Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the NIV. Switch to the NIV to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
บทเพลง​ไพเราะ 1-4

สุดยอดแห่งเพลงไพเราะที่อุทิศให้กับกษัตริย์ซาโลมอน[a]

หญิงสาวพูดกับคู่รักของนาง

ฉันอยากให้เธอจูบฉันซ้ำแล้วซ้ำอีก
    เพราะการร่วมรักของเธอนั้นให้ความสุขยิ่งกว่าเหล้าองุ่น
น้ำหอมของเธอช่างมีกลิ่นหอมเหลือเกิน
    เมื่อเอ่ยถึงชื่อเธอ มันหอมเหมือนกับน้ำหอมที่ถูกเทออกจากขวด
    นั่นแหละคือเหตุที่หญิงสาวทั้งหลายหลงใหลเธอ
โปรดพาฉันไปด้วย รีบไปกันเถอะ
    กษัตริย์ของฉัน พาฉันไปที่ห้องของพระองค์ด้วยเถิด
ให้เราสนุกสนานกันและมีความสุขเพราะเธอ
    เราจะเฉลิมฉลองการร่วมรักของเธอที่ให้ความสุขยิ่งกว่าเหล้าองุ่น
    มิน่าละหญิงสาวทั้งหลายถึงได้หลงใหลเธอ

หญิงสาวพูดกับพวกเพื่อนสาว

หญิงสาวแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย
    ฉันผิวดำแต่สวย
ฉันดำเหมือนกับเต็นท์ของเผ่าเคดาร์
    และสวยเหมือนผ้าม่านในวิหารของซาโลมอน
ไม่ต้องมองฉัน ที่ฉันผิวดำนี้
    เพราะดวงอาทิตย์จ้องฉันเขม็งอยู่แล้ว
พวกพี่ชายฉันโกรธเคืองฉัน
    และตั้งให้ฉันเป็นคนเฝ้าดูแลพวกสวนองุ่นของพวกเขา
    ฉันก็เลยไม่สามารถดูแลสวนองุ่นของตัวเอง[b]

หญิงสาวพูดกับคู่รัก

เธอผู้เป็นสุดที่รักของฉัน บอกฉันหน่อยสิว่า
    เธอเลี้ยงฝูงสัตว์ของเธออยู่ที่ไหน
และตอนเที่ยงวัน เธอให้แกะของเธอนอนพักที่ไหน บอกฉันสิ
    เพื่อฉันจะได้ไม่หลงเข้าไปหาผิดที่ ไปอยู่ใกล้กับฝูงสัตว์ของเพื่อนๆเธอ

ชายหนุ่มพูดตอบนาง

นางผู้งดงามกว่าหญิงอื่นใด
    ถ้าเธอไม่รู้ว่าจะตามหาฉันได้ที่ไหน
ก็ให้ตามรอยเท้าของฝูงสัตว์ไป
    และปล่อยให้ฝูงแพะหนุ่มของเธอกินหญ้าใกล้ๆกับเต็นท์ของพวกคนเลี้ยงแกะ

ที่รักจ๋า เธอทำให้ฉันคึก
    เหมือนกับม้าสาวที่อยู่ท่ามกลางพวกม้าหนุ่มที่ลากรถรบทั้งหลายของกษัตริย์ฟาโรห์
10 แก้มของเธอนั้นสวยด้วยต่างหู
    ลำคอของเธอก็ช่างงดงามด้วยลูกปัด
11 เราจะทำสร้อยคอทองคำ
    ประดับด้วยลูกปัดเงินให้กับเธอ

หญิงสาวพูด

12 ตอนที่กษัตริย์ฉันนอนอยู่บนเตียงนอนเล่น
    น้ำหอมของฉันส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว
13 ที่รักของฉันเป็นเหมือนถุงน้ำหอม
    ที่ซบอยู่ระหว่างอกของฉันตลอดคืน
14 ที่รักของฉันเป็นเหมือนช่อดอกเฮนนา[c]
    ที่อยู่ในพวกสวนองุ่นแห่งเมืองเอนเกดี[d]

