Bible in 90 Days
แบ่งเขตพื้นที่
13 พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “นี่เป็นเขตกั้นพรมแดนที่เจ้าจะแบ่งพื้นที่ให้เป็นมรดกแก่ 12 เผ่าของอิสราเอล โยเซฟจะได้ 2 ส่วน 14 และเจ้าจงแบ่งสิ่งที่เราได้สัญญาด้วยการยกมือขึ้นให้แก่บรรพบุรุษของเจ้าให้เท่าๆ กัน แผ่นดินนี้จะเป็นมรดกตกอยู่กับพวกเจ้า
15 นี่จะเป็นเขตแดน ที่ด้านเหนือจะเริ่มจากทะเลใหญ่ไปทางเฮทโลน ถึงเลโบฮามัท และต่อไปจนถึงเศดัด 16 เบโรธาห์ สิบราอิม (ซึ่งอยู่ตรงชายแดนระหว่างดามัสกัสและฮามัท) ไปไกลถึงฮาเซอร์ฮัททิโคน ซึ่งอยู่ตรงชายแดนของฮัฟราน 17 เขตแดนจะเริ่มจากทะเลถึงฮาซาร์เอนานซึ่งอยู่ตรงชายแดนเหนือของดามัสกัส มีชายแดนของฮามัททางทิศเหนือ นี่เป็นเขตแดนด้านเหนือ
18 ที่ด้านตะวันออก เขตแดนจะเริ่มระหว่างฮัฟรานและดามัสกัส ไปตามแม่น้ำจอร์แดนระหว่างกิเลอาดและแผ่นดินของอิสราเอล ไปจนถึงทะเลทางตะวันออก ไกลไปจนถึงทามาร์ นี่เป็นเขตแดนด้านตะวันออก
19 ที่ด้านใต้ เขตแดนจะเริ่มจากทามาร์ไปจนถึงแหล่งน้ำเมรีบาห์-คาเดช และจากที่นั่นไปตามธารน้ำของอียิปต์ถึงทะเลใหญ่ นี่เป็นเขตแดนด้านใต้
20 ที่ด้านตะวันตก ทะเลใหญ่จะเป็นเขตแดนถึงจุดที่อยู่ตรงข้ามเลโบฮามัท นี่เป็นเขตแดนด้านตะวันตก
21 ดังนั้นจงแบ่งแผ่นดินนี้ในหมู่พวกเจ้าตามเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล 22 พวกเจ้าจงแบ่งส่วนที่ดินเป็นมรดกสำหรับพวกเจ้าและสำหรับคนต่างด้าวที่มาอาศัยอยู่และมีลูกหลานท่ามกลางพวกเจ้า และพวกเจ้าจงนับว่า พวกเขาเป็นลูกหลานชาวอิสราเอลโดยกำเนิด พวกเขาจะต้องได้รับส่วนแบ่งเป็นมรดกร่วมกับพวกเจ้าในเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล 23 คนต่างด้าวจะอาศัยอยู่ในเผ่าใดก็ตาม เจ้าก็จะต้องยกมรดกที่เป็นของเขาให้เขาไป” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
48 “นี่เป็นเผ่าตามลำดับชื่อ ชายแดนที่ด้านเหนือ ดานจะได้รับ 1 ส่วน เขตแดนไปทางเฮทโลนถึงเลโบฮามัท ไปจนถึงฮาซาร์เอนาน (ซึ่งอยู่ที่ชายแดนทางเหนือของดามัสกัสชิดกับฮามัท) อาณาเขตของดานคลุมจากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก 2 อาเชอร์จะได้รับ 1 ส่วน ชายเขตติดกับอาณาเขตของดาน จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก 3 นัฟทาลีจะได้รับ 1 ส่วน ชายเขตติดกับอาณาเขตของอาเชอร์ จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก 4 มนัสเสห์จะได้รับ 1 ส่วน ชายเขตติดกับอาณาเขตของนัฟทาลี จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก 5 เอฟราอิมจะได้รับ 1 ส่วน ชายเขตติดกับอาณาเขตของมนัสเสห์ จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก 6 รูเบนจะได้รับ 1 ส่วน ชายเขตติดกับอาณาเขตของเอฟราอิม จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก 7 ยูดาห์จะได้รับ 1 ส่วน ชายเขตติดกับอาณาเขตของรูเบน จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก
8 ชายเขตติดกับอาณาเขตของยูดาห์ จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก จะเป็นส่วนซึ่งเจ้าจะต้องแยกเก็บไว้ มีความกว้าง 25,000 ศอก และความยาวเท่ากับส่วนแบ่ง 1 ส่วนที่เป็นของเผ่าใดเผ่าหนึ่ง คือจากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก จะมีที่พำนักอยู่ตรงกลาง 9 ส่วนแบ่งที่พวกเจ้าแยกเก็บไว้สำหรับพระผู้เป็นเจ้าจะมีความยาว 25,000 ศอก และกว้าง 20,000 ศอก 10 ส่วนแบ่งนี้จะเป็นส่วนบริสุทธิ์สำหรับบรรดาปุโรหิต จะมีความยาว 25,000 ศอกที่ด้านเหนือ ความกว้าง 10,000 ศอกที่ด้านตะวันตก 10,000 ศอกที่ด้านตะวันออก และ 25,000 ศอกที่ด้านใต้ จะมีที่พำนักของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ตรงกลาง 11 ส่วนแบ่งนี้สำหรับบรรดาปุโรหิตที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว เป็นบรรดาบุตรของศาโดก ซึ่งรับใช้เราด้วยความภักดี และไม่ได้หลงผิดอย่างที่ชาวเลวีหลงผิดไปเมื่อชาวอิสราเอลหลงผิด 12 ส่วนนี้จะเป็นส่วนพิเศษสำหรับพวกเขาจากส่วนบริสุทธิ์ของแผ่นดิน เป็นส่วนบริสุทธิ์ที่สุดส่วนหนึ่งซึ่งชายเขตติดกับอาณาเขตของชาวเลวี 13 ส่วนแบ่งที่ชิดกับอาณาเขตของบรรดาปุโรหิต ชาวเลวีจะมีส่วนแบ่งที่ยาว 25,000 ศอก กว้าง 10,000 ศอก รวมความยาวทั้งสิ้น 25,000 ศอก กว้าง 10,000 ศอก 14 พวกเขาจะต้องไม่ขายหรือแลกเปลี่ยนพื้นที่ เป็นส่วนที่ดีที่สุดของแผ่นดิน เพราะส่วนนี้บริสุทธิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า
15 ส่วนที่เหลือกว้าง 5,000 ศอก ยาว 25,000 ศอก จะเป็นส่วนสาธารณะของเมือง ให้เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นทุ่งโล่ง จะมีเมืองซึ่งอยู่ตรงกลาง 16 มีขนาดดังนี้คือ ด้านเหนือ 4,500 ศอก ด้านใต้ 4,500 ศอก ด้านตะวันออก 4,500 ศอก และด้านตะวันตก 4,500 ศอก 17 ทุ่งโล่งสำหรับเมืองจะเป็น 250 ศอกทางด้านเหนือ 250 ศอกทางด้านใต้ 250 ศอกทางด้านตะวันออก และ 250 ศอกทางด้านตะวันตก 18 ส่วนที่เหลือซึ่งชิดกับส่วนบริสุทธิ์จะเป็น 10,000 ศอกที่ด้านตะวันออก และ 10,000 ศอกที่ด้านตะวันตก ซึ่งจะอยู่ชิดกับส่วนบริสุทธิ์ พืชผลจะเป็นอาหารสำหรับคนงานในเมืองนั้น 19 และบรรดาคนงานในเมืองซึ่งมาจากทุกเผ่าของอิสราเอลจะเป็นคนไถพื้นที่นั้น 20 ส่วนทั้งหมดที่เจ้าจะแยกเก็บไว้จะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 25,000 ศอก ซึ่งเป็นส่วนบริสุทธิ์รวมกับส่วนของเมือง
21 ส่วนที่เหลือทั้งสองข้างของส่วนบริสุทธิ์และส่วนของเมืองจะเป็นของผู้ยิ่งใหญ่ แต่ละข้างมีเนื้อที่ 25,000 ศอกถัดจากส่วนบริสุทธิ์ไปทางชายเขตตะวันออก ส่วนด้านตะวันตกมีเนื้อที่ 25,000 ศอกยื่นไปทางชายเขตตะวันตก ซึ่งขนานกับส่วนของเผ่าต่างๆ พื้นที่นี้เป็นของผู้ยิ่งใหญ่ ส่วนบริสุทธิ์กับที่พำนักของตำหนักจะอยู่ตรงกลาง 22 ดังนั้น ที่ดินของชาวเลวีและที่ดินของเมืองจะอยู่ตรงกลางของบริเวณที่เป็นของผู้ยิ่งใหญ่ บริเวณของผู้ยิ่งใหญ่จะอยู่ระหว่างชายเขตของยูดาห์และชายเขตของเบนยามิน
23 เผ่าอื่นๆ ที่เหลือคือ เบนยามินจะได้รับ 1 ส่วน จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก 24 สิเมโอนจะได้รับ 1 ส่วน ติดกับเขตแดนของเบนยามิน จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก 25 อิสสาคาร์จะได้รับ 1 ส่วน ติดกับเขตแดนของสิเมโอน จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก 26 เศบูลุนจะได้รับ 1 ส่วน ติดกับเขตแดนของอิสสาคาร์ จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก 27 กาดจะได้รับ 1 ส่วน ติดกับเขตแดนของเศบูลุน จากด้านตะวันออกถึงด้านตะวันตก 28 ติดกับเขตแดนของกาดทางด้านใต้ไปทางทิศใต้ เขตแดนจะเริ่มจากทามาร์ไปจนถึงแหล่งน้ำเมรีบาห์-คาเดช และจากที่นั่นไปตามธารน้ำของอียิปต์ถึงทะเลใหญ่ 29 พวกเจ้าจงแบ่งส่วนที่ดินเป็นมรดกให้แก่เผ่าต่างๆ ของอิสราเอล และส่วนแบ่งเหล่านี้จะเป็นของพวกเขา” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
ประตูเมือง
