Bible in 90 Days
ให้จดจำถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์ทำให้
8 พวกท่านต้องเชื่อฟังและทำตามคำสั่งทุกข้อ ที่เราให้กับท่านในวันนี้อย่างระมัดระวัง เพื่อพวกท่านจะได้มีชีวิตและเพิ่มจำนวนมากขึ้นและได้เข้าไปเป็นเจ้าของแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน 2 ท่านต้องจดจำถึงการเดินทางในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งตลอดสี่สิบปีที่ผ่านมา ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้นำท่าน เพื่อท่านจะได้ถ่อมตัวลง พระองค์ได้ทดสอบท่าน เพื่อจะได้รู้ว่าท่านคิดอะไรอยู่ในใจ จะได้รู้ว่าท่านจะเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์หรือไม่ 3 พระยาห์เวห์ทำให้ท่านต้องทนทุกข์จากความหิวแล้วพระองค์ก็เลี้ยงพวกท่านด้วยมานา ที่ทั้งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน เพื่อที่พระองค์จะได้สอนท่านว่า คนเราไม่ได้มีชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว แต่คนเราจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกๆคำพูดที่ออกมาจากปากของพระยาห์เวห์ 4 เสื้อผ้าของท่านก็ไม่ขาด เท้าของท่านก็ไม่บวมตลอดสี่สิบปีนี้ 5 จำไว้ว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้อบรมสั่งสอนเหมือนพ่อที่อบรมสั่งสอนลูกของเขา
6 ดังนั้นให้เชื่อฟังบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ด้วยการเดินในทางของพระองค์และเกรงกลัวพระองค์ 7 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังนำท่านเข้าไปในดินแดนที่ดี แผ่นดินที่มีลำธาร ตาน้ำและน้ำใต้ดินที่ไหลทะลักออกมาในหุบเขาและเนินเขา 8 เป็นแผ่นดินที่เต็มไปด้วยข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ ไร่องุ่น ต้นมะเดื่อและพวกผลทับทิม เป็นแผ่นดินที่ให้น้ำมันมะกอกและน้ำเชื่อมผลไม้ 9 เป็นแผ่นดินที่ท่านจะไม่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างอดๆอยากๆและที่ที่ท่านจะไม่ขาดอะไรเลย แผ่นดินที่ก้อนหินเป็นเหล็กและที่ที่ท่านสามารถทำเหมืองทองแดงจากเนินเขาของมัน 10 เมื่อท่านได้กินทุกอย่างจนพอใจแล้ว ให้สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสำหรับแผ่นดินที่ดีที่พระองค์ได้ยกให้กับท่าน
อย่าลืมสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ให้ไว้
11 ระวังให้ดี อย่าลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน โดยไม่ทำตามคำสั่ง กฎและข้อบังคับของพระองค์ที่เราได้สั่งท่านไว้ในวันนี้ 12 เมื่อท่านกินทุกอย่างจนพอใจแล้ว ท่านได้สร้างบ้านที่สวยงามและเข้าไปอยู่อาศัย 13 ฝูงวัว ฝูงแพะแกะและฝูงสัตว์ของท่านเพิ่มจำนวนมากขึ้น ท่านมีเงินทองมากขึ้น และทุกอย่างที่ท่านมีได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น 14 ระวังให้ดี อย่าได้หยิ่งผยอง และลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ผู้ที่ได้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ ออกจากการเป็นทาสนั้น 15 พระองค์คือผู้ที่นำท่านไปสู่ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งที่กว้างใหญ่และน่ากลัว ที่เต็มไปด้วยงูพิษและแมงป่อง ดินแดนที่แห้งแล้งไม่มีน้ำ พระองค์คือผู้ที่ทำให้น้ำไหลออกมาจากก้อนหินแข็งเพื่อท่าน 16 พระองค์คือผู้ที่เลี้ยงดูท่านด้วยมานาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง มานาที่บรรพบุรุษท่านเองก็ไม่เคยรู้จัก เพื่อจะทำให้ท่านถ่อมตัวลง เพื่อทดสอบท่าน แล้วในที่สุดจะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรือง 17 ระวังให้ดี อย่าคิดในใจว่า ‘เป็นเพราะพลังและอำนาจของฉันเอง ที่ทำให้ฉันร่ำรวยขนาดนี้’ 18 แต่อย่าลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะพระองค์คือผู้ที่ให้อำนาจนั้น ที่ทำให้ท่านร่ำรวยขึ้นมา เพื่อพระองค์จะได้รักษาข้อตกลงที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน อย่างที่พระองค์กำลังทำอยู่ตอนนี้
19 ถ้าท่านลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และไปติดตามพระอื่น แล้วยังไปรับใช้ กราบไหว้บูชาพระพวกนั้น เราขอเตือนพวกท่านในวันนี้ว่า พวกท่านจะต้องถูกทำลายแน่ๆ 20 เหมือนชนชาติที่พระยาห์เวห์กำลังทำลายอยู่ต่อหน้าพวกท่านเมื่อท่านเข้าในแผ่นดินนั้น พวกท่านก็จะถูกทำลายแบบนั้นเหมือนกัน เพราะท่านไม่ยอมฟังเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
พระยาห์เวห์จะอยู่กับชาวอิสราเอล
9 ชาวอิสราเอลเอ๋ย ฟังให้ดี วันนี้ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเพื่อเข้าไปขับไล่ชนชาติที่ยิ่งใหญ่กว่าและเข้มแข็งกว่าท่าน และเมืองต่างๆที่ยิ่งใหญ่พร้อมกำแพงสูงเสียดฟ้า 2 ชาวอานาค[a] ที่แข็งแรงและสูงใหญ่ ท่านรู้จักพวกเขาและเคยได้ยินเกี่ยวกับพวกเขามาว่า ‘มีใครบ้างที่จะหยุดพวกอานาคได้ ไม่มีเลย’ 3 ท่านแน่ใจได้เลยในวันนี้ว่า เป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเอง ที่ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปก่อนท่าน เป็นเหมือนไฟที่ทำลายล้าง พระองค์จะกวาดล้างพวกชนชาติเหล่านั้น และพระองค์จะเอาชนะพวกเขาเมื่อท่านเดินทางเข้าไป ท่านจะไล่พวกเขาออกไปและทำลายพวกเขาอย่างรวดเร็วเหมือนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้สัญญาไว้กับท่าน
4 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ขับไล่พวกนั้นออกไปต่อหน้าท่าน พวกท่านไม่ต้องคิดในใจว่า ‘เพราะฉันเป็นคนดี พระยาห์เวห์ถึงได้นำฉันเข้ามาเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้’ แต่ที่พระยาห์เวห์ขับไล่ชนชาติเหล่านั้นออกไปต่อหน้าท่านก็เพราะพวกเขาเป็นคนชั่วต่างหาก 5 ที่ท่านกำลังจะเข้าไปเป็นเจ้าของแผ่นดินของคนพวกนั้น ไม่ใช่เพราะท่านเป็นคนดีและซื่อสัตย์หรอกนะ แต่ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านขับไล่ชนชาติเหล่านั้นออกไปต่อหน้าท่าน ก็เพราะพวกเขาเป็นคนชั่ว และพระยาห์เวห์ต้องการรักษาสัญญาที่พระองค์ได้ทำไว้กับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ บรรพบุรุษของท่าน 6 ให้รู้ไว้เลยว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ได้ให้แผ่นดินที่ดีนี้กับท่าน เพราะท่านเป็นคนดี แต่ความจริงแล้วท่านเป็นคนที่ดื้อรั้น
จดจำความดื้อรั้นที่มีต่อพระยาห์เวห์
7 จำไว้ให้ดี อย่าลืมว่าท่านเคยทำให้พระยาห์เวห์โกรธ ตอนที่อยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง พวกท่านไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์ตั้งแต่วันที่พวกท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์จนกระทั่งมาถึงที่นี่ 8 พวกท่านทำให้พระยาห์เวห์โกรธตอนที่อยู่บนภูเขาซีนาย พระยาห์เวห์โกรธถึงขนาดที่จะทำลายพวกท่าน 9 เมื่อเราขึ้นไปบนภูเขาเพื่อรับแผ่นหินซึ่งเป็นแผ่นหินของข้อตกลงที่พระยาห์เวห์ทำไว้กับพวกท่าน เราอยู่บนภูเขาเป็นเวลาถึงสี่สิบวันสี่สิบคืน ไม่ได้กินอาหารหรือดื่มน้ำ 10 พระยาห์เวห์ได้ให้แผ่นหินสองแผ่นกับเรา เป็นแผ่นหินที่พระเจ้าใช้นิ้วมือของพระองค์เขียนขึ้นมา บนแผ่นหินนั้นคือคำสั่งสอนทั้งหมดที่พระยาห์เวห์ได้พูดไว้กับพวกท่าน พระองค์พูดออกมาจากไฟบนภูเขาในวันที่พวกท่านรวมตัวกันอยู่ที่นั่น
11 เมื่อครบสี่สิบวันสี่สิบคืนแล้ว พระยาห์เวห์ได้ให้แผ่นหินสองแผ่นนั้นกับเรา เป็นแผ่นหินของข้อตกลง 12 พระยาห์เวห์พูดกับเราว่า ‘ลุกขึ้นและรีบลงไปจากที่นี่ เพราะประชาชนของเจ้าที่เจ้านำออกมาจากประเทศอียิปต์นั้น ได้ทำตัวเสื่อมทราม พวกเขาได้หันเหไปอย่างรวดเร็วจากสิ่งที่เราได้สั่งให้พวกเขาทำ พวกเขาได้ทำรูปเคารพจากโลหะสำหรับตัวเอง’
13 พระยาห์เวห์ได้พูดกับผมว่า ‘เราได้มองดูคนพวกนี้ เขาเป็นคนที่ดื้อรั้นจริงๆ 14 โมเสส เจ้าไม่ต้องมายุ่งกับเรา เราจะทำลายพวกเขา และจะลบชื่อพวกเขาออกจากใต้ฟ้านี้ และเราจะทำให้เจ้าเป็นชาติที่เข้มแข็งและมีจำนวนมากกว่าพวกเขา’
ลูกวัวทองคำ
15 แล้วเราก็กลับลงมาจากภูเขา ภูเขากำลังลุกไหม้เป็นไฟ หินของข้อตกลงทั้งสองแผ่นนั้นอยู่ในมือเรา 16 แล้วเรามองดู เห็นว่าพวกท่านได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์ พวกท่านได้ทำรูปเคารพจากโลหะเป็นรูปลูกวัวให้กับตัวพวกท่านเอง พวกท่านหันเหไปอย่างรวดเร็วจากสิ่งที่พระยาห์เวห์เคยสั่งท่านไว้ 17 เราจึงขว้างหินทั้งสองแผ่นนั้นด้วยมือทั้งสองของเราเอง และทำให้มันแตกต่อหน้าต่อตาพวกท่าน 18 และก็เหมือนกับครั้งก่อน เราได้ก้มหน้ากราบลงกับพื้นดินต่อหน้าพระยาห์เวห์เป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืน ไม่ได้กินอาหารหรือดื่มน้ำ เราทำสิ่งต่างๆนี้ก็เพราะบาปทั้งหมดที่พวกท่านได้ทำไป คือพวกท่านได้ทำในสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระยาห์เวห์ เพราะอย่างนี้จึงทำให้พระองค์โกรธ 19 เรากลัวความโกรธและความเดือดดาลของพระองค์ เพราะพระยาห์เวห์โกรธถึงขนาดที่จะทำลายพวกท่าน แต่ตอนนั้นพระยาห์เวห์ได้ฟังเรา 20 พระยาห์เวห์โกรธอาโรนถึงขนาดที่จะทำลายเขา แต่เราได้อธิษฐานเผื่ออาโรนเหมือนกันในตอนนั้น 21 เราได้เอาสิ่งที่เป็นบาปที่พวกท่านได้สร้างขึ้นมา คือลูกวัวไปเผาไฟ และเราก็ทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆ บดมันจนละเอียดเป็นผุยผง แล้วเราก็โปรยผงนั้นลงในลำธารที่ไหลลงมาจากภูเขา
โมเสสร้องขอพระยาห์เวห์อย่าทำลายคนอิสราเอล