ชายหนุ่มพูด

15 ที่รักจ๋า เธอช่างสวยงาม
    สวยงามเหลือเกิน
    ดวงตาของเธอเปรียบดังนกเขา

หญิงสาวพูด

16 ที่รักจ๋า เธอช่างหล่อเหลา
    มีเสน่ห์เหลือเกิน
    เตียงของเราคือทุ่งหญ้าเขียวสด
17 มีต้นสนซีดาร์เป็นหลังคา
    มีต้นสนเฟอร์เป็นเพดาน
ฉันเป็นแค่ดอกไม้ดอกหนึ่งในที่ราบชาโรน
    เป็นแค่ดอกลิลลี่ดอกหนึ่งท่ามกลางหุบเขาทั้งหลาย

ชายหนุ่มพูด

เมื่อเปรียบที่รักของฉันกับหญิงสาวอื่นๆ
    เธอเป็นเหมือนกับดอกลิลลี่ท่ามกลางพงหนาม

หญิงสาวพูด

เมื่อเปรียบที่รักของฉันกับชายหนุ่มอื่นๆ
    เขาเป็นเหมือนต้นแอปเปิ้ลท่ามกลางต้นไม้ป่า
ฉันมีความสุขมากที่ได้นั่งอยู่ใต้ร่มเงาของเขา
    และผลของเขาก็หวานถูกปากเหลือเกิน
เขาพาฉันไปยังที่ที่เราจะได้ดื่มด่ำกับเหล้าองุ่นกัน
    เขาอยากจะร่วมรักกับฉัน
ขอขนมองุ่นแห้งเพื่อเสริมกำลังฉันด้วย
    ขอผลแอปเปิ้ลหล่อเลี้ยงฉันด้วย
    ฉันกระหายรักของเธอแทบขาดใจ
แขนซ้ายของเขาช้อนอยู่ใต้หัวฉัน
    และมือขวาของเขาก็ลูบไล้ฉัน
พวกสาวๆแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ฉันขอให้เธอทั้งหลายสาบานต่อหน้าเลียงผาหรือกวางตัวเมียว่า
    พวกเธอจะไม่ปลุกเร้าหรือกระตุ้นความรักให้ตื่น
    จนกว่าความรักนั้นจะสุกงอม

หญิงสาวพูด

ฟังสิ นั่นเสียงชายคนรักของฉัน
    ดูสิ เขากำลังมาแล้ว
เขากำลังเต้นรำอยู่บนภูเขาเหล่านั้น
    และกระโดดโลดเต้นอยู่บนเนินเขา
ที่รักของฉันเหมือนกับเลียงผาหรือกวางหนุ่ม
    นั่นไง เขากำลังยืนอยู่นอกกำแพงของเรา
กำลังจ้องลอดหน้าต่างเข้ามา
    กำลังแอบมองลอดไม้ระแนงเข้ามา
10 ที่รักของฉันพูดกับฉันว่า
    “ที่รักจ๋า ลุกขึ้นเถิด คนสวยของฉัน ไปกันเถอะ
11 เพราะฤดูหนาวได้ผ่านพ้นไปแล้ว
    และฝนก็หยุดตกแล้ว
12 ดอกไม้ทั้งหลายบานสะพรั่งไปทั่วผืนดิน
    ถึงเวลาร้องเพลงกันแล้ว
    นกเขากำลังขันคูไปทั่วแผ่นดิน
13 ผลมะเดื่อกำลังสุก
    ต้นองุ่นกำลังออกดอกบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว
ที่รักจ๋า ลุกขึ้นเถิด
    คนสวยของฉัน ไปกันเถอะ”

14 “แม่นกเขาของฉันที่ซ่อนตัวอยู่ในรอยแตกของภูผาสูง
    ออกมาให้ฉันเห็นตัวหน่อย
ส่งเสียงให้ฉันได้ยินหน่อย
    เพราะเสียงของเธอช่างไพเราะ
    และรูปร่างหน้าตาเธอนั้นก็ช่างงดงาม”

15 “จับพวกสุนัขจิ้งจอกให้เรา สุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆที่ทำลายสวนองุ่น
    เพราะสวนองุ่นของเรากำลังผลิดอก”

