The Daily Audio Bible
Today's audio is from the NRSVUE. Switch to the NRSVUE to read along with the audio.
ดาวิดสั่งการเรื่องการสร้างพระวิหาร
28 ที่เยรูซาเล็ม ดาวิดเรียกประชุมบรรดาผู้ปฏิบัติหน้าที่ทั้งปวงของอิสราเอลคือ บรรดาผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำเผ่า ประจำกองเวรที่รับใช้กษัตริย์ บรรดาผู้บัญชาการกองพันและกองร้อย ผู้ดูแลสมบัติทั้งสิ้นและฝูงปศุสัตว์ของกษัตริย์และบรรดาบุตรของท่าน พร้อมกับผู้ปฏิบัติหน้าที่ของวังกษัตริย์ ทหารกล้า และนักรบผู้เก่งกล้า 2 และกษัตริย์ดาวิดยืนขึ้นกล่าวว่า “พี่น้องและประชาชนของเรา ขอฟังเรา เรานึกอยู่ในใจว่าจะสร้างพระตำหนักเป็นที่พักสำหรับหีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า และเพื่อเป็นที่วางเท้าของพระเจ้าของพวกเรา และเราก็ได้เตรียมสิ่งของสำหรับการก่อสร้างแล้ว 3 แต่พระเจ้ากล่าวกับเราว่า ‘เจ้าจะไม่สร้างตำหนักเพื่อยกย่องนามของเรา เพราะว่าเจ้าเป็นนักรบ และได้ทำให้คนหลั่งเลือด’ 4 ถึงกระนั้น พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลเลือกเราจากตระกูลของเรา เพื่อปกครองอิสราเอลเป็นนิตย์ เพราะว่าพระองค์เลือกยูดาห์ให้เป็นผู้นำ และจากตระกูลยูดาห์ พระองค์เลือกครอบครัวของเรา และในบรรดาบุตรของบิดาของเรา พระองค์พอใจในตัวเรา และให้เราเป็นผู้ปกครองทั่วอิสราเอล 5 และในบรรดาบุตรของเรา (ด้วยว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ให้เรามีบุตรหลายคน) พระองค์ก็ได้เลือกซาโลมอนบุตรของเรา ให้นั่งบนบัลลังก์ของอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อปกครองอิสราเอล 6 พระองค์กล่าวกับเราว่า ‘ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะเป็นผู้สร้างตำหนักและลานตำหนักของเรา เพราะว่าเราได้เลือกเขาให้เป็นบุตรของเรา และเราจะเป็นบิดาของเขา 7 เราจะสร้างอาณาจักรของเขาตลอดไปเป็นนิตย์ ถ้าเขาปฏิบัติตามคำบัญญัติและกฎเกณฑ์ดังที่เขาทำอยู่ในวันนี้’ 8 ฉะนั้น ต่อหน้าอิสราเอลทั้งปวง และคณะประชุมของพระผู้เป็นเจ้า และพระเจ้าได้ยินเป็นพยาน พวกท่านจงรักษาและระมัดระวังปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน เพื่อพวกท่านจะเป็นเจ้าของแผ่นดินอันงามนี้ และมอบให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานของพวกท่านที่มาภายหลังสืบไปเป็นนิตย์
ดาวิดสั่งการซาโลมอน
9 ส่วนเจ้า ซาโลมอนบุตรของเรา จงรู้จักพระเจ้าของบรรพบุรุษของเจ้า และรับใช้พระองค์อย่างสุดดวงใจและสุดดวงจิต และด้วยความเต็มใจ เพราะพระผู้เป็นเจ้าชั่งใจของทุกคน และเข้าใจแผนการณ์และความคิดทั้งสิ้น ถ้าเจ้าแสวงหาพระองค์ เจ้าก็จะพบพระองค์ แต่ถ้าเจ้าทอดทิ้งพระองค์ พระองค์จะเหวี่ยงเจ้าออกไปตลอดกาล 10 เจ้าจงระมัดระวัง เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าได้เลือกเจ้าให้เป็นผู้สร้างพระตำหนักให้เป็นที่พำนัก จงเข้มแข็งและดำเนินงานให้สำเร็จ”
