Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Bible in 90 Days

An intensive Bible reading plan that walks through the entire Bible in 90 days.
Duration: 88 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
สดุดี 25:1-45:14

อธิษฐานขอให้พระยาห์เวห์นำและคุ้มครอง

[a] เพลงสดุดีของดาวิด

ข้าแต่พระยาห์เวห์
    ข้าพเจ้ายกจิตใจของข้าพเจ้าให้กับพระองค์
พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไว้วางใจในพระองค์
    ขออย่าให้ข้าพเจ้าอับอายขายหน้า
    ขออย่าให้พวกศัตรูเฉลิมฉลองความพ่ายแพ้ของข้าพเจ้า
ทุกคนที่ฝากความหวังไว้กับพระองค์จะไม่อับอายขายหน้าอย่างแน่นอน
    แต่พวกที่ทรยศจะต้องอับอายขายหน้าและจะไม่ได้อะไรจากการทรยศนั้น

ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดให้ข้าพเจ้าเห็นหนทางต่างๆของพระองค์
    โปรดสอนเส้นทางต่างๆของพระองค์ให้กับข้าพเจ้า
โปรดนำข้าพเจ้าตามทางแห่งความจริงของพระองค์และสอนข้าพเจ้า[b]
    เพราะพระองค์คือพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า
    และข้าพเจ้าฝากความหวังไว้กับพระองค์วันยังค่ำ
ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดนึกถึงความเมตตากรุณา
    และความรักมั่นคงของพระองค์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว
โปรดอย่านึกถึงความบาปและความผิดทั้งหลายที่ข้าพเจ้าทำในวัยหนุ่ม
    ข้าแต่พระยาห์เวห์โปรดนึกถึงข้าพเจ้าตามความรักมั่นคงของพระองค์
    เพราะพระองค์นั้นดี

พระยาห์เวห์นั้นช่างดีและสัตย์ซื่อ
    พระองค์จึงสั่งสอนทางที่ถูกต้องให้กับพวกคนบาป
พระองค์นำคนถ่อมสุภาพให้ทำสิ่งที่ถูกต้องยุติธรรม
    พระองค์สอนทางของพระองค์ให้กับคนถ่อมสุภาพ
10 พระยาห์เวห์ทำทุกสิ่งด้วยความรักและความสัตย์ซื่อต่อคนเหล่านั้น
    ที่รักษาคำมั่นสัญญาของพระองค์และทำตามกฎต่างๆของพระองค์

11 ข้าพเจ้าทำผิดบาปอันใหญ่หลวงนัก ดังนั้น โปรดยกโทษให้กับข้าพเจ้าด้วยเถิด
    เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงอันดีของพระองค์
12 พระยาห์เวห์จะสั่งสอนคนที่ยำเกรงพระองค์
    พระองค์จะนำคนนั้นไปตามทางที่พระองค์เลือกไว้

13 เขาคนนั้นจะอยู่อย่างสุขสบาย
    และลูกหลานของเขาจะได้รับส่วนแบ่งของแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญาว่าจะให้กับพวกเขา
14 พระยาห์เวห์เปิดเผยความลับต่างๆของพระองค์ให้กับคนเหล่านั้นที่ยำเกรงพระองค์
    พระองค์จะสอนพวกเขาให้รู้ถึงความหมายของคำมั่นสัญญาที่พระองค์ให้
15 ข้าพเจ้ามองหาความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์เสมอ
    เพราะพระองค์จะช่วยเอาเท้าของข้าพเจ้าออกจากบ่วง

16 ข้าแต่พระเจ้า โปรดหันมามองข้าพเจ้าและเมตตากรุณาข้าพเจ้าด้วยเถิด
    เพราะข้าพเจ้าโดดเดี่ยวและถูกข่มเหง
17 โปรดช่วยให้ข้าพเจ้าหลุดพ้นจากความทุกข์ใจด้วยเถิด
    ช่วยดึงข้าพเจ้าออกไปจากปัญหาต่างๆของข้าพเจ้าด้วยเถิด
18 โปรดมองดูความทุกข์ทรมานและความลำบากที่ข้าพเจ้าเจออยู่นี้
    และโปรดยกโทษให้กับบาปทั้งหมดของข้าพเจ้าด้วยเถิด
19 ดูเถิด ข้าพเจ้ามีศัตรูมากมาย
    พวกเขาเกลียดข้าพเจ้ามากและอยากทำร้ายข้าพเจ้า
20 โปรดรักษาชีวิตของข้าพเจ้าและช่วยกู้ข้าพเจ้าด้วยเถิด
    ข้าพเจ้าวางใจในพระองค์ โปรดอย่าทำให้ข้าพเจ้าผิดหวัง
21 ขอให้ความบริสุทธิ์และความซื่อตรงของข้าพเจ้า
    คุ้มครองข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าฝากความหวังไว้กับพระองค์

22 ข้าแต่พระเจ้า ช่วยชาวอิสราเอล
    ให้พ้นจากความทุกข์ร้อนทั้งหลายของเขาด้วยเถิด

คนบริสุทธิ์อธิษฐานขอความยุติธรรม

เพลงสดุดีของดาวิด

ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดตัดสินคดีข้าพเจ้า
    พิสูจน์ว่า ข้าพเจ้าเดินในทางที่บริสุทธิ์
    ข้าพเจ้าไว้วางใจในพระยาห์เวห์ อย่างไม่รวนเร
ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทดสอบ และลองใจข้าพเจ้าดู
    ตรวจสอบดูอารมณ์และความคิดที่อยู่ภายในใจของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่เคยลืมความรักมั่นคงของพระองค์ที่มีต่อข้าพเจ้า
    ความสัตย์ซื่อที่พระองค์มีต่อข้าพเจ้านำทางข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าไม่คบหากับคนขี้โกง
    ข้าพเจ้าไม่มีส่วนร่วมกับคนหน้าไหว้หลังหลอก
ข้าพเจ้าเกลียดที่มั่วสุมของคนชั่ว
    ข้าพเจ้าไม่คบหาคนเลว

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าล้างมือเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของข้าพเจ้า
    และเพื่อข้าพเจ้าจะได้เดินรอบแท่นบูชาของพระองค์
แล้วข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
    และป่าวประกาศถึงสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหลายที่พระองค์ทำ
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้ารักที่จะอยู่ในวิหารที่พระองค์สถิตอยู่
    คือ เต็นท์ที่รัศมีของพระองค์[c] ปรากฏอยู่

โปรดอย่าทำลายข้าพเจ้าไปพร้อมกับพวกคนบาป
    โปรดอย่าเอาชีวิตของข้าพเจ้าไปพร้อมกับพวกกระหายเลือด
10 คือ คนพวกนั้นที่มีมือเต็มไปด้วยแผนการร้าย
    และคนพวกนั้นที่มือขวาเต็มไปด้วยสินบน

11 ส่วนข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าเดินในทางที่บริสุทธิ์
    โปรดเมตตากรุณาข้าพเจ้าและช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วยเถิด
12 เท้าของข้าพเจ้ายืนหยัดมั่นคงอยู่บนพื้นราบ
    ข้าพเจ้าสรรเสริญพระยาห์เวห์อยู่กับฝูงชนในวิหาร

เพลงแห่งความมั่นใจในพระยาห์เวห์

เพลงสดุดีของดาวิด

พระยาห์เวห์คือแสงสว่างและผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะต้องไปหวาดกลัวใครอีก
พระยาห์เวห์คือที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะต้องไปหวั่นเกรงใครอีก

ถ้าคนชั่วโจมตีข้าพเจ้าและพยายามที่จะกินเลือดกินเนื้อข้าพเจ้า
    พวกปรปักษ์และศัตรูเหล่านั้นก็จะสะดุดล้มลง
แม้ว่าจะมีกองทัพตั้งค่ายล้อมข้าพเจ้าไว้ ข้าพเจ้าจะไม่กลัว
    ถึงแม้พวกเขามาบุกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ยังคงไว้วางใจพระยาห์เวห์อยู่ดี

ข้าพเจ้าขอเพียงสิ่งหนึ่งจากพระยาห์เวห์ เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าอยากได้มากที่สุด คือ
    ขอให้ได้อาศัยอยู่ในวิหารของพระองค์ทุกวันตลอดชีวิต
    เพื่อข้าพเจ้าจะได้สัมผัสถึงความปรานีของพระยาห์เวห์
    และแสวงหาการทรงนำของพระองค์ในวิหารของพระองค์

เพราะพระองค์จะได้ปกป้องข้าพเจ้าไว้ในที่กำบังของพระองค์ในวันที่มีภัยอันตราย
    พระองค์จะซ่อนข้าพเจ้าไว้ในเต็นท์ของพระองค์
    พระองค์จะยกข้าพเจ้าไว้ในที่ปลอดภัยบนผาสูง

และตอนนี้ พระยาห์เวห์จะยกหัวของข้าพเจ้าขึ้นเหนือพวกศัตรูที่ล้อมรอบข้าพเจ้าอยู่
    ข้าพเจ้าจะถวายเครื่องบูชาพร้อมเสียงโห่ร้องยินดีในวิหารของพระองค์
    และข้าพเจ้าจะร้องเพลงและเล่นดนตรีเพื่อถวายเกียรติให้กับพระยาห์เวห์

ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดฟังเสียงของข้าพเจ้าเมื่อข้าพเจ้าร้องเรียกพระองค์
    โปรดเมตตา และตอบข้าพเจ้าด้วยเถิด
จิตใจของข้าพเจ้าบอกข้าพเจ้าว่า “แสวงหาหน้าของพระยาห์เวห์สิ”
    ดังนั้น พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจึงแสวงหาหน้าของพระองค์อยู่

ดังนั้น ขออย่าซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้า
    โปรดอย่าผลักไสข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ไปด้วยความโกรธ
พระองค์ผู้ที่ช่วยข้าพเจ้าเสมอ โปรดอย่าทอดทิ้งข้าพเจ้าไป
    พระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า โปรดอย่าละทิ้งข้าพเจ้าไป
10 ถึงแม้พ่อแม่จะทิ้งข้าพเจ้าไป
    แต่พระยาห์เวห์ก็จะรับเลี้ยงข้าพเจ้า

11 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดสอนทางของพระองค์ให้กับข้าพเจ้า
    โปรดนำข้าพเจ้าไปตามทางที่ราบรื่น เพราะข้าพเจ้ามีศัตรูมากมาย
12 อย่ามอบข้าพเจ้าไปให้ศัตรูทำตามใจชอบ
    พยานเท็จยืนขึ้นใส่ร้ายข้าพเจ้า และพวกเขาพยายามทำลายข้าพเจ้า

13 แต่ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า ข้าพเจ้าจะได้เห็นพระพรทั้งหลาย
    ที่พระยาห์เวห์จะให้กับข้าพเจ้าในแผ่นดินของคนเป็นนี้
14 ให้ฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์
    ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้
    ให้ฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์

อธิษฐานให้รอดจากศัตรู

เพลงสดุดีของดาวิด

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
    พระองค์ผู้เป็นหินกำบังของข้าพเจ้า ขออย่าทำเป็นหูหนวกต่อข้าพเจ้า
ถ้าพระองค์ไม่ตอบข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะต้องไปอยู่กับคนเหล่านั้นที่ลงไปในหลุมศพแน่ๆ
โปรดฟังเสียงของข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
    เมื่อข้าพเจ้ายกชูมือของข้าพเจ้าขึ้นและหันหน้าไปทางห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในวิหารของพระองค์

โปรดอย่าลากข้าพเจ้าออกไปลงโทษร่วมกับคนที่ทำชั่ว
    ปากของพวกเขาพูดอย่างเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านแต่ใจคิดร้ายกับเขา
ลงโทษพวกเขาให้สาสมกับสิ่งที่พวกเขาทำ
    และ สิ่งชั่วร้ายที่พวกเขาทำ
ลงโทษพวกเขาให้สาสมกับสิ่งที่มือเขาทำ
    ตอบแทนเขาตามที่เขาสมควรจะได้รับ
พวกเขาไม่ไยดีในสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ทำหรือสร้างขึ้น
    พระองค์ก็เลยจะรื้อพวกเขาลงและจะไม่สร้างพวกเขาขึ้นมาใหม่

สรรเสริญพระยาห์เวห์
    เพราะพระองค์ได้ยินคำร้องขอความช่วยเหลือของข้าพเจ้า
พระยาห์เวห์เป็นพละกำลังและโล่ของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจึงวางใจในพระองค์
พระองค์ได้ช่วยเหลือข้าพเจ้า หัวใจของข้าพเจ้าจึงชื่นชมยินดี
    และข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์

พระยาห์เวห์เป็นพละกำลังของคนทั้งหลายของพระองค์
    พระองค์เป็นป้อมปราการแห่งความรอดของกษัตริย์ที่พระองค์ได้เลือกไว้[d]
โปรดช่วยคนทั้งหลายของพระองค์ให้รอด โปรดอวยพรพวกเขาที่เป็นสมบัติของพระองค์
    โปรดเลี้ยงดูพวกเขาเหมือนผู้เลี้ยงแกะ และโปรดโอบอุ้มพวกเขาไว้ตลอดไป

สง่าราศีของพระยาห์เวห์ในพายุ

เพลงสดุดีของดาวิด

ชาวสวรรค์ทั้งหลาย ให้สรรเสริญพระยาห์เวห์
    สรรเสริญสง่าราศีและพละกำลังของพระยาห์เวห์เถิด
สรรเสริญพระยาห์เวห์สำหรับชื่ออันมีสง่าราศีของพระองค์
    ให้ก้มกราบลงต่อหน้าพระยาห์เวห์ในวิหารอันสง่างามของพระองค์[e]

เสียงของพระยาห์เวห์ดังกึกก้องอยู่เหนือน้ำ
    พระเจ้าแห่งสง่าราศีเปล่งเสียงฟ้าร้อง
    พระยาห์เวห์เปล่งเสียงฟ้าร้องอยู่เหนือมหาสมุทร
เสียงของพระยาห์เวห์นั้นทรงพลัง
    เสียงของพระยาห์เวห์ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม

เสียงของพระยาห์เวห์นั้นทำให้ต้นสนซีดาร์หักกระจุย
    พระยาห์เวห์หักโค่นต้นสนซีดาร์แห่งเลบานอน
พระองค์ทำให้เทือกเขาเลบานอน กระโดดโลดเต้นเหมือนกับพวกลูกวัว
    และทำให้ภูเขาเฮอร์มอน[f] กระโดดดุจดังกระทิงหนุ่ม

เสียงของพระยาห์เวห์
    ทำให้ฟ้าผ่า
เสียงของพระยาห์เวห์ ทำให้ทะเลทรายสั่นสะเทือน
    พระยาห์เวห์ทำให้ทะเลทรายคาเดช[g] สั่นสะเทือน

เสียงของพระยาห์เวห์ทำให้พวกต้นโอ๊กสั่นไหว[h]
    และทำให้ใบไม้ร่วงหมดป่า
    ขณะเดียวกันในวิหารของพระองค์ ทุกคนต่างกำลังพากันร้องตะโกนว่า “สง่าราศี”

10 พระยาห์เวห์นั่งปกครองอยู่เหนือน้ำที่ท่วมอยู่
    พระยาห์เวห์จะนั่งปกครองอย่างกษัตริย์ตลอดไป
11 ขอให้พระยาห์เวห์มอบพละกำลังให้กับคนทั้งหลายของพระองค์
    ขอพระยาห์เวห์อวยพรคนทั้งหลายของพระองค์ให้มีสันติสุข

เพลงขอบพระคุณที่รอดตาย

เพลงสดุดีของดาวิด บทเพลงที่ใช้ในการอุทิศวิหาร

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์ เพราะพระองค์ดึงข้าพเจ้าออกมาจากหลุมลึก
    พระองค์ไม่ได้ปล่อยให้พวกศัตรูของข้าพเจ้าได้เฉลิมฉลองกัน
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
    แล้วพระองค์ก็รักษาเยียวยาข้าพเจ้า
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ยกข้าพเจ้าออกมาจากหลุมศพ
    พระองค์รักษาชีวิตของข้าพเจ้าไว้และไม่ให้ข้าพเจ้าตกลงไปในหลุมแห่งความตาย

ท่านทั้งหลายที่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ ให้ร้องเพลงสรรเสริญต่อพระยาห์เวห์
    ให้ขอบพระคุณแด่ชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ความโกรธเกรี้ยวของพระองค์อยู่เพียงชั่วคราว
    แต่ความปรานีของพระองค์นำชีวิตมาให้
เราอาจจะร้องไห้ในยามค่ำคืน
    แต่ในวันรุ่งขึ้น เราจะชื่นบาน

ในยามที่ข้าพเจ้ามั่นคงปลอดภัย
    ข้าพเจ้าคิดว่า ไม่มีอะไรสั่นคลอนข้าพเจ้าได้
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตอนที่พระองค์ปรานีต่อข้าพเจ้า
    พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ามั่นคงเหมือนภูเขา
แต่ตอนที่พระองค์ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าก็กลัวจนตัวสั่น

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
    ข้าพเจ้าร้องขอความเมตตากรุณาจากพระองค์
ข้าพเจ้าพูดว่า ถ้าข้าพเจ้าตายไป มันจะมีประโยชน์อะไรหรือ
    พวกที่อยู่ในหลุมศพจะสรรเสริญพระองค์ได้หรือ
    พวกเขาจะพูดกันถึงความซื่อสัตย์ของพระองค์ได้หรือ
10 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดฟังคำร้องขอของข้าพเจ้าและแสดงความเมตตากรุณาต่อข้าพเจ้า
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดเป็นผู้ช่วยของข้าพเจ้าด้วยเถิด

11 แล้วพระองค์ก็เปลี่ยนการคร่ำครวญของข้าพเจ้าให้กลายเป็นการโลดเต้น
    พระองค์ถอดเสื้อผ้าไว้ทุกข์ของข้าพเจ้าออกและเอาความสุขมาสวมใส่ข้าพเจ้าแทน
12 เพื่อข้าพเจ้าจะได้ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ตลอดไป

พระยาห์เวห์เป็นที่ลี้ภัย

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าลี้ภัยในพระองค์
    โปรดอย่าทำให้ข้าพเจ้าต้องอับอายเลย
    โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเพราะพระองค์ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
โปรดเงี่ยหูของพระองค์ฟังข้าพเจ้า
    รีบมาช่วยกู้ข้าพเจ้าด้วย
ขอเป็นป้อมปราการบนภูผาแก่ข้าพเจ้า
    เป็นวังที่เป็นป้อมปราการ ขอปกป้องข้าพเจ้า

เพราะพระองค์ คือหินกำบังและป้อมปราการของข้าพเจ้า
    โปรดนำทาง พาข้าพเจ้าไปด้วยเถิด เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงอันดีของพระองค์
โปรดดึงข้าพเจ้าออกจากตาข่ายที่พวกเขาซ่อนไว้ดักข้าพเจ้า
    เพราะพระองค์เป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอมอบจิตวิญญาณนี้ไว้ในมือของพระองค์
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดไถ่ข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าที่สัตย์ซื่อ

ข้าพเจ้าเกลียดชังคนเหล่านั้นที่รับใช้พวกรูปเคารพที่ไร้ค่า
    ข้าพเจ้าไว้วางใจในพระยาห์เวห์
ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีและเฉลิมฉลองความรักมั่นคงของพระองค์
    เพราะพระองค์สังเกตเห็นถึงความทุกข์ยากของข้าพเจ้า
    และรู้ถึงปัญหาที่รุมเร้าชีวิตของข้าพเจ้าอยู่นี้
พระองค์ไม่ได้มอบข้าพเจ้าให้ไปอยู่ในกำมือของศัตรู
    พระองค์นำข้าพเจ้าออกมาเป็นอิสระ[i]

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าตกอยู่ในความทุกข์ ดังนั้น โปรดเมตตากรุณาต่อข้าพเจ้าด้วย
    ข้าพเจ้าเศร้าโศกมาก ร้องไห้จนเจ็บไปหมด
    ทั้งตา คอ และท้อง
10 ชีวิตของข้าพเจ้าเกือบจะจบลงแล้ว ตอนนี้มีแต่ความโศกเศร้า
    วันปีของข้าพเจ้ากำลังจะจบลงแล้ว ตอนนี้มีแต่การคร่ำครวญ
ความทุกข์ยาก[j] กำลังกัดกร่อนพละกำลังของข้าพเจ้า
    กระดูกของข้าพเจ้าเจ็บปวดไปหมดแล้ว

