Print Page Options Listen to Reading
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the NLT. Switch to the NLT to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 ซามูเอล 15:23-16

23 ประชาชน[a] ทั้งหมดต่างร้องไห้ด้วยเสียงอันดังเมื่อขบวนคนเหล่านี้เดินผ่านไป กษัตริย์ได้ข้ามลำธารขิดโรน และคนทั้งหมดได้เดินทางมุ่งสู่ทะเลทราย 24 ศาโดกอยู่ที่นั่นด้วย และชาวเลวีทั้งหมดที่อยู่กับเขากำลังถือหีบแห่งข้อตกลงของพระเจ้า พวกเขาวางหีบของพระเจ้าลงและอาบียาธาร์ก็ถวายเครื่องบูชา[b] จนกระทั่งประชาชนทั้งหมดออกจากเมือง

25 แล้วกษัตริย์ก็พูดกับศาโดกว่า “ให้นำหีบของพระเจ้ากลับเข้าไปในเมือง ถ้าพระยาห์เวห์พอใจในตัวเรา พระองค์ก็จะนำเรากลับมาและให้เราได้เห็นหีบนั้นและที่อาศัยของพระองค์อีกครั้งหนึ่ง 26 แต่ถ้าพระองค์พูดว่า ‘เราไม่พอใจเจ้า’ เราก็พร้อมที่จะให้พระองค์ทำกับเราตามที่พระองค์เห็นว่าดี”

27 กษัตริย์พูดกับนักบวชศาโดกด้วยว่า “ท่านเป็นผู้พูดแทนพระเจ้าไม่ใช่หรือ กลับไปในเมืองอย่างสงบพร้อมกับอาหิมาอัสลูกชายของท่านและโยนาธานลูกชายของอาบียาธาร์ ท่านและอาบียาธาร์ พาลูกชายของพวกท่านทั้งสองคนกลับไปเถอะ 28 เราจะคอยอยู่ที่ตรงทางข้ามแม่น้ำที่เข้าไปยังทะเลทราย จนกว่าพวกท่านจะมาบอกข่าวเรา”

29 ดังนั้นศาโดกและอาบียาธาร์จึงนำหีบของพระเจ้ากลับเยรูซาเล็มและอยู่ที่นั่น

คำแนะนำของอาหิโธเฟลสับสนไป

30 ดาวิดเดินทางต่อไปบนภูเขามะกอกเทศ เขาเดินไปร้องไห้ไป เขาเอาผ้าคลุมหัวไว้และเดินเท้าเปล่า ประชาชนทั้งหมดที่อยู่กับเขาก็คลุมหัวพวกเขาด้วยและเดินร้องไห้ไปด้วยเหมือนกัน

31 ขณะนั้น มีคนมาบอกดาวิดว่า “อาหิโธเฟลอยู่ในหมู่ผู้สมรู้ร่วมคิดกับอับซาโลมด้วย” ดาวิดอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอเปลี่ยนคำแนะนำของอาหิโธเฟลให้ใช้การไม่ได้ด้วยเถิด” 32 เมื่อดาวิดมาถึงยอดเขาที่คนเขานมัสการพระเจ้ากัน หุชัยชาวอารคีได้คอยอยู่ที่นั่นเพื่อพบดาวิด เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดและมีฝุ่นอยู่เต็มหัวเขา[c]

33 ดาวิดพูดกับเขาว่า “ถ้าเจ้าไปกับเรา เจ้าจะเป็นภาระให้กับเรา 34 แต่ถ้าเจ้ากลับเข้าเมืองไปและพูดกับอับซาโลมว่า ‘ข้าแต่กษัตริย์ ตอนนี้เราจะเป็นผู้รับใช้ท่าน ในอดีตเราเคยเป็นคนรับใช้พ่อของท่านมาก่อน แต่เดี๋ยวนี้เราจะเป็นคนรับใช้ท่าน’ แล้วเจ้าจะช่วยเราได้ ด้วยการคอยก่อกวนคำแนะนำของอาหิโธเฟล 35 เจ้ายังมีนักบวชศาโดกและอาบียาธาร์คอยช่วยเหลืออยู่ที่นั่น บอกพวกเขาทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าได้ยินภายในวังของกษัตริย์ 36 อาหิมาอัสลูกชายศาโดกและโยนาธานลูกชายอาบียาธาร์จะอยู่ที่นั่นกับพวกเขา เจ้าสามารถส่งพวกเขามาบอกเราในสิ่งที่เจ้าได้ยินมา”