16 ที่รักของฉัน เป็นของฉันและฉันก็เป็นของเขา
    เขากำลังเล็มพืชอยู่ท่ามกลางดอกลิลลี่[e]
17 กลับมาเถิด ที่รักของฉัน
    ขอให้ท่านเป็นเหมือนเลียงผาหรือกวางหนุ่มบนเทือกเขาบีเธอร์[f]
    จนวันใหม่ย่างเข้ามาและเงาแห่งค่ำคืนหนีไป

หญิงสาวพูด

ในค่ำคืน บนที่นอนของฉัน
    ฉันโหยหาชายผู้เป็นที่รักของฉัน
    ฉันโหยหาเขา แต่ไม่พบเขา
ฉันจะลุกขึ้นและออกท่องไปรอบเมือง
    ไปตามท้องถนน ตามพวกลานเมือง
ฉันจะตามหาเขาผู้เป็นชายในดวงใจของฉัน
    ฉันตามหาเขา แต่ก็หาไม่พบ
พวกยามที่ลาดตระเวนในเมืองได้เจอฉัน
    ฉันถามพวกเขาว่า “ท่านพบชายในดวงใจคนนั้นของฉันไหม”
พอจากทหารยามมาได้ประเดี๋ยวเดียว
    ฉันก็พบกับชายในดวงใจคนนั้นของฉัน
ฉันจับเขาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย
    จนได้พาเขาไปถึงบ้านของแม่ฉัน
    และเข้าไปในห้องที่แม่ฉันตั้งท้องฉันขึ้นมา

พวกสาวๆแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ฉันขอให้เธอทั้งหลายสาบานต่อหน้าเลียงผาหรือกวางตัวเมียว่า
    พวกเธอจะไม่ปลุกเร้าหรือกระตุ้นความรักให้ตื่นจนกว่าความรักนั้นจะสุกงอมแล้ว

พวกหญิงสาวแห่งเยรูซาเล็มพูด

นั่นมันอะไรกันที่กำลังมาจากที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง
    ดูเหมือนกลุ่มควัน หอมเหมือนมดยอบ กำยานและแป้งหอมทุกชนิดของพ่อค้า

หญิงสาวพูด

ดูสิ นี่เป็นเกี้ยวของซาโลมอน
    ที่ห้อมล้อมด้วยยอดนักรบหกสิบคนของอิสราเอล
พวกเขาล้วนเป็นนักดาบที่ชำนาญผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชน
    แต่ละคนเหน็บดาบไว้ข้างตัวพร้อมต่อสู้กับภัยทั้งหลายในค่ำคืน

กษัตริย์ซาโลมอนสร้างเกี้ยวนี้
    ขึ้นด้วยไม้นำเข้าจากเลบานอน
10 เสาของมันห่อหุ้มด้วยเงิน
    หลังคาครอบทำด้วยเส้นใยทองคำ
เบาะนั่งทำด้วยผ้าสีม่วง
    และภายในมันประดับขึ้นมาด้วยความรัก

11 หญิงสาวแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ออกมาเถิด หญิงสาวแห่งศิโยนเอ๋ย
    มาดูกษัตริย์ซาโลมอนเถิด
มองดูมงกุฎที่แม่ของเขาสวมใส่ให้แก่เขา
    ในวันที่เขาแต่งงาน
    ซึ่งเป็นวันที่หัวใจของเขาเบิกบานที่สุด

ชายหนุ่มพูดกับหญิงสาว

ที่รักจ๋า เธอช่างสวยงามเหลือเกิน
    ช่างสวยงามเสียจริงๆ
ดวงตาของเธอที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมหน้านั้นก็เหมือนกับนกเขาสองตัว
    ผมของเธอเปรียบเหมือนฝูงแพะที่เดินพลิ้วลงมาเป็นระลอกจากภูเขากิเลอาด
ฟันของเธอนั้นขาวเหมือนกับฝูงแกะตัวเมียที่ตัดขนแล้วเพิ่งขึ้นมาจากการล้างตัว
    แต่ละซี่ก็มีคู่แฝดล่างบนไม่มีหลุดไปเลยสักซี่
ริมฝีปากของเธอนั้นแดงเหมือนด้ายแดงสดสวยและปากของเธอนั้นก็ช่างงดงาม
    แก้มที่อยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าของเธอนั้นสีชมพูเหมือนผลทับทิมผ่าซีก
ลำคอยาวระหงของเธอเปรียบเหมือนหอคอยของดาวิด ที่ก่อขึ้นด้วยหินเป็นชั้นๆ
    มีโล่[g]นับพันแขวนไว้กับเกราะป้องกันทุกชนิดของนักรบอยู่ที่นั่น
นมสองเต้าของเธอนั้นเปรียบดังลูกกวางคู่หนึ่งหรือเลียงผาฝาแฝด
    ที่กำลังเล็มพืชอยู่ท่ามกลางดอกลิลลี่
จนวันใหม่ย่างเข้ามาและเงาแห่งค่ำคืนหนีไป
    ฉันจะรีบเดินทางไปที่ภูเขาแห่งมดยอบและเนินเขาแห่งกำยานหอม[h]
ที่รักจ๋า เธอช่างสวยหมดจด
    ในตัวเธอไม่มีที่ติเลย
เจ้าสาวของฉันไปจากเลบานอนกับฉันเถิด
    ไปจากเลบานอนกับฉันเถิด
รีบลงมาจากยอดเขาอามานา
    จากยอดเขาเสนีร์ และจากยอดเขาเฮอร์โมนเถิด[i]
    ลงมาจากพวกถ้ำของสิงโต
    ลงมาจากภูเขาทั้งหลายที่พวกเสือดาวอยู่กันเถิด

น้องจ๋า น้องได้กุมหัวใจของพี่ไว้แล้ว เจ้าสาวของฉัน
    แค่เห็นเธอชายตามาแวบเดียว
    แค่เห็นสร้อยเส้นหนึ่งบนคอเธอ เธอได้กุมหัวใจของฉันไว้แล้ว
10 น้องจ๊ะ เจ้าสาวที่รักของฉันจ๋า การร่วมรักกับเธอนั้นช่างงดงาม
    การร่วมรักกับเธอนั้นให้ความสุขยิ่งกว่าเหล้าองุ่น
    กลิ่นน้ำหอมของเธอนั้นก็หอมยิ่งกว่าเครื่องเทศใดๆ
11 เจ้าสาวของฉัน ริมฝีปากของเธอหวานหยดย้อยเหมือนน้ำผึ้งหยดจากรัง
    น้ำผึ้งและน้ำนมฉาบอยู่ใต้ลิ้นของเธอ
    กลิ่นหอมจากเสื้อผ้าของเธอนั้นหอมเหมือนไม้สนซีดาร์จากเลบานอน
12 น้องจ๊ะ เจ้าสาวที่รักของฉันจ๋า เธอเป็นของฉันเท่านั้น
    เหมือนสวนส่วนตัว สวนที่สงวนไว้ เหมือนตาน้ำที่หวงห้าม
13 เธอเป็นเหมือนสวนหลวงที่เต็มไปด้วยทับทิม
    และให้ผลมากมายมีทั้งเฮนนา นาร์ด
14 ขมิ้น ต้นตะไคร้ และอบเชย ตลอดจนไม้กลิ่นหอมทุกชนิด
    อีกทั้งยางไม้หอม ว่านหางจระเข้ รวมถึงสมุนไพรปรุงเครื่องหอมชั้นเลิศทุกอย่าง
15 เธอเปรียบเหมือนตาน้ำในสวน เปรียบดังบ่อน้ำไหล
    และเปรียบเหมือนลำธารที่ไหลลงมาจากภูเขาทั้งหลายของเลบานอน

หญิงสาวพูด

16 ตื่นเถิด ลมเหนือเอ๋ย
    พัดเถิด ลมใต้เอ๋ย
พัดผ่านสวนของฉัน
    พัดให้เครื่องหอมฟุ้งกระจายไปทั่ว
ให้ที่รักของฉัน เข้ามาที่สวนของเขา
    และให้เขากินผลไม้รสอร่อยในสวนเถิด

