Bible in 90 Days
ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ที่ทนทุกข์ทรมาน
13 พระยาห์เวห์พูดว่า “ดูสิ ผู้รับใช้ของเราจะประสบความสำเร็จ
เขาจะได้รับการยกย่องเชิดชูอย่างสูง
14 ตอนนั้นเขาทำให้คนจำนวนมากตกตะลึง รูปร่างหน้าตาของเขาเสียโฉมมาก
แทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนเลย
รูปร่างของเขาแทบจะไม่เหมือนมนุษย์แล้ว
15 แล้วตอนนี้เขาก็จะทำให้หลายๆชนชาติสะดุ้ง
พวกกษัตริย์จะต้องปิดปากอึ้งไปเพราะเขา
เพราะพวกเขาจะเห็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครบอกพวกเขามาก่อน
และพวกเขาก็จะคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน”
53 ผู้คนพูดว่า ใครจะไปเชื่อว่าเรื่องที่เราได้ยินมาจะเกิดขึ้นได้
ตอนนั้นใครจะไปเห็นฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ในเหตุการณ์นี้
2 เขาเติบโตขึ้นมาเหมือนกับต้นไม้เล็กๆต่อหน้าพระยาห์เวห์
เหมือนกับรากที่แตกหน่อในดินแห้งแล้ง
เขาไม่ได้หล่อเหลาหรือมีสง่าราศีถึงกับทำให้เราอยากมองเขา
เขาไม่ได้มีอะไรน่าดึงดูดถึงกับทำให้เราชอบเขา
3 ผู้คนต่างพากันดูถูกและไม่คบด้วย
เขาเป็นผู้ชายที่เจอกับความเจ็บปวดมากมายและคุ้นเคยกับความทุกข์ทรมาน
เป็นเหมือนคนหนึ่งที่คนทนดูไม่ได้
เขาเป็นที่ดูถูกและเราไม่ได้เห็นว่าเขาสำคัญอะไรเลย
4 เขาได้แบกรับความทุกข์ทรมานของพวกเราอย่างแน่นอน
เขาหอบหิ้วความเจ็บปวดของพวกเรา
แต่เรามองว่าพระเจ้าลงโทษเขา
โบยตีเขา และทำให้เขาเจ็บปวด
5 เขาถูกแทงก็เพราะความผิดต่างๆที่เราทำไป
เขาฟกช้ำก็เพราะความชั่วต่างๆที่พวกเราทำ
การตีสอนที่ทำให้เราหายดีก็ตกอยู่บนเขา
พวกเราได้รับการรักษาเพราะบาดแผลทั้งหลายของเขา
6 พวกเราทุกคนได้หลงหายไปเหมือนแกะ
พวกเราแต่ละคนต่างหลงไปคนละทิศละทาง
แต่พระยาห์เวห์ปล่อยให้ความผิดของพวกเราทุกคนโจมตีเขา
7 เขาถูกกดขี่ข่มเหง และถูกทำให้เจ็บปวด
แต่เขาก็ไม่ปริปากบ่นเลย
เหมือนกับลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า
เหมือนกับแกะที่นิ่งเงียบอยู่ต่อหน้าคนที่ตัดขนของมัน
เขาไม่ได้ปริปากของเขาเลย
8 เขาก็ถูกเอาตัวไปหลังจากที่ถูกจับและถูกตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม[a]
และไม่มีใครสนใจในชะตากรรมของเขา[b]
เพราะเขาถูกตัดออกจากโลกของคนเป็น
เขาถูกลงโทษเพราะความผิดที่คนของเขาทำ[c]
9 พวกเขาได้ทำหลุมฝังศพของเขาไว้กับหลุมของคนชั่ว
และทำอุโมงค์ฝังศพของเขาไว้กับอุโมงค์ของคนรวย[d]
ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ก่อความรุนแรง
และเขาไม่ได้พูดหลอกลวง
10 แต่พระยาห์เวห์ก็ตัดสินใจที่จะบดขยี้คนของพระองค์
และทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมาน
ถ้าผู้รับใช้ของพระองค์ยอมให้ชีวิตตัวเขาเองเป็นของถวายชดใช้ความผิด
เขาก็จะได้เห็นลูกหลานของเขาและจะมีอายุยืนยาว
ความตั้งใจของพระยาห์เวห์ก็จะสำเร็จผ่านทางมือของเขา
11 หลังจากความทุกข์ทรมานอันเลวร้ายของเขาแล้ว เขาก็จะเห็นความสว่าง[e]
และสิ่งที่เขาประสบมานั้นจะทำให้เขาพึงพอใจ
พระยาห์เวห์พูดว่า “ผู้รับใช้ของเราผู้ที่ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
ทำให้หลายๆคนได้รับการตัดสินให้พ้นผิด
และเขาก็จะแบกรับโทษสำหรับความผิดที่คนพวกนั้นทำ
12 ดังนั้น เราจะให้รางวัลกับเขาร่วมกับพวกผู้ยิ่งใหญ่
และเขาก็จะได้รับส่วนแบ่งจากของที่ยึดมาได้ร่วมกับคนที่แข็งแรง
เพราะเขาได้เทตัวเองออกมาจนตาย
เขาถูกนับรวมเข้ากับพวกคนบาป
และเขาก็แบกรับบาปของคนจำนวนมาก
และได้ขอร้องอ้อนวอนแทนพวกคนบาป”
พระยาห์เวห์นำคนของพระองค์กลับบ้าน
54 พระยาห์เวห์พูดว่า “เยรูซาเล็ม หญิงที่เป็นหมันเอ๋ย
ร้องตะโกนออกมาด้วยความยินดี
เจ้าที่ไม่เคยเจ็บท้องคลอดมาก่อน ระเบิดเสียงออกมาเป็นเพลงเลย
ถึงแม้เจ้าจะถูกทอดทิ้งแต่ก็จะมีลูกมากกว่าหญิงที่อยู่กับสามีเสียอีก
2 ขยายที่สำหรับเต็นท์ของเจ้าให้กว้างขึ้น
กางม่านเต็นท์ของเจ้าให้ยาวออกไปให้เต็มที่ไปเลย
ต่อเชือกของเต็นท์เจ้าให้ยาวขึ้น
และทำให้หลักหมุดแข็งแรงขึ้น
3 เพราะเจ้าจะขยายไปทางซ้ายและขวา
ลูกหลานของเจ้าจะไปยึดครองดินแดนของชนชาติต่างๆ
และตั้งรกรากอยู่ในเมืองร้างต่างๆ
4 ไม่ต้องกลัว เพราะเจ้าจะไม่ต้องอับอาย
และไม่ต้องหมดกำลังใจเพราะเจ้าจะไม่ต้องขายหน้า
เจ้าจะลืมความอับอายในวัยสาวของเจ้า
และเจ้าก็จะไม่ต้องหวนคิดถึงความอับอายของเจ้าตอนเป็นหม้ายอีกต่อไป
5 ผู้สร้างเจ้าคือสามีของเจ้า
ชื่อของพระองค์คือพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
พระผู้ไถ่ของเจ้าคือผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
และคนเรียกพระองค์ว่าพระเจ้าของโลกทั้งสิ้น
6 พระยาห์เวห์ได้เรียกเจ้ากลับมาหาพระองค์
เหมือนกับภรรยาที่เคยถูกสามีทิ้งและตรอมตรมใจ
เหมือนกับภรรยาที่ยังเป็นสาวแต่ถูกทิ้ง”
พระเจ้าของเจ้าพูดว่าอย่างนั้น
7 “เราได้ทิ้งเจ้าไปแค่ประเดี๋ยวเดียว
แต่ด้วยความเมตตาอย่างใหญ่หลวง เราจะนำเจ้ากลับมา
8 เราได้หลบหน้าไปจากเจ้าชั่วขณะหนึ่ง
เพราะเราโกรธแค้นอย่างล้นเหลือ
แต่เราจะแสดงความเมตตาต่อเจ้า เพราะความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด”
พระยาห์เวห์ผู้ที่ไถ่เจ้าไว้ พูดไว้ว่าอย่างนั้น
9 “เรามองว่าเรื่องนี้เป็นเหมือนในสมัยของโนอาห์
ตอนที่เราสาบานว่าน้ำที่ท่วมในสมัยโนอาห์จะไม่มีวันท่วมโลกอีก
ตอนนี้เราสาบานว่าเราจะไม่โกรธเจ้าหรือลงโทษเจ้าอีก
10 ถึงแม้พวกภูเขาจะเคลื่อนไป
และเนินเขาต่างๆจะสั่นคลอน
แต่ความรักมั่นคงของเราจะไม่มีวันเคลื่อนไปจากเจ้า
และข้อตกลงที่เราสัญญาว่าจะให้สันติภาพนั้นก็จะไม่มีวันสั่นคลอน
พระยาห์เวห์ ที่เมตตาเจ้า พูดไว้ว่าอย่างนี้
11 เมืองที่เดือดร้อนเอ๋ย
ศัตรูมาโจมตีเจ้าเหมือนกับพายุและไม่มีใครปลอบโยนเจ้า
ดูสิ ตอนนี้เราจะก่อหินต่างๆของเจ้าขึ้นด้วยปูนที่สวยงาม
เราจะวางฐานรากของเจ้าและฝังด้วยพลอยสีน้ำเงิน
12 เราจะสร้างพวกหอคอยของเจ้าฝังด้วยทับทิม
และพวกประตูเมืองฝังด้วยเพชรพลอย
และกำแพงด้านนอกทั้งหมดจะฝังด้วยพลอยที่มีค่า
13 พระยาห์เวห์จะเป็นผู้ที่สอนลูกๆของเจ้าทั้งหมด
และลูกๆของเจ้าจะมีความเจริญรุ่งเรืองมหาศาล
14 เจ้าจะได้รับการก่อตั้งให้มั่นคง
ด้วยความยุติธรรมของเราที่ให้เจ้ารอดพ้น
เจ้าจะอยู่ห่างไกลจากการกดขี่ข่มเหง เจ้าจะได้ไม่ต้องกลัว
และไม่ต้องสยดสยองเพราะมันจะไม่เข้ามาใกล้เจ้า
15 ถ้าในภายหลังมีใครมาโจมตีเจ้า
เรื่องนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเราหรอก
ใครก็ตามที่จะมาโจมตีเจ้า มันก็จะพ่ายแพ้เจ้า
16 ดูสิ เราเป็นทั้งผู้สร้างช่างตีเหล็ก คนที่โหมถ่านให้ลุกในไฟเพื่อผลิตอาวุธต่างๆ
เราก็สร้างพวกทหารเพื่อทำลายด้วยเหมือนกัน
17 แต่อาวุธที่คนสร้างขึ้นมาเพื่อสู้กับเจ้าจะไม่สามารถทำร้ายเจ้าได้เลย
และทุกคนที่ฟ้องร้องเจ้าในศาล เจ้าก็จะสามารถโต้แย้งได้หมด
นี่แหละคือมรดกของพวกผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์
และนี่แหละคือชัยชนะที่เราให้กับพวกเขา”
พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนั้น
คำเชิญจากพระยาห์เวห์
55 พระยาห์เวห์พูดว่า “เฮ้ย พวกเจ้าที่หิวน้ำ มาที่น้ำสิ
เฮ้ย พวกเจ้าที่ไม่มีเงิน มาสิ มาซื้อและกินซะ
มาสิ มาซื้อเหล้าองุ่นและนม
ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องคิดราคา
2 ทำไมเจ้าถึงเอาเงินของเจ้าไปซื้อของกินที่ไม่ใช่อาหารที่มีประโยชน์
ทำไมเจ้าถึงเอาค่าแรงไปซื้อสิ่งที่ไม่ได้ทำให้เจ้าอิ่มจริงๆ
ฟังเราให้ดี และเจ้าจะได้กินของดี
และเจ้าก็จะได้มีความสุขกับอาหารชั้นเลิศ
3 เอียงหูมา และเข้ามาหาเรา
ฟังให้ดี เพื่อเจ้าจะได้มีชีวิต
เราจะทำข้อตกลงอันถาวรกับเจ้า
เป็นสัญญาที่เชื่อถือได้ที่จะสัตย์ซื่อต่อดาวิดตลอดไป
4 ดูสิ เราทำให้เขาเป็นพยานให้กับชนชาติต่างๆ
เราทำให้เขาเป็นผู้ครอบครองและเป็นแม่ทัพของชนชาติต่างๆ
5 ดูสิ เจ้าจะเรียกชนชาติต่างๆที่เจ้าไม่เคยรู้จัก
และชนชาติต่างๆที่ไม่เคยรู้จักเจ้านั้นก็จะวิ่งมาหาเจ้า
เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล ได้ให้เกียรติกับเจ้า
6 ให้แสวงหาพระยาห์เวห์ในขณะที่ยังสามารถหาพระองค์เจอ
ให้เรียกพระองค์ ในขณะที่พระองค์ยังอยู่ใกล้
7 ให้คนชั่วทิ้งทางของพวกเขาได้แล้ว
ให้คนที่เลวทรามทิ้งความคิดชั่วๆของพวกเขาได้แล้ว
ให้พวกเขาหันมาหาพระยาห์เวห์ แล้วพระองค์จะเมตตาพวกเขา
ให้พวกเขาหันมาหาพระเจ้าของเราเพราะพระองค์จะอภัยให้กับพวกเขาอย่างไม่จำกัด”
8 พระยาห์เวห์พูดว่า “ความคิดต่างๆของเราไม่เหมือนกับความคิดต่างๆของเจ้า
และทางทั้งหลายของเจ้าก็ไม่เหมือนกับทางทั้งหลายของเรา
9 ท้องฟ้าอยู่สูงกว่าพื้นดินขนาดไหน
ทางทั้งหลายของเราก็อยู่สูงกว่าทางทั้งหลายของเจ้าขนาดนั้น
และความคิดต่างๆของเราก็อยู่สูงกว่าความคิดต่างๆของเจ้าขนาดนั้นด้วย
10 ฝนและหิมะที่ตกลงมาจากท้องฟ้าจะไม่หวนกลับไปบนท้องฟ้า
จนกว่าจะทำให้พื้นเปียก
จนกว่าจะทำให้พื้นดินผลิดอกออกผลและแตกหน่อ
จนกว่าจะให้เมล็ดข้าวกับผู้หว่านและให้อาหารกับคนกิน
11 เช่นนั้นแหละ คำพูดของเราเมื่อออกจากปากของเราแล้ว
จะไม่หวนกลับมาหาเราเปล่าๆ
คำพูดของเราจะทำให้สิ่งต่างๆที่เราต้องการเกิดขึ้น
คำพูดของเราจะทำสิ่งที่เราส่งให้มันไปทำจนสำเร็จ”
12 พวกเจ้าจะออกไปด้วยความยินดี จะถูกนำกลับไปบ้านด้วยสันติสุข
พวกภูเขาและเนินเขาจะระเบิดเสียงเพลงออกมาต่อหน้าเจ้า
และต้นไม้ทั้งหมดในท้องทุ่งก็จะปรบมือของพวกมัน
13 ต้นสนต่างๆจะงอกขึ้นมาแทนที่พงหนาม
ไม้พุ่มหอมจะงอกขึ้นมาแทนที่พวกหญ้าคา
และทั้งหมดนี้ก็จะเป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงพระยาห์เวห์[f]
เป็นเครื่องพิสูจน์ที่จะไม่มีวันถูกทำลายถึงอำนาจของพระองค์
ทุกๆชนชาติจะติดตามพระยาห์เวห์
56 พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้
“รักษาความยุติธรรมไว้ ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
เพราะการช่วยกู้ของเราจะมาถึงเจ้าในเร็วๆนี้
และความยุติธรรมของเราที่ให้เจ้ารอดพ้น จะถูกเปิดเผยในไม่ช้านี้
2 คนที่ทำอย่างนั้น คนที่รักษามันไว้มีเกียรติจริงๆ
เขารักษากฎวันหยุดทางศาสนาและไม่ได้ละเมิดมัน
เขายั้งมือไว้จากการทำชั่วทุกชนิด”
3 คนต่างชาติที่มาติดตามพระยาห์เวห์ไม่ควรจะพูดว่า
“พระยาห์เวห์จะต้องแยกผมออกจากคนของพระองค์แน่ๆ”
และขันทีก็ไม่ควรจะพูดว่า “ดูสิ ผมเป็นเหมือนกับต้นไม้ที่เหี่ยวแห้งเพราะผมไม่สามารถมีลูกได้
พระยาห์เวห์คงไม่รับผมแน่ๆ”
4-5 เราจะตั้งอนุสาวรีย์ให้กับพวกขันทีภายในกำแพงวิหารของเรา
เป็นอนุสาวรีย์ที่ดีกว่าลูกชายและลูกสาว
เป็นอนุสาวรีย์ที่อยู่ถาวร ที่จะไม่มีวันถูกรื้อออกไป
เราจะทำสิ่งนี้ให้กับพวกขันทีที่รักษากฎเกี่ยวกับวันหยุดทางศาสนาของเรา และเลือกทำสิ่งทั้งหลายที่เราชอบใจและยึดมั่นในคำสัญญาของเรา
6-7 “เราจะนำพวกคนต่างชาติไปยังภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา คือคนต่างชาติเหล่านั้นที่ติดตามเรายาห์เวห์ เพื่อรับใช้เรา รักเรา และเป็นผู้รับใช้ของเรา คือทุกคนที่รักษาวันหยุดทางศาสนาของเราและไม่ได้ละเมิดมัน และยึดมั่นในคำสัญญาของเรา
เราจะให้พวกเขาชื่นชมยินดีในบ้านของเรา ซึ่งเป็นบ้านแห่งการอธิษฐาน แล้วเราจะยอมรับเครื่องเผาบูชาและเครื่องสัตวบูชาอื่นๆของพวกเขาบนแท่นบูชาของเรา เพราะคนจะเรียกบ้านของเราว่า บ้านแห่งการอธิษฐาน สำหรับคนทุกชนชาติ”
8 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ผู้ที่รวบรวมคนอิสราเอล ที่กระจัดกระจายไปนั้น พูดว่า “เราจะรวบรวมคนอื่นๆเข้ามาร่วมกับพวกเขา นอกเหนือจากที่ได้รวบรวมมาไว้แล้วนั้น”
ผู้นำอิสราเอลกินเก่ง
9 พวกเจ้า สัตว์ดุร้ายที่อยู่ในท้องทุ่ง
พวกเจ้าสัตว์ที่อยู่ในป่า เข้ามากัดกินได้เลย
10 พวกคนยามของอิสราเอลนั้นตาบอด
พวกเขาทั้งหมดไม่รู้เรื่องอะไรเลย
พวกเขาเป็นหมาเฝ้าบ้านที่เงียบ
พวกเขาเห่าไม่เป็น
เอาแต่นอน และเพ้อฝัน เอาแต่หลับ
11 หมาพวกนี้กินเก่งเหลือเกิน
กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ
พวกเขาเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ต่างคนต่างทำตามใจตัวเอง
ต่างคนต่างหาประโยชน์ใส่ตัวเหมือนกันหมดทุกคน
12 พวกเขาพูดว่า “มาสิ มาดื่มเหล้าองุ่นกัน
ให้เราดื่มเบียร์กันอย่างเต็มที่
พรุ่งนี้ก็จะสนุกเหมือนวันนี้หรืออาจจะสนุกกว่านี้อีก”
อิสราเอลไม่ได้ติดตามพระเจ้า
57 คนดีๆตาย แต่ก็ไม่มีใครสนใจ
คนที่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้าถูกเอาไป ก็ไม่มีใครเข้าใจ
สาเหตุที่คนที่ดีๆถูกรับเอาไป
เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องเจอกับเรื่องเดือดร้อนกว่านั้น
2 และพวกเขาก็จะเข้าไปสู่ความสงบสุข
คนที่ใช้ชีวิตอย่างเที่ยงตรงก็จะได้พักผ่อนเมื่อนอนตายบนเตียงของเขา
3 แต่ส่วนพวกเจ้า มานี่เลย
พวกเจ้าที่เป็นลูกๆของแม่มด
พวกเจ้าที่เป็นลูกๆของคนเล่นชู้และโสเภณี
4 พวกเจ้าหัวเราะเยาะใครหรือ
พวกเจ้าทำหน้าและแลบลิ้นใส่ใครหรือ
พวกเจ้าเป็นลูกที่ชอบกบฏ
เป็นลูกหลานที่ชอบหลอกลวง ไม่ใช่หรือ
5 พวกเจ้าเผาผลาญไปด้วยตัณหาราคะท่ามกลางพวกต้นโอ๊กอันศักดิ์สิทธิ์
และใต้ต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทุกต้น[g] เจ้าได้ฆ่าลูกๆเพื่อเซ่นไหว้ในหุบเขาต่างๆตามซอกผาต่างๆ
6 หินเกลี้ยงในธารน้ำแห้งนั้นเป็นพวกพระของเจ้า พวกหินเหล่านั้นก็เลยเป็นส่วนแบ่งของเจ้า
พวกมันเป็นมรดกของเจ้าไม่ใช่เรา
เจ้าได้เทเครื่องดื่มบูชาให้กับหินเหล่านั้น
และพวกเจ้าได้นำเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชมาถวายให้กับพวกมัน
เมื่อเห็นเรื่องต่างๆเหล่านี้ เจ้าคิดว่าเราจะพอใจและไม่ลงโทษเจ้าหรือ
7 เจ้าวางเตียงของเจ้าไว้บนภูเขาสูง
แล้วเจ้าก็ขึ้นไปที่นั่นเพื่อถวายเครื่องบูชา
8 เจ้าตั้งรูปเคารพของเจ้าไว้ด้านหลังประตูและเสาประตู
ใช่แล้ว เจ้าห่างไกลจากเรา
เจ้าทำตัวเปลือยเปล่าและปีนขึ้นไปบนเตียงของเจ้า
และเปิดเตียงให้กว้าง
เจ้าก็ได้เสนอค่าตัวกับพวกมัน
เจ้ารักเตียงของพวกมัน
เจ้าจ้องมองอวัยวะเพศของพวกมัน
9 เจ้าเอาน้ำมันมะกอกเดินทางไปหาพระโมเลค[h]
และเจ้าก็ใส่น้ำหอมของเจ้าซะมากมาย
เจ้าส่งพวกตัวแทนของเจ้าไปแดนไกล
เจ้าส่งพวกเขาไปไกลถึงแดนคนตาย
10 เจ้าเริ่มเหนื่อยล้าจากการเดินทางบ่อยๆ
แต่เจ้าไม่ยอมพูดว่า “แบบนี้คงจะไม่ได้อะไรแน่”
เจ้ามีกำลังขึ้นมาใหม่
เจ้าจึงไม่เป็นลมไป
11 ตอนนั้นเจ้ายำเกรงและหวาดกลัวใครกัน
เจ้าถึงได้โกหกและไม่ได้ระลึกถึงเราหรือคิดถึงเรา
เรายังเก็บตัวเงียบๆและซ่อนตัวอยู่
เจ้าถึงได้ไม่ยำเกรงเรา ใช่ไหม
12 เราจะพูดถึงความดีและการงานต่างๆของเจ้าก็ได้
แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้หรอก
13 เมื่อเจ้าร้องขอความช่วยเหลือ ก็ให้รูปปั้นที่เจ้าได้สะสมนั้นช่วยเจ้าก็แล้วกัน
ลมจะพัดพวกมันไปหมด
ลมจะเป่าพวกมันไปหมด
แต่คนที่ลี้ภัยในเราก็จะได้เป็นเจ้าของแผ่นดินนั้น และได้เป็นเจ้าของภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
พระยาห์เวห์จะช่วยคนของพระองค์
14 พระองค์จะพูดว่า “สร้างมันขึ้นมา สร้างมันขึ้นมา เตรียมทางไว้
กำจัดสิ่งกีดขวางต่างๆออกไปจากทางของคนของเรา”
15 พระเจ้า ผู้อยู่ในที่สูงและได้รับการยกย่อง
ผู้ที่อยู่ตลอดกาล
และผู้ที่มีชื่ออันศักดิ์สิทธิ์
พูดว่า “เราอาศัยอยู่ในที่สูงและศักดิ์สิทธิ์
แต่เราก็อยู่กับคนเหล่านั้นที่สำนึกผิดและถ่อมตัวลง
เราจะฟื้นฟูจิตใจของคนที่ถ่อมตัวลงและฟื้นฟูจิตใจของคนที่สำนึกผิด
16 เพราะเราจะไม่กล่าวหาตลอดเวลา
และเราก็จะไม่โกรธไปตลอดกาล
เพราะถ้าอย่างนั้นจิตวิญญาณของมนุษย์ที่เราสร้างขึ้นมา
ก็จะตายต่อหน้าเรา
17 เราโกรธในเรื่องความโลภอันชั่วร้ายของพวกเขา
เราจึงลงโทษพวกเขา
เราได้ซ่อนตัวเราเองและโกรธ
แต่พวกเขาก็ยังหันเหไปตามทางทั้งหลายของพวกเขา
18 เราได้เห็นทางของพวกเขาแล้ว แต่เราจะรักษาพวกเขาไว้
เราจะนำทางพวกเขาและปลอบโยนพวกเขาคือคนเหล่านั้นที่ไว้ทุกข์ และเราจะให้ปากพวกเขากลับพูดคำสรรเสริญแทน”
19 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะให้สันติสุข สันติสุขแท้จริงกับทุกคน ทั้งคนที่อยู่ใกล้และคนที่อยู่ไกล
แล้วเราจะรักษาพวกเขาไว้
20 แต่คนชั่วเป็นเหมือนทะเลที่ปั่นป่วนไม่สามารถสงบนิ่งได้
คลื่นของมันกวนทั้งโคลนและดินขึ้นมา
21 คนชั่วจะไม่มีสันติสุข”
พระเจ้าของผมพูดไว้ว่าอย่างนั้น
ศาสนกิจที่ถูกต้องและที่ผิด
58 พระยาห์เวห์พูดว่า ตะโกนออกมาดังๆเลย ไม่ต้องอั้นไว้ ยกเสียงขึ้นมาเหมือนกับเสียงแตร
ประกาศกับคนของเราถึงการกบฏของพวกเขา
ประกาศให้กับครอบครัวของยาโคบถึงความบาปของพวกเขา
2 พวกเขามาแสวงหาเราวันแล้ววันเล่า
อย่างกับว่าพวกเขาอยากจะรู้ทางต่างๆของเรา
อย่างกับว่าเป็นชนชาติที่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
อย่างกับว่าไม่ได้ทอดทิ้งกฎอันยุติธรรมของพระเจ้าของพวกเขา
พวกเขาขอการตัดสินที่ยุติธรรมจากเรา
พวกเขาแกล้งทำเป็นอยากเข้าใกล้พระเจ้า
3 และพวกเขาพูดว่า “ทำไมพระองค์ถึงไม่เห็นตอนที่พวกเราอดอาหารกัน
ทำไมพระองค์ถึงไม่สังเกตว่าพวกเราถ่อมตัวลง”
แต่เราตอบว่า “ดูเอาสิ ในวันที่เจ้าอดอาหารนั้น
เจ้าก็ยังมัวหาผลประโยชน์ของตนและเอาเปรียบคนงานทุกคนของเจ้า
4 ดูสิ พวกเจ้าถือศีลอดอาหารก็จริง แต่มีการถกเถียง ทะเลาะและชกต่อยกันแถมไปด้วย
การอดอาหารอย่างที่พวกเจ้าทำในวันนี้จะไม่ทำให้คำอธิษฐานของเจ้าขึ้นไปถึงเบื้องบน
5 นี่หรือการถือศีลอดอาหารที่เราอยากได้
เป็นวันที่แค่ถ่อมตัวลงพอเป็นพิธีอย่างนี้หรือ
เป็นแค่ก้มหัวลงเหมือนกับต้นอ้อลู่ลมหรือ
เป็นแค่นอนลงบนผ้ากระสอบและขี้เถ้าหรือ
พวกเจ้าจะเรียกแบบนี้ว่าเป็นการถือศีลอดอาหารหรือ
วันแบบนี้จะเป็นที่ยอมรับของพระยาห์เวห์จริงๆหรือ
6 การอดอาหารที่เราอยากได้เป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรือ
คือให้ปลดปล่อยโซ่ตรวนของความไม่ยุติธรรม
ให้แก้เชือกแอกของการกดขี่ข่มเหงออก
และปล่อยให้คนที่ถูกกดขี่ขมเหงเป็นอิสระ
ให้หักแอกทุกอัน
7 แล้วให้แบ่งปันอาหารของเจ้ากับคนที่หิวโหย ไม่ใช่หรือ
ให้เอาคนยากจนที่ไม่มีบ้านอยู่เข้ามาอยู่ในบ้านของเจ้า
เมื่อเจ้าเห็นคนที่เปลือยเปล่าก็ให้คลุมตัวพวกเขา
และไม่ซ่อนตัวจากญาติๆที่เดือดร้อนของเจ้า
8 ถ้าเจ้าทำอย่างนี้แสงของเจ้าก็จะส่องสว่างเหมือนรุ่งอรุณ
บาดแผลต่างๆของเจ้าจะหายอย่างรวดเร็ว
พระองค์ผู้ให้ชัยชนะกับพวกเจ้าจะนำหน้าพวกเจ้าไป
และสง่าราศีของพระยาห์เวห์ก็จะเป็นทหารเฝ้าระวังหลังให้กับเจ้า
9 แล้วเจ้าก็จะเรียกขอความช่วยเหลือและพระยาห์เวห์ก็จะตอบ
เจ้าจะร้องขอ และพระองค์จะพูดว่า ‘เราอยู่นี่’
ถ้าเจ้าขจัดแอกของการกดขี่ไปจากสังคมของเจ้า
หยุดชี้หน้ากัน และหยุดพูดใส่ร้ายป้ายสีกัน
10 ถ้าเจ้าให้อาหารของเจ้ากับคนหิวโหย และช่วยคนที่ถูกข่มเหงจนไม่ขาดอะไรเลย
เมื่อนั้นแสงสว่างของเจ้าก็จะส่องขึ้นมาในความมืด และความมืดสลัวของเจ้าก็จะกลายเป็นเที่ยงวัน
11 พระยาห์เวห์จะนำทางเจ้าอยู่เสมอ
และพระองค์จะดูแลความต้องการของเจ้าแม้ในแผ่นดินที่แห้งแล้ง
และพระองค์จะเสริมกำลังกระดูกของเจ้า
เจ้าก็จะเป็นเหมือนสวนที่ได้รับน้ำ
เหมือนกับตาน้ำที่น้ำไม่เคยแห้ง
12 เจ้าก็จะสร้างเมืองที่ถูกทำลายไปในสมัยโบราณขึ้นใหม่
เจ้าจะก่อเมืองขึ้นมาบนพวกรากฐานอันเก่าแก่ของคนรุ่นก่อนๆ
และจะมีคนเรียกเจ้าว่า ผู้ซ่อมช่องโหว่ของกำแพง
และผู้ซ่อมถนนให้คนได้มาอยู่อาศัยอีก
13 ถ้าเจ้าไม่เดินทางไกลในวันหยุดทางศาสนา
และไม่ทำงานในวันอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
และถ้าเจ้าเรียกวันหยุดของเราว่าเป็นวันอันชื่นบานและเรียกวันอันศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ว่าเป็นวันอันมีเกียรติ
และถ้าเจ้าให้เกียรติวันนั้น โดยไม่เดินทางไปทำการค้าขาย
โดยไม่วิ่งไล่ตามผลประโยชน์ของตนและโดยไม่เจรจาตกลงเรื่องธุรกิจกัน
14 เมื่อนั้นเจ้าจะชื่นชมยินดีในพระยาห์เวห์
และเราจะทำให้เจ้าขี่ข้ามภูเขาสูงทั้งปวงในโลกนี้
และเราจะเลี้ยงเจ้าจากแผ่นดินที่เราได้ยกให้กับยาโคบบรรพบุรุษของเจ้า”
ปากของพระยาห์เวห์ได้พูดว่าอย่างนั้น
คนของพระเจ้าต้องเปลี่ยนจากทางชั่วร้ายต่างๆ
59 อย่าคิดว่ามือของพระยาห์เวห์สั้นจนช่วยเจ้าไม่ได้
หรือหูของพระองค์ตึงจนไม่ได้ยินเสียงของเจ้า
2 แต่เป็นความผิดบาปทั้งหลายของพวกเจ้าต่างหากที่เป็นอุปสรรคระหว่างเจ้ากับพระเจ้าของเจ้า
เป็นพวกบาปของเจ้าที่ทำให้พระองค์ซ่อนหน้าไปจากเจ้า
พระองค์จึงไม่ได้ยินเสียงของเจ้า
3 เพราะมือของเจ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
และนิ้วของเจ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยความผิด
ริมฝีปากของเจ้าพูดโกหก
ลิ้นของเจ้ากระซิบวางแผนทำชั่ว
4 ไม่มีใครเอาเรื่องจริงมาขึ้นศาล
และไม่มีใครเลยพูดความจริงในศาล
ทุกคนพึ่งคำพูดที่ไม่มีหลักฐานและพูดโกหก
พวกเขาตั้งท้องความชั่วร้ายและคลอดความผิดบาปออกมา
5 พวกเขาฟักแผนร้ายเหมือนฟักไข่งู
และทอแผนชั่วอย่างทอใยแมงมุม
ใครที่กินไข่เหล่านั้นของมันก็จะตาย
แล้วถ้าไข่แตกก็จะมีงูพิษออกมา
6 ใยแมงมุมของพวกเขาจะเอามาใช้เป็นเสื้อผ้าก็ไม่ได้
พวกเขาไม่สามารถเอาสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาคลุมตัวได้
งานต่างๆของพวกเขาเป็นงานชั่ว
มือของพวกเขาเต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ
7 เท้าของพวกเขาวิ่งไปทำชั่ว
พวกเขารีบไปทำให้เลือดของคนบริสุทธิ์หลั่งไหล
ความคิดต่างๆของพวกเขาเป็นความคิดชั่วร้าย
พวกเขาไปถึงที่ไหน ความพินาศและการทำลายก็เกิดขึ้นที่นั่น
8 พวกเขาไม่รู้จักทางที่นำไปสู่สันติสุข
ไม่มีความยุติธรรมในทางของพวกเขา
พวกเขาได้ทำทางของพวกเขาให้คดเคี้ยวไป
ทุกคนที่เดินบนเส้นทางนั้นจะไม่ได้เจอกับสันติสุข
9 อย่างนี้ การตัดสินอย่างยุติธรรมของพระเจ้าจึงอยู่ห่างไกลจากพวกเรา
ความรอดของพระองค์มาไม่ถึงพวกเรา
พวกเรารอคอยแสงสว่าง แต่มีแต่ความมืด
พวกเรารอคอยแสงสว่างจ้า แต่พวกเราต้องเดินอยู่ในความมืดครึ้ม
10 พวกเราเดินคลำไปตามกำแพงเหมือนคนตาบอด
เราคลำหาเหมือนคนไม่มีลูกตา
เราสะดุดล้มในตอนเที่ยงอย่างกับเป็นตอนกลางคืน
ถึงคนอื่นแข็งแรง แต่พวกเราเป็นเหมือนศพ
11 เราทุกคนบ่นเหมือนหมีร้องคราง
และร้องคร่ำครวญเหมือนนกเขาร้อง
พวกเรารอคอยการตัดสินอันยุติธรรมของพระองค์ แต่มันไม่มาสักที
พวกเรารอคอยความรอด แต่มันห่างไกลจากพวกเรา
12 เพราะการกบฏต่างๆที่เราทำต่อพระองค์นั้นมีมากมาย
และความบาปต่างๆของพวกเราเป็นพยานฟ้องพวกเราเอง
เพราะพวกเรารู้อยู่แก่ใจถึงการกบฏต่างๆของพวกเรา
พวกเรารู้จักความผิดบาปของพวกเราเอง
13 พวกเราได้กบฏต่อพระยาห์เวห์และไม่สัตย์ซื่อต่อพระองค์
พวกเราได้หันเหไปจากพระเจ้าของพวกเรา
พวกเราได้พูดถึงการกดขี่และการกบฏ
ได้วางแผนด้วยคำพูดหลอกลวงและพูดสิ่งเหล่านั้นออกมาจากใจ
14 ความยุติธรรมก็เลยถูกไล่กลับไป
ความถูกต้องก็อยู่ห่างไกล
ความจริงสะดุดล้มในลานเมือง
ความสัตย์ซื่อเข้ามาในเมืองไม่ได้
15 ความจริงไม่อยู่แล้ว
แล้วถ้าใครไม่ยอมทำชั่วก็จะถูกโจมตี
พระยาห์เวห์เห็นสิ่งเหล่านี้แล้วไม่พอใจมาก
เพราะความยุติธรรมไม่มีเลย
16 พระองค์โกรธแค้นที่เห็นว่าไม่มีใครเลย
ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือคนที่ถูกกดขี่ข่มเหง
แล้วพระองค์จึงใช้แขนอันทรงพลังของพระองค์เพื่อมาช่วยกู้
และความยุติธรรมของพระองค์ทำให้พระองค์ประสบผลสำเร็จ
17 พระองค์สวมความยุติธรรมไว้เป็นเหล็กป้องกันอก
และใส่ฤทธิ์ที่จะช่วยให้รอดเป็นหมวกเหล็ก
พระองค์สวมการแก้แค้นเป็นเสื้อผ้า
ใส่ความเดือดดาลเป็นเสื้อคลุม
18 พระองค์จะตอบแทนศัตรูของพระองค์ตามที่เขาสมควรจะได้รับ
คือผู้ที่ต่อสู้กับพระองค์จะได้รับความโกรธแค้น
พวกศัตรูของพระองค์จะได้รับการลงโทษ
พระองค์จะตอบแทนแผ่นดินตามแถบชายฝั่งทะเลและพวกเกาะตามที่พวกเขาสมควรจะได้รับ
19 คนพวกนั้นที่อยู่ทางตะวันตกจึงจะยำเกรงชื่อของพระยาห์เวห์
และพวกที่อยู่ทางตะวันออกจะยำเกรงศักดิ์ศรีของพระองค์
พระองค์จะซัดมาเหมือนแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวผ่านช่องแคบและโดนลมของพระยาห์เวห์พัดส่ง
20 พระยาห์เวห์บอกว่าพระองค์จะมาปลดปล่อยศิโยนให้เป็นอิสระ
พระองค์จะมาช่วยกู้คนเหล่านั้นในครอบครัวของยาโคบที่กลับใจจากการกบฏ
21 พระยาห์เวห์พูดว่า “ตัวเราเองจะให้คำมั่นสัญญากับพวกเขาว่าอย่างนี้ ‘พระวิญญาณของเราที่อยู่ในเจ้า และคำพูดที่เราได้ใส่ไว้ในปากของเจ้า จะไม่พรากไปจากเจ้าหรือลูกๆของเจ้าหรือหลานๆของเจ้า ตั้งแต่นี้ไปจนตลอดกาล’” พระยาห์เวห์สัญญาว่าอย่างนั้น
เพลงเรื่องสง่าราศีที่เมืองเยรูซาเล็มกำลังจะได้รับ
60 ลุกขึ้น ส่องสว่างซะ เพราะแสงสว่างของเจ้ามาถึงแล้ว
รัศมีของพระยาห์เวห์ขึ้นมาส่องลงบนเจ้า
2 ความมืดปกคลุมแผ่นดิน
ความมืดมิดปกคลุมชนชาติต่างๆอยู่
แต่พระยาห์เวห์ได้ส่องสว่างอยู่บนเจ้า
และรัศมีของพระองค์จะปรากฏอยู่เหนือเจ้า
3 ชนชาติต่างๆจะมาหาแสงสว่างของเจ้า
และกษัตริย์ต่างๆจะมาถึงแสงรุ่งอรุณอันเจิดจ้าของเจ้า
4 เงยหน้าเงยตาขึ้น มองไปรอบๆ
พวกเขาทุกคนกำลังรวบรวมกันเข้ามาหาเจ้า
พวกลูกชายของเจ้ากำลังมาจากแดนไกล
พวกพี่เลี้ยงกำลังหนีบพวกลูกสาวของเจ้ามาบนเอว
5 เจ้าจะเห็นสิ่งเหล่านี้และเจ้าจะส่องประกายแห่งความสุขออกมา
ใจของเจ้าจะตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความสุข
เพราะความร่ำรวยของชนชาติต่างๆที่อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลจะมาถึงเจ้า
ใช่แล้ว ทรัพย์สมบัติของชนชาติต่างๆจะถูกยกให้กับเจ้า
6 พวกฝูงอูฐทั้งหลายจะปกคลุมแผ่นดินของเจ้า
คืออูฐหนุ่มสาวจากมีเดียนและเอฟาห์
ทุกคนจากเชบาจะมาหาเจ้า
พวกเขาจะนำทองและกำยานมาให้
แล้วเล่าเรื่องการกระทำอันน่าสรรเสริญของพระยาห์เวห์
7 ฝูงแพะแกะทั้งหมดจากเคดาร์จะถูกรวบรวมมาหาเจ้า
รวมทั้งพวกแกะตัวผู้จากเนบาโยธด้วย
พวกมันจะเป็นเครื่องสัตวบูชาที่เราจะยอมรับบนแท่นของเจ้า
และเราจะทำให้พระวิหารของเราสง่างามยิ่งขึ้นไปอีก
8 พวกนี้เป็นใครกันนะ ที่บินมาหาเจ้าอย่างกับเมฆ
บินมาเหมือนฝูงนกเขา ที่กำลังบินกลับรังของมัน
9 เรือทั้งหลายจากชายฝั่งทะเลอันไกลโพ้นกำลังรวบรวมกัน
พวกเรือจากทารชิช จะมาเป็นกลุ่มแรก
เพื่อนำพวกลูกๆของพวกเจ้าจากแดนไกล
พร้อมกับเงินทองของพวกเขาด้วย
เพื่อเป็นเกียรติให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
เพื่อให้กับองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
เพราะพระองค์ได้ให้เกียรติกับพวกเจ้า
10 พวกคนต่างชาติจะมาสร้างกำแพงต่างๆของเจ้าขึ้นมา
และพวกกษัตริย์ของพวกเขาจะมาเป็นทาสเจ้า
ตอนที่เราโกรธเจ้านั้น เราได้ลงโทษเจ้า
แต่ตอนนี้เราจะมีน้ำใจต่อเจ้าและเมตตาต่อเจ้า
11 พวกประตูเมืองของเจ้า จะเปิดต้อนรับเสมอ จะไม่ปิดทั้งวันทั้งคืน
เพื่อความร่ำรวยของชนชาติทั้งหลายจะถูกนำมามอบให้กับเจ้า
และพวกกษัตริย์ของพวกเขาจะถูกนำเข้าไปด้วย
12 ถ้าชนชาติไหนหรืออาณาจักรไหนไม่ยอมรับใช้เจ้า มันจะพินาศไป
ชนชาติเหล่านั้นจะถูกทำลายอย่างสิ้นซาก
13 ความร่ำรวยของเลบานอนจะมาถึงเจ้า
ทั้งไม้สน ไม้เฟอร์ และไม้ไซปรัสของมัน
เพื่อจะใช้ตกแต่งที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา
เราจะทำให้ที่วางเท้าของเราดูสง่างาม
14 ลูกหลานของพวกที่เคยกดขี่ข่มเหงเจ้าจะก้มลงเข้ามาหาเจ้า
ทุกคนที่เคยดูหมิ่นเจ้าจะกราบอยู่แทบเท้าเจ้า
เขาจะเรียกเจ้าว่า “เมืองของพระยาห์เวห์
เมืองศิโยน ขององค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล”
15 แต่ก่อนเจ้าถูกทอดทิ้ง คนเกลียดชัง
และไม่มีใครเดินผ่านแผ่นดินเจ้า
แต่ตอนนี้เราจะทำให้เจ้ามีศักดิ์ศรีตลอดไป
และคนจะชื่นชมในตัวเจ้าตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
16 ชนชาติทั้งหลายจะให้สิ่งที่เจ้าต้องการเหมือนแม่ให้นมลูก
พวกเจ้าจะดื่มความร่ำรวยจากบรรดากษัตริย์
แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเรา ยาห์เวห์ เป็นผู้ช่วยให้รอดของเจ้า เป็นผู้ไถ่เจ้าให้เป็นอิสระ เป็นองค์ผู้ทรงฤทธิ์ของยาโคบ
17 เราจะให้เจ้ามีทองคำแทนทองสัมฤทธิ์
มีเงินแทนเหล็ก
มีทองสัมฤทธิ์แทนไม้
และมีเหล็กแทนหิน
เราจะตั้งสันติสุขเป็นเจ้านายเหนือเจ้า
และความยุติธรรมจะเป็นนายของพวกเจ้า
18 จะไม่มีความโหดร้ายทารุณในแผ่นดินของเจ้า
จะไม่มีซากปรักหักพังหรือการทำลายภายในเขตแดนของเจ้า
เจ้าจะตั้งชื่อพวกกำแพงของเจ้าว่า “ความรอด”
จะตั้งชื่อพวกประตูเมืองว่า “คำสรรเสริญ”
19 เจ้าจะไม่ต้องพึ่งแสงแดดในตอนกลางวันอีกแล้ว
หรือแสงจันทร์ในตอนกลางคืน
เพราะพระยาห์เวห์จะเป็นแสงสว่างให้กับเจ้าตลอดไป
พระเจ้าของเจ้าจะเป็นรัศมีของพวกเจ้า
20 ดวงอาทิตย์ของเจ้าจะไม่ตกอีกแล้ว
หรือดวงจันทร์ของเจ้าจะไม่หายไป
เพราะพระยาห์เวห์จะเป็นแสงสว่างให้กับเจ้าตลอดไป
วันเวลาแห่งความโศกเศร้าของเจ้านั้นจะจบสิ้นไป
21 คนของเจ้า หมดทุกคนจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง
แล้วพวกเขาจะได้แผ่นดินเป็นกรรมสิทธิ์ตลอดไป
พวกเขาเป็นต้นไม้ที่เราปลูกไว้
เป็นฝีมือของเราที่แสดงว่าเรายิ่งใหญ่
22 ครอบครัวที่เล็กที่สุดจะกลายเป็นตระกูลที่มีพันคน
ตระกูลที่เล็กที่สุดจะกลายเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่
เราคือยาห์เวห์
พอถึงเวลา เราจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้
ข่าวดีสำหรับคนที่ถูกข่มเหง
61 พระวิญญาณของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต อยู่กับผม
เพราะพระยาห์เวห์ได้เลือก[i] ผม
พระองค์ได้ส่งผมไปประกาศข่าวดีให้กับคนยากจน
ไปรักษาจิตใจที่แตกสลาย
ไปประกาศเสรีภาพให้กับเชลย
และประกาศการปลดปล่อยให้กับพวกนักโทษ
2 พระองค์ส่งผมให้ไปประกาศปีแห่งความเมตตาของพระยาห์เวห์
และวันเวลาที่พระเจ้าของเราจะแก้แค้น ไปปลอบโยนทุกคนที่เศร้าโศกเสียใจ
3 พระองค์ส่งผมให้เอามาลัยไปให้กับคนที่โศกเศร้าในศิโยน
เพื่อใส่แทนขี้เถ้า[j] บนหัว
ใส่น้ำมันแห่งความชื่นชมยินดีแทนชุดไว้ทุกข์
และให้ชุดงานเลี้ยงแทนจิตใจที่ท้อแท้
พวกเขาจะได้ชื่อว่า ต้นโอ๊กแห่งความรอด
ต้นไม้ของพระยาห์เวห์ที่แสดงว่าพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
4 พวกเขาจะสร้างเมืองต่างๆที่พังทลายไปในสมัยโบราณขึ้นมาใหม่
และฟื้นสถานที่ต่างๆที่ถูกทำลายไปนานแล้วขึ้นมาใหม่
พวกเขาจะก่อเมืองที่เป็นซากปรักหักพังที่ถูกทำลายมาหลายชั่วคนแล้วขึ้นมาใหม่
5 คนต่างชาติก็จะยืนเฝ้าเลี้ยงดูฝูงแพะแกะของเจ้า
และคนต่างชาติพวกนี้ก็จะทำงานในทุ่งนาและในสวนองุ่นของเจ้า
6 จะมีคนเรียกพวกเจ้าว่า พวกนักบวชของพระยาห์เวห์
พวกเจ้าจะได้ชื่อว่า พวกผู้รับใช้ของพระเจ้าของเรา
พวกเจ้าจะได้ประโยชน์จากทรัพย์สมบัติของชนชาติต่างๆ
และพวกเจ้าก็จะได้โอ้อวดในความร่ำรวยที่ได้มาจากพวกเขา
7 พวกเจ้าจะได้ส่วนแบ่งเป็นสองเท่าแทนที่จะต้องอับอาย
พวกเจ้าจะชื่นชมยินดีกับส่วนแบ่งของพวกเจ้าแทนที่จะต้องขายหน้า
ใช่แล้ว พวกเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งเป็นสองเท่าในแผ่นดินของพวกเจ้า
และความยินดีของพวกเจ้าจะอยู่ตลอดไป
8 พระยาห์เวห์พูดว่า “เรายาห์เวห์รักความยุติธรรม เราเกลียดการปล้นและการทำผิดทั้งหลาย
เราจะให้ค่าตอบแทนกับคนของเราตามที่เขาสมควรจะได้รับ
และเราจะทำสัญญากับพวกเขาที่จะคงอยู่ตลอดไป
9 ลูกหลานของพวกเขาจะเป็นที่รู้จักท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
เชื้อสายของเขา ก็จะเป็นที่รู้จักท่ามกลางเชื้อชาติต่างๆ
ทุกคนที่เห็นพวกเขาต่างก็จะยอมรับว่าพวกเขาเป็นชนชาติที่พระยาห์เวห์ได้อวยพร”
10 พระยาห์เวห์ทำให้ผมชื่นชมยินดีมาก
จิตใจของผมมีความสุขเพราะพระเจ้าของผม
เพราะพระองค์ได้เอาชุดแห่งความรอดมาสวมผมไว้
พระองค์ได้คลุมผมด้วยเสื้อคลุมแห่งการช่วยกู้
เป็นเหมือนกับเจ้าบ่าวที่ประดับหัวด้วยพวงมาลัย
เป็นเหมือนกับเจ้าสาวที่ประดับตัวด้วยเพชรพลอยของนาง
11 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจะทำให้ความรอดอันยุติธรรมของพระองค์และคำสรรเสริญจากมนุษย์งอกขึ้นมาต่อหน้าชนชาติทั้งหลาย
เหมือนกับพืชที่งอกขึ้นมาจากดิน เหมือนกับเมล็ดที่โผล่ขึ้นมาในสวน
ชัยชนะของเมืองเยรูซาเล็ม
62 เพื่อจะช่วยศิโยน ผมจะไม่ยอมเก็บตัวเงียบ
เพื่อจะช่วยเยรูซาเล็ม ผมจะไม่ยอมอยู่เฉย
จนกว่าชัยชนะของนางจะส่องสว่างออกมาเหมือนกับแสงรุ่งอรุณ
และความรอดของนางส่องสว่างเหมือนกับคบเพลิง
2 แล้วชนชาติต่างๆจะได้เห็นชัยชนะของเจ้า
กษัตริย์ทั้งหลายจะได้เห็นสง่าราศีของเจ้า
เจ้าจะมีชื่อใหม่ที่พระยาห์เวห์เองจะเป็นผู้ตั้งให้
3 เจ้าจะเป็นมงกุฎที่สวยงามในมือของพระยาห์เวห์
เป็นมงกุฎของกษัตริย์ในมือของพระเจ้าของเจ้า
4 คนจะไม่เรียกเจ้าว่า ผู้ถูกผัวทิ้ง
และแผ่นดินของเจ้าก็จะไม่ถูกเรียกว่าร้างเปล่าอีกต่อไป
เพราะคนจะเรียกเจ้าว่า คนที่พระเจ้ารัก
และคนจะเรียกแผ่นดินของเจ้าว่า
เจ้าสาวของพระเจ้า
เพราะพระยาห์เวห์รักเจ้า
และแผ่นดินของเจ้าจะแต่งงานกับพระยาห์เวห์
5 ผู้ที่จะสร้างเจ้าขึ้นมาใหม่ก็จะแต่งงานกับเจ้า
เหมือนกับที่ชายหนุ่มแต่งงานกับหญิงสาว
พระเจ้าของเจ้าจะชื่นชมในตัวเจ้า
เหมือนกับเจ้าบ่าวชื่นชมในตัวเจ้าสาว
6 เยรูซาเล็มเอ๋ย เราได้ตั้งพวกยามไว้บนกำแพงทั้งหลายของเจ้า
เขาจะร้องอธิษฐานตลอดวันตลอดคืนไม่นิ่งเงียบ
พวกเจ้าที่ร้องขอให้พระยาห์เวห์ช่วยเหลือ อย่ายอมหยุดพักเลย
7 และอย่าให้พระองค์หยุดพักด้วย
จนกว่าพระองค์จะตั้งเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่
จนกว่าพระองค์จะทำให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองที่คนทั่วโลกยกย่อง
8 พระยาห์เวห์ได้สาบานด้วยการยกมือขวาและแขนอันทรงพลังของพระองค์ว่า
“เราจะไม่ให้เมล็ดข้าวของเจ้าตกไปเป็นอาหารของพวกศัตรูของเจ้าอีกต่อไป
เราจะไม่ให้พวกคนต่างชาติได้ดื่มเหล้าองุ่นใหม่ของเจ้า ที่เจ้าได้มาจากการทำงานอย่างหนัก
9 แต่พวกที่เก็บเกี่ยวเมล็ดข้าวก็จะได้กินมัน และพวกเขาจะสรรเสริญพระยาห์เวห์
และคนพวกนั้นที่เก็บผลองุ่นจะได้ดื่มเหล้าองุ่นในลานวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา”
10 ออกไป ออกไปทางประตูเมือง
ไปเตรียมถนนให้กับประชาชน
สร้างมันขึ้นมา สร้างทางหลวงขึ้นมา
เก็บหินทิ้งข้างทางให้หมด
ยกธงขึ้นเป็นสัญญาณให้ชนชาติทั้งหลายเห็น
11 ดูสิ พระยาห์เวห์ได้ประกาศไปถึงสุดปลายโลกว่า “ให้บอกนางสาวศิโยนว่า
‘ดูสิ ความรอดของเธอกำลังมา
พระองค์เอารางวัลมาให้
พระองค์จะจ่ายค่าตอบแทนให้’
12 คนจะเรียกพวกเขาว่าคนของพระเจ้าโดยเฉพาะ
พวกที่พระยาห์เวห์ได้ปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
และศิโยน เจ้าจะได้ชื่อว่าผู้ที่พระเจ้าอยากได้
เมืองที่พระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้ง”
พระยาห์เวห์ลงโทษชนชาติต่างๆ
63 คนยามร้องตะโกนว่า ใครกันนั่นที่กำลังมาจากเอโดม
ใครกันนั่นที่มาจากเมืองโบสราห์ เสื้อผ้าของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยสีแดง
ใครกันนั่น แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าอย่างดี
มุ่งหน้ามาด้วยพลังอันแข็งแกร่ง
พระยาห์เวห์พูดว่า “เป็นเราเอง เราชนะแล้ว เรามีพลังอันเกรียงไกรที่จะช่วยให้เจ้ารอดได้”
2 ทำไมเสื้อผ้าของท่านถึงเปื้อนสีแดง
ทำไมเสื้อผ้าของท่านถึงเหมือนกับคนเหล่านั้นที่เดินย่ำอยู่ในบ่อองุ่น
3 พระองค์ตอบว่า “เราเหยียบย่ำองุ่นอยู่ในบ่อเพียงคนเดียว
ไม่มีชนชาติไหนช่วยเราเลย
เราเหยียบย่ำพวกชนชาติเหล่านั้นด้วยความโกรธ เราได้บดขยี้พวกมันด้วยความโกรธแค้น
เลือดของพวกมันกระเด็นใส่เสื้อผ้าเรา
เราได้ทำให้เสื้อผ้าของเราเปรอะเปื้อนไปหมด
4 ตอนนั้น เราได้กำหนดวันลงโทษชนชาติต่างๆ
ตอนนั้น ปีที่จะปลดปล่อยคนของเราให้เป็นอิสระได้มาถึงแล้ว
5 เรามองไป แต่ไม่มีใครมาช่วย
เราแปลกใจมากที่ไม่มีใครสนับสนุนเรา
เราก็เลยชนะด้วยแขนอันทรงพลังของเราเอง
ความโกรธของเราเองสนับสนุนเรา
6 เราได้เหยียบย่ำชนชาติต่างๆด้วยความโกรธ
เราได้บดขยี้พวกมัน[k] ด้วยความโกรธแค้น
เราได้เทเลือดของพวกมันลงบนพื้น”
พระยาห์เวห์แสดงความเมตตาต่อคนของพระองค์
7 ผมจะเล่าถึงเรื่องต่างๆที่พระยาห์เวห์ได้แสดงความเมตตากับเรา
เป็นเรื่องที่น่ายกย่องสรรเสริญ
เราควรจะสรรเสริญพระองค์สำหรับเรื่องทุกอย่างที่พระองค์ทำเพื่อพวกเรา
สำหรับความดีงามที่ยิ่งใหญ่ที่พระองค์มีต่อครอบครัวของอิสราเอล
พระองค์ได้แสดงความเมตตาปรานีต่อพวกเรา
พระองค์ได้ช่วยพวกเราด้วยความรักมั่นคงครั้งแล้วครั้งเล่า
8 พระองค์พูดว่า “ใช่แล้ว พวกนี้เป็นคนของเราแน่ เป็นลูกๆที่จะไม่มีวันทรยศเรา”
พระองค์ถึงได้มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขา
9 ไม่ใช่ผู้ส่งข่าว ไม่ใช่ทูตสวรรค์
แต่เป็นพระองค์เองที่ช่วยพวกเขาจากความทุกข์ร้อนทั้งหมดของพวกเขา
พระองค์ได้ไถ่พวกเขาไว้เพราะพระองค์รักและสงสารพวกเขา
ในอดีตนั้นพระองค์ยกพวกเขาขึ้นมาอุ้มอยู่เสมอ
10 แต่พวกเขากลับกบฏและทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์เสียใจ
พระองค์จึงกลายเป็นศัตรูของพวกเขา
แล้วพระองค์เองได้ต่อสู้กับพวกเขา
11 ต่อมาพวกเขาก็ได้คิดถึงวันเก่าก่อน
คนของพระองค์ได้คิดถึงโมเสส
พวกเขาคิดในใจว่า พระผู้นั้นที่นำฝูงแกะของพระองค์พร้อมพวกผู้เลี้ยงผ่านทะเลขึ้นมา ไปอยู่ไหนแล้ว
พระผู้นั้นที่ใส่พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ไว้ในตัวโมเสส
12 และจูงท่านไปด้วยมือที่เต็มไปด้วยพลังและสง่าราศีของพระองค์ หายไปไหนแล้ว
พระผู้นั้นที่แหวกน้ำต่อหน้าพวกเขาเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์เองตลอดไป หายไปไหนแล้ว
13 ผู้ที่นำพวกเขาเดินผ่านน้ำลึกไป หายไปไหนแล้ว
พวกเขาไม่ได้สะดุดล้ม พวกเขาเป็นเหมือนม้าที่เดินอยู่ในที่ราบเรียบ
14 พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ให้พวกเขาพักผ่อน
เหมือนกับฝูงวัวที่ลงไปอยู่ในหุบเขาเขียวชอุ่ม
อย่างนี้พระองค์ได้นำคนของพระองค์
เพื่อพระองค์จะได้สร้างชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ให้กับพระองค์เอง
อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ให้ช่วยคนของพระองค์
15 ตอนนี้ขอโปรดมองลงมาจากฟ้าสวรรค์และสังเกตพวกเราสิ
มองลงมาจากบ้านอันศักดิ์สิทธิ์และสง่างามของพระองค์เถิด
ความรักอันร้อนแรงของพระองค์และฤทธิ์อำนาจของพระองค์หายไปไหนหมดแล้ว
ความรักใคร่และความเมตตาปรานีของพระองค์หายไปไหนหมดแล้ว
ทั้งหมดนั้นถูกยั้งไว้จากพวกเรา
16 พระองค์คือพ่อของพวกเรา
ถึงอับราฮัมจะจำพวกเราไม่ได้และอิสราเอลจะบอกว่าไม่รู้จักเรา
แต่พระองค์ พระยาห์เวห์ก็ยังจะเป็นพ่อของพวกเราอยู่ดี
ชื่อของพระองค์ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้วคือ “ผู้ปกป้องเรา”
17 พระยาห์เวห์เจ้าข้า ทำไมพระองค์ถึงปล่อยให้เราหลงไปจากทางทั้งหลายของพระองค์
และปล่อยให้จิตใจของเราแข็งกระด้างจนไม่ยำเกรงพระองค์
กลับมาเถิด เพื่อช่วยพวกผู้รับใช้ของพระองค์
เพื่อช่วยเผ่าต่างๆซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของพระองค์เอง
18 ชนชาติศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้เป็นเจ้าของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์แค่ช่วงสั้นๆ
แต่ตอนนี้ศัตรูของพวกเราได้เหยียบย่ำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์แล้ว
19 นานมาแล้วที่พวกเราเป็นเหมือนคนพวกนั้นที่พระองค์ไม่ได้ครอบครอง
เหมือนคนเหล่านั้นที่ไม่ได้เป็นคนของพระองค์
64 อยากให้พระองค์แหวกสวรรค์ลงมาเหลือเกิน
พวกภูเขาต่างๆจะได้สั่นไหว[l] ต่อหน้าพระองค์
2 ขอลงมาทำให้ศัตรูของพระองค์ได้เจอกับตัวจริงของพระองค์
ชนชาติทั้งหลายจะได้กลัวจนตัวสั่นต่อหน้าพระองค์
เหมือนกับกิ่งไม้เจอไฟ
หรือหม้อน้ำตั้งบนไฟ
3 พระองค์ได้ทำสิ่งอัศจรรย์ต่างๆที่เราคิดไม่ถึง
คือพระองค์ได้ลงมาและภูเขาทั้งหลายต่างสั่นไหวต่อหน้าพระองค์
4 ตั้งแต่เก่าก่อน ไม่มีใครเคยได้ฟัง
ไม่มีหูไหนเคยได้ยิน
ไม่มีลูกตาไหนเคยเห็นเทพเจ้าองค์ไหนที่ช่วยคนเหล่านั้นที่หวังพึ่งมัน
นอกจากพระองค์
5 พระองค์มาช่วยคนเหล่านั้นที่มีความสุขในการทำสิ่งที่ถูกต้อง
ที่ยอมรับพระองค์ด้วยการใช้ชีวิตในแนวทางทั้งหลายของพระองค์
เมื่อก่อนตอนที่พระองค์โกรธ พวกเราก็ทำบาปมากยิ่งขึ้นต่อพระองค์
แล้วพวกเราก็ยังทำบาปเหล่านั้นมาเรื่อยๆ แล้วตอนนี้เราจะรอดได้ยังไง
6 พวกเราทุกคนได้กลายเป็นเหมือนของแปดเปื้อนไปแล้ว
การทำดีทั้งหลายของเราเป็นเหมือนผ้าอนามัยใช้แล้ว
พวกเราทุกคนก็เหี่ยวแห้งไปเหมือนใบไม้
แล้วความบาปทั้งหลายของเราก็เป็นเหมือนลมที่เป่าเราให้ปลิวไป
7 ไม่มีใครร้องเรียกชื่อของพระองค์
หรือพยายามคว้าพระองค์ไว้
เพราะพระองค์ได้หันหน้าไปจากพวกเราแล้ว
และพระองค์ได้ใช้ความบาปของพวกเราหลอมละลายพวกเราไป
8 แต่พระยาห์เวห์เจ้าข้า พระองค์ยังเป็นพ่อของพวกเราอยู่นะ เราเป็นดินเหนียว และพระองค์เป็นช่างปั้นเรา
เราทุกคนเป็นฝีมือของพระองค์
9 พระยาห์เวห์เจ้าข้า อย่าได้โกรธมากเกินไปเลย
อย่าได้จดจำความผิดบาปของพวกเราตลอดไป
โปรดมองพวกเราหน่อย เราทุกคนเป็นชนชาติของพระองค์
10 เมืองศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของพระองค์ได้กลายเป็นทะเลทรายไปแล้ว
ศิโยนได้กลายเป็นทะเลทราย
เยรูซาเล็ม ได้กลายเป็นที่รกร้างไปแล้ว
11 วิหารอันศักดิ์สิทธิ์และสวยงามของพวกเรา
ซึ่งเป็นที่ที่บรรพบุรุษของพวกเราใช้สรรเสริญพระองค์นั้นถูกไฟเผาไปแล้ว
และของที่มีค่าทั้งหมดของพวกเราก็ถูกทำลายไปจนหมดสิ้น
12 พระยาห์เวห์เจ้าข้า ขนาดเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้ว พระองค์ยังจะรั้งมือไม่ช่วยพวกเราอีกหรือ
พระองค์ยังจะเงียบๆอยู่หรือ และลงโทษพวกเรามากเกินไปหรือ
การตัดสินอันยุติธรรมของพระยาห์เวห์ต่ออิสราเอล
65 พระยาห์เวห์ตอบว่า “ตอนนั้น เราพร้อมที่จะให้คนพวกนั้นที่ไม่ได้เรียกหาเรา ได้เข้ามาใกล้เรา
ตอนนั้นเราพร้อมที่จะให้คนพวกนั้นที่ไม่ได้ตามหาเรา ได้เจอกับเรา
เราได้พูดกับชนชาติที่ไม่ได้ร้องเรียกเราว่า ‘เราอยู่นี่ เราอยู่นี่’
2 เราอ้าแขนของเราทั้งวันให้กับชนชาติที่ดื้อรั้น
ที่ชอบเดินในเส้นทางที่ไม่ดีและชอบตามใจตัวเอง
3 พวกเขาเป็นชนชาติที่ท้าทายเราต่อหน้าอยู่เรื่อยโดยไปเซ่นไหว้พวกพระเทียมเท็จตามสวน
และถวายเครื่องหอมบูชาให้กับพระเทียมเท็จเหล่านั้นบนพวกแท่นบูชาที่ทำจากอิฐ
4 คนพวกนั้นไปนั่งติดต่อกับวิญญาณคนตายท่ามกลางอุโมงค์ฝังศพและไปค้างคืนตามถ้ำเก็บศพต่างๆ
พวกเขากินเนื้อหมูและมีน้ำแกงที่ทำจากสัตว์ต้องห้ามอยู่ในหม้อของพวกเขา
5 พวกเขาพูดว่า ‘อยู่ห่างๆ
อย่าเข้ามาใกล้ข้าเพราะข้าศักดิ์สิทธิ์เกินไปสำหรับเจ้า’
คนอย่างนี้เป็นเหมือนควันในจมูกของเรา
เป็นเหมือนไฟที่ไหม้อยู่ทั้งวัน
6 ดูสิ บาปของพวกเขาถูกบันทึกไว้ต่อหน้าเรา
เราจะไม่อยู่นิ่งเฉยแต่เราจะตอบแทนอย่างเต็มที่
เราจะเทค่าตอบแทนลงบนตักของพวกเขา
7 สำหรับทั้งความบาปของพวกเขาและความบาปของบรรพบุรุษของพวกเขา” พระยาห์เวห์ว่าอย่างนั้น
เราจะตวงค่าตอบแทนของพวกเขาแล้วเทมันลงไปบนตักของพวกเขา
เพราะพวกเขาได้เผาเครื่องหอมบนพวกภูเขา
และหมิ่นประมาทเราบนพวกเนินเขา
8 พระยาห์เวห์พูดว่า “เมื่อคนคั้นองุ่นยังเห็นว่ายังมีน้ำองุ่นเหลืออยู่ในพวงองุ่น
พวกเขาก็จะพูดว่า ‘อย่าเพิ่งทำลายมัน เพราะยังมีน้ำองุ่นเหลืออยู่’
เช่นเดียวกัน เราก็จะไม่ทำลายประชาชนพวกนี้จนราบคาบ
เพราะยังมีพวกผู้รับใช้ของเราเหลืออยู่ในนั้น
9 เราจะให้ลูกหลานกับยาโคบ ให้ทายาทกับยูดาห์
ผู้ที่จะรับภูเขาทั้งหลายของเราเป็นมรดก
พวกที่เราเลือกมาจะได้รับแผ่นดินนี้เป็นมรดก
พวกผู้รับใช้ของเราจะได้ตั้งรกรากอยู่ที่นั่น
10 เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนของเราที่แสวงหาเรา
เราจะทำให้ที่ราบชาโรนกลายเป็นทุ่งหญ้าสำหรับฝูงแพะแกะ
และหุบเขาอาโคร์ กลายเป็นที่ให้ฝูงโคนอน สำหรับคนของเราที่แสวงหาเรา
11 แต่ไอ้พวกเจ้าที่ทิ้งพระยาห์เวห์ไป
ที่ลืมภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
แล้วไปตั้งโต๊ะบูชาให้กับ พระโชค
และเติมเหล้าองุ่นบูชาให้กับ พระเคราะห์
12 เราจะทำให้เจ้ามีเคราะห์ ต้องตายด้วยดาบ
พวกเจ้าทุกคนจะต้องก้มลงให้พวกศัตรูฆ่า
เพราะเราได้เรียกพวกเจ้า แต่พวกเจ้าไม่ตอบ
เราได้พูด แต่พวกเจ้าไม่ยอมฟัง
เจ้าทำในสิ่งที่เราเห็นว่าชั่วร้าย
เจ้าเลือกทำในสิ่งที่เราไม่พอใจ”
13 ดังนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดไว้อย่างนี้ว่า
“พวกผู้รับใช้ของเราจะได้กิน แต่พวกเจ้าคนชั่วจะหิวโหย
พวกผู้รับใช้ของเราจะได้ดื่ม แต่พวกเจ้าคนชั่วจะหิวกระหาย
พวกผู้รับใช้ของเราจะมีความสุข แต่พวกเจ้าคนชั่วจะได้รับความอับอาย
14 พวกผู้รับใช้ของเราจะร้องเพลงเพราะสุขใจ
แต่พวกเจ้าคนชั่วจะร้องคร่ำครวญเพราะทุกข์ใจ
พวกเจ้าคนชั่วจะร้องครวญครางเพราะจิตใจแตกสลาย
15 พวกผู้รับใช้ที่เราได้เลือกไว้ ก็จะใช้ชื่อของเจ้าสาปแช่งคน
แล้วพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ก็จะให้พวกเจ้าคนชั่วตายไป
แต่ส่วนพวกผู้รับใช้ของพระองค์นั้น พระองค์จะให้ชื่อใหม่กับพวกเขา
16 ทุกคนในแผ่นดินที่ขอพรก็จะขอจากพระเจ้าที่สัตย์ซื่อ
และทุกคนในแผ่นดินที่สาบานก็จะสาบานโดยอ้างถึงพระเจ้าที่สัตย์ซื่อ
เพราะเราจะลืมความทุกข์ยากต่างๆที่เราทำให้เกิดกับพวกเจ้าในอดีต
พวกความทุกข์ยากนั้นจะถูกหลบซ่อนไปจากสายตาของเรา
พระยาห์เวห์จะสร้างฟ้าสวรรค์ใหม่และโลกใหม่สำหรับคนของพระองค์
17 ดูสิ เรากำลังจะสร้างสวรรค์ใหม่ และโลกใหม่
จะไม่มีใครจดจำเรื่องเก่าๆอีกต่อไป
มันก็จะไม่แวบเข้ามาในความคิดอีกเลย
18 แต่ขอให้ดีใจและมีความสุขตลอดไปกับสิ่งที่เรากำลังสร้าง
ดูสิ เราจะสร้างเยรูซาเล็มให้เป็นบ่อเกิดของความสุข
และเราจะสร้างคนของนาง ให้เป็นบ่อเกิดของความยินดี
19 เยรูซาเล็มจะทำให้เราชื่นบาน คนของเราจะทำให้เรายินดี
จะไม่มีเสียงร้องไห้
หรือเสียงร้องขอความช่วยเหลือในเมืองนั้นอีกต่อไป
20 จะไม่มีเด็กทารกที่มีชีวิตอยู่ไม่กี่วัน
หรือคนแก่ที่ยังตายก่อนเวลาอันควร
คนที่ตายตอนอายุหนึ่งร้อยปีก็ยังถือว่ายังหนุ่มอยู่
คนที่ตายก่อนอายุร้อยปีก็ถือว่าถูกสาปแช่ง
21 คนของเราจะสร้างบ้านและจะได้เข้าไปอยู่
พวกเขาจะปลูกสวนองุ่นและจะได้กินผลของมัน
22 พวกเขาจะไม่สร้างบ้านแต่คนอื่นมาอยู่แทน
พวกเขาจะไม่ปลูกสวนองุ่นแต่คนอื่นมากินแทน
พวกเขาจะมีอายุยืนเหมือนต้นไม้
พวกคนที่เราได้เลือกไว้จะได้ใช้สิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมากับมือจนมันเสื่อมสภาพไป
23 พวกเขาจะไม่ทำงานหนักโดยเปล่าประโยชน์
และพวกเขาจะไม่คลอดลูกที่จะต้องมาเจอกับความตายอย่างฉับพลัน
เพราะพวกเขาจะเป็นเชื้อชาติที่พระยาห์เวห์อวยพร
รวมทั้งลูกหลานของพวกเขาด้วย
24 เราจะตอบพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะร้องเรียกเราเสียอีก
พวกเขายังพูดไม่ทันขาดคำ เราก็จะตอบแล้ว
25 หมาป่าและลูกแกะจะกินอยู่ด้วยกัน
สิงโตจะกินฟางเหมือนวัว
แต่งูจะต้องกินฝุ่นต่อไป
จะไม่มีการทำร้ายหรือทำลายกันทั่วภูเขาที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา”
พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนั้น
พระองค์ประณามการนมัสการที่ผิด
66 พระยาห์เวห์พูดว่า “ฟ้าสวรรค์เป็นบัลลังก์ของเราและโลกนี้เป็นที่วางเท้าของเรา
แล้วอย่างนี้ พวกเจ้าจะสร้างบ้านแบบไหนให้กับเรา
แล้วอย่างนี้ พวกเจ้าจะสร้างที่พักผ่อนแบบไหนให้กับเรา
2 มือของเราเองได้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
และสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดเป็นของเรา”
พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้
“แต่นี่ต่างหากที่เราให้ความสนใจ
คือคนที่ถ่อมสุภาพ คนที่สำนึกผิดในใจ
คนที่สั่นกลัวเมื่อได้ยินคำพูดทั้งหลายของเรา
3 บางคนฆ่าวัวตัวผู้ถวายเราก็จริง แต่ก็ยังไปฆ่ามนุษย์ด้วย
บางคนถวายลูกแกะให้กับเรา แต่ก็หักคอหมาเอาไปถวายพระอื่นด้วย[m]
บางคนถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช แต่ก็ถวายเลือดของหมูให้กับรูปเคารพด้วย
บางคนเผาเครื่องหอมถวายเรา แต่ก็ไปสรรเสริญรูปเคารพด้วย
คนพวกนี้เลือกทำตามวิถีทางของเขาเอง
พวกเขาก็ชอบทำในสิ่งที่น่าขยะแขยงพวกนั้น
4 อย่างนั้น เราก็จะเลือกการลงโทษอย่างหนักให้กับพวกเขา
เราจะเอาสิ่งที่พวกเขากลัวมาให้กับพวกเขา
เพราะเมื่อเราเรียก ก็ไม่มีใครตอบ
เราพูด แต่ไม่มีใครฟัง
พวกเขาก็ทำในสิ่งที่เราเห็นว่าชั่วช้า
พวกเขาเลือกทำในสิ่งที่เราไม่พอใจ”
5 พวกเจ้าที่สั่นกลัวเมื่อได้ยินคำพูดของพระองค์นั้น
ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ให้ดี
“พี่น้องของเจ้าที่เกลียดเจ้าและไม่ยอมรับเจ้า
เพราะเจ้าจงรักภักดีต่อเรา ได้พูดว่า
‘ให้พระยาห์เวห์แสดงความยิ่งใหญ่ด้วยการช่วยพวกแกสิเพื่อเราจะได้เห็นพวกแกชื่นชมยินดี’”
แต่พวกมันจะต้องอับอายขายหน้า
พระยาห์เวห์จะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเมืองเยรูซาเล็มในเร็วๆนี้
6 ฟังซิ เสียงดังมาจากในเมือง
เสียงดังมาจากวิหาร
มันเป็นเสียงของพระยาห์เวห์ที่กำลังตอบแทนพวกศัตรูของพระองค์ตามที่พวกมันสมควรจะได้รับ
7 ศิโยนยังไม่ทันจะปวดท้องคลอดเลย เธอก็ได้คลอดออกมาแล้ว
ก่อนที่เธอจะเจ็บปวดเสียอีก เธอก็ได้คลอดลูกชายออกมาแล้ว
8 ใครเคยได้ยินเรื่องอย่างนี้มาก่อนบ้าง
ใครเคยเห็นเรื่องอย่างนี้มาก่อนบ้าง
มีประเทศไหนบ้างที่เกิดขึ้นได้ภายในวันเดียว
มีชนชาติไหนบ้างที่คลอดออกมาได้ในชั่วพริบตาเดียว
พอศิโยนปวดท้องคลอดปุ๊บ เธอก็คลอดลูกๆออกมาปั๊บ
9 พระยาห์เวห์ถามว่า “เราที่เป็นคนเปิดช่องคลอด จะไม่ให้เด็กคลอดออกมาหรือ”
พระเจ้าของเจ้าถามว่า “เราที่เป็นคนทำคลอด จะไปยั้งไม่ให้ชนชาติของเราคลอดออกมาหรือ”
10 พวกเจ้าที่รักเยรูซาเล็ม ให้ชื่นชมยินดีกับเธอ และดีใจกับเธอ
พวกเจ้าทุกคนที่เคยไว้ทุกข์ให้กับเยรูซาเล็มให้ร่วมเฉลิมฉลองกับเธอ
11 เพื่อเจ้าจะได้ดูดและอิ่มหนำในอ้อมอกอันปลอบประโลมของเธอ
เพื่อเจ้าจะได้ดื่มและมีความสุขจากหัวนมที่มีน้ำนมอย่างเหลือเฟือของเธอ
12 เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดคือ
“ดูสิ เราจะให้ความเจริญรุ่งเรืองไหลมาสู่เยรูซาเล็มเหมือนกับแม่น้ำ
ให้ความร่ำรวยของชนชาติต่างๆไหลมาสู่เธอเหมือนลำธารที่ไหลล้น
พวกเจ้าจะได้ดูดนมของเธอและเธอจะแนบเจ้าไว้ที่เอว
เธอจะเขย่าเจ้าขึ้นลงเบาๆบนเข่าของเธอ
13 เราก็จะปลอบโยนพวกเจ้าเหมือนกับที่แม่ๆปลอบโยนลูกๆของนาง
เจ้าจะได้รับการปลอบโยนในเมืองเยรูซาเล็ม”
14 พวกเจ้าจะเห็นสิ่งเหล่านี้แล้วจิตใจจะร่าเริงยินดี
และร่างกายจะฟื้นสภาพเหมือนหญ้าที่เพิ่งงอก[n]
พระยาห์เวห์จะทำให้พวกผู้รับใช้ของพระองค์สัมผัสกับพลังอำนาจของพระองค์
แต่พวกศัตรูของพระองค์จะได้สัมผัสกับความโกรธของพระองค์
15 เพราะพระยาห์เวห์กำลังมาด้วยไฟ รถรบของพระองค์เป็นเหมือนลมพายุ พระองค์มาเพื่อลงโทษคนพวกนั้นด้วยความโกรธที่เดือดดาลของพระองค์
และตะโกนบุกใส่พวกเขา และยิงลูกศรเพลิงใส่พวกเขา
16 เพราะพระยาห์เวห์จะตัดสินลงโทษด้วยไฟ
จะตัดสินลงโทษมนุษย์ด้วยดาบของพระองค์
จะมีคนมากมายที่ถูกพระยาห์เวห์ฆ่า
พระเจ้าจะตัดสินโทษศัตรูของพระองค์ที่เมืองเยรูซาเล็ม
17 “พวกคนที่อุทิศตัวและชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ เพื่อจะได้ไปหารูปเคารพหญิงนั้น ที่อยู่กลางสวนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ[o] พวกที่กินเนื้อหมู เนื้อหนู และสิ่งอื่นๆที่น่าขยะแขยง พวกเขาทุกคนจะจบสิ้นไปพร้อมๆกัน” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
18 “เรารู้จักการกระทำและความคิดทั้งหลายของคนพวกนี้ เรากำลังมาเพื่อรวบรวมคนทุกชนชาติทุกภาษา พวกเขาจะได้มาเห็นสง่าราศีของเรา
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International