคริสต์อยู่ในตัวคุณ นอกเสียจากว่าคุณจะสอบตก แต่เราหวังว่า คุณจะรู้ว่าเราไม่ได้สอบตก เราอธิษฐานต่อพระเจ้า ว่าคุณจะไม่ทำอะไรผิดเลย ที่อธิษฐานอย่างนี้ ไม่ใช่เพื่อให้คนมองว่าเราเป็นคนวิเศษอะไร แต่เพื่อคุณจะได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้คนอื่นจะมองว่าเราล้มเหลวก็ไม่เป็นไร มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำในสิ่งที่ขัดกับความจริง แต่เราจะทำเพื่อความจริงเท่านั้น เมื่อไรก็ตามที่เราอ่อนแอและพวกคุณเข้มแข็ง เราก็ยินดี และเราอธิษฐานขอให้พระเจ้าทำให้พวกคุณกลับไปอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบอย่างที่คุณควรจะเป็น 10 ผมเขียนเรื่องนี้มาให้คุณตอนนี้ที่ผมไม่อยู่ ก็เพื่อว่าตอนที่ผมมา ผมจะได้ไม่ต้องใช้อำนาจเข้มงวดกวดขันกับพวกคุณ เพราะอำนาจที่องค์เจ้าชีวิตให้กับผมมานี้ เอาไว้สำหรับเสริมสร้างคุณ ไม่ใช่เอาไว้ทำลายคุณ

11 สุดท้ายนี้ ลาก่อนพี่น้อง ขอพยายามกลับไปอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบอย่างที่คุณควรจะเป็น ให้ทำในสิ่งที่ผมบอกให้ทำด้วย ขอให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและอยู่กันอย่างสันติ แล้วพระเจ้าแห่งความรักและสันติสุขจะอยู่กับพวกคุณ

12 ให้ต้อนรับกันด้วยจูบอันบริสุทธิ์ 13 คนที่เป็นของพระเจ้าทุกคนฝากความคิดถึงมาให้กับคุณด้วย

14 ขอให้ความเมตตากรุณาของพระเยซูคริสต์เจ้า ความรักของพระเจ้า รวมถึงการมีส่วนร่วมในพระวิญญาณบริสุทธิ์ อยู่กับพวกคุณทุกคน

สดุดี 57

อธิษฐานขอให้รอดพ้นจากศัตรูที่ดุร้าย

(สดด. 108:1-5)

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องเพลงด้วยทำนอง “อย่าทำลาย” เพลงมิคทาม[a]ของดาวิด เมื่อครั้งที่ดาวิดหนีซาอูลไปอยู่ในถ้ำ

ข้าแต่พระเจ้า โปรดเมตตาด้วย โปรดเมตตาด้วยเถิด
    เพราะข้าพเจ้าแสวงหาที่ลี้ภัยในพระองค์
และแสวงหาที่กำบังภายใต้ปีกของพระองค์
    จนกว่าเรื่องอันตรายนี้จะผ่านพ้นไป
ข้าพเจ้าร้องเรียกหาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
    ข้าพเจ้าอธิษฐานถึงพระเจ้าผู้ที่แก้แค้นแทนข้าพเจ้า
ขอให้พระองค์ส่งความช่วยเหลือมาจากสวรรค์มาช่วยกู้ข้าพเจ้า
    ขอให้พระองค์ทำให้ศัตรูของข้าพเจ้าอับอาย เซลาห์
ขอให้พระเจ้าส่งความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ที่เชื่อถือได้ของพระองค์ลงมาให้

ข้าพเจ้าจะต้องนอนลงท่ามกลางศัตรูที่เหมือนสิงโตกินคน
    พวกเขามีฟันเหมือนคมหอกคมธนูและมีลิ้นเหมือนดาบที่คมกริบ

ข้าแต่พระเจ้า ขอให้พระองค์ขึ้นมาเหนือฟ้าสวรรค์
    ขอให้รัศมีของพระองค์ส่องไปทั่วโลก

พวกศัตรูวางตาข่ายดักขาข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้ารู้สึกเครียดมาก
พวกเขาขุดหลุมพรางให้ข้าพเจ้าตกลงไป
    แต่พวกเขากลับตกลงไปในกับดักของเขาเอง เซลาห์

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าพร้อมแล้ว
    ใจของข้าพเจ้าเตรียมพร้อมแล้ว
ข้าพเจ้าจะร้องเพลง และเล่นดนตรีเพื่อสรรเสริญพระองค์
จิตวิญญาณของข้า ตื่นเถิด
พิณใหญ่ และพิณโบราณ ตื่นเถิด
    แล้วข้าพเจ้าจะใช้เพลงปลุกอรุณรุ่ง
องค์เจ้าชีวิต ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
    และจะร้องเพลงเกี่ยวกับพระองค์ให้ทุกคนฟัง
10 เพราะความรักมั่นคงของพระองค์นั้นสูงเทียมฟ้าสวรรค์
    ความสัตย์ซื่อของพระองค์นั้นขึ้นสูงเสียดเมฆ

11 ข้าแต่พระเจ้า ขอให้พระองค์ขึ้นมาเหนือฟ้าสวรรค์
    ขอให้รัศมีของพระองค์ส่องไปทั่วโลก

สุภาษิต 23:9-11

อย่าได้แนะนำอะไรให้เข้าหูของคนโง่เลย
    เพราะเขาจะดูหมิ่นถ้อยคำอันชาญฉลาดของเจ้านั้น
10 อย่าได้โยกย้ายหลักเขตที่มีมาช้านานแล้ว
    และอย่าได้บุกรุกไร่นาของเด็กกำพร้า
11 เพราะพระเจ้าผู้ที่ช่วยพวกเขานั้นมีกำลังมหาศาล
    พระองค์จะสู้คดีของพวกเขากับเจ้า

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International