30 “ทางออกของเมืองเริ่มที่ด้านเหนือซึ่งวัดได้ความยาว 4,500 ศอก 31 ตั้งชื่อประตูเมืองตามเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล ที่ด้านเหนือมี 3 ประตูคือ ประตูรูเบน ประตูยูดาห์ และประตูเลวี 32 ที่ด้านตะวันออกซึ่งวัดได้ความยาว 4,500 ศอก มี 3 ประตูคือ ประตูโยเซฟ ประตูเบนยามิน และประตูดาน 33 ที่ด้านใต้ซึ่งวัดได้ความยาว 4,500 ศอก มี 3 ประตูคือ ประตูสิเมโอน ประตูอิสสาคาร์ และประตูเศบูลุน 34 ที่ด้านตะวันตกซึ่งวัดได้ความยาว 4,500 ศอก มี 3 ประตูคือ ประตูกาด ประตูอาเชอร์ และประตูนัฟทาลี 35 เนื้อที่โดยรอบเมืองจะเป็น 18,000 ศอก และตั้งแต่นั้นไปเมืองนี้จะมีชื่อว่า พระผู้เป็นเจ้าอยู่ที่นั่น”
ดาเนียลถูกนำไปยังบาบิโลน
1 ในปีที่สามของเยโฮยาคิมกษัตริย์แห่งยูดาห์ เนบูคัดเนสซาร์[a]กษัตริย์แห่งบาบิโลนมายังเยรูซาเล็ม และใช้กำลังล้อมเมืองไว้ 2 พระผู้เป็นเจ้ามอบเยโฮยาคิมกษัตริย์แห่งยูดาห์ไว้ในมือของท่าน ท่านได้ริบเครื่องใช้ของพระตำหนักของพระเจ้า นำไปไว้ในตำหนักของเทพเจ้าของท่านในดินแดนชินาร์ และเก็บเครื่องใช้เหล่านั้นในกองคลังของเทพเจ้าของท่าน 3 แล้วกษัตริย์ก็บัญชาอัชเปนัสหัวหน้าขันที ให้คัดเลือกชาวอิสราเอลบางคนจากราชวงศ์และจากครอบครัวตระกูลสูงศักดิ์ 4 เป็นชายหนุ่มที่มีร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนและรูปงาม พร้อมด้วยสติปัญญาและความรู้ สามารถเรียนรู้เร็ว เหมาะที่จะรับใช้ในราชวัง และให้พวกเขาเรียนการเขียนและพูดภาษาของชาวเคลเดีย[b] 5 กษัตริย์ให้คนจัดอาหารส่วนหนึ่งของกษัตริย์ และเหล้าองุ่นที่ท่านดื่ม แก่คนเหล่านั้นเป็นประจำทุกวันด้วย พวกเขาจะต้องได้รับการศึกษาเป็นเวลา 3 ปี หลังจากนั้นก็ให้มาเข้าเฝ้า 6 ในบรรดาชายเหล่านั้นมี ดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล อาซาริยาห์จากเผ่ายูดาห์ 7 หัวหน้าขันทีตั้งชื่อพวกเขาใหม่ตามนี้คือ เบลเทชัสซาร์แทนชื่อดาเนียล ชัดรัคแทนชื่อฮานันยาห์ เมชาคแทนชื่อมิชาเอล อาเบดเนโกแทนชื่ออาซาริยาห์
ความภักดีของดาเนียล
8 ดาเนียลได้ตั้งใจไว้แน่วแน่ว่า จะไม่ทำให้ตนมีมลทินจากอาหารหรือเหล้าองุ่นของกษัตริย์ ท่านจึงขอร้องหัวหน้าขันทีที่จะไม่ทำให้ท่านแปดเปื้อนด้วยมลทินเรื่องอาหาร 9 และพระเจ้าทำให้ดาเนียลเป็นที่โปรดปรานของหัวหน้าขันที 10 หัวหน้าขันทีพูดกับดาเนียลว่า “เราเกรงกลัวเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ กษัตริย์ได้สั่งให้จัดอาหารและเครื่องดื่มสำหรับท่าน ถ้าหากกษัตริย์เห็นว่า พวกท่านมีสุขภาพทรุดโทรมกว่าชายหนุ่มคนอื่นที่มีอายุคราวเดียวกัน ก็อาจจะทำให้ศีรษะของเราหลุดจากบ่าก็เป็นได้” 11 ดาเนียลตอบผู้ควบคุมที่หัวหน้าขันทีได้สั่งมาให้ดูแลดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ 12 ว่า “โปรดทดสอบพวกเรา 10 วันเถิด ให้ผักและน้ำแก่พวกเรา 13 จากนั้นท่านจะได้สังเกตดูสุขภาพของพวกเราและเปรียบกับสุขภาพของชายหนุ่มที่รับประทานอาหารของกษัตริย์ แล้วท่านค่อยตัดสินใจอีกทีตามที่ท่านเห็น” 14 เขาก็ตกลงและทดสอบพวกเขา 10 วัน 15 หลังจาก 10 วัน สุขภาพของพวกเขาทั้งดีและแข็งแรงกว่าชายหนุ่มทุกคนที่รับประทานอาหารของกษัตริย์ 16 ดังนั้นผู้ควบคุมจึงเอาอาหารและเครื่องดื่มของกษัตริย์ไป และให้ผักแก่พวกเขาแทน
17 พระเจ้ามอบความรู้และความสามารถในการหยั่งรู้เรื่องการอ่านเขียนและสติปัญญาให้แก่ชายหนุ่มทั้งสี่ และดาเนียลมีความเข้าใจในภาพนิมิตและความฝัน 18 เมื่อครบกำหนด 3 ปี กษัตริย์บัญชาให้นำบรรดาชายหนุ่มมา หัวหน้าขันทีจึงพาพวกเขามาเข้าเฝ้าเนบูคัดเนสซาร์ 19 กษัตริย์พูดกับทุกคน และปรากฏว่า ไม่มีใครสักคนที่เป็นเหมือนดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ ดังนั้นทั้ง 4 คนจึงอยู่รับใช้กษัตริย์ 20 ทุกเรื่องที่กษัตริย์ปรึกษาพวกเขาซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้สติปัญญาและความเข้าใจนั้น กษัตริย์พบว่า พวกเขาเก่งกว่าผู้ที่เล่นวิทยาคมและผู้เสกคาถา ซึ่งอยู่ทั่วไปในอาณาจักรของท่านถึงสิบเท่า 21 ดาเนียลอยู่ที่ราชวังจนถึงปีแรกของกษัตริย์ไซรัส
เนบูคัดเนสซาร์ฝัน
2 ในปีที่สองของการครองราชย์ เนบูคัดเนสซาร์นอนฝัน จิตใจของท่านก็หดหู่เป็นทุกข์จนนอนไม่หลับ 2 กษัตริย์จึงเรียกพวกที่เล่นวิทยาคมและเสกคาถา รวมทั้งพวกที่ใช้เวทมนตร์และคนเคลเดีย[c] เพื่อมาแก้ฝันให้ท่าน คนเหล่านั้นจึงมาเข้าเฝ้ากษัตริย์ 3 กษัตริย์กล่าวกับพวกเขาว่า “เราฝันซึ่งทำให้จิตใจของเราหดหู่เป็นทุกข์ จึงอยากจะเข้าใจความหมาย” 4 โหราจารย์ตอบกษัตริย์เป็นภาษาอาราเมคว่า “โอ กษัตริย์ ขอให้กษัตริย์มีชีวิตยิ่งยืนนานเถิด โปรดบอกพวกเราที่เป็นผู้รับใช้ของท่านเถิดว่า ท่านฝันอะไร และพวกเราจะแก้ฝันให้ท่าน” 5 กษัตริย์ตอบโหราจารย์ว่า “เราได้ตัดสินใจอย่างนี้คือ ถ้าพวกเจ้าไม่บอกเรื่องที่เราฝัน และแก้ฝันให้เรา พวกเจ้าจะถูกตัดเป็นท่อนๆ และบ้านเรือนของพวกเจ้าก็จะถูกพังทลายลง 6 แต่ถ้าหากว่าพวกเจ้าบอกเรื่องที่เราฝัน และแก้ฝันให้เราได้ เราจะให้ของกำนัลและรางวัล อีกทั้งเกียรติยศแก่พวกเจ้า ฉะนั้นจงบอกเรื่องที่เราฝัน และแก้ฝันให้เราด้วย” 7 เขาเหล่านั้นตอบเป็นครั้งที่สองว่า “ถ้าหากว่ากษัตริย์จะเล่าเรื่องที่ฝันให้ผู้รับใช้ทราบ แล้วพวกเราจะแก้ฝันให้” 8 กษัตริย์ตอบว่า “เราแน่ใจว่า พวกเจ้ากำลังถ่วงเวลาเพราะรู้การตัดสินใจของเราแล้วว่า 9 ถ้าพวกเจ้าไม่บอกเรื่องที่เราฝัน เจ้าจะต้องรับโทษสถานเดียว พวกเจ้าร่วมกันหลอกลวงและพูดเท็จกับเรา โดยหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ ฉะนั้น จงบอกเราว่าเราฝันอะไร และเราก็จะรู้ว่าพวกเจ้าสามารถแก้ฝันให้เราได้” 10 โหราจารย์ตอบกษัตริย์ว่า “ไม่มีมนุษย์ผู้ใดในโลกที่สามารถทำตามคำสั่งของกษัตริย์ได้ เพราะว่าไม่มีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจท่านใดที่ออกคำสั่งให้คนที่เล่นวิทยาคม ผู้เสกคาถา และโหราจารย์ทำเช่นนี้ 11 สิ่งที่กษัตริย์ถามเป็นเรื่องยากเกินไป และไม่มีผู้ใดที่สามารถทำตามความต้องการของกษัตริย์ได้ ยกเว้นบรรดาเทพเจ้าเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ท่ามกลางมวลมนุษย์”
12 เพราะเหตุนี้ กษัตริย์จึงโกรธกริ้วมาก และได้สั่งให้ประหารบรรดาผู้เรืองปัญญาของบาบิโลนเหล่านั้นทุกคน 13 ดังนั้น มีกฤษฎีกาสั่งให้ประหารผู้เรืองปัญญาทุกคน และให้ไปตามดาเนียลกับเพื่อนของท่านมาเพื่อจะประหารด้วย 14 ดาเนียลตอบอารีโอคหัวหน้าองครักษ์ที่ได้ออกไปประหารบรรดาผู้เรืองปัญญาของบาบิโลนด้วยความเฉลียวฉลาดและปฏิภาณ 15 ท่านถามอารีโอคหัวหน้าองครักษ์ว่า “ทำไมกฤษฎีกาของกษัตริย์จึงรุนแรงเช่นนี้” อารีโอคจึงเล่าเรื่องให้ดาเนียลฟัง 16 ดาเนียลไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เพื่อขอเวลาสำหรับการแก้ฝันให้กษัตริย์
พระเจ้าเผยเรื่องที่เนบูคัดเนสซาร์ฝัน
17 แล้วดาเนียลก็กลับไปบ้านของท่าน และเล่าเรื่องให้ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ ผู้เป็นเพื่อนของท่านทราบ 18 และบอกพวกเขาให้ขอความเมตตาจากพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์เรื่องความลึกลับนี้ เพื่อดาเนียลและเพื่อนของท่านจะไม่ถูกประหารไปด้วยกับบรรดาผู้เรืองปัญญาของบาบิโลน 19 แล้วจากนั้น ความลึกลับก็ถูกเผยแก่ดาเนียลในภาพนิมิตในคืนนั้นเอง และดาเนียลสรรเสริญพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ 20 ดาเนียลพูดว่า
“สรรเสริญพระนามของพระเจ้าตราบชั่วนิรันดร์กาล