2 โครินธ์ 8:16-24

ทิตัสและเพื่อนร่วมเดินทาง

16 ผมห่วงใยพวกคุณมาก ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ก็ใส่ความห่วงใยมากขนาดนั้นไว้ในใจของทิตัสด้วย ทำให้เขาอยากจะช่วยพวกคุณเหมือนกัน 17 เราขอให้ทิตัสมาเยี่ยมพวกคุณ และเขาก็ยินดีทำตามนั้น จริงๆแล้วเขาก็อยากจะมาเยี่ยมคุณอยู่แล้ว 18 เราส่งพี่น้องคนหนึ่งมาพร้อมกับเขาด้วย พี่น้องคนนี้เป็นคนที่มีชื่อเสียงดีตามหมู่ประชุมต่างๆของพระเจ้าในด้านการประกาศข่าวดี 19 นอกจากนี้ หมู่ประชุมต่างๆได้เลือกเขาให้เดินทางมากับพวกเราเพื่อนำเงินที่เรารับผิดชอบอยู่ไปบริจาคครั้งนี้ การบริจาคนี้ทำเพื่อถวายเกียรติให้กับองค์เจ้าชีวิต และทำให้คนเห็นว่าเราเต็มใจที่จะช่วย

20 เราระมัดระวังมากในการจัดการกับเงินบริจาคก้อนโตนี้ เพราะไม่อยากให้ใครมาติได้ 21 คือเราเป็นห่วงเรื่องชื่อเสียง อยากจะให้มันดีไม่ใช่เฉพาะกับองค์เจ้าชีวิตเท่านั้น แต่กับคนอื่นๆด้วย

22 เราก็เลยส่งพี่น้องอีกคนหนึ่งมาพร้อมกับพวกเขาด้วย พี่น้องคนนี้แสดงให้เราเห็นหลายครั้งแล้วว่าเขาอยากจะช่วย ยิ่งตอนนี้เขายิ่งอยากจะช่วยมากขึ้น เพราะเขามีความเชื่อมั่นในพวกคุณมากขึ้น

23 ถ้ามีใครถามเกี่ยวกับทิตัส ผมขอบอกว่า เขาเป็นหุ้นส่วนและเพื่อนร่วมงานของผมที่ส่งมาช่วยพวกคุณ และถ้ามีใครถามเกี่ยวกับพี่น้องสองคนนี้ ผมขอบอกว่า พวกเขาเป็นตัวแทนของหมู่ประชุมต่างๆและเป็นคนที่นำเกียรติมาให้กับพระคริสต์ด้วย 24 ดังนั้นให้พิสูจน์ความรักของคุณให้พวกเขาเห็นด้วย และให้เขาเห็นว่าที่เราโอ้อวดในเรื่องของคุณนั้นเป็นจริง เพื่อหมู่ประชุมของพระเจ้าจะได้เห็น

สดุดี 50

เครื่องบูชาที่พระเจ้ายอมรับ

บทเพลงสดุดีของอาสาฟ[a]

พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
    กำลังเรียกทุกคนบนโลกนี้จากทิศตะวันออกไปจนถึงทิศตะวันตก
พระองค์เปล่งแสงสว่างออกมาจากศิโยน
    เมืองที่สวยงามเลิศ

พระเจ้าของพวกเรากำลังมา แต่ไม่ได้มาอย่างเงียบๆ
    มีเพลิงเผาผลาญนำอยู่หน้าพระองค์
    และมีพายุมหึมาพัดอยู่รอบๆพระองค์
พระองค์เรียกฟ้าสวรรค์เบื้องบนและแผ่นดินโลกเบื้องล่าง
    ให้มาเป็นพยานในการตัดสินคนของพระองค์
พระเจ้าพูดว่า “ให้รวบรวมคนพวกนั้นที่ผูกมัดตัวเองกับเรา
    คนพวกนั้นที่ทำข้อตกลงกับเราผ่านทางสัตวบูชา”
แล้วฟ้าสวรรค์ก็ได้ประกาศถึงความยุติธรรมของพระองค์
    เพราะพระเจ้ากำลังจะตัดสิน เซลาห์

“ประชาชนของเรา ฟังให้ดี แล้วเราจะพูด
    อิสราเอล ฟังให้ดี เพราะเราจะเป็นพยานต่อต้านเจ้า
    เราคือพระเจ้า พระเจ้าของเจ้า
เราจะไม่ติเตียนเจ้าเกี่ยวกับเครื่องบูชาและเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆของเจ้า
    เพราะเจ้าได้ถวายสิ่งเหล่านี้ให้กับเราเป็นประจำ
แต่เราจะไม่รับวัวผู้จากบ้านของเจ้า
    และไม่รับแพะจากคอกของเจ้า
10 เพราะสัตว์ป่าทุกตัวเป็นของเรา
    รวมทั้งวัวทุกตัวตามเทือกเขานับพันๆลูก
11 เรารู้จักนกทุกตัวบนภูเขาทั้งหลาย
    รวมทั้งแมลงทุกตัวที่เคลื่อนไหวอยู่ตามท้องทุ่ง
12 ถ้าเราหิว เราจะไม่บอกเจ้า
    เพราะเราเป็นเจ้าของโลกนี้ และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนมัน
13 เราไม่กินเนื้อวัว
    และไม่ดื่มเลือดแพะ
14 แต่ให้การขอบพระคุณเป็นเครื่องบูชาที่พวกเจ้าเอามาถวายเรา[b]
    และให้แก้บนของเจ้าต่อพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดด้วย
15 เมื่อเจ้าพบกับความทุกข์ยาก ก็ให้เรียกหาเรา
    แล้วเราจะช่วยกู้เจ้า แล้วเจ้าจะได้สรรเสริญเรา”

16 แต่กับคนชั่ว พระเจ้าพูดว่า
    “เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาท่องกฎต่างๆของเรา
    เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดถึงบัญญัติต่างๆของเรา
17 ในเมื่อเจ้าเกลียดชังการถูกอบรมสั่งสอน
    และโยนคำสั่งสอนของเราทิ้งไปข้างหลังเจ้า
18 เจ้าคบกับโจรทุกคนที่เจ้าพบ
    และยังมีส่วนร่วมกับคนที่เล่นชู้

19 เจ้าปล่อยให้ปากของเจ้าพูดเรื่องชั่วช้า
    และปล่อยให้ลิ้นของเจ้าหลอกลวง
20 เจ้ากล่าวโทษน้องชายของเจ้า
    และเจ้าพูดใส่ร้ายพี่น้องท้องเดียวกัน
21 เจ้าทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด และเราก็ไม่ได้ว่าอะไร
    ดังนั้น เจ้าจึงพลอยคิดว่าเราเป็นเหมือนกับเจ้า
แต่ตอนนี้ เรากำลังวางข้อกล่าวหาเหล่านี้ไว้ต่อหน้าต่อตาเจ้า
    และเราจะประณามเจ้าในสิ่งที่เจ้าได้ทำ

22 พวกเจ้าทั้งหลายที่หลงลืมพระเจ้า ให้เข้าใจในสิ่งที่เราพูดไป
    ไม่อย่างนั้น เราจะฉีกเนื้อของเจ้าออกเป็นชิ้นๆแล้วจะไม่มีใครสักคนมาช่วยพวกเจ้า
23 คนที่นำการขอบคุณมาถวายเป็นเครื่องบูชา[c] คนๆนั้นก็ให้เกียรติกับเรา
    คนที่ใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง
    เราจะให้เขาเห็นพลังของเราในการช่วยกู้”

สุภาษิต 22:22-23

22 อย่าได้ขโมยจากคนจนเพราะมันง่าย
    และอย่าได้เอาเปรียบคนเดือดร้อนที่ศาลตรงลานเมือง
23 เพราะพระยาห์เวห์ จะว่าความแทนพวกเขา
    และปล้นชีวิตของคนที่ปล้นพวกเขา

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International