37 ดังนั้นหุชัยที่ปรึกษาของกษัตริย์จึงกลับเข้าไปในเมืองเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่อับซาโลมเข้าเมืองมาพอดี

ศิบาพบดาวิด

16 เมื่อดาวิดผ่านยอดเขาไปได้ระยะหนึ่ง ศิบาคนรับใช้ของเมฟีโบเชทกำลังคอยเขาอยู่ที่นั่น เขามีลาที่ผูกอานไว้แล้วคู่หนึ่ง บรรทุกขนมปังไว้สองร้อยก้อน เค้กองุ่นแห้งหนึ่งร้อยก้อน เค้กผลไม้ฤดูร้อนหนึ่งร้อยก้อนและถุงหนังใส่เหล้าองุ่นอีกหนึ่งถุง กษัตริย์ถามศิบาว่า “เจ้านำของเหล่านี้มาทำไม”

ศิบาตอบว่า “ลาพวกนี้สำหรับครอบครัวของกษัตริย์ขี่ ขนมปังและผลไม้ไว้ให้คนเหล่านี้กินและเหล้าองุ่นสำหรับคนที่เหนื่อยดื่มให้เกิดความสดชื่นในทะเลทราย”

กษัตริย์จึงถามว่า “เมฟีโบเชท หลานของนายเจ้าอยู่ที่ไหน”

ศิบาบอกเขาว่า “เขายังอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม เพราะเขาคิดว่า ‘วันนี้ครอบครัวอิสราเอลจะคืนอาณาจักรของพ่อเราให้กับเรา’”

กษัตริย์จึงพูดกับศิบาว่า “ตอนนี้ทุกอย่างที่เคยเป็นของเมฟีโบเชทก็ตกเป็นของเจ้าแล้ว”

ศิบาพูดว่า “ข้าพเจ้าขอกราบท่าน ขอให้ข้าพเจ้าได้รับความกรุณาในสายตาของท่าน กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า”

ชิเมอีสาปแช่งดาวิด

เมื่อกษัตริย์ดาวิดมาถึงเมืองบาฮูริม ชายคนหนึ่งที่มาจากตระกูลเดียวกับครอบครัวซาอูลออกมาจากที่นั่น เขาชื่อชิเมอีลูกชายเกรา เขาเดินไปและสาปแช่งดาวิดไปด้วย

เขาขว้างปาก้อนหินใส่ดาวิดกับเจ้าหน้าที่ของเขา แต่มีกองทหารป้องกันอยู่ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของดาวิด ชิเมอีสาปแช่งดาวิดว่า “ออกไป ออกไป ไอ้ฆาตกร ไอ้คนถ่อย พระยาห์เวห์ได้ตอบแทนเจ้าแล้ว ที่เจ้าทำให้เลือดของครอบครัวซาอูลต้องไหลนองในที่ที่เจ้าได้ปกครอง พระยาห์เวห์มอบอาณาจักรนั้นให้กับอับซาโลมลูกชายเจ้าแล้ว เจ้าถูกทำลายแล้วเพราะเจ้ามันเป็นไอ้ฆาตกร”

อาบีชัยลูกชายนางเศรุยาห์จึงพูดกับกษัตริย์ว่า “ทำไมถึงปล่อยให้เจ้าหมาตายตัวนี้มาสาปแช่งกษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า ให้ข้าพเจ้าออกไปตัดหัวมันเถิด”

10 แต่กษัตริย์พูดว่า “พวกลูกชายนางเศรุยาห์เอ๋ย มันเรื่องอะไรของพวกเจ้า ใช่แล้วชิเมอีกำลังสาปแช่งเรา แต่อาจจะเป็นเพราะพระยาห์เวห์บอกเขาว่า ‘ไปสาปแช่งดาวิดซะ’ แล้วมีประโยชน์อะไรที่จะไปถามเขาว่า ‘ทำไมเจ้าถึงทำอย่างนี้’”

