Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the GW. Switch to the GW to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 54:1-57:14

พระยาห์เวห์นำคนของพระองค์กลับบ้าน

54 พระยาห์เวห์พูดว่า “เยรูซาเล็ม หญิงที่เป็นหมันเอ๋ย
    ร้องตะโกนออกมาด้วยความยินดี
เจ้าที่ไม่เคยเจ็บท้องคลอดมาก่อน ระเบิดเสียงออกมาเป็นเพลงเลย
    ถึงแม้เจ้าจะถูกทอดทิ้งแต่ก็จะมีลูกมากกว่าหญิงที่อยู่กับสามีเสียอีก
ขยายที่สำหรับเต็นท์ของเจ้าให้กว้างขึ้น
    กางม่านเต็นท์ของเจ้าให้ยาวออกไปให้เต็มที่ไปเลย
ต่อเชือกของเต็นท์เจ้าให้ยาวขึ้น
    และทำให้หลักหมุดแข็งแรงขึ้น
เพราะเจ้าจะขยายไปทางซ้ายและขวา
    ลูกหลานของเจ้าจะไปยึดครองดินแดนของชนชาติต่างๆ
    และตั้งรกรากอยู่ในเมืองร้างต่างๆ
ไม่ต้องกลัว เพราะเจ้าจะไม่ต้องอับอาย
    และไม่ต้องหมดกำลังใจเพราะเจ้าจะไม่ต้องขายหน้า
เจ้าจะลืมความอับอายในวัยสาวของเจ้า
    และเจ้าก็จะไม่ต้องหวนคิดถึงความอับอายของเจ้าตอนเป็นหม้ายอีกต่อไป
ผู้สร้างเจ้าคือสามีของเจ้า
    ชื่อของพระองค์คือพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
พระผู้ไถ่ของเจ้าคือผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
    และคนเรียกพระองค์ว่าพระเจ้าของโลกทั้งสิ้น
พระยาห์เวห์ได้เรียกเจ้ากลับมาหาพระองค์
    เหมือนกับภรรยาที่เคยถูกสามีทิ้งและตรอมตรมใจ
เหมือนกับภรรยาที่ยังเป็นสาวแต่ถูกทิ้ง”
    พระเจ้าของเจ้าพูดว่าอย่างนั้น
“เราได้ทิ้งเจ้าไปแค่ประเดี๋ยวเดียว
    แต่ด้วยความเมตตาอย่างใหญ่หลวง เราจะนำเจ้ากลับมา
เราได้หลบหน้าไปจากเจ้าชั่วขณะหนึ่ง
    เพราะเราโกรธแค้นอย่างล้นเหลือ
แต่เราจะแสดงความเมตตาต่อเจ้า เพราะความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด”
    พระยาห์เวห์ผู้ที่ไถ่เจ้าไว้ พูดไว้ว่าอย่างนั้น

“เรามองว่าเรื่องนี้เป็นเหมือนในสมัยของโนอาห์
    ตอนที่เราสาบานว่าน้ำที่ท่วมในสมัยโนอาห์จะไม่มีวันท่วมโลกอีก
    ตอนนี้เราสาบานว่าเราจะไม่โกรธเจ้าหรือลงโทษเจ้าอีก

10 ถึงแม้พวกภูเขาจะเคลื่อนไป
    และเนินเขาต่างๆจะสั่นคลอน
แต่ความรักมั่นคงของเราจะไม่มีวันเคลื่อนไปจากเจ้า
    และข้อตกลงที่เราสัญญาว่าจะให้สันติภาพนั้นก็จะไม่มีวันสั่นคลอน
    พระยาห์เวห์ ที่เมตตาเจ้า พูดไว้ว่าอย่างนี้

