Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Bible in 90 Days

An intensive Bible reading plan that walks through the entire Bible in 90 days.
Duration: 88 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 23:12-34

12 ท่านต้องมีสถานที่หนึ่งนอกค่ายสำหรับออกไปถ่ายทุกข์ 13 ท่านต้องเอาไม้กับอุปกรณ์ไปด้วย เมื่อท่านถ่ายทุกข์เสร็จแล้ว ก็ให้เอาไม้นั้นขุดหลุม และกลบอึของท่านด้วย 14 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอยู่กับท่านในค่ายนั้นด้วย เพื่อช่วยชีวิตท่านและช่วยให้ท่านชนะศัตรู ดังนั้นค่ายของท่านต้องเตรียมไว้ให้บริสุทธิ์สำหรับพระองค์ พระองค์จะได้ไม่เห็นอะไรที่น่ารังเกียจท่ามกลางท่านและเลิกติดตามท่านไป

กฎอื่นๆ

15 ทาสที่หนีนายของเขามาอยู่กับท่าน ท่านต้องไม่ส่งทาสนั้นคืนไปให้นายเก่าของเขา 16 ทาสนั้นจะเลือกอยู่ที่ไหนก็ได้ในเมืองต่างๆของท่าน ตามใจเขา ห้ามบังคับเขา

17 ห้ามไม่ให้ลูกสาวและลูกชายของคนอิสราเอลเป็นโสเภณี 18 ท่านต้องไม่เอาค่าตัวของโสเภณีหญิงหรือโสเภณีชาย มาแก้บนในวิหารของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านขยะแขยงทั้งโสเภณีหญิงและชาย

19 เมื่อท่านให้พี่น้องอิสราเอลกู้ยืม ท่านต้องไม่คิดดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยอาหารหรือดอกเบี้ยอะไรก็แล้วแต่ที่ท่านให้กู้ยืมไป 20 ท่านอาจคิดดอกเบี้ยกับชาวต่างชาติได้ แต่ต้องไม่คิดจากพี่น้องชาวอิสราเอลคนอื่น เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะได้อวยพรท่านในทุกสิ่งที่ท่านทำในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดเป็นเจ้าของ

21 เมื่อท่านบนไว้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน อย่าชักช้าที่จะแก้บน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทวงจากท่านแน่นอน และท่านจะมีความผิดเพราะบาปนั้น 22 แต่ถ้าท่านไม่ได้บนไว้กับพระยาห์เวห์ ท่านก็ไม่มีความผิดเพราะบาปนั้น 23 ท่านต้องทำตามคำพูดของตัวเองอย่างระมัดระวัง ตามที่ท่านสมัครใจบนไว้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ด้วยปากของท่านเอง

24 ถ้าท่านเข้าไปในไร่องุ่นของเพื่อนบ้าน ท่านกินองุ่นได้เต็มที่เลย จนกว่าจะอิ่ม แต่ห้ามเก็บองุ่นใส่กระเป๋า 25 ถ้าท่านเดินผ่านทุ่งนาของเพื่อนบ้าน ท่านเอามือเด็ดรวงข้าวกินได้เลย แต่ต้องไม่ใช้เคียวเกี่ยวข้าวของคนอื่น ติดตัวไปด้วย

24 ถ้าชายคนไหนรับผู้หญิงมาและแต่งงานกับนาง ต่อมาเขาเริ่มไม่พอใจนาง เพราะเขาค้นพบว่านางได้ไปทำสิ่งที่น่ารังเกียจ[a] และถ้าเขาเขียนใบหย่าให้กับนางและส่งนางออกจากบ้านเขาไป นางก็ออกจากบ้านเขาและไปเป็นเมียของชายคนอื่น และถ้าสามีคนใหม่ก็ไม่ชอบนางเหมือนกัน และเขียนใบหย่าให้กับนางและส่งนางออกจากบ้านเขาไป หรือถ้าสามีคนใหม่ตาย สามีคนแรกที่ส่งนางออกไปจากบ้านนั้น จะรับนางกลับไปเป็นเมียอีกไม่ได้แล้ว เพราะนางกลายเป็นคนที่ไม่บริสุทธิ์สำหรับเขาแล้ว เพราะพระยาห์เวห์เกลียดการกระทำนี้ และท่านต้องไม่นำบาปเข้ามาบนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่านไว้เป็นเจ้าของ

เมื่อผู้ชายแต่งงานใหม่ๆ เขาต้องไม่ออกไปทำสงคราม และต้องไม่ให้งานอื่นๆกับเขาทำด้วย เขาจะอยู่บ้านไม่ต้องทำอะไรเป็นเวลาหนึ่งปี และทำให้เมียที่เขาเพิ่งแต่งงานด้วยมีความสุข

ถ้าท่านให้ใครกู้ยืม ห้ามเอาโม่หินหรือแม้แต่หินก้อนบนของโม่นั้นเป็นเครื่องค้ำประกัน เพราะเป็นการเอาของที่สำคัญต่อชีวิตมาเป็นของค้ำประกัน[b]

ถ้าเจอว่าใครไปลักพาตัวพี่น้องชาวอิสราเอลของเขาเอง แล้วทำให้เขากลายเป็นทาสหรือขายเขาไป คนที่ลักพาตัวนั้นต้องถูกฆ่าตาย ท่านต้องขจัดสิ่งชั่วร้ายไปจากท่ามกลางพวกท่าน

ระวังให้ดี ในเรื่องเกี่ยวกับโรคผิวหนังร้ายแรง ให้ทำตามคำสั่งของนักบวชอย่างระมัดระวัง พวกท่านต้องทำตามสิ่งที่เราได้สั่งพวกเขาไว้อย่างระมัดระวัง จำสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทำกับมิเรียม[c] ในช่วงการเดินทางหลังจากที่พวกท่านออกมาจากอียิปต์

10 เมื่อท่านให้เพื่อนบ้านกู้ยืมอะไรก็แล้วแต่ ท่านต้องไม่เข้าไปหยิบของค้ำประกันในบ้านเขา 11 ท่านต้องยืนรออยู่ข้างนอก และชายคนที่กู้ยืมจากท่านจะเอาของค้ำประกันออกมาให้กับท่านนอกบ้าน 12 ถ้าคนกู้ยืมนั้นยากจน ท่านต้องไม่เก็บเสื้อคลุมของเขาข้ามคืน เสื้อคลุมที่เขาเอามาให้กับท่านเป็นของค้ำประกัน 13 ท่านต้องคืนเสื้อคลุมนั้นให้เขาเมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน เขาจะได้ใส่นอน แล้วเขาจะอวยพรท่าน พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะยอมรับในการกระทำของท่านว่าถูกต้อง

14 ท่านต้องไม่โกงคนงานรับจ้างที่ยากจนและเดือดร้อน ไม่ว่าเขาจะเป็นพี่น้องชาวอิสราเอลของท่านหรือชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองใดเมืองหนึ่งในดินแดนของท่าน 15 ท่านต้องจ่ายค่าจ้างให้เขาในแต่ละวันก่อนดวงอาทิตย์ตกดิน เพราะเขายากจนและเขาต้องการค่าจ้างนั้น ไม่อย่างนั้นเขาจะมาฟ้องร้องท่านกับพระยาห์เวห์ ท่านก็จะมีความผิดจากบาป

16 ต้องไม่ฆ่าพ่อแม่แทนลูกๆและต้องไม่ฆ่าลูกๆแทนพ่อแม่ บาปของใครของมัน คนไหนทำบาปคนนั้นก็ต้องถูกฆ่า 17 ท่านต้องไม่ตัดสินคนต่างชาติหรือเด็กกำพร้าที่อยู่ท่ามกลางพวกท่านอย่างไม่ยุติธรรม ท่านต้องไม่รับเสื้อผ้าของแม่หม้ายเป็นของค้ำประกัน 18 ท่านต้องจำไว้ว่าท่านก็เคยเป็นทาสในแผ่นดินอียิปต์มาก่อน และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ปลดปล่อยท่านจากที่นั่น นั่นเป็นเหตุที่เราถึงได้สั่งให้ท่านทำอย่างนี้

19 เมื่อท่านรวบรวมพืชผลในท้องทุ่งของท่าน และท่านลืมฟ่อนข้าวไว้ฟ่อนหนึ่งในทุ่ง ท่านต้องไม่กลับไปเอา ทิ้งมันไว้ตรงนั้นสำหรับชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าหรือแม่หม้าย เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะได้อวยพรท่านในทุกสิ่งที่ท่านทำ 20 เมื่อท่านตีกิ่งมะกอกเพื่อเอาผลของมัน ท่านต้องไม่กลับไปตีกิ่งมันซ้ำอีก ผลมะกอกที่คาอยู่บนต้นจะเก็บไว้ให้ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้าย 21 เมื่อท่านเก็บองุ่นจากไร่ อย่ากลับไปเก็บองุ่นที่คาอยู่บนต้น เหลือมันไว้ให้ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้าย 22 จำไว้ว่าท่านก็เคยเป็นทาสในแผ่นดินอียิปต์ นั่นเป็นเหตุที่เราถึงได้สั่งให้ท่านทำอย่างนี้

25 เมื่อมีคนสองคนทะเลาะกัน พวกเขาควรไปที่ศาล ให้ผู้ตัดสินทำการตัดสินว่าใครถูกใครผิด และถ้าคนทำผิดสมควรจะถูกเฆี่ยน ผู้ตัดสินต้องจับคนนั้นนอนคว่ำและเฆี่ยนเขาต่อหน้าผู้ตัดสิน จะเฆี่ยนกี่ครั้งก็ขึ้นอยู่กับความผิดที่เขาทำ แต่ห้ามเฆี่ยนเขาเกินสี่สิบครั้ง ถ้าเกินกว่านี้ แสดงว่าท่านกำลังเหยียดหยามเพื่อนร่วมชาติคนนี้

ท่านต้องไม่เอาตะกร้อสวมปากวัว เพื่อกันไม่ให้มันกินเมล็ดข้าว ตอนที่มันกำลังย่ำเมล็ดข้าวอยู่

ถ้ามีพี่น้องสองคนอยู่ด้วยกัน คนหนึ่งตายไปและยังไม่มีลูก เมียของคนที่ตายต้องไม่แต่งงานกับคนนอกครอบครัว น้องของสามีต้องแต่งงานกับนางและมีเพศสัมพันธ์กับนาง และทำหน้าที่สามีแทนพี่ชาย[d] แล้วเมื่อนางคลอดลูกชายคนแรก ก็ให้ถือว่าเป็นลูกของพี่ชายที่ตายไปแล้ว เพื่อว่าชื่อของพี่ที่ตายไปแล้ว จะได้ไม่ถูกลบออกจากชาวอิสราเอล แต่ถ้าชายคนนั้นไม่ยอมแต่งงานกับเมียของพี่ชายที่ตาย เมียของคนที่ตายต้องไปหาพวกผู้นำที่ประตูเมืองและพูดว่า ‘น้องของสามีฉันไม่ยอมช่วยให้ชื่อของพี่เขาคงอยู่กับชาวอิสราเอลต่อไป เขาไม่ยอมทำหน้าที่ของน้องสามีกับฉัน’ แล้วพวกผู้นำของเมืองต้องเรียกตัวเขามาพูดด้วย ถ้าเขายังยืนกรานและพูดว่า ‘ผมไม่ต้องการแต่งงานกับนาง’ เมียของคนที่ตายต้องเข้ามาใกล้เขา ต่อหน้าผู้นำพวกนั้น แล้วนางก็ถอดรองเท้าข้างหนึ่งออกจากเท้าของเขา และถุยน้ำลายรดหน้าเขา และพูดว่า ‘คนที่ไม่ยอมสืบสกุลให้กับพี่ชายของเขาจะถูกทำอย่างนี้แหละ’ 10 แล้วคนนั้นจะถูกตั้งฉายาในอิสราเอลว่า ‘ครอบครัวของคนที่ถูกดึงรองเท้าออก’