11 ดาวิดจึงพูดกับอาบีชัยและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของเขาว่า “ขนาดลูกชายของเราที่เป็นเลือดเนื้อของเราเอง ยังพยายามจะเอาชีวิตเราเลย แล้วนับประสาอะไรกับชาวเบนยามินคนนี้ ปล่อยเขาไปเถิด ให้เขาสาปแช่งไป เพราะพระยาห์เวห์บอกให้เขาทำอย่างนั้น 12 ไม่แน่ บางทีพระยาห์เวห์อาจเห็นความทุกข์ของเราและตอบแทนเราด้วยสิ่งดีๆแทนคำสาปแช่งที่เราได้รับในวันนี้ก็ได้”

13 ดังนั้นดาวิดกับคนของเขาจึงเดินทางต่อไปตามถนน ในขณะที่ชิเมอีก็เดินไปตามข้างเนินเขาด้านตรงข้ามเขา ขว้างก้อนหินดินทรายไปและสาปแช่งดาวิดไป

14 กษัตริย์และประชาชนทั้งหมดมาถึงแม่น้ำจอร์แดนด้วยความเหนื่อยล้า และพวกเขาก็ได้พักผ่อนกันที่นั่น

15 ในขณะนั้นอับซาโลมและคนอิสราเอลทั้งหมดมาถึงเยรูซาเล็มและอาหิโธเฟลก็อยู่กับเขาด้วย 16 แล้ว หุชัยชาวอารคี เพื่อนของดาวิดก็ไปหาอับซาโลมและพูดกับเขาว่า “กษัตริย์จงเจริญ กษัตริย์จงเจริญ”

17 อับซาโลมถามหุชัยว่า “เจ้าแสดงความจงรักภักดีต่อดาวิดเพื่อนของเจ้าอย่างนี้หรือ ทำไมเจ้าถึงไม่ไปกับเพื่อนของเจ้า”

18 หุชัยพูดกับอับซาโลมว่า “ไม่ไปหรอก ข้าพเจ้าจะอยู่กับคนที่พระยาห์เวห์เลือก ประชาชนและคนอิสราเอลเหล่านี้เลือกท่าน ข้าพเจ้าก็จะอยู่กับท่านตลอดไป 19 ในอดีต ข้าพเจ้าเคยรับใช้พ่อของท่าน ตอนนี้ ข้าพเจ้าก็สมควรจะรับใช้ท่าน ลูกชายของดาวิด ไม่ใช่หรือ”

อาหิโธเฟลแนะนำอับซาโลม

20 อับซาโลมพูดกับอาหิโธเฟลว่า “ช่วยแนะนำหน่อย ว่าพวกเราควรจะทำอย่างไร”

21 อาหิโธเฟลตอบว่า “ไปนอนกับเมียน้อย[d] ของพ่อท่านที่ยังอยู่ดูแลวังสิ แล้วอิสราเอลทั้งหมดจะได้รู้ว่าท่านทำตัวเป็นศัตรูกับพ่อของท่าน แล้วพวกเขาทุกคนที่อยู่กับท่านจะได้กล้าขึ้นและสนับสนุนท่านอย่างเต็มที่”

22 พวกเขาจึงตั้งเต็นท์ให้อับซาโลมบนดาดฟ้า และอับซาโลมก็นอนกับเมียน้อยของพ่อเขาท่ามกลางสายตาของชาวอิสราเอล 23 ในสมัยนั้นคำแนะนำที่มาจากอาหิโธเฟล ถือกันว่าเป็นเหมือนคำแนะนำที่มาจากพระเจ้า นั่นเป็นเหตุที่ทั้งดาวิดและอับซาโลมให้ความเคารพนับถือในคำแนะนำทั้งหมดของอาหิโธเฟล

ยอห์น 18:25-19:22

เปโตรพูดอีกว่าไม่รู้จักพระเยซู

(มธ. 26:71-75; มก. 14:69-72; ลก. 22:58-62)

25 ขณะที่ซีโมนเปโตรยืนผิงไฟอยู่นั้น พวกเขาได้ถามว่า “แกแน่ใจหรือว่าไม่ได้เป็นศิษย์ของคนนั้น”

เปโตรตอบปฏิเสธว่า “ไม่ ผมไม่ได้เป็น”

26 ทาสคนหนึ่งของหัวหน้านักบวชสูงสุด ซึ่งเป็นญาติของชายที่ถูกเปโตรฟันหูขาดได้พูดกับเปโตรว่า “แกอยู่กับชายคนนั้นในสวนนี่”