11 เมืองที่เดือดร้อนเอ๋ย
    ศัตรูมาโจมตีเจ้าเหมือนกับพายุและไม่มีใครปลอบโยนเจ้า
ดูสิ ตอนนี้เราจะก่อหินต่างๆของเจ้าขึ้นด้วยปูนที่สวยงาม
    เราจะวางฐานรากของเจ้าและฝังด้วยพลอยสีน้ำเงิน
12 เราจะสร้างพวกหอคอยของเจ้าฝังด้วยทับทิม
    และพวกประตูเมืองฝังด้วยเพชรพลอย
    และกำแพงด้านนอกทั้งหมดจะฝังด้วยพลอยที่มีค่า
13 พระยาห์เวห์จะเป็นผู้ที่สอนลูกๆของเจ้าทั้งหมด
    และลูกๆของเจ้าจะมีความเจริญรุ่งเรืองมหาศาล
14 เจ้าจะได้รับการก่อตั้งให้มั่นคง
    ด้วยความยุติธรรมของเราที่ให้เจ้ารอดพ้น
เจ้าจะอยู่ห่างไกลจากการกดขี่ข่มเหง เจ้าจะได้ไม่ต้องกลัว
    และไม่ต้องสยดสยองเพราะมันจะไม่เข้ามาใกล้เจ้า
15 ถ้าในภายหลังมีใครมาโจมตีเจ้า
    เรื่องนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเราหรอก
    ใครก็ตามที่จะมาโจมตีเจ้า มันก็จะพ่ายแพ้เจ้า
16 ดูสิ เราเป็นทั้งผู้สร้างช่างตีเหล็ก คนที่โหมถ่านให้ลุกในไฟเพื่อผลิตอาวุธต่างๆ
    เราก็สร้างพวกทหารเพื่อทำลายด้วยเหมือนกัน
17 แต่อาวุธที่คนสร้างขึ้นมาเพื่อสู้กับเจ้าจะไม่สามารถทำร้ายเจ้าได้เลย
    และทุกคนที่ฟ้องร้องเจ้าในศาล เจ้าก็จะสามารถโต้แย้งได้หมด
นี่แหละคือมรดกของพวกผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์
    และนี่แหละคือชัยชนะที่เราให้กับพวกเขา”
    พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนั้น

คำเชิญจากพระยาห์เวห์

55 พระยาห์เวห์พูดว่า “เฮ้ย พวกเจ้าที่หิวน้ำ มาที่น้ำสิ
    เฮ้ย พวกเจ้าที่ไม่มีเงิน มาสิ มาซื้อและกินซะ
มาสิ มาซื้อเหล้าองุ่นและนม
    ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องคิดราคา
ทำไมเจ้าถึงเอาเงินของเจ้าไปซื้อของกินที่ไม่ใช่อาหารที่มีประโยชน์
    ทำไมเจ้าถึงเอาค่าแรงไปซื้อสิ่งที่ไม่ได้ทำให้เจ้าอิ่มจริงๆ
ฟังเราให้ดี และเจ้าจะได้กินของดี
    และเจ้าก็จะได้มีความสุขกับอาหารชั้นเลิศ
เอียงหูมา และเข้ามาหาเรา
    ฟังให้ดี เพื่อเจ้าจะได้มีชีวิต
เราจะทำข้อตกลงอันถาวรกับเจ้า
    เป็นสัญญาที่เชื่อถือได้ที่จะสัตย์ซื่อต่อดาวิดตลอดไป
ดูสิ เราทำให้เขาเป็นพยานให้กับชนชาติต่างๆ
    เราทำให้เขาเป็นผู้ครอบครองและเป็นแม่ทัพของชนชาติต่างๆ

ดูสิ เจ้าจะเรียกชนชาติต่างๆที่เจ้าไม่เคยรู้จัก
    และชนชาติต่างๆที่ไม่เคยรู้จักเจ้านั้นก็จะวิ่งมาหาเจ้า
เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
    ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล ได้ให้เกียรติกับเจ้า
ให้แสวงหาพระยาห์เวห์ในขณะที่ยังสามารถหาพระองค์เจอ
    ให้เรียกพระองค์ ในขณะที่พระองค์ยังอยู่ใกล้
ให้คนชั่วทิ้งทางของพวกเขาได้แล้ว
    ให้คนที่เลวทรามทิ้งความคิดชั่วๆของพวกเขาได้แล้ว
ให้พวกเขาหันมาหาพระยาห์เวห์ แล้วพระองค์จะเมตตาพวกเขา
    ให้พวกเขาหันมาหาพระเจ้าของเราเพราะพระองค์จะอภัยให้กับพวกเขาอย่างไม่จำกัด”

พระยาห์เวห์พูดว่า “ความคิดต่างๆของเราไม่เหมือนกับความคิดต่างๆของเจ้า
    และทางทั้งหลายของเจ้าก็ไม่เหมือนกับทางทั้งหลายของเรา
ท้องฟ้าอยู่สูงกว่าพื้นดินขนาดไหน
    ทางทั้งหลายของเราก็อยู่สูงกว่าทางทั้งหลายของเจ้าขนาดนั้น
    และความคิดต่างๆของเราก็อยู่สูงกว่าความคิดต่างๆของเจ้าขนาดนั้นด้วย