พระองค์กอปรด้วยพระปัญญาและอานุภาพ
21 พระองค์เปลี่ยนกาลเวลาและฤดูกาล
พระองค์ปลดกษัตริย์และแต่งตั้งกษัตริย์
พระองค์มอบสติปัญญาแก่ผู้เรืองปัญญา
และมอบความรู้แก่ผู้หยั่งรู้
22 พระองค์เผยสิ่งที่ล้ำลึกและลึกลับ
พระองค์ทราบว่าอะไรซ่อนอยู่ในความมืด
และความสว่างอยู่กับพระองค์
23 โอ พระเจ้าของบรรพบุรุษของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอบคุณและสรรเสริญพระองค์
พระองค์ได้มอบสติปัญญาและพละกำลังแก่ข้าพเจ้า
และบัดนี้พระองค์ได้ให้ข้าพเจ้าทราบสิ่งที่พวกเราถาม
พระองค์ได้ให้พวกเราทราบสิ่งที่กษัตริย์ฝัน”
24 ดังนั้น ดาเนียลจึงไปหาอารีโอคผู้ที่กษัตริย์ได้บัญชาให้ประหารบรรดาผู้เรืองปัญญาของบาบิโลน ท่านไปหาเขาและพูดว่า “อย่าสังหารบรรดาผู้เรืองปัญญาของบาบิโลน โปรดนำเราไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เถิด และเราจะแก้ฝันให้กษัตริย์”
25 อารีโอคก็พาดาเนียลไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ทันที และทูลท่านดังนี้ว่า “ข้าพเจ้าพบชายผู้หนึ่งที่เข้ามาเป็นเชลยจากยูดาห์ เขาสามารถแก้ฝันให้กษัตริย์ได้” 26 กษัตริย์ถามดาเนียลซึ่งมีอีกชื่อว่า เบลเทชัสซาร์ “เจ้าสามารถเผยเรื่องที่เราฝันเห็น และแก้ฝันให้เราได้หรือ” 27 ดาเนียลตอบกษัตริย์ว่า “ไม่มีบรรดาผู้เรืองปัญญาคนใด ผู้เสกคาถา ผู้ที่เล่นวิทยาคม หรือผู้ทำนายที่สามารถเล่าเรื่องลึกลับที่กษัตริย์ถามได้ 28 แต่มีพระเจ้าในฟ้าสวรรค์ซึ่งเป็นผู้ที่เผยความอันลึกลับทั้งหลาย และพระองค์ได้เผยความแก่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ว่า อะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ฝันและภาพนิมิตที่อยู่ในความนึกคิดของท่านขณะที่ท่านนอนอยู่ก็คือ 29 โอ กษัตริย์ ขณะที่ท่านนอนอยู่ ท่านก็นึกคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า และผู้ที่เผยความลึกลับให้แก่ท่านก็ได้โปรดให้ท่านทราบแล้ว ว่าอะไรจะเกิดขึ้น 30 ความลึกลับนี้ถูกเผยให้ข้าพเจ้าทราบ ไม่ใช่เพราะว่าข้าพเจ้ามีสติปัญญามากกว่าคนอื่นๆ แต่เพื่อการแก้ฝันจะได้เผยแก่กษัตริย์ และท่านจะทราบความนึกคิดของท่าน
ดาเนียลแก้ฝัน
31 โอ กษัตริย์ ท่านมองเห็นรูปปั้นใหญ่รูปหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าท่าน รูปปั้นนี้ขนาดมหึมาและสว่างจ้า ดูน่ากลัว 32 หัวรูปปั้นเป็นทองคำบริสุทธิ์ อกและแขนเป็นเงิน ท้องและต้นขาเป็นทองสัมฤทธิ์ 33 ขาเป็นเหล็ก เท้าเป็นทั้งเหล็กและดินเผา 34 ขณะที่ท่านมองดูที่รูปปั้น หินก้อนหนึ่งหลุดออกโดยไม่มีมือใครแตะ มันกระทบถูกเท้าเหล็กและดินเผาของรูปปั้น ทำให้แตกเป็นเสี่ยงๆ 35 แล้วเหล็ก ดินเผา ทองสัมฤทธิ์ เงิน และทองคำก็หักออกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นเหมือนเปลือกข้าวที่ลานนวดข้าวในฤดูร้อน และถูกลมพัดไปจนไม่มีเศษตกเหลืออยู่ แต่ก้อนหินที่ตกถูกรูปปั้นก็กลายเป็นภูเขาที่ใหญ่จนเต็มโลก
36 นั่นคือเรื่องที่ท่านฝัน และบัดนี้พวกเราจะแก้ฝันให้กษัตริย์ 37 โอ กษัตริย์ ท่านเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ได้มอบอาณาจักร อานุภาพ พลานุภาพ และเกียรติให้แก่ท่าน 38 พระองค์ได้มอบมนุษย์ สัตว์ต่างๆ ในทุ่ง และนกในอากาศให้อยู่ในอำนาจของท่าน ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นอยู่ในที่แห่งใด พระองค์ได้ตั้งให้ท่านปกครองเหนือสิ่งทั้งปวง ท่านคือศีรษะทองคำนั้น 39 หลังจากท่าน จะมีอาณาจักรอื่นที่ด้อยกว่าอาณาจักรของท่าน ขึ้นมาปกครอง จากนั้นก็จะมีอาณาจักรที่สามที่เป็นทองสัมฤทธิ์ ซึ่งจะปกครองทั่วทั้งโลก 40 และจะมีอาณาจักรที่สี่ที่แข็งแกร่งดั่งเหล็ก ด้วยว่าเหล็กทำทุกสิ่งให้แตกหักและแหลกลาญไป และเมื่อเหล็กทำให้ทุกสิ่งแตกเป็นเสี่ยงๆ มันก็จะทำให้อาณาจักรอื่นๆ แตกแยกและพังทลายลง 41 ท่านเห็นเท้าและนิ้วเท้าที่เป็นทั้งดินเผาและเหล็ก นั่นก็คืออาณาจักรที่ถูกแตกแยก แต่พลังอย่างเหล็กก็ยังอยู่ในอาณาจักรนั้น อย่างที่ท่านเห็นเหล็กที่ปนอยู่กับดินเผา 42 เมื่อนิ้วเท้าเป็นทั้งเหล็กและดินเผา อาณาจักรนั้นก็จะแข็งแกร่งและเปราะด้วย 43 อย่างที่ท่านเห็นเหล็กผสมกับดินเผา ประชาชนจะประสานกันด้วยวิธีการแต่งงานร่วมกัน แต่ก็จะเข้ากันไม่ได้ อย่างที่เหล็กที่ไม่ผสมเข้ากันกับดินเผา 44 ในสมัยของบรรดากษัตริย์เหล่านั้น พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์จะตั้งอาณาจักรหนึ่งขึ้นมา ซึ่งจะไม่มีวันถูกทำลาย ไม่มีวันที่จะถูกชนชาติอื่นยึดไป แต่กลับจะทำให้อาณาจักรเหล่านี้แตกหักเป็นเสี่ยงๆ และจบสิ้นลง ส่วนอาณาจักรนั้นจะยืนยงชั่วนิรันดร์กาล 45 ท่านเห็นก้อนหินที่หลุดจากภูเขาโดยไม่มีมือใครแตะ หินที่ทำให้เหล็ก ทองสัมฤทธิ์ ดินเผา เงิน และทองคำแตกหักเป็นเสี่ยงๆ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ได้เผยให้กษัตริย์ทราบว่า อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เรื่องที่ท่านฝันเป็นความจริง และการแก้ฝันก็เชื่อถือได้”
ดาเนียลได้เลื่อนตำแหน่ง
46 ครั้นแล้ว กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ก้มหน้าซบลงกับพื้น เบื้องหน้าดาเนียลเป็นการให้เกียรติท่าน และบัญชาให้นำของถวายและเครื่องหอมมามอบให้แก่ท่าน 47 กษัตริย์กล่าวกับดาเนียลว่า “จริงทีเดียว พระเจ้าของเจ้าคือ พระเจ้าเหนือบรรดาเทพเจ้า และพระผู้เป็นเจ้าเหนือบรรดากษัตริย์ และผู้ที่เผยความอันลึกลับทั้งหลาย เพราะเจ้าสามารถเผยความลึกลับนี้ได้” 48 แล้วกษัตริย์ก็มอบตำแหน่งด้วยเกียรติสูงและของกำนัลมากมายแก่ดาเนียล และแต่งตั้งให้ท่านปกครองทั่วแคว้นบาบิโลน และให้เป็นหัวหน้าของบรรดาผู้เรืองปัญญาแห่งบาบิโลน 49 กษัตริย์กระทำตามคำร้องของดาเนียลโดยให้ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกเป็นผู้บริหารงานของแคว้นบาบิโลน ส่วนดาเนียลยังต้องรับใช้อยู่ที่ราชวังด้วย
รูปเคารพทองคำของเนบูคัดเนสซาร์
3 กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์บัญชาให้หล่อรูปเคารพทองคำ ซึ่งสูง 60 ศอก และกว้าง 6 ศอก และให้ตั้งไว้ที่ที่ราบดูรา ในแคว้นบาบิโลน 2 และกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์เรียกประชุมผู้ปกครองแคว้น เจ้าหน้าที่ชั้นสูง ผู้ว่าราชการ ที่ปรึกษา ผู้ดูแลกองคลัง ผู้ตัดสินความ เจ้าหน้าที่บังคับคดี และบรรดาเจ้าหน้าที่ของแคว้นต่างๆ เพื่อมางานถวายรูปเคารพที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ตั้งขึ้น 3 ครั้นแล้ว ผู้ปกครองแคว้น เจ้าหน้าที่ชั้นสูง ผู้ว่าราชการ ที่ปรึกษา ผู้ดูแลกองคลัง ผู้ตัดสินความ เจ้าหน้าที่บังคับคดี และบรรดาเจ้าหน้าที่ของแคว้นต่างๆ จึงมาร่วมประชุมในงานถวายรูปเคารพที่กษัตริย์ได้ตั้งขึ้น และพวกเขาก็ยืนที่เบื้องหน้ารูปเคารพนั้น 4 ผู้ประกาศออกเสียงดังประกาศว่า “โอ ทุกชนชาติ ทุกประชาชาติ และทุกภาษาเอ๋ย ท่านได้รับคำบัญชาดังนี้คือ 5 เมื่อท่านได้ยินเสียงแตรงอน ปี่ พิณเล็ก เครื่องสายรูปสามเหลี่ยม พิณสิบสาย ปี่สกอต และเสียงดนตรีทุกชนิด พวกท่านจะต้องหมอบลงนมัสการรูปเคารพทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ตั้งขึ้น 6 และใครก็ตามที่ไม่หมอบลงนมัสการ ก็จะถูกโยนในเตาเผาที่มีไฟลุกโพลง” 7 ดังนั้น ทันทีที่ชนชาติทั้งปวงได้ยินเสียงแตรงอน ปี่ พิณเล็ก เครื่องสายรูปสามเหลี่ยม พิณสิบสาย ปี่สกอต และเสียงดนตรีทุกชนิด ทุกชนชาติ ทุกประชาชาติ และทุกภาษาก็หมอบลงนมัสการรูปเคารพทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ตั้งขึ้น
เตาเผาที่ลุกโพลง
8 ขณะนั้น ชาวเคลเดียบางคนถือโอกาสกล่าวหาว่าร้ายชาวยิว 9 พวกเขาพูดว่า “โอ กษัตริย์ ขอให้ท่านมีชีวิตยิ่งยืนนานเถิด 10 โอ กษัตริย์ ท่านได้ตั้งกฤษฎีกาไว้ว่า ทุกคนที่ได้ยินเสียงแตรงอน ปี่ พิณเล็ก เครื่องสายรูปสามเหลี่ยม พิณสิบสาย ปี่สกอต และเสียงดนตรีทุกชนิด จะต้องหมอบลงนมัสการรูปเคารพทองคำนั้น 11 และใครก็ตามที่ไม่หมอบลงนมัสการ ก็จะถูกโยนในเตาเผาที่มีไฟลุกโพลง 12 มีชาวยิวบางคนที่ท่านได้แต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารงานของแคว้นบาบิโลนคือ ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก โอ กษัตริย์ ชายเหล่านี้ไม่ได้เชื่อฟังท่าน พวกเขาไม่ได้นมัสการปวงเทพเจ้าของท่าน หรือนมัสการรูปเคารพทองคำที่ท่านได้ตั้งขึ้น”
13 เนบูคัดเนสซาร์โกรธมาก จึงสั่งให้นำชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก มาหาท่าน พวกเขาถูกนำมายืนที่เบื้องหน้ากษัตริย์ 14 เนบูคัดเนสซาร์ถามพวกเขาว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก จริงหรือนี่ ที่พวกเจ้าไม่นมัสการบรรดาเทพเจ้าของเรา และไม่นมัสการรูปเคารพทองคำที่เราได้ตั้งขึ้น 15 ต่อไปนี้ เมื่อได้ยินเสียงแตรงอน ปี่ พิณเล็ก เครื่องสายรูปสามเหลี่ยม พิณสิบสาย ปี่สกอต และเสียงดนตรีทุกชนิด ถ้าพวกเจ้าพร้อมที่จะหมอบลงนมัสการรูปเคารพทองคำที่เราให้หล่อไว้ ก็จะดีมาก แต่ถ้าพวกเจ้าไม่นมัสการ เจ้าจะถูกโยนในเตาเผาที่มีไฟลุกโพลง แล้วผู้ใดเป็นพระเจ้าที่จะช่วยพวกเจ้าให้รอดจากมือของเราได้”
16 ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกตอบกษัตริย์ว่า “โอ เนบูคัดเนสซาร์ พวกเราไม่จำเป็นต้องตอบท่านในเรื่องดังกล่าว 17 ถ้าจะต้องเป็นไปเช่นนั้น พระเจ้าของพวกเราที่เรานมัสการสามารถช่วยพวกเราจากไฟที่ลุกโพลง และพระองค์จะช่วยพวกเราให้รอดจากมือของท่านผู้เป็นกษัตริย์ 18 แต่ว่าถ้าไม่เป็นอย่างนั้น โอ กษัตริย์ ขอท่านรับทราบว่า พวกเราจะไม่นมัสการบรรดาเทพเจ้าของท่าน และไม่นมัสการรูปเคารพทองคำที่ท่านได้ตั้งขึ้นแน่”
19 แล้วเนบูคัดเนสซาร์จึงโกรธ ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกยิ่งนัก ความรู้สึกที่มีต่อพวกเขาก็เปลี่ยนไป ท่านสั่งให้ติดไฟที่เตาเผาให้ร้อนกว่าปกติเป็น 7 เท่า 20 และท่านสั่งบรรดานักรบผู้กล้าหาญให้มัดตัวชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก และโยนทั้งสามคนลงในเตาเผาที่มีไฟลุกโพลง 21 ดังนั้น ชายเหล่านั้นถูกมัดทั้งยังสวมเสื้อคลุม เสื้อยาวชั้นใน หมวก และเครื่องแต่งกายชิ้นอื่น แล้วก็ถูกโยนลงในเตาเผาที่ลุกโพลง 22 เพราะคำสั่งของกษัตริย์เด็ดขาด เตาเผาจึงร้อนจัดมาก เปลวไฟเผาไหม้ตัวนักรบที่คุมตัวชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกจนสิ้นชีวิต 23 ส่วนชายทั้งสามคนคือ ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกที่ถูกมัดตัวก็ตกลงในเตาเผาที่มีไฟลุกโพลง
24 กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ตกตะลึงถึงกับลุกขึ้นยืนทันที ท่านถามบรรดาที่ปรึกษาของท่านว่า “พวกเราโยนชาย 3 คนที่ถูกมัดตัวลงในเตาไฟมิใช่หรือ” พวกเขาตอบกษัตริย์ว่า “เป็นเช่นนั้นจริงๆ โอ กษัตริย์” 25 ท่านตอบว่า “แต่ว่าเราเห็นชาย 4 คนเดินอยู่กลางเปลวไฟ แก้มัดแล้วด้วย ทั้งสี่คนก็ไม่เป็นอันตราย และดูเหมือนว่า คนที่สี่ดูราวกับบุตรของเทพเจ้า”
26 ดังนั้น เนบูคัดเนสซาร์จึงไปใกล้ประตูเตาเผาที่มีไฟลุกโพลง และพูดว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกบรรดาผู้รับใช้ของพระเจ้าผู้สูงสุด จงออกมาที่นี่เถิด” ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกจึงออกมาจากกองไฟ 27 ฝ่ายผู้ปกครองแคว้น เจ้าหน้าที่ชั้นสูง ผู้ว่าราชการ และที่ปรึกษาของกษัตริย์ ต่างก็มาห้อมล้อมและเห็นว่าไฟไม่ได้ทำอันตรายต่อร่างกายของชายทั้งสาม ผมก็ไม่ไหม้ เสื้อคลุมไม่ถูกไฟเผา และไม่มีแม้แต่กลิ่นควันไฟติดตัวพวกเขาเลย 28 เนบูคัดเนสซาร์พูดว่า “ขอพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกได้รับพระพรเถิด พระองค์ได้ส่งทูตสวรรค์มาช่วยบรรดาผู้รับใช้ที่วางใจในพระองค์ พวกเขาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของข้าพเจ้า และยอมสละชีวิตแทนที่จะนมัสการเทพเจ้าใดๆ นอกจากพระเจ้าของพวกเขาเท่านั้น 29 ฉะนั้น ข้าพเจ้าออกกฤษฎีกาว่า ทุกชนชาติ ทุกประชาชาติ และภาษาใดก็ตามที่พูดถึงสิ่งที่ขัดแย้งต่อพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก จะถูกตัดเป็นท่อนๆ และบ้านเรือนของพวกเขาก็จะถูกพังทลายไป เพราะว่าไม่มีเทพเจ้าใดๆ ที่สามารถช่วยให้พ้นภัยอย่างนี้ได้” 30 แล้วกษัตริย์ก็เลื่อนตำแหน่งให้แก่ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ในแคว้นบาบิโลน
เนบูคัดเนสซาร์สรรเสริญพระเจ้า
4 สาสน์จากกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ถึงทุกชนชาติ ทุกประชาชาติ และทุกภาษา ผู้อาศัยอยู่ทั่วโลก สันติสุขจงเพิ่มพูนแก่ท่าน 2 เราเห็นว่าสมควรอย่างยิ่งที่เราจะแจ้งแก่ท่าน ถึงสิ่งอัศจรรย์และสิ่งมหัศจรรย์ที่พระเจ้าผู้สูงสุดได้แสดงให้เราเห็นแล้ว
3 สิ่งอัศจรรย์อันยิ่งใหญ่
สิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์กอปรด้วยอานุภาพยิ่งนัก
อาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรที่ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์กาล
การปกครองของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วอายุคน
เนบูคัดเนสซาร์ฝันครั้งที่สอง
4 เราคือเนบูคัดเนสซาร์ ทุกสิ่งเป็นไปด้วยดีกับเราในเรือนของเรา และมั่งคั่งในวังของเรา 5 เราฝันถึงสิ่งที่ทำให้เรากลัว ขณะที่เรานอนอยู่ ภาพที่เห็นและภาพนิมิตต่างๆ ที่เรานึกคิดทำให้เราตกใจมาก 6 ดังนั้น เราจึงออกกฤษฎีกาว่า ผู้เรืองปัญญาทุกคนของบาบิโลนจะต้องมาเข้าเฝ้าเรา และให้พวกเขาแก้ฝันให้เรา 7 และบรรดาผู้เล่นวิทยาคม ผู้เสกคาถา โหราจารย์ และผู้ทำนายก็มา และเราบอกเรื่องที่เราฝันให้พวกเขาฟัง แต่พวกเขาไม่สามารถแก้ฝันให้เราได้ 8 ในที่สุด ดาเนียลมาเข้าเฝ้าเรา เขามีอีกชื่อหนึ่งว่า เบลเทชัสซาร์ ตามชื่อเทพเจ้าของเรา และวิญญาณของบรรดาเทพเจ้าผู้บริสุทธิ์อยู่กับเขา เราเล่าเรื่องที่เราฝันให้เขาฟังว่า 9 “โอ เบลเทชัสซาร์ หัวหน้าของพวกที่เล่นวิทยาคม เพราะเรารู้ว่าวิญญาณของบรรดาเทพเจ้าผู้บริสุทธิ์อยู่กับเจ้า และไม่มีสิ่งลึกลับใดยากเกินไปสำหรับเจ้า นี่คือสิ่งที่เราฝันเห็น จงแก้ฝันให้เรา 10 ภาพนิมิตต่างๆ ที่อยู่ในความนึกคิดของเราขณะที่เรานอนอยู่ก็คือ ดูเถิด เราเห็นต้นไม้ใหญ่มากต้นหนึ่งที่ท่ามกลางแผ่นดินโลก 11 ต้นไม้โตขึ้นและแข็งแกร่ง ยอดต้นไม้งอกสูงขึ้นถึงฟ้าสวรรค์ จนทั่วทั้งโลกมองเห็นได้ 12 ต้นไม้นั้นมีใบสดสวย และออกผลดกมากพอที่จะเป็นอาหารสำหรับทุกคนได้ สัตว์ป่าในทุ่งหาที่ร่มจากต้นไม้เป็นที่พักพิง และนกในอากาศก็อาศัยอยู่ตามกิ่งไม้ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดได้อาหารจากต้นไม้ต้นนี้