11 แล้วดาวิดก็มอบแบบมุขพระวิหาร แบบห้องต่างๆ ของพระตำหนัก คลังและห้องชั้นบน ห้องชั้นใน และห้องทำพิธีชดใช้บาป ให้แก่ซาโลมอนบุตรของท่าน 12 และแบบรายละเอียดทุกอย่างตามที่ท่านคิดเตรียมไว้สำหรับลานพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ห้องต่างๆ โดยรอบ คลังพระตำหนักของพระเจ้า และคลังสำหรับเก็บสิ่งบริสุทธิ์ 13 ท่านให้คำกำกับแก่กองเวรปุโรหิตและของชาวเลวี สำหรับงานปฏิบัติทุกแผนกในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า สำหรับภาชนะทั้งสิ้นสำหรับงานปฏิบัติในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 14 ท่านเจาะจงน้ำหนักทองคำสำหรับภาชนะทองคำทั้งสิ้นเพื่อปฏิบัติงานแต่ละอย่าง น้ำหนักเงินของภาชนะเงินเพื่อปฏิบัติงานแต่ละอย่าง 15 น้ำหนักของคันประทีปทองคำและดวงประทีป น้ำหนักทองคำสำหรับตีคันประทีปและดวงประทีปแต่ละคัน น้ำหนักเงินสำหรับตีคันประทีป 1 คันและดวงประทีป ตามที่จะใช้คันประทีปแต่ละคันในการปฏิบัติงาน 16 น้ำหนักทองคำสำหรับหุ้มโต๊ะตั้งขนมปังไร้เชื้อแต่ละตัว และเงินสำหรับหุ้มโต๊ะเงิน 17 ทองบริสุทธิ์สำหรับตีส้อม หล่ออ่างน้ำ โถ และน้ำหนักทองคำสำหรับหล่ออ่างแต่ละใบ น้ำหนักเงินสำหรับหล่ออ่างเงินแต่ละใบ 18 น้ำหนักทองคำหลอมบริสุทธิ์สำหรับหุ้มแท่นบูชาเครื่องหอม และแบบรถศึกที่มีตัวเครูบกางปีกปกหีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า 19 ดาวิดกล่าวว่า “พระองค์ให้ความกระจ่างแก่เราเป็นลายลักษณ์อักษรที่มาจากพระผู้เป็นเจ้า งานทุกชิ้นจะต้องทำตามแบบที่วางไว้”
20 และดาวิดกล่าวกับซาโลมอนบุตรของท่านว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวหรือหวาดหวั่น เพราะพระเจ้าของเรา พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าสถิตกับเจ้า พระองค์จะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังหรือทอดทิ้งเจ้าไป จนกว่างานทุกอย่างเพื่อการรับใช้พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าจะเสร็จสิ้น 21 ดูเถิด กองเวรปุโรหิต และชาวเลวีที่ปฏิบัติงานของพระตำหนักของพระเจ้า พร้อมจะปฏิบัติงานทุกชิ้นด้วยกับเจ้า ทุกคนที่เต็มใจล้วนมีความชำนาญในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และประชาชนทั้งปวง ก็จะยินดีรับคำสั่งจากเจ้า”
เครื่องสักการะสำหรับพระตำหนัก
