The Daily Audio Bible
Today's audio is from the CEV. Switch to the CEV to read along with the audio.
12 ฟังเราให้ดี ยาโคบ
อิสราเอล ผู้ที่เราได้เรียกมา
เราคือพระองค์ผู้นั้น เราเป็นผู้แรก
และผู้สุดท้าย
13 มือของเราได้วางรากฐานของโลก
มือขวาของเราได้แผ่ฟ้าสวรรค์ออก
เมื่อเราเรียกพวกมันมา
พวกมันก็จะมายืนพร้อมอยู่ต่อหน้าเรา
14 เจ้าทั้งหลาย รวมกันเข้ามา และฟังให้ดี
ในพวกพระนั้นมีใครบ้างที่เคยทำนายสิ่งเหล่านี้
พระยาห์เวห์ได้เลือกไซรัสมาเป็นพันธมิตร
เขาจะทำตามความต้องการของพระองค์
ต่อบาบิโลน ต่อเชื้อสายของเคลเดีย
15 เราเองเป็นผู้ที่ออกคำสั่ง เราได้เรียกเขามา
เราได้นำเขามาที่นี่ และงานของเขาจะประสบผลสำเร็จแน่
16 เข้ามาใกล้ๆเรา และฟังเรื่องนี้
“ตั้งแต่เริ่มต้น เราไม่เคยพูดในที่ลับ
และเมื่อมันเป็นจริงขึ้นมา เราก็อยู่ที่นั่น”
ตอนนี้ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ได้ส่งผมและพระวิญญาณของพระองค์มาแล้ว 17 พระยาห์เวห์ ผู้ที่ปกป้องพวกเจ้าไว้ ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล พูดว่า
“เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า
เราสอนเจ้าเพื่อเป็นประโยชน์กับเจ้า
เรานำเจ้าไปในทางที่เจ้าควรไป
18 เสียดาย ที่พวกเจ้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องคำสั่งสอนของเรา
ไม่อย่างนั้นเจ้าคงสุขสบายไปแล้วเหมือนแม่น้ำที่ไหลตลอดไม่หยุด
และคงประสบความสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนคลื่นซัดมาครั้งแล้วครั้งเล่า
19 ลูกหลานของเจ้าก็คงมีมากมายเหมือนกับเม็ดทราย
เชื้อสายของเจ้าก็คงมีมากมายดั่งกับเม็ดทราย
แล้วชื่อของพวกเขาคงไม่โดนลบออกไป
และพวกเขาคงไม่ถูกทำลายไปต่อหน้าเรา”
20 ออกมาจากบาบิโลนซะ ให้วิ่งหนีจากชาวเคลเดีย
โห่ร้อง ประกาศมันด้วยความยินดี
ให้เล่าเรื่องนี้ ให้มันกระจายไปไกลถึงสุดขอบโลกให้พูดว่า
“พระยาห์เวห์ได้ไถ่ยาโคบผู้รับใช้ของพระองค์แล้ว”
21 เมื่อพระองค์ได้นำพวกเขาผ่านทะเลทราย พวกเขาก็ไม่ขาดน้ำดื่ม
พระองค์ให้น้ำไหลออกมาจากก้อนหินเพื่อพวกเขา
พระองค์ได้ผ่าหินและน้ำก็ทะลักออกมา
22 แต่พระยาห์เวห์พูดว่า
“ไม่มีสันติสุขสำหรับคนชั่วช้า”
งานของผู้รับใช้ของพระองค์
49 พวกเจ้าที่อยู่แถบชายฝั่งและหมู่เกาะต่างๆฟังเราให้ดี
ชนชาติทั้งหลายที่มาจากแดนไกล ตั้งใจฟังให้ดี
พระยาห์เวห์ได้เรียกผมให้มารับใช้พระองค์ก่อนที่ผมจะเกิดเสียอีก
พระองค์ตั้งชื่อให้ผม ตั้งแต่ผมยังอยู่ในท้องแม่
2 พระองค์ทำให้ปากของผมเหมือนกับดาบที่คมกริบ
พระองค์ซ่อนและปกป้องผมไว้ใต้มือพระองค์
พระองค์ทำให้ผมเป็นเหมือนลูกธนูที่ขัดมัน
พระองค์ซ่อนผมไว้ในซองธนูของพระองค์
3 พระองค์พูดกับผมว่า “อิสราเอล เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
เราจะได้รับเกียรติเพราะเจ้า”
