Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the GW. Switch to the GW to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 57:15-59:21

15 พระเจ้า ผู้อยู่ในที่สูงและได้รับการยกย่อง
    ผู้ที่อยู่ตลอดกาล
    และผู้ที่มีชื่ออันศักดิ์สิทธิ์
พูดว่า “เราอาศัยอยู่ในที่สูงและศักดิ์สิทธิ์
    แต่เราก็อยู่กับคนเหล่านั้นที่สำนึกผิดและถ่อมตัวลง
    เราจะฟื้นฟูจิตใจของคนที่ถ่อมตัวลงและฟื้นฟูจิตใจของคนที่สำนึกผิด
16 เพราะเราจะไม่กล่าวหาตลอดเวลา
    และเราก็จะไม่โกรธไปตลอดกาล
เพราะถ้าอย่างนั้นจิตวิญญาณของมนุษย์ที่เราสร้างขึ้นมา
    ก็จะตายต่อหน้าเรา
17 เราโกรธในเรื่องความโลภอันชั่วร้ายของพวกเขา
    เราจึงลงโทษพวกเขา
เราได้ซ่อนตัวเราเองและโกรธ
    แต่พวกเขาก็ยังหันเหไปตามทางทั้งหลายของพวกเขา
18 เราได้เห็นทางของพวกเขาแล้ว แต่เราจะรักษาพวกเขาไว้
    เราจะนำทางพวกเขาและปลอบโยนพวกเขาคือคนเหล่านั้นที่ไว้ทุกข์ และเราจะให้ปากพวกเขากลับพูดคำสรรเสริญแทน”
19 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะให้สันติสุข สันติสุขแท้จริงกับทุกคน ทั้งคนที่อยู่ใกล้และคนที่อยู่ไกล
    แล้วเราจะรักษาพวกเขาไว้

20 แต่คนชั่วเป็นเหมือนทะเลที่ปั่นป่วนไม่สามารถสงบนิ่งได้
    คลื่นของมันกวนทั้งโคลนและดินขึ้นมา
21 คนชั่วจะไม่มีสันติสุข”
    พระเจ้าของผมพูดไว้ว่าอย่างนั้น

ศาสนกิจที่ถูกต้องและที่ผิด

58 พระยาห์เวห์พูดว่า ตะโกนออกมาดังๆเลย ไม่ต้องอั้นไว้ ยกเสียงขึ้นมาเหมือนกับเสียงแตร
    ประกาศกับคนของเราถึงการกบฏของพวกเขา
    ประกาศให้กับครอบครัวของยาโคบถึงความบาปของพวกเขา
พวกเขามาแสวงหาเราวันแล้ววันเล่า
    อย่างกับว่าพวกเขาอยากจะรู้ทางต่างๆของเรา
อย่างกับว่าเป็นชนชาติที่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    อย่างกับว่าไม่ได้ทอดทิ้งกฎอันยุติธรรมของพระเจ้าของพวกเขา
พวกเขาขอการตัดสินที่ยุติธรรมจากเรา
    พวกเขาแกล้งทำเป็นอยากเข้าใกล้พระเจ้า
และพวกเขาพูดว่า “ทำไมพระองค์ถึงไม่เห็นตอนที่พวกเราอดอาหารกัน
    ทำไมพระองค์ถึงไม่สังเกตว่าพวกเราถ่อมตัวลง”
แต่เราตอบว่า “ดูเอาสิ ในวันที่เจ้าอดอาหารนั้น
    เจ้าก็ยังมัวหาผลประโยชน์ของตนและเอาเปรียบคนงานทุกคนของเจ้า
ดูสิ พวกเจ้าถือศีลอดอาหารก็จริง แต่มีการถกเถียง ทะเลาะและชกต่อยกันแถมไปด้วย
    การอดอาหารอย่างที่พวกเจ้าทำในวันนี้จะไม่ทำให้คำอธิษฐานของเจ้าขึ้นไปถึงเบื้องบน
นี่หรือการถือศีลอดอาหารที่เราอยากได้
    เป็นวันที่แค่ถ่อมตัวลงพอเป็นพิธีอย่างนี้หรือ
เป็นแค่ก้มหัวลงเหมือนกับต้นอ้อลู่ลมหรือ
    เป็นแค่นอนลงบนผ้ากระสอบและขี้เถ้าหรือ
พวกเจ้าจะเรียกแบบนี้ว่าเป็นการถือศีลอดอาหารหรือ
    วันแบบนี้จะเป็นที่ยอมรับของพระยาห์เวห์จริงๆหรือ

