Bible in 90 Days
1 จากเปาโล สิลาสและทิโมธี
ถึงหมู่ประชุมของชาวเมืองเธสะโลนิกา[a] ที่อยู่ในพระเจ้าพระบิดาและในพระเยซูคริสต์เจ้า ขอให้พระเจ้ามีความเมตตากรุณาและให้สันติสุขกับพวกคุณ
ชีวิตและความเชื่อของพี่น้อง
2 พวกเราขอบคุณพระเจ้าเสมอสำหรับพวกคุณทุกคน และอธิษฐานให้คุณอย่างไม่หยุดหย่อน 3 ต่อหน้าพระเจ้าพระบิดาของเรา พวกเรายังนึกถึงการงานที่คุณทำเพราะความเชื่อ งานหนักที่คุณยอมเหน็ดเหนื่อยเพราะความรัก ความทรหดอดทนที่คุณมีเพราะความหวังในพระเยซูคริสต์เจ้าของพวกเรา 4 พี่น้องครับ พวกเรารู้ว่าพระเจ้ารักคุณ และได้เลือกพวกคุณให้มาเป็นคนของพระองค์ 5 เพราะตอนที่พวกเรานำข่าวดีมาให้กับคุณนั้น ไม่ได้มาด้วยคำพูดเท่านั้น แต่มาด้วยฤทธิ์เดช ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และด้วยความมั่นใจเต็มที่ว่าเป็นจริง พวกคุณก็รู้อยู่แล้วว่าตอนที่เรายังอยู่กับคุณนั้น เราใช้ชีวิตอย่างไร คือเราอยู่เพื่อประโยชน์ของพวกคุณทั้งนั้น 6 คุณได้เลียนแบบเราและองค์เจ้าชีวิต คือยอมรับถ้อยคำของพระเจ้าท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากมากมายด้วยความชื่นชมยินดีที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ 7 พวกคุณจึงกลายเป็นตัวอย่างให้กับคนที่ไว้วางใจทั้งหมดในแคว้นมาซิโดเนียและในแคว้นอาคายา 8 พวกคุณทำให้ถ้อยคำขององค์เจ้าชีวิตได้เลื่องลือออกไป ไม่ใช่เฉพาะในแคว้นมาซิโดเนีย และในแคว้นอาคายาเท่านั้น แต่ข่าวของความเชื่อที่คุณมีในพระเจ้านั้น ได้เลื่องลือไปจนทั่วทุกหนทุกแห่ง จนพวกเราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย 9 ทุกคนกำลังพูดถึงว่าพวกคุณได้ต้อนรับพวกเราอย่างไร และได้หันจากรูปเคารพไปรับใช้พระเจ้าอย่างไร คือพระเจ้าที่เที่ยงแท้และมีชีวิตอยู่ 10 เขายังพูดถึงเรื่องที่พวกคุณตั้งตาคอยพระบุตรของพระเจ้าที่จะเสด็จมาจากสวรรค์อีกด้วย พระเจ้าได้ทำให้พระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูฟื้นขึ้นจากความตาย และพระเยซูจะช่วยพวกเราให้พ้นจากโทษที่พระเจ้ากำลังจะส่งมา
งานรับใช้ของเปาโลในเธสะโลนิกา
2 พี่น้องครับ พี่น้องก็รู้ว่า ตอนที่พวกเราเริ่มประกาศข่าวดีท่ามกลางพวกคุณนั้น มันไม่ได้ไร้ประโยชน์ 2 ตรงกันข้าม ถึงแม้ก่อนหน้านั้นที่เมืองฟีลิปปี[b]พวกเราได้รับความทุกข์ยากและโดนดูถูก แต่พระเจ้าได้ทำให้พวกเราสามารถประกาศข่าวดีที่มาจากพระองค์ในท่ามกลางพวกคุณอย่างกล้าหาญ ทั้งๆที่มีคนจำนวนมากต่อต้านพวกเราอย่างหนัก 3 แน่นอน เมื่อพวกเราอ้อนวอนให้คนมายอมรับข่าวดีนั้น มันไม่ได้มาจากแรงจูงใจที่ผิดๆหรือความไม่จริงใจ หรือหวังที่จะหลอกลวงใคร 4 แต่ตรงกันข้าม พระเจ้าพอใจพวกเราจึงได้มอบข่าวดีนี้ให้กับพวกเรา พวกเราถึงได้ประกาศออกไป เราไม่ได้ทำเพื่อเอาใจคน แต่เพื่อเอาใจพระเจ้า ผู้ตรวจสอบใจของพวกเรา 5 คุณก็รู้อยู่แล้วว่า เราไม่เคยประจบสอพลอ หรือเอาคำสอนมาบังหน้าความโลภ พระเจ้ารับรองได้ว่านี่เป็นความจริง 6 เราไม่สนใจคำเยินยอของมนุษย์คนไหนหรอก ไม่ว่าจะเป็นพวกคุณหรือคนอื่นๆก็ตาม
7 ในฐานะที่พวกเราเป็นศิษย์เอกของพระคริสต์ เรามีสิทธิ์ที่จะบังคับคุณก็ได้ แต่เมื่ออยู่กับพวกคุณ เรากลับอยู่อย่างสุภาพอ่อนโยน[c] เหมือนแม่นมที่รักและเอาใจใส่ลูกๆของเธอ 8 เรารักคุณมากจนพร้อมที่จะทุ่มชีวิตทั้งหมดให้กับคุณ ไม่ใช่แค่เอาข่าวดีจากพระเจ้ามาบอกเฉยๆ 9 พี่น้องทั้งหลายคงจำได้ว่า ตอนที่เรามาประกาศข่าวดีจากพระเจ้าให้กับคุณนั้น เราได้ทำงานอย่างหนัก อาบเหงื่อต่างน้ำทั้งวันทั้งคืน เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของใคร
10 พวกคุณและพระเจ้าก็เป็นพยานได้ว่า ตอนที่เราอยู่กับคุณที่ไว้วางใจนั้น เราได้ทุ่มเทตัวเองให้กับพระเจ้า ทำตามใจพระองค์ และมีชีวิตที่สะอาดหมดจดขนาดไหน 11 คุณก็รู้อยู่แล้วว่าเราเป็นเหมือนกับพ่อที่เลี้ยงดูลูกแต่ละคน 12 เราได้เคี่ยวเข็ญ ปลอบใจ และสั่งให้คุณใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับคนที่พระเจ้าเรียกให้มามีส่วนร่วมในอาณาจักรและเกียรติยศของพระองค์
13 พวกเราขอบคุณพระเจ้าอยู่เสมอ เพราะตอนที่คุณยอมรับถ้อยคำของพระเจ้าที่ได้ยินจากเรานั้น คุณไม่ได้รับไว้เหมือนเป็นแค่คำพูดของมนุษย์ แต่ยอมรับว่าเป็นถ้อยคำของพระเจ้า และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้อยคำนี้เองกำลังทำงานอยู่ในตัวพวกคุณที่ไว้วางใจ 14 พี่น้องครับ พวกคุณได้เลียนแบบหมู่ประชุมของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ที่แคว้นยูเดีย[d] คือพวกคุณได้รับความทุกข์ยากแบบเดียวกันจากคนของคุณเอง เหมือนกับที่พวกเขาได้รับจากพวกยิวที่เป็นคนของเขาเอง 15 พวกยิวพวกนี้ ก็เป็นพวกที่ฆ่าพระเยซูเจ้าและพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ยิวพวกนี้แหละได้ทำร้ายพวกเราอย่างสาหัส และขับไล่เราออกมา พวกนี้ได้ทำให้พระเจ้าไม่พอใจ และยังต่อต้านทุกคนด้วย 16 พวกเราประกาศกับคนที่ไม่ใช่ยิวเพื่อเขาจะได้รอดด้วย แต่คนยิวพวกนี้พยายามขัดขวางไม่ให้เราทำ เมื่อพวกเขาทำอย่างนี้ เขาก็เพิ่มความบาปขึ้นเรื่อยๆจนเต็ม แล้วในที่สุดพระเจ้าก็ได้ลงโทษพวกเขา
เปาโลอยากจะมาเยี่ยมพวกเขาอีก
17 พี่น้องครับ เราก็ถูกแยกจากคุณแค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่เราจากกันแค่กาย ใจนั้นยังอยู่กับคุณ เราอยากจะเจอหน้าคุณจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว 18 อันที่จริงเราได้พยายามที่จะมาหาคุณ ที่แน่ๆอย่างน้อยตัวผมเอง เปาโล ก็ได้พยายามแล้วพยายามอีก แต่ซาตานก็ขัดขวางพวกเราไว้ 19 แล้วใครกันล่ะจะเป็นความหวัง เป็นความชื่นชมยินดี หรือเป็นรางวัลที่เราจะคุยโอ้อวดได้ต่อหน้าพระเยซูเจ้าเมื่อพระองค์กลับมา ก็พวกคุณนั่นแหละ 20 พวกคุณเป็นความภาคภูมิใจและความชื่นชมยินดีของพวกเรา
3 ในที่สุดเมื่อพวกเราทนคอยฟังข่าวจากคุณไม่ไหวแล้ว พวกเราเต็มใจที่จะอยู่ในเอเธนส์ตามลำพัง 2 แล้วส่งน้องทิโมธี เพื่อนที่ร่วมทำงานของพระเจ้าในการประกาศข่าวดีของพระคริสต์ มาหาคุณ เพื่อช่วยคุณให้ยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อ และไว้วางใจในพระเจ้าต่อไป 3 จะได้ไม่มีใครหวั่นไหวไปกับการข่มเหงที่เจออยู่ในตอนนี้ เพราะพวกคุณรู้อยู่แล้วว่า พระเจ้าได้กำหนดให้เราต้องเจอกับการข่มเหงพวกนี้อยู่แล้ว 4 ความจริงแล้ว ตอนที่พวกเราอยู่กับคุณนั้น เราได้เตือนว่าคุณจะต้องเจอกับการข่มเหงมากมาย และมันก็เป็นจริงตามนั้นอย่างที่คุณรู้อยู่แล้ว 5 เพราะอย่างนั้น เมื่อผมทนคอยต่อไปไม่ไหวแล้ว ก็เลยส่งทิโมธีให้มาดูว่า ความเชื่อของคุณเป็นอย่างไร กลัวว่าซาตานจอมยั่วยวนอาจจะมายั่วยวนคุณให้หลงไปแล้ว ทำให้งานที่เราลงแรงกันไปนั้นสูญเปล่า
6 ตอนนี้ ทิโมธีได้กลับมาถึงแล้วหลังจากที่ไปเยี่ยมคุณมา และนำข่าวดีเกี่ยวกับความเชื่อและความรักของคุณมาบอกพวกเราด้วย เขาได้บอกอีกว่า คุณยังมีความทรงจำดีๆเกี่ยวกับเรา และอยากจะเจอเรามากพอๆกับที่เราอยากจะเจอคุณ 7 ดังนั้น พี่น้องครับ ถึงแม้พวกเราจะมีความทุกข์และปัญหามากมาย แต่เราก็ได้รับกำลังใจจากคุณ เพราะความเชื่อของคุณนั่นเอง 8 ใช่แล้ว เรารู้สึกโล่งอกที่ได้รู้ว่าคุณยังตั้งมั่นคงอยู่ในองค์เจ้าชีวิต 9 พวกเราจะขอบคุณพระเจ้าอย่างไรดี ให้สมกับความสุขที่เรามีต่อหน้าพระเจ้าเพราะคุณ 10 เราอธิษฐานอย่างจริงจังทั้งวันทั้งคืน หวังจะได้เจอคุณอีก เพื่อจะได้เติมความเชื่อของพวกคุณในส่วนที่ยังขาดอยู่ให้เต็มบริบูรณ์
11 ขอให้พระเจ้าพระบิดาของเรา และพระเยซูองค์เจ้าชีวิตของเรา ช่วยเปิดโอกาสให้เรามาหาคุณด้วย 12 ขอให้องค์เจ้าชีวิตทำให้คุณมีความรักมากขึ้นจนล้นออกมาให้กันและกัน และให้กับทุกๆคน เหมือนกับที่เรารักคุณ 13 ขอให้พระเจ้าทำให้จิตใจของพวกคุณตั้งมั่นคง เพื่อคุณจะได้บริสุทธิ์ และไม่มีตำหนิ ต่อหน้าพระเจ้าพระบิดาของเรา เมื่อพระเยซูองค์เจ้าชีวิตของเรากลับมาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ที่ศักดิ์สิทธิ์[e]ของพระองค์
ชีวิตที่พระเจ้าพอใจ