10 ฝนและหิมะที่ตกลงมาจากท้องฟ้าจะไม่หวนกลับไปบนท้องฟ้า
    จนกว่าจะทำให้พื้นเปียก
จนกว่าจะทำให้พื้นดินผลิดอกออกผลและแตกหน่อ
    จนกว่าจะให้เมล็ดข้าวกับผู้หว่านและให้อาหารกับคนกิน
11 เช่นนั้นแหละ คำพูดของเราเมื่อออกจากปากของเราแล้ว
    จะไม่หวนกลับมาหาเราเปล่าๆ
คำพูดของเราจะทำให้สิ่งต่างๆที่เราต้องการเกิดขึ้น
    คำพูดของเราจะทำสิ่งที่เราส่งให้มันไปทำจนสำเร็จ”

12 พวกเจ้าจะออกไปด้วยความยินดี จะถูกนำกลับไปบ้านด้วยสันติสุข
    พวกภูเขาและเนินเขาจะระเบิดเสียงเพลงออกมาต่อหน้าเจ้า
    และต้นไม้ทั้งหมดในท้องทุ่งก็จะปรบมือของพวกมัน
13 ต้นสนต่างๆจะงอกขึ้นมาแทนที่พงหนาม
    ไม้พุ่มหอมจะงอกขึ้นมาแทนที่พวกหญ้าคา
และทั้งหมดนี้ก็จะเป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงพระยาห์เวห์[a]
    เป็นเครื่องพิสูจน์ที่จะไม่มีวันถูกทำลายถึงอำนาจของพระองค์

ทุกๆชนชาติจะติดตามพระยาห์เวห์

56 พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้
    “รักษาความยุติธรรมไว้ ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
เพราะการช่วยกู้ของเราจะมาถึงเจ้าในเร็วๆนี้
    และความยุติธรรมของเราที่ให้เจ้ารอดพ้น จะถูกเปิดเผยในไม่ช้านี้
คนที่ทำอย่างนั้น คนที่รักษามันไว้มีเกียรติจริงๆ
    เขารักษากฎวันหยุดทางศาสนาและไม่ได้ละเมิดมัน
    เขายั้งมือไว้จากการทำชั่วทุกชนิด”
คนต่างชาติที่มาติดตามพระยาห์เวห์ไม่ควรจะพูดว่า
    “พระยาห์เวห์จะต้องแยกผมออกจากคนของพระองค์แน่ๆ”
และขันทีก็ไม่ควรจะพูดว่า “ดูสิ ผมเป็นเหมือนกับต้นไม้ที่เหี่ยวแห้งเพราะผมไม่สามารถมีลูกได้
    พระยาห์เวห์คงไม่รับผมแน่ๆ”
4-5 เราจะตั้งอนุสาวรีย์ให้กับพวกขันทีภายในกำแพงวิหารของเรา
    เป็นอนุสาวรีย์ที่ดีกว่าลูกชายและลูกสาว
เป็นอนุสาวรีย์ที่อยู่ถาวร ที่จะไม่มีวันถูกรื้อออกไป
    เราจะทำสิ่งนี้ให้กับพวกขันทีที่รักษากฎเกี่ยวกับวันหยุดทางศาสนาของเรา และเลือกทำสิ่งทั้งหลายที่เราชอบใจและยึดมั่นในคำสัญญาของเรา

6-7 “เราจะนำพวกคนต่างชาติไปยังภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา คือคนต่างชาติเหล่านั้นที่ติดตามเรายาห์เวห์ เพื่อรับใช้เรา รักเรา และเป็นผู้รับใช้ของเรา คือทุกคนที่รักษาวันหยุดทางศาสนาของเราและไม่ได้ละเมิดมัน และยึดมั่นในคำสัญญาของเรา

เราจะให้พวกเขาชื่นชมยินดีในบ้านของเรา ซึ่งเป็นบ้านแห่งการอธิษฐาน แล้วเราจะยอมรับเครื่องเผาบูชาและเครื่องสัตวบูชาอื่นๆของพวกเขาบนแท่นบูชาของเรา เพราะคนจะเรียกบ้านของเราว่า บ้านแห่งการอธิษฐาน สำหรับคนทุกชนชาติ”

พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ผู้ที่รวบรวมคนอิสราเอล ที่กระจัดกระจายไปนั้น พูดว่า “เราจะรวบรวมคนอื่นๆเข้ามาร่วมกับพวกเขา นอกเหนือจากที่ได้รวบรวมมาไว้แล้วนั้น”

ผู้นำอิสราเอลกินเก่ง

พวกเจ้า สัตว์ดุร้ายที่อยู่ในท้องทุ่ง
    พวกเจ้าสัตว์ที่อยู่ในป่า เข้ามากัดกินได้เลย
10 พวกคนยามของอิสราเอลนั้นตาบอด
    พวกเขาทั้งหมดไม่รู้เรื่องอะไรเลย
พวกเขาเป็นหมาเฝ้าบ้านที่เงียบ
    พวกเขาเห่าไม่เป็น
    เอาแต่นอน และเพ้อฝัน เอาแต่หลับ
11 หมาพวกนี้กินเก่งเหลือเกิน
    กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ
พวกเขาเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
    ต่างคนต่างทำตามใจตัวเอง
    ต่างคนต่างหาประโยชน์ใส่ตัวเหมือนกันหมดทุกคน
12 พวกเขาพูดว่า “มาสิ มาดื่มเหล้าองุ่นกัน
    ให้เราดื่มเบียร์กันอย่างเต็มที่
    พรุ่งนี้ก็จะสนุกเหมือนวันนี้หรืออาจจะสนุกกว่านี้อีก”

อิสราเอลไม่ได้ติดตามพระเจ้า

57 คนดีๆตาย แต่ก็ไม่มีใครสนใจ
    คนที่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้าถูกเอาไป ก็ไม่มีใครเข้าใจ
สาเหตุที่คนที่ดีๆถูกรับเอาไป
    เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องเจอกับเรื่องเดือดร้อนกว่านั้น
และพวกเขาก็จะเข้าไปสู่ความสงบสุข
    คนที่ใช้ชีวิตอย่างเที่ยงตรงก็จะได้พักผ่อนเมื่อนอนตายบนเตียงของเขา

แต่ส่วนพวกเจ้า มานี่เลย
    พวกเจ้าที่เป็นลูกๆของแม่มด
    พวกเจ้าที่เป็นลูกๆของคนเล่นชู้และโสเภณี
พวกเจ้าหัวเราะเยาะใครหรือ
    พวกเจ้าทำหน้าและแลบลิ้นใส่ใครหรือ
พวกเจ้าเป็นลูกที่ชอบกบฏ
    เป็นลูกหลานที่ชอบหลอกลวง ไม่ใช่หรือ
พวกเจ้าเผาผลาญไปด้วยตัณหาราคะท่ามกลางพวกต้นโอ๊กอันศักดิ์สิทธิ์
    และใต้ต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทุกต้น[b] เจ้าได้ฆ่าลูกๆเพื่อเซ่นไหว้ในหุบเขาต่างๆตามซอกผาต่างๆ
หินเกลี้ยงในธารน้ำแห้งนั้นเป็นพวกพระของเจ้า พวกหินเหล่านั้นก็เลยเป็นส่วนแบ่งของเจ้า
    พวกมันเป็นมรดกของเจ้าไม่ใช่เรา
เจ้าได้เทเครื่องดื่มบูชาให้กับหินเหล่านั้น
    และพวกเจ้าได้นำเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชมาถวายให้กับพวกมัน
    เมื่อเห็นเรื่องต่างๆเหล่านี้ เจ้าคิดว่าเราจะพอใจและไม่ลงโทษเจ้าหรือ
เจ้าวางเตียงของเจ้าไว้บนภูเขาสูง
    แล้วเจ้าก็ขึ้นไปที่นั่นเพื่อถวายเครื่องบูชา
เจ้าตั้งรูปเคารพของเจ้าไว้ด้านหลังประตูและเสาประตู
    ใช่แล้ว เจ้าห่างไกลจากเรา
เจ้าทำตัวเปลือยเปล่าและปีนขึ้นไปบนเตียงของเจ้า
    และเปิดเตียงให้กว้าง
เจ้าก็ได้เสนอค่าตัวกับพวกมัน
    เจ้ารักเตียงของพวกมัน
    เจ้าจ้องมองอวัยวะเพศของพวกมัน
เจ้าเอาน้ำมันมะกอกเดินทางไปหาพระโมเลค[c]
    และเจ้าก็ใส่น้ำหอมของเจ้าซะมากมาย
เจ้าส่งพวกตัวแทนของเจ้าไปแดนไกล
    เจ้าส่งพวกเขาไปไกลถึงแดนคนตาย
10 เจ้าเริ่มเหนื่อยล้าจากการเดินทางบ่อยๆ
    แต่เจ้าไม่ยอมพูดว่า “แบบนี้คงจะไม่ได้อะไรแน่”
เจ้ามีกำลังขึ้นมาใหม่
    เจ้าจึงไม่เป็นลมไป
11 ตอนนั้นเจ้ายำเกรงและหวาดกลัวใครกัน
    เจ้าถึงได้โกหกและไม่ได้ระลึกถึงเราหรือคิดถึงเรา
เรายังเก็บตัวเงียบๆและซ่อนตัวอยู่
    เจ้าถึงได้ไม่ยำเกรงเรา ใช่ไหม
12 เราจะพูดถึงความดีและการงานต่างๆของเจ้าก็ได้
    แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้หรอก
13 เมื่อเจ้าร้องขอความช่วยเหลือ ก็ให้รูปปั้นที่เจ้าได้สะสมนั้นช่วยเจ้าก็แล้วกัน
    ลมจะพัดพวกมันไปหมด
    ลมจะเป่าพวกมันไปหมด
แต่คนที่ลี้ภัยในเราก็จะได้เป็นเจ้าของแผ่นดินนั้น และได้เป็นเจ้าของภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา

พระยาห์เวห์จะช่วยคนของพระองค์

14 พระองค์จะพูดว่า “สร้างมันขึ้นมา สร้างมันขึ้นมา เตรียมทางไว้
    กำจัดสิ่งกีดขวางต่างๆออกไปจากทางของคนของเรา”

เอเฟซัส 6

ลูกกับพ่อแม่

พวกคุณที่เป็นลูกๆ ต้องเชื่อฟังพ่อแม่ของตน ในฐานะที่คุณมีส่วนในองค์เจ้าชีวิต เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง กฎที่ว่า “ให้เกียรติพ่อแม่ของตน”[a] นี่เป็นกฎข้อแรกที่มีคำสัญญาพ่วงมาด้วย “คือคุณจะเจริญรุ่งเรืองในทุกสิ่ง และอายุยืนยาวในแผ่นดินนี้”[b]

พวกคุณที่เป็นพ่อ อย่ายั่วยุลูกของตนให้โกรธ แต่ให้เลี้ยงดูเขาด้วยการอบรมสั่งสอน และเตือนสติตามแนวทางขององค์เจ้าชีวิต

ทาสกับเจ้านาย

พวกคุณที่เป็นทาส ต้องเชื่อฟังเจ้านายฝ่ายโลกนี้ ควรเกรงกลัวจนตัวสั่นด้วยความจริงใจ เหมือนที่ทำกับพระคริสต์ อย่าทำเป็นขยันแค่ต่อหน้าเมื่อมีคนมองเพื่อประจบสอพลอ แต่ควรจะทำงานเหมือนกับเป็นทาสของพระคริสต์ ที่เต็มใจทำตามความต้องการของพระเจ้า ให้เต็มใจรับใช้เหมือนกับที่ทำต่อองค์เจ้าชีวิตไม่ใช่ต่อมนุษย์ จำไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นทาสหรือเป็นคนอิสระก็ตาม ถ้าทำความดีก็จะได้รับสิ่งตอบแทนจากองค์เจ้าชีวิต

ในทำนองเดียวกัน พวกคุณที่เป็นเจ้านายอย่าได้ข่มขู่ทาสของตน จำไว้ว่าเจ้านายของคุณและของเขาก็อยู่บนสวรรค์ และพระองค์ก็ไม่ลำเอียงเข้าข้างใคร