การอดอาหารที่เราอยากได้เป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรือ
    คือให้ปลดปล่อยโซ่ตรวนของความไม่ยุติธรรม
    ให้แก้เชือกแอกของการกดขี่ข่มเหงออก
และปล่อยให้คนที่ถูกกดขี่ขมเหงเป็นอิสระ
    ให้หักแอกทุกอัน
แล้วให้แบ่งปันอาหารของเจ้ากับคนที่หิวโหย ไม่ใช่หรือ
    ให้เอาคนยากจนที่ไม่มีบ้านอยู่เข้ามาอยู่ในบ้านของเจ้า
เมื่อเจ้าเห็นคนที่เปลือยเปล่าก็ให้คลุมตัวพวกเขา
    และไม่ซ่อนตัวจากญาติๆที่เดือดร้อนของเจ้า
ถ้าเจ้าทำอย่างนี้แสงของเจ้าก็จะส่องสว่างเหมือนรุ่งอรุณ
    บาดแผลต่างๆของเจ้าจะหายอย่างรวดเร็ว
พระองค์ผู้ให้ชัยชนะกับพวกเจ้าจะนำหน้าพวกเจ้าไป
    และสง่าราศีของพระยาห์เวห์ก็จะเป็นทหารเฝ้าระวังหลังให้กับเจ้า
แล้วเจ้าก็จะเรียกขอความช่วยเหลือและพระยาห์เวห์ก็จะตอบ
    เจ้าจะร้องขอ และพระองค์จะพูดว่า ‘เราอยู่นี่’
ถ้าเจ้าขจัดแอกของการกดขี่ไปจากสังคมของเจ้า
    หยุดชี้หน้ากัน และหยุดพูดใส่ร้ายป้ายสีกัน
10 ถ้าเจ้าให้อาหารของเจ้ากับคนหิวโหย และช่วยคนที่ถูกข่มเหงจนไม่ขาดอะไรเลย
    เมื่อนั้นแสงสว่างของเจ้าก็จะส่องขึ้นมาในความมืด และความมืดสลัวของเจ้าก็จะกลายเป็นเที่ยงวัน
11 พระยาห์เวห์จะนำทางเจ้าอยู่เสมอ
    และพระองค์จะดูแลความต้องการของเจ้าแม้ในแผ่นดินที่แห้งแล้ง
    และพระองค์จะเสริมกำลังกระดูกของเจ้า
เจ้าก็จะเป็นเหมือนสวนที่ได้รับน้ำ
    เหมือนกับตาน้ำที่น้ำไม่เคยแห้ง
12 เจ้าก็จะสร้างเมืองที่ถูกทำลายไปในสมัยโบราณขึ้นใหม่
    เจ้าจะก่อเมืองขึ้นมาบนพวกรากฐานอันเก่าแก่ของคนรุ่นก่อนๆ
และจะมีคนเรียกเจ้าว่า ผู้ซ่อมช่องโหว่ของกำแพง
    และผู้ซ่อมถนนให้คนได้มาอยู่อาศัยอีก
13 ถ้าเจ้าไม่เดินทางไกลในวันหยุดทางศาสนา
    และไม่ทำงานในวันอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
และถ้าเจ้าเรียกวันหยุดของเราว่าเป็นวันอันชื่นบานและเรียกวันอันศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ว่าเป็นวันอันมีเกียรติ
และถ้าเจ้าให้เกียรติวันนั้น โดยไม่เดินทางไปทำการค้าขาย
    โดยไม่วิ่งไล่ตามผลประโยชน์ของตนและโดยไม่เจรจาตกลงเรื่องธุรกิจกัน
14 เมื่อนั้นเจ้าจะชื่นชมยินดีในพระยาห์เวห์
    และเราจะทำให้เจ้าขี่ข้ามภูเขาสูงทั้งปวงในโลกนี้
และเราจะเลี้ยงเจ้าจากแผ่นดินที่เราได้ยกให้กับยาโคบบรรพบุรุษของเจ้า”
    ปากของพระยาห์เวห์ได้พูดว่าอย่างนั้น

