Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
เลวีนิติ 14

14 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “ต่อไปนี้เป็นกฎสำหรับคนเป็นโรคเรื้อนในวันชำระตนให้สะอาด ต้องให้คนพาเขามาหาปุโรหิต และปุโรหิตต้องออกไปนอกค่ายเพื่อตรวจดูตัว หากคนที่เป็นโรคหายจากโรคเรื้อนแล้ว[a] ปุโรหิตต้องสั่งให้นำนกมีชีวิตที่ถือว่าสะอาดตามพิธีกรรมมา 2 ตัว ไม้ซีดาร์ ด้ายขนแกะย้อมสีแดงสด และก้านหุสบ ปุโรหิตสั่งให้เขาฆ่านกตัวหนึ่งที่อ่างดินเผาที่บรรจุน้ำที่ได้จากแหล่งน้ำพุ ให้จุ่มนกอีกตัวที่มีชีวิตอยู่ลงในเลือดนกที่ถูกฆ่าซึ่งผสมกับน้ำ พร้อมกับไม้ซีดาร์ ด้ายขนแกะสีแดงสด และก้านหุสบ ปุโรหิตต้องประพรมเลือดลงบนตัวคนที่จะถูกชำระให้สะอาดจากโรคเรื้อน 7 ครั้ง และประกาศว่าเขาสะอาด แล้วปล่อยนกให้บินไปสู่ทุ่งกว้าง คนที่ถูกชำระตัวจะต้องซักเครื่องแต่งกายของตน โกนผมและขนทั้งตัว แล้วก็อาบน้ำ จึงจะถือว่าเขาสะอาด หลังจากนั้นเขาจะเข้ามาในค่าย แต่จะอยู่นอกกระโจมของเขา 7 วัน ในวันที่เจ็ดเขาต้องโกนผมให้หมด โกนเคราและคิ้ว โกนขนให้หมด เขาต้องซักเครื่องแต่งกายและอาบน้ำ จึงจะถือว่าเขาสะอาด

10 ในวันที่แปด เขาต้องนำลูกแกะตัวผู้ 2 ตัวปราศจากตำหนิ และแกะสาวอายุ 1 ปีปราศจากตำหนิ และแป้งสาลีชั้นเยี่ยมสามส่วนสิบเอฟาห์ผสมกับน้ำมันเป็นเครื่องธัญญบูชา และน้ำมันอีก 1 ถ้วยตวง 11 ปุโรหิตผู้ทำพิธีชำระตัวต้องนำชายผู้นั้นพร้อมกับสิ่งเหล่านี้มา ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย 12 ปุโรหิตต้องเอาลูกแกะตัวผู้ 1 ตัวมอบเป็นของถวายเพื่อไถ่โทษพร้อมกับน้ำมัน 1 ถ้วยตวง โบกขึ้นลงเป็นเครื่องโบกถวาย ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 13 เขาต้องฆ่าลูกแกะตัวผู้ในที่บริสุทธิ์ อันเป็นที่เดียวกับที่เขาฆ่าสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายและเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป ของถวายเพื่อไถ่โทษเป็นของปุโรหิต เช่นเดียวกับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปซึ่งถือเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สุด 14 ปุโรหิตจะต้องเอาเลือดจากของถวายเพื่อไถ่โทษมาป้ายที่ปลายหูขวาของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด และที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวา 15 ปุโรหิตจะต้องเอาน้ำมันจากถ้วยตวงเทใส่มือซ้ายของตน 16 และปุโรหิตใช้นิ้วมือขวาจุ่มน้ำมันในมือซ้าย ประพรม 7 ครั้ง ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 17 ให้ปุโรหิตป้ายน้ำมันจากมือซ้ายที่ปลายหูขวาของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด และที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวา ป้ายทับเลือดที่ได้จากของถวายเพื่อไถ่โทษ 18 ให้ปุโรหิตทาน้ำมันที่เหลือในมือ ลงบนหัวของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด แล้วปุโรหิตจะทำพิธีชดใช้บาปให้เขา ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 19 ปุโรหิตจะต้องมอบเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป และทำพิธีชดใช้บาปให้คนที่จะรับการชำระตัวจากการเป็นมลทิน หลังจากนั้นเขาก็จะฆ่าสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย 20 ปุโรหิตจะมอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวายและเครื่องธัญญบูชาบนแท่นบูชา เพื่อปุโรหิตจะทำพิธีชดใช้บาปให้เขา และจึงจะถือว่าเขาสะอาด