11 ถ้าชายสองคนต่อสู้กัน และเมียของคนหนึ่งเข้ามาช่วยสามีของนางที่กำลังจะแพ้ และนางยื่นมือไปจับของลับของชายคนนั้น 12 ท่านต้องตัดมือของนางทิ้ง ท่านต้องไม่สงสารนาง

13 ห้ามมีลูกตุ้มชั่งน้ำหนักสองชุดในกระเป๋า ชุดหนึ่งหนักกับอีกชุดหนึ่งเบา 14 ห้ามมีเครื่องตวงสองเครื่องในบ้าน เครื่องหนึ่งใหญ่และอีกเครื่องหนึ่งเล็ก 15 ท่านต้องใช้แต่เครื่องชั่งที่ถูกต้องเที่ยงตรงเท่านั้น และท่านต้องใช้แต่เครื่องตวงที่ถูกต้องเที่ยงตรงด้วย เพื่อท่านจะได้มีอายุยืนยาวในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน 16 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ขยะแขยงทุกคนที่ทำสิ่งเหล่านี้ ทุกคนที่ขี้โกง ไม่ว่าจะโกงตราชั่ง หรือโกงเครื่องตวงก็ตาม

ชาวอามาเลคต้องถูกทำลาย

17 จำได้หรือเปล่าว่าชาวอามาเลคทำอะไรไว้กับท่านบ้าง ตอนที่ท่านเดินทางออกมาจากอียิปต์ 18 จำได้ไหมว่าพวกเขาจู่ๆก็โผล่มาในระหว่างทาง และเข้าโจมตีท่านจากด้านหลัง ตอนที่ท่านเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้า และฆ่าพวกที่อยู่ล้าหลัง พวกเขาไม่เกรงกลัวพระเจ้า 19 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านให้ท่านหยุดพักจากการต่อสู้กับศัตรูทั้งหมดทุกด้าน ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่านเป็นเจ้าของ เพื่อเป็นมรดกของลูกหลานต่อไป อย่าลืมว่าท่านต้องกำจัดชาวอามาเลคให้หมดไปจากใต้ฟ้านี้

การเก็บเกี่ยวพืชผลครั้งแรก

26 เมื่อท่านเข้าไปในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่านเป็นเจ้าของ เมื่อท่านได้เป็นเจ้าของและตั้งรกรากในแผ่นดินนั้นแล้ว ผลผลิตที่ท่านเก็บเกี่ยวได้เป็นครั้งแรกจากแผ่นดินนั้นของท่าน แผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน ท่านต้องแบ่งผลผลิตนั้นมาส่วนหนึ่ง แล้วนำมาใส่ไว้ในตะกร้า แล้วเอาไปในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ ให้ไปหานักบวชที่รับใช้อยู่ในวันนั้น และพูดกับเขาว่า ‘วันนี้ผมจะมาแจ้งให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านรู้ว่า ผมได้มาถึงดินแดนที่พระยาห์เวห์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของเราว่าจะยกให้กับเราแล้ว’

แล้วนักบวชจะรับตะกร้าจากมือของท่าน ไปตั้งไว้หน้าแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน แล้วท่านจะพูดต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านว่า ‘บรรพบุรุษของข้าพเจ้าเป็นชาวอารัม[e] ที่เร่ร่อน และเขาได้ลงไปถึงอียิปต์และอยู่ที่นั่นอย่างคนต่างชาติกับคนในครอบครัวอีกไม่กี่คน แต่ที่นั่นเขาได้กลายเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ มีอำนาจและมีจำนวนมหาศาล ชาวอียิปต์โหดร้ายกับพวกเรา และทำให้พวกเราต้องทนทุกข์ทรมาน พวกเขาบังคับให้พวกเราทำงานอย่างหนัก พวกเราจึงร้องขอความช่วยเหลือต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษพวกเรา และพระยาห์เวห์ก็ได้ยินเสียงของพวกเรา และพระองค์เห็นถึงความทุกข์ยากของพวกเรา เห็นถึงงานหนักที่พวกเราทำและการถูกกดขี่ข่มเหง แล้วพระยาห์เวห์ก็นำพวกเราออกจากอียิปต์ด้วยมือที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ และแขนที่ยื่นออกมาทำลายศัตรู และการกระทำที่น่ากลัว เหตุการณ์พิเศษต่างๆและการอัศจรรย์ แล้วพระองค์ก็นำพวกเรามาถึงที่นี่และให้แผ่นดินนี้กับพวกเรา แผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ 10 และตอนนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าได้เอาพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้เป็นครั้งแรกในแผ่นดินที่พระองค์ยกให้กับข้าพเจ้ามา’ แล้วให้ท่านวางตะกร้านั้นไว้ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และก้มกราบพระองค์ 11 แล้วท่านต้องร่วมเฉลิมฉลองยินดีกับสิ่งดีๆเหล่านั้น ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ให้กับท่านและครอบครัว ท่านต้องแบ่งสิ่งต่างๆพวกนั้นกับชาวเลวีและชาวต่างชาติที่อยู่ท่ามกลางท่านด้วย

12 ทุกๆสามปี เป็นปีของการแบ่งปันหนึ่งส่วนในสิบส่วน ในปีนั้นท่านต้องแบ่งหนึ่งในสิบของพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ทั้งหมดให้กับชาวเลวี ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้าย เพื่อพวกเขาจะได้มีกินอย่างเหลือเฟือตามเมืองต่างๆของท่าน 13 แล้วท่านต้องพูดกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านว่า ‘ข้าพเจ้าได้แยกส่วนที่เป็นของพระยาห์เวห์ ออกจากพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ แล้วนำมันออกมาจากบ้าน เอาไปให้กับชาวเลวี ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้าย ตามที่พระองค์ได้สั่งให้ข้าพเจ้าทำ ข้าพเจ้าไม่ได้ขัดคำสั่ง หรือว่าลืมคำสั่งใดๆของพระองค์เลย 14 ข้าพเจ้าไม่ได้กินส่วนที่เป็นของพระยาห์เวห์นี้ ตอนที่ข้าพเจ้าเศร้าโศกเสียใจ[f] ข้าพเจ้าไม่ได้แยกส่วนใดส่วนหนึ่งของมันออกมา ตอนที่ข้าพเจ้าไม่บริสุทธิ์[g] ข้าพเจ้าไม่ได้เอาส่วนใดส่วนหนึ่งของมันมาไหว้คนตาย ข้าพเจ้าเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ทำทุกอย่างที่พระองค์สั่งข้าพเจ้าไว้ 15 ได้โปรดมองลงมาจากบ้านอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ จากบนสวรรค์ และอวยพรชาวอิสราเอลคนของพระองค์ และแผ่นดินที่พระองค์ยกให้กับพวกเรา ตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของเรา เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์’

เชื่อฟังคำสั่งของพระยาห์เวห์

16 วันนี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้สั่งให้ท่านเชื่อฟังกฎและข้อบังคับเหล่านี้ ท่านต้องเชื่อฟังสิ่งเหล่านี้อย่างระมัดระวังด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน 17 วันนี้ท่านกำลังทำข้อตกลงกับพระยาห์เวห์[h] ว่าพระองค์จะเป็นพระเจ้าของท่าน และท่านจะเดินในทางของพระองค์และรักษากฎ คำสั่งและข้อบังคับต่างๆและเชื่อฟังพระองค์ 18 และในวันนี้ พระยาห์เวห์กำลังทำข้อตกลงกับท่าน[i]ว่า ท่านจะเป็นของรักของหวงที่มีค่าของพระองค์ ตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับท่าน และท่านจะเชื่อฟังกฎบัญญัติของพระองค์ทุกข้อ 19 และพระองค์จะทำให้ท่านยิ่งใหญ่กว่าทุกๆชนชาติที่พระองค์สร้าง พระองค์จะทำให้ท่านได้รับการสรรเสริญ มีชื่อเสียงและเกียรติยศ[j] และท่านจะเป็นคนที่ถูกแยกออกมาเพื่อเป็นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ตามที่พระองค์สัญญาไว้”

อนุสาวรีย์หินสำหรับประชาชน

27 โมเสสและพวกผู้นำอาวุโสของอิสราเอลได้สั่งประชาชนว่า “ให้เชื่อฟังคำสั่งทั้งหมดที่เราได้สั่งพวกท่านในวันนี้ ทันทีที่พวกท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าสู่แผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน ท่านต้องวางพวกหินก้อนใหญ่ขึ้นมาและโบกปูนขาวทับหินพวกนั้นไว้ และท่านต้องเขียนกฎต่างๆเหล่านี้บนหินพวกนั้นในทันทีที่ท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป เพื่อท่านจะได้เข้าสู่แผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ ตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษท่านได้สัญญาไว้กับท่าน

เมื่อพวกท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปแล้ว พวกท่านต้องทำตามที่เราได้สั่งไว้ คือให้วางหินพวกนั้นที่บนภูเขาเอบาล โบกปูนขาวทับพวกมันไว้ ท่านต้องเอาหินมาสร้างแท่นบูชาขึ้นที่นั่นให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน แต่ห้ามใช้เครื่องมือเหล็กตัดหินพวกนั้น ท่านต้องเอาหินทั้งก้อนเหล่านั้นมาสร้างแท่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องถวายเครื่องเผาบูชาบนแท่นนั้นให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องถวายเครื่องบูชาและกินเครื่องสังสรรค์บูชาที่นั่น และสนุกสนานกันต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องเขียนกฎพวกนี้ทั้งหมดลงบนหินพวกนั้นที่ท่านตั้งขึ้นมา เขียนให้อ่านง่ายๆ”

คนอิสราเอลเห็นด้วยกับคำสาปแช่ง

โมเสสและนักบวชชาวเลวีพูดกับชาวอิสราเอลทั้งหมดว่า “ชาวอิสราเอลเอ๋ย เงียบๆหน่อยและฟังให้ดีๆ วันนี้ท่านได้กลายเป็นประชาชนของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านแล้ว 10 ท่านต้องเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและทำตามคำสั่งและกฎเหล่านั้นของพระองค์ที่เราได้สั่งพวกท่านในวันนี้”

11 วันนั้นโมเสสได้สั่งประชาชนด้วยว่า 12 “เมื่อพวกท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปแล้ว เผ่าต่อไปนี้จะยืนอยู่บนภูเขาเกริซิม เพื่ออ่านคำอวยพรให้กับประชาชน คือเผ่าสิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ โยเซฟและเบนยามิน 13 และเผ่าเหล่านี้จะยืนอยู่บนภูเขาเอบาลเพื่ออ่านคำสาปแช่งให้กับประชาชน คือเผ่ารูเบน กาด อาเชอร์ เศบูลุน ดานและนัฟทาลี

14 แล้วชาวเลวี ก็จะพูดกับชาวอิสราเอลทั้งหมดด้วยเสียงอันดังว่า

15 ‘คนที่แกะสลักรูปเคารพ หรือทำรูปเคารพจากเหล็ก แล้วเอาไปแอบไว้บูชาจะถูกสาปแช่ง เพราะพระยาห์เวห์ขยะแขยงสิ่งต่างๆเหล่านั้นที่ช่างแกะสลักทำขึ้นมากับมือ’

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’[k]