คนของพระเจ้าต้องเปลี่ยนจากทางชั่วร้ายต่างๆ

59 อย่าคิดว่ามือของพระยาห์เวห์สั้นจนช่วยเจ้าไม่ได้
    หรือหูของพระองค์ตึงจนไม่ได้ยินเสียงของเจ้า
แต่เป็นความผิดบาปทั้งหลายของพวกเจ้าต่างหากที่เป็นอุปสรรคระหว่างเจ้ากับพระเจ้าของเจ้า
เป็นพวกบาปของเจ้าที่ทำให้พระองค์ซ่อนหน้าไปจากเจ้า
    พระองค์จึงไม่ได้ยินเสียงของเจ้า
เพราะมือของเจ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
    และนิ้วของเจ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยความผิด
ริมฝีปากของเจ้าพูดโกหก
    ลิ้นของเจ้ากระซิบวางแผนทำชั่ว
ไม่มีใครเอาเรื่องจริงมาขึ้นศาล
    และไม่มีใครเลยพูดความจริงในศาล
ทุกคนพึ่งคำพูดที่ไม่มีหลักฐานและพูดโกหก
    พวกเขาตั้งท้องความชั่วร้ายและคลอดความผิดบาปออกมา
พวกเขาฟักแผนร้ายเหมือนฟักไข่งู
    และทอแผนชั่วอย่างทอใยแมงมุม
ใครที่กินไข่เหล่านั้นของมันก็จะตาย
    แล้วถ้าไข่แตกก็จะมีงูพิษออกมา
ใยแมงมุมของพวกเขาจะเอามาใช้เป็นเสื้อผ้าก็ไม่ได้
    พวกเขาไม่สามารถเอาสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาคลุมตัวได้
งานต่างๆของพวกเขาเป็นงานชั่ว
    มือของพวกเขาเต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ
เท้าของพวกเขาวิ่งไปทำชั่ว
    พวกเขารีบไปทำให้เลือดของคนบริสุทธิ์หลั่งไหล
ความคิดต่างๆของพวกเขาเป็นความคิดชั่วร้าย
    พวกเขาไปถึงที่ไหน ความพินาศและการทำลายก็เกิดขึ้นที่นั่น
พวกเขาไม่รู้จักทางที่นำไปสู่สันติสุข
    ไม่มีความยุติธรรมในทางของพวกเขา
พวกเขาได้ทำทางของพวกเขาให้คดเคี้ยวไป
    ทุกคนที่เดินบนเส้นทางนั้นจะไม่ได้เจอกับสันติสุข
อย่างนี้ การตัดสินอย่างยุติธรรมของพระเจ้าจึงอยู่ห่างไกลจากพวกเรา
    ความรอดของพระองค์มาไม่ถึงพวกเรา
พวกเรารอคอยแสงสว่าง แต่มีแต่ความมืด
    พวกเรารอคอยแสงสว่างจ้า แต่พวกเราต้องเดินอยู่ในความมืดครึ้ม
10 พวกเราเดินคลำไปตามกำแพงเหมือนคนตาบอด
    เราคลำหาเหมือนคนไม่มีลูกตา
เราสะดุดล้มในตอนเที่ยงอย่างกับเป็นตอนกลางคืน
    ถึงคนอื่นแข็งแรง แต่พวกเราเป็นเหมือนศพ
11 เราทุกคนบ่นเหมือนหมีร้องคราง
    และร้องคร่ำครวญเหมือนนกเขาร้อง
พวกเรารอคอยการตัดสินอันยุติธรรมของพระองค์ แต่มันไม่มาสักที
    พวกเรารอคอยความรอด แต่มันห่างไกลจากพวกเรา
12 เพราะการกบฏต่างๆที่เราทำต่อพระองค์นั้นมีมากมาย
    และความบาปต่างๆของพวกเราเป็นพยานฟ้องพวกเราเอง
เพราะพวกเรารู้อยู่แก่ใจถึงการกบฏต่างๆของพวกเรา
    พวกเรารู้จักความผิดบาปของพวกเราเอง
13 พวกเราได้กบฏต่อพระยาห์เวห์และไม่สัตย์ซื่อต่อพระองค์
    พวกเราได้หันเหไปจากพระเจ้าของพวกเรา
พวกเราได้พูดถึงการกดขี่และการกบฏ
    ได้วางแผนด้วยคำพูดหลอกลวงและพูดสิ่งเหล่านั้นออกมาจากใจ
14 ความยุติธรรมก็เลยถูกไล่กลับไป
    ความถูกต้องก็อยู่ห่างไกล
ความจริงสะดุดล้มในลานเมือง
    ความสัตย์ซื่อเข้ามาในเมืองไม่ได้
15 ความจริงไม่อยู่แล้ว
    แล้วถ้าใครไม่ยอมทำชั่วก็จะถูกโจมตี

