Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the CEV. Switch to the CEV to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 45:11-48

11 พระยาห์เวห์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลผู้สร้างเขามา พูดว่าอย่างนี้
    “เจ้าจะมาเสือกถามเราเกี่ยวกับเรื่องลูกๆของเราหรือ
    หรือจะมาสั่งเราเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้สร้างขึ้น
12 เราได้สร้างโลกนี้
    และได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาบนโลก
เราได้กางท้องฟ้าออกด้วยมือของเราเอง
    และเราได้ให้คำสั่งกับพวกดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลาย
13 เราได้ยั่วยุไซรัสให้ลงมือเพื่อให้สำเร็จตามจุดประสงค์ที่ดีของเรา
    และเราจะทำทางต่างๆของเขาให้ราบเรียบ
เขาจะสร้างเมืองของเราขึ้นมาใหม่ เขาจะปลดปล่อยคนของเราที่ถูกจับไปเป็นเชลยโดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือสินบน”
    พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดไว้ว่าอย่างนั้น

14 พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้
“ความร่ำรวยของอียิปต์และกำไรของเอธิโอเปีย
    และคนเสบา คนร่างสูงนั้น
ก็จะถูกนำมาให้เจ้า และกลายเป็นของเจ้า
    พวกเขาจะติดตามเจ้า
    เป็นเชลยถูกล่ามโซ่มาก้มกราบอยู่ต่อหน้าเจ้า
พวกเขาจะอ้อนวอนและพูดกับเจ้าว่า
    ‘พระเจ้าสถิตอยู่กับท่านแน่
    ไม่มีพระอื่นใดอีกนอกจากพระองค์’”
15 ข้าแต่พระเจ้าของอิสราเอล พระผู้ช่วยให้รอด
    พระองค์เป็นพระเจ้าที่ทำงานอย่างลับๆจริงๆ
16 พวกเขาทุกคนจะต้องได้รับความอับอายและขายหน้าไป
    พวกที่ทำรูปเคารพจะได้รับความอัปยศอดสูไปด้วยกัน
17 แต่พระยาห์เวห์ ได้ช่วยให้อิสราเอลรอดเป็นชัยชนะที่อยู่ถาวรตลอดไป
    พวกเจ้าจะไม่มีวันได้รับความอับอายหรือขายหน้าตลอดไปเป็นนิตย์
18 พระยาห์เวห์คือพระเจ้าผู้สร้างฟ้าสวรรค์
    พระองค์ปั้นโลกนี้ขึ้นมา
    พระองค์สร้างมันและตั้งมันให้มั่นคง
พระองค์ไม่ได้สร้างให้มันว่างเปล่า
    พระองค์ปั้นมันขึ้นมาให้คนอยู่
พระองค์คือพระยาห์เวห์ที่พูดว่า
    “เราคือยาห์เวห์ ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
19 เราไม่ได้พูดในที่ลี้ลับ
    หรือพูดอยู่ในที่มืดมิด
เราไม่ได้บอกกับลูกหลานของยาโคบว่า
    ‘ให้ค้นหาเราในแผ่นดินที่ว่างเปล่า’
เรา คือยาห์เวห์ เราพูดความจริง
    และประกาศในสิ่งที่ถูกต้อง”

พระยาห์เวห์พิสูจน์ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว

20 เจ้าที่หนีรอดมาจากชนชาติต่างๆรวบรวมกันเข้า
    และมานี่ เข้ามาใกล้ๆกัน
คนพวกนั้นที่เดินแบกรูปเคารพต่างๆที่ทำจากไม้และอธิษฐานถึงพระที่ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้
    คนพวกนี้ไม่มีความรู้
21 ให้พวกเขามาและยื่นคดีของเขา
    ให้พวกเขาหารือกันในเรื่องพวกนี้
“ใครเป็นคนทำนายเรื่องนี้ให้เจ้ารู้เมื่อนานมาแล้ว
    หรือใครเป็นคนบอกเรื่องนี้ให้เจ้ารู้ก่อนล่วงหน้า[a]นานแสนนานมาแล้ว
ก็ไม่ใช่เรา ยาห์เวห์ หรอกหรือ
    ไม่มีพระเจ้าอื่นอีกแล้วนอกจากเรา
เราเป็นพระเจ้าที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
    ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา
22 ทุกคนที่อยู่สุดปลายโลก หันมาหาเราแล้วจะรอด
    เพราะเราคือพระเจ้า ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
23 เราได้สาบานอ้างชื่อเราเอง
    คำสัญญาที่ได้ออกจากปากของเรานั้นยุติธรรม
และเราจะไม่กลับคำพูด
    ทุกหัวเข่าจะต้องกราบลงต่อหน้าเรา
    และลิ้นทุกลิ้นจะสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเรา
24 พวกเขาจะพูดว่า ‘ชัยชนะและพละกำลังมาจากพระยาห์เวห์เท่านั้น’
    ทุกคนที่โกรธแค้นพระองค์จะมาหาพระองค์และได้รับความอับอายขายหน้า
25 แต่ลูกหลานของอิสราเอลทุกคนจะได้รับชัยชนะจากพระยาห์เวห์
    และพวกเขาก็จะสรรเสริญพระองค์”

