Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the NLT. Switch to the NLT to read along with the audio.

Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
อิสยาห์ 8-9

อัสซีเรียเป็นเครื่องมือขององค์พระผู้เป็นเจ้า

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงเอาหนังสือม้วนแผ่นใหญ่มาและใช้ปากกาเขียนลงไปว่า ‘มาเฮอร์ชาลาลหัชบัส’[a] และเราจะเรียกปุโรหิตอุรียาห์กับเศคาริยาห์บุตรเยเบเรคิยาห์ให้เป็นพยานที่เชื่อถือได้ของเรา”

แล้วข้าพเจ้าก็เข้าหาผู้เผยพระวจนะหญิง นางจึงตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงตั้งชื่อเขาว่ามาเฮอร์ชาลาลหัชบัส ก่อนที่เด็กคนนั้นจะรู้จักเรียก ‘พ่อ’ หรือ ‘แม่’ กษัตริย์อัสซีเรียจะริบทรัพย์สมบัติของดามัสกัสและสะมาเรียไป”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าอีกว่า

“เนื่องจากชนชาตินี้ได้ปฏิเสธ
น้ำแห่งชิโลอาห์ซึ่งไหลเอื่อยๆ
ไปชื่นชมเรซีน
และบุตรของเรมาลิยาห์
ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะใช้กระแสน้ำอันหลากเชี่ยวของยูเฟรติส
มาท่วมมิดพวกเขา
คือกษัตริย์อัสซีเรียกับกองทัพมหึมา
กระแสน้ำนั้นจะท่วมมิดทุกช่องทาง
และล้นทุกตลิ่ง
และกวาดเข้ามาในยูดาห์
ไหลวนเหนือดินแดนนั้น ไหลหลากท่วมถึงคอ
โอ อิมมานูเอล[b]เอ๋ย!
ท่วมมิดยูดาห์จนสุดเขตแดน”

ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย โห่ร้องออกศึกไปเถิด และจงถูกบดขยี้!
ดินแดนไกลโพ้นทั้งปวง จงฟัง
เตรียมทำศึกเถิด และจงถูกบดขยี้!
เตรียมทำศึกเถิด และจงถูกบดขยี้!
10 วางแผนกลยุทธ์ไปเถิด แต่มันจะกลับตาลปัตร
ดำเนินตามแผนเถิด แต่จะไปไม่รอด
เพราะพระเจ้าทรงอยู่กับเรา[c]

จงยำเกรงพระเจ้า

11 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเตือนข้าพเจ้าอย่างเข้มงวดไม่ให้ดำเนินตามวิถีทางของชนชาตินี้พระองค์ตรัสว่า

12 “ทุกสิ่งที่ชนชาติเหล่านี้เรียกว่าการคบคิดทรยศ
เจ้าอย่าเรียกว่าการคบคิดทรยศ[d]
อย่ากลัวสิ่งที่พวกเขากลัว
อย่าหวาดหวั่น
13 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์คือผู้ที่เจ้าจะต้องถือว่าบริสุทธิ์
พระองค์คือผู้ที่เจ้าจะต้องยำเกรง
พระองค์คือผู้ที่เจ้าจะต้องขยาดกลัว
14 พระองค์จะทรงเป็นสถานนมัสการ
แต่สำหรับวงศ์วานทั้งคู่ของอิสราเอล
พระองค์จะทรงเป็นก้อนหินซึ่งทำให้ผู้คนสะดุด
และเป็นศิลาที่ทำให้พวกเขาล้มลง
และพระองค์จะเป็นกับดัก
และเป็นบ่วงแร้วสำหรับชาวเยรูซาเล็ม
15 พวกเขาหลายคนจะสะดุด
พวกเขาจะล้มลงและแตกสลาย
พวกเขาจะติดกับและถูกจับไป”

16 จงมัดคำพยานเข้าไว้ด้วยกัน
และประทับตราบทบัญญัติในหมู่สาวกของข้าพเจ้า
17 ข้าพเจ้าจะรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้า
ผู้ทรงซ่อนพระพักตร์จากวงศ์วานของยาโคบ
ข้าพเจ้าจะไว้วางใจในพระองค์

18 ข้าพเจ้าและบุตรทั้งหลายที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว เราคือหมายสำคัญและสัญลักษณ์ในอิสราเอลจากพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ผู้ประทับบนภูเขาศิโยน

19 เมื่อคนบอกให้ท่านไปปรึกษาคนทรงเจ้าเข้าผีซึ่งกระซิบกระซาบบ่นพึมพำ ประชาชาติไม่ควรทูลถามพระเจ้าของตนหรือ? เหตุใดไปหารือกับคนตายเพื่อคนเป็น? 20 จงไปค้นดูบทบัญญัติและคำพยาน! หากพวกเขาไม่ได้พูดตามนี้ พวกเขาก็ไม่ได้มีแสงสว่างแห่งรุ่งอรุณอยู่เลย 21 พวกเขาจะซัดเซพเนจรไปอย่างทุกข์ลำเค็ญและหิวโหย เมื่อกันดารอาหารเขาจะเดือดดาลคลุ้มคลั่ง เงยหน้าขึ้นฟ้า แช่งด่ากษัตริย์และพระเจ้าของตน 22 แล้วพวกเขาจะมองไปยังแผ่นดินโลก และพบแต่ความทุกข์ลำเค็ญ ความมืดมน ความกลัดกลุ้ม และเขาจะถูกผลักเข้าสู่ความมืดมิด

เด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา

อย่างไรก็ตามผู้ทุกข์ลำเค็ญจะไม่เศร้าหมองอีกต่อไป ในอดีตพระเจ้าทรงทำให้ดินแดนเศบูลุนและนัฟทาลีต่ำลง แต่ในอนาคตพระองค์จะทรงเชิดชูกาลิลีที่ชาวต่างชาติอาศัยอยู่ ซึ่งรวมทั้งเมืองริมทะเลเลียบแม่น้ำจอร์แดน

ประชากรผู้เดินอยู่ในความมืด
ได้เห็นแสงสว่างอันยิ่งใหญ่
บรรดาผู้อาศัยในดินแดนแห่งเงาของความตาย[e]
แสงสว่างเริ่มสาดต้องพวกเขาแล้ว
พระเจ้าทรงขยายชนชาตินั้น
และเพิ่มพูนความปีติยินดีของพวกเขา
พวกเขาชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์
เหมือนคนเริงรื่นชื่นบานยามเก็บเกี่ยว
หรือยามแบ่งสมบัติที่ริบได้จากเชลย
เหมือนอย่างวันแห่งชัยชนะเหนือมีเดียน
พระองค์จะทรงทำลาย
แอกที่เป็นภาระของประชากรของพระองค์
คานที่พวกเขาต้องแบกหาม
และไม้ตะบองของผู้ที่กดขี่ข่มเหงเขา
รองเท้าทุกคู่ของนักรบซึ่งใช้ในสงคราม
และเสื้อผ้าทั้งหมดของพวกเขาที่โชกเลือด
จะถูกเผาไฟ
และใช้เป็นเชื้อเพลิง
ด้วยว่ามีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา
มีบุตรชายคนหนึ่งที่ประทานแก่เรา
และการปกครองจะอยู่บนบ่าของเขา
และเขาจะได้รับการขนานนามว่า
“ที่ปรึกษามหัศจรรย์[f] พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์
พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช”
การปกครองอย่างสันติของบุคคลนั้น
จะรุ่งเรืองขึ้นไม่สิ้นสุด
พระองค์จะทรงครอบครองเหนือบัลลังก์
และอาณาจักรของดาวิด
ทรงสถาปนาและผดุงอาณาจักรนั้นไว้
ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม
ตั้งแต่เวลานั้นตราบนิรันดร์
พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงกระตือรือร้น
ที่จะกระทำการนี้ให้สำเร็จ

องค์พระผู้เป็นเจ้า

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระดำรัสเป็นคำพิพากษาเกี่ยวกับอิสราเอล
พงศ์พันธุ์ของยาโคบว่า
ประชากรทั้งปวงจะรู้ถึงคำพิพากษา
คือเอฟราอิมและชาวสะมาเรียทั้งหลาย
ซึ่งกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
และด้วยใจอหังการว่า
10 “อิฐทลายลงแล้วก็จริง
แต่เราจะสร้างขึ้นใหม่ด้วยหินสกัด
ต้นมะเดื่อทั้งหลายถูกโค่นลงไปแล้ว
แต่เราจะแทนที่ด้วยไม้สนซีดาร์”
11 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเสริมกำลังศัตรูของ
เรซีนขึ้นมาสู้กับพวกเขา
และทรงกระตุ้นศัตรูของพวกเขา
12 ชาวอารัมจากตะวันออก และชาวฟีลิสเตียจากตะวันตก
อ้าปากกว้างกลืนอิสราเอลเสีย

ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห
พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่

13 แต่เหล่าประชากรก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาพระองค์ผู้ทรงลงโทษพวกเขา
ทั้งไม่ยอมแสวงหาพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
14 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงตัดทั้งหัวและหางจากอิสราเอล
ทั้งกิ่งอินทผลัมและต้นอ้อภายในวันเดียว
15 หัวคือผู้อาวุโสและคนใหญ่คนโต
หางคือผู้เผยพระวจนะซึ่งสอนเท็จ
16 บรรดาผู้นำก็นำไปผิดทาง
และบรรดาผู้ตามก็ถูกนำให้หลงเตลิด
17 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงชื่นชอบคนหนุ่ม
ทั้งจะไม่ทรงเอ็นดูสงสารลูกกำพร้าพ่อกับหญิงม่าย
เพราะทุกคนล้วนชั่วช้าอธรรม
ทุกปากพูดชั่ว

ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห
พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่

18 แน่ทีเดียวความชั่วลุกโพลงดั่งกองไฟ
มันผลาญต้นหนามน้อยใหญ่ทั้งปวง
ทำให้ทั้งป่าลุกไหม้
ส่งควันโขมง
19 พื้นแผ่นดินจะถูกเผาผลาญ
โดยพระพิโรธของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
ประชากรจะเป็นเชื้อเพลิง
ไม่มีใครละเว้นพี่น้องของตน
20 พวกเขาจะเขมือบทางขวา
แต่ก็ยังหิวโหย
กินไปทางซ้าย
แต่ก็ยังไม่อิ่ม
ต่างก็จะเลี้ยงชีวิตด้วยเนื้อลูกหลานของตนเอง[g]
21 มนัสเสห์และเอฟราอิมจะกัดกินกันเอง
และทั้งสองจะหันมาเล่นงานยูดาห์

ถึงขนาดนี้แล้วพระพิโรธของพระเจ้าก็ยังไม่หันเห
พระองค์ยังคงเงื้อพระหัตถ์ค้างอยู่

2 โครินธ์ 12:1-10

นิมิตและหนามยอกกายเปาโล

12 ข้าพเจ้าต้องโอ้อวดต่อไปถึงแม้จะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ข้าพเจ้าก็ขอเล่าถึงนิมิตและการทรงสำแดงต่างๆ จากองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้ารู้จักชายคนหนึ่งในพระคริสต์ ผู้ซึ่งสิบสี่ปีที่แล้วถูกรับขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นที่สาม จะไปในกายหรือนอกกายข้าพเจ้าไม่รู้ พระเจ้าทรงทราบ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าเขาไปในกายนี้หรือนอกกาย พระเจ้าทรงทราบ แต่ข้าพเจ้ารู้ว่าชายผู้นี้ ถูกรับขึ้นไปถึงเมืองบรมสุขเกษม เขาได้ยินสิ่งต่างๆ ซึ่งไม่อาจจะพรรณนาได้ สิ่งซึ่งไม่อนุญาตให้มนุษย์บอกเล่า ข้าพเจ้าจะอวดถึงคนเช่นนี้แหละ แต่ข้าพเจ้าจะไม่อวดตนเอง เว้นแต่เรื่องความอ่อนแอของข้าพเจ้า ถ้าหากว่าข้าพเจ้าเลือกที่จะอวด ข้าพเจ้าก็จะไม่เป็นเช่นคนโง่ เพราะข้าพเจ้าจะพูดความจริง แต่ข้าพเจ้ายับยั้งไว้เพื่อไม่ให้ใครยกย่องข้าพเจ้าเกินเลยจากสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดหรือทำ

เพื่อไม่ให้ข้าพเจ้าผยองเนื่องด้วยการทรงสำแดงอันยิ่งใหญ่เลิศล้ำเหล่านี้ จึงทรงให้มีหนามในเนื้อของข้าพเจ้า เป็นทูตของซาตานคอยทรมานข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทูลวิงวอนองค์พระผู้เป็นเจ้าสามครั้งให้ทรงเอาหนามนี้ออกไปจากข้าพเจ้า แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “พระคุณของเราเพียงพอสำหรับเจ้า เพื่อว่าฤทธิ์อำนาจของเราจะได้ปรากฏเต็มที่ในความอ่อนแอ” ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงอวดความอ่อนแอของตนด้วยความยินดี เพื่อฤทธิ์อำนาจของพระคริสต์จะได้อยู่ในข้าพเจ้า 10 ด้วยเหตุนี้แหละเพื่อพระคริสต์ ข้าพเจ้าจึงชื่นชมในความอ่อนแอ ในการสบประมาท ในความยากลำบาก ในการกดขี่ข่มเหง ในความยุ่งยาก เพราะเมื่อใดที่ข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อนั้นข้าพเจ้าก็เข้มแข็ง

สดุดี 55

(ถึงหัวหน้านักร้อง ใช้เครื่องสาย มัสคิล[a]ของดาวิด)

55 ข้าแต่พระเจ้า โปรดฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์
ขออย่าทรงเพิกเฉยต่อคำทูลวิงวอนของข้าพระองค์
ขอทรงสดับและทรงตอบเถิด
ความคิดรบกวนจิตใจของข้าพระองค์และข้าพระองค์วิตกกังวล
เพราะเสียงของศัตรู
เพราะการจับจ้องของคนชั่ว
พวกเขานำความทุกข์ทรมานมายังข้าพระองค์
และเหยียดหยามข้าพระองค์ด้วยความโกรธ

จิตใจข้าพระองค์ร้าวรานอยู่ภายใน
ความหวาดผวาต่อความตายจู่โจมข้าพระองค์
ความกลัวและความหวาดหวั่นครอบงำข้าพระองค์
ความหวาดกลัวท่วมท้นข้าพระองค์
ข้าพระองค์กล่าวว่า “โอ ข้าพเจ้าอยากมีปีกเหมือนนกพิราบ!
จะได้บินจากไปและพักสงบ
ข้าพเจ้าจะหนีไปไกลลิบ
และพักอยู่ในถิ่นกันดาร
เสลาห์
ข้าพเจ้าจะรีบรุดไปยังที่กำบัง
ให้ไกลจากมรสุมและพายุร้ายนี้”

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงทำให้คนชั่วสับสนอลหม่าน ทำให้ภาษาของเขายุ่งเหยิงไป
เพราะข้าพระองค์เห็นความรุนแรงและการรบราฆ่าฟันในเมือง
10 พวกเขาป้วนเปี้ยนอยู่บนกำแพงทั้งวันทั้งคืน
ความมุ่งร้ายและการทารุณอยู่ในเมือง
11 พวกบ่อนทำลายปฏิบัติการอยู่ในเมือง
การข่มขู่และล่อลวงมีไม่ขาดตามท้องถนน

12 หากเป็นศัตรูมาสบประมาทข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายังพอจะทนได้
หากเป็นปฏิปักษ์ที่ลุกขึ้นต่อต้านข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไปซ่อนตัวเสีย
13 แต่นี่เป็นท่านเอง ซึ่งเป็นคนอย่างข้าพเจ้า
เพื่อนร่วมทาง เพื่อนสนิทของข้าพเจ้า
14 ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยโอภาปราศรัยด้วยอย่างหวานชื่น
ขณะที่เราเดินเคียงกันไปกับฝูงชนที่พระนิเวศของพระเจ้า

15 ขอให้ความตายมาถึงเหล่าศัตรูของข้าพเจ้าโดยที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัว
ขอให้เขาลงไปยังแดนมรณาทั้งเป็น
เพราะความชั่วอยู่ในหมู่พวกเขา

16 ส่วนข้าพเจ้าร้องทูลพระเจ้า
และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยข้าพเจ้า
17 ยามเย็น ยามเช้า และยามเที่ยง
ข้าพเจ้าร้องทูลด้วยความทุกข์ลำเค็ญ
และพระองค์ทรงได้ยินเสียงของข้าพเจ้า
18 พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าพ้นจากอันตราย
จากสงครามที่เล่นงานข้าพเจ้า
แม้ข้าศึกมากมายต่อสู้กับข้าพเจ้า
19 พระเจ้าผู้ทรงครอบครองอยู่นิรันดร์
จะทรงได้ยินและทำให้พวกเขาทุกข์ยาก
เสลาห์
ผู้ซึ่งไม่ยอมเปลี่ยนวิถีทาง
และไม่ยำเกรงพระเจ้า

20 เพื่อนของข้าพเจ้าโจมตีเพื่อนของเขา
เขาละเมิดพันธสัญญา
21 ถ้อยคำของเขาลื่นเหมือนเนย
แต่สงครามอยู่ในใจของเขา
ถ้อยคำของเขาละมุนละไมยิ่งกว่าน้ำมัน
แต่ถ้อยคำเหล่านั้นเหมือนดาบที่ชักออก
จากฝัก

22 จงมอบภาระของท่านไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า
พระองค์จะทรงค้ำชูท่านไว้
พระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้คนชอบธรรมล้มลง
23 ข้าแต่พระเจ้า แต่พระองค์จะทรงส่งคนชั่ว
ลงไปในแดนพินาศ
คนกระหายเลือดและคนเจ้าเล่ห์
จะไม่มีชีวิตยืนยาวถึงครึ่งอายุขัยของเขา

แต่สำหรับข้าพระองค์ ข้าพระองค์วางใจในพระองค์

สุภาษิต 23:4-5

คำสอนที่

อย่าตรากตรำจนอ่อนล้าเพียงเพื่อหวังร่ำรวย
อย่าวางใจในความเฉลียวฉลาดของเจ้า
แค่พริบตาเดียวทรัพย์สมบัติก็จะลับหายไป
เพราะมันจะติดปีกบิน
หนีไปในท้องฟ้าเหมือนนกอินทรี

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.