4 พี่น้องครับ เรายังมีเรื่องอื่นที่จะบอก ตามที่เราได้สอนคุณแล้วว่า ให้ใช้ชีวิตอย่างไร พระเจ้าถึงจะชอบใจเรา คุณก็กำลังทำอย่างนี้อยู่แล้วในเวลานี้ พวกเราขอร้องและขอปลุกใจพวกคุณในนามของพระเยซูเจ้า ให้ทำแบบนี้มากยิ่งขึ้น 2 คุณก็รู้อยู่แล้วว่า เราได้สั่งอะไรไว้กับคุณบ้างด้วยสิทธิอำนาจของพระเยซูเจ้า 3 พระเจ้าต้องการให้พวกคุณบริสุทธิ์ และอยู่ห่างจากความผิดบาปทางเพศ 4 ให้แต่ละคนหาภรรยาของตัวเองมาในทางที่บริสุทธิ์และมีเกียรติ[f] 5 ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในราคะตัณหา เหมือนกับคนนอกศาสนาที่ไม่รู้จักพระเจ้าทำกัน 6 อย่าเอาเปรียบหรือทำบาปต่อพี่น้องด้วยการเป็นชู้กับภรรยาเขา เพราะพวกเราได้บอกและเตือนคุณไปแล้วว่าองค์เจ้าชีวิตจะลงโทษคนที่ทำเรื่องพวกนี้ 7 พระเจ้าไม่ได้เรียกให้พวกเรามาเป็นคนสกปรกลามก แต่เรียกให้พวกเรามาเป็นคนบริสุทธิ์สำหรับพระองค์ 8 ดังนั้นคนที่ปฏิเสธคำสอนนี้ ก็ไม่ได้ปฏิเสธมนุษย์ แต่ได้ปฏิเสธพระเจ้าผู้ที่มอบพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ให้กับคุณ
9 ส่วนเรื่องที่จะรักพี่น้องนั้น พวกเราไม่จำเป็นต้องเขียนถึงเลย เพราะเป็นพระเจ้าเองที่ได้สอนให้พวกคุณรักซึ่งกันและกันอยู่แล้ว 10 แน่นอน พวกคุณรักพี่น้องทุกคนทั่วทั้งมาซิโดเนีย แต่พี่น้องครับ เราขอหนุนใจให้คุณรักกันมากขึ้นเรื่อยๆ
11 ให้ตั้งเป้าไว้เลยว่า จะพยายามอย่างดีที่สุดที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ยุ่งแต่เรื่องของตัวเอง ลงมือทำงานด้วยตัวเอง เหมือนกับที่เราได้บอกไว้แล้ว 12 ถ้าคุณทำอย่างนี้ คนภายนอกก็จะเคารพนับถือชีวิตของคุณ และคุณจะได้ไม่ต้องไปพึ่งพาใครเลย
องค์เจ้าชีวิตกำลังจะมา
13 เราอยากให้พี่น้องเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับคนที่ล่วงลับไปแล้ว คุณจะได้ไม่เศร้าโศกเสียใจเหมือนกับคนอื่นๆที่ไม่มีความหวัง 14 ถ้าเราเชื่อว่าพระเยซูตายไปแล้วและได้ฟื้นขึ้นมาอีก เราก็ต้องเชื่อว่า พระเจ้าจะนำผู้เชื่อเหล่านั้นที่ได้ตายไปแล้วกลับมาพร้อมกับพระเยซู โดยทางพระเยซู 15 เรื่องที่พวกเราจะบอกคุณต่อไปนี้ องค์เจ้าชีวิตเป็นผู้พูดเอง คือว่าในวันนั้นตอนที่องค์เจ้าชีวิตมา พวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่จะไม่ได้เปรียบคนพวกนั้นที่ตายไปแล้วหรอก 16 เพราะเมื่อคนได้ยินคำสั่งอันดังกึกก้องของหัวหน้าทูตสวรรค์ และเสียงเป่าแตรของพระเจ้าดังขึ้น องค์เจ้าชีวิตเองก็จะลงมาจากสวรรค์ และบรรดาคนที่ได้ตายไปแล้วในพระคริสต์ จะฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาก่อน 17 หลังจากนั้นพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ก็จะถูกนำตัวขึ้นไปในเมฆพร้อมๆกับคนเหล่านั้น เพื่อไปพบกับองค์เจ้าชีวิตบนท้องฟ้า และพวกเราก็จะได้อยู่กับพระองค์ตลอดไป 18 ขอให้พูดเรื่องนี้เพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
ให้เตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาขององค์เจ้าชีวิต
5 พี่น้องครับ พวกเราไม่จำเป็นต้องเขียนบอกคุณเลยถึงเรื่องวันและเวลานั้น 2 เพราะคุณก็รู้ดีอยู่แล้วว่า องค์เจ้าชีวิตจะมาเหมือนกับขโมยที่มาในเวลากลางคืน 3 เมื่อคนพูดว่า “ทุกอย่างสงบสุขและปลอดภัยดีแล้ว” การทำลายล้างก็จะเกิดขึ้นกับพวกเขาทันที เหมือนกับการปวดท้องคลอดลูก และพวกเขาก็หนีไปไหนไม่พ้นด้วย 4 แต่พี่น้องครับ วันนั้นจะไม่จู่โจมเข้าใส่พี่น้องอย่างไม่ทันตั้งตัวเหมือนขโมยมา เพราะพวกคุณไม่ได้อยู่ในความมืด 5 เพราะคุณทุกคนเป็นของความสว่าง และเป็นของกลางวัน เราไม่ได้เป็นของกลางคืนหรือของความมืด 6 ดังนั้นอย่านอนหลับเหมือนคนอื่นๆแต่ให้ตื่นตัว และมีสติอยู่เสมอ 7 เพราะคนที่นอนก็จะนอนในตอนกลางคืน และคนที่เมาก็จะเมาในตอนกลางคืน 8 แต่พวกเราเป็นของกลางวัน จึงต้องมีสติ ขอให้เราสวมใส่ความเชื่อและความรักเป็นเกราะป้องกันอก และให้เอาความหวังที่พระเจ้าจะช่วยเราให้รอดนั้นมาใส่เป็นหมวกเหล็ก 9 เพราะพระเจ้าไม่ได้เลือกพวกเราให้มาถูกพระองค์ลงโทษ แต่ให้มารับความรอดผ่านทางพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา 10 พระเยซูตายเพื่อพวกเรา ดังนั้นเมื่อพระองค์มา ไม่ว่าพวกเราจะตื่นอยู่หรือหลับไปแล้ว เราก็จะมีชีวิตอยู่กับพระองค์ 11 ฉะนั้น คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และเสริมสร้างฝ่ายจิตวิญญาณกันและกัน เหมือนกับที่กำลังทำกันอยู่แล้วในตอนนี้
คำแนะนำสุดท้ายและการทักทาย
12 พวกเราขอร้องให้พี่น้องทั้งหลายเคารพคนเหล่านั้นที่ทำงานหนักอยู่ในหมู่พวกคุณ ที่กำลังนำทางคุณในองค์เจ้าชีวิต และที่คอยให้คำแนะนำตักเตือนพวกคุณ 13 ขอให้เคารพนับถือพวกเขาอย่างสูงด้วยความรักเพราะงานที่พวกเขาทำ ขอให้อยู่กันอย่างสงบสุข 14 พวกเราขอหนุนใจพี่น้องทั้งหลายให้ตักเตือนคนที่ขี้เกียจหลังยาว ช่วยปลอบโยนคนขี้กลัว ช่วยเหลือคนอ่อนแอ และให้อดทนกับทุกคน 15 ระวังอย่าให้ใครทำชั่วตอบแทนความชั่ว แต่พยายามทำดีต่อกันและต่อทุกคนเสมอ
16 ขอให้เบิกบานแจ่มใสอยู่ตลอด 17 ให้อธิษฐานตลอดเวลา 18 และให้ขอบคุณพระเจ้าในทุกสถานการณ์ นี่แหละเป็นสิ่งที่พระเจ้าอยากให้คุณทำในพระเยซูคริสต์
19 อย่าดับไฟของพระวิญญาณ 20 อย่าลบหลู่คำพูดของคนเหล่านั้นที่พูดแทนพระเจ้า 21 แต่ให้ทดสอบทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งนั้นมาจากพระเจ้าจริง แล้วยึดมั่นในสิ่งที่ดี 22 หลีกหนีจากสิ่งที่ชั่วร้ายทุกชนิด
23 ขอให้พระเจ้าผู้ที่ให้สันติสุข ทำให้พวกคุณบริสุทธิ์หมดจดในทุกเรื่องเพื่อพระองค์ และขอให้จิตวิญญาณทั้งดวง[g]ของคุณทุกคนถูกเก็บรักษาไว้ไม่ให้มีที่ติ จนกว่าพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของพวกเราจะกลับมา 24 พระองค์จะทำอย่างนี้แน่นอน เพราะพระเจ้าที่เรียกคุณมานั้นซื่อสัตย์
25 พี่น้องครับ อธิษฐานเผื่อพวกเราด้วย 26 ทักทายพี่น้องทุกคนด้วยจูบที่บริสุทธิ์ 27 ให้สัญญาต่อหน้าองค์เจ้าชีวิตว่า พวกคุณจะอ่านจดหมายฉบับนี้ให้พี่น้องทุกคนฟัง 28 ขอให้พระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรามีเมตตากรุณาต่อคุณเถิด
1 จากเปาโล สิลาส และทิโมธี
ถึงหมู่ประชุมของชาวเมืองเธสะโลนิกา ที่เป็นของพระเจ้าพระบิดาของเรา และของพระเยซูคริสต์เจ้า
2 ขอให้พระเจ้าพระบิดาของเราและพระเยซูคริสต์เจ้า ให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับพวกคุณ
3 พี่น้องครับ เราต้องขอบคุณพระเจ้าสำหรับพวกคุณอยู่เสมอ ซึ่งการทำแบบนี้ก็ถูกต้องแล้ว เพราะความเชื่อของคุณกำลังเจริญยิ่งขึ้นจริงๆ และความรักที่คุณแต่ละคนมีให้กันและกันนั้นก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ 4 เราก็เลยไปพูดโอ้อวดถึงพวกคุณให้หมู่ประชุมของพระเจ้าในที่อื่นๆฟัง เราพูดถึงความทรหดอดทน และความเชื่อของคุณ ทั้งๆที่คุณถูกข่มเหงและต้องเจอกับความทุกข์ยากลำบากมากมาย
พระเจ้าจะตัดสินลงโทษ
5 ที่พวกคุณอดทนต่อการข่มเหงแบบนี้จะเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า พระเจ้าตัดสินโทษอย่างยุติธรรม นั่นก็คือ สำหรับพวกคุณที่ยอมทนทุกข์เพื่ออาณาจักรของพระเจ้า พระองค์ก็เห็นว่าสมควรที่จะให้อาณาจักรนั้นกับคุณ 6 แต่สำหรับพวกนั้นที่ทรมานคุณ พระเจ้าก็เห็นว่ายุติธรรมแล้วที่จะให้ความทุกข์ทรมานกับพวกเขาเป็นการตอบแทน 7 แล้วพระเจ้าจะให้พวกคุณที่ได้รับความทุกข์ทรมานได้พักผ่อนพร้อมกับเราด้วย เมื่อพระเยซูเจ้ามาจากสวรรค์พร้อมกับพวกทูตสวรรค์ของพระองค์ที่มีฤทธิ์อำนาจ 8 และพร้อมกับเปลวไฟโชติช่วง แล้วพระองค์จะลงโทษคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า และคนที่ไม่ยอมเชื่อฟังข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูองค์เจ้าชีวิตของเรา 9 โทษของพวกเขาคือจะถูกทำลายตลอดไป และถูกแยกออกมา ไม่ได้อยู่ต่อหน้าองค์เจ้าชีวิตและต่อหน้าฤทธิ์อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ 10 สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในวันนั้นที่พระองค์มารับเกียรติจากคนของพระองค์ ในวันนั้นทุกคนที่ไว้วางใจในพระองค์ก็จะต้องอัศจรรย์ใจ (รวมทั้งพวกคุณด้วย เพราะคุณเชื่อเรื่องที่เราบอกเกี่ยวกับพระองค์)