21 แต่ถ้าเขายากจนและไม่สามารถหามาถวายได้มาก เขาต้องมอบลูกแกะตัวผู้ 1 ตัวสำหรับของถวายเพื่อไถ่โทษเพื่อโบกขึ้นลงอันเป็นพิธีชดใช้บาป และแป้งสาลีชั้นเยี่ยมหนึ่งส่วนสิบเอฟาห์ผสมกับน้ำมันเป็นเครื่องธัญญบูชา และน้ำมัน 1 ถ้วยตวง 22 พร้อมด้วยนกเขา 2 ตัวหรือนกพิราบหนุ่ม 2 ตัวซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสามารถหามามอบให้ได้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป และอีกตัวเป็นสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย 23 ในวันที่แปดเขาต้องนำสิ่งเหล่านี้มามอบแก่ปุโรหิตสำหรับการชำระตัวให้สะอาดที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 24 แล้วปุโรหิตจะเอาลูกแกะสำหรับของถวายเพื่อไถ่โทษและน้ำมัน 1 ถ้วยตวง และเขาจะโบกของเหล่านี้ขึ้นลงเป็นเครื่องโบกถวาย ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 25 ปุโรหิตจะฆ่าลูกแกะสำหรับของถวายเพื่อไถ่โทษ และใช้เลือดลูกแกะป้ายที่ปลายหูขวาของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด และที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของเขา 26 ปุโรหิตจะต้องเทน้ำมันใส่มือซ้ายของตน 27 และปุโรหิตประพรมด้วยนิ้วชี้มือขวาซึ่งจุ่มน้ำมันในมือซ้าย 7 ครั้ง ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 28 ให้ปุโรหิตป้ายน้ำมันจากมือซ้ายที่ปลายหูขวาของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด และที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวา ป้ายทับเลือดที่ได้จากของถวายเพื่อไถ่โทษ 29 ให้ปุโรหิตเทน้ำมันที่เหลือในมือลงบนหัวของคนที่จะรับการชำระตัวให้สะอาด แล้วปุโรหิตจะทำพิธีชดใช้บาปให้เขา ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 30 ปุโรหิตจะมอบนกเขาหรือนกพิราบหนุ่มเท่าที่เขาสามารถจะหามามอบให้ได้ 31 ตัวหนึ่งเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป และอีกตัวสำหรับสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายพร้อมกับเครื่องธัญญบูชา ปุโรหิตจะทำพิธีชดใช้บาปให้เขา ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 32 นี่เป็นกฎบัญญัติสำหรับคนที่เป็นโรคเรื้อนที่ไม่สามารถหาเครื่องสักการะสำหรับการชำระตัวให้สะอาดได้”

33 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสและอาโรนว่า 34 “เมื่อเจ้าก้าวเข้าไปในดินแดนคานาอันซึ่งเรามอบให้เจ้าเป็นเจ้าของ และเราใส่เชื้อโรคเรื้อนในบ้านหลังหนึ่งในดินแดนที่เจ้าเป็นเจ้าของ 35 เจ้าของบ้านต้องไปบอกปุโรหิตว่า ‘ดูเหมือนว่ามีเชื้อโรคชนิดหนึ่งในบ้านของเรา’ 36 ปุโรหิตจะสั่งให้พวกเขาย้ายของทุกอย่างออกจากบ้านก่อนที่เขาจะเข้าไปตรวจดูเชื้อโรค มิฉะนั้นทุกสิ่งในบ้านจะถูกประกาศว่าเป็นมลทิน หลังจากนั้นปุโรหิตจะเข้าบ้านไปดู 37 เขาจะตรวจดูเชื้อโรค ถ้าเชื้อโรคเป็นจุดเขียวหรือแดงติดอยู่ที่ผนังบ้าน และถ้าดูเหมือนว่าจุดนั้นกินลึกลงไปใต้ผิวผนัง 38 ปุโรหิตก็จะต้องออกไปนอกประตูบ้าน และปิดประตูไว้ 7 วัน 39 เมื่อปุโรหิตกลับไปที่บ้านนั้นอีกในวันที่เจ็ด เพื่อดูว่าเชื้อโรคลามลึกเข้าไปในผนังบ้านหรือไม่ 40 แล้วปุโรหิตจะสั่งให้พวกเขารื้อหินที่ติดเชื้อออก และโยนทิ้งในที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง 41 และเขาจะสั่งให้ขูดขัดรอบๆ ภายในบ้าน และขนปูนที่ขูดออกไปทิ้งในที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง 42 และให้คนก่อหินขึ้นใหม่แทนหินเดิมแล้วโบกปูนปิดผนังเสีย