29 ดาวิดผู้เป็นกษัตริย์กล่าวแก่ทุกคนในที่ประชุมว่า “ซาโลมอนบุตรของเรา เป็นคนเดียวที่พระเจ้าได้เลือก เป็นคนหนุ่มและยังอ่อนหัด งานก็ใหญ่มาก เพราะว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่สำหรับมนุษย์ แต่สำหรับพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้า 2 ดังนั้นเราได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้สำหรับพระเจ้าของเรา เท่าที่เราจะสามารถทำได้ มีทองคำสำหรับสิ่งที่หล่อด้วยทอง เงินสำหรับสิ่งที่หล่อด้วยเงิน และทองสัมฤทธิ์สำหรับสิ่งที่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ เหล็กสำหรับสิ่งที่หล่อด้วยเหล็ก และไม้สำหรับสิ่งที่สร้างด้วยไม้ รวมถึงกรอบที่ฝังพลอยหลากสี พลอยสีฟ้า พลอยหลากสี อัญมณีหลากชนิดและหินอ่อนจำนวนมาก 3 ยิ่งกว่านั้นอีก มีสิ่งที่เราได้เตรียมเพิ่มสำหรับพระตำหนักอันบริสุทธิ์คือ เรามีสมบัติส่วนตัวที่เป็นทองคำและเงิน และเพื่อเป็นการอุทิศแก่พระตำหนักของพระเจ้าของเรา เราขอมอบให้แก่พระตำหนักของพระเจ้าของเรา 4 เป็นทองคำหนัก 3,000 ตะลันต์ ทองคำจากโอฟีร์ และเงินหลอมบริสุทธิ์หนัก 7,000 ตะลันต์ สำหรับฝังลายที่กำแพงพระตำหนัก 5 และสำหรับงานทั้งหมดที่ให้ช่างมีฝีมือทำ ทองคำสำหรับสิ่งที่หล่อด้วยทองคำ และเงินสำหรับสิ่งที่หล่อด้วยเงิน มีผู้ใดบ้างที่จะมอบให้ด้วยความเต็มใจ ถวายตัวในวันนี้แด่พระผู้เป็นเจ้า”
6 แล้วบรรดาหัวหน้าของตระกูลก็ได้มอบของถวายด้วยความสมัครใจ บรรดาหัวหน้าเผ่า ผู้บัญชาการกองพันและกองร้อย และบรรดาผู้ปฏิบัติงานให้กษัตริย์ก็กระทำเช่นเดียวกัน 7 สิ่งที่เขาเหล่านั้นมอบให้เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานของพระตำหนักของพระเจ้า มีดังต่อไปนี้คือ ทองคำ 5,000 ตะลันต์[a]และ 10,000 ดาริค[b] เงิน 10,000 ตะลันต์ ทองสัมฤทธิ์ 18,000 ตะลันต์ และเหล็ก 100,000 ตะลันต์ 8 และผู้ที่มีเพชรพลอยก็มอบให้แก่กรมคลังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ภายใต้การดูแลของเยฮีเอลชาวเกอร์โชน 9 แล้วประชาชนก็ร่าเริงใจเพราะว่าพวกเขาได้มอบให้ด้วยความสมัครใจ พวกเขาได้มอบแด่พระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดใจ ดาวิดผู้เป็นกษัตริย์ก็ปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ดาวิดอธิษฐานในที่ประชุม
10 ฉะนั้น ดาวิดจึงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าต่อหน้าทุกคนในที่ประชุม และดาวิดกล่าวว่า “โอ สรรเสริญพระองค์ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลบรรพบุรุษของเรา จากนิรันดร์กาลจนถึงนิรันดร์กาล 11 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเกียรติ อานุภาพ พระบารมี ความมีชัย และความยิ่งใหญ่ ทุกสิ่งในสวรรค์และแผ่นดินโลกเป็นของพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า อาณาจักรเป็นของพระองค์ และพระองค์ได้รับการยกย่องเป็นเจ้านายเหนือสรรพสิ่ง 12 ความมั่งมีและเกียรติมาจากพระองค์ และพระองค์ปกครองเหนือสิ่งทั้งปวง อานุภาพและพละกำลังอยู่ในมือของพระองค์ และทุกสิ่งจะยิ่งใหญ่และมีพละกำลังได้ก็ขึ้นอยู่กับมือของพระองค์ 13 โอ พระเจ้าของเราทั้งหลาย บัดนี้เราทั้งหลายขอบคุณพระองค์ และสรรเสริญพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