11 เพราะอย่างนี้เราถึงได้อธิษฐานเผื่อคุณอยู่เสมอ ขอให้พระเจ้าของเราช่วยให้คุณใช้ชีวิตให้สมกับที่พระองค์เรียกมา และขอให้พระเจ้าใช้ฤทธิ์อำนาจของพระองค์ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการทำความดีทุกอย่างที่ตั้งใจไว้ และการงานต่างๆที่เกิดจากความเชื่อ 12 แล้วพระเยซูเจ้าจะได้รับเกียรติจากชีวิตของคุณ และคุณก็จะได้รับเกียรติเพราะพระองค์ ตามความเมตตากรุณาของพระเจ้าของเรา และของพระเยซูคริสต์เจ้า
เรื่องชั่วร้ายที่จะเกิดขึ้น
2 ตอนนี้พี่น้องครับ เราจะพูดถึงเรื่องที่พระเยซูคริสต์เจ้าจะกลับมาและที่พวกเราจะชุมนุมกันกับพระองค์นั้น 2 ขออย่าได้ตกใจหรือวุ่นวายใจไป เมื่อมีคำพยากรณ์ คำพูด หรือจดหมายที่อ้างว่ามาจากเรา ที่บอกว่าวันขององค์เจ้าชีวิตมาถึงแล้ว 3 อย่าให้ใครหลอกเอา ไม่ว่าเขาจะมาไม้ไหนก็ตาม วันนั้นขององค์เจ้าชีวิตจะยังไม่มา จนกว่าจะมีการทรยศต่อพระเจ้าครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นก่อน และคนชั่วร้ายคนนั้นจะปรากฏตัวขึ้น จุดหมายปลายทางของมันคือนรก[h] 4 มันจะต่อต้าน และจะยกย่องตัวมันเองขึ้นเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่คนเรียกว่า “พระเจ้า” หรืออะไรก็ตามที่คนบูชากัน มันจะทำถึงขนาดที่ว่า เข้าไปในวิหารของพระเจ้าและขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ และป่าวประกาศว่าตัวมันเองคือพระเจ้า
5 จำได้ไหม ผมพูดถึงเรื่องนี้บ่อยๆตอนที่ผมยังอยู่กับคุณ 6 ตอนนี้ มีสิ่งหนึ่งที่เหนี่ยวรั้งมันไว้ เพื่อให้มันปรากฏตัวออกมาในเวลาที่เหมาะสม และพวกคุณก็รู้แล้วว่าสิ่งนั้นคืออะไร 7 ที่เราพูดอย่างนี้ก็เพราะพลังความชั่วอันลึกลับนี้ ก็ได้ทำงานอยู่ในโลกแล้ว แต่มีผู้หนึ่งที่กำลังรั้งตัวมันอยู่ และจะรั้งต่อไปจนกว่าผู้รั้งนี้จะไม่อยู่ 8 แล้วคนชั่วร้ายนั้นก็จะปรากฏตัวออกมา พระเยซูเจ้าจะฆ่ามันด้วยลมหายใจจากปากของพระองค์ เมื่อพระองค์กลับมาครั้งยิ่งใหญ่ และพระองค์จะทำลายล้างมันจนสิ้นซาก 9 คนชั่วร้ายนี้ เมื่อมาก็จะใช้อำนาจของซาตาน พร้อมกับทำอิทธิฤทธิ์ สัญญาณสำคัญและปาฏิหาริย์ที่ดูเหมือนมาจากพระเจ้า แต่จริงๆแล้วมาจากซาตาน 10 มันจะใช้รูปแบบอื่นๆอีกมากมาย ในการหลอกลวงคนที่กำลังหลงหาย พวกนี้หลงหายก็เพราะไม่ยอมรักความจริง ซึ่งเป็นความจริงที่จะช่วยให้เขารอดได้ 11 เพราะเขาไม่รักความจริง พระเจ้าจึงทำให้คนพวกนี้เห็นผิดเป็นชอบ เพื่อจะได้หลงเชื่อในสิ่งที่ผิด 12 พระองค์จะลงโทษพวกเขาที่ไม่ยอมเชื่อความจริง แต่กลับไปสนุกสนานกับความชั่ว
พระเจ้าเลือกคุณให้ได้รับความรอด
13 พี่น้องครับ องค์เจ้าชีวิตรักคุณ พระเจ้าได้เลือกพวกคุณไว้แล้วตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อให้ได้รับความรอด ที่คุณรอดก็เพราะคุณเชื่อในความจริง และพระวิญญาณได้ทำให้คุณเป็นคนของพระเจ้า 14 คุณรอดโดยผ่านทางข่าวดีที่เราได้ประกาศนั้น พระเจ้าได้เรียกให้คุณมารับความรอดนั้น ก็เพื่อคุณจะได้มีส่วนร่วมในเกียรติของพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา 15 ดังนั้นพี่น้องครับ ให้ตั้งมั่นคงไว้ และยึดมั่นในคำสอนที่ได้ตกทอดมาถึงคุณ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด หรือจดหมายจากเราก็ตาม
16 เรามีกำลังใจที่ไม่มีวันสิ้นสุด และความหวังที่มั่นคง ก็เพราะพระเจ้าเมตตาต่อเรา ขอให้พระเยซูคริสต์เจ้า และพระเจ้าพระบิดาของเราผู้ที่รักเรา 17 ให้กำลังใจและให้พลังกับพวกคุณ เพื่อคุณจะได้ทำและพูดในสิ่งดีๆต่อไป
อธิษฐานให้เราด้วย
3 สุดท้ายนี้ พี่น้องครับ ช่วยอธิษฐานให้เราด้วย ขอให้ถ้อยคำขององค์เจ้าชีวิตแพร่หลายไปอย่างรวดเร็วและเป็นที่นับถือ เหมือนกับที่พวกคุณนับถือ 2 ขอให้พระเจ้าช่วยให้เราปลอดภัยจากพวกหัวดื้อ และพวกคนชั่ว (เพราะไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อในองค์เจ้าชีวิต)
3 แต่องค์เจ้าชีวิตนั้นซื่อสัตย์ พระองค์จะให้พลังและจะคุ้มครองพวกคุณจากมารร้าย 4 เรามั่นใจว่าองค์เจ้าชีวิตจะช่วยคุณให้ทำตามคำสั่งสอนของเรา และจะช่วยให้คุณทำต่อไปอีกอย่างแน่นอน 5 ขอให้องค์เจ้าชีวิตนำคุณให้มีความรักแบบเดียวกับพระเจ้าและมีความอดทนอดกลั้นแบบเดียวกับพระคริสต์
ให้ทำงาน อย่าขี้เกียจ
6 พี่น้องครับ ขอสั่งด้วยอำนาจของพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเราว่า อยู่ให้ห่างจากพวกพี่น้องที่ขี้เกียจหลังยาวทุกคนที่ไม่ทำตามคำสั่งสอนที่เราให้ไว้ 7 เพราะพวกคุณก็รู้ว่าควรจะทำตามเรา ตอนที่อยู่กับคุณเราไม่ได้ขี้เกียจหลังยาวเลย 8 เราไม่เคยกินของใครฟรีๆ เราได้ทำงานหนัก อาบเหงื่อต่างน้ำทั้งวันทั้งคืน เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระให้กับใคร 9 จริงๆแล้วเรามีสิทธิ์ที่จะขอความช่วยเหลือจากพวกคุณ แต่เราอยากจะทำตัวเป็นแบบอย่างให้คุณทำตาม 10 เราถึงได้ตั้งกฎขึ้นมาตอนที่อยู่กับคุณว่า “ถ้าใครไม่ทำงาน ก็ไม่ต้องกิน”
11 เราได้ยินมาว่า มีคุณบางคนขี้เกียจหลังยาวไม่ยอมทำงาน เที่ยวยุ่งแต่เรื่องของชาวบ้าน 12 เราขอสั่งและเตือนคนอย่างนี้ด้วยอำนาจของพระเยซูคริสต์เจ้าว่า ให้เขาทำมาหากินด้วยลำแข้งของตัวเองและไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร 13 ส่วนพี่น้องที่เหลืออย่าเพิ่งเบื่อหน่ายท้อแท้ที่จะทำดี
14 ถ้ามีใครไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของเราในจดหมายฉบับนี้ หมายหัวเอาไว้และอย่าไปคบหาด้วย เพื่อเขาจะได้อับอายขายหน้า 15 อย่ามองว่าเขาเป็นศัตรู แต่ให้เตือนเขาในฐานะที่เป็นพี่น้องคนหนึ่ง
คำพูดสุดท้าย
16 ขอให้องค์เจ้าชีวิตผู้เป็นแหล่งที่มาของสันติสุข ให้คุณมีสันติสุขอยู่ทุกเวลาในทุกๆทาง และขอให้พระองค์อยู่กับคุณทุกคน
17 ผม เปาโล ได้เขียนคำทักทายนี้ ด้วยลายมือของผมเอง นี่เป็นลายเซ็นต์ของผมในจดหมายทุกฉบับ ผมเขียนอย่างนี้แหละ
18 ขอให้พระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรามีเมตตากรุณากับพวกคุณทุกคน
1 จากเปาโล ผู้เป็นศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์ ตามคำสั่งของพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอด และของพระเยซูคริสต์ผู้เป็นความหวังของเรา
2 ถึงทิโมธี ลูกที่แท้จริงในความเชื่อ
ขอให้พระเจ้าพระบิดา และพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา ให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับคุณ
คำเตือนเรื่องคำสอนที่ผิดๆ
3 ตอนที่ผมเดินทางต่อไปที่แคว้นมาซิโดเนียนั้น ผมได้ขอร้องให้คุณอยู่ที่เมืองเอเฟซัสต่อ เพื่อคุณจะได้สั่งให้คนบางคนเลิกสอนเรื่องที่ผิดๆเสียที 4 และสั่งให้พวกเขาเลิกสนใจนิยายปรัมปราต่างๆและรายชื่อของบรรพบุรุษที่ไม่รู้จักจบสิ้นได้แล้ว เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรในแผนงานของพระเจ้า มีแต่จะทำให้ทะเลาะกันเปล่าๆเพราะแผนงานของพระเจ้านั้น จะสำเร็จได้ด้วยความเชื่อ 5 ที่ผมสั่งอย่างนี้ ก็เพื่อให้เกิดความรักขึ้น ซึ่งเป็นความรักที่มาจากใจอันบริสุทธิ์ ใจที่ไม่ฟ้องว่าผิด และความเชื่อที่จริงใจ 6 บางคนได้หลงจากสิ่งเหล่านี้ แล้วหันไปพูดเรื่องไร้สาระ 7 พวกเขาอยากจะเป็นครูสอนกฎของโมเสสกัน แต่ตัวเขากลับไม่เข้าใจเรื่องที่ตัวเองพูดหรือยืนยันเลย
8 เรารู้ว่ากฎนั้นดี ถ้ารู้จักใช้อย่างถูกต้อง 9 และเราก็รู้ด้วยว่า กฎนั้นไม่ได้มีไว้ใช้กับคนที่ทำตามใจพระเจ้า แต่มีไว้ใช้กับคนที่ทำผิดกฎ พวกชอบแหกกฎ คนที่ไม่มีศาสนาและคนบาป คนที่ไม่มีศีลธรรม และคนที่หยาบช้า พวกที่ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ พวกฆาตกร 10 คนที่ทำผิดทางเพศ คนที่เป็นเกย์[i] คนที่ค้าขายทาส คนโกหก คนที่ให้การเท็จในศาล และคนที่ชอบทำในสิ่งที่ขัดกับคำสอนที่เป็นประโยชน์ 11 คำสอนนี้สอดคล้องกับข่าวดี เรื่องความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้ทรงเกียรติ พระเจ้าได้มอบข่าวดีนี้ให้กับผม
ขอบคุณความเมตตาของพระเจ้า
12 ผมขอบคุณพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา ผู้ที่ให้กำลังกับผม ที่ผมขอบคุณก็เพราะพระองค์เห็นว่าผมเป็นคนที่ซื่อสัตย์ และได้แต่งตั้งผมให้เป็นผู้รับใช้พระองค์ 13 ถึงแม้ว่าแต่ก่อนนี้ ผมเคยพูดดูหมิ่นพระองค์ ข่มเหงคนของพระองค์ และเป็นคนโหดร้าย แต่พระเจ้าก็ยังเมตตาผม เพราะเห็นว่าผมทำไปเพราะยังไม่เชื่อ และไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ 14 องค์เจ้าชีวิตของเราได้มอบความเมตตาพร้อมกับความเชื่อ และความรักที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์ให้กับผมอย่างล้นเหลือ
