Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the CSB. Switch to the CSB to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 28:14-30:11

ถึงเป็นพันธมิตรกับต่างชาติก็หนีไม่พ้นโทษจากพระยาห์เวห์

14 ดังนั้น พวกเจ้าที่เย่อหยิ่งจองหองที่ปกครองคนพวกนี้ในเยรูซาเล็ม
    ให้ฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์ให้ดี
15 เพราะพวกเจ้าพูดว่า “พวกเรากับความตายได้ทำสัญญากัน
    พวกเราได้ทำข้อตกลงไว้กับแดนคนตาย
เพื่อว่าเมื่อการลงโทษอย่างรุนแรงผ่านมา มันจะไม่ถึงตัวเรา
    เพราะเราได้เอาคำโกหกต่างๆเป็นที่หลบภัยและเราได้หลบซ่อนอยู่หลังความเท็จ”
16 ดังนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้ว่า
    “ดูไว้ เราจะวางหินไว้เป็นรากฐานในศิโยน
เป็นหินที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว เป็นหินหัวมุมที่มีค่า เป็นรากฐานที่มั่นคง
    ‘คนที่ไว้วางใจ จะไม่อกสั่นขวัญแขวน’[a]
17 เราจะใช้ความยุติธรรมเป็นสายวัด
    ใช้ความถูกต้องเป็นลูกดิ่ง
ลูกเห็บจะกวาดที่หลบภัยแห่งการโกหกนั้น
    และน้ำก็จะท่วมที่หลบซ่อนนั้นเสีย
18 และคำสัญญาที่พวกเจ้าและความตายทำร่วมกันก็จะถูกยกเลิกไป
    และข้อตกลงที่เจ้าทำไว้กับแดนคนตายจะล้มเลิกไป
และเมื่อการลงโทษอย่างรุนแรงผ่านมา
    เจ้าก็จะถูกมันเหยียบย่ำ
19 ไม่ว่าการลงโทษนั้นผ่านมากี่ครั้งก็ตาม มันก็จะจัดการกับพวกเจ้าทุกที
    มันจะผ่านมาเช้าแล้วเช้าเล่า
มันจะผ่านมาทั้งกลางวันทั้งกลางคืน
    เมื่อเจ้าเข้าใจข่าวนี้ เจ้าจะต้องขวัญหนีดีฝ่อ
20 ตามสุภาษิตที่ว่า ‘เตียงสั้นเกินไปที่จะยืดตัวได้
    และผ้าห่มก็แคบเกินไปที่จะห่อตัวได้’”
21 เพราะพระยาห์เวห์จะลุกขึ้นมาต่อสู้เหมือนกับที่พระองค์ทำที่ภูเขาเปริซิม[b]
    พระองค์จะเดือดดาลเหมือนกับที่พระองค์เดือดดาลที่หุบเขากิเบโอน
แล้วพระองค์จะจัดการกับเจ้าแบบที่เจ้าไม่เคยเห็นมาก่อน
    แล้วพระองค์จะทำงานที่จำเป็นจะต้องทำนั้นถึงแม้ว่ามันจะดูแปลกในสายตาเจ้า
22 และตอนนี้ พวกเจ้าอย่าได้หัวเราะเยาะเรื่องพวกนี้
    ไม่อย่างนั้นเชือกที่ผูกมัดรอบตัวเจ้าจะยิ่งแน่นขึ้น
เพราะผมได้ยินว่า พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ได้ออกคำสั่งให้ทำลายแผ่นดินนี้ทั้งหมด