พวกพระจอมปลอมไม่มีประโยชน์

46 ต่อหน้าพระเจ้า พระเบลต้องก้มกราบลง พระเนโบ ต้องหมอบตัวลง
    รูปเคารพของพระทั้งสองนี้จะต้องวางอยู่บนพวกสัตว์และวัว
พวกรูปเคารพที่เจ้าหามแห่แหนไปมานั้น
    ตอนนี้กำลังถูกบรรทุกอยู่บนพวกสัตว์ที่เหน็ดเหนื่อยนั้น
พวกมันต้องหมอบตัวลงและต้องก้มกราบลงด้วยกัน
    พวกพระนั้นไม่สามารถช่วยกู้รูปปั้นของตนเองได้
    พระพวกนั้นเองก็ตกไปเป็นเชลยเหมือนกัน
พระยาห์เวห์พูดว่า “ครอบครัวยาโคบเอ๋ย
    คือพวกที่ยังเหลือรอดในครอบครัวของอิสราเอล ฟังเราให้ดี
เราได้แบกพวกเจ้าตั้งแต่เจ้าเกิดมา
    เราได้แบกพวกเจ้าตั้งแต่เจ้าคลอดจากครรภ์มา
จนกระทั่งเจ้าแก่เฒ่า เราก็คือพระองค์นั้น
    ถึงแม้ผมของเจ้าจะขาวไป เราก็ยังจะแบกเจ้าอยู่
เราได้สร้างเจ้ามา เราจะดูแลเจ้า
    เราจะแบกเจ้าและช่วยเจ้าให้รอด
เจ้าจะเอาเราไปเปรียบกับใคร ใครจะมาเทียบเทียมกับเราได้
    เจ้าจะเปรียบเทียบเรากับใคร และทำยังกับว่าเหมือนกันอย่างนั้นหรือ
คนพวกนั้นที่เททองมากมายออกจากถุง
    และเอาเงินมาชั่งบนตราชั่ง
ได้จ้างช่างทองมาคนหนึ่งมาสร้างมันขึ้นเป็นพระ
    แล้วพวกเขาก็ก้มกราบนมัสการมัน
พวกเขายกมันใส่บ่าและแบกมันไป
    แล้วไปวางไว้ในที่ของมัน
    มันก็ตั้งอยู่ที่นั่นไม่กระดุกกระดิกไปไหน
ถ้ามีคนมาร้องขอความช่วยเหลือจากมัน
    มันก็ไม่ตอบ
    มันไม่สามารถช่วยใครให้พ้นจากความเดือดร้อนได้เลย
เจ้าพวกชอบกบฏทั้งหลาย จดจำเรื่องนี้ไว้ให้ดี และกล้าหาญไว้
    ให้หวนคิดอยู่เสมอในใจ
คือให้จดจำเรื่องเหล่านั้นที่เราได้ทำตั้งแต่สมัยโบราณ
    เพราะเราเป็นพระเจ้า ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
    เราเป็นพระเจ้า ไม่มีใครเหมือนเรา
10 เราได้ทำนายตอนจบไว้ตั้งแต่เริ่มต้นเลย
    ตั้งแต่สมัยโบราณ เราได้บอกเจ้าถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
เราบอกว่า ‘เมื่อเราวางแผน มันก็จะเกิดขึ้นตามนั้น
    เราจะทำทุกสิ่งที่เราอยากจะทำ’
11 เราได้เรียกนกอินทรีตัวหนึ่งมาจากทางตะวันออก
    คือเรียกชายคนหนึ่งจากแดนไกลให้มาทำตามแผน
เราได้พูดเอาไว้ และเราจะทำให้มันเกิดตามนั้น
    เราได้วางแผนไว้ และเราจะทำมัน
12 พวกเจ้าหัวดื้อ
    พวกเจ้าที่คิดว่าความรอดอยู่ห่างไกล ฟังเราให้ดี
13 เราได้เอาความรอดของเรามาใกล้แล้ว มันอยู่ไม่ไกล
    และความรอดของเราก็ไม่ล่าช้าด้วย
เราจะเอาความรอดมาไว้ที่ศิโยน
    และเราจะให้สง่าราศีของเรากับอิสราเอล”

ข่าวสารของพระเจ้าถึงชาวบาบิโลน

47 พระยาห์เวห์พูดว่า “บาบิโลนสาวพรหมจรรย์เอ๋ย
    ลงมานั่งบนฝุ่น
นางสาวเคลเดียเอ๋ย
    มานั่งบนพื้นโดยไม่มีบัลลังก์
เพราะจะไม่มีใครเรียกเจ้าว่าเจ้าหญิงเนื้อนุ่ม และเจ้าหญิงเนื้อเนียน อีกต่อไป
ไปจับโม่หินและโม่แป้งซะ
    เอาผ้าคลุมหน้าออก
ให้ถอดกระโปรงออกจนเห็นขาของเจ้า
    แล้วเดินข้ามแม่น้ำไป
เจ้าจะเปลือยเปล่าไม่มีอะไรปกปิด
    คนจะเห็นส่วนที่น่าอับอายของเจ้า[b]
เราจะแก้แค้นเจ้า
    และเราจะไม่ไว้ชีวิตใครเลย”
ผู้ที่ไถ่พวกเราให้เป็นอิสระคือองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
    พระองค์มีชื่อว่าพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
พระยาห์เวห์ พูดว่า “นางสาวเคลเดียเอ๋ยเข้าไปในที่มืดและนั่งเงียบๆ
    เพราะจะไม่มีใครเรียกเจ้าว่า ‘ราชินีแห่งอาณาจักรทั้งหลาย’ อีกต่อไป

ตอนนั้นเราโกรธคนของเรา
    เราทำให้ทรัพย์สมบัติของเราเสื่อมเสียเกียรติไป
เราได้มอบพวกเขาไว้ในมือเจ้า
    แต่เจ้าไม่ได้มีความเมตตาต่อพวกเขาเลย
เจ้าทำให้แอกของเจ้าหนักมากแม้แต่บนบ่าของคนชรา
เจ้าได้พูดว่า ‘ข้าจะเป็นราชินีตลอดชั่วนิรันดร์’
    เจ้าไม่ได้คิดถึงสิ่งที่เจ้าทำลงไป
    เจ้าไม่ได้นึกถึงผลที่จะตามมา
ตอนนี้ ฟังไว้ให้ดี เจ้าที่รักความสนุกสนาน
    เจ้าที่นั่งอยู่ในความปลอดภัย
เจ้าพูดในใจของตนว่า
    ‘ข้านี่แหละพระเจ้า และไม่มีผู้อื่นนอกจากข้า
    ข้าจะไม่มีวันเป็นแม่หม้ายและข้าจะไม่มีวันสูญเสียลูกๆของข้าไป’
แต่ทั้งสองอย่างนี้จะเกิดขึ้นกับเจ้า ในทันทีทันใด ภายในวันเดียว
    เจ้าจะสูญเสียทั้งลูกๆและสามีไป ทั้งๆที่เจ้ามีเวทมนตร์มากมาย
    ทั้งๆที่เจ้ามีคาถาอาคมที่มีฤทธิ์อันยิ่งใหญ่
10 เจ้ารู้สึกปลอดภัยอยู่ในความเลวทรามของเจ้า
    เจ้าคิดว่า ‘ไม่มีใครเห็นข้า’
ความฉลาดและความรู้ของเจ้านำเจ้าหลงทางไป
    เจ้าคิดในใจว่า ‘ข้านี่แหละพระเจ้า ไม่มีผู้อื่นนอกจากข้า’

11 ดังนั้น เรื่องเลวร้ายจะตกมาบนเจ้า
    เจ้าไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ความพินาศจะตกมาบนเจ้า
    เจ้าจะไม่มีทางกำจัดมันไปได้
ความหายนะจะเกิดขึ้นกับเจ้าในทันทีทันใด
    เจ้าจะไม่มีวันรู้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไหร่
12 ใช้คาถาอาคมของเจ้าต่อไปและใช้เวทมนตร์ทั้งหมดของเจ้า
    ที่เจ้ายุ่งอยู่กับมันตั้งแต่เป็นเด็กมาแล้ว
ไม่แน่เจ้าอาจจะสำเร็จก็ได้
    ไม่แน่เจ้าอาจจะทำให้บางคนกลัวก็ได้
13 เจ้าปรึกษาพวกหมอดูมากมายจนเหนื่อย
    ให้พวกโหราจารย์ลุกขึ้นมาช่วยชีวิตเจ้าสิ
ให้พวกที่ดูดวง ดูดาว และดวงจันทร์ใหม่ทุกเดือน
    ทำนายสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า
14 ดูสิ พวกเขาเป็นเหมือนฟาง
    ไฟก็จะเผาผลาญพวกมันจนหมด
พวกเขาไม่สามารถเอาตัวรอดให้พ้นจากฤทธิ์แห่งเปลวไฟ
    มันไม่ใช่ถ่านไฟสำหรับผิงอุ่นกาย
    หรือเป็นแสงไฟให้กับใครมานั่งชม
15 นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเจ้า
    คือคนพวกนั้นที่เจ้าร่วมงานด้วยจะทำให้เจ้าผิดหวังอย่างนั้น
คนที่เจ้าค้าขายด้วยตั้งแต่สาวๆ
    ก็จะแยกย้ายไปตัวใครตัวมันจนไม่เหลือใครที่จะมาช่วยกู้เจ้าได้”

พระเจ้าปกครองโลกของพระองค์

48 พระยาห์เวห์พูดว่า “ฟังสิ่งนี้ให้ดีครอบครัวของยาโคบ ผู้ที่มีชื่อเรียกว่าอิสราเอล
    ผู้สืบเชื้อสายมาจากยูดาห์
เจ้าอ้างชื่อของพระยาห์เวห์ในการสาบาน
เจ้าสรรเสริญพระเจ้าของอิสราเอล
    แต่เจ้าไม่ได้ทำด้วยความซื่อสัตย์และความจริงใจ

พวกเจ้าเรียกตัวเองว่าประชากรของเมืองศักดิ์สิทธิ์
    ที่เชื่อพึ่งในพระเจ้าของอิสราเอล
    ที่มีชื่อเรียกว่าพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น

พระยาห์เวห์พูดว่า เราได้ทำนายนานมาแล้วถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นนี้
    สิ่งเหล่านั้นได้ออกมาจากปากของเรา
เราได้ทำให้พวกมันเป็นที่รู้กันไปทั่ว
    แล้วจู่ๆ เราก็ลงมือทำ แล้วมันก็เกิดขึ้น
เพราะเรารู้ว่าเจ้านั้นดื้อดึง
    คอเจ้าเหมือนเอ็นเหล็กจูงยาก
    หัวแข็งเหมือนกับทองเหลือง
เราได้ประกาศให้เจ้ารู้นานมาแล้ว
    ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเกิด เราก็ได้บอกเจ้าแล้ว
เพื่อเจ้าจะไม่สามารถพูดได้ว่า ‘รูปเคารพของฉันทำสิ่งเหล่านั้น
    รูปแกะสลักไม้และรูปหล่อของฉันได้สั่งให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น’”
เจ้าเคยได้ยินคำทำนายของเราแล้ว
    ดูสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นสิ
แล้วพวกเจ้าจะยอมรับว่าสิ่งที่เราได้ทำนายนั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่
    ต่อจากนี้ไป เราจะบอกเจ้าเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆที่แอบซ่อนอยู่ ที่เจ้ายังไม่รู้
พวกมันเพิ่งถูกสร้างขึ้นมาเดี๋ยวนี้เอง ไม่ใช่นานมาแล้ว
    ก่อนหน้านี้เจ้ายังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้
    ดังนั้น เจ้าไม่สามารถพูดได้ว่า
    “เออ เรารู้แล้ว”
เจ้าไม่เคยได้ยินหรือรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
    หูของเจ้าไม่ได้เปิดตั้งนานมาแล้ว
เพราะเรารู้ว่าเจ้านั้นชอบหักหลัง
    และเรารู้ว่าตั้งแต่เกิดแล้ว เจ้าได้ชื่อว่า “ไอ้กบฏ”
เพราะเราไม่อยากเสียชื่อของเรา เราจึงได้ยับยั้งความโกรธของเราไว้
    เพื่อให้คนสรรเสริญเรา
    เราจึงได้ระงับมันไว้เพื่อเจ้าและไม่ได้ทำลายเจ้า
10 เราได้หลอมเจ้าแล้ว แต่ไม่ได้หลอมด้วยไฟอย่างเงิน
    แต่เราได้ทดสอบเจ้าด้วยเตาหลอมแห่งความทุกข์ยาก
11 เพื่อเกียรติของเรา เพื่อเกียรติของเราเอง เราจะจัดการแล้ว
    เราจะปล่อยให้ชื่อเสียงของเราเสื่อมเสียได้ยังไง
    เราจะไม่ยอมมอบเกียรติที่เราสมควรจะได้รับให้กับผู้อื่น

เอเฟซัส 4:1-16

ร่างเดียวกัน

ในฐานะที่ผมเป็นนักโทษเพราะเห็นแก่องค์เจ้าชีวิต ผมขออ้อนวอนให้พวกคุณใช้ชีวิตให้สมกับที่พระเจ้าได้เรียกคุณมา คือให้สุภาพอ่อนน้อมอยู่เสมอ รวมทั้งให้ใจเย็นๆและอดทนต่อกันและกันด้วยความรัก ให้พยายามสุดความสามารถที่จะรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่ได้รับจากพระวิญญาณ ด้วยการใช้สันติภาพเป็นเชือกผูกมัดพวกคุณไว้ด้วยกัน มีเพียงกายเดียวและพระวิญญาณเดียว เหมือนที่พระเจ้าเรียกพวกคุณมาให้มีความหวังเดียว มีองค์เจ้าชีวิตองค์เดียว ความเชื่อเดียว พิธีจุ่มน้ำเดียว และมีพระเจ้าองค์เดียว ผู้เป็นพระบิดาของทุกสิ่ง อยู่เหนือทุกสิ่ง อยู่ทั่วทุกสิ่ง และอยู่ในทุกสิ่ง

พวกเราแต่ละคนได้รับของขวัญต่างๆตามความเมตตาของพระคริสต์ นั่นเป็นเหตุที่พระคัมภีร์ถึงได้พูดว่า

“เมื่อพระองค์ขึ้นไปอยู่ที่สูง
    พระองค์ก็เอาเชลยสงครามไปด้วยและพระองค์ก็ได้แจกของขวัญให้กับมนุษย์”[a]

ที่พูดว่า “พระองค์ขึ้นไป” ก็แสดงว่าพระองค์เคยลงมาที่โลกเบื้องล่างนี้ 10 พระองค์ที่ลงมาก็เป็นองค์เดียวกับที่ขึ้นไปสูงกว่าสวรรค์ทั้งปวง เพื่อพระองค์จะได้เต็มไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง 11 พระเยซูได้แจกของขวัญคือ พวกศิษย์เอกของพระองค์ พวกผู้พูดแทนพระเจ้า พวกผู้ประกาศข่าวดีและพวกผู้เลี้ยงที่สอน 12 เพื่อคนพวกนี้ จะได้เตรียมคนของพระเจ้าให้สามารถทำงานรับใช้ ซึ่งจะเสริมสร้างกายของพระคริสต์ให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ 13 จนกว่าพวกเราทั้งหมดจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ และในความรู้เกี่ยวกับพระบุตรของพระเจ้า แล้วเราจะได้โตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเป็นเหมือนกับพระคริสต์ทุกประการ

14 ทั้งนี้ก็เพื่อเราจะได้ไม่เป็นเหมือนเด็กเล็กๆอีกต่อไป หรือเหมือนคลื่นที่ถูกซัดไปซัดมา หรือถูกพัดไปทางโน้นทีทางนี้ที ด้วยคำสอนใหม่ๆและด้วยเล่ห์เหลี่ยมและกลอุบายต่างๆของพวกผู้สอนเท็จ 15 แต่ให้พวกเราพูดความจริงด้วยความรัก และให้โตขึ้นเป็นเหมือนพระคริสต์ในทุกๆทาง พระคริสต์คือศีรษะ 16 ที่ร่างกายทุกส่วนต้องพึ่งพาและทั้งร่างก็ยึดติดสนิทกันด้วยเส้นเอ็นทุกๆเส้น เมื่ออวัยวะต่างๆทำหน้าที่ของมันเองแล้ว พระคริสต์ทำให้ร่างกายทั้งหมดเจริญเติบโตและแข็งแรงขึ้นด้วยความรัก

สดุดี 68:19-35

19 สรรเสริญองค์เจ้าชีวิต
    พระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของพวกเรา
    ผู้ที่แบกภาระของพวกเราทุกๆวัน เซลาห์

20 พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าผู้ช่วยกู้พวกเรา
    พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ช่วยให้เรารอดพ้นจากความตาย
21 แต่พระเจ้าบดขยี้หัวของพวกศัตรูของพระองค์
    พระองค์บดขยี้กะโหลกคนเหล่านั้นที่ยังคงเดินอยู่ในความผิดบาปของเขา
22 องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
    “เราจะนำศัตรูเหล่านั้นมาจากบาชาน และมาจากก้นทะเลลึก
23 เพื่อเจ้าจะได้เหยียบย่ำเลือดของพวกนั้น
    และหมาของพวกเจ้าจะได้เลียกินส่วนแบ่งของพวกมันจากเลือดของศัตรูพวกนั้น”

24 ข้าแต่พระเจ้า คนเห็นขบวนแห่แห่งชัยชนะของพระองค์
    พวกนั้นได้เห็นขบวนแห่แห่งชัยชนะของพระเจ้าผู้เป็นกษัตริย์ของข้าพเจ้าที่กำลังแห่เข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
25 นำหน้าด้วยพวกนักร้อง ตามหลังด้วยเหล่านักดนตรี
    ในท่ามกลางหญิงสาวที่เล่นกลองรำมะนาอันเล็ก
26 สรรเสริญพระเจ้าในที่ชุมนุมเถิด
    ลูกหลานของอิสราเอลเอ๋ย สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
27 ดูนั่นสิ เผ่าน้อยๆของเบนยามินเดินนำหน้า
    พร้อมทั้งพวกผู้นำของยูดาห์จำนวนมาก
    พวกผู้นำของเศบูลุน รวมทั้งพวกผู้นำของนัฟทาลี

28 พระเจ้าออกคำสั่งว่า เจ้าอิสราเอลจะมีอำนาจ
    ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ช่วยเราในอดีตยังไง โปรดแสดงอำนาจของพระองค์ให้เราได้เห็นอีกครั้งอย่างนั้น
29 จากวิหารของพระองค์ ที่อยู่ในเยรูซาเล็ม
    แล้วกษัตริย์ทั้งหลายก็จะนำเครื่องบรรณาการมาถวายแด่พระองค์
30 ข้าแต่พระเจ้า สั่งประจัญบานเลย ลุยเข้าไปรบกับสัตว์ร้ายที่อยู่ในพงอ้อ[a]
    และกับชนชาติทั้งหลายที่รวมตัวกันเหมือนฝูงลูกวัวที่มีพวกวัวผู้นำอยู่
    ขอให้พวกเขาถ่อมตัวลงและนำเงินมาเป็นเครื่องบรรณาการถวายต่อพระองค์
    ขอให้ชนชาติเหล่านั้นที่กระหายสงครามถูกทำให้แตกกระเจิดกระเจิงไป
31 พวกที่ถือเครื่องบรรณาการ จะมาจากอียิปต์
    ส่วนชาวเอธิโอเปีย จะรีบเร่งนำของขวัญมาให้กับพระองค์
32 อาณาจักรทั้งหลายบนโลกเอ๋ย ให้ร้องเพลงให้กับพระเจ้าเถิด
    สรรเสริญองค์เจ้าชีวิตด้วยบทเพลงสดุดีเถิด เซลาห์

33 ร้องเพลงแด่พระเจ้า ผู้ขี่รถม้าข้ามฟ้าสวรรค์ที่มีมาแต่โบราณกาล
    พระองค์เปล่งเสียงอันทรงพลังก้องกังวาน
34 ประกาศว่าพระเจ้านั้นทรงพลัง
    พระบารมีของพระองค์ปกครองอยู่เหนืออิสราเอล
    และพลังอำนาจของพระองค์ปกครองอยู่เหนือฟ้าสวรรค์
35 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์นั้นน่าเกรงขามในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
    พระเจ้าแห่งอิสราเอล
    พระองค์เป็นผู้ที่มอบฤทธิ์อำนาจและพละกำลังแก่ประชาชนของพระองค์

สรรเสริญพระเจ้า

สุภาษิต 24:3-4

บ้านเรือนต้องใช้สติปัญญาสร้าง
    ความเข้าใจจะทำให้มันมั่นคง
ความรู้จะทำให้ห้องต่างๆเต็มไปด้วย
    ทรัพย์สินที่มีค่าและสวยงาม

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International