Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the CSB. Switch to the CSB to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 22-24

ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับเยรูซาเล็ม

22 นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับหุบเขาแห่งนิมิต[a]

เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าทุกคน
    ถึงได้ขึ้นไปบนดาดฟ้ากัน
ทำไมพวกเจ้าถึงได้โห่ร้องกันใหญ่
    ทำไมทั้งเมืองถึงส่งเสียงวุ่นวายอย่างนี้
    ทำไมพวกเจ้าถึงยังมีหน้ามาเฉลิมฉลองกัน
ถึงคนของเจ้าไม่ได้ตายด้วยดาบในสนามรบ
    แต่ก็ต้องมาตายด้วยความอดอยากและโรคระบาด
พวกผู้นำของเจ้าต่างก็พากันหนีไปด้วยกัน
    แต่พวกเขาก็ถูกจับหมด ไม่มีแม้แต่คันธนูติดตัว
พวกเจ้าที่ไปแอบซ่อนก็ถูกจับมาพร้อมๆกัน
    ถึงแม้พวกเจ้าจะหนีไปไกลแล้วก็ตาม

ดังนั้นผมถึงพูดว่า “อย่ามองผม
    ให้ผมร้องไห้อย่างขมขื่น
ไม่ต้องพยายามมาปลอบโยนผมในเรื่องที่พวกคนที่ผมรักถูกทำลาย”

พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ได้เลือกวันหนึ่งไว้แล้ว
    ในวันนั้นมีการจลาจลเหยียบย่ำกันและความสับสนวุ่นวายขึ้นในหุบเขาแห่งนิมิต
กำแพงเมืองถูกทำลายลง
    และคนในหุบเขาได้ร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่บนภูเขา
คนเอลามได้หยิบเอาคันธนูของตน
    ขึ้นรถรบและขึ้นม้า และทหารจากคีร์เตรียมโล่ไว้พร้อม
ตอนนั้น พวกหุบเขาที่ดีที่สุดของท่านเต็มไปด้วยรถรบ
    และทหารม้าก็เข้าประจำที่อยู่ตรงประตูเมือง
แต่พระองค์ได้เอาการปกป้องคุ้มครองของยูดาห์ไป
    ในเวลานั้น พวกเจ้าได้ไว้วางใจในอาวุธที่เก็บไว้ที่วังป่า[b]

พวกเจ้าได้ตรวจดูช่องโหว่หลายแห่งตรงกำแพงเมืองของดาวิด พวกเจ้าได้เก็บสะสมน้ำที่เอามาจากสระน้ำด้านล่าง 10 พวกเจ้าได้นับจำนวนบ้านของเยรูซาเล็มและได้รื้อบ้านไปหลายหลังเพื่อเอาอิฐมาซ่อมแซมกำแพง 11 พวกเจ้าได้สร้างที่กักเก็บน้ำในซอกระหว่างกำแพงด้านนอกกับด้านใน เพื่อรับน้ำที่ไหลลงมาจากสระเก่า แต่พวกเจ้ากลับไม่ได้ไว้วางใจในผู้นั้นที่สร้างเมืองนี้ขึ้นมา พวกเจ้าไม่ได้นับถือผู้นั้นที่ได้ออกแบบมันนานมาแล้ว

12 ในวันนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นเรียกให้คนร้องไห้และโศกเศร้า
    เรียกให้คนโกนหัวและใส่เสื้อผ้ากระสอบไว้ทุกข์
13 แต่ดูสิ ผู้คนกลับจัดงานเลี้ยงฉลองกัน
    ฆ่าวัวฆ่าแกะ
    กินเนื้อและดื่มเหล้าองุ่นกันอย่างสนุกสนาน
และพูดกันว่า “พวกเรามากินและดื่มกันเถอะ
    เพราะพรุ่งนี้เราก็จะตายกันแล้ว”
14 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น เปิดเผยสิ่งนี้ให้ผมได้ยินกับหูว่า
    “บาปที่พวกเจ้าทำนี้จะไม่ได้รับการอภัยแน่ตราบเท่าวันตาย”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้ลั่นคำพูดไว้อย่างนั้น

ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับเชบนา

15 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูดว่า “ให้ไปหานายคนนี้ คือเชบนาผู้ดูแลวัง 16 ให้บอกกับเขาว่า ‘เจ้ามาทำอะไรที่นี่ เจ้ามีญาติที่ถูกฝังอยู่ที่นี่หรือ เจ้าถึงได้สกัดหลุมฝังศพให้กับตัวเองที่นี่ สกัดหลุมฝังศพซะสูงเลยนะ เจ้าสกัดที่พักอันสงบในหินผานั้นอย่างนั้นหรือ’

