The Daily Audio Bible
Today's audio is from the CEV. Switch to the CEV to read along with the audio.
พระยาห์เวห์จะช่วยกู้คนของพระองค์อีกครั้ง
51 พระยาห์เวห์พูดว่า “ฟังเราให้ดี พวกเจ้าที่พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง
พวกเจ้าที่แสวงหาพระยาห์เวห์
ให้ดูหินนั้น ที่เจ้าถูกสกัดออกมาสิ
ให้ดูบ่อหินนั้น ที่เจ้าถูกขุดออกมา
2 มองดู อับราฮัมบรรพบุรุษของพวกเจ้าและซาราห์คนที่คลอดเจ้ามาสิ
ตอนที่เราเรียกอับราฮัมนั้น เขายังอยู่ตัวคนเดียวเลย
แต่เราได้อวยพรเขา และทำให้เขามีลูกมากมาย”
3 พระยาห์เวห์จะปลอบโยนศิโยน
พระองค์จะมองพวกตึกที่พังทลายพวกนั้นของเธอ ด้วยความเห็นอกเห็นใจ
พระองค์จะทำให้ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งของเธอกลายเป็นสวนเอเดน
พระองค์จะทำให้ทะเลทรายของเธอเป็นเหมือนสวนของพระยาห์เวห์
ที่นั่นจะเต็มไปด้วยความสุขและการเฉลิมฉลองกัน
พวกเขาจะขอบพระคุณและร้องเพลงสรรเสริญ
4 พระยาห์เวห์พูดว่า “คนของเราเอ๋ย ฟังเราให้ดี
ชนชาติของเราเอ๋ย ตั้งใจฟังเราให้ดี เพราะเราจะให้คำสั่งสอน
และความยุติธรรมของเราจะส่องสว่างออกไปให้กับชนชาติต่างๆ
5 ชัยชนะของเรากำลังเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
ความรอดที่มาจากเรากำลังเดินทางมาแล้ว ฤทธิ์อำนาจของเราจะนำความยุติธรรมมาให้กับชนชาติต่างๆ
แผ่นดินแถบชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะต่างๆกำลังเฝ้าคอยเรา
พวกเขาฝากความหวังไว้กับฤทธิ์อำนาจของเรา
6 เงยหน้าเงยตาขึ้นไปมองบนท้องฟ้าสิ
มองลงไปยังโลกเบื้องล่าง
ให้รู้ว่าท้องฟ้าจะสูญหายไปเหมือนควัน
โลกจะเปื่อยยุ่ยไปเหมือนเสื้อผ้า
และคนที่อาศัยอยู่บนโลกก็จะตายเหมือนแมลงวัน
แต่ความรอดของเราจะอยู่ตลอดไป
และการช่วยกู้อันยุติธรรมของเราจะไม่มีวันแตกสลายไป
7 ฟังเราให้ดี พวกเจ้าที่รู้ว่าอะไรถูกต้อง
พวกเจ้าที่เก็บคำสั่งสอนของเราไว้ในใจ
ไม่ต้องไปกลัวคำพูดเหยียดหยามของคนอื่น
ไม่ต้องไปวุ่นวายใจกับคำดูถูกทั้งหลายของเขา
8 เพราะพวกตัวมอดจะกัดกินพวกเขาเหมือนเสื้อผ้า
และพวกตัวแมลงจะกัดกินพวกเขาเหมือนผ้าขนแกะ
แต่การช่วยกู้อันยุติธรรมของเราจะอยู่ตลอดไป
และความรอดของเราจะอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน”
พลังของพระยาห์เวห์เองจะช่วยกู้คนของพระองค์
9 ตื่นเถิด ตื่นเถิด พระยาห์เวห์เจ้าข้า สวมพลังไว้
ใช้พละกำลังของพระองค์เถิด[a]
ตื่นขึ้นเหมือนกับในสมัยก่อนนานมาแล้ว
เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ตัดราหับเป็นชิ้นๆ[b]
เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่แทงมังกรทะลุไป[c]
10 เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ทะเลแห้งไป
คือทำให้น้ำในมหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่แห้งไป
เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ส่วนลึกที่สุดของทะเล
กลายเป็นทางให้กับคนที่พระองค์ไถ่ให้เป็นอิสระเดินข้ามไป
11 คนที่พระยาห์เวห์ได้ไถ่ให้เป็นอิสระ
แล้วจะกลับมาที่ศิโยนด้วยเสียงโห่ร้องดีใจ
ความสุขจะสวมอยู่บนหัวของพวกเขาตลอดไป
ความชื่นชมยินดีก็จะท่วมท้นพวกเขา
ความเศร้าโศกและการครวญครางจะวิ่งหนีไปจากพวกเขา
12 พระยาห์เวห์พูดว่า “เรา คือเราเองเป็นผู้ที่ปลอบโยนพวกเจ้า
เยรูซาเล็ม ทำไมเจ้าถึงได้กลัวมนุษย์ที่จะต้องตาย
คือคนที่ถูกสร้างเป็นเหมือนหญ้า
13 ทำไมเจ้าถึงได้ลืมพระยาห์เวห์ผู้ที่สร้างเจ้ามา
ผู้ที่กางแผ่นฟ้าออก
ผู้ที่วางรากฐานของโลก
ทำไมเจ้าถึงได้หวาดกลัวคนพวกนั้นอยู่เรื่อยทั้งวัน คือพวกที่โกรธแค้นและข่มเหงเจ้า
พวกที่ตั้งใจจะทำลายเจ้า
แล้วตอนนี้ พวกที่โกรธแค้นและที่เคยข่มเหงเจ้าหายไปไหนกันหมดแล้ว
14 คนพวกนั้นที่ถูกข่มเหงในคุกจะได้รับการปลดปล่อยในไม่ช้า
พวกเขาจะไม่ตายในคุกใต้ดินหรอก
และพวกเขาก็จะไม่ขาดอาหาร
15 เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า
เราเป็นผู้ที่ทำให้ทะเลสงบลงตอนที่เกิดคลื่นคะนอง
ชื่อของเราคือยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น”
16 “อิสราเอลเอ๋ย เราได้ใส่คำพูดของเราไว้ในปากของเจ้า
เราได้ซ่อนและปกป้องเจ้าไว้ใต้มือของเรา
เราคือผู้ที่กางท้องฟ้าออกและวางรากฐานของโลก
เราพูดกับศิโยนว่า ‘เจ้าเป็นชนชาติของเรา’”
ถึงตาคนอื่นถูกลงโทษแล้ว
17 เยรูซาเล็มเอ๋ย ตื่นเถิด ตื่นเถิด ลุกขึ้นเถิด
ตอนนั้นพระยาห์เวห์โกรธเจ้ามาก พระองค์ถึงได้ลงโทษเจ้า
เจ้าได้ดื่มจากถ้วยในมือของพระยาห์เวห์ เป็นถ้วยแห่งความโกรธแค้นของพระองค์
เจ้าได้ดื่มเข้าไปจนหมดถ้วย ถ้วยที่ทำให้ผู้คนต้องเมาโซเซ
18 จากลูกมากมายที่เยรูซาเล็มคลอด
ไม่เหลือซักคนที่นั่นที่จะนำทางเธอ
จากลูกมากมายที่เธอเลี้ยงจนเติบโตขึ้นมา
ไม่เหลือซักคนที่นั่นที่จะจูงมือเธอ
19 มีสองสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับเจ้าคือแผ่นดินได้ถูกล้างผลาญและพินาศไป
แล้วคนก็ตายจากกันดารอาหารและสงคราม
ไม่เหลือใครที่จะไว้ทุกข์ให้กับเจ้า
ไม่เหลือใครที่จะปลอบโยนเจ้า
20 ลูกๆของเจ้าได้เป็นลมไป
พวกเขาก็นอนอยู่ตามทุกหัวถนนเหมือนกับกวางที่ติดตาข่าย
ความโกรธแค้นของพระยาห์เวห์ตกบนพวกเขาอย่างเต็มที่
พวกเขาได้ยินพระเจ้าของเจ้าตะคอกใส่พวกเขา
21 ดังนั้น ฟังสิ่งนี้ไว้ให้ดี เจ้าที่ทนทุกข์ทรมาน
เจ้าที่เมา แต่ไม่ได้เมาด้วยเหล้าองุ่น
22 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตของเจ้า
พระเจ้าของเจ้าที่ต่อสู้คดีให้กับคนของพระองค์
พูดว่าอย่างนี้ “เห็นไหม เราได้เอาถ้วยที่ทำให้ผู้คนเมาโซเซไปจากมือของเจ้าแล้ว
เจ้าจะไม่ต้องดื่มจากชามแห่งความโกรธแค้นของเราอีกแล้ว[d]
23 เราจะเอาถ้วยนั้นไปใส่ไว้ในมือของคนพวกนั้นที่เคยทรมานเจ้า
คนที่เคยสั่งเจ้าว่า ‘ก้มลงกับพื้น เราจะเหยียบเจ้าไป’
ในตอนนั้นเจ้าต้องยอมให้หลังของเจ้าเป็นเหมือนพื้น
และเป็นเหมือนถนน ให้พวกเขาเดินเหยียบย่ำไป”
อิสราเอลจะรอด
52 ศิโยนเอ๋ย ตื่นเถิด ตื่นเถิด
สวมพลังของเจ้าเถิด
เยรูซาเล็ม เมืองอันศักดิ์สิทธิ์เอ๋ย
สวมใส่เสื้อผ้าที่สวยงามของเจ้าเถิด
เพราะพวกคนต่างชาติที่ไม่ได้ทำพิธีขลิบและคนที่ไม่บริสุทธิ์จะไม่ได้เข้ามาในเจ้าอีกแล้ว
2 เยรูซาเล็ม ผู้เป็นเชลยเอ๋ย
ปัดฝุ่นซะ ลุกขึ้นได้แล้ว
นางสาวศิโยน ผู้เป็นเชลยเอ๋ย
ถอดพวกโซ่ที่ล่ามคอเจ้าออกได้แล้ว
3 เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด
“เจ้าถูกขายไปแบบให้เปล่า
และเจ้าก็จะได้รับการไถ่โดยไม่ต้องเสียเงินด้วยเหมือนกัน”
4 เพราะพระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต พูดไว้ว่าอย่างนี้ “ในตอนแรก คนของเราได้ลงไปที่อียิปต์ และไปอยู่เป็นคนต่างด้าวที่นั่น แล้วหลังจากนั้น ชาวอัสซีเรียก็ได้เอาพวกเขาไปเป็นทาสโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย” 5 พระยาห์เวห์พูดว่า “แล้วตอนนี้ ดูสิว่าเราต้องเจอกับอะไร พวกเขาเอาคนของเราไปเปล่าๆ แล้วยังโอ้อวดหมิ่นประมาทชื่อของเราไปเรื่อยทั้งวัน”
6 แล้วเมื่อเรามาช่วยกู้คนของเรา พวกเขาจะได้สัมผัสกับฤทธิ์อำนาจอันโด่งดังของเรา ในตอนนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเป็นเราเองที่พูดว่า “เราอยู่นี่”
7 น่ายินดีขนาดไหน ที่จะได้เห็นเท้าของผู้ประกาศข่าวดีกำลังข้ามภูเขาทั้งหลายมา
ผู้ที่มาประกาศสันติภาพ
ผู้ที่นำข่าวดีมา
ผู้ที่มาประกาศชัยชนะ
ผู้ที่มาบอกกับศิโยนว่า “พระเจ้าของท่านกำลังครอบครองอยู่”
8 ฟังให้ดี ทหารยามของท่านกำลังส่งเสียงร้อง
พวกเขาโห่ร้องพร้อมกันด้วยความยินดี
เพราะพวกเขาได้เห็นกับตาตัวเองว่าพระยาห์เวห์กำลังกลับมาที่ศิโยน
9 พวกซากปรักหักพังของเยรูซาเล็มเอ๋ย
ระเบิดเสียงเพลงแห่งความยินดีออกมาพร้อมกันเลย
เพราะพระยาห์เวห์ได้ปลอบโยนคนของพระองค์
พระองค์ได้ไถ่เมืองเยรูซาเล็มแล้ว
10 พระยาห์เวห์ได้ถกเสื้อให้เห็นแขนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังของพระองค์ต่อหน้าต่อตาชนชาติทั้งหมด
และทุกคนบนโลกนี้จะได้เห็นการช่วยกู้ที่มาจากพระเจ้าของเรา
11 ไปซะ ไปซะ ออกไปจากบาบิโลนซะ
อย่าได้จับอะไรที่ไม่บริสุทธิ์
ออกไปจากท่ามกลางเธอซะ
เจ้าที่ถือข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้ในวิหารของพระยาห์เวห์ ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์
12 แต่เจ้าจะไม่ต้องจากไปอย่างเร่งรีบ
เจ้าจะไม่ต้องวิ่งหนีเหมือนกับพวกอพยพ
เพราะพระยาห์เวห์จะนำหน้าพวกเจ้าไป
พระเจ้าของอิสราเอลจะคุ้มครองด้านหลังให้กับเจ้า
ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ที่ทนทุกข์ทรมาน
13 พระยาห์เวห์พูดว่า “ดูสิ ผู้รับใช้ของเราจะประสบความสำเร็จ
เขาจะได้รับการยกย่องเชิดชูอย่างสูง
14 ตอนนั้นเขาทำให้คนจำนวนมากตกตะลึง รูปร่างหน้าตาของเขาเสียโฉมมาก
แทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนเลย
รูปร่างของเขาแทบจะไม่เหมือนมนุษย์แล้ว
15 แล้วตอนนี้เขาก็จะทำให้หลายๆชนชาติสะดุ้ง
พวกกษัตริย์จะต้องปิดปากอึ้งไปเพราะเขา
เพราะพวกเขาจะเห็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครบอกพวกเขามาก่อน
และพวกเขาก็จะคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน”
53 ผู้คนพูดว่า ใครจะไปเชื่อว่าเรื่องที่เราได้ยินมาจะเกิดขึ้นได้
ตอนนั้นใครจะไปเห็นฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ในเหตุการณ์นี้
2 เขาเติบโตขึ้นมาเหมือนกับต้นไม้เล็กๆต่อหน้าพระยาห์เวห์
เหมือนกับรากที่แตกหน่อในดินแห้งแล้ง
เขาไม่ได้หล่อเหลาหรือมีสง่าราศีถึงกับทำให้เราอยากมองเขา
เขาไม่ได้มีอะไรน่าดึงดูดถึงกับทำให้เราชอบเขา
3 ผู้คนต่างพากันดูถูกและไม่คบด้วย
เขาเป็นผู้ชายที่เจอกับความเจ็บปวดมากมายและคุ้นเคยกับความทุกข์ทรมาน
เป็นเหมือนคนหนึ่งที่คนทนดูไม่ได้
เขาเป็นที่ดูถูกและเราไม่ได้เห็นว่าเขาสำคัญอะไรเลย
4 เขาได้แบกรับความทุกข์ทรมานของพวกเราอย่างแน่นอน
เขาหอบหิ้วความเจ็บปวดของพวกเรา
แต่เรามองว่าพระเจ้าลงโทษเขา
โบยตีเขา และทำให้เขาเจ็บปวด
5 เขาถูกแทงก็เพราะความผิดต่างๆที่เราทำไป
เขาฟกช้ำก็เพราะความชั่วต่างๆที่พวกเราทำ
การตีสอนที่ทำให้เราหายดีก็ตกอยู่บนเขา
พวกเราได้รับการรักษาเพราะบาดแผลทั้งหลายของเขา
6 พวกเราทุกคนได้หลงหายไปเหมือนแกะ
พวกเราแต่ละคนต่างหลงไปคนละทิศละทาง
แต่พระยาห์เวห์ปล่อยให้ความผิดของพวกเราทุกคนโจมตีเขา
7 เขาถูกกดขี่ข่มเหง และถูกทำให้เจ็บปวด
แต่เขาก็ไม่ปริปากบ่นเลย
เหมือนกับลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า
เหมือนกับแกะที่นิ่งเงียบอยู่ต่อหน้าคนที่ตัดขนของมัน
เขาไม่ได้ปริปากของเขาเลย
8 เขาก็ถูกเอาตัวไปหลังจากที่ถูกจับและถูกตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม[e]
และไม่มีใครสนใจในชะตากรรมของเขา[f]
เพราะเขาถูกตัดออกจากโลกของคนเป็น
เขาถูกลงโทษเพราะความผิดที่คนของเขาทำ[g]
9 พวกเขาได้ทำหลุมฝังศพของเขาไว้กับหลุมของคนชั่ว
และทำอุโมงค์ฝังศพของเขาไว้กับอุโมงค์ของคนรวย[h]
ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ก่อความรุนแรง
และเขาไม่ได้พูดหลอกลวง
10 แต่พระยาห์เวห์ก็ตัดสินใจที่จะบดขยี้คนของพระองค์
และทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมาน
ถ้าผู้รับใช้ของพระองค์ยอมให้ชีวิตตัวเขาเองเป็นของถวายชดใช้ความผิด
เขาก็จะได้เห็นลูกหลานของเขาและจะมีอายุยืนยาว
ความตั้งใจของพระยาห์เวห์ก็จะสำเร็จผ่านทางมือของเขา
11 หลังจากความทุกข์ทรมานอันเลวร้ายของเขาแล้ว เขาก็จะเห็นความสว่าง[i]
และสิ่งที่เขาประสบมานั้นจะทำให้เขาพึงพอใจ
พระยาห์เวห์พูดว่า “ผู้รับใช้ของเราผู้ที่ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
ทำให้หลายๆคนได้รับการตัดสินให้พ้นผิด
และเขาก็จะแบกรับโทษสำหรับความผิดที่คนพวกนั้นทำ
12 ดังนั้น เราจะให้รางวัลกับเขาร่วมกับพวกผู้ยิ่งใหญ่
และเขาก็จะได้รับส่วนแบ่งจากของที่ยึดมาได้ร่วมกับคนที่แข็งแรง
เพราะเขาได้เทตัวเองออกมาจนตาย
เขาถูกนับรวมเข้ากับพวกคนบาป
และเขาก็แบกรับบาปของคนจำนวนมาก
และได้ขอร้องอ้อนวอนแทนพวกคนบาป”
5 ในฐานะที่เป็นลูกที่รักของพระเจ้า ก็ให้เลียนแบบพระองค์ 2 ให้ใช้ชีวิตด้วยความรัก เหมือนกับที่พระคริสต์รักเราด้วย พระองค์ได้สละชีวิตเพื่อเรา เป็นเหมือนเครื่องถวาย และเครื่องบูชาที่หอมหวานให้กับพระเจ้า
3 เรื่องความผิดบาปทางเพศ เรื่องลามกทุกอย่าง หรือความมักมากในกาม แม้แต่จะพูดถึงก็อย่าเลย เพราะมันไม่เหมาะกับคนที่เป็นของพระเจ้า 4 รวมทั้งการพูดจาหยาบคายไร้สาระไม่เป็นเรื่อง หรือพูดตลกลามก ก็ไม่เหมาะสมทั้งนั้น แต่ควรจะพูดขอบคุณพระเจ้าดีกว่า 5 ให้พวกคุณรู้เอาไว้เลยว่าทุกคนที่ทำผิดบาปทางเพศ ไม่บริสุทธิ์ หรือมักมากในกาม[a] ซึ่งเป็นการบูชารูปเคารพ จะไม่มีส่วนในอาณาจักรของพระคริสต์และของพระเจ้า
6 อย่าให้ใครมาหลอกลวงพวกคุณด้วยคำพูดที่เหลวไหล เพราะเรื่องอย่างนี้แหละที่ทำให้พระเจ้าลงโทษคนพวกนั้นที่ไม่เชื่อฟัง 7 เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าไปมีส่วนร่วมกับคนพวกนั้นเลย 8 เมื่อก่อนนี้พวกคุณเคยเป็นความมืด แต่เดี๋ยวนี้เป็นความสว่างแล้ว เพราะมีส่วนในองค์เจ้าชีวิต อย่างนั้นก็ให้ใช้ชีวิตให้สมกับที่เป็นลูกของความสว่างนั้น 9 (เพราะผลของความสว่างคือความดีทุกอย่าง ชีวิตที่พระเจ้าชอบใจ และการพูดความจริง) 10 ให้พยายามค้นหาว่าองค์เจ้าชีวิตชอบใจอะไรบ้าง 11 อย่ามีส่วนกับการกระทำต่างๆของความมืดที่ไร้ประโยชน์นั้น แต่ให้ชีวิตบริสุทธิ์ของพวกคุณเปิดโปงเรื่องพวกนั้นออกมาดีกว่า 12 เพราะแม้แต่จะพูดถึงเรื่องลับๆที่พวกเขาทำกัน ก็ยังน่าละอายเลย 13 แต่ความสว่างนั้นทำให้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจน 14 เพราะความสว่างจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันส่องนั้นกลายเป็นความสว่างไปด้วย นั่นเป็นเหตุที่มีคำพูดว่า
“ตื่นได้แล้ว เจ้าที่หลับอยู่
ลุกขึ้นมาจากความตายสิ
แล้วพระคริสต์จะส่องสว่างใส่เจ้า”
15 ถ้าอย่างนั้น ระวังให้ดีว่าพวกคุณใช้ชีวิตอย่างไร อย่าเป็นเหมือนคนโง่ แต่ให้เป็นเหมือนคนฉลาด 16 ให้ฉวยโอกาสที่จะทำดี เพราะทุกวันนี้มีแต่ความชั่วร้าย 17 ฉะนั้นอย่าเป็นคนโง่ แต่ให้เข้าใจว่าองค์เจ้าชีวิตต้องการให้คุณทำอะไร 18 อย่าเมาเหล้าองุ่น มันจะทำให้คุณเสียคนได้ แต่ให้เต็มไปด้วยพระวิญญาณดีกว่า 19 คือร้องเพลงสดุดี เพลงสรรเสริญ และเพลงจากพระวิญญาณให้กันและกัน และให้ร้องเพลงสรรเสริญองค์เจ้าชีวิตจากใจ 20 และขอบคุณพระเจ้าผู้เป็นพระบิดาของเราเสมอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ในฐานะเป็นคนของพระเยซูคริสต์เจ้า[b]
สามีกับภรรยา
21 ให้ยินยอมซึ่งกันและกัน เพราะยำเกรงพระคริสต์
22 พวกคุณที่เป็นภรรยา ให้ยินยอมสามี เหมือนที่ยินยอมองค์เจ้าชีวิต 23 เพราะสามีคือศีรษะของภรรยา เหมือนกับที่พระคริสต์เป็นศีรษะของหมู่ประชุม คือพระองค์เองเป็นผู้ช่วยให้รอดของร่างกาย 24 แต่หมู่ประชุมยินยอมพระคริสต์อย่างไร ภรรยาก็ควรจะยินยอมสามีของตนในทุกเรื่องอย่างนั้นด้วย
25 พวกคุณที่เป็นสามี ให้รักภรรยาของตนเหมือนกับที่พระคริสต์รักหมู่ประชุมของพระองค์ และได้สละพระองค์เองเพื่อประโยชน์ของหมู่ประชุม 26 ที่พระคริสต์ทำอย่างนี้ก็เพื่อชำระล้างหมู่ประชุมของพระองค์ ให้บริสุทธิ์ด้วยน้ำและถ้อยคำของพระองค์ 27 เพื่อพระองค์จะได้มอบหมู่ประชุมที่สง่างามให้กับพระองค์เอง เป็นเจ้าสาวที่ไม่มีตำหนิ ริ้วรอย หรือความบกพร่องอะไรเลย แต่จะบริสุทธิ์หมดจดทุกอย่าง 28 สามีก็เหมือนกัน ควรจะรักภรรยาของตนเหมือนกับรักร่างกายของตนเอง คนที่รักภรรยาก็รักตัวเองนั่นแหละ 29 เพราะไม่มีใครหรอกที่เกลียดร่างกายของตนเอง มีแต่จะเลี้ยงดูและเอาใจใส่ เหมือนกับที่พระคริสต์เลี้ยงดูและเอาใจใส่หมู่ประชุมของพระองค์ 30 เพราะเราเป็นอวัยวะในร่างกายของพระองค์ 31 เหมือนกับที่พระคัมภีร์พูดเอาไว้ว่า “ดังนั้นผู้ชายจะจากพ่อและแม่ของเขา ไปเป็นหนึ่งเดียวกับภรรยาของตน และเขาทั้งสองจะเป็นร่างกายเดียวกัน”[c] 32 เรื่องนี้เป็นเรื่องลึกลับมาก และผมเอาเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกับสายสัมพันธ์ระหว่างพระคริสต์กับหมู่ประชุมของพระองค์ 33 อย่างไรก็ตาม พวกคุณแต่ละคน ต้องรักภรรยาของตน เหมือนกับรักตนเอง ส่วนภรรยาจะต้องเคารพสามีของตน
19 พระองค์รู้ว่า ข้าพเจ้านั้นอดสู อับอาย และถูกเหยียดหยาม
พระองค์รู้เรื่องของศัตรูของข้าพเจ้าทุกคน
20 ที่ข้าพเจ้าถูกเหยียดหยามอย่างนี้ ทำให้ข้าพเจ้าขายหน้า
และข้าพเจ้าก็สิ้นหวัง
ข้าพเจ้ารอคอยความสงสาร แต่กลับไม่มีเลย
ข้าพเจ้าหวังจะมีคนมาปลอบโยนบ้าง แต่หาไม่เจอ
21 แต่พวกเขากลับใส่ยาพิษลงในอาหารของข้าพเจ้า
และในยามที่ข้าพเจ้ากระหายน้ำพวกเขากลับยื่นน้ำส้มสายชูให้
22 ข้าพเจ้าอยากให้โต๊ะอาหารตรงหน้าพวกเขากลายเป็นกับดัก
ขอให้อาหารที่มาจากเครื่องบูชาทั้งหลายที่พวกเขากินร่วมกันกลายเป็นบ่วงแร้ว
23 ขอให้ดวงตาของพวกเขามืดบอดไป
ทำให้ร่างของเขาสั่นอยู่ตลอดเวลา
24 ข้าแต่พระเจ้า ขอให้พระองค์เทความโกรธลงบนพวกเขา
ขอให้ความโกรธของพระองค์ที่เผาผลาญอยู่ไล่เขาทัน
25 ขอให้ค่ายของเขาร้างว่างเปล่า
และขออย่าให้มีใครอาศัยอยู่ในเต็นท์ทั้งหลายของเขา
26 พวกเขาไปซ้ำเติมคนเหล่านั้นที่พระองค์ตีสอนไปแล้ว
และพวกเขาพูดนินทากันปากต่อปาก เรื่องความเจ็บปวดของคนเหล่านั้นที่พระองค์ทำให้บาดเจ็บ
27 ขอให้พระองค์จดบันทึกความบาปของพวกเขาทั้งหมด
และอย่าปล่อยให้พวกเขาลอยนวล
28 โปรดลบชื่อของพวกเขาออกจากทะเบียนของคนที่ยังมีชีวิตอยู่[a]
และอย่าได้จดบันทึกชื่อของพวกเขาร่วมกับชื่อของคนที่ทำตามใจพระองค์
29 ส่วนข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าเป็นทุกข์และเจ็บปวด
ข้าแต่พระเจ้า ช่วยกู้และปกป้องข้าพเจ้าด้วยเถิด
30 แล้วข้าพเจ้าจะสรรเสริญชื่อของพระเจ้าเป็นเพลง
ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์ด้วยเพลงขอบพระคุณ
31 และสิ่งนี้จะทำให้พระยาห์เวห์มีความสุขมากกว่าการที่ข้าพเจ้า
ถวายวัวตัวผู้ ตั้งแต่เขาบนหัวจดกีบที่เท้า เป็นเครื่องบูชาเสียอีก
32 คนยากจนจะได้เห็นและมีความสุข
พวกท่านที่มานมัสการพระเจ้า ขอให้สิ่งนี้เป็นกำลังใจให้กับพวกท่าน
33 เพราะพระยาห์เวห์สดับฟังคนยากจน
และพระองค์ไม่เคยดูถูกคนของพระองค์ที่ถูกขังคุก
34 ขอให้ฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก ท้องทะเล และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ในพวกมัน
สรรเสริญพระยาห์เวห์
35 เพราะพระเจ้าจะช่วยกู้เมืองศิโยน และพระองค์จะสร้างเมืองต่างๆของยูดาห์ขึ้นมาใหม่
เพื่อคนของพระองค์จะได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นั่นและได้เป็นเจ้าของแผ่นดินนั้น
36 ดังนั้น ลูกหลานของพวกผู้รับใช้ของพระองค์จะได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก
คนเหล่านั้นที่รักชื่อของพระองค์จะได้อาศัยอยู่ที่นั่น
7 สำหรับคนโง่ สติปัญญานั้นก็สูงเกินเอื้อม
ในที่ประชุมตรงประตูเมือง คนโง่ก็ปิดปากเงียบไม่มีอะไรจะพูด
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International