The Daily Audio Bible
Today's audio is from the CSB. Switch to the CSB to read along with the audio.
11 กษัตริย์ดาวิดทรงส่งข่าวไปถึงปุโรหิตศาโดกและปุโรหิตอาบียาธาร์ว่า “จงถามบรรดาผู้อาวุโสของยูดาห์ว่า ‘ทำไมท่านเป็นพวกสุดท้ายที่เชิญกษัตริย์กลับพระราชวังของพระองค์ เพราะว่ากษัตริย์ได้ยินสิ่งที่พวกท่านพูดกันทั่วอิสราเอล 12 พวกท่านเป็นพี่น้องร่วมตระกูล เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันแท้ๆ ทำไมจึงกลายเป็นพวกสุดท้ายที่มาทูลเชิญกษัตริย์กลับ?’ 13 และให้ไปบอกอามาสาว่า ‘เจ้าก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกับเราไม่ใช่หรือ? ขอพระเจ้าทรงจัดการกับเราอย่างสาหัส หากเจ้าไม่ได้เป็นแม่ทัพของเราแทนโยอาบนับแต่นี้’”
14 ดังนั้นบรรดาคนยูดาห์ก็ได้รับการโน้มน้าวใจจนมีมติเป็นเอกฉันท์ พวกเขามากราบทูลกษัตริย์ว่า “เชิญเสด็จกลับมาหาพวกข้าพระบาท พร้อมทั้งบรรดาผู้ที่ร่วมเสด็จด้วย” 15 กษัตริย์จึงเสด็จกลับ และมาถึงแม่น้ำจอร์แดน
ชาวยูดาห์พากันมาที่กิลกาลเพื่อรับเสด็จและส่งเสด็จข้ามแม่น้ำจอร์แดน 16 ฝ่ายชิเมอีบุตรเกรา คนเบนยามินจากบาฮูริมรีบรุดมาสมทบกับคนยูดาห์เพื่อรับเสด็จกษัตริย์ดาวิด 17 คนที่มากับชิเมอีคือคนเบนยามินหนึ่งพันคน พร้อมทั้งศิบาข้าราชบริพารของซาอูล บุตรชายทั้งสิบห้าคนและคนใช้ยี่สิบคนของศิบา พวกเขารีบรุดมายังแม่น้ำจอร์แดนที่กษัตริย์ประทับอยู่ 18 พวกเขากุลีกุจอส่งเชื้อพระวงศ์ข้ามฟาก และให้ความช่วยเหลือต่างๆ นานา
เมื่อชิเมอีบุตรเกราข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา เขาหมอบกราบลงต่อหน้ากษัตริย์ดาวิด 19 และทูลว่า “ขอโปรดอภัยโทษแก่ข้าพระบาท และอย่าทรงจดจำสิ่งผิดพลาดที่ข้าพระบาทได้ทำเมื่อครั้งฝ่าพระบาทเสด็จออกจากเยรูซาเล็มด้วยเถิด 20 เพราะผู้รับใช้สำนึกว่าได้ทำบาปไปแล้ว ข้าพระบาทจึงมาที่นี่ในวันนี้เป็นคนแรกสุดของวงศ์วานโยเซฟที่มารับเสด็จ”
21 อาบีชัยบุตรนางเศรุยาห์ทูลว่า “ชิเมอีไม่สมควรตายหรอกหรือที่ได้บังอาจแช่งด่ากษัตริย์ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งไว้?”
22 ดาวิดตรัสว่า “บุตรนางเศรุยาห์เอ๋ย เจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาก้าวก่าย! ควรหรือที่จะมีใครในอิสราเอลถูกประหารในวันนี้? เราไม่รู้หรือว่าวันนี้เราคือกษัตริย์ของอิสราเอล?” 23 แล้วกษัตริย์จึงตรัสกับชิเมอีว่า “เราไว้ชีวิตเจ้า” และทรงสาบานรับรอง
24 เมฟีโบเชทหลานชายของซาอูลก็มารับเสด็จด้วย เขาไม่ได้ดูแลเท้าหรือซักเสื้อผ้าหรือขริบเคราเลยตั้งแต่วันที่กษัตริย์เสด็จจากไปจวบจนเสด็จกลับมาโดยสวัสดิภาพ 25 เมื่อเมฟีโบเชทเดินทางจากเยรูซาเล็มมาเข้าเฝ้า กษัตริย์ตรัสถามว่า “เมฟีโบเชท ทำไมเจ้าจึงไม่ไปกับเรา?”
26 เขาทูลว่า “ข้าแต่องค์กษัตริย์ เพราะข้าพระบาทขาพิการจึงสั่งศิบาว่า ‘จงจัดอานลาให้เราได้ตามเสด็จ’ แต่ศิบาทรยศ 27 เขาทูลใส่ร้ายหาว่าข้าพระบาทไม่ยอมไป แต่ฝ่าพระบาททรงเป็นเหมือนทูตของพระเจ้า ขอทรงทำต่อข้าพระบาทตามที่ทรงเห็นชอบเถิด 28 วงศ์วานทั้งหมดของเสด็จปู่ของข้าพระบาท ไม่สมควรได้รับสิ่งใดจากฝ่าพระบาทนอกจากความตาย แต่ฝ่าพระบาทกลับประทานเกียรติให้ร่วมโต๊ะเสวย ดังนั้นข้าพระบาทจะปริปากทูลอะไรได้?”
29 ดาวิดตรัสว่า “จะพูดให้มากความไปทำไม? เจ้ากับศิบาจงแบ่งที่ดินกัน”
30 เมฟีโบเชททูลว่า “ให้เขาเอาไปทั้งหมดเถิด ในเมื่อฝ่าพระบาทเสด็จกลับมาโดยปลอดภัยเช่นนี้แล้ว”
31 บารซิลลัยชาวกิเลอาดก็มาจากเมืองโรเกลิมด้วยเพื่อตามเสด็จข้ามแม่น้ำจอร์แดนและส่งเสด็จ 32 บารซิลลัยชรามาก อายุได้แปดสิบปีแล้ว เขาได้นำเสบียงอาหารมาถวายขณะกษัตริย์ประทับอยู่ที่มาหะนาอิม เพราะเขาร่ำรวยมาก 33 กษัตริย์ตรัสกับบารซิลลัยว่า “ข้ามมาอยู่กับเราที่กรุงเยรูซาเล็มเถิด เราจะดูแลท่านเอง”
34 แต่บารซิลลัยกราบทูลว่า “ข้าพระบาทจะอยู่ไปได้อีกกี่ปี พระองค์จึงให้ตามเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม? 35 บัดนี้ข้าพระบาทอายุแปดสิบปีแล้ว อะไรดีไม่ดีจะแยกแยะได้หรือ? กินดื่มอะไรจะลิ้มรสได้หรือ? เสียงนักร้องชายหญิงจะได้ยินหรือ? ควรหรือที่ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทจะไปเพิ่มภาระให้แก่ฝ่าพระบาท? 36 ข้าพระบาทจะขอตามเสด็จข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปเท่านั้น ฝ่าพระบาทจะปูนบำเหน็จให้ทำไมเล่า? 37 ข้าพระบาทขอกลับไปตายที่บ้านเกิดเมืองนอน ใกล้ๆ อุโมงค์ฝังศพของบิดามารดา แต่นี่คือคิมฮามผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท ขอให้เขาตามเสด็จฝ่าพระบาทไป ขอทรงทำแก่เขาตามที่ทรงเห็นชอบเถิด”
38 กษัตริย์ดาวิดตรัสว่า “คิมฮามจะไปกับเรา เราจะปฏิบัติต่อเขาตามที่ท่านเห็นสมควร สิ่งใดที่ท่านอยากได้จากเรา เราจะทำให้ท่าน”
39 ฉะนั้นประชากรทั้งหมดจึงข้ามแม่น้ำจอร์แดน แล้วกษัตริย์ก็เสด็จข้ามไป ดาวิดทรงจูบและให้พรแก่บารซิลลัย แล้วบารซิลลัยก็กลับบ้าน
40 กษัตริย์เสด็จต่อไปยังกิลกาล ให้คิมฮามตามเสด็จไปด้วย กำลังพลยูดาห์ทั้งหมดและทหารอิสราเอลครึ่งหนึ่งคอยรับเสด็จอยู่ที่นั่นแล้ว
41 แล้วคนอิสราเอลทั้งหมดมาเข้าเฝ้ากษัตริย์และทูลว่า “เหตุใดพี่น้องชนยูดาห์จึงชิงตัดหน้าเชิญกษัตริย์กับราชวงศ์และข้าราชบริพารข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปก่อน?”
42 คนยูดาห์โต้ตอบว่า “เราทำเช่นนั้นก็เพราะกษัตริย์ทรงเกี่ยวโยงใกล้ชิดกับพวกเรา ทำไมเรื่องแค่นี้พวกท่านต้องโกรธด้วย? เรากินเสบียงใดๆ ของกษัตริย์หรือ? มีสิ่งใดที่เราฉกฉวยมาเป็นของตนหรือ?”
43 คนอิสราเอลโต้กลับว่า “พวกเรามีสิทธิ์ในองค์กษัตริย์สิบส่วน มิหนำซ้ำเรามีสิทธิ์ในกษัตริย์ดาวิดมากกว่าพวกท่าน ทำไมพวกท่านไม่ไว้หน้าพวกเรา? เราเป็นพวกแรกใช่ไหมที่พูดถึงเรื่องการเชิญกษัตริย์เสด็จกลับมา?”
แต่คนยูดาห์โต้ตอบด้วยวาจาเผ็ดร้อนยิ่งกว่าคนอิสราเอล
เชบากบฏ
20 มีผู้ก่อความไม่สงบคนหนึ่งชื่อเชบาบุตรบิครีชาวเบนยามินเผอิญอยู่ที่นั่น เขาเป่าแตรเขาสัตว์และร้องตะโกนว่า
“เราไม่มีส่วนอะไรกับดาวิด
เราไม่เกี่ยวข้องอะไรกับบุตรเจสซี!
พี่น้องอิสราเอลทั้งหลายเอ๋ย จงกลับบ้านกันเถิด!”
2 คนอิสราเอลทั้งปวงจึงทิ้งดาวิดไปติดตามเชบาบุตรบิครี แต่คนยูดาห์อยู่เคียงข้างกษัตริย์ของตน ตามเสด็จตลอดทางจากแม่น้ำจอร์แดนสู่กรุงเยรูซาเล็ม
3 เมื่อดาวิดเสด็จมาถึงวังในเยรูซาเล็ม พระองค์ทรงกักตัวสนมทั้งสิบซึ่งทรงทิ้งไว้ให้คอยรักษาวังนั้นไว้ที่ตำหนักแห่งหนึ่ง และให้ได้รับการเลี้ยงดูตามความต้องการ แต่กษัตริย์ไม่ได้รับเป็นสนมอีกต่อไป นางสนมเหล่านั้นจึงถูกกักอยู่ในฐานะแม่ม่ายจนวันตาย
4 จากนั้นกษัตริย์ตรัสสั่งอามาสาว่า “จงระดมพลยูดาห์มาที่นี่ภายในสามวัน แล้วตัวเจ้าก็จงมาด้วย” 5 แต่เมื่ออามาสาออกไประดมพลยูดาห์ เขาใช้เวลาเกินกว่าที่กษัตริย์กำหนดไว้
6 ดาวิดตรัสกับอาบีชัยว่า “เชบาบุตรบิครีจะเป็นภัยต่อเรายิ่งกว่าอับซาโลมเสียอีก จงนำคนของเราตามล่าเอาตัวเขามา ก่อนที่เขาจะหนีเข้าเมืองป้อมปราการพ้นมือเราไปได้” 7 คนของโยอาบ คนเคเรธี และคนเปเลท กับนักรบแกล้วกล้าทั้งหลายจึงยกออกไปจากกรุงเยรูซาเล็มภายใต้การนำของอาบีชัยเพื่อตามล่าเชบาบุตรบิครี
8 ขณะที่พวกเขามาถึงศิลาใหญ่แห่งกิเบโอน อามาสามาพบกับพวกเขาที่นั่น โยอาบแต่งชุดออกศึก คาดดาบสั้นพร้อมฝักไว้ที่เอว เขาก้าวเข้าไปทักทายอามาสาและแอบชักดาบสั้นออกจากฝัก
9 โยอาบพูดว่า “เป็นอย่างไรบ้างน้องชาย?” แล้วใช้มือขวาจับหนวดของอามาสาทำท่าเหมือนจะจูบ 10 อามาสาไม่ทันสังเกตดาบสั้นในมือโยอาบ โยอาบจึงแทงเข้าที่ท้องจนไส้ทะลักออกมาที่พื้น โดยไม่ต้องแทงซ้ำ อามาสาตายคาที่ แล้วโยอาบกับอาบีชัยน้องชายก็ตามล่าเชบาบุตรบิครีต่อไป
11 ทหารคนหนึ่งของโยอาบยืนข้างร่างของอามาสาและกล่าวว่า “ผู้ใดชื่นชอบโยอาบและผู้ใดเป็นฝ่ายดาวิด จงตามโยอาบมา” 12 ส่วนอามาสานอนจมกองเลือดอยู่กลางถนน และเมื่อทหารคนนั้นเห็นทหารทั้งหมดหยุดดูศพของอามาสา เขาจึงลากศพจากถนนไปทิ้งไว้กลางทุ่งและโยนเสื้อผ้าคลุมไว้ 13 เมื่อกำจัดร่างของอามาสาออกไปให้พ้นทางแล้ว ทุกคนต่างก็สมทบกับโยอาบ ออกตามล่าเชบาบุตรบิครี
พระเยซูกับการจับปลาอย่างอัศจรรย์
21 ต่อมาพระเยซูทรงปรากฏแก่เหล่าสาวกของพระองค์อีกครั้งที่ทะเลทิเบเรียส[a] เหตุการณ์เป็นไปดังนี้คือ 2 ซีโมนเปโตร โธมัส
(ที่เรียกกันว่า ดิไดมัส[b]) นาธานาเอลจากหมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี บุตรชายทั้งสองของเศเบดีและสาวกอีกสองคนอยู่ด้วยกัน 3 ซีโมนเปโตรบอกพวกเขาว่า “เราจะออกไปจับปลา” พวกนั้นพูดว่า “เราจะไปด้วย” พวกเขาจึงออกไปและลงเรือแต่ทั้งคืนไม่ได้อะไรเลย
4 พอรุ่งเช้าพระเยซูทรงยืนอยู่ที่ฝั่งแต่เหล่าสาวกไม่รู้ว่าเป็นพระเยซู
5 พระเยซูทรงตะโกนถามว่า “เพื่อนเอ๋ย ไม่มีปลาเลยหรือ?”
พวกเขาทูลว่า “ไม่มี”
6 พระองค์ตรัสว่า “ทอดอวนลงที่ด้านขวาของเรือเถิด พวกท่านจะได้ปลาบ้าง” เมื่อพวกเขาทอดอวนลงก็ได้ปลามากมายจนลากอวนไม่ขึ้น
7 แล้วสาวกคนที่พระเยซูทรงรักจึงพูดกับเปโตร ว่า “เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า!” ทันทีที่ซีโมนเปโตรได้ยินว่าเขาพูดว่า “เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า” เปโตรก็คว้าเสื้อตัวนอกมาสวม (เพราะตอนแรกถอดไว้) แล้วกระโดดลงน้ำ 8 สาวกคนอื่นๆ นั่งเรือตามมาพร้อมทั้งลากอวนที่มีปลาติดเต็มมาด้วยเพราะพวกเขาอยู่ไม่ไกลจากฝั่งคือประมาณ 200 ศอก[c]เท่านั้น 9 พอพวกเขาขึ้นฝั่งก็เห็นถ่านติดไฟมีปลาปิ้งอยู่ข้างบนและมีขนมปัง
10 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เอาปลาที่ท่านเพิ่งจับได้มาบ้าง”
11 ซีโมนเปโตรปีนขึ้นเรือแล้วลากอวนมาที่ฝั่ง มีปลาใหญ่เต็มอวนนับได้ 153 ตัว แม้มีปลามากมายขนาดนั้นอวนก็ไม่ขาด 12 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “มากินอาหารเช้ากันเถิด” ไม่มีสาวกคนไหนกล้าทูลถามว่า “ท่านเป็นใคร?” พวกเขารู้อยู่แล้วว่าเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า 13 พระเยซูเสด็จมาหยิบขนมปังและยื่นให้พวกเขา พระองค์ทรงหยิบปลาและทำอย่างเดียวกัน 14 นี่เป็นครั้งที่สามที่พระเยซูทรงปรากฏแก่เหล่าสาวกของพระองค์หลังจากพระเจ้าทรงให้พระองค์คืนพระชนม์แล้ว
พระเยซูทรงให้เปโตรกลับมารับใช้ดังเดิม
15 เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พระเยซูตรัสกับซีโมนเปโตรว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเรายิ่งกว่าสิ่งเหล่านี้จริงๆ หรือ?”
เขาทูลว่า “ใช่พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์”
พระเยซูตรัสว่า “จงเลี้ยงลูกแกะของเรา”
16 พระเยซูตรัสอีกครั้งหนึ่งว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเราจริงๆ หรือ?”
เขาทูลว่า “ใช่พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์”
พระเยซูตรัสว่า “จงดูแลลูกแกะของเรา”
17 พระองค์ตรัสกับเขาเป็นครั้งที่สามว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเราหรือ?”
เปโตรรู้สึกเสียใจ เพราะพระเยซูทรงถามเขาเป็นครั้งที่สามว่า “ท่านรักเราหรือ?” เขาทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงทราบทุกอย่าง พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์”
พระเยซูตรัสว่า “จงเลี้ยงแกะของเรา 18 เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เมื่อท่านยังหนุ่มท่านแต่งตัวของท่านเองและไปไหนๆ ตามที่ท่านต้องการ แต่เมื่อท่านแก่แล้วท่านจะเหยียดมือออกมีคนอื่นมาแต่งตัวให้และนำท่านไปยังที่ซึ่งท่านไม่ต้องการไป” 19 พระเยซูตรัสเช่นนี้เพื่อบ่งบอกว่าเปโตรจะถวายพระเกียรติสิริแด่พระเจ้าด้วยการตายอย่างไร แล้วพระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงตามเรามาเถิด!”
20 เปโตรหันมาเห็นสาวกที่พระเยซูทรงรักกำลังตามมา (นี่เป็นสาวกคนเดียวกับที่เอนกายพิงพระเยซูในระหว่างอาหารค่ำมื้อนั้นและทูลถามว่า “พระองค์เจ้าข้า ใครคือผู้ที่จะทรยศพระองค์?”) 21 เมื่อเปโตรเห็นเขาก็ทูลถามว่า “พระองค์เจ้าข้า แล้วคนนี้เล่า?”
22 พระเยซูตรัสตอบว่า “ถ้าเราต้องการให้เขามีชีวิตอยู่จนเรากลับมา จะเกี่ยวอะไรกับท่าน? ท่านต้องตามเรามา” 23 เพราะเหตุนี้จึงมีคำร่ำลือไปในหมู่พวกพี่น้องว่าสาวกคนนั้นจะไม่ตาย ที่จริงพระเยซูไม่ได้ตรัสว่าเขาจะไม่ตาย พระองค์เพียงแต่ตรัสว่า “ถ้าเราต้องการให้เขามีชีวิตอยู่จนเรากลับมา จะเกี่ยวอะไรกับท่าน?”
24 สาวกคนนี้แหละที่เป็นพยานถึงเหตุการณ์เหล่านี้และบันทึกไว้ เราทราบว่าคำพยานของเขานั้นจริง
25 พระเยซูได้ทรงกระทำสิ่งอื่นๆ อีกมากมายหลายอย่าง ถ้าจะเขียนไว้ทั้งหมดข้าพเจ้าคิดว่าแม้โลกทั้งโลกก็ไม่มีที่พอสำหรับหนังสือที่จะเขียนขึ้นนั้น
(บทเพลงใช้แห่ขึ้นไปยังเยรูซาเล็ม)
120 ยามทุกข์ใจ ข้าพเจ้าทูลวิงวอนองค์พระผู้เป็นเจ้า
และพระองค์ทรงตอบข้าพเจ้า
2 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงช่วยกู้ข้าพระองค์
จากริมฝีปากที่โกหกและจากลิ้นที่หลอกลวง
3 นี่แน่ะลิ้นโป้ปด
พระองค์จะทรงจัดการกับเจ้าอย่างไร?
และพระองค์จะทรงทำอะไรมากยิ่งกว่านั้น?
4 พระองค์จะทรงลงโทษเจ้าด้วยลูกศรคมกริบของนักรบ
ด้วยถ่านไม้ซากอันลุกโชน
5 วิบัติแก่ข้าพเจ้าที่มาอาศัยในเมเชค
มาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเต็นท์ของเคดาร์!
6 ข้าพเจ้ามาพำนักอยู่ท่ามกลางผู้คน
ที่เกลียดชังสันติภาพนานเกินไปแล้ว
7 ข้าพเจ้าเป็นคนใฝ่สันติ
แต่พอข้าพเจ้าเอ่ยปาก พวกเขาก็มุ่งทำศึกสงคราม
16 ได้สติปัญญาดีกว่าได้ทองคำ
ได้ความเข้าใจดีกว่าได้เงิน!
17 ทางหลวงของคนเที่ยงธรรมหลีกห่างจากความชั่ว
ผู้ที่ระแวดระวังทางของตนก็ถนอมชีวิตของตน
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.