4 แต่ผมคิดว่า “ผมได้ทำงานเหนื่อยเปล่า”
ผมได้ทุ่มแรงไปจนหมด เสียแรงเปล่าๆไม่ได้อะไรซักอย่าง
แต่อย่างไรก็ตามพระยาห์เวห์จะให้สิ่งที่ผมสมควรจะได้รับอย่างแน่นอน
และรางวัลของผมอยู่กับพระเจ้าของผม
5 พระยาห์เวห์ได้ปั้นผมในครรภ์ให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
พระองค์ทำอย่างนี้เพื่อพระองค์จะได้นำครอบครัวของยาโคบกลับมาหาพระองค์ และเพื่อรวบรวมคนอิสราเอลกลับมาหาพระองค์
ผมจะได้รับเกียรติในสายตาของพระยาห์เวห์
และพระเจ้าของผมได้เป็นพละกำลังของผมแล้ว
6 ตอนนี้พระยาห์เวห์พูดว่า “เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเราที่กำลังช่วยเราฟื้นฟูเผ่าต่างๆของยาโคบ
และนำผู้รอดชีวิตของชนชาติอิสราเอลกลับมา
แค่นั้นยังน้อยเกินไป เราจะทำให้เจ้าเป็นแสงสว่างให้กับชนชาติต่างๆด้วย
เพื่อความรอดของเราจะได้ไปถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”
7 พระยาห์เวห์พระผู้ไถ่และผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
ได้พูดกับคนนั้นที่ถูกดูหมิ่นที่ชนชาติอื่นๆเกลียดชัง
และที่เป็นทาสของผู้ครอบครองทั้งหลายอย่างนี้ว่า
“เมื่อพวกกษัตริย์เห็นเจ้า พวกเขาก็จะยืนขึ้นให้เกียรติเจ้า เมื่อพวกเจ้านายเห็นเจ้าก็จะโค้งคำนับเจ้า”
เพราะพระยาห์เวห์องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ที่ได้เลือกเจ้ามานั้นรักษาคำสัญญาของพระองค์เสมอ
วันแห่งความรอด
8 พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ “ในเวลาที่เราแสดงความเมตตา เราจะตอบคำอธิษฐานของเจ้า
ในวันแห่งความรอด เราจะช่วยเจ้าและปกป้องเจ้า
เราจะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวกลางแห่งคำสัญญาที่เรามีกับมนุษย์
เพื่อว่าเราจะได้ฟื้นฟูแผ่นดินขึ้นมาใหม่ และคืนแผ่นดินที่ถูกทำลายกลับไปให้เจ้าของเดิม
9 เราจะบอกกับพวกนักโทษว่า ‘ออกมาได้แล้ว’
เราจะบอกกับคนเหล่านั้นที่อยู่ในความมืดว่า
‘โผล่ออกมาได้แล้ว’
พวกเขาจะเป็นเหมือนแกะที่กินไปตามทางเดิน
และพวกเขาจะมีทุ่งหญ้าบนเนินเขาโล้นทั้งหลาย
10 พวกเขาจะไม่ขาดอาหารหรือน้ำ
แสงแดดและลมร้อนของทะเลทรายจะไม่โจมตีพวกเขา
เพราะพระองค์ผู้ปลอบโยนพวกเขาจะนำหน้าพวกเขา
และพระองค์จะนำทางพวกเขาไปถึงตาน้ำทั้งหลาย
11 เราจะทำให้ภูเขาทั้งหลายของเราแบนเป็นถนน
และถมที่ต่ำขึ้นมาเป็นทางหลวงของเรา
12 ดูสิ จะมีบางคนมาจากแดนไกล
จะมีบางคนมาจากทิศเหนือและทิศตะวันตก
และจะมีบางคนมาจากทางภาคใต้ของอียิปต์”
13 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย ร้องเพลงเถิด แผ่นดินโลกเอ๋ย ชื่นชมยินดีเถิด
ภูเขาทั้งหลายเอ๋ย ระเบิดเป็นเสียงเพลงแห่งความชื่นชมยินดีเถิด
เพราะพระยาห์เวห์ได้ปลอบโยนคนของพระองค์
และพระองค์จะให้ความรักกับคนของพระองค์ที่ทุกข์ยากลำบาก
14 แต่ศิโยน ได้พูดว่า
“พระยาห์เวห์ทอดทิ้งฉัน องค์เจ้าชีวิตลืมฉัน”
15 พระยาห์เวห์พูดว่า “ผู้หญิงที่ให้นมลูก จะลืมลูกของเธอได้หรือ
หรือ ผู้หญิงที่คลอดลูกออกมาจะไม่ให้ความรักต่อลูกของเธอ ได้หรือ
ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะลืมได้
แต่เราจะไม่มีวันลืมเจ้า
16 ดูสิ เยรูซาเล็ม เราวาดเมืองของเจ้าลงบนฝ่ามือของเรา
กำแพงของเจ้าอยู่ต่อหน้าต่อตาเราเสมอ
17 ลูกๆของเจ้ากำลังรีบกลับมาหาเจ้า
และคนพวกนั้นที่พังทลายเจ้าและทำลายเจ้าก็จะจากเจ้าไป
18 ลืมตาขึ้นมามองไปรอบๆ
พวกลูกหลานของเจ้ากำลังรวมตัวกันกลับมาหาเจ้า”
พระยาห์เวห์พูดว่า “เจ้ารู้ว่าเรามีชีวิตอยู่แน่ ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า
เจ้าจะได้สวมใส่ลูกหลานของเจ้าเหมือนเครื่องเพชร
หรือเหมือนกับเจ้าสาวที่สวมใส่เครื่องเพชร
19 เราได้ทำลายเจ้าและทำให้เจ้ากลายเป็นซากปรักหักพัง และรื้อเจ้าลงกับพื้น
แต่ต่อไปนี้แผ่นดินของเจ้าก็จะแคบเกินไปแล้วสำหรับประชาชนมากมายของเจ้า
และคนพวกนั้นที่เคยกลืนกินเจ้าก็อยู่ห่างไกล
20 และลูกๆของเจ้าที่เจ้าคิดว่าสูญเสียไปแล้ว
วันหนึ่งพวกเขาจะกลับมาพูดใส่หูเจ้าว่า
‘ที่นี่แคบเกินไปสำหรับเราแล้ว
หาที่ใหม่ให้พวกเราอยู่กันหน่อย’
21 แล้วเจ้าก็จะพูดกับตัวเองว่า
‘ใครกันนะที่คลอดเด็กพวกนี้มาให้กับข้า
ข้าได้สูญเสียลูกของข้าไป และข้าเป็นหมัน
ข้าถูกขับไล่ออกจากแผ่นดินของข้า
ข้าถูกสามีทิ้ง
อย่างนั้น ใครได้เลี้ยงเด็กๆพวกนี้ขึ้นมา
ข้าถูกทิ้งไว้ตัวคนเดียว
แล้วนี่ เด็กๆพวกนี้มาจากไหนกัน’”
22 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูด “เราจะยกมือของเราขึ้นเป็นสัญญาณให้กับชนชาติต่างๆ
เราจะยกธงของเราขึ้นให้คนเห็น
และพวกเขาก็จะอุ้มพวกลูกชายของเจ้ามาในอ้อมอกของเขา
และพวกเขาก็จะแบกพวกลูกสาวของเจ้าไว้บนบ่า
23 พวกกษัตริย์จะสอนพวกลูกๆของเจ้า
พวกราชินีของพวกเขาก็จะดูแลลูกๆของเจ้า
พวกเขาจะก้มหน้ากราบลงถึงพื้นต่อหน้าเจ้า
และพวกเขาก็จะเลียฝุ่นที่เท้าของเจ้า
แล้วเจ้าก็จะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
คนพวกนั้นที่ไว้วางใจในเราจะไม่มีวันผิดหวัง”
24 จะแย่งของที่ยึดมาได้จากทหารได้หรือ
หรือจะไปช่วยกู้เชลยจากผู้ก่อการร้ายได้หรือ
25 พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้ “ได้สิ ของที่ยึดมาได้จะถูกแย่งไปจากผู้ก่อการร้าย
และเชลยก็จะได้รับการช่วยกู้จากทหาร
เพราะเราจะต่อสู้กับคนเหล่านั้นที่ต่อสู้กับเจ้า
และเราจะช่วยกู้ลูกๆของเจ้า
26 เราจะทำให้พวกที่กดขี่เจ้าต้องกินเนื้อตัวเอง
และเมาเลือดของตัวเองเหมือนดื่มเหล้าองุ่น
และทุกคนจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์ พระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า
พระผู้ไถ่ของเจ้า ผู้มีฤทธิ์อำนาจของยาโคบ”
พระยาห์เวห์ช่วยกู้อิสราเอลได้
50 พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า
“อิสราเอล เจ้าคิดว่าเราหย่ากับเยรูซาเล็มแม่ของเจ้าแล้วหรือ
ไหนละใบหย่าของแม่เจ้าที่เราให้กับนางตอนส่งนางไป
หรือเราได้ขายพวกเจ้าไปจ่ายหนี้ใครหรือ
ไม่เลย แต่ที่พวกเจ้าถูกขายไปนั้น
ก็เพราะความบาปต่างๆของเจ้าเอง
และแม่ของเจ้าถูกส่งไปก็เพราะการกบฏต่างๆของเจ้า
2 ทำไมถึงไม่มีใครอยู่ที่นั่นตอนที่เรามา
ทำไมถึงไม่มีใครตอบตอนที่เราเรียก
เจ้าคิดว่าแขนของเราสั้นเกินไป
ที่จะเอื้อมออกมาช่วยเจ้าให้เป็นอิสระหรือ
หรือ เจ้าคิดว่าเราไม่มีแรงที่จะช่วยกู้เจ้าได้
ถ้าเราตะโกนใส่ทะเล มันก็จะเหือดแห้งไป
เราสามารถทำให้พวกแม่น้ำกลายเป็นทะเลทราย
ปลาของพวกมันก็จะเน่าเหม็นเพราะขาดน้ำและตายไปเพราะกระหาย
3 เราเอาความมืดมาสวมท้องฟ้า
และเราให้มันใส่ผ้ากระสอบ”
ผู้รับใช้พระยาห์เวห์พึ่งพระองค์จริงๆ
4 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตได้สอนผมว่าควรจะพูดอะไร
เพื่อผมจะได้รู้ว่าจะพูดให้กำลังใจกับคนที่อ่อนแออย่างไร
ทุกๆเช้าพระองค์ปลุกผม
พระองค์ทำให้หูผมพร้อมที่จะฟัง เหมือนกับพวกเด็กนักเรียน
5 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ได้เปิดหูผม
และผมก็ไม่ได้กบฏต่อพระองค์
ผมไม่ได้หันหลังไปจากพระองค์
6 ผมหันหลังให้คนตี
ผมยอมให้คนดึงเคราจากแก้ม
ผมไม่ได้ซ่อนหน้าไว้
เมื่อมีคนพูดดูถูกและถ่มน้ำลายใส่ผม
7 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ช่วยผม
ผมจึงไม่รู้สึกขายหน้า
ผมจึงเชิดหน้าไว้
และผมรู้ว่าผมจะไม่เสียหน้า
8 ผู้ที่จะกู้หน้าผมอยู่ใกล้ๆ
ใครจะเอาเรื่องมาฟ้องร้องผมหรือ
ให้พวกเราไปยืนอยู่ต่อหน้าศาลด้วยกัน
ใครเป็นผู้กล่าวหาผมหรือให้เขามาฟ้องผมต่อหน้า
9 ดูสิ พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต
ช่วยผมไว้ ใครจะมาตัดสินว่าผมผิด
พวกเขาทั้งหมดจะเปื่อยยุ่ยไป
เหมือนเสื้อผ้าที่ถูกตัวมอดกัดกิน
10 มีใครบ้างในพวกเจ้าที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์
และเชื่อฟังผู้รับใช้ของพระองค์
ใครก็ตามที่เดินอยู่ในความมืดโดยไม่มีแสงสว่าง
ควรจะไว้วางใจในพระยาห์เวห์และพึ่งพิงพระเจ้าของเขา
11 แต่ดูสิ พวกเจ้าทุกคนทั้งก่อไฟและจุดดุ้นไฟเอง
ไปเลย เดินเข้าไปในเปลวไฟของพวกเจ้านั้น
และท่ามกลางดุ้นไฟที่พวกเจ้าจุดขึ้นมานั้น
นี่คือสิ่งที่เจ้าจะได้รับจากมือของเรา คือเจ้าจะต้องนอนลงด้วยความเจ็บปวด
ชีวิตที่พระเจ้าชอบใจ