22 ที่ทาเบราห์ ที่มัสสาห์ และที่ขิบโรท-หัทธาอาวาห์ก็เหมือนกัน พวกท่านทำให้พระยาห์เวห์โกรธ 23 เมื่อพระยาห์เวห์ส่งพวกท่านจากคาเดช-บารเนีย และพูดว่า ‘ขึ้นไปยึดเป็นเจ้าของแผ่นดินที่เราได้ให้ไว้กับพวกเจ้า’ พวกท่านขัดขืนคำสั่งของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน พวกท่านไม่ไว้วางใจพระองค์และไม่เชื่อฟังพระองค์ 24 พวกท่านได้ขัดขืนพระยาห์เวห์มาตลอด ตั้งแต่วันที่เรารู้จักพวกท่านเป็นครั้งแรก
25 เมื่อเราก้มหน้าลงกราบพระยาห์เวห์เป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืน เพราะพระยาห์เวห์บอกว่า พระองค์จะทำลายพวกท่าน 26 เราได้อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า อย่าได้ทำลายคนของพระองค์ที่เป็นของรักของหวงที่มีค่าของพระองค์เลย พระองค์ไถ่ให้พวกเขาเป็นอิสระด้วยฤทธิ์อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์นำพวกเขาออกมาจากอียิปต์ด้วยมืออันทรงพลังของพระองค์ 27 โปรดระลึกถึงอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ ผู้รับใช้ของพระองค์ อย่าไปสนใจกับความดื้อดึง ความชั่วร้ายและความบาปของคนพวกนี้เลย 28 ไม่อย่างนั้นชาวอียิปต์จะพูดว่า “เพราะพระยาห์เวห์ไม่สามารถนำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่พระองค์สัญญาไว้กับพวกเขา และเพราะพระองค์เกลียดพวกเขา พระองค์จึงนำพวกเขาออกไปและฆ่าพวกเขาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง” 29 พวกเขาคือคนของพระองค์ เป็นสมบัติของพระองค์เอง พระองค์ได้นำพวกเขาออกมาด้วยความแข็งแกร่งและอำนาจของพระองค์’
แผ่นหินใหม่
(อพย. 34:1-10)
10 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์พูดกับเราว่า ‘ตัดหินมาใหม่อีกสองแผ่นให้เหมือนกับสองแผ่นแรก แล้วขึ้นมาหาเราบนภูเขานี้ และให้ทำหีบไม้มาด้วย 2 เราจะเขียนบัญญัติบนแผ่นหินนี้ เป็นบัญญัติเดียวกับที่ได้เขียนไปแล้วบนแผ่นหินชุดแรกที่เจ้าทำแตกไปนั้น แล้วเจ้าจะได้วางพวกมันลงในหีบไม้’
3 เราจึงทำหีบไม้ขึ้นหนึ่งใบจากไม้กระถินเทศ และตัดหินใหม่สองแผ่นที่เหมือนกับหินสองแผ่นแรก แล้วเราก็ขึ้นไปบนภูเขาพร้อมกับหินสองแผ่นนั้นในมือ 4 พระยาห์เวห์ได้เขียนคำพูดเดิมที่เคยเขียนไปแล้วครั้งก่อนลงบนหินสองแผ่นนี้ คือบัญญัติสิบประการที่พระยาห์เวห์ได้พูดกับพวกท่านบนภูเขา ที่พระองค์พูดออกมาจากไฟในวันที่พวกท่านไปอยู่รวมกันที่นั่น แล้วพระองค์ก็ให้แผ่นหินนั้นกับเรา 5 เราก็กลับลงมาจากบนเขา เราได้วางแผ่นหินนั้นไว้ในหีบไม้ที่เราได้ทำขึ้น และแผ่นหินพวกนั้นก็ยังคงอยู่ที่นั่น เหมือนกับที่พระยาห์เวห์ได้สั่งเราไว้
6 (ประชาชนชาวอิสราเอลได้เดินทางจากบ่อน้ำเบเอโรท-เบเน-ยาอะคัน ไปที่โมเสราห์ อาโรนตายและถูกฝังไว้ที่นั่น เอเลอาซาร์ลูกชายของเขาได้เป็นนักบวชแทนเขา 7 ประชาชนชาวอิสราเอลได้เดินทางจากที่นั่นไปที่กุดโกดาห์ จากกุดโกดาห์ พวกเขาเดินทางไปถึงโยทบาธาห์ เป็นสถานที่ที่มีลำธารมากมาย 8 ในเวลานั้นพระยาห์เวห์ได้แต่งตั้งเผ่าเลวีให้เป็นผู้แบกหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์ ให้ยืนรับใช้อยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ และให้อวยพรประชาชนในนามของพระองค์ เหมือนที่พวกเขาได้ทำอยู่จนถึงทุกวันนี้ 9 เพราะเหตุนี้คนเผ่าเลวีถึงไม่ได้รับส่วนแบ่งที่ดินเป็นของตัวเองเหมือนเผ่าอื่นๆ พระยาห์เวห์คือส่วนแบ่งของชาวเลวี ตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้สัญญาไว้กับคนเผ่าเลวี)
10 เราได้อยู่บนภูเขาเป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืนเหมือนครั้งแรกและพระยาห์เวห์ได้ฟังเราอีกครั้งหนึ่งในเวลานั้น พระองค์ไม่ต้องการทำลายท่าน 11 พระยาห์เวห์พูดกับเราว่า ‘ลุกขึ้น ไปเดินนำหน้าประชาชน เพื่อพวกเขาจะได้เข้าไปเป็นเจ้าของแผ่นดินที่เราได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขาว่าจะยกให้กับพวกเขา’
สิ่งที่พระยาห์เวห์ต้องการอย่างแท้จริง
12 ชาวอิสราเอลเอ๋ย พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านขออะไรจากท่านหรือ พระองค์ขอเพียงแต่ให้เกรงกลัวพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ให้เดินในทางของพระองค์ ให้รักพระองค์ ให้รับใช้พระองค์ด้วยสุดใจสุดจิตของท่าน 13 และให้เชื่อฟังบัญญัติและกฎของพระองค์ ที่เราได้สั่งท่านในวันนี้เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง
14 ดูสิ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นเจ้าของสวรรค์ทั้งสิ้น แม้แต่สวรรค์ชั้นสูงสุด รวมทั้งโลกและทุกสิ่งทุกอย่างในโลก 15 แต่พระยาห์เวห์ยังเอาใจใส่บรรพบุรุษของท่านและรักพวกเขา พระองค์ได้เลือกพวกท่านซึ่งเป็นลูกหลานของพวกเขาออกมาจากชนชาติทั้งหลาย และพวกท่านก็ยังคงเป็นคนพิเศษสำหรับพระองค์ถึงทุกวันนี้
16 ให้มอบตัวท่านทั้งหมดกับพระยาห์เวห์ และอย่าดื้อดึงอีกต่อไป[b] 17 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านคือพระเจ้าเหนือพระทั้งปวง และเป็นองค์เจ้าชีวิตเหนือองค์เจ้าชีวิตอื่นๆทั้งหมด พระองค์เป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ทรงพลังและน่ากลัว พระองค์ไม่เลือกหน้าและไม่รับสินบน 18 พระองค์ทำให้แม่หม้ายและเด็กกำพร้าได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรม พระองค์รักชาวต่างชาติที่อยู่ท่ามกลางเราและให้อาหารและเสื้อผ้ากับเขา 19 พวกท่านต้องรักชาวต่างชาติด้วย เพราะพวกท่านก็เคยเป็นชาวต่างชาติในแผ่นดินอียิปต์มาก่อน
20 ท่านต้องเกรงกลัวพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องรับใช้พระองค์เท่านั้น ท่านต้องผูกพันอยู่กับพระองค์และท่านต้องสาบานโดยอ้างชื่อของพระองค์ 21 พระองค์คือผู้ที่ท่านควรจะยกย่องสรรเสริญ พระองค์คือพระเจ้าของท่าน พระองค์ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่และน่ากลัวต่างๆนี้เพื่อท่าน ที่ท่านได้เห็นมาแล้วกับตาตัวเอง 22 ตอนที่บรรพบุรุษของท่านเข้าไปอยู่ที่ประเทศอียิปต์นั้น มีแค่เจ็ดสิบคนเท่านั้น แต่ตอนนี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทำให้ท่านมีจำนวนมากมายเหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า
ให้รักและเชื่อฟังพระยาห์เวห์
11 ท่านต้องรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และท่านต้องเชื่อฟังคำสั่ง กฎ ข้อบังคับและบัญญัติต่างๆของพระองค์เสมอ 2 ในวันนี้ พวกท่านต้องจดจำไว้ว่า เป็นพวกท่านเอง ไม่ใช่ลูกๆของพวกท่าน ที่รู้จักและเห็นบทเรียนจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน เป็นท่านเองที่เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ อำนาจที่ยิ่งใหญ่และความแข็งแกร่งของพระองค์ 3 เป็นท่านเอง ไม่ใช่ลูกๆของท่าน ที่เห็นเหตุการณ์พิเศษต่างๆและการกระทำที่พระองค์ได้ทำไว้กับฟาโรห์กษัตริย์อียิปต์ และกับประชาชนชาวอียิปต์ทั้งหมดในแผ่นดินอียิปต์ 4 เป็นท่านเอง ไม่ใช่ลูกๆของท่าน ที่ได้เห็นสิ่งที่พระองค์ได้ทำกับกองทัพของอียิปต์ กับม้าและรถรบทั้งหลายของอียิปต์ และการที่พระองค์ทำให้น้ำในทะเลแดงไหลท่วมพวกเขาในขณะที่เขากำลังไล่ตามพวกท่าน เพื่อพระยาห์เวห์จะได้ทำลายพวกเขาจนหมด 5 เป็นท่านเอง ไม่ใช่ลูกๆของท่าน ที่ได้เห็นสิ่งที่พระองค์ได้ทำเพื่อพวกท่านในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งจนกระทั่งพวกท่านมาถึงที่นี่ 6 เป็นท่านเอง ไม่ใช่ลูกๆของท่าน ที่ได้เห็นสิ่งที่พระองค์ทำกับดาธานและอาบีรัมลูกชายของเอลีอับชาวรูเบน เมื่อแผ่นดินอ้าปากของมัน และกลืนพวกเขาและครอบครัวพวกเขา พร้อมกับเต็นท์ คนรับใช้ และสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ไปจากท่ามกลางชาวอิสราเอลทั้งหมด 7 เป็นท่านเอง ไม่ใช่ลูกๆของท่าน ที่ได้เห็นการกระทำอันยิ่งใหญ่ทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำไว้
8 ดังนั้นพวกท่านต้องเชื่อฟังคำสั่งสอนทุกอย่างที่เราได้สั่งท่านในวันนี้ เพื่อพวกท่านจะได้เข้มแข็งและเข้าไปเป็นเจ้าของแผ่นดินที่ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปเป็นเจ้าของนี้ 9 และเพื่อพวกท่านจะได้มีชีวิตที่ยืนยาวบนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกท่านว่าจะยกให้กับพวกเขาและลูกหลานของเขา คือแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ 10 เพราะแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปเป็นเจ้าของนั้น ไม่เหมือนแผ่นดินอียิปต์ที่ท่านจากมา ที่แผ่นดินอียิปต์นั้น ท่านปลูกพืชของท่าน และเอาเท้าขูดเป็นร่องน้ำได้[c] เหมือนกับรดสวนผัก 11 แต่แผ่นดินที่ท่านกำลังจะข้ามไปเป็นเจ้าของนั้น เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขาและหุบเขามากมาย และพื้นดินก็จะชุ่มชื้นไปด้วยน้ำฝนที่ตกมาจากฟ้า 12 มันเป็นแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านดูแลเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปี
13 พระยาห์เวห์พูดว่า ถ้าพวกเจ้าเชื่อฟังบัญญัติของเราที่เรากำลังสั่งกับพวกเจ้าในวันนี้อย่างระมัดระวัง คือให้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้าและรับใช้พระองค์ด้วยสุดใจสุดจิตของเจ้า 14 เรา ยาห์เวห์ จะให้ฝนตกในแผ่นดินของพวกเจ้าตามฤดูกาล คือฝนต้นฤดูและฝนปลายฤดู และเจ้าจะได้เกี่ยวพืชผล น้ำองุ่นใหม่ และน้ำมันของเจ้า 15 เราจะให้หญ้าขึ้นในท้องทุ่งของเจ้าสำหรับฝูงสัตว์ของเจ้า และเจ้าจะมีกินอย่างเหลือเฟือ
