The Daily Audio Bible
Today's audio is from the NET. Switch to the NET to read along with the audio.
หีบของพระยาห์เวห์ก่อปัญหาให้ชาวฟีลิสเตีย
5 หลังจากที่ชาวฟีลิสเตียได้ยึดหีบของพระเจ้าไป พวกเขาก็นำหีบจากเอเบนเอเซอร์ไปเมืองอัชโดด 2 จากนั้นพวกเขาก็แบกหีบนั้นไปไว้ในวัดของพระดาโกน[a] และตั้งไว้ข้างๆพระดาโกน 3 เช้าวันต่อมา ชาวเมืองอัชโดด ก็เห็นพระดาโกนล้มหน้าคว่ำอยู่บนพื้นต่อหน้าหีบของพระยาห์เวห์ พวกเขาจึงยกพระดาโกนขึ้นตั้งที่เดิม 4 แต่ในเช้าวันต่อมา พวกเขาก็พบพระดาโกนล้มหน้าคว่ำอยู่บนพื้นต่อหน้าหีบของพระยาห์เวห์ หัวและแขนทั้งสองข้างของพระดาโกนแตกหักอยู่ที่ธรณีประตู เหลือแต่เพียงลำตัว 5 เป็นเหตุให้ทุกวันนี้นักบวชของพระดาโกนและคนอื่นๆที่จะเข้าวัดพระดาโกนที่อัชโดดไม่เหยียบธรณีประตู
6 มือของพระยาห์เวห์ได้ทำให้ชีวิตของคนอัชโดดและเพื่อนบ้านลำบาก พระองค์ทำให้พวกเขาเจอกับปัญหามากมายและมีฝีเกิดขึ้น พระองค์ยังส่งหนูมาให้กับพวกเขาด้วย ตามพวกเรือของพวกเขามีหนูวิ่งพล่านไปหมด และหนูเหล่านั้นก็ยังขึ้นมาบนบกด้วย คนในเมืองต่างพากันหวาดกลัวมาก[b] 7 เมื่อคนอัชโดดเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาพูดว่า “ต้องไม่ให้หีบของพระยาห์เวห์อยู่กับพวกเราที่นี่ เพราะมือของพระองค์หนักอึ้งอยู่บนพวกเรา และบนพระดาโกนของพวกเราด้วย”
8 ดังนั้นคนอัชโดดจึงได้เรียกประชุมผู้นำฟีลิสเตียทุกคนและถามพวกเขาว่า “พวกเราควรจะทำอย่างไรดีกับหีบของพระของชาวอิสราเอล”
พวกผู้นำก็ตอบว่า “ย้ายหีบของพระของชาวอิสราเอลไปไว้ที่เมืองกัท” พวกเขาจึงได้ย้ายหีบของพระของชาวอิสราเอลไปที่เมืองกัท
9 แต่หลังจากที่คนอัชโดดได้ย้ายหีบไปแล้ว มือของพระยาห์เวห์ก็ได้ต่อต้านเมืองกัทนั้น พระองค์ทำให้คนทั้งเมืองสับสนวุ่นวายกันไปหมด คนในเมืองต่างได้รับความเจ็บปวดทรมานจากฝี ทั้งคนแก่และคนหนุ่มสาว 10 พวกเขาจึงส่งหีบของพระเจ้าไปเอโครน
เมื่อหีบของพระเจ้ามาถึงเมืองเอโครน ชาวเมืองก็ร้องว่า “พวกเขานำหีบของพระของอิสราเอลมาให้พวกเราเพื่อฆ่าพวกเราและชาวเมือง” 11 พวกเขาจึงเรียกประชุมผู้นำฟีลิสเตียทุกคนและพูดว่า “ส่งหีบของพระของอิสราเอลกลับไปเสีย ให้หีบนั้นกลับไปที่เดิมของมัน เพื่อว่ามันจะได้ไม่ฆ่าพวกเราและประชาชนของพวกเรา”
เพราะความตายทำให้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มือของพระเจ้าได้หนักอึ้งอยู่บนเมืองนี้ 12 คนที่ไม่ตายก็เป็นฝี และเสียงร้องของเมืองนี้ก็ดังขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์