17 เจ้า ดูสิ พระยาห์เวห์กำลังจะขว้างเจ้าออกไปอย่างแรง พระองค์กำลังจะจับเจ้าไว้แน่นๆ 18 และพระองค์ก็จะม้วนเจ้าให้แน่นๆและขว้างเจ้าออกไปเหมือนกับลูกบอล เข้าไปในแผ่นดินที่กว้างขวาง เจ้าจะตายที่นั่น และพวกรถรบที่เจ้าภูมิใจหนักหนาก็จะถูกทิ้งไว้ที่นั่นด้วย เจ้าได้นำความอับอายขายหน้ามาให้กับครัวเรือนของนายเจ้า 19 พระยาห์เวห์พูดว่า ‘เราจะผลักเจ้าออกจากตำแหน่งที่สำคัญของเจ้า และเจ้าก็จะถูกกระชากลงจากตำแหน่งของเจ้า 20 ในวันนั้น เราจะเรียกผู้รับใช้ของเรามาคือ เอลียาคิมลูกของฮิลคียาห์ 21 เราจะเอาเสื้อคลุมของเจ้าสวมให้กับเขา เราจะเอาผ้ารัดเอวของเจ้ามารัดให้กับเขา และมอบอำนาจของเจ้าให้อยู่ในมือเขา และเขาจะเป็นเหมือนพ่อของคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มและครอบครัวของยูดาห์ทั้งหมด

22 เราจะให้กุญแจวังของดาวิดกับเขาและความรับผิดชอบนั้นจะตกอยู่บนบ่าของเขา สิ่งที่เขาเปิด จะไม่มีใครปิดได้ และสิ่งที่เขาปิดก็จะไม่มีใครเปิดได้ 23 เขาจะเป็นเหมือนบัลลังก์ที่มีเกียรติสำหรับครอบครัวของพ่อเขา เราจะทำให้เขามั่นคงเหมือนกับหมุดที่ตอกไว้ในที่มั่นคงแน่นหนา 24 แต่น้ำหนักทั้งหมดของครอบครัวเขาก็จะแขวนอยู่บนเขา ทั้งลูกหลานและเครือญาติทั้งหมด ที่เปรียบเหมือนถ้วยเล็กๆทั้งหมดไปจนถึงเหยือกใหญ่ๆทั้งสิ้น ก็จะแขวนอยู่บนเขา’”

25 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ได้บอกว่า “หมุดที่ได้ตอกไว้ในที่ที่มั่นคงแน่นหนานั้นจะหลุดออกมา มันจะถูกตัดและตกลงมา และภาระทุกอย่างที่แขวนอยู่บนมันก็จะถูกทำลายไปหมด เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดไว้ว่าอย่างนั้น”

ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับเมืองไทระและดินแดนฟีนีเซีย

23 นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับเมืองไทระ

เรือบรรทุกทั้งหลายของทารชิช เอ๋ย
    ร้องไห้คร่ำครวญซะ
เพราะท่าจอดเรือของเจ้าถูกทำลายหมดแล้ว
    พวกเขาได้ข่าวเรื่องนี้ในระหว่างที่มาจากแผ่นดินไซปรัส
พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่ง คร่ำครวญซะ
    พ่อค้าของเมืองไซดอนเคยข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำให้เจ้าร่ำรวย
ข้าวสาลีแห่งเมืองชิโหร์ในแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ส่งมาทางเรือผ่านทะเลอันกว้างใหญ่
    รายได้ของเมืองไทระมาจากการเก็บเกี่ยวจากแถบลุ่มแม่น้ำไนล์
    และไทระก็ได้กลายเป็นตลาดการค้าของชนชาติต่างๆ
ไซดอนเอ๋ย เจ้าควรจะอับอาย
ป้อมปราการของทะเลเอ๋ย
    ทะเลได้พูดกับเจ้าว่า
    “ข้าไม่เคยเจ็บปวดคลอดลูก ข้าไม่เคยคลอดลูก
    ข้าไม่เคยเลี้ยงลูกจนเป็นหนุ่ม ข้าไม่เคยเลี้ยงลูกจนเป็นสาว”