14 แต่ข้าพเจ้าเป็นผู้ใด และประชาชนของข้าพเจ้าเป็นผู้ใด ที่เราทั้งหลายจะมอบถวายได้ด้วยความเต็มใจเช่นนี้ เพราะว่าทุกสิ่งมาจากพระองค์ และเรามอบแด่พระองค์ด้วยสิ่งที่มาจากพระองค์เท่านั้น 15 เพราะว่าเราเป็นผู้อพยพและคนต่างถิ่นในสายตาของพระองค์ เช่นเดียวกับบรรพบุรุษทั้งหลายของเรา วันเวลาของเราทั้งหลายเป็นเหมือนเงา และจะหวังพึ่งก็ไม่ได้ 16 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา สิ่งที่เราได้จัดเตรียมมากมาย เพื่อสร้างพระตำหนักแด่พระองค์ เพื่อพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ ก็มาจากมือของพระองค์ และเป็นของพระองค์ทั้งสิ้น 17 พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทราบว่า พระองค์ทดสอบจิตใจ และยินดีในความเที่ยงธรรม จากความเที่ยงธรรมในจิตใจของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอมอบสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นด้วยความสมัครใจ และบัดนี้ข้าพเจ้าได้เห็นชนชาติของพระองค์ ซึ่งอยู่ ณ ที่นี้ ต่างก็มอบแด่พระองค์ด้วยความสมัครใจและความยินดี 18 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอล ผู้เป็นบรรพบุรุษของเรา ขอพระองค์รักษาความตั้งใจและความคิดเช่นนี้ให้อยู่ในจิตใจของชนชาติของพระองค์ไปตลอดกาล และช่วยนำพาจิตใจของพวกเขาให้ภักดีต่อพระองค์ 19 ขอพระองค์โปรดให้ซาโลมอนบุตรของข้าพเจ้าปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ ตามคำสั่ง และกฎเกณฑ์ของพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ และกระทำทุกสิ่งเพื่อสร้างวังที่ข้าพเจ้าได้ตระเตรียมให้เรียบร้อยแล้ว”
20 ครั้นแล้ว ดาวิดก็กล่าวแก่ทุกคนในที่ประชุมว่า “สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน” และทุกคนในที่ประชุมสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขาทั้งปวง และก้มศีรษะ และแสดงความเคารพต่อพระผู้เป็นเจ้าและกษัตริย์ 21 และเขาทั้งหลายมอบเครื่องสักการะแด่พระผู้เป็นเจ้า และในวันรุ่งขึ้นก็มอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า ด้วยโคหนุ่ม 1,000 ตัว แพะหนุ่ม 1,000 ตัว และลูกแกะตัวผู้ 1,000 ตัว พร้อมด้วยเครื่องดื่มบูชา และเครื่องสักการะมากมายเพื่ออิสราเอลทั้งปวง 22 เขาทั้งหลายรับประทานและดื่ม ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าในวันนั้นด้วยความยินดียิ่ง