พระยาห์เวห์เห็นสิ่งเหล่านี้แล้วไม่พอใจมาก
    เพราะความยุติธรรมไม่มีเลย
16 พระองค์โกรธแค้นที่เห็นว่าไม่มีใครเลย
    ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือคนที่ถูกกดขี่ข่มเหง
แล้วพระองค์จึงใช้แขนอันทรงพลังของพระองค์เพื่อมาช่วยกู้
    และความยุติธรรมของพระองค์ทำให้พระองค์ประสบผลสำเร็จ
17 พระองค์สวมความยุติธรรมไว้เป็นเหล็กป้องกันอก
    และใส่ฤทธิ์ที่จะช่วยให้รอดเป็นหมวกเหล็ก
พระองค์สวมการแก้แค้นเป็นเสื้อผ้า
    ใส่ความเดือดดาลเป็นเสื้อคลุม
18 พระองค์จะตอบแทนศัตรูของพระองค์ตามที่เขาสมควรจะได้รับ
    คือผู้ที่ต่อสู้กับพระองค์จะได้รับความโกรธแค้น
    พวกศัตรูของพระองค์จะได้รับการลงโทษ
    พระองค์จะตอบแทนแผ่นดินตามแถบชายฝั่งทะเลและพวกเกาะตามที่พวกเขาสมควรจะได้รับ
19 คนพวกนั้นที่อยู่ทางตะวันตกจึงจะยำเกรงชื่อของพระยาห์เวห์
    และพวกที่อยู่ทางตะวันออกจะยำเกรงศักดิ์ศรีของพระองค์
    พระองค์จะซัดมาเหมือนแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวผ่านช่องแคบและโดนลมของพระยาห์เวห์พัดส่ง
20 พระยาห์เวห์บอกว่าพระองค์จะมาปลดปล่อยศิโยนให้เป็นอิสระ
    พระองค์จะมาช่วยกู้คนเหล่านั้นในครอบครัวของยาโคบที่กลับใจจากการกบฏ

21 พระยาห์เวห์พูดว่า “ตัวเราเองจะให้คำมั่นสัญญากับพวกเขาว่าอย่างนี้ ‘พระวิญญาณของเราที่อยู่ในเจ้า และคำพูดที่เราได้ใส่ไว้ในปากของเจ้า จะไม่พรากไปจากเจ้าหรือลูกๆของเจ้าหรือหลานๆของเจ้า ตั้งแต่นี้ไปจนตลอดกาล’” พระยาห์เวห์สัญญาว่าอย่างนั้น