13 ภาพนิมิตที่เราเห็นอยู่ในความนึกคิดของเราขณะที่เรานอนอยู่ ดูเถิด มีผู้ส่งข่าวผู้บริสุทธิ์ผู้หนึ่งลงมาจากฟ้าสวรรค์ 14 ท่านประกาศเสียงดังว่า ‘จงโค่นต้นไม้ลงและตัดกิ่งไม้ รูดใบและขว้างผลไม้ให้กระจายออกไป ให้สัตว์ป่าเตลิดหนีไปจากใต้ร่มไม้ และให้นกออกไปจากกิ่งไม้ 15 แต่จงปล่อยให้ตอกับรากไม้อยู่ในดิน และมัดด้วยแผ่นเหล็กและทองสัมฤทธิ์ ปล่อยไว้บนพื้นดินที่เป็นทุ่งหญ้า ให้เขาเปียกชุ่มด้วยน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ และให้เขาอยู่กับบรรดาสัตว์ป่าในทุ่งหญ้าของแผ่นดินโลก 16 ให้จิตใจของเขาเปลี่ยนจากจิตใจมนุษย์เป็นจิตใจของสัตว์ป่า จนกว่าเวลาจะผ่านพ้นเขาไป 7 ระยะ 17 ผู้ส่งข่าวประกาศคำตัดสินโทษ บรรดาผู้บริสุทธิ์แถลงคำตัดสิน เพื่อบรรดาผู้มีชีวิตอยู่จะทราบว่าองค์ผู้สูงสุดเป็นผู้ปกครองเหนืออาณาจักรของมนุษย์ ซึ่งพระองค์จะมอบให้แก่ผู้ที่พระองค์ประสงค์ย่อมได้ และแต่งตั้งผู้ที่ถ่อมตัวที่สุดในหมู่มนุษย์ให้ปกครอง’ 18 เราผู้เป็นกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ฝันเห็น บัดนี้ เบลเทชัสซาร์จงบอกเราว่า ความหมายคืออะไร ไม่มีผู้ปรึกษาของเราคนใดที่สามารถแก้ฝันให้เราได้ แต่เจ้าสามารถแก้ฝันได้ เพราะวิญญาณของบรรดาเทพเจ้าผู้บริสุทธิ์อยู่กับเจ้า”
ดาเนียลแก้ฝันครั้งที่สอง
19 ครั้นแล้ว ดาเนียลที่มีอีกชื่อว่า เบลเทชัสซาร์ ก็ตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ และสิ่งที่ท่านกำลังคิดอยู่ทำให้ท่านตกใจกลัว กษัตริย์กล่าวว่า “เบลเทชัสซาร์ อย่าให้ฝันหรือการแก้ฝันทำให้เจ้าตกใจกลัวเลย” เบลเทชัสซาร์ตอบว่า “ท่านผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้า ขอให้เรื่องที่ท่านฝันจงเกิดแก่ผู้ที่เกลียดชังท่าน และความหมายก็เป็นของพวกศัตรูของท่าน 20 ต้นไม้ที่ท่านเห็น ซึ่งโตขึ้นและแข็งแรง ยอดของต้นไม้งอกสูงขึ้นถึงฟ้าสวรรค์ จนคนทั่วทั้งโลกมองเห็นได้ 21 ต้นไม้นั้นมีใบสดสวย และออกผลดกมากพอที่จะเป็นอาหารสำหรับทุกคนได้ สัตว์ป่าในทุ่งหาที่ร่มจากต้นไม้เป็นที่พักพิง และนกในอากาศก็อาศัยอยู่ตามกิ่งไม้ 22 โอ กษัตริย์ ท่านคือผู้ที่ใหญ่โตและเข้มแข็ง ท่านยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้น ไปจนถึงฟ้าสวรรค์ และการปกครองของท่านแผ่ไกลไปทั่วแหล่งหล้า 23 กษัตริย์เห็นผู้ประกาศ คือผู้บริสุทธิ์ผู้หนึ่งกำลังลงมาจากฟ้าสวรรค์และพูดว่า ‘จงโค่นต้นไม้ลงและกำจัดทิ้งเสีย แต่จงให้ตอซึ่งยังมีรากไม้ติดอยู่ฝังอยู่กับพื้นดินที่เป็นทุ่งหญ้า และมัดด้วยแผ่นเหล็กและทองสัมฤทธิ์ ให้เขาเปียกชุ่มด้วยน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ และให้เขามีชีวิตอยู่อย่างบรรดาสัตว์ป่าในทุ่งหญ้า จนกว่าเวลาจะผ่านพ้นเขาไป 7 ระยะ’ 24 โอ กษัตริย์ การตีความหมายก็คือ องค์ผู้สูงสุดได้ออกคำสั่งว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับกษัตริย์ผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้า 25 ท่านจะถูกขับไล่ไปจากผู้คน และท่านจะอาศัยอยู่กับบรรดาสัตว์ป่าในทุ่ง ท่านจะต้องรับประทานหญ้าอย่างโค และจะเปียกชุ่มด้วยน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ เวลาจะผ่านพ้นท่านไป 7 ระยะ จนกว่าท่านจะตระหนักว่าพระเจ้าผู้สูงสุดปกครองอาณาจักรของมนุษย์ และมอบให้แก่ผู้ที่พระองค์ประสงค์ 26 สำหรับคำสั่งที่ให้ตอซึ่งยังมีรากไม้ติดอยู่ หมายความว่า อาณาจักรของท่านจะกลับคืนมาเป็นของท่านอีก เมื่อท่านยอมรับว่าพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ปกครอง 27 ฉะนั้น โอ กษัตริย์ ขอท่านรับคำแนะนำของข้าพเจ้าเถิด โปรดละจากการทำบาปด้วยการปฏิบัติในความชอบธรรม โปรดทิ้งจากความชั่วด้วยการแสดงความเมตตาแก่ผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง เผื่อว่าความสำเร็จของท่านอาจจะยาวนานขึ้น”
เรื่องที่เนบูคัดเนสซาร์ฝันเป็นจริง
28 สิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นกับกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ 29 เวลาผ่านไป 12 เดือนเต็ม ขณะที่ท่านกำลังเดินอยู่บนดาดฟ้าของราชวังในบาบิโลน 30 กษัตริย์กล่าวว่า “บาบิโลนช่างยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้ และเราสร้างขึ้นมาเองด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ให้เป็นราชวัง และเพื่อเป็นบารมีแห่งความยิ่งใหญ่ของเรา” 31 กษัตริย์ยังพูดไม่ทันขาดคำ ก็มีเสียงจากฟ้าสวรรค์กล่าวกับท่านว่า “โอ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ เราขอบอกเจ้าว่า สิทธิอำนาจของเจ้าไม่อยู่กับเจ้าแล้ว 32 เจ้าจะถูกขับไล่ไปจากผู้คน และเจ้าจะอาศัยอยู่กับบรรดาสัตว์ป่าในทุ่ง และเจ้าจะต้องกินหญ้าอย่างโค เวลาจะผ่านพ้นเจ้าไป 7 ระยะ จนกว่าเจ้าจะตระหนักว่าพระเจ้าผู้สูงสุดปกครองอาณาจักรของมนุษย์ และมอบให้แก่ผู้ที่พระองค์ประสงค์” 33 ในทันใดนั้น เนบูคัดเนสซาร์ก็ตกอยู่ในสภาพดังกล่าว ท่านถูกขับไล่ไปจากผู้คน และรับประทานหญ้าอย่างโค และร่างกายของท่านเปียกชุ่มด้วยน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ จนผมยาวปานขนนกอินทรี และเล็บยาวเหมือนอุ้งเท้านก
สิ่งที่เนบูคัดเนสซาร์ได้รับกลับคืน
34 “เมื่อเวลาผ่านไปตามที่กำหนดแล้ว เราคือเนบูคัดเนสซาร์แหงนหน้าขึ้นสู่ฟ้าสวรรค์ และความมีสติยั้งคิดของเราก็กลับคืนมา เราจึงสรรเสริญองค์ผู้สูงสุด และถวายพระเกียรติและพระบารมีแด่พระองค์ผู้ดำรงชีวิตชั่วนิรันดร์กาล
การปกครองของพระองค์เป็นการปกครองที่คงอยู่ชั่วนิรันดร์กาล
และอาณาจักรของพระองค์คงอยู่ทุกชั่วอายุคน
35 ผู้อยู่อาศัยทั้งปวงบนแผ่นดินโลกไม่สามารถกระทำสิ่งใดต่อพระองค์ได้
พระองค์ทำตามความประสงค์ของพระองค์ในหมู่ชาวสวรรค์
และผู้อยู่อาศัยทั้งปวงบนแผ่นดินโลก
และไม่มีผู้ใดที่สามารถห้ามพระองค์ได้
หรือจะถามพระองค์ว่า ‘พระองค์กำลังทำอะไรอยู่’
36 ในขณะเดียวกัน ความมีสติยั้งคิดของเราก็กลับคืนมา ความยิ่งใหญ่ และความรุ่งเรืองกลับคืนมาเพื่อบารมีของอาณาจักรของเรา บรรดาที่ปรึกษาและขุนนางของเราต้อนรับเรา เราได้รับอาณาจักรกลับคืนพร้อมด้วยเกียรติที่เพิ่มพูนสูงส่งยิ่งกว่าเดิม 37 มาบัดนี้ เราคือเนบูคัดเนสซาร์ ขอสรรเสริญ เชิดชู และยกย่องกษัตริย์แห่งฟ้าสวรรค์ เพราะทุกสิ่งที่พระองค์กระทำถูกต้อง และวิถีทางของพระองค์เป็นธรรม และพระองค์สามารถทำให้บรรดาผู้ที่ดำเนินชีวิตในความหยิ่งยโสต้องถ่อมตัวลง”
ลายมือปรากฏที่ผนังกำแพง
5 กษัตริย์เบลชัสซาร์จัดงานเลี้ยงฉลองให้บรรดาขุนนางของท่าน 1,000 คน ท่านดื่มเหล้าองุ่นร่วมกับขุนนาง
2 หลังจากที่ได้ดื่มเหล้าองุ่นแล้ว เบลชัสซาร์สั่งให้คนนำถ้วยทองคำและถ้วยเงินที่เนบูคัดเนสซาร์บิดาของท่านได้ขนมาจากพระวิหารในเยรูซาเล็มออกมา เพื่อกษัตริย์และบรรดาขุนนาง ภรรยา และภรรยาน้อยทั้งหลายของท่านจะได้ใช้ดื่ม 3 ดังนั้นพวกเขาจึงนำถ้วยทองคำและถ้วยเงินที่เอามาจากพระวิหาร พระตำหนักของพระเจ้าในเยรูซาเล็ม ซึ่งกษัตริย์และบรรดาขุนนาง ภรรยา และภรรยาน้อยทั้งหลายของท่านก็ใช้ดื่ม 4 พวกเขาดื่มเหล้าองุ่น และสรรเสริญปวงเทพเจ้าที่ทำจากทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน
5 ทันใดนั้น นิ้วมือมนุษย์ก็ปรากฏขึ้น และเขียนบนผนังกำแพงของราชวัง ใกล้กับตะเกียงซึ่งส่องสว่างอยู่ และกษัตริย์ก็เห็นมือที่กำลังเขียนอยู่นั้น 6 กษัตริย์หน้าซีด ท่านตกใจกลัวจนเข่าอ่อน ขาสั่นระริก 7 กษัตริย์ร้องเสียงดังสั่งให้นำพวกที่เสกคาถา บรรดาโหราจารย์และผู้ทำนายมาเข้าเฝ้าทันที กษัตริย์บอกบรรดาผู้เรืองปัญญาของบาบิโลนว่า “ใครก็ตามที่อ่านข้อความนี้ และตีความหมายให้เราได้ เขาจะได้สวมผ้าสีม่วง สวมสร้อยคอทองคำ และจะได้เป็นผู้ปกครองอันดับสามในอาณาจักร” 8 บรรดาผู้เรืองปัญญาของกษัตริย์มาเข้าเฝ้า แต่พวกเขาไม่สามารถอ่านข้อความหรือตีความหมายให้กษัตริย์ได้ 9 กษัตริย์เบลชัสซาร์ตกใจมาก หน้าของท่านก็ยิ่งซีดเผือดลง และบรรดาขุนนางต่างก็งุนงงไปตามๆ กัน
10 เมื่อมารดาของกษัตริย์ได้ยินกษัตริย์และขุนนางพูด นางจึงเข้าไปในห้องโถงในงานเลี้ยง และพูดว่า “โอ กษัตริย์ จงมีชีวิตยิ่งยืนนานเถิด อย่าตกใจหน้าซีดเผือดเช่นนี้ 11 มีชายผู้หนึ่งในอาณาจักรของท่านที่มีวิญญาณของปวงเทพเจ้าอันบริสุทธิ์อยู่ด้วย ในสมัยของบิดาของท่าน เป็นที่ทราบกันว่าเขามีความรู้ ความเข้าใจลึกซึ้ง และกอปรด้วยสติปัญญาดั่งสติปัญญาของปวงเทพเจ้า และกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์บิดาของท่านได้แต่งตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าของบรรดาผู้เล่นวิทยาคม พวกที่เสกคาถา โหราจารย์ และบรรดาผู้ทำนาย 12 ดาเนียลผู้ที่กษัตริย์ตั้งชื่อว่า เบลเทชัสซาร์ เป็นคนมีความสามารถซึ่งไม่มีใครจะเทียบได้ มีความรู้ และเข้าใจเรื่องการแก้ฝัน สามารถอธิบายคำปริศนา และแก้ปัญหาได้ ให้คนไปตามดาเนียลมาเถิด เขาจะได้ตีความหมายให้ท่านได้”
ดาเนียลแปลความหมายของลายมือ
13 ดาเนียลจึงถูกพาตัวมาพบกับกษัตริย์ กษัตริย์พูดกับดาเนียลว่า “เจ้าคือดาเนียลหนึ่งในบรรดาเชลยจากยูดาห์ คนที่บิดาของเราผู้เป็นกษัตริย์นำมาจากยูดาห์ใช่ไหม 14 เราได้ยินมาว่า เจ้ามีวิญญาณของปวงเทพเจ้าอันบริสุทธิ์อยู่ในตัวเจ้าด้วย เจ้ามีความรู้ ความเข้าใจลึกซึ้ง และกอปรด้วยสติปัญญาซึ่งไม่มีใครจะเทียบได้ 15 บรรดาผู้เรืองปัญญาและผู้เสกคาถาถูกเรียกตัวมาหาเรา เพื่ออ่านข้อความนี้และตีความหมายให้เรา แต่พวกเขาไม่สามารถตีความหมายนี้ได้ 16 แต่เราได้ยินมาว่า เจ้าสามารถตีความหมายและแก้ปัญหาได้ ถ้าหากว่าเจ้าสามารถอ่านข้อความนี้ และตีความหมายให้เราได้ เจ้าจะได้สวมผ้าสีม่วง สวมสร้อยคอทองคำ และจะได้เป็นผู้ปกครองอันดับสามในอาณาจักร”
17 ดาเนียลตอบกษัตริย์ว่า “ท่านเก็บของกำนัลไว้เถิด และมอบรางวัลให้แก่ผู้อื่น ถึงอย่างไรข้าพเจ้าก็จะอ่านข้อความให้แก่กษัตริย์ และตีความหมายให้ท่าน 18 โอ กษัตริย์โปรดฟัง พระเจ้าผู้สูงสุดได้มอบสิทธิ์ของความเป็นเจ้า ความยิ่งใหญ่ บารมี และความรุ่งเรืองให้แก่เนบูคัดเนสซาร์บิดาของท่าน 19 และเพราะความยิ่งใหญ่ที่พระองค์มอบให้แก่บิดาของท่าน ทุกชนชาติ ทุกประชาชาติ และทุกภาษาต่างก็หวั่นเกรงและเกรงกลัวท่านมาก ท่านสังหารผู้ที่ท่านต้องการจะปลิดชีวิต ท่านไว้ชีวิตผู้ที่ท่านต้องการจะไว้ชีวิต ท่านเลื่อนตำแหน่งให้แก่ผู้ที่ท่านต้องการจะเลื่อนตำแหน่ง และท่านกดผู้ที่ท่านต้องการจะทำให้ถ่อมลง 20 แต่เมื่อท่านกลับทะนงตนและมีจิตใจแข็งกระด้างด้วยความยโส ท่านจึงถูกปลดจากบัลลังก์กษัตริย์ และบารมีของท่านก็สูญไป 21 ท่านถูกขับไล่ไปจากปวงชน และท่านมีจิตใจเหมือนสัตว์ป่า และอยู่กับลาป่า ท่านรับประทานหญ้าอย่างโค และร่างกายของท่านเปียกชุ่มด้วยน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ จนกระทั่งท่านตระหนักว่า พระเจ้าผู้สูงสุดปกครองอาณาจักรของมนุษย์ และมอบให้แก่ผู้ที่พระองค์ประสงค์ 22 ส่วนเบลชัสซาร์ผู้เป็นบุตร ท่านไม่ได้ถ่อมตนลงแม้ว่าจะทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว 23 แต่ท่านกลับยกตนขึ้นขัดขืนต่อพระผู้เป็นเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ท่านให้นำถ้วยของพระตำหนักของพระองค์มาใช้ ตัวท่านเองและบรรดาขุนนาง ภรรยา และภรรยาน้อยของท่านได้ใช้ถ้วยพวกนั้นดื่ม และท่านสรรเสริญปวงเทพเจ้าเงินและทองคำ ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน ซึ่งไม่สามารถมองเห็น ได้ยิน หรือรับทราบสิ่งใดเลย แต่ท่านไม่ได้เทิดเกียรติพระเจ้าผู้ตัดสินว่า จะให้ท่านมีลมหายใจอยู่หรือไม่ รวมถึงทุกสิ่งที่ท่านกระทำด้วย
24 พระองค์จึงส่งมือมาเพื่อเขียนคำจารึกนี้ 25 ข้อความที่จารึกคือ มเน มเน ทเคล และฟาร์ซิน[d] 26 ตีความหมายดังนี้คือ มเน พระเจ้าได้กำหนดวันของอาณาจักรของท่าน และก็สุดสิ้นลงแล้ว 27 ทเคล ท่านถูกชั่งตวงที่ตราชั่งซึ่งปรากฏว่า ท่านหนักไม่พอ 28 พเรส อาณาจักรของท่านจะถูกแบ่งแยกออก และถูกยกให้แก่ชาวมีเดียและชาวเปอร์เซีย”
29 จากนั้นเบลชัสซาร์ก็ออกคำสั่งให้ดาเนียลได้สวมผ้าสีม่วง สวมสร้อยคอทองคำ และประกาศให้ท่านเป็นผู้ปกครองอันดับสามในอาณาจักร
30 ในคืนวันเดียวกันนั้น กษัตริย์เบลชัสซาร์ชาวเคลเดียถูกฆ่า[e] 31 และดาริอัสชาวมีเดียได้ยึดอาณาจักร ขณะที่ท่านมีอายุ 62 ปี
ดาเนียลในถ้ำสิงโต
6 ดาริอัสพอใจมากที่ได้แต่งตั้งผู้ปกครองแคว้น 120 คนให้ปกครองทั่วอาณาจักร 2 และมีผู้บริหารสูงสุด 3 คนเป็นผู้ควบคุมพวกเขา หนึ่งในสามคือดาเนียล ผู้ปกครองแคว้นอยู่ภายใต้การดูแลของเขาทั้งสามคนเพื่อผลประโยชน์ของกษัตริย์ 3 ต่อมาไม่นาน ก็เป็นที่ทราบกันว่า ดาเนียลโดดเด่นกว่าผู้บริหารงานอีก 2 คนรวมทั้งผู้ปกครองแคว้นคนอื่นๆ เพราะมีวิญญาณซึ่งไม่มีใครเทียบได้อยู่กับท่าน และกษัตริย์วางแผนที่จะแต่งตั้งให้ท่านควบคุมทั่วทั้งอาณาจักร 4 ฉะนั้นผู้บริหารงานทั้งสองกับผู้ปกครองแคว้น คอยหาโอกาสจับผิดเพื่อกล่าวหาดาเนียลเรื่องอาณาจักร แต่พวกเขาไม่สามารถหาสาเหตุที่จะฟ้องหรือหาความผิดของดาเนียลได้ เพราะท่านภักดี และไม่ทุจริตหรือทำสิ่งใดที่ผิดแม้แต่อย่างเดียว 5 ฉะนั้นชายเหล่านั้นพูดว่า “พวกเราจะหาสาเหตุที่จะฟ้องร้องดาเนียลผู้นี้ไม่ได้ นอกจากว่า เราจะหาเรื่องที่เกี่ยวโยงกับกฎในเรื่องพระเจ้าของเขา”
6 ผู้บริหารงานและผู้ปกครองแคว้นเหล่านั้นจึงนัดกันไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ และพูดกับท่านว่า “โอ กษัตริย์ดาริอัส ขอให้ท่านมีอายุยืนนานเถิด 7 ผู้บริหารงานทุกคนของอาณาจักร เจ้าหน้าที่ชั้นสูง ผู้ปกครองแคว้น ที่ปรึกษา และผู้ว่าราชการมีความเห็นตรงกันว่า กษัตริย์ควรจะออกคำสั่งและให้ปฏิบัติตามอย่างเข้มงวดว่า ถ้าผู้ใดอธิษฐานขอจากเทพเจ้าหรือมนุษย์ในช่วงเวลา 30 วัน ยกเว้นการมาร้องขอจากท่าน โอ กษัตริย์ ขอให้ผู้นั้นถูกโยนลงในถ้ำสิงโตเถิด 8 โอ กษัตริย์ ขอท่านร่างหนังสือเป็นคำสั่งพร้อมกับลงชื่อ เพื่อไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลง ตามกฎของชาวมีเดียและเปอร์เซีย คือเปลี่ยนแปลงไม่ได้” 9 ดังนั้นกษัตริย์ดาริอัสจึงร่างหนังสือและลงชื่อ
10 เมื่อดาเนียลทราบว่ากษัตริย์ลงชื่อในหนังสือแล้ว ท่านก็กลับไปบ้าน ขึ้นไปบนห้องชั้นบนที่มีหน้าต่างเปิดหันไปทางเยรูซาเล็ม ท่านคุกเข่าลงอธิษฐานและขอบพระคุณ ณ เบื้องหน้าพระเจ้าของท่านวันละ 3 ครั้งเหมือนกับที่เคยทำเสมอมา 11 ชายเหล่านั้นจึงนัดกันไป และเห็นว่าดาเนียลกำลังอ้อนวอนขอร้องต่อพระเจ้าของท่าน 12 พวกเขาไปเฝ้ากษัตริย์ด้วยเรื่องคำสั่งที่ออกมา และพูดว่า “โอ กษัตริย์ ท่านลงชื่อออกคำสั่งแล้วมิใช่หรือว่า ถ้าผู้ใดอธิษฐานขอจากเทพเจ้าหรือมนุษย์ภายใน 30 วัน ยกเว้นการขอจากท่าน โอ กษัตริย์ ขอให้ผู้นั้นถูกโยนลงในถ้ำสิงโต” กษัตริย์ตอบว่า “ใช่ จะต้องเป็นไปตามคำสั่ง ตามกฎของชาวมีเดียและเปอร์เซีย คือเปลี่ยนแปลงไม่ได้” 13 พวกเขาจึงตอบกษัตริย์ว่า “ดาเนียลผู้นั้นที่เป็นเชลยมาจากยูดาห์ ไม่ได้ฟังท่านหรือปฏิบัติตามคำสั่งของท่าน แต่กลับอธิษฐานขอต่อพระเจ้าของเขาวันละ 3 ครั้ง”
14 เมื่อกษัตริย์ได้ยินเรื่องดังกล่าว ท่านก็เป็นทุกข์ และหาทางจะช่วยชีวิตดาเนียล ท่านครุ่นคิดวิธีการที่จะช่วยท่านจนกระทั่งตะวันตกดิน 15 ชายเหล่านั้นจึงนัดกันไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ และพูดกับกษัตริย์ว่า “โอ กษัตริย์ ท่านคงจะจำได้ว่า เป็นกฎของชาวมีเดียและเปอร์เซีย คือสิ่งที่กษัตริย์ออกเป็นกฎหรือคำสั่งจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้”
16 ฉะนั้น กษัตริย์จึงสั่งให้นำดาเนียลมา เพื่อโยนท่านลงในถ้ำสิงโต กษัตริย์กล่าวกับดาเนียลว่า “ขอพระเจ้าของเจ้าที่เจ้านมัสการมาโดยตลอดช่วยเจ้าให้ปลอดภัย” 17 และท่านสั่งให้กลิ้งหินปิดปากถ้ำ กษัตริย์ประทับปากถ้ำด้วยตราประทับของท่านและของบรรดาขุนนาง เพื่อไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับดาเนียล 18 และกษัตริย์กลับไปยังวังของท่าน งดอาหารและการบันเทิงในค่ำวันนั้น และท่านนอนไม่หลับ
19 พอรุ่งสาง กษัตริย์ลุกขึ้นและรีบไปที่ถ้ำสิงโต 20 เมื่อท่านเข้าไปใกล้ถ้ำที่ดาเนียลอยู่ ท่านร้องด้วยเสียงอันปวดร้าว พูดกับดาเนียลว่า “โอ ดาเนียลผู้รับใช้ของพระเจ้าผู้ดำรงชีวิตอยู่ พระเจ้าของเจ้า ผู้ที่เจ้านมัสการมาโดยตลอด สามารถช่วยเจ้าให้พ้นจากพวกสิงโตหรือไม่” 21 ดาเนียลตอบกษัตริย์ว่า “โอ กษัตริย์ ขอให้ท่านมีอายุยืนนานเถิด 22 พระเจ้าของข้าพเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาปิดปากสิงโต มันไม่ได้ทำร้ายข้าพเจ้าเลย เพราะพระองค์ทราบว่า ข้าพเจ้าไม่มีความผิด ท่านก็ทราบเช่นกัน โอ กษัตริย์ ข้าพเจ้าไม่ได้ทำผิดสิ่งใด” 23 ครั้นแล้ว กษัตริย์ก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง และสั่งให้นำดาเนียลออกจากถ้ำ ดาเนียลจึงออกมาจากถ้ำได้ และพบว่า ท่านไม่ถูกทำร้ายเลย เพราะท่านวางใจในพระเจ้าของท่าน 24 และกษัตริย์สั่งให้นำชายเหล่านั้นที่ได้กล่าวหาดาเนียลมา รวมถึงลูกๆ และภรรยาของพวกเขา และโยนพวกเขาลงในถ้ำสิงโต ก่อนที่พวกเขาจะถึงก้นถ้ำ สิงโตก็ขม้ำและหักกระดูกพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ เสียก่อนแล้ว
25 และกษัตริย์ดาริอัสเขียนถึงทุกชนชาติ ทุกประชาชาติ และทุกภาษาทั่วแผ่นดินว่า “สันติสุขจงเพิ่มพูนแก่ท่าน 26 เราออกกฤษฎีกาว่า ทุกคนทั่วอาณาจักรของเราจะต้องหวั่นเกรงและเกรงกลัวพระเจ้าของดาเนียล
เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าผู้ดำรงชีวิตอยู่
ยืนยงชั่วกาลนาน
อาณาจักรของพระองค์จะไม่มีวันถูกทำลาย
และการปกครองของพระองค์จะไม่จบสิ้นลง
27 พระองค์ช่วยให้รอดปลอดภัยและช่วยให้พ้นภัย
พระองค์แสดงปรากฏการณ์อัศจรรย์ และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ
ในฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
พระองค์เป็นผู้ช่วยชีวิตของดาเนียล
ให้รอดจากปากสิงโต”
28 ดังนั้น กิจการงานของดาเนียลผู้นี้สำเร็จด้วยดีในรัชสมัยของดาริอัสและของไซรัสชาวเปอร์เซีย
อสุรกาย 4 ตัวในภาพนิมิตของดาเนียล
7 เมื่อเบลชัสซาร์เป็นกษัตริย์แห่งบาบิโลนในปีแรก[f] ดาเนียลนอนฝันและเห็นภาพนิมิต ท่านบันทึกทุกเรื่องที่ฝันเห็น 2 ดาเนียลพูดว่า “ข้าพเจ้าเห็นภาพนิมิตในคืนนั้น ดูเถิด ลมทั้งสี่ของฟ้าสวรรค์กระพือทะเลใหญ่จนปั่นป่วน 3 มีอสุรกาย 4 ตัวขึ้นมาจากทะเล แต่ละตัวมีลักษณะไม่เหมือนกัน 4 ตัวแรกเหมือนสิงโตมีปีกอย่างนกอินทรี ขณะที่ข้าพเจ้ามองดู ปีกของมันหลุดออก และมันถูกพยุงขึ้นจากพื้น และยืนด้วยเท้าอย่างมนุษย์ แล้วมันได้รับจิตใจเยี่ยงมนุษย์ 5 ดูเถิด อสุรกายอีกตัวหนึ่งเป็นตัวที่สอง เหมือนหมี มันถูกพยุงตัวขึ้น มันคาบซี่โครง 3 ซี่ และมีเสียงพูดกับมันว่า ‘ลุกขึ้น เขมือบกินเนื้อให้มากๆ’ 6 หลังจากนั้น ข้าพเจ้ามองดู อีกตัวเหมือนเสือดาว บนหลังมี 4 ปีกเหมือนนก อสุรกายตัวนี้มี 4 หัว และมันได้รับมอบหมายให้ปกครอง 7 หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นภาพนิมิตในคืนนั้น ดูเถิด อสุรกายตัวที่สี่น่ากลัวและมีพลังมหาศาล ทำให้ขนลุกขนพอง มันมีฟันเหล็กซี่โต ขย้ำและกัดเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ และใช้เท้าของมันเหยียบขยี้เศษที่เหลือ มันต่างจากอสุรกายตัวอื่นๆ คือ ตัวนี้มีเขา 10 เขา 8 ข้าพเจ้าสังเกตดูที่เขา ดูเถิด มีเขาเล็กเขาหนึ่งงอกแซมเขาอื่นขึ้นมา มันงัด 3 เขาแรกที่อยู่ก่อนหลุดออก เขานี้มีตาเหมือนตามนุษย์ และมีปากที่พูดโอ้อวด
องค์ผู้ดำรงชีวิตยั่งยืนตลอดกาลปกครอง
9 ขณะที่ข้าพเจ้ามองดู
บัลลังก์หลายบัลลังก์ถูกตั้งไว้
องค์ผู้ดำรงชีวิตยั่งยืนตลอดกาลนั่งลง
เครื่องแต่งกายของพระองค์ขาวราวกับหิมะ
ผมของพระองค์ขาวดั่งขนแกะ
บัลลังก์ของพระองค์ดุจเปลวไฟ
ล้อบัลลังก์ดั่งไฟลุก
10 บึงไฟพวยพุ่งออกมา
จากเบื้องหน้าพระองค์
คนนับพันนับหมื่นรับใช้พระองค์
และคนนับแสนนับล้านยืนรับคำสั่งอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์
แล้วศาลก็เริ่มพิจารณาคดี
และหนังสือหลายเล่มได้เปิดออก
11 ข้าพเจ้ามองดูต่อไป เพราะเขาเล็กกำลังพูดโอ้อวด ขณะที่ข้าพเจ้ามองดู อสุรกายตัวที่สี่ก็ถูกฆ่า และร่างของมันถูกโยนเผาในไฟที่ลุกไหม้ 12 ส่วนอสุรกายตัวอื่นก็ถูกริบสิทธิอำนาจไป แต่ยังมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกระยะหนึ่ง
บุตรมนุษย์รับมอบหมายให้ปกครอง
13 ภาพนิมิตที่ข้าพเจ้าเห็นในคืนนั้น
ดูเถิด หมู่เมฆบนฟ้าสวรรค์
มีผู้หนึ่งดูเหมือนบุตรมนุษย์
พระองค์เข้าไปหาองค์ผู้ดำรงชีวิตยั่งยืนตลอดกาล
โดยมีผู้มารับให้ไปอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์
14 พระองค์ได้รับมอบหมายให้ปกครอง
รับพระบารมีและอาณาจักร
เพื่อทุกชนชาติ ทุกประชาชาติ และทุกภาษา
จะนมัสการพระองค์
การปกครองของพระองค์เป็นการปกครองที่คงอยู่ชั่วนิรันดร์กาล
ซึ่งจะไม่มีวันล่วงลับไป
และอาณาจักรของพระองค์
จะไม่ถูกทำลาย
การแก้ฝันของดาเนียล
15 ข้าพเจ้าดาเนียลเป็นทุกข์ฝ่ายวิญญาณ และภาพนิมิตในความนึกคิดทำให้ข้าพเจ้าตกใจกลัว 16 ข้าพเจ้าเข้าไปใกล้ผู้หนึ่งในบรรดาผู้ที่ยืนอยู่ที่นั่น และถามความจริงถึงเรื่องดังกล่าวทั้งสิ้น ท่านบอกข้าพเจ้า และให้ข้าพเจ้าทราบถึงการแก้ฝัน 17 ‘อสุรกายทั้ง 4 นี้คือกษัตริย์ทั้ง 4 ที่จะครองอำนาจบนแผ่นดินโลก 18 แต่บรรดาผู้บริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุดจะได้รับอาณาจักร และยึดอาณาจักรไว้ตลอดไป จนชั่วนิรันดร์กาล’
19 และข้าพเจ้าอยากทราบความจริงที่เกี่ยวกับอสุรกายตัวที่สี่ ซึ่งต่างจากตัวอื่นๆ เป็นตัวที่น่ากลัวอย่างมหันต์ มีฟันเหล็ก อุ้งเท้าทองสัมฤทธิ์ มันขย้ำและกัดเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ และใช้เท้าของมันเหยียบขยี้เศษที่เหลือ 20 ส่วนเขา 10 เขาบนหัว และเขาหนึ่งที่งอกขึ้นมางัด 3 เขาแรกที่อยู่ก่อนหลุดออก เขานี้มีตา และมีปากที่พูดโอ้อวด และดูน่ากลัวยิ่งกว่าเขาอื่นๆ 21 ขณะที่ข้าพเจ้ามองดู เขานี้ต่อสู้กับบรรดาผู้บริสุทธิ์ และมีชัยชนะ 22 จนกระทั่งองค์ผู้ดำรงชีวิตยั่งยืนตลอดกาลมา และพระองค์โปรดให้คำพิพากษาแก่บรรดาผู้บริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุด และเป็นเวลาที่บรรดาผู้บริสุทธิ์ได้รับอาณาจักร