ซาโลมอนได้รับการเจิมเป็นกษัตริย์
และเขาทั้งหลายรับซาโลมอนบุตรของดาวิดเป็นกษัตริย์เป็นครั้งที่สอง และเจิมท่านให้เป็นผู้นำถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า และให้ศาโดกเป็นปุโรหิต
23 แล้วซาโลมอนก็ครองบัลลังก์ของพระผู้เป็นเจ้า เป็นกษัตริย์แทนดาวิดบิดาของท่าน และท่านมีความเจริญ และอิสราเอลทั้งปวงเชื่อฟังท่าน 24 บรรดาหัวหน้าและทหารกล้า รวมทั้งบรรดาบุตรทั้งปวงของกษัตริย์ดาวิดด้วย ก็สาบานตัวต่อกษัตริย์ซาโลมอน 25 และพระผู้เป็นเจ้าโปรดให้ซาโลมอนเป็นผู้ยิ่งใหญ่มากในสายตาของอิสราเอลทั้งปวง และประทานเกียรติอันสูงส่ง อย่างที่ไม่เคยมีกษัตริย์อื่นใดในอิสราเอลได้รับมาก่อน
ดาวิดสิ้นชีวิต
26 ดาวิดบุตรของเจสซีครองราชย์ทั่วทั้งอิสราเอล 27 ท่านปกครองอิสราเอลเป็นเวลา 40 ปี ท่านครองราชย์ 7 ปีในเฮโบรน และ 33 ปีในเยรูซาเล็ม 28 และท่านสิ้นชีวิตเมื่อมีอายุมาก สุขใจกับชีวิตอันยืนนาน มั่งคั่ง และมีเกียรติ และซาโลมอนครองราชย์แทนท่าน 29 ทุกสิ่งที่กษัตริย์ดาวิดกระทำ ตั้งแต่แรกจนถึงสุดท้ายก็ได้มีบันทึกไว้แล้วในประวัติของซามูเอลผู้รู้ และในประวัติของนาธานผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า และในประวัติของกาดผู้รู้ 30 พร้อมด้วยรายละเอียดเรื่องการปกครองของท่าน อานุภาพ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับท่านและอิสราเอล และกับอาณาจักรอื่นทั้งปวง
6 ขณะที่เรายังอ่อนกำลัง พระคริสต์ได้เสียชีวิตเพื่อคนที่ไร้คุณธรรมอย่างเราในเวลาที่เหมาะสม 7 หายากเหลือเกินที่จะมีใครตายเพื่อคนที่มีความชอบธรรม แต่อาจจะมีบางคนที่กล้าตายเพื่อคนดีก็ได้ 8 แต่พระเจ้าแสดงความรักของพระองค์เองต่อเรา คือพระคริสต์สิ้นชีวิตเพื่อเรา ขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่ 9 เราพ้นผิดแล้วโดยโลหิตของพระองค์ แล้วเราจะพ้นจากการลงโทษของพระเจ้าโดยพระองค์ยิ่งกว่านั้นเสียอีก 10 ถ้าขณะที่เราเป็นศัตรูของพระเจ้า เรากลับคืนดีกับพระองค์ได้ เนื่องจากการสิ้นชีวิตของพระบุตรของพระองค์ ยิ่งกว่านั้นอีกเมื่อเรากลับคืนดีแล้ว เราก็จะรอดพ้นอย่างแน่นอนโดยชีวิตของพระองค์ 11 ไม่เพียงเท่านี้ แต่เรายังชื่นชมยินดีในพระเจ้าด้วย โดยผ่านพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา เราได้กลับคืนดีกับพระเจ้าได้ก็เพราะพระองค์
เปรียบเทียบระหว่างอาดัมและพระคริสต์
12 ฉะนั้น บาปได้เข้ามาในโลกโดยผ่านคนๆ หนึ่ง และบาปนั้นนำความตายมาฉันใด ความตายก็แผ่ไปถึงมนุษย์ทุกคนฉันนั้น เพราะทุกคนทำบาป 13 บาปอยู่ในโลกก่อนที่พระเจ้าจะให้กฎบัญญัติ แต่ที่ใดไม่มีกฎก็ถือว่าบาปไม่ได้ละเมิดกฎ 14 ถึงกระนั้น ความตายก็ได้ครอบงำตั้งแต่อาดัมจนถึงโมเสส และครอบงำแม้แต่บรรดาผู้ที่ไม่ได้กระทำบาปอย่างที่อาดัมได้ละเมิดคำสั่ง อาดัมเป็นแบบขององค์ผู้ที่จะมาภายหลัง