จงสวมชุดเกราะของพระเจ้า

10 สุดท้ายนี้ ขอให้เข้มแข็งในองค์เจ้าชีวิต และในฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ 11 สวมชุดเกราะที่พระเจ้ามอบให้อย่างเต็มยศ แล้วพวกคุณจะสามารถยืนขึ้นต่อสู้แผนการของมารร้าย 12 เพราะพวกเราไม่ได้ต่อสู้กับมนุษย์ แต่ต่อสู้กับพวกผู้ครอบครอง พวกผู้มีอำนาจ ต่อสู้กับพวกเทพเจ้าที่ครองโลกมืดนี้ และต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วร้ายในโลกฝ่ายวิญญาณ 13 เพราะอย่างนี้ ให้สวมชุดเกราะที่พระเจ้ามอบให้อย่างเต็มยศ เพื่อคุณจะสามารถยืนหยัดได้เมื่อวันอันชั่วร้ายมาถึง และเมื่อทุกอย่างจบสิ้นแล้ว พวกคุณก็ยังคงยืนหยัดต่อไปได้ 14 ดังนั้นให้ยืนหยัดไว้ เอาความจริงรัดเอวไว้เหมือนเข็มขัด เอาชีวิตที่พระเจ้าชอบใจมาสวมเป็นเกราะป้องกันอก 15 เอาใจที่พร้อมจะประกาศข่าวดีเรื่องสันติสุขมาสวมเป็นรองเท้า 16 นอกจากนี้แล้ว ให้เอาความเชื่อเป็นโล่ ที่พวกคุณจะใช้กันลูกธนูไฟทั้งหมดที่มารร้ายยิงเข้าใส่ 17 ให้เอาความรอดเป็นหมวกเหล็ก และให้ถือดาบของพระวิญญาณ ซึ่งก็คือถ้อยคำของพระเจ้า 18 ในทุกโอกาสและทุกเรื่องที่คุณอธิษฐานหรือขอร้อง ก็ให้อธิษฐานด้วยความช่วยเหลือของพระวิญญาณ ด้วยเหตุนี้ ให้ตื่นตัวและอธิษฐานตลอดเวลาสำหรับทุกคนที่เป็นของพระเจ้า

19 ให้อธิษฐานเผื่อผมด้วย เพื่อเมื่อเวลาที่ผมเปิดปากพูด พระเจ้าจะให้คำพูดกับผม เพื่อผมจะได้เปิดเผยเรื่องลึกลับของข่าวดีนี้อย่างกล้าหาญ 20 ผมก็เป็นทูตของพระเจ้าที่กำลังประกาศข่าวดีนี้อยู่ในคุก ช่วยอธิษฐานให้ผมกล้าที่จะประกาศข่าวดีนี้ ตามที่ผมควรจะพูดด้วย

คำอวยพรสุดท้าย

21 ทีคิกัส ที่เป็นพี่น้องที่รัก และเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ขององค์เจ้าชีวิต จะเล่าเรื่องทั้งหมดของผมให้คุณฟังว่าเป็นอย่างไรบ้างและทำอะไรอยู่ 22 ผมส่งเขามาเพื่อคุณจะได้รู้ข่าวคราวของเราและเพื่อเขาจะได้ให้กำลังใจคุณด้วย

23 ขอให้พระเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์เจ้า ให้สันติสุข ความรักและความเชื่อกับพวกคุณ 24 ขอให้พระเจ้าให้ความเมตตากรุณากับพวกคุณทุกคนที่รักพระเยซูคริสต์เจ้าของเราอย่างไม่เสื่อมคลาย

สดุดี 70

พระยาห์เวห์รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วย

(สดด. 40:13-17)

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงของดาวิด เพื่อเรียกความสนใจจากพระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยกู้ข้าพเจ้าด้วยเถิด
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
ขอให้คนเหล่านั้นที่มุ่งเอาชีวิตของข้าพเจ้าได้รับความอับอาย และพบกับความพ่ายแพ้
    ขอให้คนเหล่านั้นที่อยากจะทำร้ายข้าพเจ้าพากันล่าถอยกลับไปและได้รับความอัปยศอดสู
ขอให้คนพวกนั้นที่พูดเยาะเย้ยว่า “เสร็จแน่ เสร็จแน่”
    ได้รับความอับอายมากซะจนพูดไม่ออก

ขอให้คนเหล่านั้นที่เสาะแสวงหาพระองค์ มีความชื่นชมยินดี และมีความสุข
    ขอให้คนเหล่านั้นที่รักความรอดที่มาจากพระองค์ ได้พูดแล้วพูดอีกว่า “พระเจ้านั้นยิ่งใหญ่”
ข้าพเจ้านั้นยากจนและไม่มีใครช่วยเหลือ
    ข้าแต่พระเจ้า รีบมาหาข้าพเจ้าด้วย
พระองค์ เป็นผู้ที่ช่วยเหลือข้าพเจ้าและผู้ช่วยกู้ข้าพเจ้า
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าได้ชักช้าอยู่เลย

สุภาษิต 24:8

บางคนก็วางแผนที่จะทำชั่วอยู่เสมอ
    คนอย่างนี้ได้ชื่อว่า “คนเจ้าเล่ห์”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International