พระยาห์เวห์วางแผนอย่างฉลาดและลงโทษอย่างยุติธรรม

23 ฟังให้ดี ฟังเสียงผม
    ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ ตั้งใจฟังสิ่งที่ผมจะพูดให้ดี
24 คนที่ไถนาเพื่อหว่านนั้น เขาไถไปเรื่อยๆโดยไม่หว่านสักทีเลยหรือ
    พวกเขาเบิกหน้าดินและลงคราดไปเรื่อยๆโดยไม่ปลูกสักทีเลยหรือ
25 เมื่อเขาปรับหน้าดินแล้ว
    เขาจะไม่โปรยเมล็ดผักชีฝรั่งและหว่านยี่หร่าลงไปหรือ
เขาจะไม่ปลูกข้าวสาลีเป็นแถวๆและข้าวบาร์เลย์ในที่ของมันหรือ
    เขาจะไม่ปลูกข้าวสแปลต์ล้อมรอบทุ่งนาหรือ
26 พระเจ้าของพวกเขาก็ได้สอนพวกเขา
    พวกเขาก็เลยรู้วิธีทำงานของเขา
27 ชาวนาไม่ใช้เลื่อนนวดข้าวมานวดเมล็ดผักชีเล็กๆหรอก
    หรือใช้ล้อเกวียนมากลิ้งทับเมล็ดยี่หร่าเล็กๆหรอก
แต่เขาจะเอาไม้เล็กๆมาตีเมล็ดผักชีให้มันแตก
    และใช้ไม้ตะบองเล็กๆตีเมล็ดยี่หร่าให้แตกออก
28 เมล็ดข้าวเขาเอามาบดทำขนมปังกัน
    จะไม่มีใครโง่นวดมันตลอดไปเรื่อยๆหรอก
ถ้าคนเอาเกวียนเทียมม้ามานวดเมล็ดข้าว
    เขาก็ไม่นวดไปเรื่อยๆจนมันบี้เป็นผงหรอก[c]
29 ความรู้นี้ก็มาจากพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นด้วยเหมือนกัน
    พระองค์ให้คำแนะนำที่ยอดเยี่ยมและพระองค์ก็ให้ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

พระเจ้าโจมตีเยรูซาเล็มและช่วยกู้เยรูซาเล็ม

29 เฮ้ย อารีเอล[d] อารีเอล
    เมืองที่ดาวิดตั้งค่ายอยู่
ขอให้ผ่านไปอีกปีสองปี
    ขอให้เทศกาลประจำปีมาถึงอีกรอบ
หลังจากนั้นเราจะส่งความหายนะมาสู่อารีเอล
    แล้วต่อจากนั้นก็จะมีความเศร้าโศกเสียใจและร้องไห้
    และเมืองนั้นจะเป็นเหมือนแท่นบูชาสำหรับเรา
เราจะให้ศัตรูมาตั้งค่ายรายล้อมเจ้า
    เราจะล้อมเจ้าด้วยหอคอยโจมตีเคลื่อนที่และเราจะสร้างเนินดินไว้บุกขึ้นโจมตีเจ้า
เจ้าจะถูกกดให้ต่ำลงและเจ้าจะพูดขึ้นมาจากโลกใต้ดิน
    เจ้าจะส่งเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอจากผงดิน
เสียงของเจ้าจะมาจากพื้นดินเหมือนเสียงผี
    และเจ้าก็จะกระซิบออกมาจากผงดิน
แต่ศัตรูที่มากมายของเจ้าจะกลายเป็นเหมือนผงฝุ่นที่ละเอียด
    พวกที่กดขี่ข่มเหงมากมายจะเป็นเหมือนแกลบที่ปลิวไป
    สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในทันทีทันใดในชั่วพริบตาเดียว
พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะมาพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง แผ่นดินไหวและเสียงดังสนั่นหวั่นไหวด้วยพายุ
    ลมแรงและเปลวไฟที่เผาผลาญ
แม้ว่ามีชนชาติมากมายที่มาต่อสู้กับอารีเอล คือมาต่อสู้กับเขา
    และป้อมปราการของเขาและสร้างปัญหาให้กับเขา
    พวกนั้นก็จะหายไปเหมือนฝัน เหมือนนิมิตในตอนกลางคืน
คนหิว ฝันว่าได้กิน แต่พอตื่นขึ้นก็ยังหิวอยู่
    คนที่กระหายน้ำ ฝันว่าได้ดื่มน้ำแล้ว แต่พอตื่นขึ้นมาก็ยังอ่อนเพลียและคอแห้งผากอยู่
มันจะเป็นอย่างนั้นกับชนชาติมากมายที่มาต่อสู้กับภูเขาศิโยน
    ที่ฝันว่ายึดเยรูซาเล็มได้แล้ว แต่มันจะไม่เป็นไปตามฝันนั้น

ยูดาห์ตาบอด

เชิญเลย เชิญงงและตะลึงงันไปได้เลย
    ทำตัวเองให้บอด และบอดต่อไปซะ[e]
ให้เมาแต่ไม่ใช่จากเหล้าองุ่นนะ
    เดินโซซัดโซเซ แต่ไม่ใช่เพราะดื่มเบียร์
10 พระยาห์เวห์ได้ทำให้เจ้านอนหลับสนิท
    พระองค์ได้ปิดตาของเจ้าคือพวกผู้พูดแทนพระเจ้า
    พระองค์ได้ครอบหัวของเจ้าคือพวกผู้ที่เห็นนิมิต