16 ระวังให้ดี ไม่อย่างนั้นใจของพวกท่านจะถูกล่อลวงให้หันเหไปรับใช้พระอื่นๆและไปกราบไหว้พระเหล่านั้น 17 แล้วพระยาห์เวห์ก็จะโกรธพวกท่าน พระองค์จะปิดท้องฟ้าไม่ให้ฝนตก แผ่นดินจะไม่มีพืชผลงอกออกมา และพวกท่านก็จะมีอายุสั้นในแผ่นดินที่ดีที่พระยาห์เวห์จะยกให้กับพวกท่าน
18 ให้เอาคำสั่งสอนพวกนี้ของเราฝังไว้ในจิตใจของท่านอยู่เสมอ และผูกมันไว้กับมือของพวกท่านเพื่อเตือนความจำ และผูกไว้ที่หน้าผากของท่านเหมือนกับผ้าโพกหัว 19 สอนสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกๆของพวกท่าน ท่องพวกมันเมื่อนั่งอยู่ในบ้าน เดินอยู่ตามท้องถนน เมื่อนอนลงและลุกขึ้น 20 ให้เขียนพวกมันไว้บนเสาประตูบ้าน และบนประตูเมืองของท่าน 21 ให้ทำตามสิ่งเหล่านี้ เพื่อพวกท่านและลูกๆของพวกท่าน จะได้อยู่อีกยาวนานบนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่านว่าจะยกให้กับพวกเขาตราบเท่าที่ฟ้ายังอยู่เหนือดิน
22 ถ้าพวกท่านเชื่อฟังคำสั่งสอนทั้งหมดนี้ที่เราได้สั่งให้ท่านทำอย่างระมัดระวัง คือให้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน เดินในทางของพระองค์ และผูกพันอยู่กับพระองค์ 23 แล้วพระยาห์เวห์จะขับไล่ชนชาติเหล่านี้ออกไปต่อหน้าพวกท่าน และพวกท่านจะขับไล่ชนชาติที่ใหญ่กว่าและเข้มแข็งกว่าพวกท่านได้ 24 ในทุกๆที่ที่เท้าของพวกท่านเหยียบย่ำเข้าไปก็จะตกเป็นของพวกท่าน เขตแดนของพวกท่านจะเริ่มตั้งแต่ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งทางตอนใต้ไปถึงเลบานอนทางตอนเหนือ จากแม่น้ำยูเฟรติสทางตะวันออกไปถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตะวันตก 25 จะไม่มีใครสามารถหยุดพวกท่านได้ ไม่ว่าพวกท่านจะไปที่ไหนก็ตาม พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านจะทำให้ประชาชนกลัวพวกท่าน เหมือนกับที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับพวกท่านแล้ว
อวยพรหรือสาปแช่ง
26 วันนี้เราให้ทางเลือกกับพวกท่าน ให้ท่านเลือกเอาระหว่างคำอวยพรหรือคำสาปแช่ง 27 ท่านจะได้รับคำอวยพร ถ้าท่านเชื่อฟังคำสั่งของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ 28 และท่านจะได้รับคำสาปแช่งถ้าท่านไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และหันเหไปจากทางที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ และหันไปบูชาพระอื่นที่พวกท่านไม่รู้จักมาก่อน
29 เมื่อพระยาห์เวห์นำท่านเข้าไปในดินแดนที่ท่านกำลังจะเข้าไปเป็นเจ้าของแล้ว ท่านต้องขึ้นไปบนยอดเขาเกริซิมแล้วอ่านคำอวยพรให้ประชาชนฟัง และขึ้นไปบนยอดเขาเอบาลแล้วอ่านคำสาปแช่งให้ประชาชนฟังจากยอดเขานั้นด้วย 30 ท่านก็รู้อยู่แล้วว่า ภูเขาพวกนี้อยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน ไปทางทิศตะวันตก ภูเขาพวกนี้อยู่ในดินแดนของชาวคานาอัน ที่อาศัยอยู่ในหุบเขาจอร์แดน อยู่ไม่ไกลจากป่าโอ๊คของโมเรห์ ใกล้ๆกับเมืองกิลกาล 31 เพราะพวกท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดน เข้าไปเป็นเจ้าของแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านยกให้กับท่าน เมื่อพวกท่านเป็นเจ้าของมันและตั้งบ้านเรือนอยู่กันแล้ว 32 พวกท่านจะต้องทำตามกฎและข้อบังคับต่างๆที่เราให้กับพวกท่านในวันนี้อย่างระมัดระวัง
สถานที่สำหรับนมัสการพระเจ้า
12 นี่คือกฎและข้อบังคับที่พวกท่านต้องทำตามอย่างระมัดระวังในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษท่านได้ยกให้กับท่าน ท่านต้องทำตามกฎเหล่านั้นตราบเท่าที่พวกท่านยังอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น 2 เมื่อพวกท่านยึดเอาแผ่นดินของชนชาติเหล่านี้มาได้แล้ว พวกท่านต้องทำลายสถานที่ทุกแห่งที่พวกเขาใช้นมัสการพระต่างๆของพวกเขาให้หมดเกลี้ยง ตามภูเขาสูง ตามเนินเขาและตามใต้ต้นไม้ทุกต้น 3 พวกท่านต้องรื้อแท่นบูชาต่างๆของพวกเขาทิ้งให้หมด พวกท่านต้องทุบเสา[d]หินศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาให้แตกเป็นชิ้นๆ พวกท่านต้องเผาเสาเจ้าแม่อาเชราห์ของพวกเขา และต้องตัดพวกรูปปั้นพระต่างๆของพวกเขาให้เป็นชิ้นๆ เพื่อจะได้ลบชื่อของพระเทียมเท็จเหล่านั้นให้หมดไปจากสถานที่นั้น
4 พวกท่านต้องไม่นมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านแบบเดียวกับที่คนพวกนั้นเขาทำกัน 5 แต่พวกท่านต้องไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่พระยาห์เวห์จะเลือกออกมาจากท่ามกลางเผ่าทั้งหลายของพวกท่าน พระองค์จะสถิตอยู่ที่นั่นเหมือนบ้านของพระองค์ และท่านต้องไปนมัสการพระองค์ที่นั่น 6 ท่านต้องเอาเครื่องเผาบูชา เครื่องสัตวบูชา พืชผลและสัตว์ต่างๆหนึ่งในสิบส่วนจากของที่ท่านหามาได้ รวมทั้งให้เอาของขวัญพิเศษ[e] ของแก้บนที่ท่านเคยบนไว้กับพระยาห์เวห์ เครื่องบูชาตามความสมัครใจ และลูกตัวแรกจากฝูงวัวและฝูงแพะแกะของพวกท่าน ไปในสถานที่นั้นด้วย 7 ท่านและครอบครัวของท่านจะกินกันที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน พวกท่านจะยินดีกับสิ่งดีๆทั้งหมดที่พวกท่านได้ลงมือลงแรงทำไป เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้อวยพรท่าน
8 เมื่อถึงเวลานั้น พวกท่านต้องไม่นมัสการแบบเดียวกับที่พวกเรากำลังทำอยู่ในวันนี้ คือแต่ละคนก็ทำตามใจของตัวเอง 9 ที่เป็นอย่างนี้เพราะพวกท่านยังไม่ได้เข้าไปในสถานที่แห่งการพักผ่อนและแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน 10 แต่อีกไม่ช้าพวกท่านก็จะข้ามแม่น้ำจอร์แดนแล้ว พวกท่านจะได้อยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน พระองค์จะให้พวกท่านได้หยุดพักจากการสู้รบกับศัตรูทั้งหมดที่อยู่ล้อมรอบท่าน และพวกท่านจะอยู่อย่างปลอดภัย 11 แล้วพวกท่านต้องเอาทุกอย่างที่เราได้สั่งพวกท่านไว้ ไปยังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกขึ้นมาสำหรับนมัสการพระองค์ คือท่านต้องเอาเครื่องเผาบูชา เครื่องสัตวบูชา พืชผลและสัตว์ต่างๆหนึ่งในสิบส่วนจากของที่ท่านหามาได้ รวมทั้งให้เอาของขวัญพิเศษ ของแก้บนที่ท่านเคยบนไว้กับพระยาห์เวห์ 12 ให้พวกท่านชื่นชมยินดีกันต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ทั้งพวกท่าน ลูกชายลูกสาวของพวกท่าน ทาสชายหญิงของพวกท่าน และชาวเลวี ในเมืองของพวกท่านด้วย เพราะพวกนี้ไม่มีส่วนแบ่งในที่ดินเหมือนกับพวกท่าน 13 ท่านต้องระวังให้ดี ที่จะไม่ถวายเครื่องเผาบูชาที่ไหนก็ได้ที่ท่านเห็น 14 แต่ให้เอาเครื่องเผาบูชาของท่านไปถวายในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกออกมาจากท่ามกลางเผ่าใดเผ่าหนึ่งของท่าน และทุกอย่างที่เราได้สั่งท่านไว้ให้เอาไปทำที่นั่น
15 แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านอยากจะฆ่าสัตว์ และเอาเนื้อมากินในเมืองหนึ่งเมืองใดของท่าน ท่านก็ทำได้ ตามขนาดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอวยพรท่าน คนที่บริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรม ก็กินได้ทั้งนั้น เหมือนกินเนื้อทราย[f] หรือเนื้อกวาง 16 แต่ท่านต้องไม่กินเลือดของมัน ต้องเอาเลือดไปเททิ้งบนพื้นเหมือนเทน้ำ
17 ท่านต้องไม่กินของพวกนี้ในเมือง คือ พืชผลของท่านที่แบ่งออกมาหนึ่งในสิบ[g]ส่วน หรือเหล้าองุ่นใหม่หรือน้ำมัน ลูกสัตว์ตัวแรกทุกตัวที่เกิดจากฝูงวัวและฝูงแพะแกะของท่าน และของทุกอย่างที่ท่านได้บนไว้ว่าจะให้กับพระยาห์เวห์ เครื่องบูชาตามความสมัครใจของท่าน และของขวัญพิเศษของท่าน 18 ท่านจะต้องกินเครื่องบูชาเหล่านี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้เท่านั้น ท่านต้องไปกินกันที่นั่นกับลูกชายลูกสาวของท่าน ทาสชายหญิงของท่าน และชาวเลวีที่อาศัยอยู่ในเมืองของท่าน ให้ชื่นชมยินดีอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ให้ชื่นชมยินดีกับสิ่งดีๆที่ท่านได้ลงมือทำลงไป 19 ระวังให้ดี อย่าลืมที่จะแบ่งอาหารนี้ให้กับชาวเลวี ตราบเท่าที่ท่านยังมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินของท่านนั้น
20-21 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ขยายเขตแดนของท่านตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ท่านอาจจะอยู่ไกลเกินไปจากสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ แล้วท่านเกิดอยากจะกินเนื้อขึ้นมา ท่านก็กินเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ท่านต้องการ ท่านสามารถฆ่าสัตว์จากฝูงวัวและฝูงแพะแกะที่พระยาห์เวห์ได้ให้ท่านไว้ ให้ทำตามวิธีที่เราได้สั่งท่านไว้แล้ว และท่านก็กินเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ท่านต้องการในเมืองต่างๆของท่าน 22 ท่านสามารถที่จะกินมันได้เหมือนกับที่ท่านกินเนื้อทรายหรือเนื้อกวาง ทั้งคนที่บริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรม ก็กินได้เหมือนกันหมด 23 แต่ต้องให้แน่ใจว่าท่านจะไม่กินเลือด เพราะเลือดคือชีวิต ดังนั้นอย่าได้กินชีวิตพร้อมกับเนื้อสัตว์ 24 ท่านต้องไม่กินเลือดของมัน ท่านต้องเทเลือดของมันลงบนพื้นเหมือนเทน้ำ 25 ท่านต้องไม่กินเลือดของมันเพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้เจริญรุ่งเรือง เพราะท่านจะต้องทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าถูกต้อง
26 แต่อย่างไรก็ตาม ท่านต้องเอาของขวัญศักดิ์สิทธิ์และของขวัญแก้บนของท่านไปยังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกขึ้นมา 27 ท่านต้องถวายเครื่องเผาบูชาของท่าน รวมทั้งเนื้อสัตว์และเลือดบนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เลือดของเครื่องสัตวบูชาอื่นต้องถูกเทลงบนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน แต่ท่านกินเนื้อของมันได้ 28 ท่านต้องระมัดระวังที่จะรักษาและเชื่อฟังคำสั่งทั้งหมดนี้ที่เราให้กับท่านในวันนี้ เพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้เจริญรุ่งเรืองตลอดไป เพราะท่านกำลังจะทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเห็นว่าดีและถูกต้อง
29 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทำลายชนชาติที่อยู่ต่อหน้าท่าน เป็นชนชาติที่ท่านกำลังจะเข้าไปขับไล่ และเมื่อท่านขับไล่พวกเขาออกไปแล้ว และท่านได้ตั้งรกรากอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาแล้ว 30 ระวังให้ดี อย่าไปติดกับโดยไปลอกเลียนแบบพวกเขา หลังจากที่พวกเขาถูกทำลายไปต่อหน้าท่านแล้ว ระวังให้ดี อย่าไปถามเกี่ยวกับพระต่างๆของพวกเขา อย่าไปถามว่า ‘ชนชาตินี้เขาบูชาพวกพระของพวกเขายังไง เราจะได้ทำตาม’ 31 ท่านต้องไม่นมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามแบบพวกเขา เพราะพวกเขาได้ทำสิ่งชั่วร้ายทุกอย่างถวายให้กับพวกพระของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์เกลียดชัง พวกเขาถึงขนาดเผาลูกชายและลูกสาวเป็นเครื่องบูชายัญให้กับพวกพระของพวกเขา
32 พวกท่านต้องระวัง ให้ทำตามทุกสิ่งที่เรากำลังสั่งพวกท่าน ท่านต้องไม่เพิ่มอะไรเข้าไปหรือตัดอะไรออกไปจากนี้
อย่านมัสการพระอื่น
13 ถ้าผู้พูดแทนพระเจ้าหรือผู้ทำนายฝัน มาหาท่านและเสนอว่าจะทำเหตุการณ์พิเศษต่างๆและสิ่งมหัศจรรย์ให้กับท่าน 2 และเหตุการณ์พิเศษต่างๆและสิ่งมหัศจรรย์ที่เขาสัญญากับท่านนั้นเกิดขึ้นจริง และเขาพูดว่า ‘ให้พวกเราไปติดตามพวกพระอื่นๆที่พวกท่านไม่รู้จักและไปบูชาพระพวกนั้นกันเถอะ’ 3 ท่านต้องไม่เชื่อคำพูดของผู้พูดแทนพระเจ้านั้น หรือคนที่ทำนายฝันนั้น เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านกำลังทดสอบท่านอยู่ เพื่อจะได้รู้ว่าพวกท่านรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดใจสุดจิตของพวกท่านหรือเปล่า 4 พวกท่านต้องติดตามพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและเกรงกลัวพระองค์ พวกท่านต้องรักษาบัญญัติต่างๆของพระองค์ไว้และเชื่อฟังพระองค์ รับใช้พระองค์และผูกพันอยู่กับพระองค์ 5 ผู้พูดแทนพระเจ้าหรือผู้ทำนายฝันนั้นต้องถูกฆ่า เพราะเขาได้บอกให้พวกท่านขัดขืนพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน ที่ได้นำพวกท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์และได้ไถ่ให้ท่านเป็นอิสระจากการเป็นทาส คนๆนั้นพยายามจะทำให้ท่านหันเหไปจากทางที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสั่งให้ท่านเดิน ท่านต้องกำจัดเอาความชั่วร้ายออกไปจากท่ามกลางพวกท่านด้วยการฆ่าคนๆนั้นซะ
6 ถ้าพี่น้องของท่าน จะเป็นลูกที่ติดพ่อมาหรือลูกที่ติดแม่มาก็ตาม หรือลูกชายลูกสาวของท่าน หรือเมียรักของท่าน หรือเพื่อนสนิทที่สุดของท่าน ได้แอบมาชักนำท่าน โดยพูดว่า ‘ให้พวกเราไปบูชาพวกพระอื่นๆกันเถอะ’ พระที่ท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน 7 เป็นพระของคนที่อยู่รอบข้างพวกท่าน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล จากสุดปลายด้านนี้ไปถึงอีกด้านหนึ่ง 8 ท่านต้องไม่เห็นด้วยกับคนๆนั้น อย่าไปฟังเขา อย่าไปสงสารเขา อย่าปล่อยเขาไป และอย่าไปปกป้องเขา 9 เพราะท่านต้องฆ่าคนๆนั้น ท่านต้องเป็นคนแรกที่ลงมือฆ่าเขา และหลังจากนั้นทุกคนต้องมาช่วยกันฆ่าคนๆนั้น 10 ท่านต้องเอาหินขว้างเขาให้ตาย เพราะเขาพยายามทำให้ท่านหันเหไปจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ผู้ที่นำท่านออกจากการเป็นทาสในแผ่นดินอียิปต์ 11 แล้วคนอิสราเอลจะได้ยินและจะได้กลัว พวกเขาจะได้ไม่ทำสิ่งชั่วร้ายอย่างนั้นในท่ามกลางท่านอีก
12 เมื่อท่านได้ยินคนพูดเกี่ยวกับเมืองใดเมืองหนึ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะให้ท่านเข้าไปอยู่นั้นว่า 13 มีพวกคนชั่วออกไปจากพวกท่านและไปชักนำชาวเมืองของเมืองนั้นให้หันเหไปจากพระเจ้า พวกนี้พูดว่า ‘พวกเราไปนมัสการพระอื่น ที่พวกท่านไม่รู้จักกันเถอะ’ 14 ท่านต้องตรวจสอบถามไถ่เรื่องราวนั้นอย่างละเอียด และถ้ามันเป็นเรื่องจริงว่า มีสิ่งที่พระเจ้าเกลียดชังอย่างนี้เกิดขึ้นท่ามกลางท่าน 15 ท่านต้องฆ่าคนที่อยู่ในเมืองนั้นด้วยดาบ ทำลายเมืองนั้นและทุกสิ่งทุกอย่างในนั้นให้สิ้นซาก และให้ฆ่าสัตว์ทุกตัวทิ้งด้วยดาบ 16 เก็บรวบรวมทรัพย์สินที่มีค่าทั้งหมดของเมืองนั้นมากองไว้กลางเมือง และเอาไฟเผาเมืองนั้นและทรัพย์สินอันมีค่าทั้งหมดของเมืองนั้นทิ้ง ให้เป็นเครื่องเผาบูชาแก่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เมืองนั้นจะกลายเป็นซากของกองหินตลอดไป และอย่าสร้างเมืองนั้นขึ้นมาใหม่อีก 17 อย่าได้เก็บอะไรไว้เลย จากสิ่งที่จะเอาไปทำลายเป็นของถวายให้กับพระเจ้า เพื่อพระยาห์เวห์จะได้ไม่โกรธอีกต่อไป และพระองค์จะได้เมตตากรุณาท่าน และทำให้ชนชาติของท่านขยายใหญ่ขึ้น เหมือนที่พระเจ้าได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน 18 พระยาห์เวห์จะทำอย่างนี้ ถ้าท่านเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และรักษาบัญญัติทุกข้อของพระองค์ที่เรากำลังให้กับท่านในวันนี้ และทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเห็นว่าถูกต้อง
อิสราเอล ประชาชนพิเศษของพระเจ้า
14 พวกท่านเป็นลูกๆของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เมื่อมีใครตาย พวกท่านต้องไม่เชือดเนื้อตัวเองหรือโกนผมบนหน้าผากเพื่อแสดงความเศร้าโศก 2 เพราะท่านคือประชาชนที่ถูกแยกออกมาเพื่อเป็นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และพระยาห์เวห์ได้เลือกท่านออกมาจากประชาชนทั้งหมดในโลกเพื่อมาเป็นของรักของหวงที่มีค่าของพระองค์
อาหารที่ชาวอิสราเอลกินได้
3 ท่านต้องไม่กินของที่พระยาห์เวห์ขยะแขยง 4 ท่านกินสัตว์พวกนี้ได้ คือ พวกวัว แกะ แพะ 5 กวาง เนื้อทราย กวางลายจุดตัวเมีย แพะป่า แกะป่า ละมั่ง และแกะภูเขา 6 พวกท่านกินสัตว์อะไรก็ได้ที่มีเท้าเป็นกีบแยกเป็นสองส่วนและเคี้ยวเอื้อง[h] 7 แต่สัตว์ที่มีแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง คือเคี้ยวเอื้องหรือมีกีบแยก ท่านห้ามกิน เช่นพวกอูฐ กระต่ายป่า ตัวไฮแรกซ์[i] พวกมันเคี้ยวเอื้องก็จริง แต่กีบที่เท้าไม่แยกจากกัน พวกมันไม่บริสุทธิ์[j] สำหรับพวกท่าน 8 พวกท่านต้องไม่กินหมู หมูมีเท้าเป็นกีบแยกออกก็จริง แต่มันไม่เคี้ยวเอื้อง พวกมันไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกท่าน พวกท่านต้องไม่กินเนื้อหรือแตะต้องซากของมัน
9 สัตว์น้ำทุกชนิดที่มีครีบและเกล็ด พวกท่านสามารถกินได้ 10 แต่อย่ากินสัตว์น้ำที่ไม่มีครีบและเกล็ด มันไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกท่าน
11 พวกท่านกินนกอะไรก็ได้ที่บริสุทธิ์ 12 แต่พวกท่านห้ามกินนกต่อไปนี้คือ นกอินทรี แร้งดำ แร้งหนวด 13 เหยี่ยวขนาดเล็กและเหยี่ยวทุกชนิด 14 กาทุกชนิด 15 นกฮูก นกฮูกหูสั้น นกฮูกหูยาวและเหยี่ยวนกเขาทุกชนิด 16 นกฮูกเล็ก นกแสก นกฮูกขาว 17 นกฮูกทะเลทราย แร้งอียิปต์ นกกาน้ำ 18 นกกระสาและนกกระสาทุกชนิด นกหัวขวานและค้างคาว
19 พวกท่านต้องไม่กินแมลงที่มีปีกทุกชนิด เพราะมันไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกท่าน 20 นกที่บริสุทธิ์ทุกชนิด พวกท่านกินได้
21 พวกท่านต้องไม่กินสัตว์ที่ตายตามธรรมชาติ แต่ท่านเอาไปให้กับชาวต่างชาติที่อยู่ในเมืองของท่านกินได้ หรืออาจจะขายให้กับชาวต่างชาติที่มาเยี่ยมเยียนท่านได้ แต่ท่านห้ามกินเพราะท่านเป็นคนที่ถูกแยกออกมาเพื่อเป็นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องไม่ต้มลูกแพะในน้ำนมของแม่มันเอง
ให้หนึ่งในสิบส่วน
22 ในทุกๆปี ท่านต้องแบ่งพืชผลที่ปลูกได้จากในทุ่งนาของท่านออกมาหนึ่งในสิบส่วน 23 ท่านต้องกินพืชผลหนึ่งในสิบที่แบ่งออกมานั้น กับเหล้าองุ่นใหม่ น้ำมันของท่านและสัตว์ที่เกิดเป็นตัวแรกในฝูงวัวและฝูงแพะแกะของท่าน ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในสถานที่นั้นที่พระองค์จะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ อย่างนี้ท่านจะได้เรียนรู้ที่จะเกรงกลัวพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอยู่เสมอ 24 แต่ถ้ามันไกลจนทำให้ท่านไม่สามารถขนพืชผลหนึ่งในสิบส่วนของพืชผลทั้งหมดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอวยพรให้นั้น เพราะสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ไกลจากท่านเกินไป 25 ท่านก็เอามันไปแลกเป็นเงินได้ แล้วเอาเงินนั้นติดตัวท่านไปยังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้ 26 แล้วเอาเงินนั้นไปซื้ออะไรก็ได้ เช่น วัว แกะ เหล้าองุ่น เบียร์หรืออะไรก็ได้ที่ท่านอยากได้ แล้วท่านและครอบครัวของท่านก็จะได้กินและสนุกสนานกันที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน 27 อย่าลืมชาวเลวีที่อยู่ในเมืองของท่าน เพราะพวกเขาไม่มีที่ดินเป็นของตัวเองเหมือนกับท่าน