23 ท่านกล่าวต่อไปว่า ‘ส่วนอสุรกายตัวที่สี่ก็คือ จะมีอาณาจักรที่สี่บนแผ่นดินโลก ซึ่งจะต่างจากบรรดาอาณาจักรทั้งปวง และอาณาจักรนั้นจะเขมือบทั้งแผ่นดินโลก จะเหยียบย่ำและขยี้ให้แตกออกเป็นชิ้นๆ 24 ส่วนเขา 10 เขาก็คือ จะมีกษัตริย์ 10 ท่านที่ครองอำนาจ และจะมีอีกท่านที่ครองอำนาจหลังจาก 10 ท่าน ท่านจะต่างจากกษัตริย์ท่านอื่นๆ ก่อนหน้าท่าน และจะปราบกษัตริย์ทั้งสามลง 25 ท่านจะพูดต่อต้านองค์ผู้สูงสุด และจะกดขี่ข่มเหงบรรดาผู้บริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุด และจะพยายามเปลี่ยนกฎบัญญัติและเทศกาลประจำปี และบรรดาผู้บริสุทธิ์จะอยู่ในอำนาจของท่านเป็นเวลา 1 วาระ 2 วาระ และครึ่งวาระ[g]
26 แต่ศาลจะเริ่มนั่งพิจารณาคดี และยึดอำนาจการปกครองในฐานะกษัตริย์ไป และทำลายล้างท่านจนหมดสิ้น 27 อาณาจักร การปกครอง และความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรทั้งหลายใต้ฟ้าสวรรค์จะถูกมอบให้แก่ชนชาติผู้บริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุด อาณาจักรของพวกเขาจะเป็นอาณาจักรที่ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์กาล ผู้ปกครองทั้งปวงจะรับใช้และเชื่อฟังพวกเขา’
28 เรื่องที่ข้าพเจ้าเห็นในฝันจบลงตรงนี้ ความนึกคิดของข้าพเจ้าดาเนียลทำให้ข้าพเจ้าตกใจกลัวมากและหน้าซีด แต่ข้าพเจ้าเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ”
แกะตัวผู้และแพะในภาพนิมิตที่สอง
8 ในปีที่สามของการครองราชย์ของกษัตริย์เบลชัสซาร์ ข้าพเจ้าดาเนียลเห็นภาพนิมิตหลังจากภาพนิมิตแรกที่ได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้า 2 ในภาพนิมิตที่ข้าพเจ้าเห็นนั้น ข้าพเจ้าอยู่ในสุสาเมืองป้อมปราการในแคว้นเอลาม ในภาพนิมิตที่เห็น ข้าพเจ้าอยู่ที่แม่น้ำอุลัย 3 ดูเถิด ข้าพเจ้าเงยหน้าเห็นแกะตัวผู้ตัวหนึ่งยืนอยู่บนฝั่งแม่น้ำ แกะตัวนี้มี 2 เขาซึ่งยาว แต่เขาหนึ่งยาวกว่าเขาอีกข้างหนึ่ง เขาที่ยาวกว่าดูใหม่กว่าเขาอีกข้าง 4 ข้าพเจ้าเห็นแกะผู้ตัวนั้นรีบรุดไปทางทิศตะวันตก ทิศเหนือ และทิศใต้ ไม่มีสัตว์ตัวใดยืนหยัดทนสู้แกะตัวนั้นได้ และไม่มีผู้ใดช่วยให้รอดปลอดภัยจากอำนาจของมันได้ มันทำตามความพอใจและทวีอำนาจของตน
5 ดูเถิด ขณะที่ข้าพเจ้าสังเกตดู มีแพะตัวผู้มาจากทิศตะวันตก ข้ามตลอดทางบนผิวโลกโดยไม่แตะพื้นดิน แพะตัวนี้มีเขาที่เด่นชัดอยู่ระหว่างคิ้ว 6 มันวิ่งกระโจนใส่แกะตัวผู้ที่มี 2 เขา ซึ่งข้าพเจ้าเห็นยืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำด้วยความดุดันยิ่งนัก 7 ข้าพเจ้าเห็นแพะเข้าไปใกล้แกะตัวผู้ และพุ่งชนแกะอย่างดุร้ายจนเขาทั้งสองข้างหักไป ส่วนแกะก็ไม่มีกำลังที่จะยืนหยัดสู้แพะได้ จึงถูกชนล้มลงและถูกเหยียบย่ำลงกับดิน และไม่มีผู้ใดช่วยแกะตัวผู้ให้รอดจากพลังของแพะได้ 8 แพะผู้ตัวนั้นทวีอำนาจยิ่งนัก แต่เมื่ออำนาจของมันถึงขีดสุด เขายาวของมันก็หักไป และมีเขา 4 เขาที่เด่นชัดงอกขึ้นมาแทนที่ แต่ละเขาชี้ไปทางลมทั้ง 4 ทิศของฟ้าสวรรค์
9 มีเขาเล็กเขาหนึ่งที่งอกจากหนึ่งในสี่เขา ซึ่งทวีอำนาจหันไปทางทิศใต้ ทิศตะวันออก และทางแผ่นดินอันงดงาม 10 เขานั้นงอกขึ้นสูงถึงชาวสวรรค์ และทำให้กลุ่มดาวกับดาวบางดวงตกลงสู่พื้นดินและถูกมันเหยียบย่ำ 11 มันถึงกับยกย่องตนเองเทียบเท่าราชาแห่งสวรรค์ มันเลิกล้างการถวายเครื่องสักการะประจำวันแด่พระองค์ และทำให้ที่พำนักของพระองค์ไม่เป็นที่เคารพ 12 ในเวลาเดียวกัน บรรดาผู้บริสุทธิ์และเครื่องสักการะที่ใช้เผาเป็นของถวายประจำวันก็อยู่ใต้อำนาจของการต่อต้านของมัน และความจริงถูกโยนทิ้งลงบนพื้นดิน มันทำสิ่งที่ใจต้องการและประสบกับความเจริญ 13 ครั้นแล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินผู้บริสุทธิ์ผู้หนึ่งพูดกับผู้บริสุทธิ์อีกผู้หนึ่งที่กำลังพูดอยู่ว่า “เรื่องต่างๆ ในภาพนิมิตจะเกิดขึ้นนานเท่าไรจึงจะบรรลุผล คือเรื่องเครื่องสักการะที่ใช้เผาเป็นของถวายประจำวัน การกระทำที่น่าชังซึ่งทำให้เกิดความวิบัติ[h] สถานที่บริสุทธิ์และบรรดาผู้บริสุทธิ์อยู่ใต้อำนาจของการต่อต้านและถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้าของมัน” 14 ท่านพูดตอบว่า “จะเกิดขึ้น 2,300 ครั้งของการมอบเครื่องสักการะในเวลาเช้าและเวลาเย็น แล้วสถานที่บริสุทธิ์ก็จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์อีกครั้ง”
แก้ฝันจากภาพนิมิต
15 เมื่อข้าพเจ้าดาเนียลได้เห็นภาพนิมิตแล้ว ข้าพเจ้าพยายามจะเข้าใจ ดูเถิด ผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าดูเหมือนมนุษย์ 16 ข้าพเจ้าได้ยินเสียงมนุษย์ที่ระหว่างฝั่งแม่น้ำอุลัย เสียงนั้นเรียก “กาเบรียล[i] ช่วยชายผู้นี้ให้เข้าใจภาพนิมิตเถิด” 17 ท่านจึงมาใกล้ที่ข้าพเจ้ายืนอยู่ เมื่อท่านมา ข้าพเจ้าก็ตกใจและก้มหน้าซบลงกับพื้น แต่ท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า “โอ บุตรมนุษย์ จงเข้าใจเถิดว่า ภาพนิมิตนั้นชี้ให้เห็นการสิ้นสุด”
18 ขณะที่ท่านกำลังพูดกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ตกอยู่ในภวังค์หน้าซบพื้น แต่ท่านแตะต้องตัวข้าพเจ้าและช่วยข้าพเจ้าให้ยืนขึ้น 19 ท่านพูดว่า “ดูเถิด เราจะให้ท่านทราบว่า อะไรจะเกิดขึ้นในภายหลังเมื่อความกริ้วคุกรุ่นขึ้น เพราะภาพนิมิตนั้นเป็นเรื่องของการสิ้นสุดที่กำหนดไว้แล้ว 20 ส่วนแกะตัวผู้ซึ่งมีเขา 2 เขาที่ท่านเห็นก็คือกษัตริย์ของมีเดียและเปอร์เซีย 21 ส่วนแพะตัวผู้ก็คือกษัตริย์ของกรีก และเขาที่เด่นชัดอยู่ที่ระหว่างคิ้วก็คือกษัตริย์ท่านแรก 22 ส่วนเขา 4 เขาที่ขึ้นมาแทนเขาแรกที่หัก ก็คือประชาชาตินั้นถูกแบ่งแยกออกเป็น 4 อาณาจักร แต่จะมีอำนาจไม่เท่ากับอาณาจักรแรก 23 ในตอนท้ายของการปกครองของพวกเขา เมื่อบรรดาผู้ล่วงละเมิดกระทำจนถึงขีดสุดแล้ว กษัตริย์ผู้มีสีหน้าดุร้ายเป็นผู้กอปรด้วยเล่ห์อุบายจะลุกขึ้นครองอำนาจ 24 ท่านจะมีอำนาจมาก และจะเป็นเหตุให้เกิดความพินาศอันน่าหวาดกลัว ท่านจะประสบกับความเจริญและทำสิ่งที่ใจต้องการ และจะทำลายบรรดาผู้มีใจกล้าหาญและบรรดาผู้บริสุทธิ์ 25 ท่านจะหลอกลวงได้สำเร็จก็เพราะความฉลาดแกมโกง และจิตใจของท่านจะฮึกเหิม และจะทำให้คนจำนวนมากพินาศ ท่านจะลุกขึ้นต่อต้านราชาแห่งราชาทั้งปวง ถึงกระนั้นก็ตามท่านจะถูกทำให้พินาศ แต่ไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์ 26 ภาพนิมิตของการมอบเครื่องสักการะในเวลาเช้าและเวลาเย็นที่ท่านได้ยินคำอธิบายแล้ว จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่จงเก็บภาพนิมิตนั้นไว้เป็นความลับ เพราะอีกนานก่อนที่จะเกิดขึ้น”
27 และข้าพเจ้าดาเนียลรู้สึกละเหี่ยเพลียใจและล้มป่วยอยู่หลายวัน แล้วข้าพเจ้าก็ลุกขึ้นปฏิบัติงานให้กษัตริย์ แต่ข้าพเจ้าตื่นตระหนกกับภาพนิมิต และไม่มีผู้ใดเข้าใจ
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation