Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the GW. Switch to the GW to read along with the audio.

Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
อิสยาห์ 57:15-59:21

15 เพราะพระองค์ผู้สูงเด่นซึ่งดำรงอยู่นิรันดร์
ผู้ทรงพระนามว่าบริสุทธิ์ ตรัสว่า
“เราอาศัยอยู่ในที่สูงส่งและบริสุทธิ์
แต่ก็สถิตกับคนที่สำนึกผิดและถ่อมใจลง
เพื่อฟื้นจิตวิญญาณของคนที่ถ่อมใจ
และฟื้นใจคนที่สำนึกผิด
16 เราจะไม่กล่าวโทษเนืองนิตย์หรือโกรธเคืองอยู่ร่ำไป
มิฉะนั้นแล้วจิตวิญญาณของมนุษย์จะสิ้นแรงต่อหน้าเรา
ลมหายใจของมนุษย์ที่เราสร้างขึ้นจะขาดรอน
17 เราโกรธเพราะความโลภที่เป็นบาปหนาของเขา
เราลงโทษเขาและหันหน้าหนีด้วยความโกรธ
แต่เขาก็ยังคงทำตามใจชอบของตน
18 เราได้เห็นวิถีทางของเขาแล้ว แต่เราจะรักษาเขาให้หาย
เราจะนำเขาและปลอบโยนเขาอีกครั้งหนึ่ง
19 ให้ริมฝีปากของบรรดาผู้ไว้ทุกข์ในอิสราเอลกล่าวคำสรรเสริญ
สันติสุข สันติสุขแก่ทั้งคนที่อยู่ไกลและอยู่ใกล้
เพราะเราจะรักษาพวกเขา” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น
20 แต่คนชั่วร้ายเหมือนทะเลปั่นป่วน
ซึ่งไม่อาจสงบนิ่ง
คลื่นของเขากวนเลนและโคลนขึ้นมา
21 พระเจ้าของข้าพเจ้าตรัสว่า
“ไม่มีสันติสุขสำหรับคนชั่ว”

การถืออดอาหารที่แท้จริง

58 “จงตะโกนดังๆ ไม่ต้องออมเสียงไว้
จงเปล่งเสียงให้ดังเหมือนเสียงแตรเขาสัตว์
จงแจ้งประชากรของเราถึงการทรยศของพวกเขา
และแจ้งวงศ์วานของยาโคบถึงบาปทั้งหลายของเขา
พวกเขาแสวงหาเราวันแล้ววันเล่า
ทำทีกระตือรือร้นอยากรู้จักทางของเรา
ราวกับว่าพวกเขาเป็นชนชาติที่ทำสิ่งที่ถูกต้อง
และไม่ได้ละทิ้งคำบัญชาของพระเจ้า
พวกเขาทูลขอการตัดสินอย่างเที่ยงธรรมจากเรา
และทำเหมือนว่าอยากให้พระเจ้าเข้ามาใกล้
พวกเขากล่าวว่า ‘ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ถืออดอาหาร
แต่ทำไมพระองค์ไม่เห็นบ้าง?
ข้าพระองค์ทั้งหลายถ่อมกายถ่อมใจลงแล้ว
แต่ทำไมพระองค์ยังไม่สังเกตบ้างเลย?’

“ถึงกระนั้นในวันที่เจ้าถืออดอาหาร เจ้าก็ยังทำตามใจชอบ
และขูดรีดคนงานทุกคนของเจ้า
การถืออดอาหารของเจ้าจบลงด้วยการทะเลาะวิวาทและการต่อสู้
พวกเจ้าชกต่อยกันเองด้วยหมัดอันโหดร้าย
อย่าหวังว่าการถืออดอาหารของเจ้าอย่างที่ทำในวันนี้
จะทำให้เสียงอ้อนวอนของเจ้าขึ้นไปถึงเบื้องบนได้
นี่หรือคือการถืออดอาหารที่เราเลือก? แค่เป็นวันที่ให้มนุษย์มาถ่อมลง
แค่เป็นวันให้เขาก้มหัวลงเหมือนต้นอ้อ
และสวมผ้ากระสอบนอนลงในกองขี้เถ้าหรือ?
นี่หรือที่เจ้าเรียกว่าการถืออดอาหาร?
นี่หรือวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยอมรับ?

“อย่างนี้ไม่ใช่หรือคือการถืออดอาหารที่เราเลือกไว้?
คือการปลดโซ่ตรวนแห่งความอยุติธรรม
แก้สายรัดแอก
ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ข่มเหงให้เป็นอิสระ
และหักแอกทุกอัน
ไม่ใช่เป็นการแบ่งปันอาหารของเจ้าแก่ผู้หิวโหย
และให้ที่พักพิงแก่คนยากจนเร่ร่อนหรือ?
ไม่ใช่การให้เสื้อผ้าแก่ผู้เปลือยกายที่เจ้าพบ
และช่วยเหลือเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้าเองหรือ?
เมื่อนั้นความสว่างของเจ้าจะเจิดจ้าดั่งรุ่งอรุณ
เจ้าจะรับการบำบัดรักษาอย่างรวดเร็ว
เมื่อนั้นความชอบธรรมของเจ้า[a]จะนำหน้าเจ้า
และพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะระวังหลังให้เจ้า
เมื่อนั้นเจ้าจะร้องทูล และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงตอบ
เจ้าจะร้องขอความช่วยเหลือ และพระองค์จะตรัสว่าเราอยู่ที่นี่

“หากเจ้ากำจัดแอกของการกดขี่ข่มเหง
ขจัดการชี้นิ้วและคำพูดมุ่งร้าย
10 และหากเจ้าอุทิศตนเพื่อผู้หิวโหย
ให้ผู้ถูกกดขี่ข่มเหงที่ขัดสนอิ่มเอมใจ
เมื่อนั้นความสว่างของเจ้าจะส่องขึ้นมาในความมืด
และค่ำคืนของเจ้าจะกลับกลายเป็นเหมือนเที่ยงวัน
11 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงนำเจ้าตลอดไป
จะทรงให้เจ้าอิ่มเอมใจในดินแดนที่ดวงตะวันแผดเผา
พระองค์จะทรงทำให้ร่างกายของเจ้าแข็งแรงขึ้น
เจ้าจะเป็นเหมือนสวนที่ได้รับการรดน้ำอย่างดี
เหมือนน้ำพุที่มีน้ำไหลอยู่ตลอด
12 ประชากรของเจ้าจะสร้างซากปรักหักพังโบราณขึ้นใหม่
และจะฟื้นฟูฐานรากสมัยเก่าก่อน
เจ้าจะได้รับการขนานนามว่าผู้ซ่อมกำแพงที่หักพัง
ผู้ซ่อมถนนหนทางและบ้านเรือน

13 “หากเจ้าหยุดเหยียบย่ำวันสะบาโต
ไม่ทำอะไรตามใจชอบในวันบริสุทธิ์ของเรา
หากเจ้าเรียกวันสะบาโตว่าวันปีติยินดี
เรียกวันบริสุทธิ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่าวันอันทรงเกียรติ
และหากเจ้าให้เกียรติวันนี้โดยไม่ทำอะไรตามใจชอบ
ไม่ทำตามความพอใจของตนเองหรือพูดแต่เรื่องไร้สาระ
14 เมื่อนั้นเจ้าจะพบความยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า
และเราจะให้เจ้าทะยานขึ้นเบื้องสูงของดินแดน
และเราจะเลี้ยงเจ้าด้วยมรดกของยาโคบบิดาของเจ้า”
            พระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสดังนั้น

บาป การสารภาพ และการไถ่

59 แน่ทีเดียว พระกรขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้สั้นเกินกว่าจะช่วยให้รอด
ทั้งพระกรรณของพระองค์ก็ไม่ได้ตึงเกินกว่าจะได้ยิน
แต่ความชั่วช้าของเจ้าต่างหาก
ที่ได้แยกเจ้าออกจากพระเจ้าของเจ้า
บาปของเจ้าทำให้พระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์จากเจ้า
พระองค์จึงไม่สดับฟัง
มือของเจ้าเกรอะกรังไปด้วยเลือด
นิ้วของเจ้าเปรอะเปื้อนความผิด
ริมฝีปากของเจ้าพูดโกหก
ลิ้นของเจ้าพึมพำสิ่งชั่วร้าย
ไม่มีใครเรียกร้องให้มีความยุติธรรม
ไม่มีใครดำเนินคดีด้วยความสัตย์สุจริต
พวกเขาวางใจในการโต้แย้งอันไร้สาระและพูดโกหก
ก่อความเดือดร้อนและให้กำเนิดความชั่วร้าย
เขาฟักไข่งูพิษ
และทอใยแมงมุม
ใครกินไข่ของเขาก็จะตาย
และเมื่อไข่ฟองไหนแตก งูพิษก็เลื้อยออกมา
ใยแมงมุมที่พวกเขาทอขึ้นมาก็ใช้ประโยชน์เป็นเสื้อผ้าไม่ได้
เขาไม่สามารถปกคลุมตัวเองด้วยสิ่งที่ตนทำขึ้น
การกระทำของเขาชั่วร้าย
มือของเขาพร้อมที่จะก่อความรุนแรง
เท้าของเขาถลันเข้าหาบาป
และพวกเขารีบเร่งจะเอาชีวิตผู้บริสุทธิ์
ความคิดคำนึงของเขาล้วนแล้วแต่ชั่ว
วิถีทางของเขามีการทำลายล้างผลาญ
เขาไม่รู้จักทางแห่งสันติภาพ
ไม่มีความยุติธรรมในหนทางของเขา
เขาผันแปรมันให้เป็นถนนที่คดเคี้ยว
ไม่มีใครที่ดำเนินในทางนั้นจะรู้จักสันติสุข

ฉะนั้นความยุติธรรมจึงห่างไกลจากพวกเรา
และความชอบธรรมไม่ได้มาถึงเรา
เรามองหาความสว่าง ก็พบแต่ความมืดมน
เรามองหาความสดใส แต่เราก็เดินอยู่ในเงามืดมิด
10 เราคลำสะเปะสะปะไปตามกำแพงเหมือนคนตาบอด
คลำหาทางเหมือนคนไม่มีตา
กลางวันแสกๆ เราก็ล้มลุกคลุกคลานเหมือนยามสนธยา
เราจึงเป็นเหมือนคนตายในหมู่คนเข้มแข็ง
11 เราทุกคนครางเหมือนหมี
โอดครวญเสียงเศร้าสร้อยเหมือนนกพิราบ
เรามองหาความยุติธรรมแต่ไม่พบเลย
มองหาการช่วยกู้แต่ก็อยู่ไกลลิบ

12 เพราะการละเมิดของเรามากมายนักในสายพระเนตรของพระองค์
บาปทั้งหลายของเราฟ้องร้องเรา
การละเมิดของเราอยู่กับเราเสมอ
และเรายอมรับความชั่วช้าของเรา
13 เรากบฏทรยศต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
หันหลังให้พระเจ้าของเรา
เราก่อการกดขี่ข่มเหงและการกบฏ
กล่าวคำโกหกซึ่งเราคิดไว้ในใจ
14 ดังนั้นความยุติธรรมจึงถดถอย
ความชอบธรรมหลีกห่าง
ความจริงสะดุดกลางถนน
ความซื่อสัตย์ไม่อาจเข้ามาได้
15 หาความจริงไม่พบเลยไม่ว่าที่ไหน
ผู้ที่หลีกหนีจากความชั่วกลับตกเป็นเหยื่อ

องค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรแล้วก็ไม่พอพระทัย
เนื่องจากไม่มีความยุติธรรมเลย
16 พระองค์ทรงเห็นว่าไม่มีใครเลย
และตกพระทัยที่ไม่มีใครก้าวเข้ามาช่วย
ดังนั้นพระกรของพระองค์เองจึงนำความรอดมา
และความชอบธรรมของพระองค์ก็ค้ำจุนพระองค์ไว้
17 พระองค์ทรงสวมความชอบธรรมเป็นเสื้อเกราะ
และทรงสวมหมวกเหล็กแห่งความรอดไว้บนพระเศียร
ทรงฉลองพระองค์ด้วยเสื้อคลุมแห่งการแก้แค้น
และทรงห่มความกระตือรือร้นเหมือนห่มเสื้อคลุม
18 พระองค์จะทรงตอบแทนศัตรูทั้งหลายของพระองค์ด้วยพระพิโรธ
และจะทรงแก้แค้นบรรดาปฏิปักษ์ของพระองค์ให้สาสมกับการกระทำของพวกเขา
พระองค์จะทรงตอบแทนเกาะแก่งต่างๆ ตามที่มันสมควรจะได้รับ
19 ผู้คนจากตะวันตกจะยำเกรงพระนามของพระยาห์เวห์
และจากที่พระอาทิตย์ขึ้น พวกเขาจะยกย่องพระเกียรติสิริของพระองค์
เพราะพระองค์จะเสด็จมาเหมือนกระแสน้ำเชี่ยว
ซึ่งขับเคลื่อนด้วยลมปราณขององค์พระผู้เป็นเจ้า[b]

20 “พระผู้ไถ่จะเสด็จมายังศิโยน
มายังคนในวงศ์วานยาโคบที่กลับใจจากบาปของพวกเขา”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

21 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ส่วนเรา นี่เป็นพันธสัญญาของเรากับพวกเขา จิตวิญญาณของเราซึ่งอยู่กับเจ้าและถ้อยคำของเราซึ่งเราใส่ไว้ในปากของเจ้าจะไม่พรากไปจากปากของเจ้า หรือจากปากลูกๆ ของเจ้า หรือจากปากลูกหลานของพวกเขานับแต่บัดนี้จวบจนนิรันดร์” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น

ฟีลิปปี 1:1-26

จดหมายฉบับนี้จากข้าพเจ้าเปาโลกับทิโมธีผู้เป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์

ถึงประชากรทุกคนของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ที่เมืองฟีลิปปี ตลอดจนคณะผู้ปกครอง[a] และคณะมัคนายก

ขอพระคุณและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเราและจากองค์พระเยซูคริสต์เจ้ามีแก่พวกท่าน

ขอบพระคุณและทูลขอ

ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าทุกครั้งที่ระลึกถึงพวกท่าน ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าอธิษฐานเผื่อพวกท่านทั้งปวง ข้าพเจ้าก็อธิษฐานด้วยความชื่นชมยินดีเสมอ เพราะท่านมีส่วนร่วมในข่าวประเสริฐตั้งแต่แรกจวบจนบัดนี้ ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพระองค์ผู้ทรงตั้งต้นการดีในพวกท่านนั้นจะทรงสานต่อให้เสร็จสมบูรณ์จนถึงวันแห่งพระเยซูคริสต์

สมควรแล้วที่ข้าพเจ้ารู้สึกเช่นนี้เกี่ยวกับพวกท่านทุกคน เนื่องจากพวกท่านอยู่ในดวงใจของข้าพเจ้า เพราะไม่ว่าข้าพเจ้าจะถูกจองจำหรือกำลังกล่าวปกป้องและยืนยันข่าวประเสริฐนั้น พวกท่านก็มีส่วนร่วมกับข้าพเจ้าในงานที่พระเจ้าประทานแก่ข้าพเจ้าโดยพระคุณของพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นพยานได้ว่าข้าพเจ้าปรารถนาจะพบพวกท่านทั้งปวงมากเพียงใด ข้าพเจ้ารักท่านด้วยความรักของพระเยซูคริสต์

และข้าพเจ้าอธิษฐานว่าขอให้ความรักของท่านทวียิ่งๆ ขึ้น มีความรู้และความเข้าใจอันลึกซึ้ง 10 เพื่อท่านจะสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรดีที่สุด และเพื่อท่านจะได้บริสุทธิ์ปราศจากที่ติจนกว่าจะถึงวันแห่งพระคริสต์ 11 และเปี่ยมด้วยผลแห่งความชอบธรรมซึ่งมาทางพระเยซูคริสต์ อันเป็นการถวายพระเกียรติสิริและการสรรเสริญแด่พระเจ้า

การถูกจองจำของเปาโลทำให้ข่าวประเสริฐแพร่ออกไป

12 พี่น้องทั้งหลาย บัดนี้ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทราบว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เกิดกับข้าพเจ้ากลับทำให้ข่าวประเสริฐแพร่ออกไป 13 จนทหารทั้งปวงที่รักษาวัง[b] และคนอื่นๆ ทุกคนประจักษ์ทั่วกันว่าข้าพเจ้าถูกจองจำเพื่อพระคริสต์ 14 เพราะการที่ข้าพเจ้าถูกจองจำทำให้พี่น้องส่วนใหญ่ในองค์พระผู้เป็นเจ้าได้รับกำลังใจให้กล่าวพระวจนะของพระเจ้าอย่างกล้าหาญและไม่หวั่นเกรงมากขึ้น

15 จริงอยู่บางคนประกาศพระคริสต์ด้วยจิตใจที่อิจฉาและชิงดีชิงเด่น แต่คนอื่นๆ ประกาศด้วยเจตนาดี 16 คนกลุ่มหลังทำด้วยความรักโดยรู้ว่าข้าพเจ้าถูกจับมาที่นี่ก็เพราะปกป้องข่าวประเสริฐ 17 ส่วนพวกแรกนั้นประกาศพระคริสต์ด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูงอย่างเห็นแก่ตัว ไม่ใช่ด้วยใจจริง หวังสร้างความเดือดร้อนให้ข้าพเจ้าขณะถูกจองจำ[c] 18 แต่จะเป็นไรเล่า? ไม่ว่าจะทำด้วยแรงจูงใจที่ผิดหรือถูก สิ่งสำคัญคือเขาได้ประกาศพระคริสต์ก็แล้วกัน เพราะสิ่งนี้ทำให้ข้าพเจ้าชื่นชมยินดี

และข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีต่อไป 19 เพราะรู้ว่าโดยคำอธิษฐานของท่านและโดยความช่วยเหลือที่พระวิญญาณของพระเยซูคริสต์ประทาน สิ่งที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าจะทำให้ข้าพเจ้ารอดพ้น 20 ข้าพเจ้ามาดมั่นและมุ่งหวังไว้ว่าข้าพเจ้าจะไม่ทำสิ่งใดให้เป็นที่ละอายเลย แต่จะมีความกล้าหาญเพียงพอ เพื่อบัดนี้พระคริสต์จะได้รับเกียรติเพราะกายของข้าพเจ้าเหมือนที่เคยได้รับเสมอมา ไม่ว่าข้าพเจ้าจะอยู่หรือจะตาย 21 เพราะสำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์และการตายก็ได้กำไร 22 ถ้ายังมีชีวิตอยู่ในกายนี้ต่อไปก็หมายความว่าข้าพเจ้าจะทำงานอย่างเกิดผล แต่ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าจะเลือกทางไหนดี? 23 ยังลังเลใจอยู่ระหว่างสองทาง ใจหนึ่งอยากจากไปเพื่ออยู่กับพระคริสต์ซึ่งประเสริฐกว่ามากนัก 24 แต่การที่ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ก็จำเป็นสำหรับพวกท่านมากกว่า 25 เมื่อแน่ใจอย่างนี้ข้าพเจ้าก็รู้ว่าจะยังอยู่กับพวกท่านทั้งปวงต่อไป เพื่อความก้าวหน้าและความชื่นชมยินดีของท่านในความเชื่อ 26 เพื่อว่าเมื่อข้าพเจ้าได้อยู่กับพวกท่านอีก พวกท่านก็จะชื่นชมยินดีในพระเยซูคริสต์อย่างเปี่ยมล้นเนื่องด้วยข้าพเจ้า

สดุดี 71

(สดด.31:1-4)

71 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ลี้ภัยในพระองค์
ขออย่าให้ข้าพระองค์อับอายเลย
ขอทรงช่วยและปลดปล่อยข้าพระองค์ในความชอบธรรมของพระองค์
ขอทรงเอียงพระกรรณสดับฟังและช่วยกู้ข้าพระองค์
ขอทรงเป็นศิลาให้ข้าพระองค์เข้าลี้ภัย
ซึ่งข้าพระองค์สามารถเข้าพักพิงได้เสมอ
ขอทรงบัญชาให้ช่วยกู้ข้าพระองค์
เพราะพระองค์ทรงเป็นศิลาและเป็นป้อมปราการของข้าพระองค์
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากมือของคนชั่ว
พ้นจากเงื้อมมือของเหล่าคนโหดร้ายทารุณ

ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต เพราะพระองค์ทรงเป็นความหวังของข้าพระองค์
เป็นความมั่นใจของข้าพระองค์มาตั้งแต่เยาว์วัย
ข้าพระองค์พึ่งพาพระองค์มาตั้งแต่เกิด
พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์มารดา
ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ตลอดไป
ผู้คนมากมายประหลาดใจเกี่ยวกับข้าพระองค์
แต่พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยอันแข็งแกร่งของข้าพระองค์
ริมฝีปากของข้าพระองค์เต็มล้นด้วยคำสรรเสริญพระองค์
ประกาศพระบารมีตลอดทั้งวัน

ขออย่าทรงละทิ้งข้าพระองค์เมื่อข้าพระองค์แก่เฒ่า
ขออย่าทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เมื่อข้าพระองค์สิ้นแรง
10 เพราะศัตรูของข้าพระองค์พูดให้ร้ายข้าพระองค์
ผู้ที่คอยจะเอาชีวิตของข้าพระองค์คบคิดกัน
11 เขากล่าวว่า “พระเจ้าทรงละทิ้งเขาแล้ว
ให้เราไล่ล่าและจับกุมเขา
เพราะไม่มีใครช่วยกู้เขาหรอก”
12 ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าทรงห่างไกลข้าพระองค์
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงรีบรุดมาช่วยข้าพระองค์
13 ขอให้ผู้ปรักปรำข้าพระองค์พินาศไปด้วยความอับอาย
ขอให้ผู้มุ่งร้ายข้าพระองค์มีแต่ความอัปยศอดสู

14 แต่ส่วนข้าพระองค์จะยังมีความหวังอยู่เสมอ
ข้าพระองค์จะถวายสรรเสริญแด่พระองค์มากยิ่งๆ ขึ้น

15 ปากของข้าพระองค์จะกล่าวถึงความชอบธรรมของพระองค์
จะเล่าถึงความรอดของพระองค์ทั้งวัน
แม้ข้าพระองค์จะหยั่งประมาณไม่ได้
16 ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ข้าพระองค์จะมาประกาศพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
ข้าพระองค์จะป่าวร้องความชอบธรรมของพระองค์แต่ผู้เดียว
17 ข้าแต่พระเจ้า ตั้งแต่เยาว์วัยพระองค์ทรงสอนข้าพระองค์
จนถึงวันนี้ข้าพระองค์ป่าวประกาศพระราชกิจมหัศจรรย์ของพระองค์
18 แม้เมื่อข้าพระองค์เข้าสู่วัยชรา ผมหงอกขาว
ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าทรงทอดทิ้งข้าพระองค์
ตราบจนข้าพระองค์ประกาศฤทธานุภาพของพระองค์แก่คนรุ่นต่อมา
และเล่าถึงพระเดชานุภาพให้คนรุ่นหลังฟัง

19 ข้าแต่พระเจ้า ความชอบธรรมของพระองค์สูงถึงฟ้าสวรรค์
พระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย
ข้าแต่พระเจ้า ผู้ใดเล่าเสมอเหมือนพระองค์?
20 แม้พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์ประสบความทุกข์มากมายและขมขื่น
พระองค์จะทรงทำให้ชีวิตของข้าพระองค์กลับคืนสู่สภาพดีอีกครั้ง
จากที่ลึกของโลก
พระองค์จะดึงข้าพระองค์ขึ้นมาอีก
21 พระองค์จะทรงเพิ่มเกียรติให้แก่ข้าพระองค์
และจะทรงปลอบประโลมข้าพระองค์อีก

22 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณใหญ่
เพราะความซื่อสัตย์ของพระองค์
ข้าแต่องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
ข้าพระองค์จะร้องสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณเขาคู่
23 ริมฝีปากของข้าพระองค์จะโห่ร้องยินดี
เมื่อร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
เพราะพระองค์ทรงไถ่ข้าพระองค์ไว้
24 ลิ้นของข้าพระองค์จะเล่าถึงพระราชกิจอันชอบธรรมทั้งหลายของพระองค์ตลอดวันคืน
เพราะบรรดาผู้ที่ปองร้ายข้าพระองค์ได้รับความอับอายและความสับสน

สุภาษิต 24:9-10

อุบายของความโง่เขลาเป็นบาป
และผู้คนชิงชังนักเยาะเย้ย

คำสอนที่

10 หากเจ้าท้อแท้ในยามทุกข์ร้อน
ก็แสดงว่ากำลังของเจ้าน้อยนัก!

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.