27 เปโตรได้ปฏิเสธอีกครั้งหนึ่ง และทันใดนั้นไก่ก็ขัน

พระเยซูถูกนำตัวไปหาปีลาต

(มธ. 27:1-2, 11-31; มก. 15:1-20; ลก. 23:1-25)

28 ในตอนเช้ามืดพวกเขาได้นำตัวพระเยซูจากบ้านของคายาฟาสไปที่วังของเจ้าเมืองโรมัน[a] พวกยิวเองไม่ได้เข้าไปในวังนั้น เพราะจะทำให้พวกเขาไม่สะอาด[b] ตามพิธีกรรมทางศาสนา แล้วจะทำให้พวกเขาไม่สามารถร่วมฉลองในเทศกาลวันปลดปล่อยได้ 29 ปีลาตจึงออกมาหาพวกเขาข้างนอกและถามว่า “พวกเจ้าจะฟ้องร้องเขาด้วยเรื่องอะไรกัน”

30 พวกเขาตอบปีลาตว่า “ถ้ามันไม่ได้เป็นผู้ร้ายพวกเราก็คงจะไม่เอาตัวมันมาให้ท่านหรอก”

31 ปีลาตจึงบอกกับพวกเขาว่า “ถ้างั้นพวกเจ้าก็เอาเขาไปตัดสินลงโทษตามกฎปฏิบัติของพวกเจ้าเองสิ”

พวกยิวบอกปีลาตว่า “แต่ตามกฎหมายของโรมันไม่อนุญาตให้พวกเราประหารชีวิตใคร” 32 ที่เป็นอย่างนี้เพื่อให้เป็นจริงตามที่พระเยซูได้พูดไว้ว่าพระองค์จะต้องตายอย่างไร

33 ปีลาตกลับเข้าไปในวังของเขา และเรียกพระเยซูมาถามว่า “แกเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ”

34 พระเยซูตอบว่า “คุณสงสัยเอง หรือได้ยินคนอื่นพูดถึงเรา”

35 ปีลาตจึงตอบว่า “แกคิดว่าเราเป็นคนยิวหรือไง คนของแกเองและพวกหัวหน้านักบวชนั่นแหละมอบตัวแกมาให้กับเรา แกทำอะไรผิดมา”

36 พระเยซูตอบว่า “อำนาจของเราที่จะปกครองไม่ได้มาจากโลกนี้ เพราะถ้าหากเป็นอย่างนั้น คนของเราก็คงจะต่อสู้ไม่ให้พวกยิวจับเรา ดังนั้นอำนาจของเราที่จะปกครองไม่ได้มาจากโลกนี้”

37 ปีลาตจึงบอกพระองค์ว่า “ถ้าอย่างนั้น แกก็เป็นกษัตริย์น่ะสิ”

พระเยซูตอบว่า “คุณพูดถูกแล้วที่ว่าเราเป็นกษัตริย์ นี่เป็นเหตุที่เรามาเกิดและเข้ามาในโลกนี้ เพื่อบอกคนเกี่ยวกับความจริง และทุกๆคนที่อยู่ฝ่ายความจริง ก็ฟังเสียงของเรา”

38 ปีลาตถามพระองค์ว่า “ความจริงอะไรกัน” เมื่อเขาถามแล้วก็ได้ออกไปหาพวกยิวอีก และบอกพวกเขาว่า “เราไม่เห็นว่าเขามีความผิดตรงไหน 39 พวกเจ้ามีธรรมเนียมที่จะให้เราปล่อยนักโทษคนหนึ่งในช่วงเทศกาลวันปลดปล่อย พวกเจ้าอยากให้เราปล่อยตัว ‘กษัตริย์ของชาวยิว’ รึเปล่า”

40 แต่พวกยิวร้องตะโกนว่า “อย่าปล่อยมัน ขอให้ปล่อยบารับบัสแทน” (บารับบัสเป็นผู้ก่อการจลาจลการเมือง)

19 ปีลาตจึงสั่งให้เอาพระเยซูไปเฆี่ยน พวกทหารได้เอากิ่งหนามมาสานเป็นมงกุฎสวมหัวของพระองค์ เอาเสื้อคลุมสีม่วงมาใส่ให้ และพวกเขาก็เวียนกันเข้ามาหาพระองค์หลายรอบ เขาเยาะเย้ยว่า “กษัตริย์ของชาวยิวจงเจริญ” แล้วเขาตบหน้าพระองค์