16 ชาวเลวีจะพูดว่า ‘คนที่ไม่เคารพพ่อหรือแม่ของเขาจะถูกสาปแช่ง’

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’

17 ชาวเลวีจะพูดว่า ‘คนที่ย้ายหลักเขตที่ดินของเพื่อนบ้านเพื่อขโมยที่ดินจะถูกสาปแช่ง’

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’

18 ชาวเลวีจะพูดว่า ‘คนที่แกล้งคนตาบอดให้หลงทาง จะถูกสาปแช่ง’

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’

19 ชาวเลวีจะพูดว่า ‘คนที่ตัดสินอย่างไม่ยุติธรรมต่อชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าหรือแม่หม้าย จะถูกสาปแช่ง’

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’

20 ชาวเลวีจะพูดว่า ‘คนที่ร่วมเพศกับเมียพ่อ[l] จะถูกสาปแช่ง เพราะไม่ให้เกียรติพ่อของเขา[m]

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’

21 ชาวเลวีจะพูดว่า ‘คนที่ร่วมเพศกับสัตว์ใดๆจะถูกสาปแช่ง’

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’

22 ชาวเลวีจะพูดว่า ‘คนที่ร่วมเพศกับพี่สาวหรือน้องสาว หรือพี่สาวหรือน้องสาวต่างพ่อหรือต่างแม่ จะถูกสาปแช่ง’

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’

23 ชาวเลวีจะพูดว่า ‘คนที่ร่วมเพศกับแม่ยายของเขาจะถูกสาปแช่ง’

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’

24 ชาวเลวีจะพูดว่า ‘คนที่ลอบฆ่าเพื่อนบ้านของตนจะถูกสาปแช่ง’

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’

25 ชาวเลวีจะพูดว่า ‘คนที่รับจ้างฆ่าคนที่บริสุทธิ์จะถูกสาปแช่ง’

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’

26 ชาวเลวีจะพูดว่า ‘คนที่ไม่เห็นด้วยกับกฎเหล่านี้และไม่ยอมทำตามจะถูกสาปแช่ง’

แล้วทุกคนจะพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น’

คำอวยพรสำหรับคนที่รักษาข้อตกลง

28 ถ้าท่านเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอย่างเต็มที่ คือทำตามบัญญัติทั้งหมดของพระองค์อย่างระมัดระวัง บัญญัติที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะทำให้ท่านเหนือกว่าชนชาติทั้งหมดบนโลก

ถ้าท่านเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน สิ่งดีๆพวกนี้ก็จะเกิดขึ้นกับท่าน คือ

พระยาห์เวห์จะอวยพรท่าน
    ทั้งในเมืองและในชนบท
พระยาห์เวห์จะอวยพรท่าน
    และให้ท่านมีลูกดก
พระยาห์เวห์จะอวยพรแผ่นดินของท่าน
    และให้ผลผลิตที่ดีกับท่าน
พระยาห์เวห์จะอวยพรพวกสัตว์ของท่าน
    และให้มันมีลูกดก
พระยาห์เวห์จะอวยพรฝูงวัวของท่าน
    และให้พวกมันมีลูกดก
พระยาห์เวห์จะอวยพรฝูงแพะของท่าน
    และให้พวกมันมีลูกดก
พระยาห์เวห์จะทำให้ตะกร้าและชามนวดแป้งของท่าน
    เต็มไปด้วยอาหาร
พระยาห์เวห์จะอวยพรท่าน
    ในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ

พระยาห์เวห์จะช่วยให้ท่านชนะศัตรูที่มาโจมตีท่าน พวกมันจะบุกมาทางเดียว แต่จะวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไปเจ็ดทิศทาง

พระยาห์เวห์จะอวยพรท่าน ทำให้มีข้าวเต็มยุ้งฉางท่าน และพระยาห์เวห์จะอวยพรทุกสิ่งที่ท่านทำ พระองค์จะอวยพรท่านในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน ถ้าท่านจะเชื่อฟังบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และถ้าท่านจะเดินในทางของพระองค์ พระยาห์เวห์ก็จะแยกท่านออกมาเพื่อเป็นคนของพระองค์โดยเฉพาะ ตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับท่าน 10 แล้วทุกชนชาติบนโลกจะรู้ว่า ท่านเป็นของพระยาห์เวห์ แล้วพวกเขาจะเกรงกลัวท่าน

11 พระยาห์เวห์จะทำให้ท่านมั่งคั่งอย่างล้นเหลือ พระองค์จะให้ท่านมีลูกดก ให้ฝูงสัตว์ของท่านเกิดลูกมากมาย ให้เกิดผลผลิตมากมายบนแผ่นดินของท่าน แผ่นดินที่พระยาห์เวห์สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่านว่าจะยกให้กับท่าน 12 พระยาห์เวห์จะเปิดคลังแห่งพระพรของพระองค์ให้กับท่าน พระองค์จะเปิดท้องฟ้าให้ฝนตกลงมาบนแผ่นดินของท่านตามฤดูกาล และอวยพรทุกสิ่งที่ท่านทำ และท่านจะมีเงินเหลือเฟือให้ชาติอื่นยืม และท่านจะไม่ต้องยืมใคร 13-14 ถ้าท่านเชื่อฟังคำสั่งของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ที่เรากำลังสั่งท่านอยู่ในวันนี้ และเชื่อฟังและทำตามอย่างระมัดระวัง และถ้าท่านไม่หันซ้ายหันขวาไปจากคำสั่งที่เรากำลังสั่งท่านอยู่ในวันนี้แล้วไปติดตามและนมัสการพระอื่น พระยาห์เวห์ก็จะทำให้ท่านเป็นหัวไม่ใช่หาง และท่านจะอยู่บนสุดไม่ใช่อยู่ที่ปลาย

คำสาปแช่งต่อคนที่ไม่เชื่อฟัง

(ลนต. 26:14-46)

15 แต่ถ้าท่านไม่ยอมเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ไม่ระมัดระวังที่จะทำตามคำสั่งและกฎทั้งหมดของพระองค์ ที่เรากำลังสั่งท่านอยู่ในวันนี้ สิ่งที่เลวร้ายพวกนี้ก็จะเกิดขึ้นกับท่าน คือ

16 พระยาห์เวห์จะสาปแช่งท่าน
    ในเมืองและในชนบท
17 พระยาห์เวห์จะสาปแช่งตะกร้าและชามนวดแป้งของท่าน
    ให้ไม่มีอาหาร
18 พระยาห์เวห์จะสาปแช่งท่าน
    ไม่ให้มีลูกดก
พระยาห์เวห์จะสาปแช่งผืนดินของท่าน
    ไม่ให้เกิดพืชผลดี
พระยาห์เวห์จะสาปแช่งฝูงสัตว์ของท่าน
    ไม่ให้เกิดลูกดก
พระยาห์เวห์จะสาปแช่งฝูงแกะของท่าน
    ไม่ให้เกิดลูกดก
19 พระยาห์เวห์จะสาปแช่งท่าน
    ในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ

20 ไม่ว่าท่านจะพยายามทำอะไรก็ตาม พระยาห์เวห์จะสาปแช่งท่าน ทำให้ท่านสับสน และมีอุปสรรค จนกระทั่งท่านถูกทำลายและพินาศไปอย่างรวดเร็ว เพราะการกระทำที่ชั่วร้ายของท่าน ที่ท่านได้ละทิ้งพระยาห์เวห์ 21 พระยาห์เวห์จะทำให้ท่านเป็นโรคที่น่ากลัว จนกระทั่งพระองค์ทำลายท่านจากแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดเป็นเจ้าของนั้น 22 พระยาห์เวห์จะลงโทษท่านด้วยเชื้อโรค ทำให้น้ำหนักท่านลดอย่างรุนแรง มีไข้และบวม พระองค์จะทำให้อากาศร้อนดังไฟและแห้งแล้ง พระองค์จะให้ลมร้อนและโรครามาทำลายพืชผลของท่าน และสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับท่านจนกระทั่งท่านตาย 23 ท้องฟ้าบนหัวของท่านจะส่องสว่างจ้าเหมือนทองแดงเพราะไม่มีเมฆฝน และพื้นดินใต้ท่านจะแข็งเหมือนเหล็กเพราะขาดฝน 24 แทนที่จะส่งฝนมา พระยาห์เวห์จะส่งพายุฝุ่นและพายุทรายมาบนแผ่นดินของท่าน มันจะตกลงมาบนท่านจากท้องฟ้า จนกระทั่งท่านถูกทำลาย

25 พระยาห์เวห์จะปล่อยให้ศัตรูเอาชนะท่าน ท่านใช้แค่เส้นทางเดียวตอนออกไปสู้กับเขา แต่ท่านต้องหนีกระเจิดกระเจิงไปถึงเจ็ดทิศทาง ทุกอาณาจักรบนโลกจะต้องกลัวจนตัวสั่น เมื่อเห็นสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับท่าน 26 ศพของท่านจะกลายเป็นอาหารสำหรับนกทุกชนิดบนท้องฟ้าและสัตว์ทุกชนิดบนพื้นดิน และจะไม่มีใครมาไล่พวกมันไปด้วย

27 พระยาห์เวห์จะลงโทษท่านด้วยฝีแบบชาวอียิปต์ เนื้องอก โรคผิวหนังและโรคหิด ที่ท่านรักษาไม่หาย 28 พระยาห์เวห์จะลงโทษท่าน คือทำให้ท่านเป็นบ้า ตาบอดและใจสับสน 29 และท่านจะต้องคลำทางในเวลากลางวันเหมือนคนตาบอดคลำหาทางในที่มืด และท่านจะล้มเหลวในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ ท่านจะถูกทำร้ายและถูกปล้นตลอดเวลา และจะไม่มีใครช่วยเหลือท่าน

30 ท่านจะหมั้นกับหญิงคนหนึ่ง แต่ชายอีกคนจะข่มขืนนาง ท่านจะสร้างบ้าน แต่ท่านจะไม่ได้อยู่ ท่านจะปลูกองุ่น แต่จะไม่ได้กินผลของมัน 31 วัวของท่านจะถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาท่านแต่ท่านจะไม่ได้กินมันเลย ลาของท่านจะถูกขโมยไปต่อหน้าท่านและท่านจะไม่ได้คืน ศัตรูของท่านจะเอาแกะของท่านไปและจะไม่มีใครช่วยเหลือท่าน

32 คนอื่นจะมาเอาพวกลูกชายและลูกสาวของท่านไป และท่านจะตามหาพวกเขาวันแล้ววันเล่า จนตาของท่านเหนื่อยอ่อน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

33 คนชาติอื่นที่ท่านไม่รู้จักจะกินพืชผลที่ท่านทุ่มลงแรงปลูกอย่างหนัก คนอื่นจะทารุณท่านและกดขี่ท่านตลอดเวลา 34 สิ่งต่างๆที่ท่านเห็นจะทำให้ท่านเป็นบ้า 35 พระยาห์เวห์จะลงโทษท่าน ให้เป็นฝีที่เจ็บปวดทรมานและรักษาไม่หาย ให้ท่านเป็นฝีที่หัวเข่าและขาทั้งสองข้าง เป็นทั่วตัวตั้งแต่ฝ่าเท้าขึ้นมาจนถึงหัว 36 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทำให้ท่านและกษัตริย์ที่ท่านจะยกขึ้นเหนือท่าน ต้องไปอยู่ยังชนชาติที่ท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน และที่นั่นท่านจะบูชาพระอื่นที่ทำจากไม้และหิน 37 คนจะตกใจกลัวถึงสิ่งเลวร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นกับท่าน คนจะหัวเราะเยาะท่านและทำให้ท่านเป็นตัวตลกในหมู่ชนชาติอื่นที่พระยาห์เวห์จะนำท่านไป

38 ท่านจะปลูกเมล็ดพืชมากมายในทุ่งนา แต่จะเก็บเกี่ยวได้น้อย เพราะตั๊กแตนจะมากิน 39 ท่านจะปลูกองุ่นและทำงานอย่างหนักในไร่นั้น แต่ท่านจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากพวกมัน และท่านจะไม่ได้เก็บผลองุ่นจากพวกมัน เพราะหนอนจะมากิน 40 ท่านจะมีต้นมะกอกมากมายในที่ดินของท่าน แต่ท่านจะไม่ได้เอาน้ำมันมะกอกมาชโลมตัวท่านเอง เพราะมันจะร่วงและเน่าไป 41 ท่านจะมีลูกชายและลูกสาว แต่พวกเขาจะไม่ได้อยู่กับท่าน เพราะพวกเขาจะถูกจับเอาตัวไป 42 ตั๊กแตนจะมากินต้นไม้และพืชผลทั้งหมดของท่าน 43 ชาวต่างชาติที่อยู่ท่ามกลางท่านก็จะยิ่งมีอำนาจมากขึ้นๆ ในขณะที่ท่านจะมีอำนาจน้อยลงๆ 44 ชาวต่างชาติจะให้ท่านกู้ยืม แต่ท่านจะไม่สามารถให้เขากู้ยืมได้ เขาจะกลายเป็นหัวและท่านจะกลายเป็นหาง

45 คำสาปแช่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นกับท่าน และพวกมันก็จะไล่ตามท่านและตะครุบท่านทัน จนกระทั่งท่านถูกทำลาย เพราะท่านไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และไม่ได้รักษาบัญญัติของพระองค์และกฎที่พระองค์ได้สั่งท่าน 46 คำสาปพวกนี้จะตกอยู่กับพวกท่านและลูกหลานของท่าน คำสาปนี้จะแสดงให้คนเห็นว่า พระเจ้าได้ตัดสินท่านและลูกหลานของท่าน ผู้คนจะตกตะลึงตลอดไปกับเรื่องร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับท่านนี้

47 เพราะท่านไม่ได้นมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยความชื่นชมยินดีและดีใจที่มีทุกสิ่งทุกอย่างเหลือเฟือ 48 ท่านจะรับใช้ศัตรูของท่าน ที่พระยาห์เวห์จะส่งมาต่อสู้กับท่าน ท่านจะหิว กระหาย เปลือยเปล่าและไม่มีอะไรเลย พระองค์จะเอาแอกเหล็กมาใส่คอของท่าน จนกระทั่งพระองค์ทำลายท่าน

49 พระยาห์เวห์จะนำชาติอื่นจากแดนไกล จากอีกฝั่งหนึ่งของโลกมาต่อสู้กับท่าน เหมือนนกอินทรีที่โฉบลงมาอย่างรวดเร็วจากท้องฟ้า จะเป็นชนชาติที่ท่านไม่รู้จักภาษาของพวกเขา 50 เป็นชนชาติที่โหดร้ายที่ไม่เคารพผู้ใหญ่และไม่มีความเมตตากับคนหนุ่มสาว 51 คนชาตินั้นจะกินลูกสัตว์จากฝูงสัตว์ของท่านและพืชผลจากที่ดินท่าน จนกระทั่งท่านถูกทำลาย พวกเขาจะไม่ทิ้งข้าว เหล้าองุ่น น้ำมัน ลูกวัวหรือลูกแกะไว้ให้ท่านจนกระทั่งท่านถูกทำลาย

52 คนชาตินั้นจะล้อมท่านและโจมตีท่านในทุกเมือง ทั่วแผ่นดินของท่าน จนกระทั่งกำแพงพวกนั้นที่ทั้งสูงและแข็งแรง ที่ท่านไว้วางใจต้องพังลงมา คนชาตินั้นจะล้อมและโจมตีท่านในทุกเมือง ทั่วแผ่นดินของท่าน ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านยกให้กับท่าน 53 เมื่อศัตรูของท่านล้อมท่านไว้และทำให้ท่านทนทุกข์ทรมาน ท่านจะกินลูกของตัวเอง กินเนื้อของลูกชายและลูกสาวของท่านที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ให้ท่านไว้

54 แม้แต่สุภาพบุรุษ คนที่นุ่มนวลในหมู่พวกท่าน ที่ชอบเอาอกเอาใจคนอื่นที่สุด ยังกลายเป็นคนโหดร้ายกับพี่น้องของเขา กับเมียที่เขารักและกับลูกๆที่เขายังเหลืออยู่ 55 ดังนั้นเขาจะไม่ยอมแบ่งเนื้อของลูกเขา ที่เขากำลังกินอยู่ให้ใครเลย เพราะเขาอดอยากไม่มีอะไรจะกินแล้ว สิ่งเลวร้ายทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น เมื่อศัตรูของท่านล้อมท่านและทำให้ท่านทนทุกข์ทรมานในทุกเมืองของท่าน

56 แม้แต่กุลสตรี คนที่นุ่มนวลในหมู่พวกท่าน ที่ชอบเอาอกเอาใจคนอื่นที่สุด แม้ยามเดินส้นเท้าก็ไม่เคยแตะพื้น เพราะนางเป็นคนที่นุ่มนวลและอ่อนช้อย นางจะกลายเป็นคนโหดร้ายกับสามีที่นางรัก กับลูกชายและลูกสาวของนาง 57 นางจะไม่ยอมแบ่งเนื้อและรกของลูกนางที่เพิ่งคลอดออกมาให้กับลูกๆคนอื่นของนาง เพราะนางจะแอบเอาไว้กินเองเมื่อนางอดอยากไม่มีอะไรจะกิน สิ่งเลวร้ายทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อศัตรูของท่านล้อมท่านและทำให้ท่านต้องทนทุกข์ทรมาน ในทุกเมืองของท่าน

58 ถ้าท่านไม่เชื่อฟังกฎทั้งหมดที่เขียนใส่หนังสือนี้อย่างระมัดระวัง และไม่ให้ความเคารพยำเกรงชื่อที่มีเกียรติและน่าเกรงขามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน 59 พระยาห์เวห์จะลงโทษท่านและลูกหลานของท่านอย่างน่ากลัว เป็นการลงโทษที่รุนแรงตลอดไป ให้เกิดการเจ็บป่วยที่แสนจะทนทุกข์ทรมานตลอดไป 60 พระองค์จะนำเชื้อโรคต่างๆที่ท่านหวาดกลัว ที่เกิดขึ้นในอียิปต์ หวนกลับมาหาท่าน และมันจะเกาะหนึบอยู่กับท่าน 61 เชื้อโรคและความทุกข์ทรมานทุกอย่างที่ไม่ได้เขียนไว้ในกฎนี้ พระองค์จะทำให้เกิดขึ้นกับท่าน จนกระทั่งพระองค์ทำลายท่าน 62 พวกท่านจะหลงเหลืออยู่ไม่กี่คน ถึงแม้ท่านจะเคยมีจำนวนมากมายมหาศาลเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าก็ตาม เพราะท่านไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน

63 ก็เหมือนกับที่พระยาห์เวห์เคยตั้งใจจะทำให้พวกท่านมีความสุขและมีจำนวนมากขึ้นอย่างมหาศาลอย่างไร พระยาห์เวห์ก็จะตั้งใจที่จะทำให้ท่านล่มจมและทำลายพวกท่านอย่างนั้น พวกท่านจะถูกถอนรากถอนโคนจากแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปเป็นเจ้าของ 64 พระยาห์เวห์จะทำให้ท่านกระจัดกระจายไปในหมู่ของชนชาติอื่น จากสุดปลายด้านหนึ่งของโลกไปสู่อีกด้านหนึ่ง และที่นั่นท่านจะนมัสการพระอื่นที่ท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน เป็นพระที่ทำจากไม้และหิน

65 ท่านจะไม่มีความสงบสุขเลยท่ามกลางชนชาติเหล่านั้น แม้แต่ที่พักเท้าก็ยังไม่มี และที่นั่น พระยาห์เวห์จะทำให้ท่านมีจิตใจที่สั่นผวา สายตาที่อ่อนล้า และลำคอที่แห้งผาก 66 ชีวิตของท่านจะตกอยู่ในอันตรายเสมอ หวาดกลัวทั้งกลางคืนและกลางวัน และไม่แน่ใจว่าจะมีชีวิตต่อไปหรือไม่ 67 ในตอนเช้าท่านจะพูดว่า ‘ขอให้อยู่ถึงตอนเย็น’ และในตอนเย็นท่านจะพูดว่า ‘ขอให้อยู่ถึงพรุ่งนี้’ เพราะความกลัวที่จะเกิดขึ้นในใจของท่านและสิ่งที่ตาท่านจะเห็น 68 พระยาห์เวห์จะส่งท่านกลับไปอียิปต์ทางเรือ ใช้เส้นทางที่เราเคยสัญญาว่าท่านจะไม่ได้เห็นมันอีก ที่อียิปต์นั้นพวกท่านจะพยายามเสนอขายตัวเองไปเป็นทาสชายหญิงให้กับพวกศัตรู แต่จะไม่มีใครซื้อ”

ข้อตกลงในโมอับ

29 นอกจากข้อตกลงที่พระยาห์เวห์ได้ทำไว้กับชนชาติอิสราเอลที่ภูเขาซีนายแล้ว พระยาห์เวห์ได้สั่งให้โมเสสทำข้อตกลงขึ้นมาอีกฉบับหนึ่งกับชนชาติอิสราเอลในแผ่นดินโมอับ และนี่คือคำพูดต่างๆที่อยู่ในข้อตกลงนั้น

โมเสสเรียกชุมนุมชาวอิสราเอลทั้งหมดและพูดว่า “พวกท่านก็ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่พระยาห์เวห์ได้ทำในแผ่นดินอียิปต์แล้ว สิ่งที่พระองค์ทำกับกษัตริย์ฟาโรห์ คนของฟาโรห์และประเทศของเขา ท่านก็เห็นกับตาแล้วถึงความทุกข์ยากลำบาก การอัศจรรย์ต่างๆ รวมถึงสิ่งที่เหลือเชื่อทั้งหลายที่พระองค์ทำ แต่จนถึงวันนี้ พระยาห์เวห์ยังไม่ได้ให้ความเข้าใจกับพวกท่าน เพราะพวกท่านยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆที่เห็นกับตา ได้ยินกับหู พระยาห์เวห์พูดว่า ‘เราได้นำพวกเจ้าเดินผ่านที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งเป็นเวลาสี่สิบปี ระหว่างนั้น เสื้อผ้าของพวกเจ้าไม่เคยขาดหลุดออกจากตัว รองเท้าไม่เคยสึกกร่อน พวกเจ้าไม่มีอาหารกิน ไม่มีเหล้าองุ่นหรือเบียร์ดื่ม แต่เราเลี้ยงดูพวกเจ้า อาหารและน้ำของพวกเจ้านั้นมันไม่ใช่ธรรมดา เพื่อพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’

เมื่อพวกท่านมาถึงที่นี่ กษัตริย์สิโหนของเฮชโบนและกษัตริย์โอกของบาชานออกมาสู้รบกับพวกเรา และพวกเราชนะพวกเขา ยึดเอาแผ่นดินของพวกเขาไว้ และพวกเราก็ยกแผ่นดินนั้นให้กับเผ่ารูเบน กาด และครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ ไว้เป็นเจ้าของ พวกท่านต้องเชื่อฟังและทำตามคำพูดทุกคำในข้อตกลงนี้อย่างระมัดระวัง เพื่อท่านจะได้สำเร็จในทุกสิ่งที่ทำ