17 ในฐานะตัวแทนขององค์เจ้าชีวิต ผมขอบอกคุณว่า ต่อจากนี้ไป อย่าใช้ชีวิตเหมือนกับคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า ที่คิดแต่เรื่องไร้สาระ 18 ความคิดของเขามืดมัวไปเพราะความโง่เขลาและจิตใจที่ดื้อรั้นทำให้เขาถูกแยกออกจากชีวิตที่มาจากพระเจ้า 19 พวกเขาไม่มีความละอายต่อบาปอีกแล้ว ปล่อยตัวมัวเมาในกาม ทำเรื่องไม่บริสุทธิ์ทุกอย่างโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ 20 แต่การใช้ชีวิตแบบนั้นไม่เหมือนกับการใช้ชีวิตกับพระคริสต์อย่างที่คุณเรียนรู้จากพวกเรา 21 จริงๆแล้ว คุณเคยได้ยินเรื่องของพระองค์และได้รับคำสอนเกี่ยวกับพระองค์ สิ่งที่คุณเรียนรู้มานั้นสอดคล้องกับความจริงที่พระเจ้าได้เปิดเผยในพระเยซู 22 คำสอนนั้นบอกให้พวกคุณกำจัดตัวตนเก่าๆที่ถูกตัณหาชักนำให้หลงและเสื่อมไป 23 คำสอนนั้นยังสอนให้คุณยอมให้พระเจ้าสร้างความคิดและจิตใจของคุณขึ้นมาใหม่ 24 คำสอนนี้ยังบอกอีกว่าให้สวมคนใหม่นั้นที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาเป็นเหมือนพระองค์ เพื่อจะได้มีชีวิตที่พระเจ้าชอบใจ เป็นชีวิตที่บริสุทธิ์ ตามความจริงที่เราสอนนั้น
25 ถ้าอย่างนั้น ให้เลิกพูดโกหกซะ “ให้ต่างคนต่างพูดความจริงต่อเพื่อนของตน”[a] เพราะพวกเราเป็นอวัยวะในร่างกายเดียวกัน 26 “ถ้าโกรธ ก็อย่าทำบาป”[b] ควรกำจัดความโกรธนั้นให้หมดไปก่อนดวงอาทิตย์ตกดิน 27 อย่าเปิดโอกาสให้มารเอาชนะพวกคุณได้ 28 คนที่เคยขโมยมาก่อน ก็ให้เลิกขโมยซะ แล้วหันมาทำงาน ใช้มือทำสิ่งที่มีประโยชน์ เพื่อจะได้มีสิ่งของไว้แจกคนที่ขัดสน
29 อย่าพูดคำหยาบคายเลย แต่ให้พูดในสิ่งที่ดี เพื่อจะได้ให้กำลังใจกับคนที่ต้องการ เพื่อมันจะได้เป็นประโยชน์กับคนที่ได้ยิน 30 อย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียใจ พระเจ้าได้เอาพระวิญญาณนี้มาประทับตราพวกคุณไว้ เพื่อแสดงว่าคุณเป็นของพระเจ้า และเพื่อรับรองว่าพระเจ้าจะปลดปล่อยให้คุณเป็นอิสระในวันนั้น[c] 31 กำจัดสิ่งเหล่านี้ให้หมดสิ้นไปจากหมู่พวกคุณ คือความขมขื่นทั้งหมด ความโกรธแค้น การทะเลาะวิวาท และการใส่ร้ายป้ายสี รวมถึงความชั่วทุกชนิด 32 ให้เมตตาต่อกัน เห็นอกเห็นใจกัน และอภัยให้กันและกันเหมือนกับที่พระเจ้าได้อภัยให้กับคุณผ่านทางพระคริสต์
คำอธิษฐานของคนที่ถูกข่มเหง
ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องด้วยทำนอง “ดอกลิลลี่” เพลงของดาวิด
1 ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเถิด
เพราะน้ำขึ้นมาสูงถึงคอข้าพเจ้าแล้ว
2 ข้าพเจ้าจมลงสู่โคลนลึกและหาที่หยั่งเท้าไม่เจอ
ข้าพเจ้าอยู่ในน้ำลึกและน้ำท่วมท้นข้าพเจ้า
3 ข้าพเจ้าร้องขอให้ช่วยจนหมดแรง
ตะโกนจนแสบคอ มองหาจนตาพร่ามัว
เพราะข้าพเจ้ารอคอยให้พระเจ้าของข้าพเจ้ามาช่วย
4 คนเหล่านั้นที่เกลียดข้าพเจ้าทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขามีมากยิ่งกว่าเส้นผมบนหัวของข้าพเจ้าเสียอีก
ศัตรูเหล่านั้นที่พยายามจะทำลายข้าพเจ้า
ทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขา มีจำนวนมากมาย
ข้าพเจ้าถูกบังคับให้ชดใช้ในสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ขโมยมา