เมื่อข่าวพวกนั้นมาถึงอียิปต์
    พวกเขาจะเป็นทุกข์เพราะข่าวที่เกี่ยวกับเมืองไทระนั้น
พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเล
    ให้ร้องไห้คร่ำครวญและให้ขึ้นเรือหนีไปเมืองทารชิชเถิด
นี่หรือเมืองไทระที่เคยเป็นเมืองที่พวกเจ้าภูมิใจนักหนาซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาช้านานแล้ว
    เป็นเมืองที่เคยส่งคนไปสร้างอาณานิคมทั้งหลายในแดนไกล
ไทระเคยมีอำนาจแต่งตั้งพวกกษัตริย์ได้
    พวกนักธุรกิจของไทระเคยได้รับการยกย่องอย่างกับเป็นเจ้าชาย
    พวกพ่อค้าของไทระเคยเป็นพวกที่ได้รับเกียรติมากที่สุดในโลก
ใครได้บังอาจวางแผนต่อต้านเมืองไทระอย่างนี้
พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นเป็นผู้วางแผนนี้เอง
    เพื่อทำลายความหยิ่งในศักดิ์ศรีทั้งหมดของมัน
    เพื่อทำให้ผู้มีเกียรติทุกคนในโลกขายหน้าไป
10 พวกเรือทั้งหลายของทารชิชเอ๋ย
    ข้ามกลับไปยังแผ่นดินของเจ้าได้แล้ว
    เจ้าจะมาใช้ที่นี่เป็นท่าเรือไม่ได้อีกแล้ว[c]
11 พระองค์ได้ยื่นมือของพระองค์ออกเหนือทะเล
    พระองค์เขย่าอาณาจักรต่างๆ
พระยาห์เวห์ออกคำสั่งให้ทำลายพวกป้อมปราการของคานาอัน[d]
12 พระองค์พูดว่า
“ไซดอนสาวพรหมจรรย์เอ๋ย เจ้าจะถูกข่มขืน
    เจ้าจะไม่ชื่นชมยินดีอีกต่อไป
ลุกขึ้น ไปที่ไซปรัสสิ
    แต่ที่นั่นก็จะไม่มีที่ให้เจ้าหยุดพักเหมือนกัน”
13 ดูแผ่นดินของคนบาบิโลนสิ เป็นชนชาตินี้แหละ ไม่ใช่คนอัสซีเรีย
    ที่ทำให้ไทระเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า
พวกเขาก่อเนินดินขึ้นมาบุกโจมตีป้อมปราการ
    พวกเขารื้อวังต่างๆทิ้งไป พวกเขาทำให้มันกลายเป็นซากปรักหักพัง
14 เรือบรรทุกทั้งหลายของทารชิชเอ๋ย ร้องไห้คร่ำครวญซะ
    เพราะท่าจอดเรือของเจ้าถูกทำลายหมดแล้ว

15 ในเวลานั้น ไทระจะถูกลืมไปเป็นเวลาเจ็ดสิบปี

นานเท่ากับชั่วชีวิตของกษัตริย์หนึ่งองค์ พอจบเจ็ดสิบปีนั้นแล้ว ไทระก็จะเป็นเหมือนโสเภณีในเพลงที่ร้องว่า

16 “หญิงโสเภณีที่ถูกลืมเอ๋ย
    เอาพิณขึ้นมาและเดินไปให้ทั่วเมือง
เล่นพิณนั้นให้เพราะๆร้องเพลงหลายๆเพลง
    เพื่อผู้ชายจะได้จดจำเจ้าได้”

17 เมื่อเจ็ดสิบปีนั้นจบไปแล้ว พระยาห์เวห์ก็จะมาฟื้นฟูเมืองไทระ แล้วไทระก็จะกลับมาค้าขายอีก และเธอก็จะขายตัวให้กับอาณาจักรทุกแห่งบนแผ่นดินโลกนี้ 18 แต่ว่าสินค้าและรายได้ของหล่อน หล่อนจะถวายให้กับพระยาห์เวห์ หล่อนจะไม่ได้เก็บสะสมกำไรของหล่อนเอาไว้ใช้เอง แต่สินค้าของหล่อนจะกลายเป็นอาหารอย่างเหลือเฟือ และเสื้อผ้าอย่างดีสำหรับพวกนักบวชที่อยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์