15 แต่สิ่งที่พระเจ้ามอบให้นั้นไม่เหมือนการล่วงละเมิด ด้วยว่าถ้าการล่วงละเมิดของคนๆ เดียวเป็นเหตุให้คนมากมายต้องตาย พระคุณของพระเจ้ากับสิ่งที่มอบให้โดยพระคุณของพระเยซูคริสต์ผู้เดียว ย่อมหลั่งท่วมท้นให้แก่คนมากมายยิ่งกว่านั้นเสียอีก 16 และสิ่งที่พระเจ้ามอบให้นั้นไม่เหมือนกับผลที่เกิดจากบาปของคนๆ เดียวคือ การตัดสินเกิดขึ้นจากการทำบาปครั้งเดียว และผลที่ได้คือการกล่าวโทษ แต่สิ่งที่มอบให้นั้นเกิดขึ้นหลังจากการล่วงละเมิดหลายครั้ง และผลที่ได้กลับเป็นการพ้นผิด 17 ถ้าโดยการล่วงละเมิดของคนๆ เดียว ทำให้ความตายครอบงำเพราะคนๆ เดียวนั้น ยิ่งกว่านั้นที่บรรดาผู้ซึ่งได้รับทั้งพระคุณท่วมท้น และความชอบธรรมอันเป็นของประทาน ก็จะครอบครองชีวิตโดยผ่านพระองค์ผู้เดียว คือพระเยซูคริสต์
18 ฉะนั้น หากผลที่เกิดขึ้นจากการล่วงละเมิดครั้งเดียว คือการที่ทุกคนถูกกล่าวโทษฉันใด การกระทำอันมีความชอบธรรมครั้งเดียวก็เกิดผล คือการพ้นผิดอันนำมาซึ่งชีวิตสำหรับทุกคนฉันนั้น 19 คนๆ เดียวที่ไม่เชื่อฟังทำให้คนจำนวนมากเป็นคนบาปฉันใด พระองค์ผู้เดียวที่ได้เชื่อฟัง ก็จะทำให้คนจำนวนมากมีความชอบธรรมฉันนั้น 20 เมื่อมีกฎบัญญัติขึ้น ผลที่ตามมาคือการละเมิดเพิ่มขึ้น แต่ที่ใดมีบาปเพิ่มขึ้น ที่นั้นพระคุณก็มีเพิ่มมากยิ่งขึ้น 21 เพื่อว่า ตามที่บาปครอบงำซึ่งนำไปสู่ความตายฉันใด พระคุณก็ครอบครองด้วยความชอบธรรมให้ถึงชีวิตอันเป็นนิรันดร์ โดยพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราฉันนั้น
ใครบ้างจะอยู่ในที่บริสุทธิ์ของพระเจ้าได้
เพลงสดุดีของดาวิด
1 โอ พระผู้เป็นเจ้า ใครบ้างจะอยู่ในกระโจมที่พำนักของพระองค์ได้
ใครบ้างจะอาศัยอยู่บนภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์ได้
2 คนที่ดำเนินชีวิตโดยปราศจากข้อตำหนิใดๆ
เป็นคนที่ประพฤติด้วยความชอบธรรม
และพูดความจริงด้วยความจริงใจ
3 เป็นคนไม่ใช้ลิ้นกล่าวว่าร้าย
หรือกระทำสิ่งชั่วร้ายต่อเพื่อนของตน
และไม่ติเตียนเพื่อนบ้าน
4 เป็นผู้เหยียดหยามคนชั่ว
แต่ให้เกียรติคนที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
รักษาคำสาบานแม้จะเจ็บปวด
5 ให้คนยืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ย
ไม่รับสินบนต่อต้านผู้ไร้ความผิด
คนที่กระทำตามนี้จะมั่นคงเสมอ
18 จงสอนให้ลูกของเจ้ามีระเบียบวินัย ขณะที่ยังมีความหวัง
แต่อย่าถึงกับให้เขาต้องเสียชีวิต
19 คนอารมณ์ร้ายจะต้องได้รับการสนองตอบ
หากว่าเจ้าช่วยเขาให้รอดตัวจากความผิด เจ้าก็จะต้องช่วยเขาร่ำไป
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation