Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the CSB. Switch to the CSB to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 19-21

ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับคนอียิปต์

19 นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับอียิปต์

ดูนั่นสิ พระยาห์เวห์กำลังขี่อยู่บนเมฆที่ลอยมาอย่างรวดเร็วมาที่อียิปต์
    พวกเทพเจ้าของอียิปต์จะกลัวจนตัวสั่นต่อหน้าพระองค์
    และความกล้าของคนอียิปต์ก็จะหลอมละลายไป
พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะยุแหย่ให้คนอียิปต์ต่อสู้กันเอง
    พี่น้องรบกันเอง เพื่อนบ้านรบกันเอง
เมืองนี้จะรบกับเมืองนั้น
    อาณาจักรนี้จะรบกับอาณาจักรนั้น
คนอียิปต์จะท้อแท้
    เราจะทำให้แผนต่างๆของพวกเขาสับสน
พวกเขาจะขอคำปรึกษาจากพวกรูปเคารพ
    จากพวกวิญญาณของคนตาย จากพวกคนทรงเจ้า จากพวกหมอดู
เราจะมอบอียิปต์ให้ไปตกอยู่ในเงื้อมมือของเจ้านายที่โหดร้าย
    และกษัตริย์ที่มีอำนาจมากก็จะมาปกครองเหนือพวกเขา”
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดไว้ว่าอย่างนั้น
น้ำในแม่น้ำไนล์ก็จะเหือดแห้งไป
    แม่น้ำจะแห้งสนิทไป
พวกคลองต่างๆก็จะเน่าเหม็น
    พวกลำธารของอียิปต์ก็จะค่อยๆเหือดแห้งไป
    พวกต้นกกและต้นอ้อก็จะเน่าไป
พวกพืชริมแม่น้ำไนล์จะหายไป
    ทุกอย่างที่หว่านไปตลอดแนวของแม่น้ำไนล์ก็จะเหี่ยวแห้ง ถูกลมพัดไปและสูญหายไป
ชาวประมงจะเศร้าโศกเสียใจ
    ทุกคนที่ตกเบ็ดในแม่น้ำไนล์จะร้องไห้ครวญคราง
    และทุกคนที่ทอดแหในน้ำจะท้อแท้ไป
คนงานที่หวีป่านจะสิ้นหวัง
    รวมทั้งคนที่ทอผ้าลินินด้วย
10 พวกช่างทอผ้าของพวกเขาจะหดหู่ใจ
    คนพวกนั้นที่ทำงานรับจ้างก็จะเศร้าใจ
11 พวกผู้นำของเมืองโศอันนี่ โคตรโง่เลย
    พวกที่ปรึกษาอันชาญฉลาดของฟาโรห์ก็ให้คำแนะนำที่โง่ๆ
พวกแกพูดกับฟาโรห์ได้ยังไงว่า
    “ผมเป็นคนหนึ่งในพวกชาญฉลาดเป็นเชื้อสายของพวกกษัตริย์โบราณ”
12 อียิปต์เอ๋ย คนฉลาดของเจ้าหายไปไหนหมดแล้ว
    ให้พวกเขามาบอกกับเจ้า และเปิดเผยให้เจ้ารู้สิว่าพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นมีแผนการต่อต้านอียิปต์ไว้อย่างไรบ้าง
13 พวกผู้นำของโศอันถูกหลอก
    และพวกผู้นำของเมมฟิสโดนหลอกลวงไปแล้ว
    พวกที่เป็นหินมุมเอกของเผ่าต่างๆของอียิปต์ได้นำอียิปต์หลงทางไป
14 พระยาห์เวห์ได้เทวิญญาณแห่งความสับสนเข้าไปในพวกเขา
    แล้วพวกเขาทำให้อียิปต์เดินโซเซไปในทุกเรื่องที่ทำ เหมือนคนเมาเดินโซเซและลื่นลงไปในอ้วกของมัน
15 ไม่มีใครสามารถทำอะไรเพื่อช่วยอียิปต์ได้ ไม่ว่าเขาจะเป็นหัวหรือหาง
    จะเป็นคนสำคัญหรือไม่สำคัญ[a] ก็ช่วยไม่ได้ทั้งนั้น

16 ในเวลานั้น คนอียิปต์จะเป็นเหมือนกับผู้หญิงตัวสั่นเทิ้มและกลัว เมื่อพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นเงื้อมือขึ้นจะฟาดพวกเขา 17 แผ่นดินของยูดาห์จะกลายเป็นที่น่าหวาดกลัวสำหรับอียิปต์ พูดถึงคนยูดาห์เมื่อไหร่ คนอียิปต์ก็เกิดความกลัวเมื่อนั้น เพราะพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้วางแผนต่อต้านอียิปต์

18 ในเวลานั้นจะมีอยู่ห้าเมืองในแผ่นดินอียิปต์ที่พูดภาษาของคนคานาอัน[b] และพวกเขาจะสาบานที่จะจงรักภักดีต่อพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น และเมืองหนึ่งในห้าเมืองนั้นจะถูกเรียกว่า “เมืองแห่งดวงอาทิตย์”[c]

19 ในเวลานั้นจะมีแท่นบูชาแท่นหนึ่งสำหรับพระยาห์เวห์ในท่ามกลางแผ่นดินอียิปต์ และมีอนุสาวรีย์เพื่อเป็นเกียรติให้กับพระยาห์เวห์ตรงพรมแดนของอียิปต์ 20 มันจะเป็นเครื่องเตือนใจและพยานในแผ่นดินอียิปต์ถึงพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น เมื่อผู้คนร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์เพราะถูกกดขี่ข่มเหงจากศัตรูของพวกเขา พระองค์ก็จะส่งผู้ช่วยให้รอดมาให้พวกเขาและผู้ช่วยนั้นจะมาสู้เพื่อพวกเขาและช่วยให้พวกเขารอด 21 พระยาห์เวห์จะสอนคนอียิปต์เกี่ยวกับพระองค์ และคนอียิปต์ก็จะได้รู้จักพระองค์ในเวลานั้น และพวกเขาก็จะได้มานมัสการพระองค์ ถวายเครื่องบูชาและของขวัญต่างๆและพวกเขาก็บนบานและแก้บนต่อพระยาห์เวห์ 22 พระยาห์เวห์จะตีสอนอียิปต์ ทั้งตีสอนและรักษา พวกเขาจะหันมาหาพระยาห์เวห์และพระองค์ก็จะฟังคำอธิษฐานของพวกเขาและรักษาพวกเขา

23 ในเวลานั้นก็จะมีทางหลวงจากอียิปต์ ไปอัสซีเรีย[d] คนอัสซีเรียจะเข้ามาที่อียิปต์และคนอียิปต์ก็จะเข้าไปที่อัสซีเรีย แล้วพวกเขาก็จะนมัสการพระเจ้าด้วยกัน

24 ในเวลานั้น อิสราเอลจะมาร่วมกับอียิปต์และอัสซีเรีย เป็นสามชนชาติด้วยกัน พวกเขาจะเป็นพระพรในโลกนี้ 25 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะอวยพรพวกเขาว่า “อียิปต์ เราจะอวยพรเจ้า เจ้าเป็นคนของเรา อัสซีเรีย เราจะอวยพรเจ้า เจ้าเป็นผลงานจากมือของเรา อิสราเอล เราจะอวยพรเจ้า เจ้าเป็นทรัพย์สมบัติของเรา”

อัสซีเรียจะชนะอียิปต์และเอธิโอเปีย

20 ในปีที่กษัตริย์ซาร์กอน[e] แห่งอัสซีเรียได้ส่งแม่ทัพใหญ่ของเขามาที่อัชโดด และเขาได้ต่อสู้กับเมืองอัชโดดและยึดเมืองนั้นไว้ได้ ในช่วงเวลานั้น พระยาห์เวห์ส่งข่าวสารโดยผ่านทางตัวอย่างของอิสยาห์ลูกชายของอามอส พระองค์พูดกับอิสยาห์ว่า “ไปถอดผ้ากระสอบนั้นออกจากตัวเจ้า และถอดรองเท้าสานด้วย” แล้วอิสยาห์ก็ทำตามนั้น เขาจึงเดินเท้าเปล่าไปมาสวมแต่กางเกงชั้นใน