15 คำพูดนี้เชื่อถือได้และคุ้มค่าที่จะรับเอาไว้ ซึ่งคำพูดนี้ก็คือ พระเยซูคริสต์ได้มาในโลกนี้เพื่อช่วยให้คนบาปหลุดพ้น และผมเองก็เลวที่สุดในพวกคนบาปนั้น 16 แต่ก็เพราะอย่างนี้ พระเจ้าถึงได้เมตตาผม พระเยซูคริสต์ได้แสดงความอดทนอย่างถึงที่สุดต่อคนเลวที่สุดอย่างผม เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับคนทั้งหลายที่จะมาไว้วางใจในพระองค์ และมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป 17 ขอให้พระองค์ผู้เป็นกษัตริย์ของคนทุกยุคทุกสมัย ผู้ไม่มีวันตาย ผู้ไม่มีใครมองเห็นได้ และผู้เป็นพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว ได้รับเกียรติและสง่าราศี อยู่เสมอและตลอดไป อาเมน
18 ทิโมธี ลูกเอ๋ย สิ่งที่ผมสั่งไว้นี้ ก็สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้พูดแทนพระเจ้าได้พูดเกี่ยวกับคุณไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อว่าเมื่อคุณทำตามคำสั่งนี้ คุณจะได้ต่อสู้อย่างดี 19 ยึดความเชื่อที่คุณมีอยู่ในพระคริสต์ไว้ให้มั่น และรักษาใจที่ฟ้องถูกผิดไว้ให้ดี เพราะมีบางคนทิ้งใจที่ฟ้องถูกผิดนี้ไป ทำให้ความเชื่อของเขาถูกทำลายไปเหมือนเรือแตก 20 ในคนพวกนั้นก็มีฮีเมเนอัสและอเล็กซานเดอร์รวมอยู่ด้วย ผมจึงมอบพวกเขาให้กับซาตาน เพื่อพวกเขาจะได้รับบทเรียนว่าไม่ควรดูหมิ่นพระเจ้าอีกต่อไป
คำแนะนำในการอธิษฐานและนมัสการพระเจ้า
2 เรื่องแรกที่ผมขอให้ทำก็คือ ให้อ้อนวอน อธิษฐาน ขอร้อง และขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกๆคน 2 รวมทั้งกษัตริย์ทั้งหลายและผู้มีอำนาจทุกคน ที่ให้ทำอย่างนี้ก็เพื่อเราจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขและมีสันติ มีชีวิตที่ให้เกียรติกับพระเจ้าอย่างเต็มที่ และเป็นที่น่านับถือ 3 การทำอย่างนี้ดีและเป็นที่พอใจพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเรา 4 พระองค์อยากให้ทุกคนรอดและรู้จักความจริง 5 เพราะมีพระเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น และมีคนกลางเพียงคนเดียวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ คือพระเยซูคริสต์ผู้เป็นมนุษย์ 6 พระองค์ได้สละชีวิตของพระองค์เองเพื่อไถ่ทุกคนให้เป็นอิสระจากการเป็นทาส เรื่องนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงความต้องการของพระเจ้าที่จะช่วยทุกคนให้รอดในเวลาที่เหมาะสม 7 นี่เป็นเหตุที่พระเจ้าได้แต่งตั้งผมให้เป็นผู้ประกาศ และเป็นศิษย์เอกของพระเยซู (ผมพูดความจริง ไม่ได้โกหก) นอกจากนี้พระเจ้ายังได้แต่งตั้งให้ผมไปเป็นครูสอนเรื่องความเชื่อและความจริงนี้กับคนที่ไม่ใช่ยิวอีกด้วย
8 ดังนั้น ผมอยากให้ผู้ชายในทุกที่อธิษฐานด้วยการยกมืออันบริสุทธิ์ขึ้น คือไม่โกรธหรือเถียงกัน
9 ส่วนผู้หญิงก็เหมือนกัน แต่งตัวให้ดูดี สุภาพเรียบร้อยและถูกกาลเทศะ ไม่ใช่ทำผมซะหรูหรา หรือใส่ทอง ไข่มุก หรือเสื้อผ้าแพงๆ 10 แต่ให้แต่งตัวด้วยความดีจะดีกว่า ให้เหมาะสมกับเป็นผู้หญิงที่นับถือพระเจ้า 11 ผู้หญิงควรจะเรียนอย่างสงบเสงี่ยมและเชื่อฟัง 12 ผมไม่อนุญาตให้ผู้หญิงสั่งสอนหรือใช้อำนาจกดขี่ผู้ชาย แต่ให้พวกเธออยู่อย่างสงบสุข 13 เพราะพระเจ้าสร้างอาดัมก่อน แล้วถึงสร้างเอวา 14 และคนที่ถูกล่อลวงไม่ใช่อาดัม[j] แต่เป็นผู้หญิงที่ถูกล่อลวงแล้วกลายเป็นคนบาป 15 อย่างไรก็ตามผู้หญิงจะรอดได้ด้วยการคลอดลูก ถ้าพวกเขายังรักษาความเชื่อไว้ มีความรัก มีความบริสุทธิ์ และรู้จักควบคุมตนเองอย่างดี
พวกผู้นำในหมู่ประชุมของพระเจ้า
3 คำพูดต่อไปนี้เป็นจริงและเชื่อถือได้ คือคำพูดที่ว่า ถ้าใครอยากจะเป็นผู้ดูแลหมู่ประชุมของพระเจ้า[k] แสดงว่าคนนั้นอยากจะทำงานที่ดี 2 ผู้ดูแลหมู่ประชุมของพระเจ้า จะต้องเป็นคนที่ไม่มีที่ติ มีเมียแค่คนเดียว ควบคุมตัวเองได้ มีสติรอบคอบ น่านับถือ ยินดีต้อนรับแขกแปลกหน้า และสอนเก่ง 3 ต้องไม่ขี้เมา ไม่ชอบต่อยตี แต่สุภาพอ่อนโยน ไม่ชอบโต้เถียง ไม่โลภเงินทอง 4 ต้องรู้จักเอาใจใส่คนในครัวเรือนของตนเป็นอย่างดี ต้องมีลูกที่ว่านอนสอนง่ายและให้ความเคารพยำเกรงเขาอย่างยิ่ง 5 (เพราะถ้าคนในครัวเรือนของตนเองยังเอาไม่รอด แล้วจะมาดูแลหมู่ประชุมของพระเจ้าได้อย่างไร) 6 เขาจะต้องไม่ใช่คนที่เพิ่งมาเชื่อใหม่ๆ เพราะดีไม่ดีเขาอาจจะเหลิงได้ แล้วถูกลงโทษแบบเดียวกับมาร 7 นอกจากนั้น เขาจะต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียงดีในหมู่คนภายนอกด้วย เพื่อจะได้ไม่อับอายขายหน้าเพราะถูกคนต่อว่า และเข้าไปติดกับดักของมาร
พวกผู้รับใช้พิเศษ
8 ผู้รับใช้พิเศษ[l]ก็เหมือนกัน จะต้องเป็นคนที่น่านับถือ ไม่หน้าไหว้หลังหลอก ไม่ขี้เหล้า ไม่โลภเงินทอง 9 ต้องยึดมั่นข้อลึกลับในหลักความเชื่อที่พระเจ้าได้เปิดเผยให้เรารู้แล้วด้วยใจที่ไม่ฟ้องว่าผิด 10 ให้คนพวกนี้ผ่านการทดสอบเสียก่อน ถ้าไม่มีข้อเสื่อมเสีย ก็ค่อยให้เขามารับใช้ 11 ผู้ช่วยพิเศษที่เป็นผู้หญิง[m]ก็เหมือนกัน จะต้องเป็นคนที่น่านับถือ ต้องไม่ใส่ร้ายคนอื่น แต่ต้องเป็นคนที่รู้จักควบคุมตนเอง และไว้ใจได้ในทุกเรื่อง 12 ผู้รับใช้พิเศษที่เป็นผู้ชาย ต้องมีเมียแค่คนเดียว ต้องดูแลคนในครัวเรือนของตน และอบรมลูกๆเป็นอย่างดี 13 เพราะคนที่ทำหน้าที่ผู้รับใช้พิเศษนั้นจะเป็นที่นับถือ และตัวเขาเองจะมีความมั่นใจในความเชื่อที่เขามีต่อพระเยซูคริสต์มากขึ้น
ความลับในศาสนาเรา
14 ถึงแม้ผมหวังว่าจะได้มาเยี่ยมคุณในเร็วๆนี้ แต่ผมก็ยังเขียนข้อความเหล่านี้มาให้ 15 เพื่อว่าถ้าผมมาช้า คุณจะได้รู้ว่าสมาชิกในบ้านเรือนของพระเจ้านั้นจะต้องทำตัวอย่างไรบ้าง บ้านเรือนนี้คือหมู่ประชุมของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ และหมู่ประชุมนี้เป็นเสาหลักและรากฐานแห่งความจริง 16 ไม่ต้องสงสัยเลย นี่แหละคือความยิ่งใหญ่ของความลับในศาสนาอันแท้จริงของเรา คือ
พระคริสต์ได้มาปรากฏในร่างของมนุษย์
พระวิญญาณได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง
เหล่าทูตสวรรค์ก็เห็น
เรื่องของพระองค์ได้ถูกประกาศไปทั่วทุกชนชาติ
ผู้คนในโลกต่างเชื่อในพระองค์
และพระเจ้าได้รับพระองค์ขึ้นไปสู่สง่าราศีอันยิ่งใหญ่
คำเตือนเรื่องครูจอมปลอม
4 พระวิญญาณพูดไว้ชัดเจนว่า ต่อไปในอนาคตจะมีบางคนทิ้งความเชื่อ แล้วหันไปเชื่อถือวิญญาณที่หลอกลวง รวมทั้งคำสอนต่างๆของพวกมารทั้งหลาย 2 และคำหลอกลวงของพวกหน้าซื่อใจคด ใจของพวกเขาชินชากับความผิดเสียแล้ว เหมือนถูกเหล็กร้อนนาบจนตายด้าน 3 พวกเขาสั่งว่าห้ามแต่งงานและห้ามกินอาหารบางชนิด อันที่จริงพระเจ้าได้สร้างอาหารขึ้นมาให้คนที่มีความเชื่อ และคนที่รู้จักความจริง กินกันด้วยความขอบคุณ 4 ทุกอย่างที่พระเจ้าสร้างขึ้นมานั้นดีหมด ถ้ารับมาด้วยการขอบคุณพระเจ้า ก็กินได้หมดทุกอย่าง 5 เพราะถ้อยคำของพระเจ้าและคำอธิษฐานทำให้สิ่งเหล่านั้นบริสุทธิ์แล้วในสายตาพระเจ้า
ผู้รับใช้ที่ดีของพระเยซูคริสต์
6 ถ้าคุณอธิบายเรื่องนี้ให้พี่น้องฟัง คุณก็จะเป็นผู้รับใช้ที่ดีของพระเยซูคริสต์ ซึ่งจะพิสูจน์ให้เห็นว่า คุณได้รับการเลี้ยงดูด้วยถ้อยคำแห่งความเชื่อ และด้วยคำสั่งสอนที่ดีที่คุณได้ทำตามอยู่นั้น 7 อย่าไปเสียเวลากับนิยายปรัมปราไร้สาระที่หญิงแก่ๆพวกนั้นชอบเล่ากัน แต่ให้ฝึกฝนตนเองเพื่อรับใช้พระเจ้า 8 เพราะการฝึกฝนทางร่างกายก็มีประโยชน์อยู่บ้าง แต่การรับใช้พระเจ้ามีประโยชน์ทุกอย่าง ทั้งในชีวิตนี้และชีวิตหน้า 9 นั่นเป็นความจริงที่เชื่อถือได้และคุ้มค่าที่จะรับเอาไว้ 10 ที่เรายอมทำงานหนัก และต่อสู้ดิ้นรนอยู่นี้ เพราะเรามีความหวังในพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ พระองค์เป็นผู้ช่วยให้รอดของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เชื่อ
11 ให้สั่งสอนเรื่องเหล่านี้ 12 อย่าให้ใครมาดูถูกคุณ เพราะเห็นว่าคุณเป็นแค่เด็กหนุ่ม แต่ให้คำพูด การกระทำ ความรัก ความเชื่อ และความบริสุทธิ์ของคุณ เป็นแบบอย่างให้กับทุกคนที่เชื่อ 13 ให้เอาใจใส่ทั้งในเรื่องการอ่านพระคัมภีร์ให้คนอื่นฟัง การให้กำลังใจและการสั่งสอนจนกว่าผมจะมา 14 อย่าละเลยที่จะใช้พรสวรรค์ของคุณที่ได้รับมาตอนที่พวกผู้พูดแทนพระเจ้าพูดเกี่ยวกับคุณและตอนที่พวกผู้นำอาวุโสได้วางมือ[n]บนคุณ 15 ให้เอาใจใส่และทุ่มเทในเรื่องเหล่านี้ ทุกคนจะได้เห็นชัดว่า คุณก้าวหน้าไปมากแค่ไหนแล้ว 16 ให้ระมัดระวังชีวิตและคำสอนของคุณให้ดี ยึดเรื่องเหล่านี้ไว้ให้มั่น เพราะถ้าทำอย่างนี้ คุณก็จะช่วยทั้งตัวคุณเองและคนที่ฟังคุณให้รอด
กฎการอยู่ร่วมกัน
5 อย่าด่าว่าคนที่สูงอายุ แต่ให้เตือนเหมือนคนๆนั้นเป็นพ่อ ส่วนพวกหนุ่มๆก็ให้เตือนเหมือนพวกเขาเป็นพี่น้อง 2 ส่วนหญิงสูงอายุก็ให้เตือนเหมือนเธอเป็นแม่ ส่วนสาวๆ ก็ให้เตือนเหมือนพวกเธอเป็นพี่น้อง ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง 3 ให้เกียรติพวกแม่ม่ายที่ไม่มีญาติพี่น้อง 4 แต่ถ้าแม่ม่ายคนไหนมีลูกหรือหลาน ให้ลูกหลานพวกนั้นเรียนรู้ที่จะทำตามศาสนาคือ ให้ดูแลครอบครัวของพวกเขา ซึ่งเป็นการตอบแทนบุญคุณผู้ที่เลี้ยงดูเขามา เพราะพระเจ้าชอบให้ทำอย่างนี้ 5 ส่วนแม่ม่ายที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว เขาฝากความหวังไว้กับพระเจ้าและอธิษฐานอ้อนวอนทั้งวันทั้งคืน 6 แต่แม่ม่ายที่ปล่อยตัวปล่อยใจก็ถือว่าตายทั้งเป็นแล้ว 7 ให้สั่งเรื่องเหล่านี้ด้วย จะได้ไม่มีใครโดนตำหนิ 8 แต่ถ้ามีใครไม่ยอมเลี้ยงดูญาติพี่น้องโดยเฉพาะครอบครัวของตัวเอง เขาก็ได้ทิ้งความเชื่อแล้ว และแย่ยิ่งกว่าคนที่ไม่เชื่อเสียอีก
9 ส่วนแม่ม่ายที่จะขึ้นทะเบียนแม่ม่ายที่หมู่ประชุมสนับสนุนได้นั้น จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่าหกสิบปี มีสามีเพียงคนเดียว 10 ต้องมีชื่อเสียงดีในหลายด้าน เช่น เคยเลี้ยงดูลูกๆ เคยต้อนรับแขกแปลกหน้า เคยล้างเท้าให้กับคนเหล่านั้นที่เป็นของพระเจ้า เคยช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก และทุ่มเทในการทำความดีทุกอย่าง
11 แต่อย่าให้แม่ม่ายที่ยังสาวๆอยู่ ขึ้นทะเบียนแม่ม่ายเลย เพราะเมื่อพวกเธอได้อุทิศตัวให้กับพระคริสต์แล้ว แต่เกิดราคะตัณหาขึ้นมาอยากจะแต่งงานใหม่อีก 12 ก็จะถูกประณามได้ว่าผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับพระเจ้าตั้งแต่แรก 13 นอกจากนั้น ยังจะทำให้พวกเธอเป็นคนขี้เกียจสันหลังยาว เที่ยวไปบ้านโน้นบ้านนี้ ไม่ใช่แต่จะขี้เกียจเท่านั้น แต่ยังชอบนินทา ยุ่งเรื่องของชาวบ้านอีกด้วย และชอบพูดในเรื่องที่ไม่ควรพูด 14 ดังนั้น ผมจึงอยากให้แม่ม่ายที่ยังสาวนั้นแต่งงานใหม่และมีลูกเสีย และดูแลบ้านเรือนของพวกเธอเพื่อไม่ให้คนที่ต่อต้านเราตำหนิได้ 15 ที่ผมพูดอย่างนี้เพราะมีแม่ม่ายบางคนได้หันตามซาตานไปแล้ว
16 ถ้าผู้หญิงคนไหนที่เป็นผู้เชื่อ และมีญาติพี่น้องเป็นแม่ม่าย ก็ขอให้เขาช่วยเหลือญาติพวกนั้นด้วย จะได้ไม่เป็นภาระให้กับหมู่ประชุมของพระเจ้า เพื่อหมู่ประชุมนั้นจะได้ไปช่วยเหลือแม่ม่ายที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ
17 ผู้นำอาวุโสที่เป็นผู้นำที่ดีนั้น สมควรจะได้รับเกียรติเป็นสองเท่า โดยเฉพาะคนที่ทุ่มเทให้กับการเทศนาและสั่งสอน 18 เพราะมีข้อพระคัมภีร์พูดไว้ว่า “อย่าเอาตะกร้อครอบปากวัว ขณะที่มันกำลังนวดข้าว”[o] และ “คนงานก็สมควรจะได้รับค่าจ้างของตน”[p]
19 ถ้ามีใครมากล่าวหาผู้นำอาวุโสก็อย่าเพิ่งเชื่อ นอกจากจะมีพยานสองสามคนยืนยัน 20 ถ้าผู้นำอาวุโสนั้นยังคงทำบาปต่อไป ให้ประณามเขาต่อหน้าคนทั้งหมู่ประชุมของพระเจ้า เพื่อคนอื่นๆจะได้กลัว 21 ผมขอสั่งอย่างเด็ดขาดต่อหน้าพระเจ้า พระเยซูคริสต์และพวกทูตสวรรค์ที่พระองค์ได้เลือกไว้ว่า คุณจะต้องรักษาและทำตามสิ่งเหล่านี้โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังและไม่เล่นพรรคเล่นพวก
22 ไม่ต้องรีบร้อนวางมือบนใครเพื่อจะแต่งตั้งเขาในการทำงานขององค์เจ้าชีวิต อย่ามีส่วนร่วมในบาปของคนอื่น หมั่นรักษาตนเองให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ
23 อย่าดื่มแต่น้ำเปล่าอย่างเดียว แต่ให้ดื่มเหล้าองุ่นบ้างเล็กน้อย เพื่อประโยชน์ในการย่อยอาหารและอาการเจ็บป่วยที่คุณเป็นอยู่บ่อยๆ
24 บาปของบางคนก็เห็นชัดเจน ใครๆก็รู้ว่าเขาจะต้องถูกตัดสินลงโทษ แต่บาปของบางคนจะเห็นได้ทีหลัง 25 ก็เหมือนกับความดีของบางคนก็เห็นชัดเจนทันที แต่ความดีที่ยังไม่เห็นก็จะไม่ถูกซ่อนไว้ตลอดไป
6 ทุกคนที่เป็นทาสอยู่ภายใต้แอกของเจ้านายที่ไม่เชื่อพระเจ้า ให้เคารพนับถือนายของเขาในทุกเรื่อง จะได้ไม่มีใครดูหมิ่นชื่อของพระเจ้าและคำสอนของเรา 2 ส่วนทาสที่มีเจ้านายที่เชื่อในพระเจ้า ก็ไม่ควรดูหมิ่นเจ้านายนั้น เพราะเห็นว่าเขาเป็นพี่น้อง แต่ควรจะเคารพนับถือเขามากยิ่งขึ้น เพราะถือว่ากำลังรับใช้คนที่เขารักซึ่งเป็นคนที่เชื่อในพระเจ้าด้วยกัน นี่แหละคือสิ่งที่คุณจะต้องสั่งสอนและขอร้องให้คนทำ
คำสั่งสอนที่ไม่ถูกต้องและความร่ำรวยที่แท้จริง
3 ถ้ามีใครมาสอนเรื่องอื่นที่แตกต่างออกไปจากนี้ หรือสอนขัดกับคำสอนที่เป็นประโยชน์ของพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา หรือสอนเพี้ยนไปจากคำสอนตามหลักศาสนาที่แท้จริง 4 เขาก็เป็นคนที่หยิ่งยโสและไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วยังเป็นโรคชอบเถียง และชอบขัดแย้งในความหมายของคำต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดการอิจฉาริษยา การแก่งแย่งชิงดี การใส่ร้ายป้ายสี การระแวงสงสัยกัน 5 และการกระทบกระทั่งกันอย่างไม่สิ้นสุด คนพวกนี้มีจิตใจที่ชั่วร้ายและความจริงถูกปล้นไปจากเขาเสียแล้ว และคนพวกนี้ยังคิดแสวงหาความร่ำรวยจากการเอาศาสนาบังหน้าอีกด้วย
6 ศาสนาอันแท้จริงจะทำให้เราร่ำรวยมหาศาลอย่างแน่นอน ถ้าเรารู้จักพอใจในสิ่งที่เรามี 7 เราไม่ได้เอาอะไรเข้ามาในโลกนี้ เราก็เอาอะไรออกไปไม่ได้เหมือนกัน 8 มีอาหารกินกับเสื้อผ้าใส่ แค่นี้เราก็น่าจะพอใจได้แล้ว 9 ส่วนคนที่อยากจะร่ำรวย ก็ตกลงไปในการทดลองและกับดัก ความอยากได้ที่โง่ๆและเต็มไปด้วยอันตรายทั้งหลาย ทำให้เขาจมดิ่งลงสู่ความพินาศและสูญสิ้นไป 10 เพราะการรักเงินทอง เป็นรากเหง้าของความชั่วทุกชนิด ความอยากรวยนี้ทำให้บางคนทิ้งความเชื่อไป และทั่วทั้งร่างกายก็ถูกทิ่มแทงอย่างเจ็บปวด
บางสิ่งที่คุณควรจดจำ
11 ส่วนคุณที่เป็นคนของพระเจ้า ให้วิ่งหนีไปให้ไกลจากเรื่องพวกนี้ และให้ใช้ชีวิตตามที่พระเจ้าชอบใจ ทำตามหลักศาสนาที่แท้จริง มีความเชื่อ ความรัก ความอดทนอดกลั้น และความสุภาพอ่อนโยน 12 รักษาความเชื่อไว้ให้มั่นคงเหมือนพยายามวิ่งเข้าสู่เส้นชัย ยึดชีวิตที่จะได้อยู่กับพระเจ้าตลอดไปเอาไว้ ซึ่งเป็นชีวิตที่พระเจ้าเรียกให้คุณมารับตอนที่คุณได้ประกาศความเชื่อต่อหน้าคนจำนวนมากเป็นอย่างดี 13 ต่อหน้าพระเจ้าผู้ให้ชีวิตกับทุกสิ่งทุกอย่าง และต่อหน้าพระเยซูคริสต์ผู้ได้ประกาศความเชื่อต่อหน้าปอนทัสปีลาต[q]เป็นอย่างดี 14 ผมขอสั่งให้คุณทำตามคำสั่งนี้ อย่างเคร่งครัดและไร้ที่ติ จนกว่าพระเยซูคริสต์เจ้าจะถูกเปิดเผย 15 เมื่อถึงเวลานั้น พระเจ้าจะเป็นผู้เปิดเผยให้เห็นเอง พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ทรงเกียรติ และเป็นผู้ครอบครองแต่เพียงผู้เดียว พระองค์เป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง และเป็นองค์เจ้าชีวิตเหนือเจ้าชีวิตทั้งหลาย 16 เป็นผู้เดียวที่ไม่มีวันตาย และเป็นผู้ที่อยู่ในความสว่างที่มนุษย์เข้าไม่ถึง พระองค์เป็นผู้ที่ไม่มีมนุษย์คนไหนเคยเห็นหรือสามารถมองเห็นได้ ขอให้พระองค์ได้รับเกียรติและมีฤทธิ์อำนาจตลอดไป อาเมน
17 สั่งคนร่ำรวยในยุคนี้ อย่าหยิ่งยโสหรือฝากความหวังไว้กับความร่ำรวยนั้น เพราะมันไม่เที่ยงแท้ แต่ให้ฝากความหวังไว้กับพระเจ้าผู้แบ่งปันทุกสิ่งให้กับเราอย่างล้นเหลือ เพราะเห็นแก่ความสุขสบายของเรา 18 สั่งคนร่ำรวยพวกนั้นให้ทำความดี ให้ร่ำรวยในการทำดี ให้ใจดีใจกว้าง และรู้จักแบ่งปันด้วย 19 เมื่อทำอย่างนี้ เขาก็ได้เก็บทรัพย์สมบัติไว้ให้กับตัวเองในสวรรค์ ซึ่งเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคต เพื่อจะได้ยึดชีวิตที่แท้จริงไว้
20 ทิโมธีเอ๋ย รักษาสิ่งที่พระเจ้าได้ฝากไว้กับคุณให้ดี อยู่ห่างจากการพูดไร้สาระ และหลีกเลี่ยงการโต้เถียงในเรื่องที่คนเข้าใจผิดเรียกว่าเป็น “ความรู้” 21 บางคนที่โอ้อวดความรู้ไร้สาระนั้นได้พลาดไปจากเป้าหมายของความเชื่อ ขอให้พระเจ้ามีเมตตากรุณากับพวกคุณ
1 จากเปาโล ผู้เป็นศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์ ตามความต้องการของพระเจ้า พระเจ้าได้ส่งผมออกไปบอกผู้คนเกี่ยวกับชีวิตที่พระองค์สัญญาว่าจะให้ในพระเยซูคริสต์
2 ถึงทิโมธีลูกรัก ขอให้พระเจ้าพระบิดา และพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา ให้ความเมตตากรุณา และสันติสุขกับคุณ
เปาโลขอบคุณพระเจ้าและให้กำลังใจทิโมธี
3 ผมขอบคุณพระเจ้า ผู้ที่ผมรับใช้ด้วยใจบริสุทธิ์ เหมือนกับที่บรรพบุรุษของผมรับใช้ ผมอธิษฐานให้คุณเสมอทั้งวันทั้งคืน 4 คิดถึงตอนที่คุณร้องไห้เพื่อผมแล้ว ทำให้ผมอยากเจอคุณมาก ซึ่งจะทำให้ผมมีความสุขจริงๆ 5 ผมยังนึกถึงความเชื่อที่จริงใจของคุณ ซึ่งตอนแรกมีอยู่ในโลอิสยายของคุณ และยูนีสแม่ของคุณ และตอนนี้ผมก็เชื่อว่ามีอยู่ในคุณด้วย 6 นี่เป็นเหตุที่ผมขอเตือนให้คุณใช้พรสวรรค์ที่พระเจ้าให้ตอนที่ผมวางมือ[r] ลงบนคุณ กระพือพรสวรรค์นั้นให้มันลุกโชติช่วงขึ้น 7 เพราะพระวิญญาณที่พระเจ้าให้กับเรานั้นไม่ทำให้เราขี้ขลาด แต่พระวิญญาณนี้ทำให้เราเต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ ความรัก และการควบคุมตนเอง
8 ไม่ต้องอับอายที่จะบอกคนเกี่ยวกับองค์เจ้าชีวิตของเรา หรืออับอายในตัวผมที่เป็นนักโทษเพราะเห็นแก่พระองค์ แต่ให้พึ่งฤทธิ์เดชของพระเจ้า แล้วยอมทนทุกข์ด้วยกันกับผมเพื่อข่าวดีนั้นดีกว่า 9 พระเจ้าทำให้เรารอดและเรียกเราให้มาเป็นคนของพระองค์โดยเฉพาะ ที่พระองค์เรียกเรานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา แต่เป็นไปตามความต้องการของพระเจ้า และพระองค์ได้ให้ความเมตตากรุณานี้กับเราผ่านมาทางพระเยซูคริสต์ก่อนที่จะมีโลกนี้เสียอีก 10 แต่ตอนนี้พระเจ้าได้เปิดเผยเรื่องนี้แล้วโดยพระเยซูคริสต์ผู้เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเราที่ได้มาปรากฏตัวให้เห็นแล้ว พระองค์ได้มาทำลายความตาย และทำให้เราเห็นถึงชีวิตที่ไม่มีวันตายที่ผ่านทางข่าวดีนี้ 11 เพราะข่าวดีนี้เอง พระองค์ถึงได้แต่งตั้งให้ผมเป็นคนประกาศข่าว เป็นศิษย์เอก และเป็นครู 12 ด้วยเหตุนี้เองผมถึงได้รับความทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่นี้ แต่ผมก็ไม่อับอายหรอก เพราะผมรู้จักผู้ที่ผมเชื่อ และผมก็มั่นใจว่า พระองค์สามารถรักษาสิ่งที่ผมได้มอบไว้ให้กับคนอื่น[s]จนกว่าวันนั้น[t]จะมาถึง 13 ขอให้คุณยึดถือคำสอนที่มีประโยชน์ ที่คุณได้ยินจากผมนี้ไว้เป็นแบบอย่าง และทำตามด้วยความเชื่อและความรักที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์ 14 ขอให้เก็บรักษาสิ่งที่ได้มอบไว้ให้กับคุณนี้เอาไว้ให้ดี ด้วยความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ในตัวเรา
15 คุณก็รู้ว่า ทุกคนในแคว้นเอเชียได้ทิ้งผมไปหมดแล้ว รวมทั้งฟีเจลัสและเฮอร์โมเกเนสด้วย 16 ขอให้องค์เจ้าชีวิตมีเมตตากรุณาต่อครอบครัวของโอเนสิโฟรัสด้วย เพราะเขาได้ให้กำลังใจผมหลายครั้งและก็ไม่อับอายที่ผมติดคุกอยู่ 17 ตรงกันข้าม เมื่อเขามาถึงกรุงโรม เขาก็ยังอุตส่าห์ตามหาผมจนพบ 18 ขอองค์เจ้าชีวิตโปรดให้ความเมตตากับเขาในวันนั้นด้วยเถิด และคุณก็รู้ดีว่าตอนที่ผมอยู่ที่เมืองเอเฟซัสนั้น เขาได้ช่วยผมมากขนาดไหน
ทหารผู้ซื่อสัตย์ของพระเยซูคริสต์
2 ลูกทิโมธีเอ๋ย ขอให้ความเมตตาที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์ทำให้คุณเข้มแข็ง 2 ให้เอาคำสอนต่างๆที่คุณได้ยินจากผมต่อหน้าพยานมากมายนั้น ไปให้กับคนที่ไว้ใจได้และสามารถสอนต่อได้ 3 มาร่วมทุกข์กับผมดีกว่า เหมือนทหารที่ดีของพระเยซูคริสต์ 4 ไม่มีใครหรอกที่มาเป็นทหารแล้วยังมัวยุ่งกับเรื่องของทางบ้าน เพราะเขาก็อยากจะเอาใจผู้บังคับบัญชาของเขา 5 นักกีฬาที่เข้าแข่งขันก็เหมือนกัน จะต้องแข่งขันตามกฎกติกาเสียก่อนถึงจะได้รับรางวัลของผู้ชนะ 6 ชาวนาที่ทำงานหนัก ก็ควรจะเป็นคนแรกที่ได้รับส่วนแบ่งจากพืชผลนั้น 7 คิดดูให้ดีถึงเรื่องที่ผมพูดให้คุณฟังนี้ แล้วองค์เจ้าชีวิตจะทำให้คุณเข้าใจมันทั้งหมด
8 จำไว้ว่า ข่าวดีที่ผมประกาศ คือพระเยซูคริสต์ได้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพระองค์เป็นลูกหลานของดาวิด[u] 9 เพราะข่าวดีนี้แหละ ผมถึงต้องทนทุกข์อยู่ตอนนี้ ถึงกับถูกล่ามโซ่เหมือนกับผู้ร้าย แต่ถ้อยคำของพระเจ้านั้น เอาโซ่ล่ามไว้ไม่อยู่หรอกนะ 10 ผมจึงยอมอดทนทุกอย่าง เพราะเห็นแก่คนที่พระเจ้าได้เลือกเอาไว้ เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้รับความรอดซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์ และสง่าราศีจากพระเจ้าตลอดไป
11 นี่เป็นคำพูดที่เชื่อถือได้ คือ
ถ้าเราตายกับพระองค์
เราก็จะมีชีวิตกับพระองค์
12 ถ้าเราอดทนต่อความทุกข์ยาก
เราจะได้ปกครองร่วมกับพระองค์
ถ้าเราทิ้งพระองค์
พระองค์ก็จะทิ้งเราเหมือนกัน
13 ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์
พระองค์ก็ยังคงซื่อสัตย์อยู่ดี
เพราะพระองค์จะทำตัวขัดกับอุปนิสัยที่แท้จริงของพระองค์เองไม่ได้
คนงานแบบที่พระเจ้ายอมรับ
14 ให้เตือนพวกเขาบ่อยๆในเรื่องพวกนี้ และตักเตือนพวกเขาต่อหน้าพระเจ้าว่า อย่าถกเถียงกันในเรื่องคำพูด มันไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่จะทำลายคนฟังเท่านั้น 15 พยายามเต็มที่ให้เป็นคนที่พระเจ้ารับรอง เป็นคนงานที่ไม่มีอะไรต้องอาย และเป็นคนงานที่สอนถ้อยคำแห่งความจริงของพระเจ้าได้อย่างถูกต้อง 16 แต่ให้หลีกเลี่ยงจากการพูดคุยที่หยาบช้าและไม่ยำเกรงพระเจ้า เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งไม่ยำเกรงพระเจ้า 17 คำสอนของพวกเขาก็จะลามไปทั่วเหมือนกับมะเร็ง ฮีเมเนอัสและฟีเลทัสก็รวมอยู่ในคนพวกนั้นด้วย 18 สองคนนี้ได้หลงไปจากความจริง เขาพูดว่าการฟื้นขึ้นมาจากความตายสำหรับเรานั้นได้เกิดขึ้นไปแล้ว สองคนนี้ได้ทำลายความเชื่อของบางคนไป 19 อย่างไรก็ตาม รากฐานที่แข็งแกร่งของพระเจ้ายังยืนหยัดอย่างมั่นคง และยังมีข้อความจารึกไว้ว่า “องค์เจ้าชีวิตรู้จักคนเหล่านั้นที่เป็นของพระองค์”[v] และ “ให้คนที่อ้างว่าเป็นคนขององค์เจ้าชีวิต เลิกทำชั่วทุกชนิด”
20 ในบ้านหลังใหญ่ ไม่ได้มีแต่ของใช้ที่ทำจากทองและเงินเท่านั้น แต่ยังมีของใช้ที่ทำจากไม้และดินเหนียวด้วย ของใช้บางอย่างก็ใช้สำหรับงานพิเศษต่างๆและบางอย่างก็ใช้สำหรับงานประจำวัน 21 ดังนั้น ถ้าคนไหนได้ชำระล้างตนเองจากสิ่งที่ชั่วร้ายเหล่านี้แล้ว คนนั้นก็จะเป็นของใช้ที่ใช้สำหรับงานที่พิเศษ เขาจะเป็นคนของพระเจ้า เป็นประโยชน์สำหรับเจ้าของ และพร้อมสำหรับการงานที่ดีทุกอย่าง
22 ให้วิ่งหนีจากราคะตัณหาของคนหนุ่มสาว แต่ไล่ตามสิ่งที่ถูกต้อง เช่นความเชื่อ ความรัก และสันติสุข ร่วมกับคนเหล่านั้นที่ร้องเรียกองค์เจ้าชีวิตด้วยใจที่สะอาดบริสุทธิ์ 23 อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับการโต้เถียงที่เหลวไหลและโง่เขลา เพราะคุณก็รู้ว่ามันจะทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน 24 ส่วนผู้รับใช้ขององค์เจ้าชีวิตต้องไม่ทะเลาะวิวาท แต่ต้องสุภาพกับทุกคน ต้องสอนคนอื่นได้ และต้องอดทน 25 เขาจะต้องสอนคนที่ต่อต้านเขาอย่างใจเย็น ด้วยหวังว่าพระเจ้าจะทำให้คนพวกนี้กลับตัวกลับใจ และได้รู้ถึงความจริง 26 ซึ่งจะช่วยให้พวกนี้ได้สติคืนมา และหลุดพ้นจากกับดักของมารที่จับพวกเขาไว้ให้ทำตามใจของมัน
ช่วงสุดท้ายของเวลา
3 รู้เอาไว้เถอะว่า ในช่วงเวลาสุดท้ายจะเป็นเวลาที่ลำบากมาก 2 จะมีแต่คนเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน โอ้อวด จองหอง ชอบด่าว่าคนอื่น ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ไม่รู้จักบุญคุณ ไม่มีศาสนาที่แท้จริง 3 ไม่มีความรัก ไม่ให้อภัย ใส่ร้ายป้ายสี ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ โหดร้ายทารุณ ไม่รักดี 4 คิดคดทรยศ ใจร้อนวู่วาม หัวสูง และรักสนุกแทนที่จะรักพระเจ้า 5 พวกเขานับถือศาสนาที่แท้จริงแต่เพียงเปลือกนอก แต่ไม่ยอมให้ฤทธิ์อำนาจของศาสนาที่แท้จริงนั้นเปลี่ยนชีวิตเขา คุณจะต้องอยู่ให้ห่างจากคนพวกนี้ 6 มีบางคนย่องเข้าไปตามบ้านต่างๆ ไปจูงจมูกพวกผู้หญิงหัวอ่อนและบาปหนา ที่ถูกกิเลสตัณหาต่างๆลากไป 7 พวกผู้หญิงเหล่านี้ชอบที่จะเรียนรู้เรื่องใหม่ๆอยู่เรื่อย แต่ก็ไม่เคยเข้าใจอย่างแตกฉานในเรื่องของความจริงเลย 8 ยันเนสและยัมเบรส์ต่อต้านโมเสสอย่างไร พวกนี้ก็ต่อต้านความจริงอย่างนั้น คนพวกนี้มีจิตใจที่เสื่อมทราม และความเชื่อของเขาก็จอมปลอม 9 พวกนี้ไปได้ไม่กี่น้ำหรอก เดี๋ยวความโง่ของพวกเขาก็จะโผล่ออกมาให้ทุกคนเห็น เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับยันเนสและยัมเบรส์
คำแนะนำสุดท้าย
10 อย่างไรก็ตาม ทิโมธี คุณก็รู้จักผมดีอยู่แล้วในทุกด้าน คุณรู้ว่าผมสอนอะไร ใช้ชีวิตอย่างไร มีเป้าหมายอะไรในชีวิต มีความเชื่อ ความอดทน ความรักและความมุ่งมั่นอย่างไร 11 และคุณก็รู้ว่าผมถูกข่มเหงและทนทุกข์ทรมานขนาดไหน เหมือนกับที่ได้เกิดขึ้นกับผมในเมืองอันทิโอก เมืองอิโคนียูม และเมืองลิสตรา แต่องค์เจ้าชีวิตได้ช่วยผมให้รอดพ้นจากสิ่งเหล่านั้นมาโดยตลอด 12 ความจริงแล้ว ทุกคนที่อยากจะมีชีวิตที่อุทิศให้กับพระเจ้าในพระเยซูคริสต์นั้นจะต้องถูกข่มเหง 13 แต่คนชั่วและนักต้มตุ๋นจะเลวร้ายยิ่งขึ้น มีทั้งโกงเขาและถูกเขาโกงด้วย
14 ส่วนคุณก็ให้เชื่อในสิ่งที่คุณได้เรียนรู้และมั่นใจแล้วนั้นต่อไป เพราะคุณก็รู้จักคนพวกนั้นที่สอนคุณอยู่แล้วว่าพวกเขาเป็นใคร 15 แล้วคุณก็รู้จักพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์นี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว พระคัมภีร์นี้จะทำให้คุณฉลาด และนำคุณไปถึงความรอด เมื่อไว้วางใจในพระเยซูคริสต์ 16 ทุกๆข้อในพระคัมภีร์ พระเจ้าเป็นผู้ดลใจให้เขียนขึ้นมา เพื่อเป็นประโยชน์ในการสั่งสอนความจริง ชี้ให้คนเห็นถึงความบาปในชีวิต ช่วยปรับปรุงแก้ไขให้คนดีขึ้น และฝึกคนให้ทำตามใจพระเจ้า 17 เพื่อเตรียมคนของพระเจ้าให้พร้อมที่จะทำดีทุกอย่าง
4 ต่อหน้าพระเจ้า และพระเยซูคริสต์ผู้ที่จะพิพากษาทั้งคนที่มีชีวิตและคนตาย เมื่อพระองค์กลับมาครอบครองอย่างกษัตริย์ ผมขอสั่งคุณว่า 2 ให้ประกาศถ้อยคำของพระเจ้า และพร้อมที่จะประกาศเสมอ ไม่ว่าจะสะดวกหรือไม่สะดวกก็ตาม บอกให้คนรู้ว่าเขาจะต้องทำอะไร ตักเตือนเมื่อเขาทำผิด ให้กำลังใจเขา และเวลาสั่งสอนก็ให้อดทนมากๆ 3 เพราะจะมีเวลาหนึ่งที่คนจะไม่ยอมทนต่อคำสอนที่มีประโยชน์นี้ แต่พวกเขาจะไปรวบรวมครูมากมายมาพูดในสิ่งที่หูของพวกเขาอยากจะฟัง 4 พวกเขาจะหันหูไปจากความจริง และหันไปฟังนิยายปรัมปราต่างๆ 5 ส่วนคุณเอง ขอให้มีสติรอบคอบในทุกสถานการณ์ อดทนต่อความทุกข์ยากลำบาก ทำหน้าที่ประกาศข่าวดี และทำงานที่พระเจ้าได้มอบหมายไว้ให้สำเร็จ
6 ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องตาย ชีวิตของผมก็เหมือนกับเครื่องดื่มบูชาที่กำลังถูกเทลงบนแท่นบูชา 7 ผมได้ต่อสู้อย่างสมศักดิ์ศรี ได้วิ่งถึงเส้นชัยแล้ว และผมยังคงรักษาความเชื่อไว้ได้ 8 ตอนนี้รางวัลแห่งชัยชนะนั้นกำลังรอผมอยู่ คือการที่พระเจ้ายอมรับผม องค์เจ้าชีวิตผู้พิพากษาที่ซื่อสัตย์จะมอบรางวัลนี้ให้กับผมในวันนั้น[w] และไม่ได้ให้กับผมคนเดียว แต่ยังให้กับทุกคนที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยพระองค์กลับมา
คำพูดส่วนตัว
9 พยายามมาหาผมเร็วๆนะ 10 เพราะเดมาสรักโลกนี้ เขาจึงทอดทิ้งผมไปเมืองเธสะโลนิกาแล้ว ส่วนเครสเซนส์ไปแคว้นกาลาเทีย และทิตัสก็ไปเมืองดาลมาเทีย 11 เหลือแต่ลูกาเท่านั้นที่ยังอยู่กับผม ให้พามาระโกมาด้วยนะเพราะเขาช่วยงานผมได้ 12 ผมได้ส่งทีคีกัสไปที่เมืองเอเฟซัส 13 เมื่อคุณมาหาผม ให้เอาเสื้อคลุมที่ผมทิ้งไว้กับคารปัสในเมืองโตรอัสมาด้วยรวมทั้งหนังสือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นม้วนกระดาษหนัง[x]
14 ช่างทองแดงที่ชื่ออเล็กซานเดอร์ได้ทำร้ายผมอย่างสาหัส องค์เจ้าชีวิตจะตอบแทนเขาอย่างสาสมกับสิ่งที่เขาได้ทำ 15 คุณก็เหมือนกัน ระวังเขาไว้ให้ดี เพราะเขาต่อต้านคำสอนของเราอย่างรุนแรง
16 ตอนที่ผมสู้คดีครั้งแรกนั้นไม่มีใครมาช่วยผมเลย พวกเขาทอดทิ้งผมไปหมด ขอให้พระเจ้ายกโทษให้กับพวกเขาในเรื่องนี้ 17 แต่องค์เจ้าชีวิตยืนอยู่ข้างผมและทำให้ผมเข้มแข็ง เพื่อผมจะได้ประกาศถ้อยคำของพระองค์ได้อย่างเต็มที่และเพื่อคนที่ไม่ใช่ยิวทั้งหมดจะได้ยิน ผมจึงรอดจากปากสิงโตมาได้ 18 องค์เจ้าชีวิตจะช่วยผมให้รอดพ้นจากทุกคนที่พยายามจะทำร้ายผม และจะนำผมไปสู่อาณาจักรของพระองค์ในสวรรค์อย่างปลอดภัย ขอให้พระองค์ได้รับเกียรติตลอดไป อาเมน
คำทักทายสุดท้าย
19 ขอฝากความคิดถึงให้กับปริสคากับอาควิลลา และทุกคนในครอบครัวของโอเนสิโฟรัส 20 ส่วนเอรัสทัสก็ยังอยู่ที่เมืองโครินธ์ ผมได้ทิ้งโตรฟีมัสไว้ที่เมืองมิเลทัสเพราะเขายังป่วยอยู่ 21 ขอพยายามมาถึงที่นี่ให้ได้ก่อนฤดูหนาวนะ ยูบูลัส ปูเดนส์ ลีนัส คลาวเดีย และพี่น้องทั้งหมดฝากความคิดถึงมาให้คุณ
22 ขอให้องค์เจ้าชีวิตอยู่กับจิตวิญญาณของคุณ และขอให้พระเจ้าเมตตากรุณาพวกคุณด้วย
1 จาก เปาโล ทาสของพระเจ้าและศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์ หน้าที่ของผมคือช่วยส่งเสริมความเชื่อของคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้ และช่วยให้พวกเขาเข้าใจความจริงมากขึ้น ความจริงนี้จะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตที่ให้เกียรติกับพระเจ้า 2 หน้าที่ของผมนี้ตั้งอยู่บนความหวังที่ว่า เราจะมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไปตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ก่อนที่โลกนี้จะเกิดเสียอีก พระเจ้าไม่เคยโกหก 3 เมื่อถึงเวลาที่พระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเราได้กำหนดไว้ พระองค์ก็ได้เปิดเผยถ้อยคำของพระองค์ผ่านทางการประกาศ พระองค์ได้มอบข่าวดีนี้กับผม และสั่งให้ผมออกไปประกาศ
4 ผมจึงได้เขียนจดหมายนี้มาให้ทิตัส ลูกแท้ๆในความเชื่อที่เรามีร่วมกัน
ขอให้พระเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์ผู้ช่วยให้รอดของเรา ให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับคุณ
หน้าที่ของทิตัสบนเกาะครีต
5 ที่ผมได้ทิ้งคุณไว้ที่เกาะครีต ก็เพื่อคุณจะได้สะสางงานที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จ และจะได้แต่งตั้งผู้นำอาวุโสตามเมืองต่างๆตามที่ผมได้สั่งกำชับไว้แล้ว 6 ผู้นำอาวุโสนั้น จะต้องไม่มีข้อเสื่อมเสีย มีเมียเพียงคนเดียว มีลูกๆที่มีความเชื่อ ไม่ใช่เด็กเสเพลที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ 7 เนื่องจากผู้ดูแลนี้ จะต้องรับผิดชอบครอบครัวของพระเจ้า เขาจะต้องไม่มีอะไรเสื่อมเสียในชีวิต ไม่ทำตัวเป็นเผด็จการ ไม่ขี้โมโห ไม่ขี้เหล้า ไม่ชอบต่อยตี ไม่ขี้โกง 8 แต่เขาจะต้องชอบรับแขกแปลกหน้า รักความดี สุขุมรอบคอบ ยุติธรรม บริสุทธิ์ และต้องรู้จักควบคุมตนเอง 9 เขาจะต้องมีความเชื่อที่มั่นคงในคำสอนที่เป็นประโยชน์ที่เราได้สอนไปนั้น เพื่อจะได้เอาคำสอนนี้ไปให้กำลังใจคนอื่น และเอาไปพิสูจน์ให้คนที่ต่อต้านคำสอนนี้เห็นว่าพวกตนผิด
10 เรื่องนี้สำคัญ เพราะมีหลายคนที่ดื้อดึงไม่ยอมเชื่อฟัง พูดแต่เรื่องไร้สาระ และชักนำคนอื่นให้หลงผิด พวกที่ผมพูดถึงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกยิวที่มาเชื่อในพระเยซู 11 จะต้องทำให้คนพวกนี้หยุดพูดให้ได้ เพราะคนพวกนี้โลภ เห็นแก่เงิน จึงสอนในสิ่งที่ไม่ควรสอน เลยทำให้หลายครัวเรือนต้องถูกทำลายไป 12 ขนาดคนหนึ่งของเขาเองที่เป็นคนพูดแทนพวกพระเจ้าของพวกเขายังพูดเลยว่า
“ชาวเกาะครีต พูดโกหกเสมอ
เป็นเหมือนสัตว์ป่าที่ดุร้าย
เป็นคนขี้เกียจและตะกละตะกลาม”
13 แล้วเขาก็เป็นอย่างที่พูดนั้นจริงๆ คุณต้องต่อว่าพวกนี้ให้เจ็บๆ เพื่อเขาจะได้เจริญขึ้นในความเชื่อ 14 จะได้ไม่ไปสนใจนิยายปรัมปราเหลวไหลของยิว และกฎต่างๆของคนที่หันหน้าหนีจากความจริง 15 สำหรับคนที่บริสุทธิ์ อะไรๆก็บริสุทธิ์ไปหมด ส่วนคนที่สกปรกและไม่เชื่อ ก็ไม่มีอะไรบริสุทธิ์เลย เพราะความคิดและใจที่ฟ้องถูกผิดของเขาสกปรกไปหมดแล้ว 16 พวกนี้อ้างว่ารู้จักพระเจ้า แต่การกระทำนั้นตรงกันข้าม พวกนี้น่ารังเกียจ ไม่เชื่อฟัง และไม่เหมาะที่จะทำความดีอะไรเลย
สอนให้คนทำตามคำสอนที่เป็นประโยชน์
2 ส่วนคุณให้พูดในสิ่งที่สอดคล้องกับคำสอนที่เป็นประโยชน์ 2 สอนชายสูงอายุให้รู้จักควบคุมตนเอง ทำตัวให้น่านับถือ สุขุมรอบคอบ ให้เจริญขึ้นทั้งในด้านความเชื่อ ความรัก และความอดทน
3 ส่วนหญิงสูงอายุก็เหมือนกัน สอนให้เขามีชีวิตที่บริสุทธิ์อย่างผู้ที่นับถือพระเจ้า อย่าเที่ยวไปซุบซิบนินทา หรือติดเหล้า แต่ให้เป็นคนสอนสิ่งดีๆ 4 จะได้อบรมหญิงสาวให้รักสามีและลูกๆ 5 ให้มีความสุขุมรอบคอบและบริสุทธิ์ ดูแลบ้านช่องเป็นอย่างดี มีใจโอบอ้อมอารีและยินยอมสามี จะได้ไม่มีใครพูดจาดูหมิ่นคำสอนของพระเจ้าได้
6 พวกคนหนุ่มๆก็เหมือนกัน ตักเตือนเขาให้เป็นคนสุขุมรอบคอบ 7 คุณควรจะทำสิ่งดีๆให้พวกเขาดูเป็นตัวอย่าง เวลาที่คุณสอนก็ให้จริงใจและจริงจัง 8 ให้สอนคำสอนที่เป็นประโยชน์ จะได้ไม่มีใครตำหนิได้ และจะทำให้คนที่ต่อต้านคุณ อับอายขายหน้า เพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาต่อว่าพวกเรา
9 สอนพวกทาส ให้เชื่อฟังเจ้านายในทุกเรื่อง ต้องเอาใจเจ้านาย และไม่โต้เถียง 10 สอนอย่าให้เขาขโมยของเจ้านาย แต่ให้แสดงให้เจ้านายเห็นว่าสามารถไว้ใจพวกเขาได้อย่างเต็มที่ ที่บอกให้ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะใช้ทุกวิถีทาง ทำให้คนมาสนใจคำสอนของพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเรามากขึ้น
11 ความเมตตากรุณาของพระเจ้าได้มาถึงแล้ว เป็นความเมตตากรุณาที่นำความรอดมาให้กับทุกคน 12 ความเมตตากรุณานี้ ได้ฝึกอบรมให้เราละทิ้งชีวิตที่ไม่ได้ให้เกียรติกับพระเจ้า และทิ้งกิเลสตัณหาของโลกนี้ ความเมตตากรุณานี้ฝึกให้เรามีชีวิตแบบคนที่มีสติ คนที่ยุติธรรม และคนที่ให้เกียรติกับพระเจ้าในยุคนี้ 13 เราควรจะทำอย่างนี้ในขณะที่เราตั้งหน้าตั้งตาคอยให้ความหวังที่นำเกียรติมาให้เราเป็นจริง ความหวังนั้นคือ เราจะได้เห็นเกียรติยศของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ และของพระเยซูคริสต์ผู้ช่วยให้รอดของเรา 14 พระองค์ได้ให้ชีวิตของพระองค์เองเพื่อเรา เพื่อจะได้ปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากความชั่วร้ายทั้งปวง เพื่อชำระล้างเราให้บริสุทธิ์จะได้เป็นคนของพระองค์โดยเฉพาะ คือเป็นคนที่พยายามจะทำแต่ความดี
15 ให้สอนเรื่องพวกนี้ และขอร้องตักเตือนพวกเขา คุณมีสิทธิ์เต็มที่ในการทำอย่างนี้ อย่าให้ใครดูถูกเอาได้
การใช้ชีวิตที่ถูกต้อง
3 คอยเตือนพวกเขาให้ยินยอมเชื่อฟังผู้ปกครองบ้านเมืองและผู้มีอำนาจด้วย เตือนให้พวกเขาพร้อมอยู่เสมอที่จะทำดีทุกอย่าง 2 อย่าใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ให้อยู่อย่างสงบสุข และสุภาพอ่อนโยน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับทุกคน
3 เพราะในอดีต เราก็เคยเป็นคนโง่ ไม่เชื่อฟัง และหลงผิด ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหา และหลงระเริงไปกับความชั่วทุกอย่าง ชีวิตก็เต็มไปด้วยความชั่วร้าย อิจฉาริษยา เป็นที่เกลียดชังของคนอื่น และเกลียดชังกันเอง 4 เมื่อพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเรา แสดงความรักและความเมตตาให้เราเห็น 5 พระองค์ได้ช่วยให้เรารอด ไม่ใช่เพราะเราทำดี แต่เป็นเพราะความเมตตากรุณาของพระองค์ต่างหาก พระองค์ได้ชำระล้างเรา ซึ่งทำให้เราเกิดใหม่ และถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ 6 พระเจ้าใจกว้างมาก พระองค์ได้เทพระวิญญาณให้กับเรา ผ่านทางพระเยซูคริสต์ผู้ช่วยให้รอดของเรา 7 ตอนนี้พระเจ้ายอมรับเราแล้ว เราเป็นผู้รับมรดก คือมีชีวิตกับพระองค์ตลอดไปอย่างที่เราหวังไว้ ซึ่งมาจากความเมตตากรุณาของพระองค์ 8 คำพูดนี้เชื่อถือได้ ผมอยากให้คุณเน้นเรื่องนี้ เพื่อว่าคนเหล่านั้นที่เชื่อพระเจ้า จะได้อุทิศตัวเองในการทำความดี เพราะคำสอนนี้เป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์มากสำหรับทุกคน
9 แต่ให้หลีกเลี่ยงการโต้เถียงโง่ๆที่เกี่ยวกับบรรพบุรุษ และการทะเลาะวิวาทกันเกี่ยวกับกฎของโมเสส เพราะไม่มีประโยชน์อะไรและไร้สาระด้วย 10 เมื่อได้เตือนคนที่ชอบยุแหย่ให้เกิดการแตกแยกครั้งสองครั้งแล้ว ก็อย่าไปยุ่งกับเขาอีก 11 เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่า เขาเป็นคนนอกลู่นอกทางและบาปหนา บาปที่เขาก่อขึ้นก็จะตามมาสนองเขาเอง
บางอย่างที่ไม่ควรจะลืม
12 เมื่อผมส่ง อารเทมัส หรือทีคิกัสมาหาคุณ ก็ขอพยายามมาหาผมที่นิโคโปลิสให้ได้นะ เพราะตอนหน้าหนาวนี้ ผมตัดสินใจจะอยู่ที่นั่น 13 ให้ช่วยเหลือเศนาสที่เป็นทนายความ กับอปอลโล ในสิ่งที่เขาจำเป็นต้องใช้ในการเดินทาง เขาจะได้ไม่ขาดอะไร 14 คนของเราควรที่จะเรียนรู้ที่จะทุ่มเทตัวเองในการทำความดี เพื่อช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน เพราะถ้าทำอย่างนี้ชีวิตของเขาจะมีประโยชน์
15 ทุกคนที่อยู่กับผมส่งความคิดถึงมาให้คุณ ช่วยส่งความคิดถึงไปให้กับกลุ่มผู้เชื่อที่รักพวกเราด้วย
ขอพระเจ้ามีความเมตตากรุณากับพวกคุณทุกคน
1 จากเปาโล ผู้เป็นนักโทษเพราะเห็นแก่พระเยซูคริสต์ และจากทิโมธีน้องชายของเรา
ถึงฟีเลโมนเพื่อนร่วมงานที่เรารัก 2 และถึงอัปเฟียน้องสาวของเรา และอารคิปปัส ซึ่งเป็นทหารของพระคริสต์ด้วยกันกับเรา และหมู่ประชุมของพระเจ้าที่บ้านของคุณ
3 ขอให้พระเจ้าพระบิดาของเรา และพระเยซูคริสต์เจ้าให้ความเมตตากรุณา และสันติสุขกับพวกคุณทุกคน
ความรักและความเชื่อของฟีเลโมน
4 ผมขอบคุณพระเจ้าของผมเสมอเมื่อผมอธิษฐานเผื่อคุณ 5 เพราะผมได้ยินเรื่องความเชื่อของคุณที่มีต่อพระเยซูเจ้า และความรักที่คุณมีต่อคนที่เป็นของพระเจ้าทุกคน 6 ผมอธิษฐานขอให้ความเชื่อที่เรามีร่วมกันนี้ ทำให้คุณเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ถึงสิ่งดีๆทั้งหมดที่เรามีในพระคริสต์ 7 น้องเอ๋ยความรักของคุณทำให้ผมมีความสุขมาก และมีกำลังใจด้วย เพราะคุณทำให้คนทั้งหลายที่เป็นของพระเจ้าชื่นใจ
เปาโลขอร้องแทนโอเนสิมัส
8 ถึงแม้ว่าในพระคริสต์ ผมกล้าพอที่จะสั่งให้คุณทำในสิ่งที่คุณควรทำก็จริง 9 แต่เพราะความรักของคุณ ผมอยากจะขอร้องคุณมากกว่า ผมเปาโลคนแก่คนนี้และตอนนี้ก็ยังเป็นนักโทษเพราะเห็นแก่พระเยซูคริสต์ด้วย 10 ผมขอร้องละ เกี่ยวกับเรื่องของโอเนสิมัส[y] ซึ่งเขาได้กลายมาเป็นลูกของผมตอนที่ผมอยู่ในคุกนี้ 11 เมื่อก่อนนี้ เขาเคยเป็นคนที่ไม่มีประโยชน์อะไรกับคุณ แต่เดี๋ยวนี้เขากลับมีประโยชน์มาก ทั้งกับคุณและกับผมด้วย
12 เขาเป็นเหมือนดวงใจของผมทีเดียว และผมก็ได้ส่งเขากลับมาหาคุณ 13 ความจริงแล้วผมอยากจะให้เขาอยู่ที่นี่กับผม เพื่อจะได้ช่วยเหลือผมแทนที่คุณในขณะที่ผมติดคุกอยู่ที่นี่เพราะเห็นแก่ข่าวดีนั้น 14 แต่ผมไม่อยากจะทำอะไรลงไปนอกจากคุณจะอนุญาตเสียก่อน เพื่อว่าความดีต่างๆที่คุณทำนั้น จะได้เป็นไปตามความสมัครใจของคุณเอง ไม่ใช่เพราะผมบังคับ
15 ไม่แน่นะ ที่เขาต้องจากคุณไปพักหนึ่ง อาจจะเพื่อเขาจะได้กลับมาอยู่กับคุณตลอดไปก็ได้ 16 และไม่ใช่กลับมาอย่างทาสอีกแล้ว แต่ดีกว่าทาสเสียอีก คือเป็นพี่น้องที่รัก ผมรักเขามาก แต่คุณจะรักเขามากยิ่งกว่า ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เพื่อนมนุษย์เท่านั้น แต่เป็นน้องชายในองค์เจ้าชีวิตด้วย
17 ดังนั้น ถ้าคุณยังเห็นว่าผมเป็นหุ้นส่วนอยู่อีกละก็ ขอให้ต้อนรับเขาเหมือนกับที่คุณจะต้อนรับผมด้วย 18 ถ้าเขาทำอะไรผิดต่อคุณ หรือเป็นหนี้อะไรคุณ ก็ให้มาคิดเอากับผมได้เลย 19 ผม เปาโล เขียนด้วยมือของผมเองว่า ผมจะจ่ายคืนให้กับคุณเอง และจะไม่อ้างถึงเรื่องที่คุณเป็นหนี้ชีวิตผมด้วย 20 ใช่แล้วน้อง ขอให้ผมได้ประโยชน์จากคุณบ้างในองค์เจ้าชีวิต ช่วยทำให้ผมชื่นใจขึ้นในพระคริสต์ด้วย 21 ที่ผมเขียนจดหมายนี้มาให้เพราะผมแน่ใจว่าคุณจะเชื่อฟัง และทำมากยิ่งกว่าที่ผมขอเสียอีก
22 อีกอย่างหนึ่ง ช่วยจัดเตรียมห้องให้กับผมด้วย เพราะผมเชื่อว่า พระเจ้าจะส่งผมมาหาคุณตามที่พวกคุณได้อธิษฐานนั้น
คำลงท้าย
23 เอปาฟรัสเพื่อนที่ติดคุกกับผมเพราะเห็นแก่พระคริสต์ ฝากความคิดถึงมาให้คุณด้วย 24 รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของผม มาระโก อาริสทารคัส เดมาส และลูกาก็ฝากความคิดถึงมาให้กับคุณด้วยเหมือนกัน 25 ขอให้ความเมตตากรุณาของพระเยซูคริสต์เจ้าอยู่กับวิญญาณของพวกคุณด้วย
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International