ฟีลิปปี 1:1-26

จากเปาโลและทิโมธี พวกทาสของพระเยซูคริสต์

ถึงคนของพระเจ้าทุกคนที่มีส่วนร่วมในพระเยซูคริสต์ในเมืองฟีลิปปี รวมทั้งพวกผู้ดูแล และพวกผู้รับใช้พิเศษ[a]

ผมขอพระเจ้าพระบิดาของเราและพระเยซูคริสต์เจ้าให้ความเมตตาและให้สันติสุขกับพวกคุณด้วยเถิด

คำอธิษฐานของเปาโล

ผมขอบคุณพระเจ้าของผมทุกครั้งที่ผมคิดถึงพวกคุณ ผมดีใจตลอดเวลาที่ผมอธิษฐานขอพระเจ้าให้กับคุณทุกคน ผมดีใจเพราะพวกคุณได้ร่วมประกาศข่าวดีกับผม ตั้งแต่วันแรกที่คุณเชื่อจนถึงเดี๋ยวนี้ พระเจ้าได้เริ่มต้นการงานที่ดีในพวกคุณ และผมแน่ใจว่าพระองค์จะทำงานนี้ต่อไปจนกว่าจะสำเร็จในวันที่พระเยซูคริสต์กลับมา

สมควรแล้วที่ผมจะคิดอย่างนี้กับพวกคุณทุกคน เพราะคุณอยู่ในใจผม เพราะคุณคอยสนับสนุนงานของพระเจ้าที่พระองค์ให้ผมทำ ทั้งเวลาที่ผมติดคุกอยู่และเวลาที่ผมแก้ตัวเพื่อพระองค์และพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับข่าวดีนี้ พระเจ้าเป็นพยานได้ ผมคิดถึงพวกคุณทุกคนมากๆ ผมรักคุณเหมือนกับที่พระเยซูคริสต์รักคุณ

ผมอธิษฐานขอพระเจ้าให้คุณมีความรักอย่างเปี่ยมล้น ด้วยความรู้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเข้าใจว่าจะทำอย่างไรในทุกๆสถานการณ์ 10 เพื่อคุณจะได้เลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุด และจะได้เป็นคนบริสุทธิ์ ไม่มีความผิดบาปในวันที่พระคริสต์กลับมา 11 คุณจะได้เต็มไปด้วยความดีงามที่มาจากฤทธิ์อำนาจที่พระเยซูคริสต์ให้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อพระเจ้าจะได้รับเกียรติและคำสรรเสริญ

ปัญหาของเปาโลในการประกาศ

12 พี่น้องครับ ผมอยากให้คุณรู้ว่าเหตุการณ์ร้ายที่ได้เกิดขึ้นกับผมนี้ ความจริงแล้วได้ช่วยทำให้ข่าวดีแพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวางมากขึ้น 13 ตอนนี้ ทหารรักษาวังของจักรพรรดิโรมัน รวมทั้งคนอื่นๆทุกคนที่นี่รู้ว่าผมถูกล่ามโซ่อยู่นี้ก็เพื่อพระคริสต์ 14 นอกจากนั้นการที่ผมติดคุกทำให้พี่น้องส่วนใหญ่ที่นี่พึ่งความช่วยเหลือขององค์เจ้าชีวิตมากขึ้น พวกเขามีใจกล้ามากขึ้นที่จะประกาศเรื่องพระคริสต์อย่างไม่กลัวใคร

15 จริงอยู่บางคนประกาศเรื่องของพระคริสต์ เพราะอิจฉาและอยากชิงดีชิงเด่น แต่ก็มีคนที่ประกาศเพราะความหวังดีด้วยเหมือนกัน 16-17 พวกแรกนั้นประกาศเพราะอยากชิงดีชิงเด่นกับผม และเพราะมีความตั้งใจที่ไม่ดี คือพวกเขาคิดว่าจะเพิ่มความทุกข์ให้กับผมในระหว่างที่ผมยังติดคุกอยู่ แต่คนอื่นๆนั้นประกาศเพราะความรัก พวกเขารู้ว่าพระเจ้าให้ผมอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องข่าวดีอันนั้น

18 อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะทำเพราะมีแรงจูงใจที่ผิดหรือทำเพราะหวังดี สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเรื่องพระคริสต์ก็ได้ประกาศออกไปอยู่ดี ซึ่งทำให้ผมดีใจ ใช่แล้ว ผมจะยังดีใจต่อไปอีก 19 เพราะรู้ว่าทุกอย่างที่ได้เกิดขึ้นกับผมนี้จะนำผมไปถึงความรอดโดยคำอธิษฐานของคุณและโดยพระวิญญาณของพระเยซูคริสต์ที่พระเจ้าได้ให้กับผม 20 ซึ่งตรงกับสิ่งที่ผมคาดหวังอย่างยิ่งว่า ผมจะไม่ต้องอับอายในเรื่องอะไรเลย แต่จะกล้าหาญมาก (เหมือนกับที่เคยกล้าหาญมาตลอด) และพระเยซูคริสต์จะได้รับเกียรติเพราะตัวผม ไม่ว่าผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือจะตายก็ตาม 21 ในความคิดของผม จะอยู่ก็อยู่เพื่อพระคริสต์ ถ้าจะตายก็ถือว่าได้กำไร[b] 22 แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ต่อไป ผมก็จะทำงานให้เป็นประโยชน์ ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี 23 สองทางนี้มันเลือกยากมาก จริงๆแล้วผมอยากจะตายและไปอยู่กับพระคริสต์ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ดีกว่ามาก 24 แต่มันจะดีกว่าสำหรับพวกคุณ ที่ผมจะอยู่ในร่างนี้ต่อไป 25 เมื่อผมมั่นใจอย่างนี้ ผมจึงรู้ว่าผมจะอยู่ต่อไปเพื่อช่วยคุณทุกคนให้เจริญขึ้นและมีความสุขกับความเชื่อที่คุณมี 26 ดังนั้น คุณก็จะยกย่องพระเยซูคริสต์เพราะเรื่องของผม เมื่อผมกลับมาอยู่กับคุณอีกครั้งหนึ่ง

สดุดี 71

คนแก่อธิษฐานขอความช่วยเหลือ

ข้าแต่พระยาห์เวห์
    ข้าพเจ้าลี้ภัยในพระองค์ อย่าให้ข้าพเจ้าต้องเสียหน้าเลย
ขอช่วยข้าพเจ้าและกู้ข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะพระองค์ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    โปรดเอียงหูฟังคำร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า และช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเถิด
ขอให้พระองค์เป็นหินกำบัง และที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า
    เป็นป้อมปราการที่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด[a]
    เพราะพระองค์คือหินผาและป้อมปราการของข้าพเจ้า

พระเจ้าของข้าพเจ้า ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากมือคนชั่ว
    และพ้นจากเงื้อมมือของคนเลวและคนโหดเหี้ยม
ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต พระองค์เป็นความหวังของข้าพเจ้า
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าไว้วางใจในพระองค์ตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นเด็ก
ข้าพเจ้าพึ่งพาพระองค์ตั้งแต่อยู่ในท้องแล้ว
    พระองค์ช่วยดึงข้าพเจ้าออกมาจากท้องแม่
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์อยู่เสมอ

มีหลายคนเอาข้าพเจ้าเป็นแบบอย่าง
    เพราะพระองค์เป็นที่ลี้ภัยอันมั่นคงของข้าพเจ้า
ปากของข้าพเจ้าเต็มไปด้วยคำสรรเสริญต่อพระองค์
    ปากข้าพเจ้าพูดถึงความสง่างามยิ่งใหญ่ของพระองค์ตลอดทั้งวัน
ตอนนี้ที่ข้าพเจ้าแก่แล้ว ขออย่าได้โยนข้าพเจ้าทิ้งไป
    ขออย่าได้ทอดทิ้งข้าพเจ้าเมื่อข้าพเจ้าหมดเรี่ยวแรง
10 พวกศัตรูของข้าพเจ้า
    จ้องเอาชีวิตข้าพเจ้า ต่างปรึกษาวางแผนกันทำร้ายข้าพเจ้า
11 พวกเขาพากันพูดว่า “พระเจ้าทอดทิ้งมันแล้ว
    ดังนั้นให้พวกเราไล่ล่าและตะครุบมันไว้เพราะไม่มีใครช่วยมันหรอก”

12 ข้าแต่พระเจ้า อย่าได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า
    พระเจ้าของข้าพเจ้า รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
13 ขอให้คนเหล่านั้นที่กล่าวหาข้าพเจ้าได้รับความอับอายขายหน้าและพบกับจุดจบ
    ขอให้ผู้ที่จ้องจะทำร้ายข้าพเจ้าต้องทนทุกข์กับความอับอายและเสื่อมเกียรติ
14 แต่ข้าพเจ้ายังจะหวังในพระองค์ต่อไป
    และจะสรรเสริญพระองค์มากยิ่งขึ้น
15 ปากของข้าพเจ้าจะเล่าถึงความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
    ข้าพเจ้าจะเล่าทั้งวันถึงกิจกรรมการช่วยกู้ของพระองค์
    ถึงแม้ว่ามันจะมีมากกว่าที่ข้าพเจ้ารู้ก็ตาม
16 พระยาห์เวห์เจ้าข้า ข้าพเจ้าจะมาพูดถึงเรื่องการกระทำอันทรงฤทธิ์ของพระองค์
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์สำหรับความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
    จะสรรเสริญแต่พระองค์เพียงผู้เดียว

17 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ฝึกสอนข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นเด็ก
    แล้วจนถึงวันนี้ข้าพเจ้ายังคงบอกคนอื่นเกี่ยวกับการกระทำที่น่าทึ่งของพระองค์
18 ข้าแต่พระเจ้า โปรดอย่าทอดทิ้งคนแก่คนนี้ที่ผมหงอกแล้ว
    โปรดให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสประกาศเรื่องพลังอำนาจของพระองค์กับคนรุ่นต่อไปด้วยเถิด
    และได้เล่าถึงฤทธิ์เดชของพระองค์กับทุกคนที่มาภายหลัง
19 ข้าแต่พระเจ้า ความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์ขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์เบื้องบน
    ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีใครเล่าเป็นเหมือนพระองค์
20 พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเจอกับความทุกข์ยากและความเดือดร้อนหลายครั้ง
    โปรดให้ชีวิตใหม่กับข้าพเจ้าอีกที โปรดดึงข้าพเจ้าขึ้นมาจากที่เหวลึกของโลกอีกครั้ง
21 โปรดให้ข้าพเจ้ามีเกียรติมากกว่าเดิม
    โปรดหันกลับมาช่วยปลอบโยนข้าพเจ้าอีกครั้ง

22 พระเจ้าของข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะเล่นพิณสิบสายและ สรรเสริญความซื่อสัตย์ของพระองค์ที่มีต่อเรา
    ข้าแต่องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณสี่สาย
23 ริมฝีปากของข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีและร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
    เพราะพระองค์ได้ช่วยกู้ข้าพเจ้า
24 ลิ้นของข้าพเจ้าจะเล่าทั้งวันถึงความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
    เพราะคนที่จ้องจะทำร้ายข้าพเจ้านั้นต่างได้รับความอับอายและเสื่อมเสียเกียรติ

สุภาษิต 24:9-10

สิ่งที่คนโง่วางแผนจะทำนั้นคือความบาป
    คนที่ชอบเยาะเย้ยเป็นที่น่าขยะแขยง
10 ถ้าเจ้าอ่อนแอในยามคับขัน
    เจ้าก็เป็นคนอ่อนแอจริงๆ

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International