หีบของพระยาห์เวห์ถูกส่งกลับบ้าน
6 เมื่อหีบของพระยาห์เวห์ ได้ไปอยู่ในเขตแดนของคนฟีลิสเตียเจ็ดเดือน 2 คนฟีลิสเตียจึงเชิญพวกนักบวชและหมอดูมาถามว่า “พวกเราควรทำยังไงกับหีบของพระยาห์เวห์ดี บอกพวกเราหน่อยว่าจะส่งหีบกลับไปที่เดิมยังไง”
3 พวกเขาตอบว่า “ถ้าเจ้าจะส่งหีบของพระของอิสราเอลกลับไป อย่าส่งกลับไปเปล่าๆ แต่เจ้าต้องส่งของถวายชดใช้ไปให้พระนั้นด้วย แล้วพวกเจ้าก็จะหายจากโรค และได้รับการไถ่ เจ้าต้องทำอย่างนี้ เพื่อพระนั้นจะหยุดลงโทษพวกเจ้า”[c]
4 คนฟีลิสเตียถามว่า “พวกเราควรส่งอะไรให้กับพระองค์นั้นเป็นของถวายชดใช้ความผิด”
พวกเขาตอบว่า “ส่งฝีห้าก้อนที่ทำจากทองคำและหนูทองคำห้าตัว ตามจำนวนของผู้นำฟีลิสเตีย เพราะโรคระบาดชนิดเดียวกันนี้ก็ได้เกิดกับพวกท่านและผู้นำของพวกท่านเหมือนกัน 5 ให้สร้างตามต้นแบบของฝีและหนูที่ทำลายเมืองของพวกท่าน แล้วให้เกียรติพระของอิสราเอล ไม่แน่พระนั้นอาจจะยกมือของพระองค์ไปพ้นจากพวกท่าน ไปจากพระทั้งหลายของพวกท่าน และไปจากแผ่นดินของพวกท่าน 6 ทำไมพวกท่านจะต้องทำใจให้ดื้อรั้นเหมือนกับคนอียิปต์และฟาโรห์ ที่ไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอลไป จนพระองค์นั้นต้องลงโทษพวกเขาอย่างโหดเหี้ยม เพื่อพวกเขาจะได้ปล่อยคนอิสราเอลให้ไปตามทางของพวกเขา
7 ตอนนี้ให้เตรียมเกวียนใหม่กับวัวตัวเมียสองตัวที่มีลูกแต่ไม่เคยลากเกวียนมาก่อน ให้ผูกเกวียนไว้กับวัวแต่เอาลูกวัวไปกักไว้[d] 8 เอาหีบของพระยาห์เวห์วางบนเกวียน และเอาหีบที่ใส่ทองที่เป็นของถวายชดใช้ความผิด วางไว้ข้างๆ แล้วปล่อยเกวียนไป 9 แต่ให้คอยดู ถ้าเกวียนไปที่แผ่นดินของเขาเอง โดยมุ่งหน้าตรงไปเมืองเบธเชเมช แสดงว่าพระยาห์เวห์เป็นผู้ทำให้เกิดภัยพิบัติแก่พวกเรา แต่ถ้ามันไปทางอื่นพวกเราจะได้รู้ว่าไม่ได้เป็นฝีมือของพระองค์นั้นหรอกที่โจมตีพวกเรา แต่มันเกิดขึ้นกับพวกเราโดยบังเอิญ”
10 คนฟีลิสเตียก็ทำตามนั้น พวกเขาเอาแม่วัวคู่หนึ่งมาเทียมเกวียน และขังลูกมันไว้ 11 แล้วเอาหีบของพระยาห์เวห์และหีบที่ใส่พวกหนูทองคำกับพวกฝีทองคำทั้งหมดขึ้นเกวียน 12 จากนั้นแม่วัวก็ออกเดินตรงไปยังเมืองเบธเชเมช แม่วัวเดินไปตามถนนและร้องไปตลอดทาง พวกมันไม่เลี้ยวซ้ายหรือขวาเลย ผู้นำฟีลิสเตียตามไปดูจนถึงเขตแดนเบธเชเมช