10 วันนี้พวกท่านทั้งหมดกำลังยืนอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน พวกหัวหน้าเผ่าต่างๆ พวกผู้นำอาวุโส พวกเจ้าหน้าที่ และพวกผู้ชายทุกคนของอิสราเอล ต่างก็ยืนอยู่ที่นี่ 11 รวมทั้งพวกลูกของพวกท่าน พวกเมียของพวกท่านและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในหมู่พวกท่าน รวมทั้งคนตัดไม้และคนแบกน้ำ 12 พวกท่านมาอยู่ที่นี่เพื่อจะเข้าสู่ข้อตกลงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและยอมรับคำสาปแช่งของมันสำหรับคนที่ฝ่าฝืน คือข้อตกลงที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังทำกับท่านในวันนี้ 13 เพื่อพระองค์จะได้ทำให้พวกท่านเป็นคนของพระองค์ในวันนี้ และพระองค์จะเป็นพระเจ้าของพวกท่าน เหมือนกับที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับพวกท่านและบรรพบุรุษของพวกท่าน คืออับราฮัม อิสอัคและยาโคบ 14 พระยาห์เวห์ไม่ได้ทำข้อตกลงพร้อมกับคำสาปแช่งนี้กับพวกท่านเท่านั้น 15 พระองค์ได้ทำข้อตกลงนี้กับพวกท่านที่ยืนกับพวกเราที่นี่ในวันนี้ ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา รวมทั้งลูกหลานของพวกเราที่ไม่ได้ยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้ด้วย 16 เพราะพวกท่านจำได้ว่าเราเคยใช้ชีวิตยังไงในแผ่นดินอียิปต์ และพวกท่านจำได้ว่าเราผ่านชนชาติที่เราผ่านมาแล้วนั้นได้ยังไง 17 พวกท่านได้เห็นสิ่งต่างๆที่น่ารังเกียจของพวกเขา คือ รูปเคารพที่ทำจากไม้ หิน เงินและทองที่อยู่กับพวกเขา 18 ระวังให้ดี เผื่อจะมีผู้ชายหรือผู้หญิงหรือตระกูลหรือเผ่าใดของพวกท่าน ที่มีใจหันเหไปจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราในวันนี้ เพื่อที่จะไปรับใช้พวกพระของชนชาติอื่น ระวังให้ดี เผื่อจะมีใครในหมู่พวกท่านที่เป็นเหมือนรากที่งอกพืชที่ขมและมีพิษออกมา

19 เมื่อคนประเภทนั้นได้ยินคำสาปแช่งนี้ เขาก็จะพูดปลอบใจตัวเองว่า ‘ถึงแม้ฉันจะทำตามใจที่ดื้อรั้นของฉัน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฉันหรอก’ แล้วผลสุดท้ายจะเลวร้ายอย่างยิ่ง[n] 20-21 พระยาห์เวห์จะไม่ยอมยกโทษให้เขา เพราะความโกรธและความหึงหวงของพระองค์ที่ลุกโชติโชนต่อคนๆนั้น คำสาปแช่งที่อยู่ในข้อตกลงนี้ทั้งหมด ที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้จะเกิดขึ้นกับคนๆนั้น พระยาห์เวห์จะลบชื่อของเขาออกไปจากใต้ฟ้านี้ พระยาห์เวห์จะคัดตัวคนนั้นออกมาจากเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลเพื่อเอามาลงโทษ

22 รุ่นต่อไปจะถามกัน พวกลูกๆที่เกิดมาทีหลังและชาวต่างชาติที่จะมาจากแดนไกลจะถามกัน เมื่อพวกเขาเห็นความหายนะที่เกิดขึ้นกับดินแดนแห่งนี้ และโรคต่างๆที่พระยาห์เวห์ส่งมาที่นี่ 23 ทั่วทั้งแผ่นดินจะลุกไหม้ด้วยกำมะถันและเกลือ แผ่นดินนั้นจะปลูกอะไรไม่ได้เลย ไม่มีอะไรงอกขึ้นมาได้ ไม่มีแม้แต่พืช มันจะเป็นเหมือนการทำลายโสโดม โกโมราห์ อัดมาห์ และเศโบยิม เมืองที่พระยาห์เวห์ได้ทำลายเมื่อพระองค์โกรธมาก

24 แล้วพวกเขาและชนชาติอื่นๆจะพูดว่า ‘ทำไมพระยาห์เวห์ถึงได้ทำกับแผ่นดินนี้อย่างนี้ ทำไมถึงได้ดุร้ายและโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างนี้’ 25 และพวกเขาก็จะตอบว่า ‘เพราะพวกชนชาติอิสราเอลได้ละทิ้งข้อตกลงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษพวกเขา เป็นข้อตกลงที่พระองค์ได้ทำไว้กับพวกเขา ตอนที่พระองค์นำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ 26 และพวกเขาก็หันไปรับใช้พวกพระอื่นและไปบูชาพระพวกนั้น พระที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน และพระยาห์เวห์ก็ไม่เคยให้กับพวกเขา 27 นั่นเป็นเหตุที่พระยาห์เวห์ถึงได้โกรธคนในแผ่นดินนั้นมาก พระองค์จึงทำให้แผ่นดินนั้นถูกสาปแช่ง ตามทุกอย่างที่เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้ 28 เพราะพระยาห์เวห์โกรธแค้น เดือดดาลพวกเขาเป็นอย่างมาก พระองค์จึงถอนรากถอนโคนพวกเขาออกจากแผ่นดินของพวกเขา แล้วโยนเข้าไปในแผ่นดินอื่นที่พวกเขาอยู่กันทุกวันนี้’

29 สิ่งต่างๆที่เป็นความลับเป็นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา แต่สิ่งต่างๆที่พระองค์เปิดเผย เป็นของเราและลูกหลานของเราตลอดไป เพื่อว่าเราจะได้ทำตามคำสั่งทุกข้อที่อยู่ในกฎนั้น

ผลของการเชื่อฟัง

30 เมื่อสิ่งต่างๆทั้งหมดที่เราพูดมานี้ เกิดขึ้นกับท่าน ทั้งคำอวยพรและคำสาปแช่ง และถ้าท่านหวนคิดถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ ตอนที่ท่านอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านบังคับให้ท่านไปอยู่นั้น ถ้าท่านหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และถ้าตัวท่านและลูกๆของท่านเชื่อฟังพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ ตามที่เรากำลังสั่งท่านอยู่ในวันนี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะทำให้ท่านกลับมาเหมือนเดิม พระองค์จะสงสารท่าน และจะรวบรวมท่านอีกครั้งจากชนชาติต่างๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทำให้ท่านกระจัดกระจายไปอยู่นั้น ถึงแม้ท่านจะถูกบังคับให้ไปอยู่ไกลสุดขอบฟ้า พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะรวบรวมท่านกลับมา พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะนำท่านกลับมาสู่แผ่นดินที่บรรพบุรุษของท่านเคยเป็นเจ้าของ และท่านจะได้เป็นเจ้าของมัน และพระองค์จะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น และมีจำนวนมากกว่าบรรพบุรุษของท่าน พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเตรียมจิตใจของท่านและลูกหลานท่านให้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดใจสุดจิตของท่าน เพื่อท่านจะได้มีชีวิตอยู่

พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเอาคำสาปแช่งทั้งหมดไปให้กับศัตรูของท่าน คนที่เกลียดท่านและคนที่กลั่นแกล้งท่าน แล้วท่านจะกลับมาเชื่อฟังพระองค์อีกครั้ง และทำตามคำสั่งทุกข้อของพระองค์ตามที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรืองอย่างเต็มที่ในทุกสิ่งที่ท่านทำ ท่านจะมีลูกดก ฝูงสัตว์ของท่านจะออกลูกมากมาย และที่ดินของท่านจะผลิตพืชผลมากมาย เพราะพระยาห์เวห์ยินดีที่จะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรืองอีก เหมือนที่พระองค์เคยยินดีที่ทำให้บรรพบุรุษของท่านเจริญรุ่งเรืองมาแล้ว 10 เมื่อท่านเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านโดยรักษาบัญญัติ กฎของพระองค์ที่เขียนไว้ในหนังสือคำสอนนี้ เมื่อท่านกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดใจสุดจิตของท่าน

ชีวิตหรือความตาย

11 แน่นอน คำสั่งนี้ที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ ไม่ยากเกินกว่าที่ท่านจะเข้าใจได้ มันไม่ไกลเกินกว่าที่จะคว้าได้ 12 คำสั่งนี้ไม่ได้อยู่ในสวรรค์ จนท่านต้องพูดว่า ‘ใครจะขึ้นไปบนสวรรค์ เอามันลงมาให้เรา เพื่อเราจะได้ฟังและทำตามมันล่ะ’ 13 และคำสั่งนี้ก็ไม่ได้อยู่อีกฝั่งของทะเลจนท่านต้องพูดว่า ‘ใครจะข้ามทะเลไปถึงอีกฝั่ง เอามันกลับมาให้เรา เพื่อเราจะได้ฟังและทำตามมันล่ะ’ 14 เพราะคำนี้อยู่ใกล้ท่านมาก มันอยู่ที่ริมฝีปากและอยู่ในใจท่าน ท่านถึงทำตามมันได้

15 เห็นไหมว่า วันนี้เราให้ทางเลือกกับท่าน ระหว่างชีวิตกับความตาย ความรุ่งเรืองกับความล่มจม 16 ถ้าท่านเชื่อฟังคำสั่งของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน[o] ที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ โดยรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และเดินในทางของพระองค์ และเชื่อฟังคำสั่ง กฎ และข้อบังคับของพระองค์ แล้วท่านจะมีชีวิตอยู่และเพิ่มจำนวนมากขึ้น และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จะอวยพรท่านในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดเป็นเจ้าของ 17 แต่ถ้าใจของท่านหันเหไปจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และไม่เชื่อฟังพระองค์ และถูกชักนำไปในทางที่ผิด ไปบูชาและรับใช้พระอื่น 18 ถ้าอย่างนั้น เราขอเตือนพวกท่านในวันนี้ว่า พวกท่านจะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน พวกท่านจะไม่มีชีวิตอยู่ยืนยาวในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเพื่อไปยึดเป็นเจ้าของนั้น

19 เราเรียกฟ้าและดินมาเป็นพยาน วันนี้เราจะให้ทางเลือกกับท่านระหว่างชีวิตกับความตาย คำอวยพรกับคำสาปแช่ง ให้เลือกชีวิตเพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป 20 โดยรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เชื่อฟังพระองค์และติดสนิทกับพระองค์ เพราะการทำอย่างนั้นจะทำให้ท่านมีชีวิตอยู่ และท่านจะมีชีวิตยืนยาวบนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์สัญญาว่าจะให้กับบรรพบุรุษของท่าน คืออับราฮัม อิสอัค และยาโคบ”

โยชูวาจะเป็นผู้นำคนใหม่

31 เมื่อโมเสสพูดสิ่งต่างๆเหล่านี้กับชาวอิสราเอลเสร็จแล้ว โมเสสก็พูดกับพวกเขาว่า “ตอนนี้เรามีอายุหนึ่งร้อยยี่สิบปีแล้ว เราไม่สามารถจะไปไหนมาไหนกับพวกท่านได้อีกแล้ว และพระยาห์เวห์พูดกับเราว่า ‘เจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ไป’ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเป็นผู้นำท่านข้ามไป ไม่ใช่เรา พระองค์จะทำลายชนชาติพวกนี้ต่อหน้าท่าน และท่านจะได้ยึดแผ่นดินของพวกเขา โยชูวาจะเป็นคนที่นำท่านข้ามไป ตามที่พระยาห์เวห์สัญญาไว้

พระยาห์เวห์จะทำกับพวกเขา เหมือนกับที่พระองค์ได้ทำกับสิโหนและโอก กษัตริย์ชาวอาโมไรต์และกับแผ่นดินของพวกเขา ตอนที่พระองค์ทำลายพวกเขานั้น พระยาห์เวห์จะช่วยให้ท่านเอาชนะชนชาติเหล่านั้น และพวกท่านต้องทำกับพวกเขาตามที่เราสั่งทุกอย่าง ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้ ไม่ต้องกลัวหรือตื่นตกใจเพราะพวกนั้น เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านคือผู้ที่จะไปกับท่าน พระองค์จะไม่ละท่านไปหรือทอดทิ้งท่านหรอก”

แล้วโมเสสก็เรียกโยชูวามาต่อหน้าประชาชนชาวอิสราเอล โมเสสพูดกับโยชูวาว่า “ให้เข้มแข็งและกล้าหาญ เพราะเจ้าจะต้องนำประชาชนเหล่านี้เข้าสู่แผ่นดินที่พระยาห์เวห์สัญญาว่าจะยกให้กับบรรพบุรุษของพวกเขา และเจ้าจะต้องจัดสรรปันส่วนที่ดินนั้นให้กับพวกเขา พระยาห์เวห์จะเป็นผู้ที่นำเจ้า พระองค์จะอยู่กับเจ้า พระองค์จะไม่ละเจ้าไปหรือทอดทิ้งเจ้า ไม่ต้องกลัวหรือตื่นตกใจ”

โมเสสเขียนคำสอน

แล้วโมเสสได้เขียนคำสอนนี้ และให้ไว้กับพวกนักบวช ที่เป็นลูกหลานของเลวี และให้กับพวกผู้นำอาวุโสของอิสราเอล พวกลูกหลานเลวีมีหน้าที่แบกหีบที่ใส่ข้อตกลงของพระยาห์เวห์ 10 โมเสสสั่งพวกเขาว่า “ทุกๆเจ็ดปี ซึ่งเป็นปีแห่งการยกหนี้ ในช่วงเทศกาลอยู่เพิง 11 เมื่อประชาชนชาวอิสราเอลมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในสถานที่นั้นที่พระองค์จะเลือกไว้ ท่านต้องอ่านคำสอนนี้ต่อหน้าประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหมด เพื่อมันจะได้เข้าหูพวกเขา 12 ให้รวบรวมประชาชนมาให้หมด ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็กเล็กๆและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองของท่าน เพื่อพวกเขาจะได้ฟัง และจะได้เรียนรู้ เพื่อเขาจะได้เกรงกลัวพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน และจะได้เชื่อฟังคำสอนทั้งหมดนี้อย่างระมัดระวัง 13 เพื่อลูกหลานของพวกเขาที่ไม่เคยรู้จักคำสอนนี้จะได้ฟังและเรียนรู้ที่จะเกรงกลัวพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน นานตราบเท่าที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดเป็นเจ้าของนั้น”

พระยาห์เวห์เรียกโมเสสและโยชูวา

14 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “เจ้าใกล้จะตายแล้ว เรียกโยชูวาให้มายืนที่หน้าเต็นท์นัดพบ เพื่อเราจะได้มอบหมายงานให้กับเขา” โมเสสและโยชูวาจึงมายืนอยู่ที่หน้าเต็นท์นัดพบ

15 พระยาห์เวห์ได้มาปรากฏที่เต็นท์ในลำเมฆ และลำเมฆก็หยุดอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 16 แล้วพระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “อีกไม่นานเจ้าก็จะตาย และอีกไม่ช้าคนพวกนี้จะไม่ซื่อสัตย์กับเรา และไปบูชาพระอื่นในแผ่นดินที่พวกเขากำลังจะเข้าไป พวกเขาจะทิ้งเรา พวกเขาจะผิดสัญญาที่เราได้ทำไว้กับพวกเขา 17 ในเวลานั้นเราจะโกรธพวกเขามาก เราจะทอดทิ้งพวกเขา เราจะหลบหน้าไปจากพวกเขา พวกเขาจะถูกกลืนกิน ความหายนะล่มจม และความทุกข์ยากลำบากต่างๆจะเกิดขึ้นกับพวกเขา ในวันนั้นพวกเขาจะพูดว่า ‘ความหายนะล่มจมทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับเรา ก็เพราะพระเจ้าไม่ได้อยู่กับเรา’ 18 ในวันนั้นเราจะหลบหน้าไปจากพวกเขาอย่างแน่นอน เพราะความชั่วช้าที่พวกเขาได้ทำ ที่หันหน้าไปหาพระอื่นๆ

19 ตอนนี้ให้เขียนบทเพลงนี้ลงไป และให้สอนมันกับชาวอิสราเอล ให้พวกเขาร้องจนขึ้นใจ เพื่อว่าเพลงนี้จะได้เป็นพยานให้กับเราต่อว่าคนอิสราเอล 20 เมื่อเรานำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ และเขาก็กินทุกอย่างที่อยากกินจนอ้วน แล้วพวกเขาก็จะหันไปหาพระอื่นและรับใช้พระพวกนั้น พวกเขาจะปฏิเสธเรา และผิดสัญญาที่เราได้ทำไว้กับพวกเขา 21 แล้วเมื่อความหายนะล่มจมและความยากลำบากเกิดขึ้นกับพวกเขา ในเวลานั้นลูกหลานของพวกเขาก็ยังไม่ลืมเพลงนี้ เพลงนี้จึงทำให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขาเป็นคนผิด แม้แต่เดี๋ยวนี้ ก่อนที่เราจะพาพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราสัญญาไว้กับพวกเขา เราก็รู้แล้วว่าเขามีแนวโน้มที่จะทิ้งเรา”

22 โมเสสจึงเขียนเพลงนั้นในวันนั้น และเขาสอนมันให้กับชาวอิสราเอล

23 พระยาห์เวห์ได้มอบหมายงานให้กับโยชูวาลูกชายของนูน พระองค์พูดว่า “ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้ เพราะเจ้าจะนำชาวอิสราเอลเข้าสู่แผ่นดินที่เราได้สัญญาไว้กับพวกเขา และเราจะอยู่กับเจ้า”

โมเสสเตือนประชาชนชาวอิสราเอล

24 หลังจากโมเสสได้เขียนคำสอนนี้ลงในแผ่นหนังเสร็จแล้ว 25 เขาได้สั่งให้ชาวเลวีที่ทำหน้าที่แบกหีบที่เก็บข้อตกลงของพระยาห์เวห์ว่า 26 “เอาแผ่นหนังคำสอนนี้ไปวางไว้ข้างหีบที่เก็บข้อตกลงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน มันจะอยู่ที่นั่นเพื่อเป็นพยานว่าท่านยอมรับข้อตกลงนี้แล้ว 27 เพราะเรารู้ดีว่า พวกท่านชอบแข็งข้อและหัวแข็ง นี่ขนาดเรายังมีชีวิตอยู่กับพวกท่าน พวกท่านยังแข็งข้อพระยาห์เวห์เลย แล้วถ้าเราตายไป พวกท่านจะยิ่งกว่านี้อีกขนาดไหน 28 พาพวกผู้นำอาวุโสของเผ่าต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของพวกท่านมาหาเราหน่อย เพราะเราอยากจะให้แน่ใจว่าพวกเขาได้ยินเรื่องนี้ เราจะเรียกฟ้าและดินมาเป็นพยานต่อว่าพวกเขา 29 เพราะเรารู้ว่าหลังจากที่เราตายไปแล้ว พวกท่านจะทำชั่วอย่างเต็มที่ และจะหันไปจากทางที่เราได้สั่งไว้ ความหายนะล่มจมจะเกิดขึ้นกับพวกท่านในอนาคต เพราะพวกท่านจะทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าชั่วช้า และทำให้พระองค์โกรธเพราะสิ่งที่พวกท่านสร้างขึ้นมากับมือ”

เพลงของโมเสส

30 แล้วโมเสสก็ร้องบทเพลงให้ชาวอิสราเอลทั้งหมดฟัง

32 “ฟ้าเอ๋ย ช่วยฟังสิ่งที่ข้าพเจ้าจะพูด
    แผ่นดินเอ๋ย ช่วยฟังคำพูดจากปากข้าพเจ้า
คำสอนข้าพเจ้า จะตกลงมาเหมือนฝน
    คำพูดข้าพเจ้า จะลงมาเหมือนหมอก
เหมือนสายฝนพรำๆบนหญ้าอ่อน
    เหมือนหยาดฝนบนพืชเกิดใหม่
เพราะข้าพเจ้าจะประกาศชื่อของพระยาห์เวห์
    สรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าของเรา

พระศิลา[p] งานของพระองค์สมบูรณ์แบบยิ่งนัก
    ทางทุกทางของพระองค์ถูกต้อง
พระเจ้าซื่อสัตย์ พระองค์ไม่เคยทำผิด
    พระเจ้าเที่ยงตรง พระองค์ไว้วางใจได้
พวกเจ้าไม่ได้เป็นลูกหลานของพระองค์
    เพราะความผิดของพวกเจ้า
    พวกเจ้าได้ทำผิดต่อพระองค์ พวกคนหลอกลวงและเจ้าเล่ห์
พวกเจ้าจะตอบแทนพระยาห์เวห์ด้วยวิธีนี้หรือ
    พวกคนโง่และไร้สาระ
พระองค์ไม่ใช่พ่อของเจ้าผู้ที่สร้างเจ้ามาหรือ
    พระองค์ไม่ใช่ผู้ที่สร้างเจ้าและทำให้เจ้าเกิดมาเป็นชนชาติหนึ่งหรือ

จำวันเก่าๆเหล่านั้นไว้
    คิดถึงปีที่คนรุ่นก่อนๆได้ผ่านมา
ถามพ่อของเจ้าและเขาจะบอกเจ้า
    ถามผู้นำอาวุโสของเจ้าและพวกเขาจะบอกเจ้าเกี่ยวกับอดีต
เมื่อพระเจ้าผู้สูงสุดแบ่งชนชาติออก
    เมื่อพระองค์แบ่งแยกเชื้อชาติมนุษย์
พระองค์กำหนดเขตแดนของประชาชน
    ให้เท่าเทียมกับจำนวนทูตสวรรค์ที่มีอยู่[q]
แต่ส่วนแบ่งของพระยาห์เวห์คือประชาชนของพระองค์
    ยาโคบคือส่วนแบ่งของพระองค์

10 พระองค์พบเขาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง
    ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งที่ร้าง และลมแรง
พระองค์อยู่รอบๆตัวเขาและดูแลเขา
    พระองค์ปกป้องเขาเหมือนแก้วตาของพระองค์
11 เหมือนนกอินทรีที่คอยขยับรัง[r] ของมัน
    และบินโฉบไปที่ลูกของมัน
ดังนั้น พระยาห์เวห์กางปีกของพระองค์ออกและจับพวกเขาไว้
    และแบกพวกเขาไว้บนปีกของพระองค์
12 พระยาห์เวห์เท่านั้นที่นำพวกเขาผ่านที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง
    ไม่มีพระอื่นใดที่มาช่วยพระองค์
13 พระองค์ทำให้ยาโคบมีอำนาจเหนือพื้นที่ในแถบภูเขา
    และเลี้ยงเขาด้วยพืชผลในไร่นา
พระองค์ได้ให้เขาดูดน้ำเชื่อมผลไม้จากก้อนหิน
    และน้ำมันมะกอกจากหินแข็ง
14 พระยาห์เวห์ได้ให้เนยจากวัวและนมจากแพะ
    กับไขมันจากลูกแกะและแกะตัวผู้
ฝูงวัวจากบาชานและแพะตัวผู้กับข้าวสาลีที่ดีที่สุด
    และพวกเจ้าได้ดื่มเหล้าองุ่นหมักเลือดขององุ่น

15 แต่เยชุรุน[s] อ้วนขึ้นและเริ่มเตะเจ้าของ
    เจ้าเริ่มอ้วน หนาและตะกละ
เยชุรูนทอดทิ้งพระเจ้าที่สร้างเขาขึ้นมา
    และเขาไม่ให้เกียรติพระศิลาที่ช่วยชีวิตเขา
16 พวกเขาทำให้พระองค์หึงหวงด้วยพระแปลกหน้า
    พวกเขาทำให้พระองค์โกรธด้วยรูปเคารพที่น่ารังเกียจ
17 พวกเขาบูชาวิญญาณที่ไม่ใช่พระเจ้า
    พวกเขาบูชาพระที่พวกเขาไม่รู้จักมาก่อน
เป็นพระใหม่ มาถึงไม่นาน
    บรรพบุรุษของเจ้าไม่เคยเคารพยำเกรงพระเหล่านั้นมาก่อน
18 เจ้าลืมพระศิลาที่ให้กำเนิดเจ้า
    เจ้าลืมพระเจ้าที่คลอดเจ้ามาด้วยความเจ็บปวด

19 พระยาห์เวห์เห็นสิ่งนี้และทอดทิ้งพวกเขา
    เพราะลูกชายและลูกสาวของพระองค์ทำให้พระองค์โกรธ
20 และพระองค์พูดว่า ‘เราจะหลบหน้าจากพวกเขา
    เราเห็นจุดจบของพวกเขา
เพราะพวกเขาคือคนอกตัญญู
    เป็นลูกหลานที่ไม่ซื่อสัตย์
21 พวกเขาทำให้เราหึงหวงด้วยพวกนั้นที่ไม่ใช่พระเจ้า
    พวกเขาทำให้เราโกรธด้วยรูปเคารพที่ไร้ค่าของเขา
ดังนั้น เราจะทำให้พวกเขาหึงหวงด้วยพวกที่ไม่ใช่ชนชาติ
    เราจะทำให้พวกเขาโกรธด้วยชนชาติที่โง่เขลา
22 เพราะไฟได้จุดขึ้นแล้วจากความโกรธของเรา
    และมันจะเผาลงไปถึงหลุมฝังศพ[t]
และมันจะเผาไหม้แผ่นดินและพืชผลของมัน
    และมันจะเผาไหม้ลึกลงไปถึงรากของภูเขา

23 เราจะสุมความทุกข์ยากทั้งหลายบนพวกเขา
    เราจะใช้ลูกธนูทั้งหมดยิงใส่พวกเขา
24 พวกเขาจะอ่อนแอจากความหิวโหย
    และถูกทำลายด้วยเชื้อโรคที่น่ากลัว
    และโรคระบาดที่รุนแรง
    และเราจะส่งสัตว์ป่ามาทำร้ายพวกเขาพร้อมกับงูพิษ
25 พวกทหารจะฆ่าพวกเขาบนถนน
    และความกลัวจะฆ่าพวกเขาในห้องนอน
คนหนุ่มสาวจะตาย
    รวมทั้งเด็กๆและคนแก่

26 เราเคยพูดว่า “เราจะทำลายพวกเขา
    เราจะกวาดล้างพวกเขาจนหมดสิ้น
27 แต่เรากลัวว่าศัตรูของพวกเขาจะทำให้เราโกรธ
    เพราะเข้าใจผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น
กลัวศัตรูพวกเขาจะพูดว่า ‘พวกเราชนะด้วยอำนาจของพวกเราเอง
    พระยาห์เวห์ไม่ได้ทำอะไรเลย’”

28 เพราะพวกเขา[u] คือชาติที่ไม่มีที่ปรึกษา
    และพวกเขาไม่มีความเข้าใจ
29 ถ้าพวกเขาฉลาด เขาจะเข้าใจในสิ่งนี้
    พวกเขาจะคิดถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับเขา
30 คนๆหนึ่งจะไล่คนหนึ่งพันคนได้อย่างไร
    และคนสองคนจะทำให้คนหนึ่งหมื่นคนวิ่งหนีไปได้อย่างไร
นอกจากพระศิลาของชาวอิสราเอลได้ขายพวกเขาไปแล้ว
    นอกจากพระยาห์เวห์ได้มอบพวกเขาไป
31 เพราะศิลาของพวกเขาไม่เหมือนพระศิลาของเรา
    และผู้ปกป้องของศัตรูเราก็ไม่เข้มแข็งเท่ากับพระศิลาของพวกเรา
32 ใช่แล้ว องุ่นของพวกเขามาจากองุ่นที่เก็บไว้ของโสโดม
    และไร่องุ่นของโกโมราห์
องุ่นของพวกเขาเป็นองุ่นที่มีพิษ
    เถาองุ่นของพวกเขาจะมีรสขม
33 เหล้าองุ่นของพวกเขาเป็นเหมือนพิษงู
    เป็นพิษงูเห่าที่ร้ายแรงถึงตาย

34 พระยาห์เวห์พูดว่า ‘เราได้เก็บเหล้าองุ่นนี้ไว้
    มันถูกเก็บอยู่ในโรงเก็บของเรา’
35 เราจะใช้มันลงโทษพวกเขาเอง
    และตอบแทนพวกเขาเมื่อเท้าของพวกเขาลื่นไถล
เพราะเวลาแห่งความหายนะล่มจมของพวกเขาใกล้เข้ามาแล้ว
    การลงโทษพวกเขากำลังจะมาในเร็วๆนี้

36 เมื่อพระองค์เห็นว่าอำนาจของพวกเขาหมดลง
    ไม่มีผู้ปกครองและไม่มีผู้ช่วยเหลือ
พระยาห์เวห์ก็จะให้ความยุติธรรมกับประชาชนของพระองค์
    และพระองค์จะให้ความเมตตากับผู้รับใช้ของพระองค์
37 พระองค์จึงจะพูดว่า ‘พระของพวกเขาอยู่ที่ไหนแล้ว
    หินที่พวกเขาไว้ใจว่าปกป้องพวกเขาได้ อยู่ที่ไหนแล้ว
38 พระที่กินไขมันของเครื่องบูชาของพวกเขา
    และดื่มเหล้าองุ่นของเครื่องดื่มบูชาของพวกเขา
ให้พระพวกนั้นลุกขึ้นมาช่วยเจ้าสิ
    ให้พวกมันมาปกป้องเจ้าสิ

39 ตอนนี้เห็นแล้วหรือยังว่า เราผู้เดียว เป็นพระเจ้า
    ไม่มีพระอื่นนอกจากเรา
เราให้ความตาย เราให้ชีวิต
    เราได้ทำให้บาดเจ็บ เราจะรักษา
    และไม่มีใครที่จะช่วยให้พ้นจากมือของเราได้
40 ที่จริงแล้ว เราได้ยกมือขึ้นบนสวรรค์
    และสัญญาว่า เรามีชีวิตนิรันดร์ฉันใด
    สิ่งนี้ก็จะเกิดขึ้นกับพวกเขาแน่ๆฉันนั้น
41 เราก็จะลับดาบของเราให้คมแวววาว
    เราจะใช้มันลงโทษศัตรูของเรา คนที่เกลียดเรา
    เราจะลงโทษตามที่พวกเขาสมควรจะได้รับ
42 ลูกธนูของเราจะอาบไปด้วยเลือดของศัตรู
    ดาบของเราจะกินเนื้อหนัง
และเลือดของคนที่ถูกจับมาฆ่า
    ดาบของเราจะตัดหัวของผู้นำของศัตรูพวกนั้น’

43 ชนชาติทั้งหลายเอ๋ย ให้แสดงความยินดีกับประชาชนของพระองค์
    เพราะพระองค์จะทำโทษคนที่ฆ่าพวกผู้รับใช้ของพระองค์
พระองค์จะลงโทษศัตรูของพระองค์
พระองค์จะชำระแผ่นดินของพระองค์ให้บริสุทธิ์[v][w]

โมเสสร้องเพลงให้ประชาชนฟัง

44 แล้วโมเสสก็มาร้องเพลงนี้ให้ประชาชนชาวอิสราเอลฟัง โยชูวาลูกชายของนูนก็อยู่กับโมเสส 45 เมื่อโมเสสพูดคำเหล่านี้ให้ชาวอิสราเอลทั้งหมดฟังเสร็จแล้ว 46 โมเสสจึงพูดกับพวกเขาว่า “ให้ใส่ใจกับคำพูดเหล่านี้ ที่เราได้สั่งท่านในวันนี้ ให้บอกกับลูกๆว่าคำพูดเหล่านี้เป็นคำสั่ง เพื่อพวกเขาจะได้ระมัดระวังที่จะเชื่อฟังคำสอนนี้ 47 นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นเรื่องชีวิตของพวกท่าน และผ่านทางคำสอนเหล่านี้ พวกท่านจะได้มีชีวิตยืนยาวในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปเป็นเจ้าของ”

โมเสสบนภูเขาเนโบ

48 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสในวันนั้นเองว่า 49 “ขึ้นไปบนเทือกเขาอาบาริม ไปที่เขาเนโบในแผ่นดินของโมอับตรงข้ามเมืองเยริโค และมองดูแผ่นดินคานาอันที่เราได้ให้กับชาวอิสราเอลไว้เป็นสมบัติของพวกเขา 50 เจ้าจะตายบนภูเขานั้นที่เจ้ากำลังจะปีนขึ้นไป และเจ้าจะได้ไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษของเจ้า เหมือนกับอาโรนพี่ชายของเจ้าที่ตายบนภูเขาโฮร์และได้ไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษของเขา 51 เพราะเจ้าทั้งสองไม่ซื่อสัตย์กับเราท่ามกลางชาวอิสราเอลที่แหล่งน้ำเมรีบาห์คาเดชในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งศิน และเพราะพวกเจ้าไม่ให้เกียรติเราว่าเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในหมู่ชาวอิสราเอล 52 ดังนั้นเจ้าจะได้เห็นแผ่นดินนั้นจากที่ไกลๆ แต่เจ้าจะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินที่เรากำลังจะยกให้กับชาวอิสราเอล”

โมเสสอวยพรประชาชน

33 นี่คือคำอวยพรที่โมเสสคนของพระเจ้าให้กับชาวอิสราเอลก่อนที่เขาจะตาย โมเสสพูดว่า

“พระยาห์เวห์มาจากซีนาย
    เหมือนแสงอาทิตย์ที่ส่องจากเสอีร์มายังเรา
    เหมือนแสงอาทิตย์ที่ส่องจากภูเขาของปาราน
และมีทูตสวรรค์อีกหนึ่งหมื่นองค์มากับพระองค์
    ทหารของพระองค์อยู่ข้างขวาของพระองค์
แน่นอน พระยาห์เวห์รักประชาชนชาวอิสราเอล
    คนที่ถูกแยกออกมาทั้งหมดอยู่ในมือของพระองค์
พวกเขานั่นเองที่ก้มกราบอยู่ที่เท้าของพระองค์
    และให้ความสนใจในคำสั่งสอนของพระองค์
โมเสสได้ให้คำสอนกับพวกเรา
    เป็นสมบัติของที่ชุมนุมของยาโคบ
แล้วพระยาห์เวห์ก็กลายเป็นกษัตริย์ในเยชุรูน[x]
    เมื่อบรรดาผู้นำของประชาชนมารวมกัน
    เมื่อคนเผ่าต่างๆของอิสราเอลมารวมตัวกัน”

คำอวยพรสำหรับรูเบน

“ให้รูเบนมีชีวิตอยู่และไม่ตาย
    แต่ให้เผ่าของเขามีคนน้อย”

คำอวยพรสำหรับยูดาห์

โมเสสพูดถึงเผ่าของยูดาห์ว่า

“พระยาห์เวห์ ขอช่วยฟังเสียงร้องของผู้นำเผ่ายูดาห์
    ขอช่วยนำเขากลับมาหาคนของเขาอย่างปลอดภัย
เขาต่อสู้ป้องกันตัวเองด้วยมือของเขา[y]
    ขอให้พระองค์ช่วยให้เขาเอาชนะศัตรูของเขา”

คำอวยพรสำหรับชาวเลวี

โมเสสพูดถึงเผ่าเลวีว่า

“เลวีเป็นผู้ติดตามที่แท้จริงของพระองค์
    เขาเก็บรักษาทูมมิมกับอูริม
ที่แถวมัสสาห์ พระองค์ได้ทดสอบเขา
    ที่แหล่งน้ำเมรีบาห์[z] พระองค์ได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาเป็นของพระองค์
พวกเขาถือว่าการเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์
    และการรักษาข้อตกลงของพระองค์นั้นสำคัญยิ่งกว่าครอบครัว
พวกเขาพูดถึงพ่อแม่ว่า เขาไม่รู้จัก
    พวกเขาไม่รู้จักพี่น้อง
    พวกเขาไม่สนใจลูกๆ
10 พวกเขาจะสอนกฎของพระองค์ให้ยาโคบ
    พวกเขาจะสอนคำสอนของพระองค์ให้อิสราเอล
พวกเขาจะเผาเครื่องหอมต่อหน้าพระองค์
    พวกเขาจะถวายเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชาของพระองค์

11 พระยาห์เวห์ ขออวยพรให้เขาร่ำรวย
    ขอให้ยอมรับงานที่เขาทำ
ขอพระองค์โจมตีศัตรูที่เกลียดเขา
    เพื่อคนพวกนั้นจะได้ไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับเขาอีก”

คำอวยพรสำหรับเบนยามิน

12 โมเสสพูดถึงเผ่าของเบนยามินว่า

“พระยาห์เวห์รักเบนยามิน
    เบนยามินจะมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยใกล้พระองค์[aa]
พระยาห์เวห์จะปกป้องเขาตลอดเวลา
    และพระยาห์เวห์จะอาศัยอยู่ระหว่างเส้นเขตแดนของเขา[ab]

คำอวยพรสำหรับโยเซฟ

13 โมเสสพูดถึงประชาชนของโยเซฟว่า

“ขอพระยาห์เวห์อวยพรแผ่นดินของโยเซฟ
    ด้วยของขวัญที่ดีที่สุดบนฟ้าข้างบน
    และของน้ำใต้พื้นดิน
14 และของขวัญที่ดีที่สุดจากผลผลิตของดวงอาทิตย์
    และของขวัญที่ดีที่สุดจากผลผลิตของดวงจันทร์
15 และที่ดีที่สุดของภูเขาที่เก่าแก่
    และของขวัญที่ดีที่สุดของเทือกเขาที่ไม่มีวันจบสิ้น
16 และของขวัญที่ดีที่สุดของแผ่นดินและความอุดมสมบูรณ์ทั้งสิ้นของมัน
    และความชื่นชอบของพระองค์ผู้ที่ปรากฏอยู่ในพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ
ขอให้คำอวยพรไปถึงหัวของโยเซฟ
    บนหน้าผากของหัวหน้าในหมู่พี่น้องของเขา
17 โยเซฟเปรียบเหมือนวัวตัวผู้ที่แข็งแรง
    ลูกทั้งสองของเขาเปรียบเหมือนเขาทั้งสองข้าง
ด้วยเขาทั้งสองข้างของมัน เขาโจมตีคนชาติอื่น
    และดันพวกนั้นไปจนสุดขอบโลก
ใช่แล้ว มนัสเสห์ มีคนเป็นพันๆ
    และเอฟราอิม มีคนเป็นหมื่นๆ”

คำอวยพรสำหรับเศบูลุนและอิสสาคาร์

18 โมเสสพูดถึงเผ่าของเศบูลุนว่า

“เศบูลุน มีความสุขเถิด ในการเดินทางของท่าน
    และอิสสาคาร์ มีความสุขในเต็นท์ของท่านเถิด
19 พวกเขาจะเรียกประชาชนไปบนภูเขา
    พวกเขาจะถวายเครื่องสัตวบูชาที่ถูกต้อง
เพราะพวกเขาจะดูดความมั่งคั่งจากทะเล
    และสมบัติที่ซ่อนอยู่จากพื้นทราย”

คำอวยพรสำหรับกาด

20 โมเสสพูดถึงเผ่าของกาดว่า

สรรเสริญพระองค์ผู้ที่ขยายแผ่นดินของกาด
    กาดหมอบลงเหมือนสิงโตและเฝ้าคอย
    แล้วจู่โจม ฉีกแขนและถลกหนังหัว
21 เขาได้เลือกส่วนที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
    เพราะส่วนของผู้บังคับการได้เก็บไว้เพื่อเขา
และเขามาในฐานะผู้นำของประชาชน
    เขาได้ทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าถูกต้องแล้ว
    และเชื่อฟังกฎของพระยาห์เวห์ที่มีไว้สำหรับชาวอิสราเอล

คำอวยพรสำหรับดาน

22 โมเสสได้พูดเกี่ยวกับเผ่าของดานว่า

“ดานเป็นเหมือนลูกสิงโต
    ที่กระโดดออกจากบาชาน”[ac]

คำอวยพรสำหรับนัฟทาลี

23 โมเสสพูดถึงเผ่าของนัฟทาลีว่า

“นัฟทาลีเอ๋ย ท่านอุดมไปด้วยสิ่งดีๆอย่างล้นเหลือ
    พระยาห์เวห์อวยพรท่านอย่างเต็มที่
    ท่านได้แผ่นดินที่ติดกับทะเลสาบกาลิลี”

คำอวยพรสำหรับอาเชอร์

24 โมเสสพูดถึงเผ่าของอาเชอร์ว่า

“อาเชอร์เป็นลูกชายที่ได้รับการอวยพรมากที่สุด
    ขอให้เขาเป็นที่ชื่นชอบที่สุดในบรรดาพี่น้องของเขา
    และขอให้เขาจุ่มเท้าของเขาลงในน้ำมันมะกอก
25 ขอให้กลอนประตูท่านทำด้วยเหล็กและทองสัมฤทธิ์
    และขอให้ท่านแข็งแรงตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่”

โมเสสชื่นชมพระเจ้า

26 “เยชุรูนเอ๋ย ไม่มีใครเหมือนพระเจ้า
    ผู้ที่ลอยผ่านฟ้ามาช่วยท่าน
    และลอยผ่านเมฆมาด้วยความสง่างามของพระองค์
27 พระเจ้าผู้อยู่ชั่วนิรันดร์
    เป็นที่ที่ปลอดภัย
แขนทั้งสองข้างของพระองค์ ผู้ที่อยู่ตลอดกาล
    จะอุ้มท่านไว้
พระองค์ขับไล่ศัตรูที่อยู่ต่อหน้าท่าน
    และพูดว่า ‘ทำลายมัน’
28 ดังนั้น อิสราเอลจะอยู่อย่างปลอดภัย
    ยาโคบจะมีชีวิตอย่างสงบ
ในดินแดนแห่งข้าวและเหล้าองุ่น
    เป็นดินแดนที่มีฝนโปรยปรายจากท้องฟ้า
29 อิสราเอล ท่านจะได้รับการอวยพร
    ใครจะเป็นเหมือนท่าน
ประชาชนผู้ได้รับการช่วยเหลือจากพระเจ้า
    พระยาห์เวห์คือโล่ที่ปกป้องท่าน
    และดาบที่จะให้ชัยชนะแก่ท่าน
ศัตรูของท่านจะหมอบต่อหน้าท่านด้วยความกลัว
    และท่านจะเหยียบบนหลังพวกเขา”

โมเสสตาย

34 โมเสสปีนขึ้นไปบนเขาเนโบ จากที่ราบโมอับไปถึงยอดเขาปิสกาห์ซึ่งอยู่ตรงข้ามเยริโค พระยาห์เวห์แสดงแผ่นดินทั้งหมดให้โมเสสเห็น ตั้งแต่กิเลอาดไปจนถึงดาน พระองค์แสดงให้เขาเห็นทั้งหมดของนัฟทาลีและแผ่นดินของเอฟราอิม มนัสเสห์และทั้งหมดของยูดาห์ไปจนถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พระองค์ยังแสดงให้เขาเห็นเนเกบและที่ราบที่อยู่ในหุบเขาของเยริโค เมืองของต้นปาล์มไปถึงโศอาร์ แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับโมเสสว่า “นี่คือแผ่นดินที่เราสัญญาไว้กับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ เราบอกว่า ‘เราจะให้แผ่นดินนี้กับลูกหลานของเจ้า’ เราได้ให้เจ้าเห็นมันกับตาตัวเองแล้ว แต่เจ้าจะไม่ได้ข้ามไปที่นั่น”

แล้วโมเสส ผู้รับใช้พระยาห์เวห์ก็ตายอยู่ที่นั่นในแผ่นดินของโมอับตามที่พระยาห์เวห์ได้พูดไว้ พระยาห์เวห์ฝังโมเสสไว้ในหุบเขาในแผ่นดินของโมอับใกล้เบธเปโอร์ แต่จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้เลยว่าหลุมฝังศพของโมเสสอยู่ที่ไหนกันแน่ ตอนที่โมเสสตาย เขามีอายุหนึ่งร้อยยี่สิบปี ตาของเขายังไม่อ่อนล้าและตัวเขาก็ยังไม่เหี่ยวย่น ชาวอิสราเอลร้องไห้ให้โมเสสเป็นเวลาสามสิบวันในที่ราบโมอับ จนกระทั่งเวลาแห่งการไว้ทุกข์สิ้นสุดลง

โยชูวาเป็นผู้นำคนใหม่

แล้วโยชูวาลูกชายของนูนก็เต็มไปด้วยวิญญาณของความเฉลียวฉลาด เพราะโมเสสได้วางมือลงบนโยชูวาและแต่งตั้งเขาเป็นผู้นำคนใหม่แล้ว ดังนั้นชาวอิสราเอลจึงเชื่อฟังเขา และทำตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้

10 แต่ยังไม่เคยมีผู้พูดแทนพระเจ้าคนไหนในอิสราเอลที่เหมือนโมเสสเลย เพราะพระยาห์เวห์รู้จักโมเสสแบบตัวต่อตัว 11 ไม่มีใครเหมือนโมเสส เพราะพระยาห์เวห์ส่งเขาไปทำเหตุการณ์พิเศษต่างๆและสิ่งมหัศจรรย์ต่อฟาโรห์ในแผ่นดินอียิปต์ และต่อคนของฟาโรห์และประเทศนั้นทั้งประเทศ 12 และไม่มีใครเคยมีฤทธิ์อำนาจที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามพวกนี้ เหมือนกับที่โมเสสได้ทำให้กับทุกคนเห็น

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International