11 และสำหรับพวกเจ้านิมิตเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเหมือนคำเขียนต่างๆในหนังสือม้วนที่ปิดผนึกไว้ ถ้าเอาไปให้กับคนที่อ่านหนังสือเป็น และสั่งเขาว่า “อ่านเรื่องนี้ซิ” เขาจะตอบว่า “ข้าอ่านไม่ได้เพราะมันปิดผนึกไว้” 12 ถ้าเอาไปให้คนที่อ่านหนังสือไม่เป็น และบอกเขาว่า “อ่านเรื่องนี้ซิ” เขาจะตอบว่า “ข้าอ่านหนังสือไม่ออก”

13 องค์เจ้าชีวิตพูดว่า

“คนพวกนี้เข้ามาใกล้เราด้วยปากของเขาเท่านั้น พวกเขาให้เกียรติเราด้วยริมฝีปากเท่านั้น
    แต่หัวใจของพวกเขาห่างไกลจากเรา
    และที่พวกเขามานมัสการเรานั้นก็เป็นแค่ทำตามกฎของมนุษย์ที่ท่องจำกันมาเท่านั้น
14 ดังนั้น ดูไว้นะ เราจะทำสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆกับคนพวกนี้
    สิ่งที่น่าตกใจและมหัศจรรย์
สติปัญญาของคนฉลาดก็จะสูญสิ้นไป
    และความเข้าใจของคนที่เข้าใจก็จะถูกบังซ่อนไป”
15 เฮ้ย ไอ้พวกที่พยายามเก็บซ่อนแผนของเจ้าไว้ลึกเพื่อไม่ให้พระยาห์เวห์เห็น
    ไอ้พวกที่แอบทำสิ่งต่างๆในความมืด
    และพูดว่า “ไม่มีใครเห็นเราหรอก ไม่มีใครรู้หรอก”
16 เจ้าเข้าใจผิดกลับหัวกลับหางกันไปหมด
    เจ้ามองว่าช่างปั้นหม้อเป็นดินเหนียวหรือ
สิ่งที่ถูกสร้างจะพูดถึงผู้ที่สร้างมันว่า
    “เขาไม่ได้สร้างฉันซะหน่อย” ได้หรือ
สิ่งที่ถูกปั้นจะพูดถึงผู้ที่ปั้นมันว่า
    “เขาไม่มีความเข้าใจอะไรเลย” ได้หรือ

อนาคตที่สดใสกำลังจะมา

17 เจ้าไม่รู้หรือว่า อีกไม่นานเลบานอนจะกลายเป็นสวนผลไม้
    และสวนผลไม้ก็จะมีมากมายเหมือนผืนป่า
18 ในเวลานั้นคนหูหนวกจะได้ยินคำพูดต่างๆจากหนังสือได้
    และคนตาบอดจะหลุดพ้นจากความมืดสลัวของพวกเขาและมองเห็นได้
19 คนยากจนก็จะชื่นชมยินดีอีกครั้งในพระยาห์เวห์
    และคนที่ขัดสนที่สุดก็จะร่าเริงในองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
20 เพราะจะไม่มีผู้นำที่โหดร้ายอีกต่อไป
    คนที่เย่อหยิ่งจองหองก็จะหมดไป
    และคนพวกนั้นที่จ้องหาโอกาสทำชั่วก็จะถูกกำจัดไป
21 คือคนพวกนั้นที่ชอบกล่าวหาคนอื่นอย่างผิดๆ
    และวางหลุมพรางให้กับผู้พิพากษาที่ประตูเมือง
    และใช้ลมปากไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้บริสุทธิ์

