Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the GW. Switch to the GW to read along with the audio.

Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
อิสยาห์ 54:1-57:14

พระเกียรติสิริที่จะมาถึงของศิโยน

54 “จงร้องเพลงเถิด หญิงหมันเอ๋ย
เจ้าผู้ไม่เคยมีลูก
จงเปล่งเสียงร้องเพลงและจงโห่ร้องยินดีเถิด
เจ้าผู้ไม่เคยเจ็บครรภ์
เพราะลูกของหญิงที่โดดเดี่ยว
ก็ยังมีมากกว่าลูกของหญิงผู้มีสามี”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น

“จงขยายที่ตั้งเต็นท์ของเจ้า
ขึงผ้าเต็นท์ออกกว้าง
อย่ารั้งไว้
ต่อเชือกเต็นท์
และตอกหลักหมุดให้มั่นคง
เพราะเจ้าจะขยายออกไปทั้งซ้ายและขวา
ลูกหลานของเจ้าจะยึดกรรมสิทธิ์ของประชาชาติต่างๆ
และตั้งถิ่นฐานในนครต่างๆ ที่เริศร้างของพวกเขา

“อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ต้องทนอับอาย
อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ต้องขายหน้า
เจ้าจะลืมความอัปยศในวัยสาว
และไม่จดจำคำถากถางเรื่องความเป็นม่ายของเจ้าอีก
เพราะพระผู้สร้างของเจ้าเป็นสามีของเจ้า
พระองค์ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลคือพระผู้ไถ่ของเจ้า
เขาจะเรียกพระองค์ว่าพระเจ้าเหนือสากลโลก
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเรียกเจ้ากลับมา
เสมือนหนึ่งเจ้าเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งและชอกช้ำระกำใจ
เป็นภรรยาที่แต่งงานไปตั้งแต่ยังสาว
เพียงเพื่อจะถูกทอดทิ้ง” พระเจ้าของเจ้าตรัสดังนั้น
“เราทอดทิ้งเจ้าชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง
แต่ด้วยความเมตตาอย่างลึกซึ้ง เราจะพาเจ้ากลับมา
ในชั่วขณะหนึ่งของความโกรธ
เราเบือนหน้าหนีไปจากเจ้า
แต่ด้วยความกรุณานิรันดร์
เราจะเมตตาเจ้า”
พระยาห์เวห์พระผู้ไถ่ของเจ้าตรัสไว้ดังนั้น

“สำหรับเราแล้วเรื่องนี้เป็นเหมือนในสมัยโนอาห์
เราปฏิญาณไว้ว่าจะไม่ให้น้ำของโนอาห์ท่วมโลกอีกฉันใด
บัดนี้เราก็ปฏิญาณว่าจะไม่โกรธ
และไม่ตำหนิเจ้าอีกฉันนั้น
10 แม้ภูเขาจะถูกเขย่า
และเนินเขาถูกเขยื้อนไป
แต่ความรักมั่นคงที่เรามีต่อเจ้าจะไม่คลอนแคลน
และพันธสัญญาแห่งสันติภาพของเราจะไม่สูญสิ้นไป”
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเมตตาเจ้าตรัสไว้ดังนั้น

11 “โอ นครซึ่งถูกทรมาน ถูกพายุพัดกระหน่ำ และไม่ได้รับการปลอบโยน
เราจะสร้างเจ้าด้วยไพฑูรย์[a]
ฐานรากของเจ้าคือพลอยสีน้ำเงิน
12 เราจะสร้างหอรบของเจ้าด้วยทับทิม
ประตูของเจ้าทำจากพลอยอันวาววับ
และกำแพงทั้งหมดทำจากอัญมณีล้ำค่า
13 ลูกทุกคนของเจ้าจะรับการสอนจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
พวกเขาจะมีสันติสุขยิ่งใหญ่
14 เจ้าจะได้รับการสถาปนาขึ้นในความชอบธรรม
การกดขี่ข่มเหงจะห่างไกลจากเจ้า
ไม่มีอะไรที่เจ้าต้องกลัว
ความอกสั่นขวัญแขวนจะถูกกำจัดไปไกล
มันจะไม่เฉียดกรายเจ้า
15 หากมีใครโจมตีเจ้า ก็ไม่ใช่ฝีมือของเรา
ผู้ที่โจมตีเจ้าจะยอมแพ้เจ้า

16 “ดูเถิด เราเองเป็นผู้สร้างช่างเหล็ก
ผู้พัดถ่านให้ลุกเป็นไฟ
และผลิตอาวุธที่เหมาะกับงานของมัน
และเราเองที่สร้างผู้ทำลายล้างเพื่อสร้างความย่อยยับ
17 ไม่มีอาวุธชิ้นใดที่ต่อสู้เจ้าแล้วเอาชนะเจ้าได้
เจ้าจะหักล้างทุกลิ้นที่ปรักปรำเจ้า
นี่เป็นมรดกของบรรดาผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
และเป็นการพิสูจน์ยืนยันจากเราว่าเขาไม่ผิด”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

คำเชื้อเชิญบรรดาผู้กระหาย

55 “เชิญทุกคนที่กระหาย
มาดื่มน้ำเถิด
และผู้ที่ไม่มีเงิน
จงมาซื้อกินเถิด!
มาเถิด มาซื้อเหล้าองุ่นและน้ำนม
โดยไม่คิดเงินและไม่คิดมูลค่า
ทำไมเจ้าจึงใช้จ่ายเงินซื้อสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร
และลงแรงทำสิ่งที่ไม่ช่วยให้อิ่มใจ?
จงฟังเถิด จงฟังเราและรับประทานสิ่งที่ดี
แล้วจิตวิญญาณของเจ้าจะปีติยินดีในอาหารอันอุดมสมบูรณ์ที่สุด
จงเงี่ยหูและมาหาเรา
มาฟังเราเพื่อจิตวิญญาณของเจ้าจะมีชีวิตอยู่
เราจะทำพันธสัญญานิรันดร์กับเจ้า
ว่าด้วยความรักอันซื่อสัตย์ซึ่งเราสัญญาไว้กับดาวิด
ดูเถิด เราได้ทำให้เขาเป็นพยานแก่ประชาชาติต่างๆ
เป็นผู้นำและผู้บังคับบัญชาประชาชาติทั้งหลาย
แน่ทีเดียวเจ้าจะเรียกประชาชาติซึ่งเจ้าไม่รู้จักมาชุมนุม
และประชาชาติซึ่งไม่รู้จักเจ้าจะรีบรุดมาหาเจ้า
เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลประทานความรุ่งโรจน์แก่เจ้า”

จงแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าขณะที่จะพบพระองค์ได้
จงร้องทูลพระองค์ขณะที่พระองค์ยังทรงอยู่ใกล้
ให้คนชั่วร้ายละทิ้งวิถีทางของตน
และให้คนชั่วละทิ้งความคิดของตน
ให้เขาหันกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์จะทรงเมตตาเขา
ให้เขาหันกลับมาหาพระเจ้าของเรา เพราะพระองค์จะทรงให้อภัยโดยไม่คิดมูลค่า

“เพราะความคิดของเราไม่เป็นความคิดของเจ้า
ทั้งวิถีทางของเจ้าไม่เป็นวิถีทางของเรา”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

“ฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกฉันใด
วิถีของเราก็สูงกว่าทางของเจ้า
และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น
10 เฉกเช่นฝนและหิมะ
โปรยลงมาจากฟ้าสวรรค์
และไม่กลับไปที่นั่น
จนกว่าจะทำให้แผ่นดินโลกชุ่มฉ่ำ
และทำให้พืชพันธุ์แตกหน่องอกงาม
เพื่อให้มันเกิดเมล็ดสำหรับผู้หว่านและอาหารสำหรับผู้บริโภค
11 ถ้อยคำที่ออกจากปากของเราก็เป็นเช่นนั้น
มันจะไม่กลับคืนมายังเราโดยเปล่าประโยชน์
แต่จะสัมฤทธิ์ผลตามที่เราปรารถนา
และสำเร็จตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้
12 เจ้าจะออกไปด้วยความชื่นชมยินดี
และถูกนำออกไปด้วยสันติสุข
ภูเขาและเนินเขาจะเปล่งเสียงร้องเพลงต่อหน้าเจ้า
บรรดาต้นไม้ในทุ่งนาจะปรบมือ
13 ต้นสนจะงอกขึ้นแทนที่พุ่มหนาม
พันธุ์ไม้หอมจะงอกขึ้นแทนที่ต้นหนาม
การนี้จะเป็นที่เชิดชูองค์พระผู้เป็นเจ้า
เป็นหมายสำคัญนิรันดร์ซึ่งจะไม่ถูกทำลายเลย”

ความรอดสำหรับคนอื่นๆ

56 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า

“จงผดุงความยุติธรรม
และทำสิ่งที่ถูกต้อง
เพราะความรอดของเราใกล้เข้ามาแล้ว
และความชอบธรรมของเราจะปรากฏในไม่ช้า
ความสุขมีแก่ผู้ที่ทำเช่นนี้
คือผู้ที่ยึดถือไว้อย่างเหนียวแน่น
ผู้ถือรักษาวันสะบาโตโดยไม่ลบหลู่ดูหมิ่น
และยับยั้งมือของตนจากการทำชั่วใดๆ”

อย่าให้คนต่างชาติผู้อุทิศตนแด่องค์พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงแยกข้าพเจ้าจากประชากรของพระองค์เป็นแน่”
และอย่าให้ขันทีบ่นว่า
“ข้าพเจ้าเป็นเพียงต้นไม้แห้ง”

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“เหล่าขันทีซึ่งรักษาวันสะบาโตของเรา
ผู้เลือกทำสิ่งที่เราพอใจ
และยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา
เราจะมอบอนุสรณ์และชื่อ
ที่อยู่ภายในวิหารและภายในกำแพงวิหารของเราแก่พวกเขา
ซึ่งดีกว่าบุตรชายบุตรสาวเสียอีก
เราจะให้นามนิรันดร์แก่พวกเขา
เป็นนามที่จะไม่ถูกตัดออก
และคนต่างชาติที่ผูกพันตนกับองค์พระผู้เป็นเจ้า
เพื่อปรนนิบัติพระองค์
เพื่อรักพระนามพระยาห์เวห์
และเพื่อนมัสการพระองค์
ทุกคนที่รักษาวันสะบาโตโดยไม่ลบหลู่ดูหมิ่น
ผู้ที่ยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา
เราจะพาพวกเขามายังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา
และให้พวกเขาชื่นชมยินดีในนิเวศแห่งการอธิษฐานของเรา
เราจะรับเครื่องเผาบูชาและเครื่องถวายบูชาของเขา
บนแท่นบูชาของเรา
เพราะนิเวศของเราจะได้ชื่อว่า
นิเวศแห่งการอธิษฐานสำหรับมวลประชาชาติ”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตผู้รวบรวมเชลยอิสราเอลประกาศว่า
“เราจะรวบรวมคนอื่นมารวมกับพวกเขา
นอกเหนือจากคนที่รวมกันอยู่แล้ว”

พระเจ้าทรงกล่าวโทษคนชั่วร้าย

มาสิ มวลสัตว์ป่าแห่งท้องทุ่งเอ๋ย
มาขย้ำกินสิ บรรดาสัตว์ป่าแห่งพงไพร!
10 คนยามของอิสราเอลตาบอด
พวกเขาล้วนขาดความรู้
พวกเขาเป็นสุนัขใบ้
เห่าไม่ได้
พวกเขาเอาแต่นอนฝัน
พวกเขารักการหลับใหล
11 พวกเขาเป็นสุนัขตะกละ
เป็นคนเลี้ยงแกะที่ขาดความเข้าใจ
ทุกคนหันไปตามทางของตน
แต่ละคนล้วนมุ่งหาผลประโยชน์ใส่ตัว
12 ต่างก็ว่า “มาเถิด เอาเหล้าองุ่นมาให้เรา!
เอาสุรามาให้เราดื่มเต็มที่!
และพรุ่งนี้ก็จะเป็นเหมือนวันนี้
หรือดียิ่งขึ้นไปอีก”

57 คนชอบธรรมพินาศไป และไม่มีใครใส่ใจ
คนที่ดำเนินในทางของพระเจ้าถูกคร่าไป
และไม่มีใครเข้าใจ
ว่าคนชอบธรรมถูกรับไป
เพื่อให้พ้นจากความเลวร้าย
บรรดาผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างเที่ยงธรรมเข้าสู่สันติสุข
พวกเขาได้พักสงบเมื่อพวกเขาตาย

“ส่วนเจ้า จงมาที่นี่ เจ้าลูกแม่มดหมอผี
เจ้าผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคนล่วงประเวณีและหญิงโสเภณี!
เจ้าเย้ยหยันใคร?
เจ้าหัวเราะเยาะใคร?
เจ้าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ใคร?
เจ้าเป็นเทือกเถาเหล่ากอของคนทรยศ
และเป็นวงศ์วานของคนโกหกไม่ใช่หรือ?
เจ้าเร่าร้อนด้วยราคะในหมู่ต้นโอ๊ก
และใต้ต้นไม้ใบดกทุกต้น
เจ้าสังเวยลูกของเจ้าในหุบเขาลึก
และใต้ชะง่อนผา
รูปเคารพท่ามกลางหินเรียบในหุบเขาลึกเป็นส่วนของเจ้า
พระเหล่านั้นเป็นส่วนของเจ้า
ใช่ เจ้าได้ถวายเครื่องดื่มบูชา
และเครื่องธัญบูชาแก่พวกมัน
เพราะสิ่งเหล่านี้ เราควรจะยกโทษให้เจ้าหรือ?
เจ้าได้ตั้งเตียงไว้บนภูเขาสูงเด่น
เจ้าขึ้นไปถวายเครื่องบูชาของเจ้าที่นั่น
ข้างหลังประตูและเสาประตูของเจ้า
เจ้าได้ตั้งสัญลักษณ์นอกศาสนาไว้
เจ้าละทิ้งเรา เจ้าเปิดผ้าคลุมเตียง
เจ้าขึ้นไปบนเตียงและเปิดกว้าง
เจ้าทำสัญญากับบรรดาเจ้าของเตียงที่เจ้ารัก
และมองดูความเปลือยเปล่าของเขา
เจ้าไปหาพระโมเลค[b]พร้อมกับน้ำมันมะกอก
และเพิ่มน้ำหอมของเจ้า
เจ้าส่งคณะทูต[c]ของเจ้าไปไกล
ถึงขนาดลงไปยังแดนผู้ตาย!
10 เจ้าอ่อนระโหยไปเพราะวิถีทางของเจ้า
แต่เจ้าก็ไม่เคยพูดว่า ‘หมดหวัง’
เจ้าฟื้นกำลังตัวเอง
เจ้าจึงไม่อ่อนเปลี้ยไป

11 “เจ้าเกรงกลัวใครหนักหนา?
จึงได้ไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา
ไม่นึกถึงเรา
และไม่ใคร่ครวญสิ่งนี้ในใจ
เป็นเพราะเรานิ่งเงียบอยู่นานอย่างนั้นหรือ
เจ้าจึงไม่ยำเกรงเรา?
12 เราจะเปิดเผยความชอบธรรมและการกระทำทั้งหลายของเจ้า
แต่มันจะไม่เป็นประโยชน์อันใดแก่เจ้า
13 เมื่อเจ้าร้องขอความช่วยเหลือ
ก็ให้รูปเคารพทั้งหลายของเจ้าช่วยเจ้าสิ!
ลมจะหอบเอาพวกมันไป
แค่ลมหายใจวูบเดียวก็พัดพวกมันปลิวไปได้
แต่ส่วนผู้ที่ลี้ภัยในเรา
จะได้รับดินแดนนั้นเป็นกรรมสิทธิ์
และมีสิทธิ์ครอบครองภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา”

การปลอบโยนผู้สำนึกผิด

14 และจะมีเสียงกล่าวว่า

“จงสร้างขึ้น จงสร้างขึ้นเถิด จงเตรียมทางไว้!
จงขจัดอุปสรรคต่างๆ ออกจากวิถีทางของประชากรของเรา”

เอเฟซัส 6

บุตรกับบิดามารดา

ผู้ที่เป็นบุตรจงเชื่อฟังบิดามารดาในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะนี่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง “จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า” นี่เป็นพระบัญญัติข้อแรกที่มีพระสัญญาไว้ด้วย “เพื่อเจ้าจะอยู่เย็นเป็นสุขและมีชีวิตยืนยาวในโลก”[a]

ผู้ที่เป็นบิดาอย่ายั่วโทสะบุตรของตน แต่จงอบรมเลี้ยงดูโดยการฝึกฝนและสั่งสอนตามแนวขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ทาสกับนาย

ผู้ที่เป็นทาสจงเชื่อฟังเจ้านายฝ่ายโลกด้วยความเคารพยำเกรงและด้วยความจริงใจ เหมือนที่ท่านเชื่อฟังพระคริสต์ ไม่เพียงแต่เชื่อฟังเจ้านายต่อหน้าเพื่อให้เขาพึงพอใจ แต่ให้เป็นเหมือนทาสของพระคริสต์ คือทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าจากใจของท่าน จงรับใช้ด้วยความเต็มใจราวกับกำลังรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ใช่มนุษย์ เพราะท่านรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงปูนบำเหน็จความดีความชอบแก่ทุกคนที่ทำดี ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นทาสหรือเป็นไท

ผู้ที่เป็นนายจงปฏิบัติต่อทาสในทำนองเดียวกัน อย่าข่มขู่เขาในเมื่อรู้อยู่ว่าพระองค์ผู้ทรงเป็นองค์เจ้านายทั้งของเขาและของท่านนั้นอยู่ในสวรรค์ และพระองค์ไม่ทรงลำเอียงเข้าข้างใคร

ยุทธภัณฑ์ของพระเจ้า

10 สุดท้ายนี้จงเข้มแข็งในองค์พระผู้เป็นเจ้าและในฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ 11 จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าเพื่อท่านจะยืนหยัดต่อสู้แผนการทั้งหลายของมารได้ 12 เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับเหล่าเทพผู้ครอง เทพผู้ทรงอำนาจ เทพผู้ทรงเดชานุภาพของโลกอันมืดมนนี้ และต่อสู้กับเหล่าวิญญาณชั่วในย่านฟ้าอากาศ 13 ฉะนั้นจงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าเพื่อท่านจะยืนหยัดรับมือได้เมื่อถึงวันอันชั่วร้าย และหลังจากท่านได้ผ่านทุกอย่างแล้ว ท่านก็ยังยืนหยัดอยู่ได้ 14 ด้วยเหตุนี้จงยืนหยัดมั่นคง โดยคาดเอวด้วยเข็มขัดแห่งความจริง สวมเสื้อเกราะแห่งความชอบธรรม 15 สวมรองเท้าที่ทำให้พร้อมประกาศข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข 16 นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จงยึดโล่แห่งความเชื่อ ซึ่งพวกท่านใช้ดับลูกศรเพลิงทั้งปวงของมารร้ายได้ 17 จงสวมหมวกเกราะแห่งความรอด และถือดาบแห่งพระวิญญาณคือพระวจนะของพระเจ้า 18 และจงอธิษฐานในพระวิญญาณทุกโอกาสด้วยการอธิษฐานและการวิงวอนทุกรูปแบบ โดยคำนึงถึงสิ่งนี้จงเฝ้าระวังด้วยความมานะอดทนและด้วยการวิงวอนเผื่อประชากรทั้งปวงของพระเจ้าเสมอ

19 และเผื่อข้าพเจ้าด้วย เพื่อว่าเมื่อใดที่ข้าพเจ้าเอ่ยปากพระเจ้าจะประทานถ้อยคำให้ข้าพเจ้าสำแดงข้อล้ำลึกแห่งข่าวประเสริฐอย่างกล้าหาญ 20 เพราะข่าวประเสริฐนี้ข้าพเจ้าจึงเป็นทูตที่ถูกล่ามโซ่อยู่ เพื่อว่าข้าพเจ้าจะประกาศข่าวประเสริฐอย่างกล้าหาญตามที่ข้าพเจ้าสมควรจะทำ

คำลงท้าย

21 ทีคิกัสน้องที่รัก ผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเล่าทุกอย่างให้ท่านฟัง เพื่อท่านจะได้ทราบด้วยว่าข้าพเจ้าเป็นอย่างไร และกำลังทำอะไรอยู่ 22 ข้าพเจ้าจะส่งเขาไปหาท่านก็เพราะจุดประสงค์ข้อนี้เอง คือเพื่อให้ท่านทราบว่าพวกเราเป็นอยู่อย่างไรและเพื่อเขาจะได้ให้กำลังใจท่าน

23 ขอสันติสุขและความรักด้วยความเชื่อจากพระเจ้าพระบิดาและจากองค์พระเยซูคริสต์เจ้ามีแก่พี่น้องทั้งหลาย 24 ขอพระคุณดำรงอยู่กับคนทั้งปวงที่รักองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเราด้วยความรักอันไม่เสื่อมสลาย

สดุดี 70

(สดด.40:13-17)

(ถึงหัวหน้านักร้อง คำทูลวิงวอนของดาวิด)

70 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงรีบมาช่วยข้าพระองค์
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดเสด็จมาช่วยข้าพระองค์โดยเร็วเถิด

ขอให้ผู้ที่มุ่งเอาชีวิตข้าพระองค์
ต้องอับอายและอลหม่าน
ขอให้บรรดาผู้ที่อยากให้ข้าพระองค์พินาศ
ต้องอัปยศอดสูกลับไป
ขอให้ผู้ที่พูดกับข้าพระองค์ว่า “นั่นไง! นั่นไง!”
ล่าถอยกลับไปด้วยความอับอาย
แต่ขอให้คนทั้งปวงที่แสวงหาพระองค์
ชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ในพระองค์
ขอให้บรรดาผู้ที่รักความรอดของพระองค์กล่าวเสมอว่า
“ขอให้พระเจ้าเป็นที่ยกย่องเทิดทูน!”

ส่วนข้าพระองค์ยากจนและแร้นแค้น
ข้าแต่พระเจ้า โปรดเสด็จมาหาข้าพระองค์โดยเร็วเถิด
พระองค์ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์และพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขออย่าทรงล่าช้า

สุภาษิต 24:8

คำสอนที่

ผู้ที่คิดการชั่ว
จะถูกเรียกว่าคนเจ้าอุบาย

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.