13 เวลานั้นชาวเมืองเบธเชเมชกำลังเกี่ยวข้าวสาลีในหุบเขา และเมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นหีบของพระยาห์เวห์ พวกเขาก็ดีใจกันใหญ่และตรงไปที่หีบใบนั้น 14 เกวียนได้เข้ามาในเขตทุ่งนาของโยชูวา ชาวเบธเชเมช และหยุดที่ข้างก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ชาวเมืองผ่าไม้จากเกวียนทำเป็นฟืน และฆ่าวัวคู่นั้นเผาเป็นเครื่องเผาบูชาให้แก่พระยาห์เวห์
15 คนเลวี[e] ก็นำหีบของพระยาห์เวห์และหีบใส่พวกทองคำลงมาวางไว้บนก้อนหินใหญ่นั้น ในวันนั้นชาวเมืองเบธเชเมชได้ถวายพวกเครื่องเผาบูชา และพวกเครื่องบูชาให้กับพระยาห์เวห์
16 ผู้นำทั้งห้าคนของฟีลิสเตียได้เห็นสิ่งต่างๆทั้งหมดนี้ และพวกเขาได้กลับไปเมืองเอโครนในวันนั้น
17 ก้อนฝีทองคำห้าก้อนที่คนฟีลิสเตียได้ส่งให้กับพระยาห์เวห์เป็นของถวายชดใช้ความผิดนั้น แต่ละก้อนแทนเมืองอัชโดด เมืองกาซา เมืองอัชเคโลน เมืองกัท และเมืองเอโครน 18 จำนวนหนูทองคำก็ทำขึ้นตามจำนวนเมืองต่างๆที่เป็นของผู้นำทั้งห้าของฟีลิสเตีย เมืองพวกนี้มีป้อมปราการ และแต่ละเมืองก็มีหมู่บ้านล้อมรอบมัน
หินก้อนใหญ่ซึ่งคนเบธเชเมชใช้วางหีบของพระยาห์เวห์ก็ยังตั้งเป็นพยานอยู่ในทุ่งนาของโยชูวาชาวเบธเชเมชมาจนถึงทุกวันนี้ 19 แต่เมื่อพวกผู้ชายชาวเบธเชเมชเห็นหีบของพระยาห์เวห์และเฉลิมฉลองกัน ไม่มีพวกนักบวชอยู่ในหมู่พวกเขา พระยาห์เวห์ก็เลยฆ่าคนเบธเชเมชไปเจ็ดสิบคน[f] ประชาชนก็ไว้ทุกข์เพราะพระยาห์เวห์ลงโทษพวกเขาอย่างรุนแรง 20 ชาวเมืองเบธเชเมชจึงถามว่า “ใครจะสามารถยืนอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้ หีบของพระเจ้าควรจะไปอยู่กับใครดี”
21 พวกเขาจึงส่งพวกคนนำข่าวไปยังชาวเมืองคิริยาท-เยอาริมว่า “คนฟีลิสเตียได้ส่งหีบของพระยาห์เวห์กลับมาให้แล้ว ขอให้ลงมารับหีบขึ้นไปอยู่กับท่านด้วย”
7 คนคิริยาท-เยอาริมจึงมารับหีบของพระยาห์เวห์ไป เขาได้นำหีบไปยังบ้านของอาบีนาดับที่อยู่บนเนินเขา และแต่งตั้งเอเลอาซาร์ ลูกชายของอาบีนาดับ ให้เป็นผู้ดูแลหีบของพระยาห์เวห์ 2 หีบของพระยาห์เวห์อยู่ที่คิริยาท-เยอาริมเป็นเวลานานถึงยี่สิบปี
พระยาห์เวห์ช่วยคนอิสราเอล
คนอิสราเอลทั้งหมดต่างก็เศร้าโศกและแสวงหาพระยาห์เวห์ 3 ซามูเอลจึงบอกกับครอบครัวทั้งหมดของอิสราเอลว่า “ถ้าท่านทั้งหลายจะกลับมาหาพระยาห์เวห์ด้วยสิ้นสุดใจของพวกท่าน ก็ให้ขจัดพวกพระของคนต่างชาติและพวกพระอัชทาโรทไป และสัญญาต่อพระยาห์เวห์ว่าจะรับใช้พระองค์เท่านั้น และพระองค์จะช่วยท่านให้พ้นจากเงื้อมมือของคนฟีลิสเตีย”
4 คนอิสราเอลจึงละทิ้งพวกพระบาอัลและพวกพระอัชทาโรทของพวกเขา และรับใช้พระยาห์เวห์เท่านั้น
5 จากนั้นซามูเอลได้พูดว่า “ให้เรียกประชุมคนอิสราเอลทั้งหมดที่มิสปาห์ และเราจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์เพื่อพวกท่าน”
6 เมื่อพวกเขามาประชุมกันที่มิสปาห์ พวกเขาตักน้ำมาเทออกต่อหน้าพระยาห์เวห์ ในวันนั้นพวกเขาอดอาหารและได้สารภาพผิดว่า “พวกเราได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์” ซามูเอลก็เป็นผู้นำ[g] ของอิสราเอลที่มิสปาห์
7 เมื่อคนฟีลิสเตียได้ยินข่าวเรื่องการชุมนุมของคนอิสราเอลที่มิสปาห์ พวกผู้นำของพวกเขาก็ได้ยกขึ้นไปโจมตีคนอิสราเอล และเมื่อคนอิสราเอลได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาต่างก็พากันตื่นกลัวชาวฟีลิสเตีย 8 พวกเขาจึงพูดกับซามูเอลว่า “อย่าหยุดร้องขอต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราเพื่อพวกเรา เพื่อพระองค์จะได้ช่วยชีวิตพวกเราให้พ้นจากเงื้อมมือของคนฟีลิสเตีย”
9 ซามูเอลจึงเอาลูกแกะที่ยังไม่หย่านมมาถวายเป็นเครื่องเผาบูชาให้กับพระยาห์เวห์ ซามูเอลร้องขอต่อพระยาห์เวห์แทนชาวอิสราเอล และพระยาห์เวห์ก็ตอบเขา 10 ขณะที่ซามูเอลกำลังเผาเครื่องบูชาอยู่นั้น คนฟีลิสเตียได้บุกเข้ามาใกล้แล้วเพื่อสู้รบกับคนอิสราเอล แต่วันนั้นพระยาห์เวห์ทำให้เกิดฟ้าร้องสนั่นหวั่นไหวใส่คนฟีลิสเตีย ทำให้พวกเขาตกใจขวัญหนีดีฝ่อ และถอยหนีไปจากคนอิสราเอล 11 คนอิสราเอลรีบออกมาจากเมืองมิสปาห์ และไล่ล่าฆ่าฟันคนฟีลิสเตีย ไปตลอดทางจนถึงบริเวณที่อยู่ใต้เมืองเบธคาร์
สันติภาพสู่อิสราเอล
12 จากนั้นซามูเอลก็นำก้อนหินก้อนหนึ่งมาตั้งไว้ระหว่างเมืองมิสปาห์และเมืองเยสชานาห์[h] และตั้งชื่อหินก้อนนั้นว่า “เอเบนเอเซอร์”[i] และพูดว่า “พระยาห์เวห์ได้ช่วยเหลือพวกเรามาจนถึงที่นี่”
13 ดังนั้นคนฟีลิสเตียที่พ่ายแพ้ จึงไม่เข้ามาบุกรุกแผ่นดินของอิสราเอลอีก ตลอดชีวิตของซามูเอลนั้น มือของพระยาห์เวห์ได้ต่อสู้กับคนฟีลิสเตีย 14 เมืองต่างๆจากเอโครนถึงกัท ที่คนฟีลิสเตียได้ยึดไปจากคนอิสราเอลนั้น พวกชาวอิสราเอลก็ได้ยึดคืนมา และชาวอิสราเอลยังช่วยให้ดินแดนรอบๆเมืองเหล่านั้นพ้นจากเงื้อมมือของคนฟีลิสเตีย
และมีสันติภาพเกิดขึ้นระหว่างคนอิสราเอลและคนอาโมไรต์ด้วย
15 ซามูเอลเป็นผู้นำของคนอิสราเอลไปตลอดชีวิตเขา 16 ทุกๆปีเขาจะเดินทางเวียนไปจนทั่วจากเมืองเบธเอลไปเมืองกิลกาลถึงเมืองมิสปาห์ เพื่อตัดสินคดีของชาวอิสราเอลในเมืองต่างๆเหล่านั้น 17 แล้วเขาก็จะกลับไปเมืองรามาห์ซึ่งเป็นบ้านของเขา และตัดสินคดีของคนอิสราเอลที่นั่นด้วย เขาได้สร้างแท่นบูชาสำหรับพระยาห์เวห์ไว้ที่นั่น
พระเยซูเลี้ยงคนกว่าห้าพัน
(มธ. 14:13-21; มก. 6:30-44; ลก. 9:10-17)
6 หลังจากนั้นพระเยซูข้ามไปอีกฟากหนึ่งของทะเลสาบกาลิลี (หรือทะเลสาบทิเบเรียส) 2 มีคนมากมายติดตามพระองค์ไป เพราะพวกเขาเห็นพระองค์ทำสิ่งอัศจรรย์ตอนรักษาคนป่วย 3 พระเยซูขึ้นไปบนภูเขา แล้วนั่งอยู่กับพวกศิษย์ของพระองค์ 4 ตอนนั้นใกล้จะถึงเทศกาลวันปลดปล่อยของชาวยิวแล้ว
5 เมื่อพระองค์เงยหน้าขึ้นก็เห็นคนมากมายพากันมาหาพระองค์ พระองค์พูดกับฟีลิปว่า “พวกเราจะไปซื้ออาหารที่ไหนถึงจะพอเลี้ยงคนทั้งหมดนี้” 6 (พระเยซูถามเพื่อลองใจฟีลิป เพราะพระองค์รู้อยู่แล้วว่าจะทำอย่างไร)
7 ฟีลิปตอบว่า “เงินค่าแรงเกือบแปดเดือน[a] ก็ยังไม่พอซื้ออาหารให้คนพวกนี้กินกันคนละนิดคนละหน่อยได้เลยครับ”
8 ศิษย์อีกคนหนึ่งของพระเยซู ชื่ออันดรูว์ น้องชายของซีโมนเปโตรบอกพระองค์ว่า 9 “มีเด็กชายคนหนึ่งที่นี่ มีขนมปังบาร์เลย์อยู่ห้าก้อน กับปลาอีกสองตัวครับ แต่แค่นี้จะไปพออะไรกับคนตั้งมากมายขนาดนี้”
10 พระเยซูบอกพวกศิษย์ว่า “บอกให้พวกเขานั่งลง” (ที่นั่นมีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด) แล้วทุกคนก็นั่งลง (มีผู้ชายประมาณห้าพันคนในฝูงชนนั้น) 11 พระเยซูเอาขนมปังของเด็กน้อยคนนั้นมา เมื่อขอบคุณพระเจ้าเสร็จแล้ว ก็แบ่งขนมปังแจกให้กับทุกๆคนที่นั่งอยู่ที่พื้นนั้นอย่างไม่อั้น และพระองค์ก็หยิบปลามาทำอย่างเดียวกัน
12 เมื่อผู้คนกินกันจนอิ่มแล้ว พระองค์สั่งพวกศิษย์ว่า “เก็บขนมปังที่เหลือให้หมด จะได้ไม่เสียของ” 13 พวกศิษย์ก็เก็บเศษที่เหลือจากขนมปังห้าก้อนนี้ได้สิบสองเข่งเต็มๆ
14 เมื่อคนพวกนี้เห็นสิ่งอัศจรรย์ที่พระองค์ทำ เขาเริ่มพูดกันว่า “คนนี้ต้องเป็นผู้พูดแทนพระเจ้าคนนั้นที่ว่ากันว่าจะมาในโลกนี้แน่ๆ”
15 เมื่อพระเยซูรู้ว่าพวกเขาจะมาบีบบังคับให้พระองค์ไปเป็นกษัตริย์ของพวกเขา พระองค์ก็หลบขึ้นไปบนภูเขาเพียงคนเดียว
พระเยซูเดินบนน้ำ
(มธ. 14:22-27; มก. 6:45-52)
16 พอตกเย็นพวกศิษย์ของพระองค์ไปที่ทะเลสาบ 17 พวกเขาลงเรือและเริ่มข้ามฟากไปที่เมืองคาเปอรนาอุม ตอนนั้นมืดแล้ว แต่พระเยซูยังไม่ได้มาหาพวกเขา 18 เกิดพายุขึ้นทำให้คลื่นในทะเลสาบปั่นป่วนรุนแรงมาก 19 หลังจากที่พวกศิษย์พายเรือออกจากฝั่งมาได้ประมาณห้าถึงหกกิโลเมตร พวกเขาเห็นพระเยซูกำลังเดินอยู่บนน้ำตรงมาที่เรือ พวกเขาต่างก็ตกใจกลัว 20 แต่พระเยซูพูดกับพวกเขาว่า “นี่เราเอง ไม่ต้องกลัว” 21 พวกเขาก็ดีอกดีใจและรับพระองค์ขึ้นมาบนเรือ แล้วเรือก็ถึงฝั่งที่พวกเขาจะไปทันที