28 เมื่อครบทุกๆสามปี ท่านต้องเอาหนึ่งในสิบส่วนของผลผลิตทั้งหมดที่ท่านเก็บเกี่ยวได้จากไร่นาของท่านในปีนั้น แล้วเอามาเก็บไว้ในเมือง 29 ชาวเลวีไม่มีที่ดินของตัวเองเหมือนกับท่าน ทั้งชาวเลวี ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้ายที่อยู่ในเมืองของท่าน จะได้มากินกันจนพอใจ เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะได้อวยพรท่านในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ
ปีแห่งการยกหนี้
15 เมื่อครบทุกๆเจ็ดปี ท่านต้องยกหนี้ต่างๆให้กับลูกหนี้ของท่าน 2 ท่านต้องทำตามวิธีนี้คือ เจ้าหนี้ทุกคนต้องยกหนี้ให้กับเพื่อนบ้านที่เขาให้กู้ยืมไป เขาจะต้องไม่ทวงหนี้คืนจากเพื่อนบ้านหรือญาติของเขา เพราะพระยาห์เวห์บอกให้ยกเลิกหนี้ในปีนั้น 3 ท่านสามารถทวงหนี้คืนจากชาวต่างชาติได้ แต่ท่านต้องยกหนี้ทั้งหมดให้กับพี่น้องของท่าน 4 ไม่ควรจะมีคนจนในหมู่พวกท่านเลย เพราะพระยาห์เวห์จะอวยพรท่านอย่างแน่นอนในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน 5 เพียงแต่ท่านจะต้องเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน โดยทำตามคำสั่งทุกๆข้อที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ อย่างระมัดระวัง 6 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอวยพรท่านตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ท่านก็จะมีเงินเหลือเฟือให้หลายๆชนชาติกู้ยืม โดยที่ท่านไม่ต้องไปกู้ยืมจากใคร และท่านจะได้ปกครองเหนือหลายๆชนชาติ แต่จะไม่มีใครมาปกครองเหนือท่าน
7 เมื่อท่านเข้าไปอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่านแล้ว ถ้าเกิดมีพี่น้องคนหนึ่งคนใดในเมืองหนึ่งของท่านยากจนขึ้นมา ท่านต้องไม่เห็นแก่ตัว ต้องไม่ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือพี่น้องที่ยากจนคนนั้น 8 ท่านต้องใจกว้างกับเขาและให้เขายืมตามที่เขาจำเป็นต้องใช้
9 ระวังให้ดีอย่าให้ความคิดชั่วร้ายเข้ามาในจิตใจของท่านที่ว่า ‘มันใกล้จะถึงปีที่เจ็ด ซึ่งเป็นปีแห่งการยกหนี้แล้ว’ ท่านก็เลยมองพี่น้องที่ยากจนคนนั้นอย่างไม่เป็นมิตร เพื่อท่านจะได้ไม่ต้องช่วยอะไรเขาเลย และเขาจะไปบ่นว่าท่านต่อพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์จะตัดสินว่าท่านผิด
10 ท่านต้องช่วยเขาเท่าที่จะช่วยได้ และเวลาที่ช่วย ท่านต้องไม่มีจิตใจที่ชั่วร้ายด้วย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะอวยพรการงานทั้งหมดของท่านและทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ 11 เพราะจะมีคนจนอยู่เสมอในดินแดนแห่งนี้ ดังนั้นเราขอสั่งท่านว่า ท่านต้องใจกว้างกับพี่น้องของท่าน และกับคนยากจนและคนที่ขัดสนในแผ่นดินของท่าน
ปล่อยทาสให้เป็นอิสระ
(อพย. 21:2-11)
12 ถ้าพี่น้องชาวฮีบรูคนใด ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ได้ขายตัวเองให้กับท่าน คนๆนั้นจะต้องรับใช้ท่านหกปี และในปีที่เจ็ดท่านต้องปล่อยคนๆนั้นให้เป็นอิสระ 13 ตอนที่ท่านปล่อยเขาให้เป็นอิสระนั้น ท่านต้องไม่ปล่อยให้เขาไปมือเปล่าๆ 14 ท่านต้องใจกว้าง ให้ แกะ ข้าว และเหล้าองุ่นของท่านกับเขาไปด้วย ท่านต้องให้เขาตามขนาดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอวยพรให้ท่าน 15 จำเอาไว้ว่า ท่านก็เคยเป็นทาสอยู่ในแผ่นดินอียิปต์มาก่อนเหมือนกัน และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ปลดปล่อยให้ท่านเป็นอิสระ นี่เป็นเหตุที่เราถึงได้ให้คำสั่งนี้กับท่านในวันนี้
16 ถ้าทาสพูดกับท่านว่า ‘ผมจะไม่ไปจากท่าน’ เพราะเขารักท่านและครอบครัวของท่าน เพราะเขารู้สึกดีที่ได้อยู่กับท่าน 17 ท่านต้องเอาเหล็กหมาด[k] มาอันหนึ่ง และเอาหูเขาแนบกับประตูแล้วเจาะติ่งหูของทาสนั้น แล้วเขาจะเป็นทาสของท่านตลอดไป สำหรับทาสหญิงก็ให้ทำอย่างเดียวกัน
18 ไม่ต้องเสียดายที่จะปล่อยทาสของท่านให้เป็นอิสระ เพราะหกปีที่เขารับใช้ท่านก็คุ้มค่าแล้ว พอๆกับที่ท่านไปจ้างคนงานหนึ่งคน และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะอวยพรท่านในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ
กฎเกี่ยวกับสัตว์ที่เกิดเป็นตัวแรก
(ลนต. 27:26, 27; กดว. 18:15-18)
19 ลูกสัตว์หัวปีเพศผู้ทุกตัวที่เกิดมาในฝูงวัว ฝูงแพะและแกะของท่าน ต้องแยกออกมาไว้ให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องไม่ใช้งานวัวผู้ที่เป็นลูกหัวปี และท่านต้องไม่ตัดขนของแกะหัวปี 20 ทุกๆปี ท่านต้องเอาสัตว์หัวปีพวกนี้ ไปในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ แล้วท่านและครอบครัวของท่านจะกินมันที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
21 แต่ถ้ามันเป็นสัตว์ที่มีตำหนิ ถ้าเป็นง่อยหรือตาบอดหรือติดโรคร้าย ท่านต้องไม่ถวายมันให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน 22 ท่านเอาไปกินกันในเมืองของท่าน ใครๆก็กินได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรม เหมือนกับกินเนื้อทรายหรือกวาง 23 แต่ท่านต้องไม่กินเลือดของมัน ท่านต้องเทเลือดของมันลงบนพื้นเหมือนเทน้ำ
เทศกาลวันปลดปล่อย
(อพย. 12:1-20; ลนต. 23:4-8)
16 ให้จดจำเดือนอาบีบ[l] และให้เฉลิมฉลองเทศกาลวันปลดปล่อย[m] เพื่อเป็นเกียรติกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะในเดือนอาบีบ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ในตอนกลางคืน 2 ให้ฆ่าสัตว์ถวายพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน สำหรับเทศกาลวันปลดปล่อย โดยเอาสัตว์จากฝูงแพะแกะหรือฝูงวัว ไปถวายในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ 3 ท่านจะต้องไม่กินอะไรที่ใส่เชื้อฟู ตอนกินเนื้อสัตว์ที่เอามาบูชาพวกนั้น ท่านต้องกินขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟูเป็นเวลาเจ็ดวัน (คนเรียกขนมปังนี้ว่า ‘ขนมปังแห่งความทุกข์ยากลำบาก’) เพราะท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์อย่างเร่งรีบ ท่านจะกินขนมปังนี้เพื่อตลอดชีวิตของท่านจะได้จดจำวันที่ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ 4 จะต้องไม่มีเชื้อฟูที่ไหนเลยในแผ่นดินของท่านเป็นเวลาเจ็ดวัน และจะต้องไม่มีเนื้อสัตว์ที่ท่านฆ่าในตอนเย็นของวันแรกเหลือค้างคืนถึงวันรุ่งขึ้น
5 ท่านไม่สามารถถวายเครื่องบูชาสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยในเมืองต่างๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน 6 ท่านต้องไปถวายในที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกสำหรับนมัสการพระองค์เท่านั้น ท่านต้องถวายเครื่องบูชานี้ในตอนเย็น หลังดวงอาทิตย์ตกดินแล้ว มันเป็นเวลาเดียวกับวันที่ท่านออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ 7 ท่านต้องทำอาหารกินในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือก แล้วในตอนเช้า ท่านถึงค่อยกลับไปเต็นท์ของท่านได้ 8 ท่านต้องกินขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูเป็นเวลาหกวัน และในวันที่เจ็ดจะมีการชุมนุมพิเศษ เพื่อให้เกียรติกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน วันนั้นท่านต้องไม่ทำงานใดๆ
เทศกาลสัปดาห์
(อพย. 34:22; ลนต. 23:15-21)
9 นับจากวันที่เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวเป็นครั้งแรกไปอีกเจ็ดอาทิตย์ 10 ให้ฉลองเทศกาลสัปดาห์[n] สำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จำนวนของเครื่องบูชาที่ท่านสมัครใจจะให้ ก็เป็นไปตามขนาดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้อวยพรท่าน 11 ท่าน ลูกชายลูกสาวของท่าน ทาสชายหญิงของท่าน ชาวเลวี ในเมืองของท่าน ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้า และแม่หม้ายในหมู่ท่าน ให้ชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ 12 จำไว้ว่าท่านเคยเป็นทาสอยู่ในอียิปต์ และให้ทำตามกฎพวกนี้ทั้งหมดอย่างระมัดระวัง
เทศกาลอยู่เพิง
(ลนต. 23:33-43; กดว. 29:12-38)
13 ให้ฉลองเทศกาลอยู่เพิงเป็นเวลาเจ็ดวัน หลังจากที่ท่านได้เก็บรวบรวมผลผลิตจากลานนวดข้าวและที่บ่อย่ำองุ่น[o] ของท่าน 14 ในระหว่างงานเลี้ยง ให้ท่าน ลูกชายลูกสาวของท่าน ทาสชายหญิงของท่าน ชาวเลวี ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้ายในเมืองของท่าน ชื่นชมยินดี 15 และเฉลิมฉลองงานเทศกาลให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นเวลาเจ็ดวันในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะอวยพรท่าน ในผลผลิตทั้งหมดที่ท่านเก็บเกี่ยวและในงานทุกอย่างที่ท่านทำ และท่านจะมีความสุขอย่างครบถ้วน
16 ผู้ชายทุกคนต้องมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านปีละสามครั้ง ในสถานที่นั้นที่พระองค์จะเลือกไว้ คือในเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อฟู เทศกาลสัปดาห์และเทศกาลอยู่เพิง ชายทุกคนที่มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ต้องไม่มามือเปล่า 17 ชายแต่ละคนจะต้องให้ตามความสามารถที่เขาจะทำได้ ตามขนาดที่พระยาห์เวห์ได้ให้กับท่าน
ผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่
18 ท่านจะต้องแต่งตั้งผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่สำหรับเผ่าต่างๆของท่าน ในแต่ละเมืองที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน พวกเขาต้องตัดสินประชาชนอย่างยุติธรรม 19 ท่านต้องไม่ตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม ท่านต้องไม่ลำเอียง ท่านต้องไม่รับสินบน เพราะสินบนทำให้คนฉลาดต้องตาบอด และเปลี่ยนคนดีให้พูดหลอกลวง 20 ความยุติธรรม ท่านต้องให้แต่ความยุติธรรม เพื่อท่านจะได้มีชีวิตอยู่และเป็นเจ้าของแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะยกให้กับท่าน
พระเจ้าเกลียดรูปเคารพ
21 เมื่อท่านสร้างแท่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องไม่ตั้งเสาไม้เพื่อให้เกียรติกับพระอาเชริมที่ด้านข้างของแท่นบูชานั้น 22 ท่านต้องไม่ตั้งเสาหินอุทิศให้กับพระเทียมเท็จ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเกลียดของพวกนี้
ใช้แต่สัตว์ดีๆเป็นเครื่องบูชา
17 ท่านต้องไม่เอาวัวตัวผู้หรือแกะที่มีตำหนิหรือมีสิ่งผิดปกติมาถวายเป็นเครื่องบูชาให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเกลียด
การลงโทษคนที่บูชารูปเคารพ
2 ถ้าเจอว่าในเมืองหนึ่งเมืองใดของท่านที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน มีชายหรือหญิงในหมู่พวกท่านทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของของท่านเห็นว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายและฝ่าฝืนข้อตกลงของพระองค์ 3 คือว่าพวกเขาไปรับใช้พวกพระอื่นๆและกราบไหว้พระพวกนั้น ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์หรือดาวดวงต่างๆซึ่งเราไม่ได้สั่งให้ทำอย่างนั้น 4 ถ้ามีคนมารายงานเรื่องนี้ให้ท่านฟัง ท่านต้องสืบดูให้แน่นอน เมื่อพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง ที่มีคนทำเรื่องชั่วร้ายอย่างนี้ในอิสราเอล 5 ท่านต้องเอาตัวชายหรือหญิงคนนั้น ที่ทำเรื่องชั่วร้ายนี้มาที่ประตูเมือง ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ต้องเอาหินขว้างให้ตาย 6 แต่จะต้องมีพยานสองหรือสามคนขึ้นไปถึงจะฆ่าคนๆนั้นได้ แต่ถ้ามีพยานแค่คนเดียวก็ห้ามฆ่าเขา 7 พยานพวกนั้นจะเป็นพวกแรกที่เอาหินขว้างเพื่อฆ่าเขา และตามด้วยประชาชนทั้งหมด ด้วยวิธีนี้ ท่านจะกำจัดความชั่วร้ายไปจากท่ามกลางพวกท่าน
การตัดสินคดียากๆในศาล
8 ถ้ามีเรื่องที่ยากเกินกว่าที่ท่านจะตัดสินได้ เช่น การตายนั้นเกิดจากความตั้งใจหรือเป็นอุบัติเหตุ เป็นการฆาตกรรมหรือไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน หรือเป็นเรื่องฟ้องร้องว่าใครเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หรือเรื่องการทำร้ายร่างกายกัน เรื่องทะเลาะกัน ที่เกิดขึ้นในเมืองต่างๆของท่าน ท่านต้องไปในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้ 9 ท่านต้องไปหานักบวชที่เป็นชาวเลวีและไปหาผู้ตัดสินที่เข้าเวรอยู่ในตอนนั้น บอกปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วพวกเขาจะตัดสินปัญหานั้นให้ 10 ท่านต้องทำตามสิ่งที่เขาบอกท่าน จากสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้ และท่านต้องทำตามคำสั่งของพวกเขาอย่างระมัดระวัง 11 ท่านต้องทำตามคำแนะนำที่พวกเขาให้กับท่านและยอมรับคำตัดสินที่พวกเขาบอกท่าน ท่านต้องไม่โยกโย้คำตัดสินที่พวกเขาได้ประกาศให้กับท่านไปทางซ้ายหรือทางขวา
12 คนที่เย่อหยิ่งจองหองไม่ยอมเชื่อฟังนักบวชที่ยืนอยู่ที่นั่น ที่คอยรับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน หรือไม่ยอมฟังผู้ตัดสิน คนๆนั้นจะต้องตาย ทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากอิสราเอลได้ 13 และทุกคนจะได้ยินเรื่องนั้น แล้วจะได้ไม่กล้าเย่อหยิ่งจองหองอีกต่อไป
วิธีเลือกกษัตริย์
14 เมื่อท่านเข้าสู่แผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะให้ท่านและยึดมันเป็นเจ้าของแล้ว และได้ตั้งรกรากแล้ว และท่านได้พูดว่า ‘ให้เราตั้งกษัตริย์ปกครองเราเหมือนชนชาติอื่นๆที่อยู่รอบๆเรากันเถอะ’ 15 ท่านต้องแน่ใจว่ากษัตริย์ที่ท่านจะตั้งเหนือท่านนั้นเป็นคนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเลือก กษัตริย์องค์นั้นจะต้องมาจากพี่น้องร่วมชาติของท่านเท่านั้น ห้ามไม่ให้ตั้งคนต่างชาติที่ไม่ใช่พี่น้องร่วมชาติของท่านขึ้นมาเหนือท่าน 16 แต่กษัตริย์องค์นั้นจะต้องไม่สะสมม้ามากมายสำหรับตัวเอง และเขาจะต้องไม่ส่งคนกลับไปซื้อม้า[p]ที่อียิปต์มาเพิ่ม เพราะพระยาห์เวห์พูดกับพวกท่านไว้ว่า ‘พวกท่านจะต้องไม่หวนกลับไปทางนั้นอีก’ 17 เขาต้องไม่มีเมียหลายคน ไม่อย่างนั้นเขาจะหันเหไปจากพระยาห์เวห์ และเขาจะต้องไม่ทำให้ตนเองร่ำรวยด้วยเงินทอง
18 เมื่อเขาขึ้นนั่งบัลลังก์ เขาต้องลอกคำสอนนี้ไว้สำหรับตัวเอง เขียนลงบนม้วนกระดาษจากต้นฉบับคำสอนที่พวกนักบวชชาวเลวีเก็บรักษาไว้ 19 กษัตริย์ต้องเก็บหนังสือเล่มนั้นไว้กับตัวเขา และเขาต้องอ่านมันตลอดชีวิต เพื่อเขาจะได้เรียนรู้ที่จะเคารพยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และจะได้ทำตามทุกๆคำพูดที่เขียนไว้ในกฎ และข้อบังคับพวกนี้อย่างระมัดระวัง 20 เพื่อเขาจะได้ไม่คิดว่าตัวเขาดีกว่าพี่น้องร่วมชาติของเขา และเพื่อที่เขาจะได้ไม่หันเหจากคำสั่งนั้นไปทางใดทางหนึ่ง เพื่อกษัตริย์องค์นั้นและลูกหลานของเขาจะได้ปกครองเหนืออาณาจักรอิสราเอลไปนานๆ
สนับสนุนนักบวชและชาวเลวี
18 นักบวชชาวเลวี เผ่าเลวีทั้งหมดจะไม่มีส่วนแบ่งในที่ดินเหมือนกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆ ชาวเลวีจะกินจากพวกของขวัญที่นำมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ นั่นเป็นส่วนแบ่งของพวกเลวี[q] 2 แต่เผ่าเลวีจะไม่มีส่วนแบ่งในที่ดินในหมู่พี่น้องของเขา พระยาห์เวห์คือส่วนแบ่งของพวกเขาตามที่พระองค์ได้สัญญากับเขาไว้
3 เมื่อท่านฆ่าวัวหรือแกะเพื่อเอามาเป็นเครื่องถวาย ท่านจะต้องแบ่งส่วนต่างๆพวกนี้ให้กับนักบวช คือส่วนไหล่ ส่วนแก้ม และส่วนท้อง 4 ท่านต้องให้ข้าวที่เกี่ยวชุดแรก เหล้าองุ่นใหม่และน้ำมัน รวมทั้งขนแกะที่ตัดครั้งแรกจากแกะของท่านกับนักบวช 5 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้เลือกชาวเลวีและลูกหลานของเขาออกมาจากเผ่าทั้งหลายของท่าน เพื่อมายืนรับใช้พระยาห์เวห์ในฐานะนักบวชตลอดไป
6 ถ้าชาวเลวีคนหนึ่งจากเมืองหนึ่งของท่านมา ไม่ว่าจะมาจากที่ไหนก็ตามในอิสราเอล และมายังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์ได้เลือกไว้ เขาอยากจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ 7 เขาก็มาทำหน้าที่รับใช้ในนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาได้ เหมือนกับที่พี่น้องชาวเลวีของเขายืนอยู่ที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์ 8 พวกเขาจะได้รับส่วนแบ่งอาหารเท่าๆกัน นอกเหนือจากสิ่งที่พวกเขาได้รับจากการขายทรัพย์สมบัติของครอบครัวเขา[r]
ชาวอิสราเอลต้องแตกต่าง
9 เมื่อท่านเข้ามาอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน ท่านต้องไม่เลียนแบบชนชาติพวกนั้นที่ทำแต่สิ่งชั่วๆ 10 อย่าเอาลูกชายและลูกสาวของท่านไปบูชายัญ อย่าให้ใครทำนายโชคชะตา โหราพยากรณ์ หรือหมอดูอนาคต อย่าให้ใครทำตัวเป็นพ่อมดหมอผี 11 หรือพยายามใช้เวทมนตร์สะกดคนอื่น และอย่าให้ใครปรึกษากับผีหรือวิญญาณ หรือพยายามพูดกับคนที่ตายไปแล้ว 12 คนที่ทำแบบนี้เป็นคนที่พระยาห์เวห์รังเกียจ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะขับไล่ชนชาติเหล่านี้ออกไปจากดินแดนนั้นต่อหน้าพวกท่าน เพราะพวกเขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจพวกนี้ 13 ท่านต้องซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอย่างครบถ้วน 14 เพราะชนชาติพวกนี้ที่ท่านกำลังจะขับไล่ออกไปนั้น ไปฟังพวกทำนายโชคชะตา และพวกโหราพยากรณ์ แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ยอมให้ท่านทำอย่างนั้น
ผู้พูดแทนพระเจ้าคนใหม่แทนโมเสส
15 แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะส่งผู้พูดแทนพระเจ้าเหมือนเรา มาจากท่ามกลางพวกท่าน จากท่ามกลางพี่น้องของท่าน พวกท่านต้องเชื่อฟังเขา 16 นี่คือสิ่งที่ท่านได้ขอจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่ภูเขาซีนายในวันที่ท่านได้ชุมนุมกัน ท่านพูดว่า ‘ขออย่าให้เราได้ยินเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราอีกเลย และขออย่าให้เราเห็นไฟที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้อีกเลย เพื่อว่าเราจะได้ไม่ตาย’
17 แล้วพระยาห์เวห์ได้พูดกับเราว่า ‘ข้อเสนอของพวกเขานั้นดี 18 เราจะส่งผู้พูดแทนพระเจ้าเหมือนกับเจ้า ที่มาจากพี่น้องของพวกเขาเองมาให้พวกเขา และเราจะบอกเขาว่าจะพูดอะไร และเขาจะบอกคนพวกนั้นทุกอย่างที่เราสั่งเขา 19 ใครที่ไม่เชื่อฟังคำของเราที่พูดผ่านมาทางเขานั้น เราจะเป็นคนลงโทษคนนั้นเอง’
ลักษณะผู้พูดแทนพระเจ้าปลอม
20 แต่ผู้พูดแทนพระเจ้าคนไหนที่บังอาจพูดในสิ่งที่เราไม่ได้สั่งให้เขาพูด แต่อ้างว่าเราพูด จะต้องตาย และผู้พูดแทนพระอื่นๆจะต้องตาย 21 ถ้าท่านนึกในใจว่า ‘แล้วพวกเราจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ได้มาจากพระยาห์เวห์’ 22 เมื่อผู้พูดแทนพระเจ้านั้นอ้างว่าเขาพูดแทนพระยาห์เวห์ แต่สิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นและมันไม่เป็นจริง ท่านก็รู้เลยว่าผู้พูดแทนพระเจ้านั้นพูดมั่วๆเอาเอง พระยาห์เวห์ไม่ได้บอกให้เขาพูด ท่านไม่ต้องไปกลัวเขา
เมืองสำหรับลี้ภัย
(กดว. 35:9-28; ยชว. 20:1-9)
19 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทำลายชนชาติที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะยกให้กับท่าน และเมื่อท่านได้ขับไล่พวกเขาออกไป และเข้าไปตั้งรกรากในบ้านเมืองของพวกเขาแล้ว 2 ท่านต้องแยกสามเมืองออกมาจากดินแดนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะยกให้กับท่าน 3 ท่านต้องคำนวณระยะทางที่จะไปสามเมืองนั้น[s] และแบ่งดินแดนที่พระยาห์เวห์ยกให้กับท่านออกเป็นสามส่วน เพื่อคนที่ฆ่าคนตายจะได้หนีไปอยู่ที่นั่น
4 มีกฎอยู่ว่า คนที่ฆ่าคนอื่นตายและหนีไปอยู่ที่นั่นเพื่อเอาชีวิตรอดนั้น จะต้องเป็นคนที่ฆ่าคนอื่นโดยไม่ได้เจตนา และเขาต้องไม่เคยเป็นศัตรูกับผู้ตายมาก่อน 5 ตัวอย่างเช่น มีคนๆหนึ่งเข้าไปตัดต้นไม้ในป่ากับเพื่อนอีกคน ตอนที่เขาเงื้อขวานขึ้นเพื่อตัดต้นไม้ เผอิญหัวขวานหลุดจากด้าม ลอยไปโดนอีกคน ทำให้เพื่อนเขาตาย เขาต้องหนีไปอยู่หนึ่งในสามเมืองนี้ เพื่อเอาชีวิตรอด 6 ไม่อย่างนั้น ญาติของคนตาย[t] จะไล่ตามคนฆ่า ถ้าระยะทางไปสามเมืองนั้นไกลเกินไป เขาก็จะจับคนฆ่านั้นได้ และด้วยความโกรธเขาก็จะฆ่าคนนั้น ทั้งๆที่คนฆ่านั้นไม่สมควรได้รับโทษถึงตาย เพราะคนฆ่านั้นไม่เคยเป็นศัตรูกับผู้ตายมาก่อน 7 นั่นเป็นเหตุที่เราสั่งให้ท่านแยกเมืองออกมาสามเมือง
8 แต่ถ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ขยายเขตแดนของท่านออกไป เหมือนกับที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน และพระองค์ให้แผ่นดินทั้งหมดกับท่าน ตามที่พระองค์สัญญาว่าจะยกให้กับบรรพบุรุษของท่าน 9 พระองค์จะทำอย่างนี้ ถ้าท่านทำตามทุกอย่างที่เราได้สั่งท่านในวันนี้อย่างระมัดระวัง คือรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและเดินในทางของพระองค์เสมอ เมื่อพระองค์ขยายเขตแดนของท่าน ท่านต้องหาเมืองลี้ภัยเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกสามเมือง 10 ด้วยวิธีนี้ จะได้ไม่มีผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าในแผ่นดินของท่าน ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่านเป็นมรดก และท่านจะได้ไม่มีความผิดเพราะทำให้คนบริสุทธิ์ต้องตาย
11 แต่ถ้ามีคนหนึ่งเป็นศัตรูกับอีกคนหนึ่ง แล้วคนนั้นมาดักซุ่มคอยทำร้าย หลังจากลอบตีอีกคนจนตายแล้ว ก็วิ่งหนีเข้าไปในเมืองลี้ภัยพวกนี้ 12 พวกผู้นำของเมืองที่เขาอยู่ จะต้องส่งคนไปเอาตัวเขาออกมาจากเมืองลี้ภัยนั้น และส่งเขาไปให้กับญาติของผู้ตายเพื่อเอาไปฆ่า 13 ท่านต้องไม่สงสารเขา ท่านต้องกำจัดความผิดบาปที่ฆ่าคนบริสุทธิ์ให้ออกไปจากอิสราเอล เพื่อทุกสิ่งจะได้เป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน
เส้นแบ่งเขตที่ดิน
14 ท่านต้องไม่โยกย้ายหลักเขตหิน ที่แบ่งเขตแดนของเพื่อนบ้านท่าน ที่คนรุ่นก่อนๆได้ปักไว้ในที่ดินที่ท่านจะได้รับ ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน
พยาน
15 พยานแค่คนเดียวไม่เพียงพอที่จะตัดสินโทษคนๆหนึ่งที่อาจจะไปทำความผิดบาปมา แต่จะต้องมีพยานสองหรือสามคนมายืนยันเรื่องนั้นถึงจะตัดสินได้
16 ถ้ามีพยานเท็จเกิดขึ้น กล่าวหาอีกคนหนึ่งอย่างผิดๆ 17 และทั้งสองคนที่ทะเลาะกันได้มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ต่อหน้านักบวชและผู้ตัดสินที่เข้าเวรในวันนั้น 18 ผู้ตัดสินจะสอบถามอย่างละเอียด และถ้าพยานใส่ร้ายพี่น้องของเขา 19 พวกท่านต้องลงโทษเขาอย่างที่เขาวางแผนจะให้พี่น้องคนนั้นถูกลงโทษ ท่านต้องกำจัดความชั่วร้ายออกไปจากท่ามกลางท่าน 20 คนที่เหลือจะได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วจะได้กลัว และพวกเขาจะได้ไม่กล้าทำสิ่งชั่วร้ายอย่างนั้นอีกในหมู่พวกท่าน 21 ท่านต้องไม่สงสารเขา ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต ตาต่อตา ฟันต่อฟัน มือต่อมือ เท้าต่อเท้า
กฎของการทำสงคราม
20 เมื่อท่านออกไปทำสงครามกับศัตรู และท่านเห็นม้าและรถรบ และกองทัพที่ใหญ่กว่ากองทัพของท่าน ไม่ต้องกลัวพวกเขา เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์อยู่กับท่าน
2 เมื่อท่านเข้าใกล้สนามรบ นักบวชจะมาอยู่ข้างหน้าและพูดกับกองทัพว่า 3 ‘ชาวอิสราเอล ฟังให้ดี พวกท่านกำลังจะเข้าสู่สนามรบกับศัตรูของท่านในวันนี้ อย่าเสียกำลังใจ อย่ากลัว อย่าแตกตื่นและอย่าตกใจกลัวพวกนั้น 4 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านจะไปกับพวกท่าน และพระองค์จะต่อสู้กับศัตรูแทนพวกท่านและจะให้ท่านมีชัยชนะ’
5 เจ้าหน้าที่จะต้องพูดกับกองทัพว่า ‘มีใครบ้างในที่นี้ที่ได้สร้างบ้านใหม่ แต่ยังไม่ได้เข้าไปอยู่เลย เขาควรจะกลับบ้านไป ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะตายในสนามรบและคนอื่นจะเข้าไปอยู่แทน 6 หรือมีใครบ้างที่ปลูกองุ่นไปแล้วแต่ยังไม่ได้กินผลของมัน เขาควรจะกลับบ้านไป ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะตายในสนามรบและคนอื่นจะมากินแทน 7 หรือมีใครที่หมั้นสาวไว้แต่ยังไม่ได้แต่ง เขาควรจะกลับบ้านไป ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะตายในสนามรบ และคนอื่นจะมาแต่งงานกับนางแทน’
8 แล้วเจ้าหน้าที่จะพูดกับกองทัพว่า ‘มีใครบ้างที่ขี้ขลาดและกลัว เขาควรจะกลับบ้านไป จะได้ไม่พลอยทำให้คนอื่นกลัวไปด้วย’ 9 เมื่อเจ้าหน้าที่พูดกับกองทัพเสร็จแล้ว พวกเขาควรแต่งตั้งผู้บัญชาการเพื่อมานำกองทัพ
10 เมื่อท่านใกล้ถึงเมืองที่ท่านจะสู้รบด้วย สิ่งแรกที่ท่านต้องทำก่อน คือเสนอเงื่อนไขให้จำนน 11 ถ้าพวกเขายอมจำนน และเปิดประตูเมืองให้ท่าน ท่านต้องบังคับทุกคนที่ท่านพบในเมืองนั้นให้มาทำงานรับใช้ท่าน 12 แต่ถ้าเมืองนั้นไม่ยอมจำนน ให้ท่านล้อมเมืองนั้นไว้ 13 แล้วเมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านมอบเมืองนั้นไว้ในมือท่าน ท่านต้องเอาดาบฆ่าผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคน 14 แต่ให้จับเอาผู้หญิง เด็กๆฝูงวัว และสิ่งอื่นๆที่อยู่ในเมืองนั้น รวมทั้งของที่มีค่าทั้งหมดมาเป็นของท่านได้ และท่านก็สามารถใช้สิ่งเหล่านี้ที่เป็นของศัตรูท่านที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ยกให้กับท่าน 15 ส่วนเมืองต่างๆที่ห่างไกลจากท่านมาก ที่ไม่ใช่เป็นของพวกชนชาติแถวนี้ ก็ให้ท่านทำแบบเดียวกัน
16 แต่ท่านต้องไม่ให้มีสิ่งมีชีวิตหลงเหลืออยู่เลยในเมืองต่างๆของคนพวกนี้ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่านเป็นมรดก 17 เพราะท่านต้องทำลายคนพวกนี้ให้สิ้นซาก คือ ชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวคานาอัน ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์และชาวเยบุส ตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้สั่งท่านไว้ 18 เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่สอนพวกท่านให้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจที่พวกเขาได้ทำให้กับพระต่างๆของพวกเขา ซึ่งจะทำให้พวกท่านทำบาปอย่างนั้นต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
19 ถ้าท่านล้อมเมืองเมืองหนึ่งอยู่หลายวัน และต่อสู้กันเพื่อจะยึดเมืองนั้น อย่าเอาขวานโค่นพวกต้นไม้ เพราะท่านอาจจะได้กินผลของพวกมัน อย่าโค่นพวกต้นไม้ลง พวกต้นไม้ในทุ่งนาเป็นคนหรือยังไงถึงต้องไปต่อสู้กับมัน 20 แต่ถ้าท่านรู้ว่าต้นไหนไม่ใช่ต้นผลไม้ ท่านก็โค่นทิ้งได้ แล้วเอาไม้พวกมันมาสร้างกำแพงป้องกันภัยจากเมืองที่ทำสงครามกับท่านอยู่ จนกว่าจะยึดเมืองนั้นได้
ถ้าพบคนถูกฆ่าตาย
21 ถ้าพบคนถูกฆ่าตายนอนอยู่ในทุ่งในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน และไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่า 2 พวกผู้นำและผู้ตัดสินต้องออกไปที่นั่น และวัดระยะทางจากเมืองต่างๆไปถึงศพนั้น 3 เมืองไหนที่อยู่ใกล้ศพมากที่สุด พวกผู้นำของเมืองนั้นต้องเอาวัวสาวตัวหนึ่งมาจากฝูง ต้องเป็นวัวที่ยังไม่เคยใช้งาน และไม่เคยเทียมแอกมาก่อน 4 พวกผู้นำของเมืองนั้นต้องเอาวัวสาวตัวนี้ไปที่หุบเขาที่มีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา หุบเขาที่ยังไม่เคยไถและไม่เคยปลูกอะไรมาก่อน พวกเขาต้องหักคอวัวสาวตัวนี้ที่หุบเขานั้น 5 แล้วนักบวชที่เป็นลูกหลานของเลวีต้องออกมาข้างหน้า เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้เลือกพวกเขามารับใช้พระองค์และมาให้พรในนามของพระยาห์เวห์ และพวกเขายังมีหน้าที่ตัดสินคดีทะเลาะวิวาทและคดีทำร้ายร่างกาย 6 พวกผู้นำทุกคนที่มาจากเมืองที่อยู่ใกล้กับศพนั้นมากที่สุด จะต้องล้างมือของพวกเขาบนวัวสาวตัวที่ถูกหักคอในหุบเขานั้น 7 พวกเขาต้องพูดว่า ‘พวกเราไม่ได้ฆ่าคนๆนั้นและไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น 8 ช่วยทำให้พวกเราชาวอิสราเอลของพระองค์ พวกที่พระองค์ได้ปลดปล่อย[u]ให้เป็นอิสระแล้ว เป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยเถิด อย่าให้เราชาวอิสราเอลคนของพระองค์ต้องมารับผิดชอบที่คนบริสุทธิ์คนหนึ่งถูกฆ่าเลย’ เมื่อพวกท่านทำอย่างนี้ พวกท่านจะพ้นผิดจากการที่คนหนึ่งถูกฆ่า 9 ท่านจะขจัดความผิดที่คนบริสุทธิ์คนหนึ่งถูกฆ่าออกไปจากกลุ่มของท่านได้ เพราะท่านก็ได้ทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าถูกต้อง
ผู้หญิงที่ถูกจับในสงคราม