11 พวกศัตรูต่างดูถูกข้าพเจ้ารวมทั้งพวกเพื่อนบ้านด้วย
    เมื่อเพื่อนฝูงเห็นสภาพของข้าพเจ้าต่างพากันกลัวที่จะเข้าใกล้
เมื่อคนเห็นข้าพเจ้าตามท้องถนน
    พวกเขาต่างพากันหลีกหนี
12 ผู้คนพากันหลงลืมข้าพเจ้าเหมือนกับว่าข้าพเจ้าตายไปแล้ว
    หรือเป็นของที่สูญหายไปแล้ว
13 ข้าพเจ้าได้ยินคนจำนวนมากใส่ร้ายป้ายสีข้าพเจ้า
    รอบด้านของข้าพเจ้ามีแต่เรื่องน่ากลัว
พวกเขามารวมหัวกันวางแผนทำร้ายข้าพเจ้า
    พวกเขาวางแผนจะเอาชีวิตของข้าพเจ้า

14 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ส่วนข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าไว้วางใจในพระองค์
    ข้าพเจ้าพูดว่า “พระองค์คือพระเจ้าของข้าพเจ้า”
15 วันเวลาของข้าพเจ้าอยู่ในกำมือของพระองค์
    ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากพวกศัตรูและคนพวกนั้นที่ตามล่าข้าพเจ้าด้วยเถิด
16 ขอให้ใบหน้าของพระองค์ส่องประกายลงบนผู้รับใช้ของพระองค์
    เพราะความรักมั่นคงที่พระองค์มีต่อข้าพเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเถิด
17 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
    ขออย่าให้ข้าพเจ้าต้องอับอาย
แต่ขอให้พวกคนชั่วเหล่านั้นต้องอับอาย
    ขอให้พวกเขาร้องคร่ำครวญ[k] ไปตลอดทางสู่แดนคนตาย
18 ขอให้คนโกหกพวกนั้นเป็นใบ้เสีย
    คือคนพวกนั้น ที่เย่อหยิ่งจองหอง คนที่มุ่งร้าย และคนที่คอยพูดใส่ร้ายคนดี

19 แต่พระองค์ได้ตุนสิ่งดีๆไว้มากมายสำหรับคนที่ยำเกรงพระองค์
    พระองค์ทำหลายสิ่งหลายอย่างต่อหน้าต่อตามนุษย์ทั้งหลาย
    เพื่อช่วยคนเหล่านั้นที่มาลี้ภัยในพระองค์
20 พระองค์ซ่อนคนดีๆพวกนี้ไว้กับพระองค์
    เพื่อให้พ้นจากคนเหล่านั้นที่ปองร้ายพวกเขา
พระองค์ซ่อนพวกเขาไว้ในที่กำบังของพระองค์
    เพื่อให้รอดพ้นจากลิ้นที่ใส่ร้ายพวกเขา

21 สรรเสริญพระยาห์เวห์
    เพราะพระองค์แสดงความรักมั่นคงที่แสนอัศจรรย์
    ที่ปกป้องข้าพเจ้าเมื่อข้าพเจ้าถูกโจมตี[l]
22 ข้าพเจ้ากลัว ข้าพเจ้าเลยพูดว่า
    “ข้าพเจ้าถูกตัดออกไปจากสายตาของพระองค์”[m]
    แต่พระองค์ได้ยินคำร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าร้องเรียกพระองค์

23 ท่านทั้งหลายที่จงรักภักดีต่อพระองค์ ให้รักพระยาห์เวห์เถิด
    พระยาห์เวห์คุ้มครองคนทั้งหลายที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
    พระองค์จะตอบแทนคนที่เย่อหยิ่งจองหองอย่างทบดอกทบต้น
24 ดังนั้น ท่านทั้งหลายที่ฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์
    ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้เถิด

สารภาพและได้รับการยกโทษ

บทกวีแห่งมัสคิล[n] ของกษัตริย์ดาวิด

ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนที่พระยาห์เวห์ยกโทษความผิดต่างๆให้
    และคนที่พระองค์กลบเกลื่อนความบาปต่างๆให้นั้น
ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนที่พระยาห์เวห์ไม่ได้นับความผิดของเขา
    และคนที่ไม่มีกลอุบายในจิตใจ

ตอนที่ข้าพเจ้าไม่ได้สารภาพความผิดบาป กระดูกของข้าพเจ้าก็อ่อนแอลง
    ข้าพเจ้าคร่ำครวญอย่างเจ็บปวดตลอดวันยังค่ำ
มือของพระองค์วางหนักอึ้งบนตัวข้าพเจ้าทั้งวันทั้งคืน
    พละกำลังของข้าพเจ้าเหี่ยวแห้งไปเหมือนน้ำในหน้าแล้งของฤดูร้อน เซลาห์

ดังนั้น พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าขอสารภาพความบาปต่อพระองค์
    โดยไม่ได้ซ่อนความผิดบาปอะไรไว้เลย
ข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าพเจ้าจะสารภาพต่อพระยาห์เวห์ถึงการกบฏทั้งหลายที่ทำไป”
    แล้วพระองค์ก็ได้ยกโทษให้กับความผิดบาปของข้าพเจ้า เซลาห์

ด้วยเหตุนั้น ผู้ติดตามที่จงรักภักดีทุกคนควรจะอธิษฐานต่อพระองค์เมื่อพบว่าตัวเองทำบาป
    เมื่อปัญหาต่างๆสูงขึ้นเหมือนน้ำท่วม น้ำนั้นก็จะขึ้นมาไม่ถึงคนนั้นหรอก
พระองค์คือที่หลบซ่อนของข้าพเจ้า
    พระองค์ปกป้องข้าพเจ้าจากปัญหา
    พระองค์โอบล้อมข้าพเจ้าด้วยเสียงโห่ร้องของคนเหล่านั้นที่ฉลองความรอดของข้าพเจ้า เซลาห์

พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะสั่งสอนเจ้าและให้เจ้ารู้ว่าเจ้าควรจะใช้ชีวิตอย่างไร
    เราจะคอยเฝ้ามองดูเจ้าและคอยแนะนำเจ้า”
อย่าได้เป็นเหมือนม้าหรือล่อที่ไม่มีความเข้าใจอะไรเลย
    จะต้องใช้เหล็กขวางปากและเชือกบังเหียนในการบังคับควบคุมมัน
    ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ยอมมาใกล้เจ้า

10 พวกคนชั่วจะพบกับความทุกข์ยากมาก
    แต่คนที่ไว้วางใจในพระยาห์เวห์ ความรักอันมั่นคงของพระองค์จะล้อมรอบเขาไว้
11 ดังนั้น พวกที่ทำตามใจพระยาห์เวห์ทั้งหลาย ให้ชื่นชมยินดีและมีความสุขในพระองค์เถิด
    พวกเจ้าทั้งหลาย ที่มีจิตใจซื่อตรง ให้โห่ร้องด้วยความยินดี

เพลงสรรเสริญพระยาห์เวห์ผู้สร้างและผู้ครอบครองโลกนี้

พวกเจ้าที่ทำตามใจพระเจ้า ให้ชื่นชมยินดีในพระยาห์เวห์เถิด
    สมควรแล้วที่คนซื่อตรงจะสรรเสริญพระองค์
สรรเสริญพระยาห์เวห์ ด้วยการเล่นพิณสี่สายเถิด
    ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วยการเล่นพิณสิบสายเถิด
ร้องเพลงบทใหม่ให้กับพระยาห์เวห์
    ให้เล่นพิณอย่างชำนิชำนาญ และโห่ร้องด้วยความยินดี

พระคำของพระยาห์เวห์นั้นซื่อตรง
    และพระองค์สัตย์ซื่อต่อคนของพระองค์ในทุกสิ่งที่พระองค์ทำ
พระยาห์เวห์รักความดีและความยุติธรรม
    โลกนี้เต็มไปด้วยความรักมั่นคงของพระองค์

โดยคำสั่งของพระยาห์เวห์ สวรรค์ก็ถูกสร้างขึ้น
    โดยคำพูดจากปากของพระองค์ ดวงดาวทั้งหมดก็เกิดขึ้น
พระองค์ได้รวบรวมน้ำทะเลมาอยู่ด้วยกัน
    และเคลื่อนน้ำในมหาสมุทรไปไว้ในคลังเก็บน้ำ

พลเมืองทุกคนของโลกเอ๋ย ให้ยำเกรงพระยาห์เวห์เถิด
    พวกเจ้าทุกคนที่อยู่บนโลกนี้ ให้เกรงกลัวพระองค์เถิด
เพราะว่า เมื่อพระองค์พูด มันก็เกิดขึ้น
    เมื่อพระองค์ออกคำสั่ง โลกก็ตั้งขึ้น

10 พระองค์สามารถทำให้แผนการต่างๆที่ชนชาติทั้งหลายวางไว้นั้นไม่สำเร็จ
    และพระองค์สามารถทำให้โครงการต่างๆของชาติต่างๆล้มเหลวได้
11 แต่แผนการต่างๆของพระยาห์เวห์นั้นยั่งยืนตลอดไป
    โครงการต่างๆในใจของพระองค์นั้นจะอยู่ไปตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
12 ชนชาติที่มีพระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าของพวกเขานั้น ถือว่ามีเกียรติจริงๆ
    ชนชาติที่พระองค์ได้เลือกมาเป็นคนของพระองค์เองนั้น ถือว่ามีเกียรติจริงๆ

13 พระยาห์เวห์มองลงมาจากสวรรค์
    มองเห็นมนุษย์ทุกคน
14 พระองค์มองลงมาจากบัลลังก์ของพระองค์
    เห็นมนุษย์ทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลก
15 พระองค์คือผู้ที่สร้างจิตใจของพวกเขาขึ้นมาทุกคน
    และพระองค์เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขากำลังทำอยู่
16 ชัยชนะของกษัตริย์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทหารมากมาย
    ชัยชนะของนักรบก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเขา
17 ความแข็งแกร่งของม้าศึกไม่ได้นำชัยชนะมาให้หรอก
    พลังอันแข็งแกร่งของมันไม่ช่วยให้ใครรอดได้หรอก
18 ดูเถิด พระยาห์เวห์เฝ้าดูคนที่ยำเกรงพระองค์
    พระองค์ดูแลคนที่ฝากความหวังไว้กับความรักมั่นคงของพระองค์
19 พระองค์ช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากความตาย
    และช่วยให้เขามีชีวิตอยู่ได้ในยามที่ขาดแคลนอาหาร

20 พวกเราเฝ้ารอพระยาห์เวห์มาช่วย
    เพราะพระองค์คือผู้ช่วยให้รอดและโล่กำบังของพวกเรา
21 เพราะจิตใจของเราชื่นชมยินดีในพระองค์
    เพราะพวกเราไว้วางใจในชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
22 ข้าแต่พระยาห์เวห์ขอให้ความรักอันมั่นคงของพระองค์อยู่กับพวกเรา
    เพราะพวกเราฝากความหวังไว้กับพระองค์

มาลองชิมความดีของพระยาห์เวห์ดู

[o] บทเพลงสดุดีของดาวิด ในขณะที่พระองค์แกล้งทำเป็นบ้า เพื่อให้อาบีเมเลคเห็น จนไล่พระองค์ออกไป และกษัตริย์ดาวิดก็ออกไป

[p] ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระยาห์เวห์เสมอ
    คำสรรเสริญพระองค์จะติดอยู่ที่ริมฝีปากของข้าพเจ้าเสมอ
จิตวิญญาณของข้าพเจ้าโอ้อวดเกี่ยวกับพระยาห์เวห์
    ขอให้ พวกคนที่ทุกข์ยากได้ยินคำสรรเสริญของข้าพเจ้าและชื่นชมยินดี
ขอให้พวกเรามาร่วมกันถวายเกียรติให้กับพระยาห์เวห์
    ขอให้พวกเรามาเชิดชูพระนามของพระองค์ด้วยกันเถิด

ข้าพเจ้าแสวงหาพระยาห์เวห์เพื่อขอความช่วยเหลือและพระองค์ก็ตอบข้าพเจ้า
    พระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากทุกสิ่งที่ข้าพเจ้ากลัวนั้น
คนที่แสวงหาพระองค์เพื่อขอความช่วยเหลือจะมีหน้าตาเบ่งบาน
    พวกเขาจึงไม่อับอายขายหน้าเพราะว่าพระองค์ตอบพวกเขา
ข้าพเจ้าเองผู้ทุกข์ยากคนนี้ร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์และพระองค์ก็ได้ยิน
    และช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากความทุกข์ยากทุกเรื่อง
ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์สร้างค่ายล้อมรอบพวกที่ยำเกรงพระองค์
    และคอยช่วยเหลือพวกเขาให้รอด
ลองชิมพระยาห์เวห์ดูสิ แล้วจะเห็นว่าพระองค์นั้นดีแท้
    คนที่ลี้ภัยในพระองค์ก็มีเกียรติจริงๆ
พวกเจ้า ผู้ที่เป็นของพระองค์โดยเฉพาะ ให้ยำเกรงพระยาห์เวห์เถิด
    เพราะผู้ที่ยำเกรงพระองค์ไม่ขาดอะไรเลย
10 แม้แต่พวกสิงห์หนุ่มที่แข็งแรงเหล่านั้นก็ยังขาดแคลนและหิวโหยได้
    แต่คนเหล่านั้นที่ขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์จะไม่ขาดของดีอะไรเลย

11 มาเถิด ลูกๆเอ๋ย ฟังเราให้ดี
    แล้วเราจะสอนเจ้าให้รู้จักยำเกรงพระยาห์เวห์
12 ใครอยากมีชีวิตที่สนุกสนาน
    ใครอยากมีชีวิตยืนยาวที่มีความสุขกับความรุ่งเรือง
13 ระวังอย่าให้ลิ้นพูดสิ่งชั่วร้าย
    ระวังอย่าให้ริมฝีปากพูดโกหก
14 หลีกเลี่ยงความชั่ว และทำแต่ความดี
    ให้แสวงหาสันติสุขและไล่ตามมันไปติดๆ

15 สายตาของพระยาห์เวห์เฝ้าดูแลคนที่ทำตามใจพระเจ้า
    และหูของพระองค์ก็เปิดฟังเสียงร้องเรียกให้ช่วยของพวกเขา
16 แต่ใบหน้าของพระยาห์เวห์ต่อต้านคนเหล่านั้นที่ทำชั่ว
    เพื่อคนในโลกนี้จะได้ลืมพวกคนชั่วเหล่านั้นตลอดไป
17 เมื่อคนที่ทำตามใจพระเจ้าร้องขอความช่วยเหลือ พระองค์รับฟัง
    และช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากความทุกข์ยากทั้งหมดของเขา
18 พระยาห์เวห์อยู่ใกล้ และพร้อมที่จะช่วยคนที่หมดกำลังใจ
    และพระองค์ช่วยกู้คนที่สิ้นหวัง

19 คนที่ทำตามใจพระเจ้า อาจจะพบกับความทุกข์ยากมากมาย
    แต่พระยาห์เวห์จะช่วยให้เขารอดพ้นไปได้หมด
20 พระองค์ปกป้องกระดูกทุกชิ้นของเขา
    ไม่ให้แตกหักแม้แต่ชิ้นเดียว
21 แต่ความชั่วช้าของคนชั่วก็จะฆ่าตัวพวกเขาเอง
    และพวกที่เกลียดคนที่ทำตามใจพระเจ้าจะถูกลงโทษ
22 พระยาห์เวห์ไถ่ชีวิตให้กับพวกผู้รับใช้ของพระองค์
    ทุกคนที่เข้ามาลี้ภัยในพระองค์จะไม่ถูกลงโทษ

อธิษฐานขอให้พระยาห์เวห์แก้คดีให้

เพลงของดาวิด

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ช่วยต่อต้านคนเหล่านั้นที่ต่อต้านข้าพเจ้า
    ช่วยรบกับคนเหล่านั้นที่รบกับข้าพเจ้า
ช่วยคว้าโล่เล็กและโล่ใหญ่ของพระองค์
    และลุกขึ้นมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
ช่วยใช้หอกและทวนต่อสู้กับคนเหล่านั้นที่ไล่ล่าข้าพเจ้าด้วยเถิด
    ช่วยบอกข้าพเจ้าด้วยว่า “ตัวเราเองได้มาช่วยกู้เจ้าแล้ว”

ขอให้คนเหล่านั้นที่มุ่งเอาชีวิตของข้าพเจ้า ได้พ่ายแพ้และอับอายขายหน้า
    ขอให้คนเหล่านั้นที่วางแผนทำร้ายข้าพเจ้า สับสนอลหม่านและถูกไล่หนีไป
ขอให้พวกเขาเป็นเหมือนแกลบที่ถูกลมพัดไป
    และถูกทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ขับไล่ไป
ขอให้ช่องทางหนีของพวกเขานั้นมืดมิดและลื่นไถล
    และถูกทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ไล่ล่าไป

เพราะพวกเขาวางตาข่ายดักข้าพเจ้า ทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขา
    พวกเขาขุดหลุมพรางสำหรับข้าพเจ้า
ขอให้พวกเขาเจอกับความพินาศอย่างไม่ทันรู้ตัว
ขอให้พวกเขาติดตาข่ายที่เขาวางไว้ดักข้าพเจ้า
    และตกลงไปในหลุมพรางของตัวเองและพินาศไป

แล้วข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ทำไป
    และมีความสุขที่พระองค์ช่วยกู้ข้าพเจ้า
10 แล้วกระดูกทั่วตัวของข้าพเจ้าจะพูดว่า
    “ข้าแต่พระยาห์เวห์ จะมีใครเหมือนกับพระองค์อีก
พระองค์ช่วยคนยากจนให้รอดพ้นจากคนที่เอาเปรียบเขา
    และช่วยคนยากจนและคนขัดสนให้พ้นจากคนเหล่านั้นที่คอยปล้นพวกเขา”

11 พยานที่มุ่งร้ายต่อข้าพเจ้า
    ยืนขึ้นกล่าวหาข้าพเจ้าในสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่รู้เรื่อง
12 พวกเขาตอบแทนความดีของข้าพเจ้าด้วยความชั่ว
    คอยดักซุ่มฆ่าข้าพเจ้า[q]
13 เมื่อพวกเขาเจ็บป่วย ข้าพเจ้าใส่ชุดที่แสดงความเสียใจ
    และถ่อมใจลงอดอาหาร เมื่อคำอธิษฐานของข้าพเจ้าไม่ได้รับคำตอบ
14 ข้าพเจ้าทำเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นเพื่อนหรือพี่น้องของข้าพเจ้าเอง
    ข้าพเจ้าก้มลงด้วยความโศกเศร้าราวกับว่าเป็นแม่ของข้าพเจ้าเอง

15 แต่เมื่อข้าพเจ้ามีปัญหาพวกเขากลับพากันดีใจ
    คนที่ข้าพเจ้าไม่รู้จักรุมเข้ามาโจมตีข้าพเจ้า
    พวกเขาฉีกเนื้อข้าพเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อน
16 พวกเขาได้กัดฟันกรอดๆใส่ข้าพเจ้า
    พากันหัวเราะเยาะและตะโกนใส่ข้าพเจ้าอย่างหยาบคาย

17 พระองค์เจ้าข้า พระองค์จะมองดูอยู่เฉยๆไปอีกนานแค่ไหน
    ช่วยเหลือข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากการทำลายล้างของพวกเขาด้วยเถิด
    โปรดช่วยชีวิตที่มีค่าของข้าพเจ้านี้ให้รอดพ้นจากฝูงสิงโตเหล่านั้นด้วยเถิด
18 แล้วข้าพเจ้าจะขอบคุณพระองค์ในที่ชุมนุมใหญ่
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในฝูงชนที่มากมายนั้น

19 ขออย่าให้ศัตรูที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขานั้น เอาชนะและหัวเราะเยาะข้าพเจ้าได้
    ขออย่าให้คนเหล่านั้นที่เกลียดข้าพเจ้า ทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขา ขยิบตาส่งสัญญาณกันเพื่อต่อต้านข้าพเจ้า
20 พวกเขาไม่พยายามที่จะสร้างสันติกับผู้อื่น
    แต่พวกเขากำลังวางแผนการชั่วร้ายต่อผู้คนที่อยู่อย่างสงบสุขบนแผ่นดินนี้
21 พวกเขาอ้าปากกว้างพูดใส่ร้ายข้าพเจ้าว่า
    “นี่ไง นี่ไง เราเห็นกับตาในสิ่งที่เจ้าทำ”

22 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าได้นิ่งเงียบอยู่
    พระองค์เจ้าข้า อย่าอยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า
23 พระเจ้าของข้าพเจ้า ตื่นเถิด ลุกขึ้นมา แก้ต่างให้กับข้าพเจ้าด้วย
    พระองค์เจ้าข้า แก้คดีให้กับข้าพเจ้าด้วยเถิด
24 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ยุติธรรม
    โปรดให้ความยุติธรรมกับคดีของข้าพเจ้าด้วยเถิด เพื่อพวกนั้นจะได้ไม่ชนะและหัวเราะเยาะข้าพเจ้าได้
25 อย่าให้พวกเขาพูดได้ว่า “ไชโย พวกเราได้สิ่งที่เราต้องการแล้ว”
    อย่าให้พวกเขาพูดได้ว่า “พวกเราได้กลืนกินมันเข้าไปแล้ว”

26 ขอให้คนเหล่านั้นที่มีความสุขในความทุกข์ของข้าพเจ้า ได้รับความอัปยศและอับอายขายหน้า
    ขอให้คนเหล่านั้นที่อ้างว่าตัวเองดีกว่าข้าพเจ้า สวมความอัปยศและเสื่อมเสียเกียรติ

27 ขอให้คนเหล่านั้นที่อยากให้ข้าพเจ้าพ้นผิดชื่นชมยินดีและมีความสุขเถิด
    ขอให้พวกเขาพูดอยู่เสมอว่า “ขอสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์
    พระองค์มีความสุข เมื่อผู้รับใช้ของพระองค์อยู่เย็นเป็นสุข”
28 ขอให้ลิ้นของข้าพเจ้าพูดถึงความยุติธรรมของพระองค์
    และสรรเสริญพระองค์ตลอดวันยังค่ำ

คนชั่วกับพระเจ้าที่แสนดี

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงของดาวิดผู้รับใช้พระยาห์เวห์

การกบฏพูดกับคนชั่วลึกเข้าไปในจิตใจของเขา
    เขาไม่เห็นจะต้องกลัวพระเจ้า
เขาหลอกลวงตัวเอง
    เขาจึงมองไม่เห็นความผิดบาปของเขาและไม่เกลียดบาปนั้นด้วย[r]
คำพูดในปากเขานั้นเป็นความชั่วและการหลอกลวง
    เขาไม่ได้ทำตัวเฉลียวฉลาดหรือทำดีอะไรเลย
เขานอนคิดแผนชั่วอยู่บนเตียง
    เขายืนกรานที่จะเดินในทางที่ชั่ว
    เขาไม่ปฏิเสธความชั่วใดๆเลย

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ความรักมั่นคงของพระองค์สูงเท่าฟ้าสวรรค์
    ความสัตย์ซื่อที่พระองค์มีต่อคนของพระองค์สูงเสียดฟ้า
คุณความดีของพระองค์เหมือนยอดเขาที่สูงลิบ
    ความยุติธรรมของพระองค์เหมือนก้นสมุทรที่ลึกล้ำ
    พระยาห์เวห์ปกป้องดูแลทั้งคนและสัตว์

ข้าแต่พระเจ้า ไม่มีสิ่งใดมีค่าเทียบได้กับความรักมั่นคงของพระองค์
    มนุษย์ต่างลี้ภัยภายใต้ร่มเงาปีกของพระองค์
พระองค์เลี้ยงดูพวกเราอย่างอิ่มหนำสำราญ ด้วยอาหารที่ดีเลิศจากบ้านของพระองค์ อาหารที่พระองค์ให้อย่างเหลือเฟือ
    พระองค์ให้พวกเราดื่มน้ำจากแม่น้ำแห่งความสุขของพระองค์
เพราะตาน้ำแห่งชีวิตก็ไหลออกมาจากพระองค์นั้น
    และแสงสว่างของพระองค์ให้แสงสว่างกับพวกเรา

10 ดังนั้น โปรดแสดงความรักมั่นคงให้กับคนเหล่านั้นที่รู้จักพระองค์
    และโปรดแสดงคุณความดีของพระองค์ให้กับคนเหล่านั้นที่มีจิตใจซื่อตรง
11 อย่าให้เท้าของคนหยิ่งยโสเหยียบย่ำข้าพเจ้า
    อย่าให้มือของคนชั่วขับไล่ข้าพเจ้าไป
12 ดูนั่นสิ พวกคนชั่วล้มลงแล้ว
    พวกเขาถูกเหวี่ยงลงไปแล้วและลุกขึ้นมาไม่ได้อีก

อย่าอิจฉาคนชั่วแต่ให้วางใจในพระยาห์เวห์

[s] เพลงของดาวิด

อย่าได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพราะคนชั่ว
    อย่าได้อิจฉาคนที่ทำสิ่งชั่วร้าย
เพราะพวกนี้จะเหี่ยวเฉาและตายไปในไม่ช้า
    เหมือนหญ้าที่ขึ้นตามท้องทุ่ง

ให้ไว้วางใจในพระยาห์เวห์ และทำดี
    แล้วเจ้าจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินของเจ้า และพระองค์จะเลี้ยงดูเจ้าอย่างซื่อสัตย์
ให้มีความสุขกับการรับใช้พระยาห์เวห์
    แล้วพระองค์จะให้สิ่งที่ใจเจ้าต้องการ

ให้มอบทั้งชีวิตของเจ้ากับพระยาห์เวห์
    ไว้วางใจในพระองค์ แล้วพระองค์จะจัดการเรื่องของเจ้าให้
พระองค์จะทำให้ความบริสุทธิ์ของเจ้าเห็นแจ่มแจ้งเหมือนดวงอาทิตย์
    พระองค์จะทำให้ความถูกต้องของคดีเจ้าเห็นแจ่มแจ้งเหมือนกลางวัน

ให้อดทนและรอคอยพระยาห์เวห์ลงมือ
    ไม่ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
    เมื่อคนชั่วประสบความสำเร็จตามแผนชั่วของเขา

ไม่ต้องโมโห ไม่ต้องโกรธ
    ไม่ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ซึ่งมีแต่จะสร้างปัญหา
เพราะคนชั่วจะถูกตัดออกไปจากแผ่นดิน
    แต่คนที่รอคอยพระยาห์เวห์จะได้กรรมสิทธิ์ในแผ่นดินที่พระองค์สัญญาไว้กับพวกเขา

10 รออีกไม่นาน คนชั่วก็จะหมดสิ้นไป
    เมื่อเจ้ามองไปในที่ที่เขาเคยอยู่ เจ้าก็จะไม่เห็นเขาอีกแล้ว
11 แต่คนที่มีจิตใจอ่อนโยนจะได้กรรมสิทธิ์ในแผ่นดินที่พระองค์สัญญาไว้กับพวกเขา
    พวกเขาจะได้ชื่นชมยินดีในสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองมหาศาล

12 พวกคนชั่วมักวางแผนร้ายต่อต้านคนดี
    และแยกเขี้ยวใส่พวกเขา
13 แต่องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า หัวเราะเยาะใส่คนพวกนั้น
    เพราะพระองค์รู้ดีว่า วันแห่งการตัดสินโทษคนชั่วกำลังจะมาแล้ว

14 พวกคนชั่วชักดาบออก และโก่งคันธนู
    เพื่อยิงใส่คนยากจนและคนขัดสน และฆ่าฟันคนที่ซื่อตรง
15 แต่ดาบนั้นจะแทงหัวใจที่ชั่วร้ายของพวกเขาเอง
    และคันธนูนั้นก็จะหักกระจุย

16 นิดๆหน่อยๆที่คนดีคนหนึ่งมี
    ก็ยังดีกว่าความร่ำรวยของคนชั่วหลายคน
17 เพราะพระยาห์เวห์จะหักแขนของคนชั่ว
    แต่พระองค์จะดูแลคนดี

18 พระยาห์เวห์จะเอาใจใส่คนที่ไร้ที่ติ
    และรางวัลของพวกเขาจะคงอยู่ตลอดกาล
19 ในยามวิกฤติพวกเขาจะไม่ต้องอับอาย
    ในเวลาที่เกิดกันดารอาหาร พวกเขาจะมีกินอย่างเหลือเฟือ

20 แต่คนชั่วจะถูกทำลายล้าง และศัตรูของพระยาห์เวห์จะสูญไป
    เหมือนดอกไม้ในทุ่ง[t] และหายไปเหมือนควัน

21 คนชั่วยืม แต่ไม่คืน
    แต่คนดีนั้นใจกว้างและแจกจ่ายให้กับผู้อื่น
22 คนเหล่านั้นที่พระยาห์เวห์อวยพร จะได้กรรมสิทธิ์ในแผ่นดิน
    ส่วนคนเหล่านั้นที่พระองค์สาปแช่ง จะถูกตัดออกจากแผ่นดิน

23 พระยาห์เวห์จะนำคนที่พระองค์พอใจไปตามทางที่ดีที่สุด
24 ถ้าคนดีสะดุด เขาก็จะไม่ล้มหรอก
    เพราะพระยาห์เวห์จับมือของเขาอยู่

25 ตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นหนุ่มจนแก่
    ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นคนดีถูกทอดทิ้ง
    ไม่เคยเห็นลูกหลานของเขาต้องไปขอคนอื่นกิน
26 คนดีมักใจกว้างและให้คนอื่นหยิบยืม
    และลูกๆของเขาเป็นพระพร

27 ดังนั้นให้หลีกเลี่ยงสิ่งชั่วร้ายและให้ทำดี
    แล้วเจ้าจะได้อยู่ในแผ่นดินตลอดไป
28 เพราะพระยาห์เวห์รักความยุติธรรม
    พระองค์ไม่ทอดทิ้งคนเหล่านั้นที่จงรักภักดีต่อพระองค์
พระองค์จะคุ้มครองพวกเขาอยู่เสมอ
    แต่ลูกหลานของคนชั่วจะถูกตัดออกไปจากแผ่นดิน
29 คนดีจะได้กรรมสิทธิ์ในแผ่นดิน
    และพวกเขาจะได้อาศัยอยู่บนแผ่นดินนั้นตลอดไป

30 ปากคนดีพูดอย่างเฉลียวฉลาด
    และลิ้นเขาสนับสนุนความยุติธรรม
31 คำสั่งสอนของพระเจ้าของเขาอยู่ในใจเขา
    และเขาจะไม่ลื่นไถลออกจากทางของเขา

32 คนชั่วคอยดักซุ่มคนดี
    เพื่อหาโอกาสที่จะฆ่าเขา
33 แต่พระยาห์เวห์จะไม่ปล่อยให้คนดีตกไปอยู่ในกำมือของคนชั่ว
    พระองค์จะไม่ยอมให้พวกเขาแพ้คดีในศาล

34 ให้รอคอยพระยาห์เวห์และทำตามที่พระองค์บอก
    แล้วพระองค์จะยกเจ้าขึ้น เจ้าจะได้รับกรรมสิทธิ์ในแผ่นดิน
    เจ้าจะได้เห็นคนชั่วถูกตัดออกไป

35 ข้าพเจ้าเคยเห็นคนชั่วที่อำมหิต
    อิทธิพลของเขาแผ่ออกไปเหมือนต้นไม้เขียวสด
36 แต่หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็ผ่านทางนั้นอีก[u]
    เขาหายไปแล้ว ข้าพเจ้ามองหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ

37 ให้สังเกตดูคนไร้ที่ติ และคนซื่อตรง
    คนที่รักสันติ จะมีอนาคตที่สดใส
38 แต่ทุกคนที่ฝ่าฝืนกฎของพระเจ้าจะถูกทำลาย
    อนาคตของคนเลวจะถูกตัดออกไปแน่ๆ

39 ความรอดของคนดีมาจากพระยาห์เวห์
    ในยามทุกข์ยาก พระองค์เป็นป้อมปราการของพวกเขา
40 พระยาห์เวห์ช่วยพวกเขาและช่วยกู้พวกเขา
    พระองค์ช่วยกู้พวกเขาให้รอดพ้นจากคนชั่ว
    เพราะพวกเขาลี้ภัยในพระองค์

คำอธิษฐานสำหรับการรักษาและการอภัยโทษ

เพลงสดุดีของดาวิด เพื่อเรียกความสนใจจากพระเจ้า

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขออย่าลงโทษข้าพเจ้าตอนที่พระองค์โกรธ
    ขออย่าตีสอนข้าพเจ้าตอนที่พระองค์เกรี้ยวกราดเลย
ลูกธนูของพระองค์ได้แทงเข้าไปในตัวข้าพเจ้า
    มือของพระองค์กดข้าพเจ้าลง

ความโกรธของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้าปวดรวดร้าวไปทั่วตัว
    ความบาปของข้าพเจ้าเองทำให้แม้แต่กระดูกก็ปวดร้าวไปหมด
ความบาปทั้งหลายของข้าพเจ้าสูงท่วมหัว
    พวกมันหนักอึ้งจนแบกไม่ไหว

เรื่องโง่ๆที่ข้าพเจ้าทำไป
    ทำให้เกิดบาดแผลเป็นหนองเน่าเหม็นในตัวข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าเจ็บปวดจนตัวงอ นอนคว่ำไปกับพื้น
    เดินไปร้องไป เหมือนกับคนไว้ทุกข์
บริเวณท้องร้อนผ่าวเพราะพิษไข้
    เจ็บปวดไปหมดทั่วร่าง
ข้าพเจ้าเจ็บจนชาและถูกบีบจนบี้แบน
    ข้าพเจ้าเครียดจนกรีดร้องออกมา

องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอยากได้อะไรพระองค์ก็รู้หมด
    ข้าพเจ้าถอนหายใจกี่เฮือกพระองค์ก็ได้ยินหมด
10 หัวใจข้าพเจ้าเต้นระรัว พละกำลังของข้าพเจ้าหายไปหมดแล้ว
    และแม้แต่ประกายตาของข้าพเจ้าก็สูญสิ้นไป[v]
11 เพื่อนฝูงและมิตรสหายไม่กล้าเข้ามาใกล้เพราะกลัวเชื้อโรคของข้าพเจ้า
    แม้แต่เพื่อนบ้านของข้าพเจ้าเองก็ยังอยู่ห่างๆเลย

12 พวกคนที่ไล่ล่าข้าพเจ้าต่างวางกับดักไว้
    พวกที่จ้องจะทำร้ายข้าพเจ้าก็ตามขู่จะทำลายข้าพเจ้า
    วันทั้งวันพวกเขาได้แต่หาวิธีที่จะหลอกลวงข้าพเจ้า

13 แต่ข้าพเจ้าเป็นเหมือนคนหูหนวก
    ข้าพเจ้าไม่ได้ยินอะไรเลย เป็นคนใบ้ที่พูดไม่ได้
14 ข้าพเจ้าเป็นเหมือนคนที่ไม่ได้ยิน
    เป็นเหมือนคนที่ไม่สามารถพูดแก้ต่างให้กับตัวเองได้

15 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้ารอคอยพระองค์อยู่
    องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์เป็นผู้ที่จะตอบข้าพเจ้า
16 ข้าพเจ้าได้อธิษฐานว่าอย่าให้พวกเขาได้สะใจ
    หรือพูดซ้ำเติมเพราะเห็นข้าพเจ้าล้มลง

17 ข้าพเจ้าเกือบจะยอมแพ้แล้ว
    ข้าพเจ้ายังคงเจ็บปวดอยู่ตลอด
18 ข้าพเจ้าสารภาพความผิดที่ข้าพเจ้าทำไป
    ข้าพเจ้าวิตกกังวลเกี่ยวกับบาปของข้าพเจ้า
19 ข้าพเจ้ามีศัตรูมากมาย ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรเขาเลย
    มีคนเกลียดข้าพเจ้ามากมาย ทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเขา
20 และคนพวกนั้นที่ตอบแทนความดีของข้าพเจ้าด้วยความชั่ว
    ก็ยังคงกล่าวหาข้าพเจ้าต่อไป ในขณะที่ข้าพเจ้ามุ่งทำแต่ความดี

21 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดอย่าทอดทิ้งข้าพเจ้า
    พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดอย่าอยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า
22 รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
    องค์เจ้าชีวิต พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า

ชีวิตที่แสนสั้น

ถึงหัวหน้านักร้อง ถึงเยดูธูน[w] เพลงของดาวิด

ข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าพเจ้าจะระวังในสิ่งที่ข้าพเจ้าทำ
    และข้าพเจ้าจะไม่ยอมให้ลิ้นของข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้าบาป”
    เมื่ออยู่ในกลุ่มคนชั่ว ข้าพเจ้าจะเอาตะกร้อสวมปากข้าพเจ้าเอง
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่เรื่องที่ดีๆ
    แต่ก็ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งหงุดหงิดใจ
ข้าพเจ้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ภายใน
    ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งโกรธ
    ข้าพเจ้าจึงต้องพูดออกมาว่า

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ช่วยบอกข้าพเจ้าหน่อยว่าตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะมีชีวิตไปอีกนานแค่ไหน
    ช่วยบอกข้าพเจ้าด้วยว่าชีวิตของข้าพเจ้านั้นจะสั้นแค่ไหน
ดูเถิด พระองค์ให้ชีวิตกับข้าพเจ้ายาวไม่เกินฝ่ามือเดียว
    ชีวิตอันแสนสั้นของข้าพเจ้านี้แค่พริบตาเดียวในสายตาพระองค์
    ชีวิตของคนเปรียบเหมือนไอน้ำที่จางหายไปอย่างรวดเร็ว เซลาห์
ชีวิตของคนเป็นเหมือนเงาที่ผ่านไป
    ชีวิตผู้คนก็ยุ่งกับเรื่องโน้นเรื่องนี้ แต่เกิดผลที่ไม่ยั่งยืน
    ผู้คนต่างก็พากันสะสมทรัพย์สมบัติมากมาย ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าใครจะได้ไป เมื่อเขาตายไป

องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีความหวังอะไรหรือ
    ความหวังทั้งหมดของข้าพเจ้าอยู่ที่พระองค์
ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากความผิดทั้งสิ้นของข้าพเจ้าด้วย
    อย่าให้ข้าพเจ้าต้องอดทนต่อคำเย้ยหยันของคนโง่เขลา
ข้าพเจ้าเป็นเหมือนคนใบ้
    ข้าพเจ้าไม่ปริปากพูด เพราะพระองค์คือผู้ที่ลงโทษข้าพเจ้าอย่างนี้
10 โปรดหยุดลงโทษข้าพเจ้าเถิด
    เพราะมืออันทรงพลังของพระองค์กำลังจะฆ่าข้าพเจ้าอยู่แล้ว

11 พระองค์ว่ากล่าวและลงโทษมนุษย์สำหรับความผิดที่เขาทำ
    พระองค์ทำลายสิ่งที่พวกเขารักหวงแหน เหมือนกับมอดกัดกินเสื้อผ้า
    ชีวิตของคนเปรียบเหมือนไอน้ำที่จางหายไปอย่างรวดเร็ว เซลาห์

12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
    โปรดฟังเสียงร้องให้ช่วยของข้าพเจ้า
    อย่าทำเป็นหูหนวกต่อน้ำตาของข้าพเจ้า
เพราะข้าพเจ้าเป็นคนเดินทาง[x] ที่มาพักอยู่กับพระองค์
    ข้าพเจ้าเป็นเหมือนบรรพบุรุษของข้าพเจ้าคือเป็นคนต่างด้าวที่ต้องพึ่งพระองค์
13 ข้าแต่พระยาห์เวห์หันสายตาที่โกรธเคืองไปจากข้าพเจ้าได้แล้ว
    ข้าพเจ้าจะได้มีความสุขสักหน่อย
    ก่อนที่ข้าพเจ้าจะจากไป และไม่มีข้าพเจ้าอีกแล้ว

สรรเสริญและขอความช่วยเหลือ

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงของดาวิด

ข้าพเจ้าคอยพระยาห์เวห์อย่างอดทน
    พระองค์หันมาหาข้าพเจ้าและฟังเสียงร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า
พระองค์ฉุดข้าพเจ้าขึ้นจากหลุมศพที่เต็มไปด้วยโคลนตม
    แล้ววางเท้าข้าพเจ้าลงบนหินและทำให้ข้าพเจ้าก้าวเท้าอย่างมั่นคง
พระองค์ใส่เพลงใหม่เข้าในปากของข้าพเจ้า
    เป็นเพลงสรรเสริญพระเจ้าของเรา
หลายคนจะได้เห็นสิ่งที่พระเจ้าทำ
    พวกเขาจะได้ยำเกรงและไว้วางใจในพระยาห์เวห์

ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนที่ฝากความไว้วางใจในพระยาห์เวห์
    และไม่ได้หันไปขอความช่วยเหลือจากภูตผีปีศาจและรูปเคารพทั้งหลาย
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ได้ทำสิ่งที่มหัศจรรย์มากมายจริงๆ
    พระองค์มีแผนการที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเราจนไม่มีใครจดพวกมันได้หมด
ถ้าข้าพเจ้าจะเล่าก็คงพูดไม่หมดหรอก
    เพราะมีมากเสียจนนับไม่ถ้วน

พระองค์ไม่ใช่อยากได้แค่เครื่องบูชาหรือเมล็ดพืชบูชา
พระองค์ไม่ได้แสวงหาแค่เครื่องเผาบูชาหรือเครื่องบูชาชำระตัว
    แต่พระองค์ได้เปิดหูของข้าพเจ้าเพื่อให้ข้าพเจ้าได้ยินและเชื่อฟัง[y]
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงพูดว่า “ดูเถิด ข้าพเจ้ามาแล้ว
    ในหนังสือม้วนก็ได้เขียนถึงเรื่องราวของข้าพเจ้าไว้แล้ว
พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอยากจะทำตามใจของพระองค์
    คำสั่งสอนของพระองค์ก็อยู่ในใจของข้าพเจ้าแล้ว”

ข้าพเจ้าได้บอกเรื่องข่าวดีนี้ในที่ชุมนุมใหญ่แล้ว
    คือได้บอกถึงสิ่งดีๆที่พระองค์ได้ทำ
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ก็รู้อยู่แล้วว่า
    ข้าพเจ้าจะไม่มีวันปิดริมฝีปากของข้าพเจ้าเลย
10 ข้าพเจ้าไม่ได้ปิดบังเรื่องคุณความดีของพระองค์ไว้ในใจข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าได้พูดถึงความซื่อสัตย์และความรอดของพระองค์
ข้าพเจ้าไม่เคยซ่อนเรื่องความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ของพระองค์
    จากที่ชุมนุมใหญ่เลย

11 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขออย่าได้ยับยั้งความเมตตาของพระองค์ต่อข้าพเจ้าเลย
    ช่วยปกป้องข้าพเจ้าด้วยความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ของพระองค์ตลอดไปด้วยเถิด

12 เพราะมีปัญหามากมายจนนับไม่ถ้วนล้อมรอบข้าพเจ้าอยู่
ความผิดบาปทั้งหลายของข้าพเจ้าไล่ทันข้าพเจ้า
    ดังนั้นข้าพเจ้าจึงมองไม่เห็นทางหนี
ความบาปพวกนั้นมีมากยิ่งกว่าเส้นผมบนหัวของข้าพเจ้าเสียอีก
    ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงหมดกำลังใจแล้ว

13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดช่วยกู้ข้าพเจ้าด้วยเถิด
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
14 ขอให้คนเหล่านั้นที่มุ่งเอาชีวิตของข้าพเจ้าได้รับความอับอาย และพบกับความพ่ายแพ้
    ขอให้คนเหล่านั้นที่อยากจะทำร้ายข้าพเจ้า พากันล่าถอยกลับไปและได้รับความอัปยศอดสู
15 ขอให้คนพวกนั้นที่พูดเยาะเย้ยข้าพเจ้าว่า “เสร็จแน่ เสร็จแน่”
    ได้รับความอับอายมากซะจนพูดไม่ออก
16 ขอให้คนเหล่านั้นที่เสาะแสวงหาพระองค์ มีความชื่นชมยินดี และมีความสุข
ขอให้คนเหล่านั้นที่รักความรอดที่มาจากพระองค์
    ได้พูดแล้วพูดอีกว่า “พระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่”

17 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า
    โปรดนึกถึงข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้านั้นยากจนและไม่มีใครช่วย
พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์เป็นผู้ที่ช่วยเหลือข้าพเจ้า
    เป็นผู้ช่วยกู้ของข้าพเจ้า อย่าได้ชักช้าอยู่เลย

คำอธิษฐานของคนป่วย

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด

คนที่เอาใจใส่คนยากจน ถือว่ามีเกียรติจริงๆ
    เมื่อคนนั้นตกทุกข์ได้ยาก พระยาห์เวห์จะช่วยเหลือเขา
พระยาห์เวห์จะปกป้องเขาและช่วยรักษาชีวิตเขาไว้
    เขาจะได้รับพระพรในแผ่นดินนี้
    และพระองค์จะไม่มอบเขาไปให้พวกศัตรูของเขาทำตามใจชอบ
เมื่อเขานอนป่วยอยู่บนเตียง พระยาห์เวห์จะทำให้เขาแข็งแรง
    เมื่อเขาป่วย พระองค์ก็รักษาให้เขาหายเหมือนเดิม

ข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าได้ทำบาปต่อพระองค์
    แต่โปรดเมตตาข้าพเจ้าและรักษาข้าพเจ้าด้วยเถิด”
แต่พวกศัตรูพากันพูดเรื่องร้ายๆเกี่ยวกับข้าพเจ้าว่า
    “เมื่อไหร่มันจะตายสักที จะได้ถูกลืมไปซะ”
และถ้ามีใครมาเยี่ยมเยียนข้าพเจ้า
    พวกเขาแกล้งพูดอย่างเป็นห่วงเป็นใย
    แต่อันที่จริงมาเพื่อเก็บรวบรวมข่าวร้ายเกี่ยวกับข้าพเจ้า
    เพื่อออกไปกระจายข่าวลือนั้น
ทุกคนที่เกลียดข้าพเจ้าซุบซิบกัน
    คาดหวังว่าข้าพเจ้าจะต้องแย่แน่ๆ

พวกเขาพูดว่า
    “เขาถูกโรคร้ายซัดเข้า ไม่มีทางลุกขึ้นมาจากเตียงนั้นได้แน่”
ขนาดเพื่อนสนิท ที่ข้าพเจ้าเคยไว้วางใจ
    คนที่เคยกินอยู่กับข้าพเจ้า ยังหักหลังข้าพเจ้าเลย[z]
10 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอโปรดเมตตาด้วยเถิด
    ช่วยข้าพเจ้าให้ลุกขึ้น เพื่อกลับไปแก้แค้นคนพวกนั้น

11 แล้วข้าพเจ้าจะได้รู้ว่าพระองค์พอใจข้าพเจ้า
    เพราะศัตรูไม่ได้โห่ร้องมีชัยเหนือข้าพเจ้า
12 พระองค์พยุงข้าพเจ้าไว้ เพราะข้าพเจ้าบริสุทธิ์
    และตั้งข้าพเจ้าให้อยู่ต่อหน้าพระองค์ตลอดไป
13 สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
    ผู้ที่ดำรงอยู่มาตั้งแต่ในอดีตกาลและจะดำรงอยู่ตลอดไปชั่วนิรันดร์
    อาเมน และ อาเมน

หนังสือเล่มที่สอง

(สดุดี 42-72)

คิดถึงบ้านพระเจ้า

ถึงหัวหน้านักร้อง บทกวีแห่งมัสคิล[aa] สำหรับคนของตระกูลโคราห์

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้ากระหายหาพระองค์
    เหมือนกับกวางที่กระหายหาน้ำในลำธารที่ไหลเย็น
ข้าพเจ้าโหยหาพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่
    เมื่อไหร่หนอข้าพเจ้าถึงจะได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอีก
ข้าพเจ้าต้องกินน้ำตาต่างอาหารทั้งวันทั้งคืน
    ในขณะที่คนเหล่านี้ถามข้าพเจ้าไม่หยุดหย่อนว่า
    “พระเจ้าของแกอยู่ไหนล่ะ”

ข้าพเจ้าคิดถึงเรื่องเหล่านี้
    และระบายความในใจออกมา
ข้าพเจ้าคิดถึงตอนที่เดินอยู่กับฝูงชน
    และนำหน้าขบวนพวกเขาขึ้นไปยังวิหารของพระเจ้า
ข้าพเจ้าฟังเสียงโห่ร้องยินดีและเพลงที่ร้องสรรเสริญพระเจ้า
    ในขณะที่ฝูงชนกำลังเฉลิมฉลองงานเทศกาลกัน

ข้าพเจ้าถามตัวเองว่าทำไมข้าพเจ้าถึงโศกเศร้านัก
    ทำไมข้าพเจ้าถึงวุ่นวายใจอย่างนี้
ข้าพเจ้าควรจะฝากความหวังไว้กับพระเจ้า ใช่แล้ว ข้าพเจ้าจะได้มีเหตุที่จะสรรเสริญพระองค์อีกครั้ง
    พระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้าและเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าโศกเศร้าเหลือเกิน
    ข้าพเจ้าถึงระลึกถึงพระองค์จากยอดเขามิซาร์ซึ่งอยู่ในเทือกเขาเฮอร์โมน
    ในแคว้นอันเป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำจอร์แดน
พวกมหาสมุทรลึกร้องเรียกหากัน ร่วมกันกับเสียงของน้ำตก
    คลื่นปัญหาลูกใหญ่น้อยจากพระองค์กระหน่ำซัดลงบนหัวของข้าพเจ้า
พระยาห์เวห์แสดงความรักมั่นคงของพระองค์ต่อข้าพเจ้าวันแล้ววันเล่า
    แล้วข้าพเจ้าร้องเพลงให้กับพระองค์ในตอนกลางคืน
    และข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระเจ้าผู้ให้ชีวิตข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าจะพูดกับพระเจ้าผู้เป็นหินกำบังของข้าพเจ้าว่า
    “ทำไมพระองค์ถึงลืมข้าพเจ้า
ทำไมข้าพเจ้าถึงต้องร้องไห้คร่ำครวญ
    เพราะความโหดร้ายของศัตรูข้าพเจ้า”
10 พวกศัตรูพากันเยาะเย้ยข้าพเจ้า
    แล้วมันแทงเข้าไปในกระดูกดำของข้าพเจ้า
เมื่อพวกเขาถามอยู่ตลอดว่า
    “พระเจ้าของแกอยู่ที่ไหน”

11 ข้าพเจ้าถามตัวเองว่า ทำไมข้าพเจ้าถึงโศกเศร้านัก
    ทำไมข้าพเจ้าถึงวุ่นวายใจอย่างนี้
ข้าพเจ้าควรจะฝากความหวังไว้กับพระเจ้า ใช่แล้ว ข้าพเจ้าจะมีเหตุที่จะสรรเสริญพระองค์อีกครั้ง
    พระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้าและเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า[ab]

[ac] ข้าแต่พระเจ้า ช่วยตัดสินคดีว่าข้าพเจ้าเป็นฝ่ายถูกด้วย
    ช่วยสู้คดีให้กับข้าพเจ้ากับคนต่างชาติพวกนี้ที่ไม่ได้จงรักภักดีต่อพระองค์ด้วย
    ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากคนพวกนี้ที่เหลี่ยมจัดและชั่วช้าด้วยเถิด
เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า เป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า
    ทำไมพระองค์ถึงทอดทิ้งข้าพเจ้า
ทำไมข้าพเจ้าถึงต้องร้องไห้คร่ำครวญ
    เพราะความโหดร้ายของศัตรูข้าพเจ้า

โปรดแสดงแสงสว่างของพระองค์และความซื่อสัตย์ของพระองค์
    เพื่อสิ่งเหล่านั้นจะได้นำทางข้าพเจ้า
ขอให้สิ่งเหล่านั้นนำข้าพเจ้าไปยังวิหารของพระองค์
    ที่อยู่บนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
แล้วข้าพเจ้าจะได้เข้าถึงแท่นบูชาของพระเจ้า
    และเข้าถึงพระเจ้าผู้ทำให้ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีด้วยความสุขล้น
ข้าแต่พระเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณ

ข้าพเจ้าถามตัวเองว่าทำไมข้าพเจ้าถึงโศกเศร้านัก
    ทำไมข้าพเจ้าถึงวุ่นวายใจอย่างนี้
ข้าพเจ้าควรจะฝากความหวังไว้กับพระเจ้า ใช่แล้ว ข้าพเจ้าจะมีเหตุที่จะสรรเสริญพระองค์อีกครั้ง
    พระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้าและเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า

อธิษฐานให้พระเจ้าปกป้องชาติ

ถึงหัวหน้านักร้อง บทกวีแห่งมัสคิล[ad] สำหรับคนของตระกูลโคราห์

ข้าแต่พระเจ้า พวกเราได้ยินกับหูของพวกเราเอง
    ถึงเรื่องราวต่างๆที่บรรพบุรุษเล่าให้พวกเราฟัง
พวกเขาเล่าถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำในชั่วชีวิตของเขา
    ในสมัยก่อนโน้น
พวกเขาเล่าให้ฟังว่า ด้วยมือของพระองค์ พระองค์ขับไล่ชนชาติต่างๆออกไป
    และปลูกฝังบรรพบุรุษของเราแทน
พระองค์ทำลายชนชาติเหล่านั้น
    และปล่อยให้บรรพบุรุษของพวกเราเป็นอิสระ
พวกเขาเล่าว่าไม่ใช่ดาบหรือแขนอันแข็งแกร่งของพวกเขาหรอกนะ
    ที่ทำให้พวกเขาชนะและได้แผ่นดินมา
แต่เป็นมือขวาและแขนของพระองค์
    และรัศมีจากใบหน้าของพระองค์ต่างหาก
    เพราะพระองค์พอใจในพวกเขา

ข้าแต่พระเจ้า พระองค์เป็นกษัตริย์ของข้าพเจ้า
    ขอพระองค์ออกคำสั่งที่จะทำให้ยาโคบชนะ
เราสามารถผลักดันคนเหล่านั้นให้ถอยล่นไปโดยพึ่งในพระองค์
เราเหยียบย่ำคนเหล่านั้นที่ลุกฮือขึ้นต่อต้านเราโดยพึ่งชื่อของพระองค์
ข้าพเจ้าไม่ได้ฝากความไว้วางใจไว้กับธนูของข้าพเจ้า
    และมันก็ไม่ใช่ดาบของข้าพเจ้าที่นำชัยชนะมาให้กับข้าพเจ้า
ข้าแต่พระองค์ พระองค์ทำให้เรามีชัย
    พระองค์ทำให้คนพวกนั้นที่เกลียดพวกเราอับอายขายหน้า
ข้าแต่พระเจ้า พวกเราถวายเกียรติแด่พระองค์วันยังค่ำ
    และเราสรรเสริญชื่อของพระองค์อย่างไม่หยุดหย่อน เซลาห์

แต่พระองค์ได้ทอดทิ้งพวกเราทำให้พวกเราอับอาย
    และไม่ยอมออกไปสนามรบด้วยกันกับพวกเรา
10 พระองค์ทำให้เราต้องถอยหนีจากศัตรู
    พระองค์ทำให้คนเหล่านั้นที่เกลียดเราปล้นสะดมของเราไป
11 พระองค์ปล่อยให้พวกเราเป็นเหมือนแกะที่จะถูกนำไปฆ่า
    พระองค์ทำให้พวกเรากระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติอื่นๆ
12 พระองค์ขายประชาชนของพระองค์ให้ไปเป็นทาส
    ขายไปถูกๆอย่างกับให้เปล่า พระองค์ไม่ต่อรองราคาเสียด้วยซ้ำ

13 พวกเพื่อนบ้านของพวกเรา เห็นสิ่งที่พระองค์ทำ
    แล้วตอนนี้ พวกเขาพากันเยาะเย้ยและหัวเราะเยาะพวกเรา
14 พระองค์ทำให้พวกเรากลายเป็นตัวตลกในท่ามกลางประเทศเพื่อนบ้านของเรา
    พวกเขาพากันหัวเราะเยาะและส่ายหัวใส่เรา
15 ข้าพเจ้ารู้สึกอับอายทั้งวัน
    ความอัปยศอดสูคลุมหน้าของข้าพเจ้าไว้
16 ข้าพเจ้าซ่อนอยู่ในความอับอาย เพราะเสียงเยาะเย้ย
    และคำดูหมิ่นของพวกศัตรู ที่เฝ้ารอคอยแก้แค้นข้าพเจ้า

17 ข้าแต่พระเจ้า สิ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับพวกเรา
    ทั้งๆที่พวกเราไม่ได้ลืมพระองค์หรือทำผิดต่อสัญญาของพระองค์
18 จิตใจของพวกเราไม่ได้หันไปจากพระองค์
    และย่างเท้าของเราไม่ได้หันเหไปจากทางของพระองค์
19 แต่พระองค์กลับบดขยี้เราในถิ่นของฝูงหมาป่า
    และปกคลุมเราด้วยความมืดมิด

20 ถ้าพวกเราลืมชื่อพระเจ้าของพวกเรา
    แล้วยกมือขึ้นอธิษฐานต่อพระอื่น
21 พระเจ้าจะไม่รู้เชียวหรือ
    เพราะพระองค์หยั่งรู้ถึงความลับในจิตใจ
22 แต่เพราะเราเป็นของพระองค์ พวกเราถูกฆ่าไม่หยุด
    และเพราะเราเป็นของพระองค์ คนมองว่าเราเป็นเหมือนแกะที่จะถูกนำไปฆ่า
23 ตื่นเถิด องค์เจ้าชีวิต พระองค์นอนหลับอยู่ได้ยังไง
    ลุกขึ้นเถิด อย่าได้ละทิ้งพวกเราตลอดไป
24 ทำไมพระองค์ถึงได้เมินหน้าไปจากเรา
    ทำไมพระองค์ถึงได้เมินเฉยต่อความทุกข์และการกดขี่ข่มเหงที่พวกเราได้รับ
25 พวกเราจมดินแล้ว
    ท้องแนบไปกับพื้นแล้ว
26 ช่วยลุกขึ้นและรีบมาช่วยเหลือพวกเรา
    ช่วยกู้พวกเราด้วยเถิดเพื่อแสดงความรักที่มั่นคงของพระองค์

เพลงงานวิวาห์ของกษัตริย์

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องโดยใช้ทำนองเพลงดอกพลับพลึง สำหรับคนของตระกูลโคราห์ บทกวีแห่งมัสคิล เพลงรัก

จิตใจของข้าพเจ้าเต็มล้นไปด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ
    ในขณะที่ข้าพเจ้าเขียนถ้อยคำเหล่านี้ให้กับกษัตริย์
    ลิ้นของข้าพเจ้าเป็นเหมือนปากกาของนักเขียนผู้เชี่ยวชาญ

พระองค์หล่อเหลากว่าชายอื่นใด
    ถ้อยคำที่ไพเราะออกมาจากปากของพระองค์
    เห็นชัดๆว่าพระเจ้าอวยพรพระองค์ตลอดกาล
กษัตริย์ผู้เกรียงไกร เหน็บดาบของพระองค์ไว้ข้างกายเถิด
    พระองค์ใส่ชุดเต็มยศเต็มไปด้วยสง่าราศีและบารมี

ด้วยบารมีของพระองค์ ให้ขี่รถม้ามุ่งออกไปสู่ชัยชนะ
    เพื่อคงความสัตย์ซื่อไว้ ปกป้องคนต่ำต้อย และรักษาความยุติธรรม
    ขอให้มือขวาของพระองค์ทำกิจกรรมอันน่าเกรงขาม
ลูกธนูของพระองค์ได้ลับมาจนแหลมคม
    แทงทะลุเข้าไปในหัวใจของเหล่าศัตรูของกษัตริย์
    ชนชาติต่างๆพากันล้มลงใต้เท้าของพระองค์

ข้าแต่พระเจ้า[ae] บัลลังก์ของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป
    พระองค์จะปกครองคนของพระองค์อย่างยุติธรรม
พระองค์รักความยุติธรรมและเกลียดชังความชั่วร้าย
    นั่นเป็นเหตุที่พระเจ้า พระเจ้าของพระองค์ถึงแต่งตั้งพระองค์[af]เป็นกษัตริย์
    และเทน้ำมันลงบนศีรษะของพระองค์ทำให้พระองค์มีความสุขมากกว่าเพื่อนๆ
เสื้อผ้าของพระองค์มีกลิ่นหอมของกำยาน ว่านหางจระเข้ และการบูร
    เหล่านักดนตรีบรรเลงเพลงให้พระองค์ฟังอย่างมีความสุขภายในวังที่ตกแต่งด้วยงาช้าง
บุตรสาวของเหล่ากษัตริย์ ก็อยู่ในหมู่หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ของพระองค์
    และราชินีก็ยืนอยู่เบื้องขวาของพระองค์ นางสวมเครื่องประดับทองคำจากเมืองโอฟีร์

10 ลูกสาวสุดที่รักเอ๋ย ฟังเราไว้ สังเกตดีๆ เอียงหูมาฟัง
    ตอนนี้ เธอจะต้องลืมชนชาติของเธอ และครอบครัวของพ่อเธอ
11 แล้วกษัตริย์ถึงจะได้หลงใหลในความงดงามของเธอ
    เพราะตอนนี้ พระองค์เป็นนายของเธอแล้ว และเธอต้องก้มกราบพระองค์
12 ผู้คนจากเมืองไทระ จะนำของกำนัลมาให้
    เศรษฐีจากชนชาตินั้นพยายามจะเอาใจเธอ

13 เจ้าหญิงอยู่ในห้องของนาง
    แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ถักทอด้วยทองคำ
14 เจ้าหญิงในชุดสวยงามนี้ จะถูกนำตัวไปเข้าเฝ้ากษัตริย์
    และนางก็จะมีเพื่อนเจ้าสาวที่ยังเป็นสาวพรหมจารีตามหลังเธอไปด้วย พวกเขาถูกนำตัวมาเข้าเฝ้าพระองค์

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International