พระเจ้าจะลงโทษอิสราเอล

24 ดูสิ พระยาห์เวห์กำลังจะทำลายโลกนี้แล้วและปล่อยให้มันรกร้างว่างเปล่า
    พระองค์จะทำให้พื้นผิวโลกบิดเบี้ยวไปและทำให้พลเมืองของมันกระจัดกระจายไป
เรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับทุกคนเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไปหรือนักบวช
    ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือเจ้านาย
    ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้หรือนายผู้หญิง
ไม่ว่าจะเป็นคนซื้อหรือคนขาย
    ไม่ว่าจะเป็นคนยืมหรือคนให้ยืม
    ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้
โลกจะถูกทำลายลงอย่างราบคาบทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกปล้นไปจนเกลี้ยง
    เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดไว้ว่าอย่างนี้
โลกก็จะแห้งแล้งและเหี่ยวเฉาไป
    โลกก็จะอ่อนกำลังลงและเหี่ยวเฉาไป
    ฟ้าสวรรค์ก็จะอ่อนแอไปพร้อมกับโลก
ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกได้ทำให้แผ่นดินแปดเปื้อนไปในสายตาพระเจ้า
    พวกเขาได้ฝ่าฝืนกฎต่างๆและละเมิดคำสั่งทั้งหลาย
    และหักทิ้งคำมั่นสัญญานิรันดร์ที่เขากับพระเจ้ามีต่อกัน
เพราะอย่างนั้น โลกก็ถูกคำสาปกลืนกิน
    และคนที่อาศัยอยู่ในโลกก็ถูกลงโทษเพราะความผิดของพวกเขา
ดังนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกจึงได้ร่อยหลอไป เหลือไม่กี่คน
เหล้าองุ่นใหม่ก็เศร้าโศกเสียใจ
    เถาองุ่นก็อ่อนแอไป
    ทุกคนที่เคยร่าเริงก็ครวญคราง
การเฉลิมฉลองกันด้วยกลองได้หยุดไป
    เสียงของคนที่ดีอกดีใจก็ไม่มีอีกแล้ว
    การเฉลิมฉลองด้วยพิณก็ได้หยุดไป
พวกเขาไม่ดื่มเหล้าองุ่นพร้อมกับร้องเพลงอีกแล้ว
    รสชาติเบียร์ก็ขมเกินไปสำหรับคนที่ดื่มมัน
10 เมืองแตกกระจายและสับสนอลหม่านไป
    บ้านทุกหลังก็ปิดไม่ให้คนเข้า
11 ตามท้องถนนก็มีเสียงร้องเพราะขาดเหล้าองุ่นดื่ม
    ความสนุกสนานได้จางหายไป
    ความยินดีของโลก[e]ถูกกวาดต้อนไป
12 ในเมืองไม่เหลืออะไรเลยนอกจากความรกร้างว่างเปล่า
    ประตูเมืองก็โดนกระหน่ำซะเละไปหมด
13 มันจะเป็นอย่างนี้ในศูนย์กลางของโลก[f]
    ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
    จะเป็นเหมือนตอนที่กิ่งต้นมะกอกถูกตีไปแล้วในช่วงเก็บเกี่ยว
    หรือตอนที่เหลือองุ่นไม่กี่ลูกตอนที่ฤดูเก็บเกี่ยวองุ่นผ่านไปแล้ว

14 คนที่เหลือเหล่านั้นตะโกนเสียงดัง
    พวกเขาร้องสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์อย่างมีความสุข พวกเขาร้องว่า
15 “ตะโกนจากตะวันตก เฉลิมฉลองในทางตะวันออกถวายเกียรติให้กับพระยาห์เวห์
    ที่แถบชายฝั่งทะเลถวายเกียรติให้กับชื่อของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล”

16 พวกเราได้ยินเสียงเพลงจากที่สุดปลายโลกว่า
    “ถวายเกียรติให้กับพระองค์ผู้สัตย์ซื่อนั้น”
แต่ผมพูดว่า “ผมกำลังจะตาย ผมกำลังจะตาย
    ผมรู้สึกอับอายขายหน้า
เพราะพวกที่ทรยศไม่สัตย์ซื่อ
    พวกทรยศ ไม่สัตย์ซื่อเลย”

17 คนที่อาศัยอยู่ในโลกเอ๋ย
    ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องตื่นตระหนกตกใจ ตกหลุมพรางและติดตาข่ายแล้ว
18 คนที่วิ่งหนีเสียงที่น่าตกใจกลัวก็จะตกลงไปในหลุมพราง
    และคนที่ปีนขึ้นมาจากหลุมพรางก็จะติดตาข่ายอีก
เพราะพวกช่องสวรรค์ทั้งหลายถูกเปิดเทน้ำลงมา
    และรากฐานต่างๆของโลกก็สั่นสะเทือน
19 โลกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
    โลกฉีกเป็นชิ้นๆ
    โลกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
20 โลกส่ายโซเซเหมือนคนเมา
    และมันเอนเอียงไปมาเหมือนเพิงใต้พายุ
มันแบกความผิดของมันไว้จนหนักอึ้ง
    และมันก็ล้มลงและจะไม่มีวันลุกขึ้นมาได้อีก