พระยาห์เวห์พูดว่า “อิสยาห์ผู้รับใช้ของเราเดินเท้าเปล่าสวมแต่กางเกงชั้นในเป็นเวลาสามปี นี่เป็นสิ่งเตือนใจและรางบอกเหตุให้กับอียิปต์และเอธิโอเปีย[f] เพราะกษัตริย์ของอัสซีเรีย จะจับคนอียิปต์ไปเป็นเชลยและกวาดต้อนชาวเอธิโอเปียไป ทั้งคนหนุ่มสาวและคนแก่ เปลือยกายและเท้าเปล่า เปิดก้นให้เห็น ทำให้อียิปต์อับอายยิ่งนัก คนเหล่านั้นที่ฝากความหวังไว้กับเอธิโอเปีย และมีความมั่นใจในอียิปต์ จะต้องตกใจกลัวและผิดหวัง”

ในเวลานั้น คนที่อาศัยอยู่แถบทะเลจะพูดว่า “ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนพวกนั้นที่เป็นความหวังของเรา เราอุตส่าห์วิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากพวกเขา เพื่อจะได้ช่วยกู้พวกเราให้พ้นจากกษัตริย์อัสซีเรีย แล้วทีนี้พวกเราจะหนีรอดไปได้ยังไง”

ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับบาบิโลน

21 นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับบาบิโลน[g]

มีสิ่งหนึ่งมาจากทะเลทราย
    เหมือนกับพายุใหญ่พัดมาจากเนเกบ
    มันมาจากดินแดนอันน่าสะพรึงกลัว
ผมได้เห็นนิมิตที่เลวร้าย ในนิมิตนั้น
    ผมเห็นพวกคนทรยศกำลังหักหลังเจ้า
    ผมเห็นพวกผู้ทำลายกำลังยึดทรัพย์สมบัติเจ้า
พระยาห์เวห์ว่า “เอลาม ขึ้นไปโจมตีเลย
    มีเดีย โอบล้อมโจมตีบาบิโลนเลย
    เราจะหยุดเสียงร้องครวญครางของชนชาติทั้งหลายที่บาบิโลนก่อขึ้น”
เมื่อผมเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ผมเจ็บปวดไปทั่วท้อง
    อย่างกับผู้หญิงเจ็บตอนคลอดลูก
สิ่งที่ผมได้ยินมาทำให้ผมวุ่นวายใจ
    สิ่งที่ผมเห็นมาทำให้ผมหวาดกลัว
จิตใจของผมหมุนติ้วไปหมด ผมตัวสั่นงันงกไปด้วยความกลัว
    ค่ำคืนอันแสนหวานของผมกลับทำให้ผมกลัวจนตัวสั่น

พวกเขาตั้งโต๊ะ
    ปูพรม
    กินและดื่มกัน
แล้วมีคนร้องว่า ลุกขึ้น พวกแม่ทัพนายกองทั้งหลาย
    เตรียมโล่สำหรับรบ

พระยาห์เวห์บอกกับผมว่า “ไปตั้งทหารยามคนหนึ่ง
    เมื่อเขาเห็นอะไร ก็ให้มารายงาน
เมื่อเขาเห็นพวกรถรบลากด้วยม้าเป็นคู่ๆ
    คนขี่ลา คนขี่อูฐ
ให้เขาตื่นตัวเต็มที่
    ให้ระวังอย่างเต็มที่”
แล้วทหารยาม[h]ก็ร้องว่า “ข้าแต่องค์เจ้าชีวิตข้าพเจ้ายืนเฝ้ายามอยู่บนหอคอยทุกวัน
    และข้าพเจ้ายืนอยู่ประจำที่ทุกคืน
ดูสิ มีรถรบคันหนึ่งที่ลากด้วยม้าคู่หนึ่ง
แล้วคนบนรถรบนั้นร้องตะโกนว่า
    ‘บาลิโลนล่มสลายแล้ว[i] มันล่มสลายแล้ว
และพวกรูปปั้นเทพเจ้าของมันทั้งหมดก็ถูกทำลายแตกเป็นชิ้นๆอยู่บนดิน’”

10 คนของเราเอ๋ย พวกเจ้าที่ถูกนวด พวกเจ้าที่ถูกฝัดร่อน
    ผมได้ยินอะไรมาจากพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพระเจ้าแห่งอิสราเอล
    ผมก็ประกาศไปอย่างนั้น

ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับดูมาห์

11 นี่เป็นข่าวสารเกี่ยวกับดูมาห์[j]
มีคนหนึ่งเรียกผมจากเมืองเสอีร์
    “ยาม คืนนี้มีข่าวอะไรจากดูมาห์ไหม
    ยาม คืนนี้มีข่าวอะไรไหม”

12 ทหารยามตอบว่า
    “ผ่านไปวันหนึ่งกับคืนหนึ่งแล้วไม่มีข่าวอะไรเลย[k]
ถ้าอยากจะถาม
    ค่อยกลับมาถามใหม่นะ”

ข่าวสารของพระเจ้าถึงอาระเบีย

13 นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับอาระเบีย[l]

ขบวนพ่อค้าจากเดดานเอ๋ย
    เจ้าจะค้างคืนอยู่ตามพุ่มไม้ในทะเลทรายอาระเบีย
14 ชาวแผ่นดินเทมาเอ๋ย
    ให้เอาน้ำออกมาให้คนที่หิวกระหายด้วย
    ให้เอาขนมปังออกมาเลี้ยงคนที่ลี้ภัยด้วย
15 เพราะพวกเขาได้หนีจากคมดาบมา
    หนีจากดาบที่ชักจากฝักพร้อมฟันแล้ว
หนีจากคันธนูที่ง้างพร้อมยิงแล้ว
    หนีจากการสู้รบอย่างหนัก

16 องค์เจ้าชีวิต พูดกับผมอย่างนี้ว่า “ในหนึ่งปี ตรงเผงอย่างกับที่ลูกจ้างนับเวลาที่เขาตกลงจะทำงาน ศักดิ์ศรีทั้งหมดของเคดาร์[m] จะจบสิ้นไป 17 จำนวนนักรบแม่นธนูในกองทัพเคดาร์จะเหลือน้อยมาก” เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลได้ลั่นคำพูดไปแล้ว

กาลาเทีย 2:1-16

ศิษย์เอกคนอื่นๆยอมรับเปาโล

สิบสี่ปีต่อมา ผมได้กลับไปที่เมืองเยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับบารนาบัสและได้พาทิตัสไปด้วย ที่ไปก็เพราะพระเจ้าเปิดเผยให้รู้ว่าผมควรจะไป แล้วผมก็ได้เจอกับพวกผู้นำหมู่ประชุมของพระเจ้าที่นั่นเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้อธิบายให้พวกเขาฟังเกี่ยวกับข่าวดี ที่ผมเอาไปประกาศให้กับคนที่ไม่ใช่ยิวนั้น เพราะไม่อยากให้งานที่ผมได้ทำไปทั้งในอดีตและปัจจุบันสูญเสียไปเปล่าๆ พวกเขาก็ไม่ได้บังคับให้ทิตัส คนที่มากับผมเข้าพิธีขลิบ ทั้งๆที่ทิตัสเป็นคนกรีก ที่เราต้องพูดถึงปัญหานี้ ก็เพราะมีบางคนที่แกล้งหลอกว่าเป็นพี่น้อง พวกนี้ได้แอบเข้ามาสอดแนมอยู่ในกลุ่มพวกเรา เพื่อแย่งเอาเสรีภาพที่เรามีในพระเยซูคริสต์ไป และเพื่อทำให้เราตกเป็นทาส แต่พวกเราไม่ยอมพวกมันแม้สักเสี้ยววินาทีเดียว เพื่อจะได้รักษาความจริงในข่าวดีไว้สำหรับพวกคุณ

ส่วนผู้นำที่สำคัญๆในหมู่ประชุมของพระเจ้า ก็ไม่ได้คิดที่จะเพิ่มเติมอะไรลงไปในข่าวดีที่ผมได้ประกาศนั้น (ผมไม่สนใจหรอกว่าเขาจะสำคัญแค่ไหน เพราะพระเจ้าไม่เห็นแก่หน้าใครอยู่แล้ว) แต่ตรงกันข้าม พวกเขารู้ว่าพระเจ้าได้มอบหมายข่าวดีให้กับผม เพื่อผมจะได้เอาไปประกาศกับคนที่ไม่ใช่ยิว เหมือนกับที่เปโตรได้รับหน้าที่ให้ไปประกาศกับคนยิว พระเจ้าได้ให้ฤทธิ์อำนาจกับเปโตรไปทำงานในฐานะศิษย์เอกกับคนยิว และพระองค์ก็ได้ให้ฤทธิ์อำนาจกับผมไปทำงานในฐานะศิษย์เอกกับคนที่ไม่ใช่ยิว เมื่อยากอบ เปโตร และยอห์น พวกที่ได้ชื่อว่าเป็นคนสำคัญของหมู่ประชุมของพระเจ้า เห็นว่าพระเจ้าให้งานพิเศษนี้กับผม พวกเขาก็จับมือผมและบารนาบัสเข้าเป็นเพื่อนร่วมงาน พวกเราทั้งหมดก็ตกลงกันว่า จะให้บารนาบัสกับผมไปประกาศข่าวดีกับคนที่ไม่ใช่ยิว ส่วนพวกเขาจะไปประกาศข่าวดีกับคนยิวต่อไป 10 สิ่งเดียวที่พวกเขาขอจากพวกเราคือ ไม่ให้ลืมช่วยเหลือคนจนด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมอยากจะทำอยู่แล้ว

เปาโลชี้แจงความผิดของเปโตร

11 ในระหว่างที่เปโตรอยู่ที่เมืองอันทิโอกนั้น ผมได้คัดค้านเขาต่อหน้า เพราะเขาทำผิดอย่างเห็นได้ชัด 12 คือตอนแรกเขากินอยู่กับพี่น้องที่ไม่ใช่ยิว แต่พอพี่น้องคนยิวที่ยากอบส่งมานั้นมาถึง เปโตรก็ได้ปลีกตัวออกจากพี่น้องที่ไม่ใช่ยิว เพราะกลัวพี่น้องยิวพวกนี้ที่มีความคิดว่าพี่น้องที่ไม่ใช่ยิวจะต้องเข้าพิธีขลิบ 13 เปโตรก็เลยทำให้พี่น้องยิวคนอื่นๆกลายเป็นคนหน้าซื่อใจคดเหมือนกับเขาไปด้วย แม้แต่บารนาบัสก็ได้รับอิทธิพลไปกับเขาเหมือนกัน 14 เมื่อผมเห็นว่าพวกเขาไม่ได้ทำตัวสอดคล้องกับความจริงในข่าวดี ผมก็พูดกับเปโตรต่อหน้าคนทั้งหมดว่า “ถ้าคุณที่เป็นคนยิวใช้ชีวิตไม่เหมือนกับคนยิวและคิดก็ไม่เหมือนกับคนยิวแล้วละก็ คุณจะไปบังคับคนที่ไม่ใช่ยิวให้มาใช้ชีวิตอย่างคนยิวทำไมกัน”

15 พวกเราเกิดมาเป็นคนยิว ไม่ใช่คนบาปเหมือนกับคนที่ไม่ใช่ยิว 16 แต่เรารู้ว่าการที่พระเจ้าจะยอมรับใครนั้น ก็เพราะคนนั้นไว้วางใจในพระคริสต์ ไม่ใช่เพราะเขาทำตามกฎ พวกเราก็เลยไว้วางใจในพระเยซูคริสต์ เพื่อพระเจ้าจะยอมรับเรา ดังนั้นเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจในพระคริสต์ ไม่ใช่การทำตามกฎ เพราะจะไม่มีใครเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าได้จากการทำตามกฎ

สดุดี 59

ขอปกป้องข้าพเจ้าจาก “ไอ้พวกหมา”

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องโดยใช้ทำนอง “อย่าทำลาย” เพลงมิคทาม[a]ของดาวิด ที่เขียนตอนที่ซาอูลส่งคนไปเฝ้าบ้านของดาวิดเพื่อฆ่าเขา[b]

พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากศัตรูของข้าพเจ้าด้วยเถิด
    โปรดช่วยปกป้องข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากผู้คนที่ลุกขึ้นต่อต้านข้าพเจ้าด้วยเถิด
โปรดช่วยชีวิตข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากคนชั่วร้าย
    โปรดช่วยกู้ข้าพเจ้าจากคนกระหายเลือดเหล่านั้นด้วยเถิด

ข้าแต่พระยาห์เวห์ พวกเขาดักซุ่มคอยฆ่าข้าพเจ้า
    คนโหดร้ายพวกนั้นด้อมตามคอยตะครุบข้าพเจ้า
    ทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำผิดหรือทำบาปอะไรเลย
ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่พวกเขาก็รีบเร่งมาที่นี่และเตรียมโจมตีข้าพเจ้า
    โปรดลุกขึ้นมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด ช่วยมาดูว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของชนชาติอิสราเอล
    โปรดลุกขึ้นมาลงโทษชนชาติเหล่านั้น โปรดอย่าได้มีเมตตาต่อคนทรยศที่ชั่วร้ายพวกนั้น เซลาห์

พวกเขากลับมาในตอนเย็น ขู่คำรามเหมือนฝูงหมา
    และเดินด้อมๆมองๆ หาเหยื่อไปทั่วเมือง
ฟังเสียงของพวกเขาดูสิ เห่าออกมาเป็นคำเย้ยหยัน
    ริมฝีปากเชือดเฉือนอย่างดาบ
    และพวกเขาก็พูดว่า “ไม่มีคนอื่นได้ยินหรอก”

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอพระองค์หัวเราะเยาะพวกเขา
    และทำให้พวกเขาทุกคนอับอายด้วยเถิด
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์เป็นพละกำลังของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะคอยให้พระองค์มาช่วย[c]
    เพราะพระองค์เป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า
10 พระเจ้าของข้าพเจ้ารักข้าพเจ้าและจะมาช่วยข้าพเจ้า
    พระองค์จะให้ข้าพเจ้าเห็นพวกศัตรูของข้าพเจ้าพ่ายแพ้

11 โปรดอย่าฆ่าพวกศัตรูของข้าพเจ้าให้หมดในทีเดียว ไม่อย่างนั้น คนของข้าพเจ้าอาจจะลืมว่าพระองค์เป็นผู้ที่ทำให้พวกเขาชนะ
    ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต ผู้เป็นโล่ของพวกเรา
    โปรดใช้พลังอำนาจของพระองค์ทำให้ศัตรูแตกกระเจิงและล้มลง
12 สิ่งที่เขาพูดทำให้ริมฝีปากเขาเป็นบาป
    ขอให้เขาตกลงไปในกับดักแห่งความเย่อหยิ่งจองหอง
คำสาปแช่งและคำโกหกของเขาเอง
13 ทำลายพวกเขาด้วยความโกรธของพระองค์
    ทำลายพวกเขาให้หมดเกลี้ยงตลอดไป
แล้วคนทั่วโลกจะได้รู้ว่า
    พระเจ้าครอบครองอยู่เหนือชนชาติของยาโคบ เซลาห์

14 พวกเขากลับมาในตอนเย็นขู่คำรามเหมือนฝูงหมา
    และเดินด้อมๆมองๆหาเหยื่อไปทั่วเมือง
15 พวกเขาจะเร่ร่อนหาอาหารไปมา
    และถ้าพวกเขากินไม่อิ่ม พวกเขาคงจะอยู่ทั้งคืน[d]

16 ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงพลังของพระองค์
    ในตอนเช้าข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในความรักมั่นคงของพระองค์
เพราะพระองค์เป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า
    พระองค์เป็นที่กำบังในยามทุกข์ยาก
17 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์เป็นพละกำลังของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
    เพราะพระองค์เป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า
    และเป็นพระเจ้าที่มีความรักมั่นคงต่อข้าพเจ้า

สุภาษิต 23:13-14

13 อย่าได้ยั้งมือจากการตีสอนเด็กหนุ่ม
    ถ้าเจ้าตีเขาด้วยไม้เรียว เขาจะไม่ตายหรอก
14 อันที่จริงถ้าเจ้าตีเขาด้วยไม้เรียว
    เจ้าก็จะช่วยชีวิตของเขาให้พ้นจากแดนคนตาย

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International