5 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ล่วงรู้ถึงความผิดอย่างโง่ๆของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่อาจซ่อนความผิดไปจากพระองค์ได้
6 องค์เจ้าชีวิต พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
ขออย่าปล่อยให้คนเหล่านั้นที่ฝากความหวังไว้กับพระองค์ต้องอับอายเพราะข้าพเจ้าเลย
พระเจ้าแห่งอิสราเอล
ขออย่าปล่อยให้คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์ต้องเสียหน้าเพราะข้าพเจ้าเลย
7 ความอับอายปกคลุมใบหน้าของข้าพเจ้า
แต่ข้าพเจ้าก็ทนอับอายเพื่อพระองค์
8 ข้าพเจ้ากลายเป็นเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับพี่น้องของข้าพเจ้า
พี่น้องท้องเดียวกับข้าพเจ้าทำกับข้าพเจ้าเหมือนกับข้าพเจ้าเป็นคนต่างชาติ
9 เพราะความร้อนใจที่ข้าพเจ้ามีต่อวิหารของพระองค์ได้เผาผลาญข้าพเจ้า
และคำดูถูกต่างๆของคนเหล่านั้นที่ดูถูกพระองค์ได้ตกลงมาอยู่บนข้าพเจ้า
10 ข้าพเจ้าร้องไห้และอดอาหาร แต่พวกเขากลับดูถูกข้าพเจ้า
เพราะทำสิ่งเหล่านี้
11 เมื่อข้าพเจ้าสวมใส่ผ้ากระสอบไว้ทุกข์
ข้าพเจ้าก็กลายเป็นตัวตลกสำหรับพวกเขา
12 ผู้คนที่อยู่แถวประตูเมืองต่างพากันนินทาข้าพเจ้า
และคนดื่มเบียร์ก็แต่งเพลงล้อเลียนข้าพเจ้า
13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเพียงอธิษฐานขอให้พระองค์ยอมรับข้าพเจ้าเท่านั้น
ข้าแต่พระเจ้าโปรดตอบข้าพเจ้าด้วยความรักมั่นคงของพระองค์
และด้วยฤทธิ์อำนาจแห่งการช่วยกู้ที่พึ่งพิงได้ของพระองค์
14 โปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากโคลนตมนี้ด้วยเถิด
เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่จมลึกไปกว่านี้
โปรดช่วยข้าพเจ้าให้หนีรอดจากคนเหล่านั้นที่เกลียดชังข้าพเจ้า
และจากน้ำที่ลึกนี้ด้วยเถิด
15 ขออย่าให้น้ำท่วมท้นข้าพเจ้า
และอย่าให้น้ำลึกดูดกลืนข้าพเจ้าลงไป
ขออย่าให้หลุมฝังศพงับข้าพเจ้าเลย
16 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดตอบข้าพเจ้าด้วย เพราะความรักมั่นคงของพระองค์นั้นดี
โปรดหันหน้าของพระองค์มาทางข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะความเมตตาของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
17 โปรดอย่าได้ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์เลย
ข้าพเจ้ากำลังตกอยู่ในความทุกข์ยาก ดังนั้น ช่วยตอบข้าพเจ้าโดยเร็วด้วยเถิด
18 โปรดเข้ามาใกล้ และไถ่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
โปรดช่วยปลดปล่อยให้ข้าพเจ้าเป็นอิสระจากศัตรูของข้าพเจ้าด้วยเถิด
5 คนฉลาดนั้นมีพลังยิ่งกว่าคนแข็งแรง
คนที่มีความรู้นั้นมีพลังยิ่งกว่าคนมีกำลังมาก
6 เจ้าต้องมีกลยุทธ์ที่ดีในการทำสงคราม
ถ้ามีที่ปรึกษามากๆก็จะชนะ
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International