ชัยชนะของพระยาห์เวห์

21 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์จะลงโทษพวกพระแห่งดวงดาวบนสวรรค์เบื้องบน
    และพวกกษัตริย์ในโลกเบื้องล่าง
22 และพวกเขาจะถูกรวบรวมเหมือนกับนักโทษในหลุม
    พวกเขาจะถูกขังไว้ในคุก
    และหลังจากนั้นอีกหลายวันพวกเขาก็จะถูกลงโทษ
23 พระจันทร์จะได้รับความอับอาย
    พระอาทิตย์จะถูกทำให้ขายหน้า
เพราะพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะปกครองเป็นกษัตริย์บนภูเขาศิโยนในเมืองเยรูซาเล็ม
    และสง่าราศีของพระองค์จะปรากฏต่อหน้าพวกผู้อาวุโสของเมืองนั้น

กาลาเทีย 2:17-3:9

17 แต่ถ้าในช่วงนี้ ที่เราอยากจะให้พระเจ้ายอมรับเราผ่านทางพระคริสต์นั้น ปรากฏว่าเรายังเป็นคนบาปอยู่ นี่หมายถึงพระคริสต์สนับสนุนให้เราเป็นคนบาปหรือ ไม่มีทาง 18 กฎของโมเสสสร้างกำแพงระหว่างพวกเราที่เป็นคนยิวและคนอื่น ผมได้ทำลายกำแพงนั้น แต่ถ้าผมจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ ก็แสดงว่าก่อนหน้านั้นผมทำผิดต่อกฎนั้น 19 เพราะกฎนี่แหละที่ทำให้ผมต้องตาย และเพราะผมได้ตายไปแล้ว ผมจึงเป็นอิสระพ้นจากกฎนั้น เพื่อผมจะได้มีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า 20 ผมได้ถูกตรึงบนไม้กางเขนจนตายไปพร้อมกับพระคริสต์ คนที่มีชีวิตอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ตัวผมแล้วแต่เป็นพระคริสต์ต่างหากที่อยู่ในตัวผม ชีวิตที่มีอยู่เดี๋ยวนี้ก็เป็นชีวิตที่ไว้วางใจในพระบุตรของพระเจ้า ผู้ที่รักผมและเสียสละชีวิตให้ผม 21 ผมไม่ได้ทำให้ความเมตตากรุณาของพระเจ้าหมดความหมายไปหรอกนะ เพราะถ้าพระเจ้ายอมรับคนเพราะคนทำตามกฎของโมเสส เท่ากับว่าพระคริสต์ก็มาตายเปล่าๆโดยไม่มีประโยชน์อะไรเลย

พระพรของพระเจ้าเกิดจากความไว้วางใจ

ชาวกาลาเทีย ทำไมถึงโง่อย่างนี้ มีใครมาร่ายมนตร์สะกดคุณหรืออย่างไร ผมได้อธิบายจนคุณเห็นภาพเรื่องที่พระเยซูคริสต์ถูกตรึงบนไม้กางเขนนั้นอย่างชัดเจนแล้ว ผมขอถามสักคำว่า คุณได้รับพระวิญญาณ เพราะทำตามกฎ หรือเพราะเชื่อฟังข่าวดีกันแน่ ทำไมคุณถึงโง่อย่างนี้ คุณได้เริ่มต้นชีวิตในพระคริสต์ด้วยพระวิญญาณ แล้วตอนนี้คุณคิดว่าคุณจะทำให้มันสำเร็จด้วยพลังอำนาจของคุณเองอย่างนั้นหรือ ประสบการณ์มากมายที่คุณเจอมา ไม่มีความหมายอะไรเลยหรือ ผมหวังว่ามันจะมีความหมายบ้าง ขอถามหน่อยว่า ที่พระเจ้าให้พระวิญญาณกับคุณและแสดงปาฏิหาริย์ท่ามกลางพวกคุณ เป็นเพราะคุณทำตามกฎหรือเป็นเพราะคุณเชื่อฟังข่าวดีที่ได้ยินกันแน่

ดูอย่างอับราฮัมสิ เขาไว้วางใจในพระเจ้า[a] และเพราะความไว้วางใจของเขานั่นเอง พระเจ้าถึงยอมรับเขา ขอให้รู้เอาไว้ว่า คนที่ไว้วางใจในพระเจ้า ก็ถือว่าเป็นลูกหลานที่แท้จริงของอับราฮัม พระคัมภีร์รู้ล่วงหน้านานมาแล้วว่า พระเจ้าจะยอมรับคนที่ไม่ใช่ยิวเพราะพวกเขาจะไว้วางใจในพระองค์ และพระเจ้าได้ประกาศข่าวดีนี้กับอับราฮัมก่อนล่วงหน้าแล้วว่า “ทุกชนชาติจะได้รับพระพรเพราะอับราฮัม”[b] ดังนั้นคนที่ไว้วางใจในพระเจ้า จะได้รับพระพรด้วยกันกับอับราฮัมที่ไว้วางใจในพระองค์

สดุดี 60

อธิษฐานขอชัยชนะหลังจากสู้รบแพ้

(สดด. 108:6-13)

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องเพลงโดยใช้ทำนอง “ดอกลิลลี่แห่งสัญญา” เพลงมิคทามของดาวิด สำหรับการสั่งสอน เขียนในช่วงที่ดาวิดต่อสู้กับชาวอารัมนาหะราอิมและชาวอารัมโซบาห์ ตอนขากลับโยอาบได้ฆ่าทหารชาวเอโดมไปหนึ่งหมื่นสองพันคนที่หุบเขาเกลือ[a]

ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทอดทิ้งพวกเรา
    และทลายกำแพงของพวกเรา
พระองค์โกรธพวกเรา
    โปรดนำพวกเรากลับไปสู่สภาพเดิมด้วยเถิด
พระองค์ทำให้แผ่นดินไหวและแยกแผ่นดินออก
    โปรดซ่อมรอยร้าวด้วยเถิดเพราะมันกำลังจะพังทลาย
พระองค์ทำให้คนของพระองค์เดือดร้อนจนล้มโซเซไป
    เหมือนกับพระองค์มอมเหล้าองุ่นเราจนโซซัดโซเซไป
พระองค์ยกธงให้กับคนที่เกรงกลัวพระองค์เห็น
    เพื่อพวกเขาจะได้หนีคมธนูที่วิ่งเข้าไปหา เซลาห์

ช่วยตอบข้าพเจ้าด้วยและใช้มือขวาอันทรงพลังของพระองค์
    ช่วยพวกเราให้รอดด้วยเถิดเพื่อคนที่พระองค์รักจะหนีไปได้

ในวิหารของพระองค์ พระเจ้าพูดว่า
    “เราจะชนะและเราจะวัดและจัดสรรปันส่วนเมืองเชเคม
    และหุบเขาสุคคทให้กับคนของเรา
ดินแดนกิเลอาดเป็นของเรา ดินแดนมนัสเสห์เป็นของเรา
    เผ่าเอฟราอิมเป็นหมวกเหล็กของเรา
    ส่วนเผ่ายูดาห์ เป็นคทา[b] ของเรา
ชนชาติโมอับเป็นอ่างล้างของเรา
    เราโยนรองเท้าของเราให้ชนชาติเอโดมที่เป็นทาสของเรา
    เราโห่ร้องอย่างผู้มีชัยเหนือดินแดนฟิลิสเตีย”

ใครเล่าจะนำข้าพเจ้าไปยึดเมืองที่มีกำแพงแน่นหนานั้น
    ใครเล่าจะนำข้าพเจ้าไปไกลถึงดินแดนเอโดม
10 เพราะพระองค์ทอดทิ้งพวกเราแล้ว ไม่ใช่หรือ
    ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ไม่ไปร่วมทัพกับพวกเราแล้ว
11 ข้าแต่พระเจ้า ช่วยเหลือพวกเราต่อสู้กับศัตรูด้วยเถิด
    เพราะความช่วยเหลือจากมนุษย์ ไม่มีประโยชน์
12 ต้องเป็นความช่วยเหลือจากพระเจ้าเท่านั้นพวกเราถึงจะชนะ
    พระองค์จะเหยียบย่ำศัตรูของพวกเรา

สุภาษิต 23:15-16

15 ลูกเอ๋ย ถ้าใจของเจ้าฉลาดขึ้นมา
    จิตใจของเราก็จะมีความสุข
16 เมื่อริมฝีปากของเจ้าพูดสิ่งที่ถูกต้อง
    จิตใจของเราก็จะชื่นบาน

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International