ปีลาตได้ออกมาพูดกับพวกยิวว่า “ดูนี่ เรากำลังจะเอาเขาออกมาให้พวกคุณ เพื่อพวกคุณจะได้รู้ว่า เราไม่เห็นว่าเขาทำผิดตรงไหน” แล้วพระเยซูก็ออกมา พระองค์สวมมงกุฎหนามและใส่เสื้อคลุมสีม่วง ปีลาตบอกกับพวกยิวว่า “เขาอยู่นี่ไง”

เมื่อพวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้คุมวิหารเห็นพระเยซูก็ร้องตะโกนว่า “ตรึงมัน ตรึงมัน”

แต่ปีลาตตอบว่า “พวกคุณไปตรึงกันเอาเองก็แล้วกัน เพราะเราไม่เห็นว่าเขาทำผิดตรงไหนเลย”

พวกยิวตอบว่า “ตามกฎปฏิบัติของยิว บอกว่ามันทำผิดสมควรตายเพราะอ้างว่าเป็นบุตรของพระเจ้า”

เมื่อปีลาตได้ยินอย่างนั้นก็กลัวจนตัวสั่น แล้วเขาก็กลับเข้าไปในวังอีกครั้ง ปีลาตได้ถามพระเยซูว่า “แกมาจากไหน” แต่พระองค์ไม่ตอบ 10 ปีลาตจึงพูดกับพระองค์ว่า “แกไม่ยอมพูดกับเราหรือ แกไม่รู้หรือว่าเรามีอำนาจที่จะปล่อยหรือตรึงแกก็ได้”

11 พระเยซูจึงตอบเขาว่า “ถ้าพระเจ้าไม่ได้ให้อำนาจนั้นกับคุณ คุณก็ไม่มีอำนาจเหนือเราหรอก ดังนั้นคนที่มอบตัวเราให้กับคุณ ก็มีความผิดบาปร้ายแรงกว่าคุณ”

12 เมื่อปีลาตได้ยินอย่างนั้น เขาก็พยายามที่จะปล่อยพระเยซูอีก แต่พวกยิวร้องตะโกนว่า “ถ้าท่านปล่อยมัน ท่านก็ไม่ใช่เพื่อนของซีซาร์ เพราะคนที่อ้างตัวเองเป็นกษัตริย์นั้นเป็นศัตรูกับซีซาร์”

13 เมื่อปีลาตได้ฟังอย่างนั้นจึงพาพระเยซูออกมา และเขาก็นั่งลงบนบัลลังก์พิพากษาตรงที่เรียกว่า “ลานหิน” (ซึ่งในภาษาอารเมค[c] เรียกว่า “กับบาธา”)

14 วันนั้นเป็นวันศุกร์ เป็นวันจัดเตรียมสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อย ประมาณเที่ยงวัน ปีลาตได้บอกกับพวกยิวว่า “นี่ไง กษัตริย์ของพวกคุณ” พวกยิวร้องตะโกนว่า

15 “เอาตัวไป เอาตัวไปตรึงที่กางเขน”

ปีลาตจึงถามพวกเขาว่า “จะให้เราตรึงกษัตริย์ของพวกคุณหรือ”

พวกหัวหน้านักบวชตอบว่า “เราไม่มีกษัตริย์อื่น นอกจากซีซาร์”

16 แล้วปีลาตได้ส่งตัวพระเยซูไปให้กับทหารเพื่อเอาไปตรึงที่ไม้กางเขน แล้วพวกทหารก็มาเอาตัวพระเยซูไป

พระเยซูตายบนไม้กางเขน

(มธ. 27:32-44; มก. 15:21-32; ลก. 23:26-43)

17 พระองค์ต้องแบกไม้กางเขนที่จะใช้ตรึงพระองค์เองไปถึงที่แห่งหนึ่งเรียกว่า “หัวกะโหลก” (ในภาษาอารเมคเรียกว่า กลโกธา) 18 แล้วพวกเขาก็จับพระเยซูตรึงบนไม้กางเขนที่นั่น พวกเขาได้ตรึงนักโทษชายอีกสองคนด้วย พระเยซูอยู่ระหว่างนักโทษสองคนนั้น 19 ปีลาตได้เขียนป้ายติดไว้บนกางเขนว่า “เยซู ชาวนาซาเร็ธ กษัตริย์ของชาวยิว” 20 คนยิวเป็นจำนวนมากได้อ่านป้ายนี้ เพราะที่ที่พระเยซูถูกตรึงนี้อยู่ใกล้กับตัวเมือง และป้ายนั้นเขียนเป็นภาษาอารเมค ลาตินและกรีก 21 พวกหัวหน้านักบวชพูดกับปีลาตว่า “อย่าเขียนว่า ‘กษัตริย์ของชาวยิว’ แต่ให้เขียนว่า ‘ชายคนนี้อ้างว่า เป็นกษัตริย์ของชาวยิว’”