43 ถ้าเชื้อโรคยังคงแพร่กระจายในบ้านอีก หลังจากรื้อหินออกและขูดขัดบ้านโบกปูนแล้ว 44 ปุโรหิตต้องไปตรวจดู ถ้าเชื้อโรคแพร่กระจายในบ้าน แสดงว่ามีเชื้อโรคเรื้อนชนิดร้ายแรงอยู่ในบ้านและเป็นมลทิน 45 ให้คนรื้อบ้านหลังนั้นลง ทั้งหิน ไม้ และผนังปูนทั้งหมดให้เอาไปทิ้งในที่ที่เป็นมลทินนอกเมือง 46 นอกจากนั้นแล้ว ผู้ใดเข้าไปในบ้านระหว่างที่บ้านถูกปิดทิ้งไว้ ผู้นั้นจะเป็นมลทินจนถึงเย็น 47 ผู้ใดหลับนอนหรือรับประทานอยู่ที่บ้านนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตน

48 ถ้าปุโรหิตมาตรวจดู และไม่มีเชื้อโรคแพร่กระจายในบ้านหลังจากโบกปูนใหม่ แล้วปุโรหิตก็จะประกาศว่าบ้านหลังนั้นสะอาด เพราะโรคหายแล้ว 49 การชำระบ้านให้สะอาดก็ให้เขาเอานกตัวเล็ก 2 ตัว ไม้ซีดาร์ ด้ายขนแกะย้อมสีแดงสดและก้านหุสบ 50 ฆ่านกตัวหนึ่งที่อ่างดินเผาที่บรรจุน้ำจากแหล่งน้ำพุ 51 เขาต้องจุ่มนกอีกตัวที่มีชีวิตลงในเลือดนกที่ถูกฆ่าและในน้ำจากแหล่งน้ำพุ พร้อมกับไม้ซีดาร์ ด้ายขนแกะสีแดงสด และก้านหุสบ และประพรมบ้าน 7 ครั้ง 52 การกระทำเช่นนี้ปุโรหิตจึงสามารถชำระบ้านให้สะอาดด้วยเลือดนกและน้ำจากแหล่งน้ำพุ ด้วยนกที่มีชีวิต ด้วยไม้ซีดาร์ ก้านหุสบและด้ายขนแกะสีแดงสด 53 และเขาจะปล่อยนกที่มีชีวิตให้บินออกไปจากเมืองไปสู่ทุ่งกว้าง เป็นพิธีลบล้างมลทินให้กับบ้าน และบ้านก็จะสะอาด”

54 นี่เป็นกฎบัญญัติอันเกี่ยวกับโรคเรื้อนชนิดต่างๆ เช่นโรคผิวคัน 55 โรคเรื้อนติดที่เครื่องแต่งกายหรือในบ้าน 56 และแผลบวม เป็นผื่นหรือเป็นจุด 57 เพื่อแสดงให้เห็นว่าเมื่อใดจึงเป็นมลทินและเมื่อใดจึงสะอาด นี่เป็นกฎบัญญัติเกี่ยวกับโรคเรื้อน

สดุดี 17

ดาวิดอธิษฐานให้พระเจ้าช่วยจากภัยของศัตรู

คำอธิษฐานของดาวิด

พระผู้เป็นเจ้าโปรดฟังคำอ้อนวอนอันชอบธรรม เงี่ยหูฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
    ซึ่งเป็นคำที่ไม่ได้หลุดจากริมฝีปากมดเท็จ
ขอการตัดสินนี้มาจากพระองค์
    และขอพระองค์ได้เห็นความถูกต้อง