13 แต่ไม่นานนักพวกเขาก็ลืมสิ่งทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำให้กับพวกเขา
และไม่ยอมคอยฟังว่าพระองค์จะให้พวกเขาทำอะไร
14 พวกเขาก็ใคร่อยากจะกินเนื้อจนตัวสั่นในทะเลทรายนั้น
และท้าทายพระเจ้าในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนั้น
15 ดังนั้นพระองค์จึงให้สิ่งที่พวกเขาร้องขอ
แต่พระองค์ก็แถมโรคร้ายมาให้ด้วย
16 บางคนในค่ายพักอิจฉาริษยาโมเสส
และอาโรนนักบวชผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์
17 ดังนั้นแผ่นดินได้แยกออกดูดกลืนดาธานลงไป
และกลบพรรคพวกของอาบีรัม
18 มีไฟลุกลามใหญ่โตท่ามกลางพรรคพวกที่เหลือของเขา
เปลวไฟได้เผาผลาญคนชั่วเหล่านั้น
19 แล้วบรรพบุรุษก็สร้างลูกวัวทองคำขึ้นมาที่ภูเขาโฮเรบ
และก้มกราบนมัสการรูปที่หล่อจากโลหะนั้น
20 พวกเขาเอาพระเจ้าผู้เต็มไปด้วยบารมี
ไปแลกกับรูปหล่อของวัวตัวผู้ที่กินหญ้า
21 พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ที่ช่วยชีวิตพวกเขาให้รอด
และผู้ที่ทำสิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหลายในอียิปต์
22 พระเจ้าทำสิ่งที่น่าทึ่งทั้งหลายในดินแดนของฮาม
และทำสิ่งที่น่ายำเกรงหลายอย่างที่ทะเลแดง
23 พระเจ้าบอกว่าพระองค์จะทำลายอิสราเอล
แต่โมเสส ผู้นำที่พระองค์เลือกมาได้มายืนขวางไว้
ทำให้อารมณ์โกรธแค้นของพระองค์สงบลง
พระองค์ก็เลยไม่ทำลายล้างอิสราเอล
24 แล้วพวกเขาก็ปฏิเสธไม่ยอมเข้าไปในดินแดนคานาอันที่น่าอยู่
พวกเขาไม่เชื่อคำสัญญาของพระองค์ที่จะช่วยเขา
25 พวกเขานั่งบ่นต่อว่าพระเจ้าอยู่ในเต็นท์ของพวกเขา
และไม่ยอมฟังเสียงของพระยาห์เวห์
26 ดังนั้นพระองค์จึงยกมือขึ้นสาบานว่า
พระองค์จะทำให้พวกเขาล้มตายไปในทะเลทราย
27 และพระองค์ทำให้ลูกหลานของพวกเขากระจัดกระจายไปตามชนชาติต่างๆ
และไล่พวกเขาให้ไปอยู่ตามดินแดนต่างๆที่ห่างไกล
28 แล้วพวกเขาก็ไปร่วมนมัสการพระบาอัลที่เมืองเปโอร์
และกินเครื่องเซ่นไหว้คนตาย[a]
29 การกระทำของพวกเขาทำให้พระยาห์เวห์โกรธ
พระองค์จึงทำให้เกิดโรคระบาดขึ้นในหมู่พวกเขา
30 แล้วฟีเนหัสได้จัดการกับคนที่ทำผิด
แล้วโรคระบาดนั้นก็หยุดลง
31 สิ่งที่ฟีเนหัสทำนี้ ทำให้พระเจ้าพอใจ
และเป็นที่จดจำไปตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International