The Daily Audio Bible
Today's audio is from the CSB. Switch to the CSB to read along with the audio.
12 เพราะอย่างนั้น องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
จึงพูดอย่างนี้ว่า
“เพราะพวกเจ้าไม่ยอมรับข่าวสารนี้แต่กลับไปไว้วางใจในความโหดร้ายและการหลอกลวงและไปพึ่งในสิ่งเหล่านั้น
13 ดังนั้น ความผิดนี้ของเจ้าจะเป็นเหมือนรอยแตกในกำแพงสูงที่ปริออกมาใกล้จะพังแล้ว
และมันจะพังลงมาทันทีในชั่วพริบตา
14 มันจะแตกเหมือนกับหม้อดินที่แตกออกเป็นชิ้นๆ
จนไม่เหลือสักชิ้นที่ใหญ่พอจะเอาไปใส่ถ่านไฟร้อนๆจากเตา
หรือใช้ตักน้ำจากบ่อเก็บน้ำ”
15 เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลได้พูดไว้
“ถ้าพวกเจ้ากลับมาหาเราและพักพิงในเรา พวกเจ้าก็จะรอด
ถ้าพวกเจ้าจะใจเย็นๆและไว้วางใจในเรา พวกเจ้าก็จะมีพลัง
แต่พวกเจ้ากลับไม่ยอมทำอย่างนั้น”
16 พวกเจ้าบอกว่า “ไม่เอา พวกเราจะควบม้าหนีไป”
เพราะอย่างนั้น พวกเจ้าก็จะต้องหนีจริงๆซะแล้ว
และเจ้ายังพูดอีกว่า “พวกเราจะขี่ม้าที่วิ่งเร็วหนีไป”
เพราะอย่างนั้น เราจะให้คนไล่กวดเจ้าเร็วกว่าเจ้าอีก
17 พวกเจ้าพันคนจะหนีเพราะคำขู่ของคนๆเดียว
คำขู่ของห้าคนจะทำให้พวกเจ้าหนีไปหมด
จนกว่าพวกเจ้าจะถูกทิ้งให้เหลือตัวคนเดียว
เหมือนกับเสาธงที่ปักอยู่บนยอดเขา
เหมือนกับธงให้สัญญาณบนเนินเขา
พระเจ้าจะมาช่วยคนของพระองค์
18 อย่างนั้น พระยาห์เวห์กำลังเฝ้าคอยให้พวกเจ้ากลับมาหาพระองค์เพื่อพระองค์จะได้อวยพรเจ้า
พระองค์จะลุกขึ้นมาแสดงความเมตตากับพวกเจ้า
เพราะพระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าที่สัตย์ซื่อยุติธรรม
พวกที่อดทนรอคอยพระองค์ถือว่าเป็นเกียรติจริงๆ
19 ชาวเมืองศิโยนเอ๋ย คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเอ๋ย ใช่แล้ว พวกเจ้าจะไม่ต้องร้องไห้อีกต่อไป พระองค์จะมาปลอบโยนเจ้าอย่างแน่นอน เมื่อพระองค์ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเจ้า พระองค์ก็จะมาช่วยเจ้าทันที 20 ถึงองค์เจ้าชีวิตจะให้เจ้ากินความทุกข์ยากลำบากอย่างกับอาหาร และดื่มความทุกข์ทรมานอย่างกับน้ำ แต่พระองค์ผู้เป็นครูของเจ้าก็จะไม่หลบซ่อนตัวเองอีกต่อไป และเจ้าจะได้เห็นครูของเจ้ากับตาตัวเอง 21 เมื่อพวกเจ้าหันไปทางขวาหรือหันทางซ้าย หูของเจ้าก็จะได้ยินเสียงข้างหลังเจ้าว่า “ทางอยู่นี่ เดินทางนี้สิ” 22 แล้วพวกเจ้าจะทำให้พวกรูปเคารพที่เคลือบเงินเคลือบทองของพวกเจ้าเสื่อมไป และพวกเจ้าจะเอาพวกมันไปทิ้งเหมือนทิ้งผ้าอนามัยเปื้อนเลือด และพูดกับมันว่า “ไปให้พ้น”
23 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์จะให้ฝนตกลงมาบนเมล็ดพืชที่เจ้าได้หว่านไปในดิน พระองค์จะให้อาหารซึ่งเป็นผลผลิตจากพื้นดิน และมันก็จะมีมากมายเหลือเฟือ และในเวลานั้นฝูงสัตว์เลี้ยงของเจ้าก็จะได้เล็มหญ้าในทุ่งกว้าง 24 พวกวัวตัวผู้และลาที่ทำไร่ไถนาอยู่นั้น ก็จะได้กินฟางอย่างดีที่ใช้พลั่วและสามง่ามทำให้มันกระจัดกระจายไป 25 บนภูเขาสูงทุกลูก และบนเนินเขาทุกแห่ง ก็จะมีลำธารน้ำไหล สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในวันที่ศัตรูถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก และพวกป้อมปราการของศัตรูพังทลายลงมา
26 ในเวลานั้น แสงของดวงจันทร์ก็จะเป็นเหมือนแสงอาทิตย์ และแสงของดวงอาทิตย์ก็จะสว่างขึ้นอีกเจ็ดเท่า เหมือนกับแสงของเจ็ดวัน สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในวันที่พระยาห์เวห์ได้ดามกระดูกที่หักของคนของพระองค์ และได้รักษาบาดแผลที่พระองค์ทำให้เกิดขึ้น
อัสซีเรียจะพ่ายแพ้
27 ดูสิ พระยาห์เวห์เองกำลังมาแต่ไกล
ด้วยความโกรธที่เผาผลาญของพระองค์และด้วยควันหนาทึบ[a]
ริมฝีปากของพระองค์เต็มไปด้วยความโกรธ
และลิ้นของพระองค์ก็เหมือนกับไฟที่เผาผลาญอยู่
28 ลมปากของพระองค์เป็นเหมือนแม่น้ำที่ไหลท่วมท้นสูงถึงคอ
พระองค์จะเอาตะแกรงแห่งการทำลายมาร่อนชนชาติต่างๆ
และพระองค์จะเอาบังเหียนมาใส่เข้าที่ปากของชนชาติทั้งหลายเพื่อนำพวกเขาให้พินาศไป
29 แล้วพวกเจ้าจะร้องเพลงหนึ่งเหมือนกับร้องในคืนที่มีเทศกาลทางศาสนาและพวกเจ้าก็จะมีความสุขในใจเหมือนคนที่กำลังเดินตามเสียงขลุ่ยขึ้นไปที่ภูเขาของพระยาห์เวห์ ผู้เป็นศิลาลี้ภัยแห่งอิสราเอล 30 และพระยาห์เวห์จะทำให้ทุกคนได้ยินเสียงอันดังสนั่นหวั่นไหวของพระองค์ และเห็นแขนอันทรงพลังของพระองค์ฟาดลงมาด้วยความโกรธแค้น และด้วยเปลวไฟแห่งการเผาผลาญ พระองค์จะมาอย่างกับเสียงพายุฟ้าคะนอง มีทั้งฝนและลูกเห็บ 31 อัสซีเรียจะเกิดขวัญผวาเมื่อได้ยินเสียงจากพระยาห์เวห์ เมื่อพระองค์ตีด้วยไม้กระบองของพระองค์ 32 แต่ละจังหวะที่พระองค์หวดไม้กระบองลงโทษอัสซีเรียนั้น จะเข้ากับจังหวะของเสียงกลองและพิณ พระองค์จะกวัดแกว่งอาวุธของ พระองค์เพื่อต่อสู้กับพวกเขา 33 พระองค์ได้เตรียมที่เผาศพพวกเขาไว้แล้ว ใช่แล้ว พระองค์ได้เตรียมไว้สำหรับกษัตริย์ของพวกเขา หลุมนั้นลึกและกว้าง มีไฟกับฟืนอย่างเหลือเฟือ แล้วพระองค์จะจุดมันด้วยลมปากของพระยาห์เวห์ที่เป็นเหมือนลำธารไฟกำมะถัน
ให้พึ่งพระเจ้าไม่ใช่พึ่งอียิปต์
31 เฮ้ย ไอ้พวกที่ลงไปอียิปต์เพื่อขอความช่วยเหลือ
ไอ้พวกที่หวังพึ่งในม้าศึก
ไอ้พวกที่ไว้วางใจในรถรบอียิปต์เพราะมันมีมากมาย
ไอ้พวกที่ไว้วางใจในทหารม้าเพราะมันมีมากมหาศาล
แต่ไม่ได้คิดจะพึ่งพาพระองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลและปรึกษาพระยาห์เวห์
2 แต่พระยาห์เวห์ก็ฉลาดเหมือนกันนะ และพระองค์สามารถนำความหายนะมาให้
แล้วพระองค์ไม่เคยกลับคำ
พระองค์จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับพวกที่ทำชั่ว
และต่อสู้กับคนที่ช่วยเหลือพวกที่ทำบาปนั้น
3 ชาวอียิปต์เป็นแค่มนุษย์ไม่ใช่พระเจ้า
และม้าศึกของพวกเขาก็เป็นแค่เนื้อหนังไม่ได้เป็นวิญญาณซักหน่อย
เมื่อพระยาห์เวห์เงื้อมือขึ้นเตรียมฟาด อียิปต์ที่เป็นผู้ช่วยนั้นก็จะล้มลุกคลุกคลาน
และคนที่รับความช่วยเหลือนั้นก็จะล้มลง
และทั้งสองก็จะถูกทำลายไปพร้อมๆกัน
4 เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์บอกกับผม
“เมื่อสิงโตร้องคำราม หรือสิงห์หนุ่มยืนขู่คำรามอยู่เหนือเหยื่อของมัน
แล้วมีพวกผู้เลี้ยงแกะออกมาสู้กับมัน
สิงโตไม่กลัวต่อเสียงร้องตะโกนของพวกเขาและเสียงของพวกเขาไม่ได้ทำให้สิงโตนั้นสะทกสะท้านเลย
เช่นเดียวกัน พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นก็ไม่กลัวอะไรเลย พระองค์จะลงมาต่อสู้บนภูเขาศิโยน
5 พวกนกบินโฉบไปโฉบมาเพื่อเฝ้าระวังรังของพวกมัน
พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นก็จะปกป้องเยรูซาเล็มอย่างนั้นเหมือนกัน
พระองค์จะปกป้องและช่วยกู้พวกเขา
พระองค์จะไว้ชีวิตพวกเขาและช่วยให้พวกเขารอด
6 ชาวอิสราเอลเอ๋ย ให้หันกลับไปหาพระองค์ที่เจ้าได้ทรยศอย่างร้ายแรงนั้น 7 ในเวลานั้น พวกเจ้าแต่ละคนก็จะละทิ้งรูปเคารพเงินและทองของเจ้าที่พวกเจ้าได้ทำบาปสร้างขึ้นมากับมือเจ้า
8 แล้วอัสซีเรียจะล้มลงด้วยดาบแต่ไม่ใช่ดาบของคน
อัสซีเรียจะถูกทำลายแต่ไม่ใช่ด้วยดาบของมนุษย์
อัสซีเรียจะวิ่งหนีจากดาบ
แต่หนุ่มๆของเขาจะถูกจับไปเป็นทาส
9 และหินกำบัง[b] ของอัสซีเรีย ก็จะสาบสูญไป พวกเขาจะตื่นตระหนก
และพวกเจ้านายของเขาก็จะทิ้งธงออกศึกวิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัว”
พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนั้น ไฟของพระองค์อยู่ในเมืองศิโยน
และเตาหลอมของพระองค์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม
จะมีกษัตริย์และสังคมที่ยุติธรรม
32 ดูเถอะ จะมีกษัตริย์องค์หนึ่งปกครองด้วยความซื่อสัตย์
และพวกผู้นำจะปกครองด้วยความยุติธรรม
2 แล้วพวกเขาแต่ละคนก็จะเป็นเหมือนที่กำบังลม
และเป็นเหมือนที่ปลอดภัยท่ามกลางพายุ
พวกเขาจะเป็นเหมือนลำธารน้ำในที่แห้งแล้ง
และเป็นเหมือนร่มเงาของหินใหญ่ในแผ่นดินที่ไม่มีอะไรงอกขึ้นมาได้
3 แล้วตาของคนที่มองเห็นจะได้ไม่ปิดไป
หูของคนที่ได้ยินจะได้ตั้งใจฟัง
4 และจิตใจของคนใจร้อนก็จะได้คิดอย่างรอบคอบ
และลิ้นของคนที่พูดติดอ่างก็จะพูดได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว
5 จะไม่มีใครเรียกพวกคนโง่ว่าผู้สูงศักดิ์
และจะไม่มีใครเรียกคนชั่วว่าเป็นคนน่านับถือ
6 เพราะคนโง่ก็พูดแต่เรื่องโง่ๆ
และจิตใจของพวกเขาก็วางแผนแต่เรื่องชั่วๆ
ทำในสิ่งที่ขัดกับทางของพระเจ้า
และพูดเท็จเรื่องของพระยาห์เวห์
พวกเขาปล่อยให้คนที่หิวโหย หิวต่อไป
และไม่ให้น้ำกับคนที่กระหายน้ำดื่ม
7 อุปกรณ์ของอันธพาลก็อัปลักษณ์
เขาวางแผนแต่เรื่องชั่วๆที่จะทำลายคนยากจนด้วยคำโกหก
แม้ว่าคนขัดสนเหล่านั้นกำลังขอความเป็นธรรมก็ตาม
8 แต่คนที่สูงศักดิ์วางแผนทำในสิ่งที่สูงส่ง
แล้วสิ่งสูงส่งเหล่านั้นทำให้พวกเขายืนอย่างมั่นคง
เวลาของความทุกข์ยากลำบากกำลังมา
9 พวกคุณนายที่ใช้ชีวิตแสนสบายไปวันๆ
ลุกขึ้นมาซะ ฟังเสียงของผมให้ดี
พวกสาวๆที่คิดว่าตัวเองมั่นคงแล้ว
ให้ฟังสิ่งที่ผมพูดให้ดี
10 ตอนนี้พวกเจ้าอาจจะคิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว
แต่อีกประมาณปีกว่าๆเจ้าก็จะต้องกลัวจนตัวสั่น
เพราะไร่องุ่นจะไม่ออกผลและจะไม่มีผลไม้ให้เก็บเกี่ยว
11 พวกคุณนายที่ใช้ชีวิตแสนสบายให้กลัวจนตัวสั่น
พวกสาวๆที่คิดว่าตัวเองมั่นคงแล้วให้ตัวสั่นงันงก
ถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกซะและให้สวมผ้ากระสอบแทน
12 ให้ทุบอกของเจ้าด้วยความเศร้า
เพราะท้องทุ่งที่เจ้าชื่นชมและเถาองุ่นที่แสนดกได้หายไปหมดแล้ว
13 ให้เศร้า เพราะผืนดินของคนของเรามีแต่หนามและหญ้าคาขึ้นรกไปหมด
เออ ให้เศร้า ที่บ้านต่างๆที่มีความสุขสนุกสนาน
และเมืองที่เฉลิมฉลองกัน หายไปหมดแล้ว
14 เพราะพระราชวังจะถูกทอดทิ้ง
เมืองที่คึกครื้นเสียงดังก็จะถูกทิ้งร้างไป
เนินเขาและหอคอยก็จะกลายเป็นที่ร้างตลอดไป
เป็นที่สนุกสนานกันของลาป่า
ฝูงแพะแกะก็จะมาหากินที่นั่น
15 มันจะเป็นอย่างนี้ไปจนกว่าพระองค์จะเทชีวิตใหม่[c] ลงมาบนพวกเราจากสวรรค์
และทะเลทรายก็จะกลายเป็นสวนผลไม้
และสวนผลไม้ก็จะมีมากมายเหมือนผืนป่า
16 แล้วความยุติธรรมจะอาศัยอยู่ในทะเลทรายนั้น
และความถูกต้องจะพักอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่อุดมนั้น[d]
17 ผลของความถูกต้องจะเป็นสันติสุข
และผลของความถูกต้องจะเป็นความสงบสุขและความปลอดภัยตลอดไป
18 ชนชาติของเราจะอาศัยอยู่ในชุมชนที่สงบสุข
ในที่อยู่อันมั่นคง ในที่พักอันเงียบสงบ
19 ลูกเห็บจะทำลายป่าของศัตรู
เมืองของพวกเขาก็จะตกต่ำลง
20 แต่พวกเจ้าจะมีเกียรติขึ้นและจะได้หว่านเมล็ดพืชไว้ข้างๆลำธารทุกสาย
และปล่อยวัวปล่อยลาให้เดินหากินไปมาอย่างอิสระ
พระเจ้าจะลงโทษอัสซีเรียและช่วยกู้เยรูซาเล็ม
33 เฮ้ย ไอ้เจ้านักทำลายผู้ที่ยังไม่เคยถูกทำลาย
ไอ้เจ้าคนทรยศผู้ที่ยังไม่เคยถูกใครหักหลัง
เมื่อเจ้าทำลายคนอื่นเสร็จแล้ว ตัวเจ้าเองก็จะถูกทำลาย
เมื่อเจ้าหักหลังคนอื่นเสร็จแล้ว เจ้าก็จะถูกหักหลัง
2 ประชาชนพูดว่า ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดเมตตาเราด้วย เราคอยพระองค์อยู่
ขอประทานเรี่ยวแรงให้กับเราทุกเช้า
ขอช่วยกู้เราในยามที่เดือดร้อน
3 เพราะเสียงคำรามของพระองค์ทำให้ผู้คนวิ่งหนีไป
เมื่อพระองค์ยืนขึ้นมา ชนชาติต่างๆก็หนีกระเจิงไป
4 ของที่พวกเจ้าปล้นมาได้นั้นจะโดนยึดไปเหมือนฝูงตั๊กแตนมายึด
คนอื่นจะโดดตะครุบใส่ของพวกนั้นเหมือนฝูงตั๊กแตนตะครุบใส่
5 พระยาห์เวห์ได้รับการยกย่องเชิดชู พระองค์อยู่ในที่สูง
พระองค์ทำให้เมืองศิโยนเต็มไปด้วยความยุติธรรมและความถูกต้อง
6 พระองค์จะเป็นความมั่นคงของเจ้าตลอดเวลา
พระองค์จะให้ความรอด ให้สติปัญญา และให้ความรู้กับเจ้าอย่างเหลือเฟือ
การยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นสมบัติล้ำค่าที่พระองค์ให้
7 ฟังสิ พวกทูตร้องไห้เสียงดังอยู่ตามถนน
พวกตัวแทนที่พยายามทำสัญญาสงบศึกร้องไห้อย่างขมขื่น
8 พวกถนนทางหลวงก็ถูกทิ้งร้างแล้ว
ไม่มีใครกล้าเดินทางบนท้องถนน
เพราะคำสัญญาสงบศึกนั้นพังทลายไปแล้ว
คำสัญญาที่ตกลงก็ได้รับการดูถูกเหยียดหยาม
ชีวิตมนุษย์นั้นไม่มีค่าแล้ว
9 แผ่นดินก็เศร้าหมองและหมดเรี่ยวแรง
เลบานอน ก็ได้รับความอับอายและเหี่ยวแห้งไป
หุบเขาชาโรน[e] ก็เป็นเหมือนกับทะเลทราย
ต้นไม้ของบาชาน[f] และภูเขาคารเมล[g] ใบร่วงใกล้ตาย
5 เมื่อพระคริสต์ได้ปลดปล่อยให้เราเป็นอิสระแล้ว ก็ให้อยู่อย่างคนอิสระเถิด รักษามันไว้ให้ดี อย่ากลับไปเป็นทาสของกฎอีก 2 ฟังไว้ให้ดี ผมเปาโล ขอบอกให้รู้ว่า ถ้าพวกคุณยอมเข้าทำพิธีขลิบ พระคริสต์ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับคุณอีกแล้ว 3 ผมขอย้ำว่า คนที่ยังทำพิธีขลิบนั้นก็จะต้องรักษากฎให้ครบทุกข้อ 4 ถ้าคุณพยายามที่จะให้พระเจ้ายอมรับคุณเพราะคุณรักษากฎ คุณก็ถูกแยกออกจากพระคริสต์แล้ว และหลุดจากความเมตตากรุณาของพระเจ้า 5 พวกเรามีพระวิญญาณเพราะได้ไว้วางใจ เราถึงได้ตั้งหน้าตั้งตาคอยสิ่งที่เราหวังไว้อย่างมั่นอกมั่นใจ ความหวังนั้นคือพระเจ้าจะยอมรับเราแน่ในวันสุดท้าย 6 เพราะในพระเยซูคริสต์ การทำหรือไม่ทำพิธีขลิบนั้นไม่สำคัญอะไรเลย แต่สิ่งที่สำคัญคือความเชื่อที่แสดงออกด้วยความรัก
7 พวกคุณก็กำลังวิ่งกันดีๆอยู่แล้ว ใครกันนะที่มาขัดจังหวะทำให้คุณเลิกติดตามความจริง 8 ใครก็ตามที่มาชักชวนให้คุณหยุด ไม่ได้มาจากพระเจ้าที่เรียกคุณมาแน่ 9 ระวังตัวให้ดี “เชื้อฟู[a]นิดเดียว ก็ทำให้แป้งทั้งก้อนฟูขึ้นมาได้”[b] 10 ผมมั่นใจในองค์เจ้าชีวิตว่า คุณจะไม่ยอมรับความคิดที่แตกต่างออกไปจากนี้ และใครก็ตามที่มาทำให้คุณสับสน จะต้องถูกพระเจ้าลงโทษแน่
11 พี่น้องครับ ถ้าผมยังสั่งสอนให้ทำพิธีขลิบอยู่ แล้วทำไมผมยังถูกข่มเหงอยู่ล่ะ ถ้าเป็นจริงตามนั้น เรื่องไม้กางเขนที่ผมสอน ก็จะไม่ถูกต่อต้านแล้ว 12 ผมอยากให้ไอ้พวกที่มาวุ่นวายกับคุณนี้ ตอน[c] ตัวมันเองเลยแทนที่จะแค่ขลิบเท่านั้น
ใจที่หิวกระหายพระเจ้า
เพลงสดุดีของดาวิด เมื่อครั้งที่เขาอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งของยูดาห์[a]
1 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์คือพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าแสวงหาพระองค์อย่างจริงจัง
ใจของข้าพเจ้ากระหายหาพระองค์
ร่างกายของข้าพเจ้าโหยหาพระองค์ในแผ่นดินที่แห้งแล้งขาดน้ำนี้ ที่ซึ่งข้าพเจ้ารู้สึกอ่อนเปลี้ยเหลือเกิน
2 ใช่แล้ว ข้าพเจ้าเคยเห็นพระองค์ในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ข้าพเจ้าเคยเห็นความแข็งแกร่งและสง่าราศีของพระองค์
3 ริมฝีปากของข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์
เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดียิ่งกว่าชีวิตเสียอีก
4 ข้าพเจ้าขอสรรเสริญพระองค์ตราบเท่าที่ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่
ข้าพเจ้ายกมือของข้าพเจ้าขึ้นเรียกชื่อของพระองค์
5 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าพอใจยิ่งนักเหมือนเพิ่งได้กินอาหารที่ดีที่สุด
ปากของข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ด้วยริมฝีปากที่เป็นสุขนั้น
6 ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์
ในขณะที่นอนอยู่บนเตียงและคิดถึงพระองค์ในตอนดึก
7 เพราะพระองค์ช่วยเหลือข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าร้องเพลงอย่างมีความสุขอยู่ภายใต้เงาปีกของพระองค์
8 ข้าพเจ้าตามอยู่หลังพระองค์
มือขวาของพระองค์จับข้าพเจ้าไว้แน่น
9 ส่วนคนพวกนั้นที่อยากจะฆ่าข้าพเจ้า
ก็จะถูกส่งลงไปในหลุมศพเสียเอง
10 พวกเขาจะถูกฆ่าตายด้วยคมดาบ
และกลายเป็นอาหารของหมาป่า
11 แต่กษัตริย์จะมีความสุขในพระเจ้า
ทุกคนที่สาบานโดยอ้างชื่อของพระเจ้าจะพากันสรรเสริญพระเจ้า
เพราะพระองค์จะปิดปากคนที่พูดโกหก
22 ให้ฟังพ่อของเจ้า ผู้ที่ให้เจ้าเกิดมา
และอย่าได้ดูหมิ่นแม่ของเจ้าเมื่อนางแก่ตัวลง
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International