10 เมื่อท่านไปทำสงครามกับศัตรู และพระยาห์เวห์ได้มอบพวกเขาไว้ในมือของท่าน และท่านจับเชลยมา 11 และในหมู่เชลยนั้น ท่านเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง และท่านหลงใหลนางและต้องการเอานางมาเป็นเมีย 12 ท่านได้พานางมาที่บ้าน นางต้องโกนหัวและตัดเล็บ 13 ทิ้งเสื้อผ้าชุดเชลยที่นางใส่นั้นและอยู่ในบ้านของท่าน นางต้องร้องไห้ให้กับพ่อและแม่ของนางเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม หลังจากนั้นท่านถึงจะมีเพศสัมพันธ์กับนางได้ และท่านจะเป็นสามีของนางและนางจะเป็นภรรยาของท่าน 14 แต่ถ้าเกิดว่าท่านเบื่อนางแล้ว ท่านต้องหย่ากับนางและปล่อยให้นางไปที่ไหนก็ได้ที่นางอยากจะไป ท่านจะขายนางแลกกับเงินไม่ได้ ท่านจะทำกับนางเหมือนสินค้าไม่ได้ เพราะท่านได้ทำให้นางอับอายขายหน้า
ลูกชายคนแรก
15 ถ้าชายคนหนึ่งมีเมียสองคน และเขารักคนหนึ่งและไม่ชอบอีกคนหนึ่ง และเมียทั้งสอง คือทั้งคนที่เขารักและคนที่เขาไม่ชอบ คลอดลูกชายให้เขา และลูกชายคนแรกเป็นของเมียคนที่เขาเกลียด 16 ในวันที่เขาแบ่งสมบัติให้กับลูกชายของเขานั้น เขาจะลำเอียงทำกับลูกของเมียที่เขารัก เหมือนกับลูกของเมียที่เขาไม่ชอบ ซึ่งเป็นลูกหัวปีไม่ได้ 17 แต่เขาจะต้องยอมรับลูกชายหัวปี ลูกของเมียที่เขาไม่ชอบ และให้ส่วนแบ่งกับลูกหัวปีสองเท่าของสมบัติที่เขาให้กับลูกชายคนอื่นๆ เพราะเป็นลูกชายคนแรกของเขา ดังนั้นสิทธิของลูกชายหัวปีจึงตกเป็นของเขา
ลูกที่ไม่เชื่อฟัง
18 ถ้าบางคนมีลูกชายที่ดื้อรั้นและพยศ ไม่ยอมเชื่อฟังพ่อแม่ ถึงแม้จะถูกพ่อแม่ลงโทษแล้วก็ยังไม่ยอมเชื่อฟัง 19 พ่อแม่ต้องจับเขาไปพบผู้นำของเมืองนั้นที่ประตูเมือง 20 พ่อแม่ต้องบอกผู้นำของเมืองนั้นว่า ‘ลูกชายของเราคนนี้ดื้อรั้นและพยศ ไม่ยอมเชื่อฟังเรา เขากินเติบและขี้เมา’ 21 แล้วชายทุกคนในเมืองนั้นต้องเอาหินขว้างเขาให้ตาย เมื่อท่านทำอย่างนี้ ท่านก็ได้ขจัดคนชั่วช้าออกไปจากท่ามกลางท่าน คนอิสราเอลจะได้ยินเรื่องนี้กันหมด และเกิดความกลัว
อาชญากรถูกฆ่าและถูกแขวนบนต้นไม้
22 เมื่อคนหนึ่งทำผิดบาปถึงขั้นรับโทษถึงตาย หลังจากที่เขาถูกฆ่าแล้ว ท่านก็เอาเขาไปแขวนบนต้นไม้[v] 23 ท่านต้องไม่ปล่อยให้ร่างนั้นค้างอยู่บนต้นไม้ข้ามคืน แต่ท่านต้องฝังเขาในวันนั้น เพราะคนที่ถูกแขวนอยู่บนต้นไม้นั้นถูกพระเจ้าสาปแช่ง ท่านต้องไม่ทำให้แผ่นดินของท่านไม่บริสุทธิ์ แผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่านเป็นมรดก
กฎอื่นๆ
22 เมื่อท่านเห็นวัวหรือแกะของเพื่อนบ้านกำลังจะหลงหายไป อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ท่านต้องจับส่งคืนไปให้กับเพื่อนบ้านท่าน 2 แต่ถ้าเจ้าของสัตว์นั้นอยู่ห่างไกลจากท่านหรือท่านไม่รู้ว่าเป็นของใคร ก็ให้ท่านเก็บสัตว์นั้นไว้ก่อน จนกว่าเพื่อนบ้านคนนั้นจะออกมาตามหา ท่านถึงค่อยคืนสัตว์นั้นให้กับเขาไป 3 ให้ท่านทำแบบเดียวกันนี้กับลา กับเสื้อผ้าและกับของอื่นๆที่เพื่อนบ้านของท่านทำหายและท่านไปพบเข้า อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
4 เมื่อท่านเห็นลาหรือวัวของเพื่อนบ้านล้มอยู่ที่ถนน อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ท่านต้องเข้าไปช่วยยกมันขึ้นด้วยกันกับเจ้าของมัน
5 ผู้หญิงต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าของผู้ชาย และผู้ชายต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าผู้หญิง เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านขยะแขยงทุกคนที่ทำอย่างนั้น
6 ถ้าท่านกำลังเดินอยู่ และพบรังนกบนต้นไม้หรือตกอยู่บนพื้นดิน มีลูกนกหรือไข่นกอยู่ในนั้น และแม่นกกำลังกกลูกหรือไข่ของมันอยู่ ท่านต้องไม่จับทั้งแม่และลูกของมัน 7 ท่านอาจจะเก็บลูกของมันไว้ได้ แต่ต้องปล่อยแม่ของมันไป เพื่อทุกอย่างจะได้เป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน และท่านจะมีอายุยืนยาว
8 เมื่อท่านสร้างบ้านใหม่ ต้องก่ออิฐกันตกรอบดาดฟ้า ท่านจะได้ไม่มีความผิดที่ทำให้คนตกลงมาตาย
ของที่ห้ามอยู่ด้วยกัน
9 เมื่อท่านทำไร่องุ่น ท่านต้องไม่ปลูกพืชอื่นแซม ไม่อย่างนั้นทั้งพืชที่ปลูกแซมและผลองุ่นจากไร่นั้นจะกลายเป็นสมบัติของพระเจ้า ถูกส่งไปยังสถานที่นมัสการพระองค์
10 เมื่อท่านไถดิน ท่านต้องไม่เอาวัวและลามาไถพร้อมๆกัน
11 ท่านต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าที่ทอด้วยขนสัตว์และลินินเข้าด้วยกัน
12 ท่านต้องทำพู่[w] ห้อยที่ชายเสื้อคลุมทั้งสี่ด้านของท่าน
กฎของการแต่งงาน
13 ถ้าชายคนหนึ่งแต่งงานกับหญิงคนหนึ่ง และมีเพศสัมพันธ์กับนาง แล้วเกิดเกลียดนางขึ้นมา 14 เขากล่าวหาว่านางทำตัวไม่เหมาะสมและพูดให้นางเสียหายว่า “ผมได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แต่เมื่อผมมีเพศสัมพันธ์กับนาง ผมพบว่านางไม่บริสุทธิ์” 15 พ่อแม่ของหญิงสาวคนนี้จะต้องหาข้อพิสูจน์ว่านางเป็นสาวบริสุทธิ์ มาให้กับพวกผู้นำของเมืองนั้นที่ประตูเมือง 16 พ่อของหญิงสาวคนนั้นต้องพูดกับพวกผู้นำว่า “ผมได้ยกลูกสาวให้กับชายคนนี้เป็นเมีย ตอนนี้เขาเกลียดนางแล้ว 17 และดูสิ เขายังกล่าวหาว่านางทำตัวไม่เหมาะสม โดยบอกว่า ‘ผมพบว่าลูกสาวของท่านไม่บริสุทธิ์ นี่คือข้อพิสูจน์ว่าลูกสาวของผมเป็นสาวบริสุทธิ์’” แล้วเขาต้องกางผ้า[x] ผืนนั้นออกต่อหน้าพวกผู้นำของเมืองนั้น 18 แล้วพวกผู้นำของเมืองนั้นต้องเอาตัวชายคนนั้นมาเฆี่ยนตี 19 พวกเขาต้องปรับชายคนนั้นเป็นเงินหนึ่งกิโลกรัม[y] และนำเงินนั้นไปให้กับพ่อของหญิงสาวคนนั้น เพราะชายคนนั้นได้ทำลายชื่อเสียงของหญิงบริสุทธิ์ของอิสราเอล นางจะยังคงเป็นเมียเขาต่อไปและเขาจะหย่าขาดจากนางไม่ได้ตลอดชีวิต
20 แต่ถ้าเป็นจริงตามที่กล่าวหา และไม่มีอะไรมาพิสูจน์ว่านางเป็นสาวบริสุทธิ์ 21 พวกผู้นำต้องนำตัวนางไปที่ประตูบ้านของพ่อนาง และพวกผู้ชายในเมืองนั้นก็จะเอาหินขว้างนางจนตาย เพราะนางได้ทำสิ่งที่น่าอัปยศอดสูในอิสราเอล ด้วยการทำตัวเหมือนหญิงโสเภณีในบ้านพ่อของนาง เมื่อทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากท่ามกลางคนของท่าน
บาปทางเพศ
22 ถ้าพบว่าชายคนหนึ่งนอนอยู่กับหญิงอีกคนหนึ่ง ที่เป็นเมียของคนอื่น ทั้งสองคนคือชายคนนั้นและหญิงที่เขานอนด้วยต้องตาย เมื่อทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากอิสราเอล
23 ถ้าหญิงสาวบริสุทธิ์คนหนึ่งได้รับหมั้นกับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว และมีคนหนึ่งเจอนางที่ในเมือง และมีเพศสัมพันธ์กับนาง 24 พวกท่านต้องเอาทั้งสองคนมาที่ประตูเมืองนั้น แล้วเอาหินขว้างพวกเขาให้ตาย ที่ต้องฆ่าหญิงนั้นเพราะนางไม่ได้ร้องให้คนช่วยในเมือง และที่ต้องฆ่าชายนั้นก็เพราะเขาทำให้เมียของคนอื่นเสียหาย เมื่อทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกจากท่ามกลางท่าน
25 แต่ถ้าชายคนนั้นพบหญิงที่หมั้นแล้วคนนี้ในที่โล่งนอกเมือง และชายคนนั้นก็จับนางมาข่มขืน มีแต่ชายคนนี้เท่านั้นที่ต้องตาย 26 อย่าทำอะไรกับหญิงสาวนั้น นางไม่ได้ทำบาปอะไรที่สมควรตาย เพราะกรณีนี้เหมือนกับชายที่ทำร้ายเพื่อนบ้านและฆ่าเขา 27 เพราะเขาพบนางในที่โล่งนอกเมือง หญิงที่หมั้นนี้อาจจะร้องให้คนช่วยแล้ว แต่ไม่มีใครมาช่วย
28 ถ้าชายคนหนึ่งพบหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ยังไม่ได้หมั้นและจับนางมาข่มขืน และพวกเขาถูกจับได้ 29 ชายคนที่นอนกับนางต้องให้เงินครึ่งกิโลกรัม[z] กับพ่อของหญิงสาวคนนั้น และนางจะกลายเป็นเมียของเขา เพราะเขาทำให้นางเสียหาย เขาไม่สามารถหย่ากับนางได้ตลอดชีวิตของเขา
30 ผู้ชายจะแต่งงานกับเมียเก่าของพ่อเขาไม่ได้ เพราะจะทำให้พ่อเขาอับอายขายหน้า
คนที่ไม่สามารถเข้าร่วมนมัสการ
23 ชายที่ลูกอัณฑะถูกทำลายหรือถูกตัดอวัยวะเพศ จะเข้าร่วมนมัสการพระยาห์เวห์กับชายอิสราเอลคนอื่นๆไม่ได้ 2 ถ้าชายคนไหนที่พ่อแม่แต่งงานกันทั้งๆที่มีกฎห้ามแต่ง ชายคนนั้นก็จะไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นคนของพระยาห์เวห์ และลูกหลานของเขาอีกสิบชั่วรุ่น ก็จะไม่มีสิทธิ์อย่างเต็มที่เหมือนกัน
3 ชาวอัมโมนหรือชาวโมอับจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของประชาชนอิสราเอล และลูกหลานของเขาอีกสิบชั่วรุ่นก็จะไม่เป็นส่วนหนึ่งด้วยเหมือนกัน และจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป 4 เพราะพวกเขาไม่ยอมให้อาหารและน้ำดื่มกับท่าน ตอนที่ท่านเดินทางออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ และพวกเขายังว่าจ้างบาลาอัมมาสาปแช่งท่าน บาลาอัมเป็นลูกชายของเบโอร์จากเมืองเปโธร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมโสโปเตเมีย 5 แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ยอมฟังบาลาอัม และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเปลี่ยนคำสาปแช่งให้เป็นคำอวยพรสำหรับท่าน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านรักท่าน 6 ตลอดชีวิตของท่าน อย่าไปทำให้คนพวกนี้สะดวกสบายหรือมั่งคั่งเป็นอันขาด
คนที่ชาวอิสราเอลควรยอมรับ
7 อย่าเกลียดชาวเอโดม เพราะเขาคือพี่น้องของท่าน อย่าเกลียดชาวอียิปต์ เพราะท่านเคยเป็นชาวต่างชาติในประเทศของเขามาก่อน 8 ลูกของชาวเอโดมและชาวอียิปต์รุ่นที่สาม สามารถเข้าร่วมนมัสการพระยาห์เวห์กับชายอิสราเอลได้
สุขอนามัยในค่าย
9 เมื่อท่านออกไปตั้งค่ายเผชิญหน้ากับศัตรู ท่านต้องอยู่ห่างไกลจากทุกสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ 10 เมื่อมีบางคนในค่ายฝันเปียกตอนกลางคืน ทำให้เขาไม่บริสุทธิ์ เขาต้องออกไปนอกค่าย ห้ามเข้ามาในค่าย 11 พอตกเย็น เขาต้องอาบน้ำ เมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน เขาถึงกลับเข้าค่ายได้
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International