22 ดังนั้น พระยาห์เวห์ ผู้ที่ช่วยกู้อับราฮัม ได้พูดสิ่งนี้กับครอบครัวของยาโคบว่า

“ยาโคบจะไม่ต้องอับอายขายหน้าอีกต่อไป
    และหน้าของเขาก็จะไม่ต้องซีดอีกต่อไป
23 เมื่อพวกเขาเห็นลูกหลานของพวกเขาท่ามกลางพวกเขาซึ่งเป็นผลงานจากมือของเรา
    พวกเขาจะถือว่าชื่อของเรานั้นศักดิ์สิทธิ์
พวกเขาจะเห็นด้วยกันว่าองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของยาโคบนั้นศักดิ์สิทธิ์จริง
    และพวกเขาก็จะเคารพยำเกรงพระเจ้าของอิสราเอล
24 คนที่ชอบทำผิด ก็จะกลับมามีความเข้าใจ
    และพวกคนขี้บ่น ก็จะกลับมายอมรับคำสั่งสอน”

ยูดาห์ควรไว้วางใจในพระเจ้าไม่ใช่ไว้วางใจในอียิปต์

30 พระยาห์เวห์พูดว่า “เฮ้ย ไอ้พวกลูกหลานที่ดื้อดึง
    ไอ้พวกที่ทำตามแผน แต่ไม่ใช่แผนของเรา
ไอ้พวกที่ไปทำสนธิสัญญา ทั้งๆที่เราไม่ได้บอกให้เจ้าทำ
    ไอ้พวกที่ทำบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
ไอ้พวกที่เดินทางไปอียิปต์โดยไม่ได้ขอคำแนะนำจากเรา
    แล้วไปขอให้ฟาโรห์ปกป้อง
    และไปหาที่พักพิงภายใต้ร่มเงาของอียิปต์นั้น
การคุ้มครองของฟาโรห์นั้นจะกลายเป็นความอับอายของพวกเจ้า
    และที่พักพิงภายใต้ร่มเงาของอียิปต์นั้นจะกลายเป็นความอัปยศของเจ้า
ถึงแม้พวกข้าราชการของเจ้าจะอยู่ที่โศอัน[f]
    และพวกตัวแทนของเจ้าได้ไปถึงเมืองฮาเนสแล้ว
แต่ทุกคนจะได้รับความอับอายเพราะชนชาตินั้นจะช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย
    อียิปต์จะไม่เป็นประโยชน์หรือช่วยอะไรเจ้าได้เลย มีแต่จะนำความอับอายขายหน้าและความอัปยศอดสูมาให้เท่านั้น”

ส่งส่วยไปให้อียิปต์ไม่ช่วยอะไรได้เลย

นี่เป็นข่าวสารที่เกี่ยวกับพวกสัตว์ในแถบเนเกบ

ในแผ่นดินที่มีแต่ปัญหาและอันตราย
    คือแผ่นดินที่เต็มไปด้วยสิงโตตัวเมียและตัวผู้
    เต็มไปด้วยงูพิษ และงูที่โฉบบิน
พวกเขาบรรทุกทรัพย์สมบัติของพวกเขาบนหลังลา
    และบรรทุกทรัพย์สินของพวกเขาบนโหนกพวกอูฐ
    เดินทางไปหาชนชาติที่ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้
อียิปต์นั้นไม่มีประโยชน์และการช่วยเหลือของเธอนั้นไร้ค่า
    เราถึงเรียกหล่อนว่า “พญานาคที่เอาแต่นั่ง”[g]

คำจารึกเพื่อให้คนในอนาคตเห็นว่าพระเจ้าได้เตือนแล้ว

ไปตอนนี้เลย ไปจารึกเรื่องนี้ลงบนแผ่นหินต่อหน้าพวกเขา
    ให้เขียนเรื่องนี้ไว้บนหนังสือม้วน
    เพื่อในอนาคตมันจะได้เป็นพยานต่อว่าพวกเขาไปตลอด
เพราะพวกเขาเป็นชนชาติที่ชอบกบฏ
    พวกเขาเป็นลูกจอมโกหก
    เป็นเด็กที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระยาห์เวห์
10 พวกเขาพูดกับพวกผู้ที่เห็นนิมิตว่า “หยุดมองได้แล้ว”
    และพูดกับพวกผู้พูดแทนพระเจ้าว่า “ไม่ต้องเอานิมิตพวกนั้นมาสอนพวกเราหรอกว่าอะไรถูกต้อง
    ให้พูดกับเราในสิ่งที่รื่นหูดีกว่าและเล่านิมิตปลอมๆให้กับพวกเราฟัง
11 เปลี่ยนเรื่องได้แล้ว หันไปจากทางเก่าๆนั้นได้แล้ว
    พวกเราไม่อยากจะฟังแล้วเรื่องผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลนั้น”

กาลาเทีย 3:23-4:31

23 ก่อนที่ความซื่อสัตย์นั้นจะมาถึง เราได้ถูกขังไว้อย่างนักโทษภายใต้กฎ จนกว่าพระเจ้าจะแสดงความซื่อสัตย์นั้นให้เห็น 24 กฎก็เลยเป็นเหมือนพี่เลี้ยง[a] จนกว่าพระคริสต์จะมาถึง เพื่อว่าพระเจ้าจะได้ยอมรับเราเพราะเราไว้วางใจ 25 ตอนนี้ความซื่อสัตย์นั้นได้มาถึงแล้ว เราก็เลยไม่ต้องมีพี่เลี้ยงอีกต่อไป

26 พวกคุณทุกคนเป็นลูกของพระเจ้า เพราะความไว้วางใจในพระเยซูคริสต์ 27 เพราะพวกคุณทุกคนที่ได้เข้าพิธีจุ่มน้ำเพื่อมีส่วนในพระคริสต์ ก็ได้สวมใส่พระคริสต์ เหมือนกับใส่เสื้อผ้า 28 ไม่มีคนยิวหรือคนกรีก ไม่มีทาสหรือคนอิสระ ไม่มีชายหรือหญิง เพราะพวกคุณทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันในพระเยซูคริสต์ 29 ถ้าคุณเป็นของพระคริสต์แล้ว คุณก็เป็นลูกหลานแท้ๆของอับราฮัม และเป็นผู้รับมรดกตามที่พระเจ้าได้สัญญาไว้กับอับราฮัม

ผมกำลังพูดว่า ตอนที่ผู้รับมรดกยังเป็นเด็กอยู่ เขาก็ไม่แตกต่างไปจากทาสหรอก ถึงแม้เขาจะเป็นเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่างก็ตาม เพราะเขาจะต้องเชื่อฟังผู้ปกครองและผู้ดูแลมรดก จนกว่าจะถึงเวลาที่พ่อของเขากำหนดไว้ พวกเราก็เหมือนกัน เมื่อพวกเรายังเป็นเด็ก พวกเราตกเป็นทาสอยู่ภายใต้อำนาจของพวกวิญญาณที่ครอบครองโลกนี้ แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พระเจ้าก็ได้ส่งพระบุตรของพระองค์โดยคลอดออกมาจากผู้หญิง และมีชีวิตอยู่ภายใต้กฎ เพื่อมาปลดปล่อยคนที่อยู่ภายใต้กฎให้เป็นอิสระ และเพื่อเราทุกคนจะได้เป็นลูกของพระเจ้า

คุณได้เป็นลูกของพระองค์แล้ว พระองค์จึงส่งพระวิญญาณของพระบุตรของพระองค์เข้ามาอยู่ในใจของพวกเรา เพื่อพวกเราจะร้องเรียกพระองค์ว่า “อับบา พ่อ” คุณจึงไม่ใช่ทาสอีกต่อไป แต่เป็นลูกของพระเจ้า และเมื่อเป็นลูกก็เป็นผู้รับมรดกด้วย

ความรักของเปาโลต่อพี่น้องคริสเตียนในแคว้นกาลาเทีย

แต่ก่อน ตอนที่พวกคุณยังไม่รู้จักพระเจ้านั้น คุณก็เป็นทาสของพวกวิญญาณที่ไม่ได้เป็นพวกเทพเจ้าอะไรเลย แต่ตอนนี้คุณได้รู้จักพระเจ้าแล้ว หรือที่ถูกคือพระเจ้าได้รู้จักคุณแล้ว คุณยังอยากจะกลับไปเป็นทาสของพวกวิญญาณที่ครอบครองโลกนี้ ที่อ่อนแอและน่าสมเพชเหล่านั้นอีกหรือ 10 คุณหันไปนับถือวัน เดือน ฤดู และปีของชาวยิว 11 ผมกลัวเหลือเกินว่า งานที่ผมได้ทุ่มเทไปกับพวกคุณนั้นจะเปล่าประโยชน์

12 พี่น้องครับ ผมขอร้องให้พวกคุณเป็นเหมือนผม เพราะผมได้เป็นเหมือนคุณ พวกคุณไม่ได้ทำอะไรผิดต่อผมเลย 13 คุณก็รู้อยู่แล้วว่า ตอนแรกที่ผมมาประกาศข่าวดีให้กับคุณนั้น เป็นเพราะผมเจ็บป่วย 14 ตอนนั้น ถึงแม้การเจ็บป่วยจะเป็นภาระให้กับคุณ แต่คุณก็ไม่ได้รังเกียจหรือขับไล่ผม แต่กลับต้อนรับผมเหมือนกับผมเป็นทูตสวรรค์ หรือเป็นพระเยซูคริสต์เสียเอง 15 แล้วตอนนี้ เกียรติพวกนั้นหายไปไหนหมดแล้ว ผมเป็นพยานได้ว่า ในตอนนั้น ถ้าคุณควักลูกตาให้กับผมได้ คุณก็คงทำไปแล้ว 16 แล้วตอนนี้ผมกลายเป็นศัตรูของคุณ เพราะผมพูดความจริงกับคุณหรือ

17 คนพวกนั้น[b] เอาใจใส่คุณเป็นพิเศษ แต่ไม่ได้หวังดีหรอก พวกเขาแค่อยากจะดึงคุณออกไปจากผม เพื่อคุณจะได้ไปสนใจพวกเขาแทน 18 แน่นอนมันดีอยู่แล้วที่จะมีคนเอาใจใส่คุณเป็นพิเศษจากแรงจูงใจที่ดีด้วยความหวังดี ไม่ใช่มาจากผมคนเดียวเท่านั้นตอนที่ผมอยู่ด้วย 19 ลูกๆที่รัก ผมจะต้องเจ็บปวดเหมือนเจ็บคลอดลูก เพราะพวกคุณไปอีกจนกว่าพระคริสต์จะก่อตัวขึ้นในชีวิตคุณ 20 ผมอยากจะอยู่กับคุณตอนนี้จริงๆผมจะได้ไม่ต้องพูดกับคุณด้วยน้ำเสียงแบบนี้ เพราะพวกคุณทำให้ผมสับสนไปหมด

ตัวอย่างของนางฮาการ์และนางซาราห์

21 พวกคุณบางคนอยากอยู่ภายใต้กฎของโมเสส คุณรู้หรือเปล่าว่ากฎนั้นเขียนไว้ว่าอย่างไร 22 พระคัมภีร์ เขียนไว้ว่า อับราฮัม มีลูกสองคน คนหนึ่งเกิดจากหญิงที่เป็นทาส ส่วนอีกคนเกิดจากหญิงที่เป็นอิสระ 23 ลูกของหญิงที่เป็นทาสนั้นเกิดตามธรรมชาติ แต่ลูกของหญิงที่เป็นอิสระนั้นเกิดจากคำสัญญาของพระเจ้า

24 เรื่องนี้ยังมีความหมายอีกอย่างหนึ่งคือ หญิงสองคนนี้เป็นตัวแทนของสัญญาสองฉบับ ฉบับแรกพระเจ้าทำขึ้นที่ภูเขาซีนาย นางฮาการ์ซึ่งเป็นหญิงทาส ก็เปรียบเหมือนสัญญาฉบับนี้ คนที่เกิดมาในครอบครัวของนางก็จะเป็นทาส 25 นางฮาการ์ถือเป็นตัวแทนของภูเขาซีนาย[c] ที่อยู่ในประเทศอาระเบีย และก็คือเมืองเยรูซาเล็มในตอนนี้ เพราะทั้งตัวเธอและลูกหลานต่างก็เป็นทาส 26 แต่นางซาราห์ที่เป็นหญิงอิสระ ก็เปรียบเหมือนเมืองเยรูซาเล็มที่อยู่บนสวรรค์ เธอเป็นแม่ของพวกเรา 27 เหมือนกับที่พระคัมภีร์เขียนถึงเธอว่า

“หญิงที่เป็นหมันและไม่เคยคลอดลูก
    ให้ดีใจเถิด
คนที่ไม่เคยเจ็บท้องคลอดลูก
    ให้เปล่งเสียงร้องยินดี
เดี๋ยวนี้คุณโดดเดี่ยวอ้างว้าง[d]
    แต่คุณจะมีลูกมากกว่าหญิงที่มีสามี”[e]

28 พี่น้องครับ พวกคุณเป็นลูกที่เกิดจากคำสัญญาของพระเจ้าเหมือนกับอิสอัค 29 แต่ในเวลานั้น ลูกที่เกิดตามธรรมชาติ ได้ข่มเหงอิสอัคผู้ที่เกิดจากอำนาจของพระวิญญาณ ซึ่งก็เหมือนกับเหตุการณ์ที่คุณเจอในตอนนี้ 30 แต่พระคัมภีร์พูดว่าอย่างไร “ไล่หญิงที่เป็นทาสและลูกของเธอออกไป เพราะลูกของหญิงที่เป็นทาส จะมารับมรดกร่วมกับลูกของหญิงที่เป็นอิสระไม่ได้”[f] 31 ดังนั้น พี่น้องครับ พวกเราไม่ใช่ลูกของหญิงที่เป็นทาส แต่เป็นลูกของหญิงที่เป็นอิสระ

สดุดี 62

พึ่งในความแข็งแกร่งของพระยาห์เวห์

ถึงหัวหน้านักร้อง ตามแนวเพลงของเยดูธูน[a] เพลงสดุดีของดาวิด

แน่นอน ข้าพเจ้าจะรอคอยพระเจ้าอย่างอดทน
    เพราะมีแต่พระองค์เท่านั้นที่สามารถช่วยข้าพเจ้าให้รอดได้
แน่นอน พระองค์เป็นหินกำบัง เป็นผู้ช่วยให้รอด
    และเป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า ดังนั้น ข้าพเจ้าจะไม่มีวันหวั่นไหว

พวกเจ้าฆาตกรจะโจมตีข้าพเจ้าไปอีกนานแค่ไหน
    ข้าพเจ้าเป็นเหมือนกำแพงที่เอนเอียงจวนจะล้มอยู่แล้ว
แน่นอน พวกเขาวางแผนที่จะโค่นล้มข้าพเจ้าจากตำแหน่งสูง
    พวกเขาชอบโกหก
พวกเขาอวยพรข้าพเจ้าด้วยปาก แต่สาปแช่งข้าพเจ้าในใจ เซลาห์

แน่นอน ข้าพเจ้าจะรอคอยพระเจ้าอย่างอดทน
    เพราะมีแต่พระองค์เท่านั้นที่ให้ความหวังกับข้าพเจ้า
แน่นอน พระองค์เป็นหินกำบัง เป็นผู้ช่วยให้รอด
    และเป็นป้อมปราการของข้าพเจ้าดังนั้น ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหว
พระเจ้าช่วยข้าพเจ้าให้รอดและให้เกียรติกับข้าพเจ้า
    พระเจ้าเป็นหินกำบังอันแข็งแกร่งและเป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า
ท่านทั้งหลาย ให้ไว้วางใจในพระองค์ตลอดเวลา
    ให้เปิดเผยทุกอย่างที่อยู่ในใจเจ้ากับพระเจ้าอย่างเต็มที่
    พระเจ้าคือที่ลี้ภัยของพวกเรา เซลาห์

แน่นอน มนุษย์นั้นไม่เที่ยงเหมือนลมแค่วูบหนึ่ง
    มนุษย์นั้นพึ่งพิงไม่ได้
    บนตราชั่งนั้น มนุษย์ทั้งหมดรวมกันก็ยังเบากว่าลม
10 อย่าไว้วางใจในความร่ำรวยที่ได้มาจากการรีดไถคนอื่น
    อย่าได้หวังลมๆแล้งๆกับสิ่งที่ขโมยมา
    ถ้าเจ้าร่ำรวยขึ้นอย่าได้ไปยึดติดกับมัน

11 พระเจ้าพูดสิ่งหนึ่ง
    อันที่จริงพระองค์พูดสองสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยิน คือ
พระเจ้าเป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่ง
12 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต พระองค์เป็นผู้ที่มีความรักมั่นคง
    เพราะพระองค์ตอบแทนแต่ละคนตามสิ่งที่พวกเขาทำ

สุภาษิต 23:19-21

19 ลูกเอ๋ย ฟังให้ดี และให้ฉลาดไว้
    ให้นำจิตใจของเจ้าไปในทางที่ถูก
20 อย่าได้ไปคลุกคลีกับพวกที่ดื่มเหล้าองุ่นจัด
    หรือพวกนั้นที่กินเนื้ออย่างตะกละตะกลาม
21 เพราะคนขี้เมาและคนกินเติบจะยากจน
    สะลึมสะลือตลอดเวลาจนเหลือแต่ผ้าขี้ริ้วห่อตัว

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International