22 แต่ปีลาตตอบว่า “เขียนแล้ว ก็แล้วไป”

สดุดี 119:113-128

ซาเมค

113 ข้าพเจ้าเกลียดชังคนสองใจ
    แต่ข้าพเจ้ารักคำสั่งสอนของพระองค์
114 พระองค์เป็นที่ซ่อนและเป็นโล่ของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าฝากความหวังไว้กับคำสัญญาของพระองค์
115 ไอ้พวกทำชั่วทั้งหลาย ไปให้ห่างจากข้า
    เพื่อข้าจะได้รักษาบัญญัติทั้งหลายของพระเจ้าของข้า
116 พระยาห์เวห์เจ้าข้า โปรดค้ำจุนข้าพเจ้าอย่างที่พระองค์สัญญาไว้
    แล้วข้าพเจ้าจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป อย่าทำให้ข้าพเจ้าผิดหวังเลย
117 ช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยเถิดเพื่อข้าพเจ้าจะได้รอด
    และจะได้เรียนรู้กฎระเบียบของพระองค์เป็นประจำ
118 พระองค์ไม่ยอมรับคนเหล่านั้นที่หลงไปจากกฎระเบียบของพระองค์
    การหลอกลวงของพวกเขาไม่สามารถหลอกพระองค์ได้
119 คนชั่วทุกคนบนโลกนี้เป็นเหมือนขี้แร่ที่พระองค์เขี่ยทิ้งไป
    ข้าพเจ้าจึงรักกฎต่างๆของพระองค์
120 ข้าพเจ้ากลัวจนตัวสั่นอยู่ต่อหน้าพระองค์
    ข้าพเจ้าเคารพยำเกรงกฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์

ไอเยน

121 ข้าพเจ้าทำในสิ่งที่ยุติธรรมและถูกต้อง
    อย่าปล่อยข้าพเจ้าไว้กับคนพวกนั้นที่กดขี่ข่มเหงข้าพเจ้า
122 โปรดรับประกันว่าพระองค์จะดูแลข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์
    อย่าปล่อยให้คนหยิ่งยโสพวกนั้นกดขี่ข่มเหงข้าพเจ้าเลย
123 ดวงตาของข้าพเจ้าเหนื่อยล้าเพราะเฝ้ามองว่าเมื่อไหร่พระองค์จะมาช่วยเสียที
    และเฝ้าคอยความยุติธรรมที่พระองค์สัญญาว่าจะให้
124 ได้โปรดแสดงความรักมั่นคงของพระองค์กับข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ด้วยเถิด
    และสั่งสอนกฎระเบียบต่างๆของพระองค์ให้กับข้าพเจ้าด้วยเถิด
125 ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์โปรดให้ความเฉลียวฉลาดกับข้าพเจ้า
    เพื่อข้าพเจ้าจะได้เข้าใจกฎต่างๆของพระองค์
126 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ถึงเวลาที่พระองค์จะทำอะไรสักอย่างแล้ว
    เพราะผู้คนกำลังฝ่าฝืนคำสั่งสอนของพระองค์
127 แน่นอนข้าพเจ้ารักบัญญัติต่างๆของพระองค์
    มากกว่าทองคำและรักยิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์เสียอีก
128 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงทำตามคำสั่งต่างๆของพระองค์
    และเกลียดชังการกระทำที่หลอกลวงทั้งปวง

สุภาษิต 16:10-11

10 คำตัดสินของพระเจ้าอยู่ที่ริมฝีปากของกษัตริย์
    ดังนั้นเมื่อกษัตริย์ตัดสิน ปากของพระองค์ไม่เคยพูดผิด
11 พระยาห์เวห์สนใจว่า ตราชูและตาชั่งนั้นว่าเที่ยงตรงหรือเปล่า
    น้ำหนักของลูกตุ้มแต่ละลูกที่อยู่ในถุง เป็นธุระของพระองค์

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International