พระองค์ได้ทดสอบข้าพเจ้าแล้ว
    พระองค์ได้มาหาในยามค่ำ พระองค์สำรวจข้าพเจ้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน
แต่ก็ไม่พบอะไรเลย
    ข้าพเจ้าตั้งใจแล้วว่าปากของข้าพเจ้าจะไม่ทำบาป
ในเรื่องความประพฤติของมนุษย์
    ข้าพเจ้าไม่ได้เดินในหนทางของโจร
    แต่ทำตามคำพูดจากริมฝีปากของพระองค์
ข้าพเจ้าก้าวไปในหนทางของพระองค์
    และเท้าก็ไม่พลาดพลั้ง

โอ พระเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระองค์เพราะพระองค์ตอบข้าพเจ้า
    เงี่ยหูของพระองค์และสดับคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
โปรดแสดงความรักอันมั่นคงและวิเศษสุดของพระองค์
    พระองค์เป็นผู้ช่วยเหลือของบรรดาผู้หวังเอาพระองค์เป็นที่พึ่งให้มีทางรอดจากศัตรู
    ด้วยมือขวาของพระองค์
พระองค์คุ้มครองข้าพเจ้าดั่งแก้วตาของพระองค์
    ให้ข้าพเจ้าได้หลบซ่อนภายใต้ร่มเงาปีกของพระองค์
จากพวกคนชั่วที่มุ่งทำลายข้าพเจ้า
    จากศัตรูร้ายกาจที่ประชิดตัวข้าพเจ้า

10 พวกเขาปิดหัวใจที่แข็งกระด้าง
    เปิดปากพูดด้วยความยโสโอหัง
11 เขาตามหาข้าพเจ้าจนพบ และบัดนี้ก็ได้ล้อมข้าพเจ้าไว้
    หมายจะเหยียบให้ติดดิน
12 เขาเป็นเหมือนสิงโตที่พร้อมจะขย้ำ
    และเหมือนกับสิงโตหนุ่มซึ่งหมอบซุ่มอยู่

13 โอ พระผู้เป็นเจ้า ลุกขึ้นเถิดประจันหน้าเขา ทำให้เขาพ่ายแพ้
    ช่วยชีวิตข้าพเจ้าให้พ้นจากคนชั่วด้วยดาบของพระองค์
14 โอ พระผู้เป็นเจ้า ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากมนุษย์
    จากมนุษย์ในโลก ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนในชีวิตนี้
พระองค์บรรเทาความหิวของผู้ที่พระองค์ทะนุถนอม
    ลูกๆ ของพวกเขาก็มีกินมีใช้อย่างอุดมสมบูรณ์
    และสะสมความมั่งมีไว้ให้ลูกๆ ของตน

15 ส่วนข้าพเจ้าก็จะเห็นหน้าพระองค์ในความชอบธรรม
    เวลาข้าพเจ้าตื่นขึ้น ข้าพเจ้าจะพอใจยิ่งนักเมื่อได้อยู่ต่อหน้าพระองค์

สุภาษิต 28

28 คนชั่วร้ายหลบหนีแม้จะไม่มีคนตามล่า
    ส่วนผู้มีความชอบธรรมมีความกล้าประดุจสิงโต
ประเทศชาติที่มีการกบฏมักจะมีผู้นำมากหลาย
    แต่ความมั่นคงจะยืนหยัดอยู่ได้หากมีผู้นำที่มีความรู้และการหยั่งรู้
คนยากไร้ที่บีบคั้นคนจนด้วยกัน
    เปรียบเสมือนฝนไหลหลากที่มาทำลายพืชผลทั้งหมด
พวกฝ่าฝืนกฎบัญญัติจะยกย่องคนชั่วร้าย
    แต่บรรดาผู้ถือตามกฎบัญญัติต่อต้านพวกเขา
พวกคนเลวไม่เข้าใจถึงความยุติธรรม
    แต่บรรดาผู้แสวงหาพระผู้เป็นเจ้าเข้าใจดี
คนยากไร้ที่ดำเนินชีวิตด้วยสัจจะ
    ดีกว่าคนมั่งมีที่ใช้ชีวิตอย่างคดโกง
ผู้ปฏิบัติตามกฎบัญญัติเป็นบุตรที่มีการหยั่งรู้
    แต่เพื่อนตะกละนำความอับอายมาสู่บิดาของเขา
คนที่หาความมั่งมีให้แก่ตนเองมากขึ้นโดยคิดดอกเบี้ยและโก่งราคา
    เป็นผู้เก็บสะสมไว้ให้แก่คนที่มีเมตตาต่อผู้ยากไร้
คนที่ทำเป็นหูทวนลม ไม่ฟังกฎบัญญัติ
    แม้คำอธิษฐานของเขา ก็เป็นที่น่ารังเกียจ
10 ผู้ใดนำพาผู้มีความชอบธรรมให้หลงไปในทางที่ชั่ว
    ผู้นั้นจะตกในกับดักของตนเอง
    แต่คนที่มีสัจจะ จะได้รับสิ่งดี
11 คนมั่งมีเห็นว่าตนมีสติปัญญาในสายตาของเขาเอง
    แต่ผู้ยากไร้ที่มีความหยั่งรู้สามารถเห็นแก่นแท้ของคนมั่งมี
12 เมื่อผู้มีความชอบธรรมประสบชัยชนะ ทุกคนก็มีความยินดี
    แต่เมื่อคนชั่วร้ายมีอำนาจขึ้นมา ผู้คนก็พากันหลบซ่อนตัว
13 คนที่ปกปิดความผิดของตนจะไม่มีความสำเร็จในชีวิต
    แต่ใครก็ตามสารภาพและล้มเลิกเสีย ก็จะได้รับความเมตตา
14 ผู้ที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าเสมอไปย่อมเป็นสุข
    แต่คนจิตใจแข็งกระด้างจะตกอยู่ในความลำบาก
15 คนชั่วร้ายที่ปกครองบรรดาผู้ยากไร้
    เปรียบได้กับสิงโตขู่คำราม หรือหมีกระโจนเข้าหา
16 ผู้อยู่ในระดับปกครองซึ่งขาดการหยั่งรู้คือผู้กดขี่ที่มีใจโหดเหี้ยม
    แต่คนที่เกลียดการกอบโกยที่ไม่เป็นธรรมจะมีชีวิตยืนยาว
17 คนที่มีชนักติดหลังเนื่องจากความผิดฐานฆาตกรรม
    จะพเนจรไปจนวันตาย
    อย่าให้ใครค้ำจุนเขาเลย
18 ผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างมีสัจจะได้รับความปลอดภัย
    แต่คนที่ไปในทางคดจะล้มลงทันทีทันใด
19 ผู้ที่ออกแรงรดน้ำพรวนดินของตนจะมีอาหารอุดมสมบูรณ์
    แต่ผู้ที่มุ่งหาสิ่งที่ไร้ประโยชน์จะมีความยากจนข้นแค้น
20 ผู้ที่มีความสัตย์ซื่อจะมีพระพรเป็นล้นพ้น
    แต่คนที่ตะเกียกตะกายหาความมั่งมีนั้น ใช่ว่าจะไม่ได้รับโทษ
21 การแสดงความลำเอียงเป็นสิ่งไม่ดี
    แต่เพื่อขนมปังเพียงชิ้นเดียว คนก็ยังจะประพฤติผิดได้
22 คนตระหนี่ตะเกียกตะกายหาความมั่งมี
    และไม่รู้ว่าตนจะตกอยู่ในความขัดสน
23 คนที่ตักเตือนว่ากล่าวผู้อื่นจะเป็นที่ชื่นชอบในบั้นปลาย
    มากกว่าคนที่ใช้ลิ้นยกยอปอปั้น
24 คนที่ปอกลอกบิดามารดาของเขาเอง
    แล้วพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องผิด”
    คนนั้นเป็นเพื่อนของผู้ทำลาย
25 คนโลภก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท
    ส่วนผู้ที่ไว้วางใจพระผู้เป็นเจ้าจะมีอย่างอุดมสมบูรณ์
26 คนที่ไว้วางใจตนเองเป็นคนโง่
    ส่วนผู้ที่ใช้สติปัญญาจะพ้นภัย
27 ผู้ที่แบ่งปันให้คนยากไร้จะไม่มีวันขัดสน
    ส่วนคนที่ปิดหูปิดตาต่อพวกเขาจะถูกสาปแช่งมากมาย
28 เมื่อคนชั่วร้ายมีอำนาจขึ้นมา ผู้คนก็พากันหลบซ่อนตัว
    แต่เมื่อเขาตายจากไป ผู้มีความชอบธรรมก็เพิ่มมากขึ้น

2 เธสะโลนิกา 2

คนนอกกฎ

เรื่องการมาของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และเรื่องที่พระองค์จะรับเราไปอยู่ด้วยกันกับพระองค์ เราขอร้องท่านพี่น้องทั้งหลายว่า ท่านไม่ต้องหวั่นไหวโดยง่าย หรือตระหนกตกใจง่ายเนื่องจากคำพยากรณ์ คำรายงานหรือจดหมายที่ดูเหมือนว่าจะมาจากพวกเรา โดยอ้างว่าวันที่พระผู้เป็นเจ้าจะมานั้นได้มาถึงแล้ว อย่าให้ใครหลอกลวงท่านได้เลย เพราะว่าวันนั้นจะไม่มาถึงจนกว่าการขัดขืนต่อพระเจ้าจะเกิดขึ้นก่อน และคนนอกกฎจึงจะปรากฏ เขาคือบุตรแห่งความพินาศ เขาจะต่อต้านและยกตนเองเหนือทุกสิ่งที่เรียกว่าเทพเจ้า หรือวัตถุบูชา เพื่อตนจะได้นั่งในพระวิหารของพระเจ้า และประกาศตัวเองว่าเป็นพระเจ้า ท่านจำไม่ได้หรือว่าขณะที่ข้าพเจ้าอยู่กับท่าน ข้าพเจ้าบอกเรื่องเหล่านี้ให้ท่านทราบแล้ว และบัดนี้ท่านก็ทราบว่าอะไรหน่วงเหนี่ยวเขาไว้ เพื่อว่าเมื่อถึงเวลาของเขา เขาจะได้ปรากฏตัว ด้วยว่า อำนาจลึกลับนอกกฎก็เริ่มปฏิบัติงานอยู่แล้ว แต่ผู้ที่กำลังหน่วงเหนี่ยวไว้จะยังรั้งเอาไว้จนกว่าจะถูกพาตัวออกจากทางที่ตนเองขวางไว้ แล้วคนนอกกฎจะปรากฏตัว พระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทำลายเขาด้วยเพียงลมหายใจของพระองค์ และจบชีวิตเขาลงโดยการมาปรากฏครั้งที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ คนนอกกฎจะมาโดยอำนาจของซาตาน[a] และจะแสดงฤทธานุภาพ ปรากฏการณ์อัศจรรย์ และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ อันจอมปลอม 10 และใช้การหลอกลวงอันชั่วร้ายทุกชนิดกับพวกที่จะถึงความพินาศ เพราะเขาเหล่านั้นปฏิเสธที่จะรักความจริงซึ่งช่วยให้รอดพ้นได้ 11 เพราะเหตุนี้พระเจ้าจึงให้ความหลงผิดครอบงำพวกเขา เพื่อให้พวกเขาเชื่อสิ่งที่เท็จ 12 และทุกคนที่ไม่ได้เชื่อความจริงแต่ยินดีกับความชั่วร้ายจะถูกกล่าวโทษ

ยืนหยัดในความเชื่อ

13 พี่น้องทั้งหลายที่พระผู้เป็นเจ้ารัก พวกเราควรขอบคุณพระเจ้าเพราะท่านอยู่เสมอ เพราะพระเจ้าได้เลือกท่านไว้ตั้งแต่แรกเริ่มเพื่อความรอดพ้นโดยการชำระให้บริสุทธิ์ของพระวิญญาณ และการมีความเชื่อในความจริง 14 พระองค์ได้เรียกท่านทั้งหลายมาสู่สิ่งที่กล่าวมานี้โดยผ่านข่าวประเสริฐของเรา เพื่อว่าท่านจะได้รับพระบารมีของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา 15 ฉะนั้นพี่น้องทั้งหลายควรยืนหยัดและยึดถือสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้ต่อๆ กันมา ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือเป็นจดหมายจากเราก็ตาม

16 ขอพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และพระเจ้า ผู้เป็นพระบิดาของเราผู้รักเราและได้ให้กำลังใจอันยั่งยืนเป็นนิจแก่พวกเรา และความหวังที่ดีด้วยพระคุณของพระองค์ 17 โปรดให้กำลังใจและเสริมกำลังแก่ท่านในการกระทำและในวาจาอันดีทุกอย่าง

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation