Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the CEV. Switch to the CEV to read along with the audio.

Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
อิสยาห์ 45:11-48

11 “พระยาห์เวห์ องค์บริสุทธิ์
และพระผู้สร้างของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า
เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
เจ้ามาถามเราเรื่องลูกหลานของเรา
หรือสั่งเราเกี่ยวกับการงานแห่งน้ำมือของเราหรือ?
12 เรานี่แหละสร้างโลก
และสร้างมนุษยชาติบนโลก
มือของเรานี่แหละคลี่ฟ้าสวรรค์ออก
และบัญชาดวงดาวทั้งปวง
13 เราจะชูไซรัส[a]ขึ้นในความชอบธรรมของเรา
เราจะทำให้ทางทั้งสิ้นของเขาตรงไป
เขาจะสร้างนครของเราขึ้นใหม่
และปลดปล่อยประชากรของเราผู้ตกเป็นเชลย
ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อสินจ้างรางวัล
พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น”

14 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“ผลผลิตของอียิปต์ สินค้าของคูช[b]และของคนเสบาร่างสูง
จะเป็นของเจ้า
คนเหล่านี้จะมาติดสอยห้อยตามเจ้า
ทั้งๆ ที่ยังติดโซ่ตรวน
พวกเขาจะมาหมอบกราบตรงหน้าเจ้า
และอ้อนวอนเจ้าว่า
‘แน่ทีเดียว พระเจ้าทรงอยู่กับท่าน ไม่มีใครอื่น
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก’ ”

15 ข้าแต่พระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดของอิสราเอล
แน่ทีเดียว พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ซ่อนพระองค์เองไว้
16 ทุกคนที่ทำรูปเคารพจะอัปยศอดสู
พวกเขาจะอับอายขายหน้าไปด้วยกัน
17 ส่วนอิสราเอลนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยกู้
ด้วยความรอดนิรันดร์
เจ้าจะไม่ต้องอับอายขายหน้าเลย
ตลอดไปทุกชั่วอายุ

18 องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์
พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า
พระองค์ผู้ทรงปั้นแต่งและสร้างโลก
ทรงสถาปนามันไว้
พระองค์ไม่ได้ทรงสร้างให้เป็นที่เวิ้งว้างว่างเปล่า
แต่ทรงสร้างโลกให้เป็นที่อยู่อาศัย
พระองค์ตรัสว่า
“เราคือพระยาห์เวห์
และไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก
19 เราไม่ได้พูดแบบลับๆ
จากที่หนึ่งที่ใดในดินแดนแห่งความมืด
เราไม่ได้พูดกับลูกหลานของยาโคบว่า ‘จงแสวงหาเราในที่ยุ่งเหยิง’
เรา พระยาห์เวห์พูดความจริง
เราประกาศสิ่งที่ถูกต้อง

20 “จงมาชุมนุมกันเถิด จงรวบรวมกันมา
บรรดาผู้หนีภัยจากชาติต่างๆ
ผู้แห่รูปเคารพไม้ก็โง่เขลา
ผู้สวดอ้อนวอนต่อพระซึ่งช่วยอะไรเขาไม่ได้
21 จงแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้น เสนอมาสิ
ให้พวกเขาปรึกษาหารือกัน
ใครเล่าแจ้งเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้านานแล้ว?
ใครเล่าลั่นวาจาไว้ตั้งแต่อดีตกาลนานนม?
ไม่ใช่เราผู้เป็นพระยาห์เวห์หรอกหรือ?
นอกจากเราแล้วไม่มีพระเจ้าอื่นใด
พระเจ้าผู้ชอบธรรมและผู้ช่วยให้รอด
ไม่มีใครอื่นนอกจากเรา

22 “มวลมนุษย์ทั่วโลก
จงหันมาหาเราและรับการช่วยให้รอด
เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก
23 เราปฏิญาณไว้แล้วด้วยตัวของเราเอง
เราเองลั่นวาจาไว้ด้วยความชอบธรรม
ไม่มีวันคืนคำ
คือทุกคนจะคุกเข่ากราบลงต่อหน้าเรา
ทุกลิ้นจะปฏิญาณโดยอ้างถึงเรา
24 เขาทั้งปวงจะกล่าวถึงเราว่า
‘ในองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่มีความชอบธรรมและพลานุภาพ’ ”
ทุกคนที่โกรธแค้นพระองค์
จะมาเข้าเฝ้าพระองค์และอัปยศอดสูใจ
25 แต่ในองค์พระผู้เป็นเจ้าลูกหลานทั้งหมดของอิสราเอล
จะได้เป็นผู้ชอบธรรมและจะเทิดทูนสดุดี

เทพเจ้าของบาบิโลน

46 พระเบลหมอบลง พระเนโบก็ค้อมลง
เทวรูปของเขาบรรทุกมาบนหลังสัตว์[c]
เทวรูปที่ถูกแบกมานั้นหนักอึ้ง
เป็นภาระแก่ผู้อ่อนระโหย
พระเหล่านั้นค้อมลงและหมอบลงด้วยกัน
ช่วยแบ่งเบาภาระอะไรไม่ได้เลย
เพราะมันเองก็ตกเป็นเชลยด้วยเหมือนกัน

“วงศ์วานยาโคบเอ๋ย จงฟังเรา
วงศ์วานอิสราเอลทั้งปวงที่ยังเหลือรอดชีวิตอยู่
ผู้ซึ่งเราได้อุ้มชูไว้ตั้งแต่ปฏิสนธิ
และฟูมฟักมาตั้งแต่เจ้าเกิด
จนกระทั่งเจ้าเข้าสู่วัยชราผมหงอก
เราคือผู้นั้น ผู้ซึ่งจะค้ำจุนเจ้า
เราได้สร้างเจ้าและจะฟูมฟักเจ้า
เราจะอุ้มชูและช่วยเจ้าให้รอด

“เจ้าจะเปรียบเราและถือว่าเราเท่าเทียมกับผู้ใด?
เจ้าจะหาผู้ใดมาเทียบเราได้?
มีคนเททองคำออกมาจากถุง
และชั่งเงินบนตาชั่ง
เขาจ้างช่างทองให้ทำเทพเจ้าขึ้นมา
แล้วเขาก็หมอบกราบนมัสการเทวรูปนั้น
เขายกมันขึ้นบนบ่าแบกไป
เขาตั้งมันไว้ประจำที่ รูปนั้นก็อยู่ที่นั่น
เพราะมันขยับเขยื้อนไม่ได้
แม้มีคนสวดอ้อนวอน มันก็ไม่ตอบ
มันไม่สามารถช่วยให้เขาพ้นทุกข์ได้

“จงจำข้อนี้ไว้ จำฝังใจไม่ลืมเลือน
จงจำใส่ใจ เจ้ากบฏทั้งหลาย
จงจดจำสิ่งต่างๆ แต่เดิมเมื่อนานมาแล้ว
เราเป็นพระเจ้า ไม่มีพระอื่นใด
เราเป็นพระเจ้า ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน
10 เราแจ้งอวสานตั้งแต่ตอนต้น
แจ้งสิ่งที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งโบราณ
เราลั่นวาจาไว้ว่าความมุ่งหมายของเราจะคงอยู่
เราจะทำทุกสิ่งตามที่เห็นชอบ
11 เราจะเรียกนกล่าเหยื่อมาจากตะวันออก
ชายคนหนึ่งผู้ทำให้ลุล่วงตามความมุ่งหมายของเราจะมาจากแดนไกลลิบ
เราพูดอะไรไว้ เราจะทำให้เกิดขึ้น
เราวางแผนอะไรไว้ เราจะทำตามแผนนั้น
12 จงฟังเรา เจ้าคนดื้อด้าน
ผู้ห่างไกลความชอบธรรม
13 เรานำความชอบธรรมของเราเข้ามาใกล้แล้ว
มันอยู่ไม่ไกลเลย
ความรอดของเราจะมาถึงโดยไม่ล่าช้า
เราจะให้ความรอดของเราแก่ศิโยน
และความรุ่งเรืองของเราแก่อิสราเอล

บาบิโลนล่มสลาย

47 “ธิดาพรหมจารีแห่งบาบิโลน[d]
จงนั่งลงคลุกฝุ่นเถิด
จงนั่งลงกับพื้นโดยปราศจากบัลลังก์
ธิดาแห่งชาวบาบิโลน[e][f]
เจ้าจะไม่ได้รับการขนานนาม
ว่าบอบบางน่าทะนุถนอมอีกต่อไป
จงเอาโม่หินมาโม่แป้งเถิด
ปลดผ้าคลุมหน้าของเจ้าออก
จงถลกกระโปรงเผยให้เห็นขา
และเดินลุยน้ำไป
เจ้าจะเปลือยเปล่า
และอัปยศอดสู
เราจะแก้แค้นเจ้า
จะไม่ละเว้นผู้ใดเลย”

พระผู้ไถ่ของเราผู้ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
เป็นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

“ธิดาแห่งชาวบาบิโลนเอ๋ย
ไปนั่งเงียบๆ ในความมืดมนเถิด
เจ้าจะไม่ได้ชื่อว่า
นางพญาแห่งราชอาณาจักรทั้งหลายอีกต่อไป
เราโกรธเคืองประชากรของเรา
และเหวี่ยงมรดกของเราทิ้ง
เรามอบเขาไว้ในมือเจ้า
และเจ้าก็ไม่ได้เมตตาปรานีเขา
แม้แต่คนเฒ่าคนแก่
เจ้าก็บังคับให้แบกแอกหนักอึ้ง
เจ้ากล่าวว่า ‘ข้าจะเป็นนางพญา
ตลอดไปเป็นนิตย์!’
แต่เจ้าไม่ได้พิจารณาสิ่งเหล่านี้
ไม่ได้ใคร่ครวญสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น

“ฉะนั้นจงฟังเถิด เจ้าคนเสเพล
ผู้เอกเขนกอยู่อย่างปลอดภัย
และบอกตัวเองว่า
‘ข้านี่แหละ ไม่มีใครอื่นนอกจากข้า
ข้าจะไม่มีวันเป็นม่าย
หรือต้องสูญเสียลูก’
ทั้งสองสิ่งนี้จะจู่โจมเจ้า
ในชั่วพริบตา ภายในวันเดียว
ทั้งความเป็นม่ายและการสูญเสียลูก
มันจะมาถึงเจ้าเต็มขนาด
ทั้งๆ ที่เจ้ามีเวทมนตร์
และคาถาอาคมขลัง
10 เจ้าวางใจในความชั่วร้ายของเจ้า
และพูดว่า ‘ไม่มีใครเห็นเราหรอก’
สติปัญญาและความรู้ของเจ้าพาเจ้าหลงเจิ่น
เมื่อเจ้าบอกตัวเองว่า
‘ข้านี่แหละ ไม่มีใครอื่นนอกจากข้า’
11 ภัยพิบัติจะมาถึงเจ้า
และเจ้าจะไม่รู้ว่าต้องขจัดปัดเป่ามันไปอย่างไร
ภัยพิบัติจะตกแก่เจ้า
ซึ่งเจ้าไม่อาจไถ่ถอน
หายนะซึ่งเจ้าไม่อาจเล็งเห็นล่วงหน้า
จะมาถึงเจ้าโดยฉับพลัน

12 “จงเล่นคาถาอาคมของเจ้า
และร่ายเวทมนตร์ทั้งหลายต่อไปเถิด
อย่างที่เจ้าทำมาตั้งแต่เด็ก
บางทีเจ้าอาจจะทำสำเร็จ
บางทีเจ้าอาจจะบันดาลความน่าสะพรึงกลัว
13 คำปรึกษาทั้งสิ้นที่เจ้าได้รับ มีแต่จะทำให้เจ้าทรุดโทรมไป!
ให้นักโหราศาสตร์ทั้งหลายของเจ้าออกมา
ให้นักดูดาวทั้งหลายซึ่งทำนายโชคชะตาราศีแต่ละเดือน
มาช่วยเจ้าให้พ้นจากสิ่งที่จะเกิดขึ้น
14 แน่นอน พวกเขาเป็นเหมือนตอข้าว
ไฟจะเผาผลาญเขาสิ้น
เขาไม่อาจจะช่วยแม้แต่ตัวเอง
ให้พ้นจากฤทธิ์ของเปลวไฟ
นี่ไม่ใช่ถ่านไฟให้ผิงกาย
ไม่ใช่ไฟซึ่งทำให้อุ่นสบาย
15 คนเหล่านี้ที่เจ้าร่วมงาน
และติดต่อมาตั้งแต่เยาว์วัย
ก็ทำให้เจ้าได้แค่นี้เอง
พวกเขาแต่ละคนหลงไปตามความผิดพลาดของตน
ไม่มีสักคนเดียวที่สามารถช่วยเจ้าได้

อิสราเอลผู้ดื้อดึง

48 “จงฟังเถิด วงศ์วานของยาโคบเอ๋ย
เจ้าซึ่งได้ชื่อตามอิสราเอล
และสืบเชื้อสายจากยูดาห์
เจ้าผู้ปฏิญาณในพระนามของพระยาห์เวห์
และอ้างพระเจ้าแห่งอิสราเอล
แต่ไม่ใช่ด้วยความจริงหรือความชอบธรรม
เจ้าผู้อ้างตนเป็นพลเมืองของนครศักดิ์สิทธิ์
และพึ่งในพระเจ้าแห่งอิสราเอล
ผู้ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
เราได้กล่าวถึงสิ่งเก่าก่อนไว้ล่วงหน้านานมาแล้ว
เราเองได้พูดไว้และบอกให้รู้ทั่วกัน
แล้วเราก็ทำตามนั้นทันที มันก็เป็นไป
เพราะเรารู้ว่าเจ้าดื้อด้านหัวแข็งเพียงไร
เอ็นคอของเจ้าเป็นเหล็ก
หน้าผากของเจ้าคือทองสัมฤทธิ์
ฉะนั้นเราจึงบอกสิ่งเหล่านี้แก่เจ้าไว้ล่วงหน้านานแล้ว
ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น เราก็ได้แจ้งเจ้าแล้ว
เพื่อเจ้าจะไม่อาจพูดได้ว่า
‘รูปเคารพของข้าพเจ้าทำสิ่งเหล่านี้
เทวรูปไม้และพระโลหะของข้าพเจ้าบัญชาให้เกิดขึ้น’
เจ้าได้ยินถึงสิ่งเหล่านี้มาแล้ว จงพิเคราะห์ดูให้ถี่ถ้วน
เจ้าจะไม่ยอมรับหรือ?

“นับแต่นี้ไปเราจะแจ้งสิ่งใหม่ๆ
แจ้งสิ่งเร้นลับที่เจ้าไม่รู้นั้นแก่เจ้า
เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นใหม่ ไม่ใช่นานมาแล้ว
ก่อนหน้านี้เจ้าไม่เคยได้ยินมาก่อน
เจ้าจึงไม่อาจพูดได้ว่า
‘เรารู้แล้ว’
เจ้าไม่เคยได้ยินหรือเข้าใจมาก่อน
แต่เดิมมาหูของเจ้าไม่ได้เปิดออก
เรารู้ดีว่าเจ้าคิดคดทรยศเพียงไร
เจ้าได้ชื่อว่ากบฏมาตั้งแต่เกิด
เพราะเห็นแก่นามของเรา เราจึงกลั้นโทสะไว้
เพราะเห็นแก่เราซึ่งเป็นที่สรรเสริญ เราจึงยับยั้งไว้
ไม่ตัดเจ้าออกไป
10 ดูเถิด เราได้ถลุงเจ้า แม้ไม่ใช่อย่างถลุงเงิน
เราทดสอบเจ้าในเตาหลอมแห่งความทุกข์ระทม
11 เพราะเห็นแก่เราเอง เราทำการนี้เพราะเห็นแก่เราเอง
เราจะปล่อยให้ตัวเองเสียชื่อได้อย่างไร?
เกียรติสิริของเรา เราไม่ยกให้ใครอื่น

เอเฟซัส 4:1-16

เป็นหนึ่งเดียวกันในพระกายพระคริสต์

ฉะนั้นข้าพเจ้าผู้เป็นนักโทษเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงขอให้ท่านดำเนินชีวิตให้สมกับการทรงเรียกที่ท่านได้รับ จงถ่อมใจและสุภาพอ่อนโยนในทุกด้าน จงอดทนอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก จงเพียรพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในพระวิญญาณโดยมีสันติสุขเป็นเครื่องผูกพัน มีกายเดียวและพระวิญญาณองค์เดียวเหมือนกับที่ทรงเรียกท่านมาสู่ความหวังเดียวเมื่อทรงเรียกท่าน มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว มีพระเจ้าองค์เดียวผู้ทรงเป็นพระบิดาของทั้งปวง ผู้ทรงอยู่เหนือทั้งมวล ทั่วทั้งสิ้น และในทั้งหมด

แต่พระคุณนั้นประทานแก่เราแต่ละคนตามที่พระคริสต์ทรงแบ่งสรร ฉะนั้นจึงมีกล่าว[a]ไว้ว่า

“เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นสู่เบื้องสูง
ทรงนำเชลยไปด้วย
และประทานของประทานแก่มนุษย์”[b]

(ที่ว่า “พระองค์เสด็จขึ้น” นั้นย่อมไม่อาจหมายความเป็นอื่น นอกจากว่าพระองค์ได้เสด็จลงสู่เบื้องต่ำของโลกด้วย[c] 10 พระองค์ผู้เสด็จลงคือองค์เดียวกับที่เสด็จขึ้นสูงเหนือฟ้าสวรรค์ทั้งมวล เพื่อทรงเติมทั่วทั้งจักรวาลให้สมบูรณ์) 11 พระองค์เองทรงให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ 12 เพื่อเตรียมประชากรของพระเจ้าสำหรับงานรับใช้ เพื่อว่าพระกายของพระคริสต์จะได้รับการเสริมสร้างขึ้น 13 จนกว่าเราทั้งหมดจะบรรลุความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์

14 เมื่อนั้นเราจะไม่เป็นทารกอีกต่อไป ถูกกระแสซัดไปซัดมา ถูกพัดไปทางโน้นทางนี้โดยลมปากแห่งคำสอนและโดยกลลวงอันฉ้อฉลแยบยลของมนุษย์ 15 แต่โดยการพูดความจริงด้วยความรัก เราจะเติบโตขึ้นในทุกสิ่งสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์ 16 จากพระองค์ทั่วทั้งกายซึ่งประสานและยึดเข้าด้วยกันโดยเส้นเอ็นทุกเส้นนั้นเจริญเติบโตและเสริมสร้างตัวเองขึ้นในความรัก ขณะที่แต่ละส่วนทำหน้าที่ของตน

สดุดี 68:19-35

19 ขอสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา
ผู้ทรงแบกรับภาระหนักของเราทุกวัน
เสลาห์
20 พระเจ้าของเราทรงเป็นพระเจ้าผู้ช่วยให้รอด
การรอดพ้นจากความตายมาจากพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต
21 แน่ทีเดียว พระเจ้าจะทรงบดขยี้ศีรษะศัตรูของพระองค์
คือศีรษะที่มีผมดกหนาของเหล่าผู้ดำเนินในความบาป
22 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะนำพวกเขาออกมาจากบาชาน
เราจะนำเขาออกมาจากทะเลลึก
23 เพื่อพวกเจ้าจะเอาเลือดศัตรูล้างเท้า
และลิ้นของสุนัขของเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งของมัน”

24 ข้าแต่พระเจ้า ขบวนแห่ของพระองค์ปรากฏขึ้นแล้ว
ขบวนเสด็จของพระเจ้าจอมราชันของข้าพระองค์เคลื่อนเข้าสู่สถานนมัสการ
25 หมู่นักร้องนำหน้า นักดนตรีตามหลัง
บรรดาหญิงสาวที่เล่นรำมะนาก็อยู่กับพวกเขา
26 จงสรรเสริญพระเจ้าในที่ประชุมใหญ่
จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าในที่ชุมนุมประชากรอิสราเอล
27 เบนยามินเผ่าน้อยนำทางไป
นั่นหมู่เจ้านายแห่งยูดาห์
และนั่นเจ้านายแห่งเศบูลุนกับนัฟทาลี

28 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงรวบรวมฤทธานุภาพของพระองค์[a]
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสำแดงพระกำลังของพระองค์เหมือนที่ทรงกระทำมาในอดีต
29 เพราะพระวิหารของพระองค์ในเยรูซาเล็ม
บรรดากษัตริย์จะทรงนำเครื่องราชบรรณาการมาถวายแด่พระองค์
30 ขอทรงลงโทษสัตว์ร้ายในพงอ้อ
ขอทรงลงโทษฝูงโคถึกในหมู่ลูกวัวแห่งชนชาติทั้งหลาย
ขอทรงกระทำให้พวกเขาสยบและนำเงินแท่งมา
ขอทรงกระทำให้ชนชาติต่างๆ ที่ใฝ่สงครามกระจัดกระจายไป
31 บรรดาทูตจะมาจากอียิปต์
คูช[b]จะยอมจำนนต่อพระเจ้า

32 บรรดาอาณาจักรของแผ่นดินโลกเอ๋ย
จงสดุดีพระเจ้าเถิด จงร้องเพลงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า
เสลาห์
33 ผู้เสด็จมาเหนือฟ้าสวรรค์ดึกดำบรรพ์
ผู้เปล่งพระสุรเสียงกัมปนาทกึกก้อง
34 จงประกาศฤทธานุภาพของพระเจ้า
พระบารมีของพระองค์อยู่เหนืออิสราเอล
ฤทธานุภาพของพระองค์อยู่ในฟ้าสวรรค์
35 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงน่าครั่นคร้ามยิ่งนักในสถานนมัสการของพระองค์
พระเจ้าแห่งอิสราเอลประทานฤทธานุภาพ และกำลังแก่ประชากรของพระองค์

ขอถวายสรรเสริญแด่พระเจ้า!

สุภาษิต 24:3-4

คำสอนที่

บ้านนั้นสร้างขึ้นโดยสติปัญญา
และสถาปนาขึ้นด้วยความเข้าใจ
โดยความรู้ ห้องต่างๆ ก็เต็มไปด้วย
ทรัพย์สมบัติล้ำค่าที่งดงามและหายาก

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.