Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the CSB. Switch to the CSB to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 25:1-28:13

เพลงสรรเสริญพระเจ้า

25 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เป็นพระเจ้าของผม
    ผมจะยกย่องพระองค์และสรรเสริญพระนามของพระองค์
เพราะสิ่งน่าทึ่งทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำ
    พระองค์ได้วางแผนพวกมันมานานแล้วและพวกมันก็เกิดขึ้นจริงตามนั้น
พระองค์ทำให้เมืองกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
    พระองค์ทำลายเมืองที่มีป้อมปราการลง
ป้อมปราการของคนต่างชาติก็ไม่เป็นเมืองอีกต่อไป
    และมันจะไม่มีวันถูกสร้างขึ้นมาอีกแล้ว
ดังนั้น พวกชนชาติเข้มแข็งจึงถวายเกียรติให้กับพระองค์
    พวกเมืองต่างๆของชนชาติที่โหดเหี้ยมทั้งหลายจะยำเกรงพระองค์
เพราะพระองค์ได้เป็นที่หลบภัยสำหรับคนจน
    เป็นที่หลบภัยสำหรับคนที่ขัดสนเมื่อเขาเดือดร้อน
    เป็นที่กำบังจากพายุ และเป็นร่มเงากันความร้อน
เมื่อคนโหดเหี้ยมโหมพัดเข้าใส่เหมือนกับพายุในหน้าหนาว
หรือเหมือนกับความร้อนในที่แห้งแล้ง
    พระองค์หยุดเสียงเอะอะของพวกคนต่างชาติพวกนี้ลง
พระองค์ดับเสียงโห่ร้องแห่งชัยชนะของคนเหี้ยมโหดลง
    เหมือนกับที่เมฆดับความร้อนลง

พระยาห์เวห์จะจัดงานเลี้ยงให้กับพวกผู้รับใช้ของพระองค์

บนภูเขานี้ พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะจัดงานเลี้ยงให้กับทุกชนชาติ
    เป็นงานเลี้ยงที่มีอาหารเลิศรสและเหล้าองุ่นที่บ่มมาอย่างดี
    มีเนื้อที่นุ่มนวลและเหล้าองุ่นที่กรองตะกอนแล้ว
และบนภูเขานี้พระองค์จะทำลายผ้าที่คลุมหน้าคนทั้งหลาย
    ผ้าทอที่ครอบคลุมอยู่เหนือทุกชนชาติ
พระองค์จะกลืนกินความตายตลอดไปและพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจะเช็ดน้ำตาจากทุกๆใบหน้า
    และพระองค์จะขจัดความอับอายที่คนของพระองค์ได้รับให้หายไปจากทั้งโลก
    เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดไว้ว่าอย่างนั้น

ในเวลานั้นผู้คนจะพูดว่า
    “ดูสิ นี่คือพระเจ้าของเรา
เรารอคอยพระองค์
    และพระองค์ก็ได้มาช่วยกู้พวกเราแล้ว
นี่แหละพระยาห์เวห์ผู้ที่พวกเราได้ตั้งตารอคอย
    ขอให้พวกเราชื่นชมยินดีและมีความสุขเมื่อพระองค์มาช่วยกู้พวกเรา”
10 เพราะมือของพระองค์จะวางปกป้องอยู่บนภูเขาของพระองค์
    แต่พวกชาวโมอับจะถูกเหยียบย่ำลงในที่ของพวกเขานั้น เหมือนกับฟางที่ถูกเหยียบย่ำลงในกองขี้
11 และพวกชาวโมอับก็จะกางแขนของพวกเขาในกองขี้นั้นเหมือนกับนักว่ายน้ำกางแขนออกว่ายน้ำ
    พระยาห์เวห์จะกดความหยิ่งจองหองของพวกเขาลง ถึงแม้จะมีฝีมือเก่งกาจแค่ไหนก็ตาม
12 ชาวโมอับ พระองค์จะรื้อป้อมปราการที่สูงใหญ่ของพวกเจ้า
    ทำให้มันพังลง โยนลงกับพื้น คลุกฝุ่นไปเลย

เพลงที่ร้องสรรเสริญพระเจ้า

26 ในเวลานั้นจะมีการร้องเพลงนี้ในแผ่นดินของยูดาห์

“พระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเรา เป็นเมืองที่เข้มแข็งของเรา
    พระองค์ประทานกำแพงและป้อมปราการต่างๆให้[a]
ให้เปิดประตูเมืองเถิด
    เพื่อชนชาติที่ดีที่จงรักภักดีต่อพระองค์จะได้เข้ามา
พระยาห์เวห์เจ้าข้า พระองค์ประทานสันติสุขแท้จริงให้กับใจที่พึ่งพิงในพระองค์นั้น
    เพราะพวกเขาไว้วางใจในพระองค์
ให้ไว้วางใจในพระยาห์เวห์เสมอ
    เพราะในพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์นั้นแหละ เจ้ามีหินหลบภัยอันถาวร
พระองค์กดให้คนพวกนั้นที่อยู่สูงเลิศเลอตกต่ำลง
    พระองค์ทำให้เมืองสูงส่งล้มลง
พระองค์ทำให้มันล้มลงกับพื้นดิน
    และพระองค์ก็โยนมันลงไปคลุกฝุ่น
มีเท้าเหยียบย่ำไปบนมัน
    คือเท้าของคนที่ถูกกดขี่ข่มเหง
    คือย่างเท้าของคนที่ขัดสน”

คนของพระเจ้าร้องขอความช่วยเหลือ

ทางของคนดีถูกปรับให้ราบเรียบ
    ข้าแต่องค์ผู้ยุติธรรม พระองค์ทำให้ถนนของคนดีนั้นราบรื่น
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พวกเราตั้งตารอคอยพระองค์
    ในขณะที่เราเดินบนเส้นทางแห่งคำสั่งทั้งหลายของพระองค์
จิตวิญญาณของพวกเราอยากที่จะให้ชื่อเสียงและเกียรติของพระองค์เพิ่มขึ้น
จิตวิญญาณของข้าพเจ้าใฝ่ฝันถึงพระองค์ในตอนกลางคืน
    จิตวิญญาณภายในตัวข้าพเจ้าแสวงหาพระองค์ตอนรุ่งอรุณ
เพราะเมื่อการตัดสินต่างๆของพระองค์เกิดขึ้นในโลกนี้
    ชาวโลกเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง
10 ถ้าแสดงความเมตตาต่อคนชั่วช้า
    พวกเขาก็ไม่เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างถูกต้องหรอก
ถึงแม้จะอยู่ในดินแดนที่คนใช้ชีวิตอย่างถูกต้องกัน พวกคนชั่วช้าก็ยังทำตัวเลวร้ายอยู่ดี
    และพวกเขาก็ไม่เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์ด้วย
11 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เงื้อมือขึ้นมาเตรียมฟาด
    แต่พวกเขามองไม่เห็น
ขอให้พวกเขาเห็นถึงความรักอันแรงกล้าที่พระองค์มีต่อคนของพระองค์ ขอให้พวกเขาอับอายต่อสิ่งที่เขาได้ทำกับพวกเรา
    ขอให้เผาพลาญพวกเขาด้วยไฟที่พระองค์เตรียมไว้สำหรับศัตรูของพระองค์
12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอพระองค์ให้พวกเราอยู่เย็นเป็นสุขด้วยเถิด
    ทุกเรื่องที่เราได้ทำสำเร็จนั้น พระองค์เป็นผู้ทำให้มันสำเร็จเพื่อเรา
13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา
    พวกเจ้านายคนอื่นๆที่ไม่ใช่พระองค์ได้ครอบครองเหนือพวกเรา
    แต่พวกเราให้เกียรติกับชื่อของพระองค์เท่านั้น
14 คนตายจะไม่มีชีวิตอยู่อีก
    และผีก็จะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก
อย่างนั้นขอให้พระองค์ลงโทษและฆ่าทำลายพวกศัตรูของพวกเรา
    ขอให้พระองค์ลบชื่อของพวกมันให้หมดไป
15 แต่ขอให้พระองค์เพิ่มพูนชนชาติของพวกเรา
    ขอให้พระองค์เพิ่มพูนชนชาติของพวกเราให้มากขึ้น
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอให้พระองค์ได้รับเกียรติ
    ขอให้พระองค์ขยายเขตแดนของแผ่นดินทั้งหมด
16 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตอนที่พวกเราเดือดร้อน พวกเราแสวงหาพระองค์
    ตอนที่พระองค์ตีสอนพวกเรา พวกเราก็ร้องด้วยความเจ็บปวด
17 เหมือนกับผู้หญิงท้องที่ดิ้นไปมาและร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อใกล้คลอด
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทำให้พวกเราเป็นอย่างนั้น
18 พวกเราตั้งท้อง พวกเราดิ้นไปมา
    พวกเราคลอดลูก คลอดแต่ลมออกมา
เราไม่ได้นำความรอดมาให้กับแผ่นดิน
    และเราไม่ได้คลอดพลเมืองใหม่ออกมาให้กับโลก
19 พระยาห์เวห์พูดว่า “พวกคนที่ตายไปแล้วของเจ้าจะมีชีวิตอยู่ พวกศพของคนของเราจะฟื้นขึ้น
    พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ในฝุ่นเอ๋ย ตื่นขึ้นมา ร้องเพลงอย่างมีความสุขเถิด
เพราะพวกเจ้าจะงอกขึ้นมาเหมือนพืชที่ปกคลุมไปด้วยน้ำค้างในตอนเช้า
    และผืนดินนี้จะคลอดคนเหล่านั้นที่ตายไปแล้วออกมา”

ให้อดทนคอยความยุติธรรม

20 มาเถิด คนของเราเข้าไปในห้องส่วนตัวและปิดประตูซะ
    ซ่อนตัวสักพักจนกว่าความโกรธของพระยาห์เวห์จะผ่านพ้นไป
21 เพราะพระยาห์เวห์กำลังออกมาจากสถานที่ของพระองค์
    เพื่อมาลงโทษชาวโลกสำหรับความผิดบาปของพวกเขา
โลกนี้ก็จะเปิดโปงให้เห็นถึงเลือดที่เคยหลั่งบนมัน
    และมันก็จะไม่ปกปิดคนที่ถูกฆ่าอีกต่อไป
27 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์จะลงโทษเลวีอาธาน[b]
    พญานาคตัวนั้นที่กำลังหนีไป
ด้วยดาบที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังและทำลายล้างของพระองค์
    เลวีอาธานเป็นพญานาคที่คดเคี้ยวไปมา
    พระองค์จะฆ่าพญานาคตัวนั้นที่อยู่ในทะเล[c]

พระเจ้าจะช่วยกู้อิสราเอล

ในเวลานั้นจะมีสวนองุ่นที่น่าชื่นชมอยู่สวนหนึ่ง
    ให้ร้องเพลงเกี่ยวกับสวนองุ่นนั้นกันเถอะ
“เรา ยาห์เวห์ เป็นคนเฝ้าดูแลมันเอง
    เรารดน้ำมันสม่ำเสมอ
เราเฝ้ามันทั้งวันทั้งคืน
    เพื่อจะได้ไม่มีใครมาทำร้ายมัน
เราไม่ได้เคียดแค้นมัน
    แต่ถ้ามันเกิดหนามและหญ้าคาขึ้นมาให้กับเรา
เราก็จะบุกเข้าไปสู้รบกับพวกมัน
    และจะเผาพวกหนามและหญ้าคาพวกนั้นทิ้งให้หมด
อย่างนั้น ให้มันมาหาเราเพื่อให้เราปกป้อง
    ให้มันทำสัญญาสงบศึกกับเรา
    ให้มันทำสัญญาสงบศึกกับเราดีกว่า”
ในวันเหล่านั้นที่จะมาถึง คนของยาโคบจะหยั่งราก
    คนของอิสราเอลจะผลิดอกและแตกหน่อ
    และทั้งโลกจะเต็มไปด้วยผลของพวกเขา
พระองค์ตีอิสราเอลเหมือนกับที่พระองค์ตีคนที่ตีอิสราเอลหรือ
    คนอิสราเอลถูกฆ่าเท่ากับคนที่ฆ่าพวกเขาถูกฆ่าหรือ
พระองค์ได้ดำเนินคดีของพระองค์กับอิสราเอล
    พระองค์ขับไล่ไสส่งอิสราเอลออกไปด้วยลมพายุของพระองค์อย่างกับวันที่ลมตะวันออกพัดมา
ด้วยวิธีนี้ ความผิดบาปของอิสราเอลจะได้รับการอภัย
    แล้วนี่จะเป็นผลของการขจัดบาปของพวกเขานั้นด้วย
คือแท่นบูชาหินที่พวกเขาสร้างให้กับเทพเจ้าทั้งหลาย จะถูกบดให้เป็นผุยผง
    และจะไม่มีพวกเสาเจ้าแม่อาเชราห์ หรือแท่นเผาเครื่องหอมตั้งอยู่
10 เมืองที่มีป้อมปราการนั้นก็ว่างเปล่า
    มันกลายเป็นหมู่บ้านที่ถูกทอดทิ้งเหมือนกับทะเลทราย
และที่นั่น พวกลูกวัวก็จะมาเล็มหญ้ามานอนกัน
    และกินใบของกิ่งไม้จนหมดเกลี้ยง
11 เมื่อกิ่งก้านพวกนั้นแห้งและหักไป
    พวกผู้หญิงก็เอามาทำเป็นฟืนก่อไฟ
เพราะชนชาติพวกนี้ไม่มีหัวคิด
    พระผู้สร้างพวกเขาก็เลยไม่สงสารพวกเขา
    พระองค์ผู้ที่ปั้นพวกเขาขึ้นมาก็เลยไม่มีความเมตตาต่อพวกเขา

12 เวลานั้นกำลังมาถึง เมื่อพระยาห์เวห์จะแยกแกลบออกจากเมล็ดข้าว[d] ตั้งแต่ลุ่มแม่น้ำยูเฟรติส ไปจนถึงลำธารอียิปต์[e] อิสราเอลเอ๋ย พระองค์จะรวบรวมเจ้าเข้ามาทีละคน 13 ในเวลานั้น เมื่อแตรเขาสัตว์อันใหญ่ถูกเป่าขึ้น คนเหล่านั้นที่หลงหายอยู่ในแผ่นดินอัสซีเรีย[f] และคนเหล่านั้นที่เป็นผู้อพยพอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ก็จะกลับมา และพวกเขาก็จะมานมัสการพระยาห์เวห์บนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ในเมืองเยรูซาเล็ม

คำเตือนมายังอิสราเอลเหนือ

28 เฮ้ย ดูเมืองสะมาเรียซิ
    เป็นมงกุฎดอกไม้ที่พวกขี้เมาของเอฟราอิม ภูมิใจนักหนา
เป็นดอกไม้ที่สวยงามที่กำลังจะเหี่ยวแห้งไป
    ที่อยู่บนเนินเขาเหนือหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์
    ที่อยู่บนหัวของคนที่โดนเหล้าองุ่นมอมล้มไป
ดูสิ องค์เจ้าชีวิตมีคนหนึ่งที่มีพลังและเข้มแข็ง[g]
    เขาจะมาอย่างกับพายุลูกเห็บหรือพายุที่ทำลาย
เขาจะมาอย่างกับพายุที่นำน้ำมาท่วมท้นอย่างบ้าคลั่ง
    เขาจะโยนมงกุฎนั้นซึ่งคือสะมาเรียลงกับพื้นด้วยมือของเขาเอง[h]
มงกุฎดอกไม้ที่พวกขี้เมาของเอฟราอิมภูมิใจนักหนานั้น
    จะถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้า
ดอกไม้อันสวยงามที่กำลังจะเหี่ยวแห้งนั้น
    ที่อยู่บนเนินเขาเหนือหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์
จะเป็นเหมือนลูกมะเดื่อที่สุกชุดแรกก่อนหน้าร้อนจะมาถึง
    ที่ใครเห็นเข้า ก็จะรีบเด็ดมากินทันที

ในเวลานั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะเป็นเหมือนกับมงกุฎดอกไม้ที่มีสง่าราศี
    จะเป็นเหมือนมงกุฎดอกไม้ที่สวยงามสำหรับคนของพระองค์ที่ยังเหลืออยู่
และพระองค์จะมอบวิญญาณแห่งความยุติธรรมให้กับคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์พิพากษา
    และพระองค์จะมอบพละกำลังให้กับคนเหล่านั้นที่หันการสู้รบให้พ้นไปจากประตูเมือง

พวกผู้นำยูดาห์ที่ไม่ได้เรื่องจะถูกลงโทษ

และคนพวกนี้ก็จะโซซัดโซเซไปเพราะเหล้าองุ่นและส่ายไปส่ายมาด้วยเบียร์
    พวกนักบวช และพวกผู้พูดแทนพระเจ้าก็โซซัดโซเซไปเพราะเบียร์
พวกเขาก็มึนตื้อไปหมดเพราะเหล้าองุ่น
    พวกเขาเดินส่ายไปส่ายมาเพราะเบียร์
พวกเขาเมาเหล้าตอนที่เห็นนิมิตต่างๆ
    พวกผู้พิพากษาก็เมาหัวคะมำตอนตัดสินคดีต่างๆ
ทุกๆโต๊ะเลอะไปด้วยอ้วกเหม็นๆ
    ไม่มีที่ไหนสะอาดเลย

คนหนึ่งในพวกเขาพูดว่า “ไอ้หมอนี่มันคิดว่ามันกำลังสอนใครอยู่หรือ มันคิดว่ามันกำลังอธิบายเรื่องนั้นให้ใครฟังหรือ มันคิดว่ากำลังสอนเด็กที่เพิ่งหย่านมหรือ มันคิดว่ากำลังสอนทารกที่เพิ่งแยกจากอกแม่หรือ 10 มันพูดอ้อแอ้ซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนพูดกับเด็กว่า

ซอ ราซอ ซอ ราซอ
คอ ราคอ คอ ราคอ
ซีเออร์แชม ซีเออร์แชม”[i]

11 อย่างนั้นแหละ พระยาห์เวห์จะพูดกับชนชาตินี้ด้วยเสียงพูดแปลกๆและภาษาของคนต่างชาติ

12 ในอดีต พระเจ้าพูดกับคนพวกนั้นว่า “ที่นี่เป็นที่ปลอดภัย ขอให้คนที่เหน็ดเหนื่อยมาพักที่นี่ ที่นี่เป็นที่ปลอดภัย” แต่พวกเขาไม่ยอมฟังพระองค์ 13 ดังนั้น เมื่อคนต่างชาติบุกเข้ามา เมื่อนั้นแหละข่าวสารจากพระยาห์เวห์ก็จะเป็นเหมือนเสียงพูดอ้อแอ้กับพวกเขา ที่ว่า

“ซอ ราซอ ซอ ราซอ
คอ ราคอ คอ ราคอ
ซีเออร์แชม ซีเออร์แชม”

แล้วพวกเขาจะไป และล้มหงายหลัง ได้รับบาดเจ็บ ติดกับ และถูกจับไปเป็นเชลย

กาลาเทีย 3:10-22

10 แต่คนที่พึ่งการทำตามกฎจะตกอยู่ภายใต้คำสาปแช่ง เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “คนที่ไม่ทำตามกฎทุกข้อที่เขียนไว้ตลอดเวลา ก็จะตกอยู่ภายใต้คำสาปแช่ง”[a] 11 แต่เราก็รู้อยู่แล้วว่า ไม่มีใครเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าได้เพราะทำตามกฎ เพราะพระคัมภีร์บอกว่า “คนที่พระเจ้ายอมรับนั้น จะต้องมีชีวิตอยู่โดยความไว้วางใจ”[b] 12 กฎไม่ได้ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจ เพราะพระคัมภีร์พูดว่า “คนที่ทำตามกฎ ก็จะได้ชีวิตตามกฎนั้น”[c] 13 พระคริสต์ได้ช่วยพวกเราให้เป็นอิสระจากคำสาปแช่งของกฎโดยยอมถูกสาปแช่งเสียเอง เหมือนกับที่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “ทุกคนที่ถูกแขวนอยู่บนต้นไม้[d] คือคนที่ถูกสาปแช่ง”[e] 14 พระคริสต์ทำอย่างนี้เพื่อว่าคนที่ไม่ใช่ยิวจะได้รับพระพรตามที่พระเจ้าได้สัญญาไว้กับอับราฮัม โดยผ่านทางพระเยซูคริสต์ และเพื่อว่าพวกเราทุกคนจะได้รับพระวิญญาณตามที่พระเจ้าสัญญาไว้นั้นโดยความไว้วางใจ

กฎและคำสัญญา

15 พี่น้องครับ ผมขอยกตัวอย่างให้ฟังสักเรื่องหนึ่งจากชีวิตประจำวัน คือเมื่อคนสองฝ่ายตกลงเซ็นต์สัญญากันแล้ว ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกสัญญานั้นได้อีกแล้ว 16 มันก็เหมือนกับสัญญาที่พระเจ้าได้ทำไว้กับอับราฮัมและลูกหลานของเขา สัญญานั้นไม่ได้บอกว่า “ลูกหลานของเขา” หมายถึง ลูกหลานมากมายของเขา แต่หมายถึง “ลูกหลานคนนั้นของเขา” เพียงคนเดียวคือพระคริสต์ 17 ความหมายของผมคือว่า กฎของโมเสสที่มาทีหลังถึงสี่ร้อยสามสิบปีไม่สามารถมาเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือยกเลิกข้อตกลงที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ก่อนหน้านี้แล้วกับอับราฮัมได้หรอก 18 แต่ถ้าการที่จะได้รับมรดกนี้ขึ้นอยู่กับกฎ ก็แสดงว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำสัญญาของพระเจ้า แต่ความจริงแล้ว พระเจ้าได้ให้มรดกนี้เปล่าๆกับอับราฮัมโดยผ่านทางคำสัญญาของพระองค์

19 ถ้าอย่างนั้นจะมีกฎเอาไว้ทำไมกัน ก็มีไว้ให้คนที่ทำผิดรู้ตัวว่าเขากำลังฝ่าฝืนกฎอยู่นั่นเอง กฎนี้จะอยู่แค่ชั่วคราวจนกว่าลูกหลานคนนั้นของอับราฮัมที่พระเจ้าได้พูดถึงในคำสัญญาจะมาถึง พระเจ้าได้ใช้ทูตสวรรค์ให้เอากฎนี้ไปให้กับโมเสส เพื่อโมเสสจะได้เป็นคนกลางเอาไปให้กับประชาชน 20 แต่พระเจ้าได้ให้คำสัญญานี้โดยตรงกับอับราฮัม จึงไม่ต้องมีคนกลาง เพราะพระองค์ทำเองฝ่ายเดียว

จุดมุ่งหมายของกฎโมเสส

21 ถ้าอย่างนั้น กฎที่พระเจ้าให้กับโมเสสขัดแย้งกับคำสัญญาที่พระเจ้าให้กับอับราฮัมหรือ ไม่มีทาง เพราะถ้ากฎที่พระเจ้าให้กับโมเสสนี้ สามารถให้ชีวิตกับเราได้ ป่านนี้พระเจ้าก็คงยอมรับเรา เพราะเราทำตามกฎนั้นแล้ว 22 แต่พระคัมภีร์บอกว่า มนุษย์ทุกคนถูกขังไว้ในบาป ที่เป็นอย่างนี้ ก็เพื่อว่า โดยความซื่อสัตย์ของพระเยซูคริสต์[f] พระเจ้าจะได้ให้สิ่งที่พระองค์สัญญาไว้กับพวกคนที่ไว้วางใจ

สดุดี 61

การปกป้องภายใต้ปีกของพระองค์

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ใช้เครื่องดนตรีประกอบ เพลงของดาวิด

ข้าแต่พระเจ้า โปรดฟังเสียงร้องให้ช่วยของข้าพเจ้า
    โปรดรับฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้าด้วยเถิด
ข้าพเจ้ารู้สึกท้อแท้สิ้นหวังอยู่ที่สุดปลายโลกนี้
    ข้าพเจ้าจึงร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
ขอพระองค์นำข้าพเจ้าไปอยู่ที่ป้อมปราการสูง
เพราะพระองค์เป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า
    พระองค์เป็นหอสูงแข็งแกร่งที่ปกป้องข้าพเจ้าจากศัตรู
ข้าพเจ้าขอพักอาศัยอยู่ในเต็นท์ของพระองค์ตลอดไป
    และหลบภัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์ เซลาห์

ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ยินคำสาบานของข้าพเจ้า
    พระองค์ให้ข้าพเจ้ามีส่วนในมรดกที่เป็นของคนเหล่านั้นที่ยำเกรงพระองค์
ขอพระองค์ช่วยต่ออายุให้กับกษัตริย์
    ขอพระองค์ช่วยเพิ่มจำนวนวันปีของกษัตริย์ให้ออกไปอีกหลายชั่วอายุคน
ขอให้กษัตริย์นั่งอยู่บนบัลลังก์ต่อหน้าพระเจ้าตลอดไป
    ขอให้ความสัตย์ซื่อและความรักมั่นคงของพระองค์ปกป้องกษัตริย์

แล้วข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญชื่อของพระองค์เสมอ
    และจะแก้บนต่างๆของข้าพเจ้าในแต่ละวัน

สุภาษิต 23:17-18

17 อย่าให้ใจของเจ้าอิจฉาพวกคนบาป
    แต่ให้ยำเกรงพระยาห์เวห์เสมอ
18 เมื่อนั้นแหละเจ้าจะมีอนาคตที่ดี
    และเจ้าจะไม่ผิดหวัง

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International