The Daily Audio Bible
Today's audio is from the GW. Switch to the GW to read along with the audio.
ลูกชายของเยโรโบอัมตาย
14 ในเวลานั้นอาบียาห์ลูกชายของเยโรโบอัมไม่สบาย 2 เยโรโบอัมได้พูดกับเมียของเขาว่า “ไปปลอมตัวสิเพื่อคนจะได้ไม่รู้ว่าน้องคือเมียของพี่ แล้วให้น้องไปหาอาหิยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าที่ชิโลห์ เขาคือคนที่เคยบอกพี่ว่า พี่จะได้เป็นกษัตริย์เหนือประชาชนพวกนี้ 3 ให้เอาขนมปังไปสิบก้อน ขนมเค้ก น้ำเชื่อมผลไม้หนึ่งไห แล้วให้ไปหาเขา เขาจะบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกของเรา”
4 เมียของเยโรโบอัมจึงทำตามที่เขาบอก และไปบ้านของอาหิยาห์ในชิโลห์ ตอนนั้น อาหิยาห์มองไม่เห็นแล้ว สายตาของเขาใช้การไม่ได้เพราะเขาแก่มาก 5 แต่พระยาห์เวห์บอกกับอาหิยาห์ว่า “เมียของเยโรโบอัมกำลังจะมาหาเจ้า เพื่อถามเจ้าเกี่ยวกับลูกชายของนาง เพราะเด็กคนนั้นไม่สบาย เมื่อนางมาถึง ให้เจ้าตอบนางไปว่าอย่างนี้ๆ นางจะปลอมตัวมา”
6 เมื่ออาหิยาห์ได้ยินเสียงฝีเท้าของนางที่ประตู เขาจึงพูดว่า “เข้ามาเถิด เมียของเยโรโบอัม ทำไมต้องปลอมตัวมาด้วย พระเจ้าให้เราบอกข่าวร้ายกับท่าน 7 ให้ไปบอกเยโรโบอัมว่า ‘พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลพูดไว้ว่าอย่างนี้ เราได้ยกเจ้าขึ้นมาจากท่ามกลางประชาชน และทำให้เจ้าเป็นผู้นำเหนือประชาชนชาวอิสราเอลของเรา 8 เราได้ฉีกอาณาจักรจากครอบครัวของดาวิดและยกมันให้กับเจ้า แต่เจ้าไม่เหมือนกับดาวิดผู้รับใช้เรา ผู้ซึ่งรักษาคำสั่งของเราและทำตามเราอย่างสุดใจของเขา เขาได้ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา 9 แต่เจ้ากลับทำความชั่วไว้มากมายกว่าคนอื่นๆที่เคยมีชีวิตอยู่ก่อนหน้าเจ้า เจ้าได้สร้างพวกพระอื่นสำหรับตัวเจ้าเอง คือรูปเคารพที่หล่อจากเหล็ก เจ้ายั่วเราให้โกรธและเหวี่ยงเราทิ้งไปข้างหลังเจ้า 10 เพราะอย่างนี้ เยโรโบอัม เราจะนำความหายนะมาสู่ครอบครัวของเจ้า เราจะตัดผู้ชายทุกคนในอิสราเอลออกจากเจ้า ทั้งทาสและคนที่ไม่ใช่ทาส เราจะเผาบ้านของเจ้าเหมือนกับเผามูลสัตว์จนกว่ามันจะมอดไหม้ไปหมด 11 พวกหมาจะมากินซากคนของเจ้าที่ตายอยู่ในเมือง และพวกนกบนท้องฟ้าจะมากินคนที่ตายอยู่ในชนบท พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้’”
12 แล้วอาหิยาห์ก็พูดว่า “ส่วนตัวเจ้า กลับบ้านไปเถอะ ทันทีที่เจ้าก้าวเท้าเข้าไปในเมือง ลูกชายของเจ้าจะตาย 13 อิสราเอลทั้งหมดจะไว้ทุกข์ให้กับเขาและฝังศพเขา เขาจะเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเยโรโบอัมที่จะได้รับการฝัง เพราะเขาเป็นผู้เดียวในครอบครัวของเยโรโบอัมที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลยังเห็นว่ามีความดีอยู่บ้าง 14 พระยาห์เวห์จะยกคนหนึ่งขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลสำหรับพระองค์เอง เขาเป็นผู้ที่จะตัดครอบครัวของเยโรโบอัมทิ้งไปในวันนี้ ใช่แล้ว ในเวลานี้เลย 15 พระยาห์เวห์จะทำลายอิสราเอล เหมือนกับต้นอ้อที่โอนเอียงไปในน้ำ พระองค์จะถอนรากถอนโคนอิสราเอลออกจากแผ่นดินที่ดีแห่งนี้ที่พระองค์ได้ยกให้กับพวกบรรพบุรุษของพวกเขาก่อนหน้านี้ และพระองค์จะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปไกลเลยแม่น้ำยูเฟรติสไป เพราะพวกเขาได้ยั่วให้พระยาห์เวห์โกรธ โดยการสร้างพวกเสาเจ้าแม่อาเชราห์ขึ้น 16 พระองค์จะให้อิสราเอลพ่ายแพ้ เพราะบาปต่างๆที่เยโรโบอัมได้ทำไป รวมทั้งบาปที่เขาได้ให้ชาวอิสราเอลทำด้วย”
17 แล้วเมียของเยโรโบอัมก็ลุกขึ้นจากไป นางกลับมาถึงเมืองทีรซาห์ ทันทีที่นางก้าวเท้าข้ามธรณีประตูของบ้านเข้ามา เด็กชายคนนั้นก็ตาย 18 พวกเขาฝังเด็กไว้และอิสราเอลทั้งหมดก็ไว้ทุกข์ให้เขาเหมือนกับที่พระยาห์เวห์ได้พูดไว้ผ่านทางอาหิยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าซึ่งเป็นผู้รับใช้พระองค์
19 เหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นในยุคสมัยของเยโรโบอัม ทั้งสงครามและวิธีการปกครองของเขาได้จดบันทึกไว้แล้วในสมุดประวัติของบรรดากษัตริย์ของอิสราเอล 20 เยโรโบอัมได้ครองราชย์อยู่ยี่สิบสองปีและได้ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และนาดับลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
เรโหโบอัม กษัตริย์ของยูดาห์
(2 พศด. 11:5-12:16)
21 ส่วนเรโหโบอัมลูกชายของซาโลมอนได้ขึ้นเป็นกษัตริย์อยู่ในยูดาห์ เขามีอายุสี่สิบเอ็ดปี ตอนที่เขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองราชย์อยู่เป็นเวลาสิบเจ็ดปีในเมืองเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นเมืองที่พระยาห์เวห์ได้เลือกออกมาจากบรรดาเผ่าต่างๆของอิสราเอล เพื่อที่จะเป็นที่ที่ชื่อของพระองค์จะได้รับเกียรติ แม่ของเรโหโบอัมชื่อนาอามาห์เป็นชาวอัมโมน
22 ชาวยูดาห์ได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ บาปที่พวกเขาทำ ยั่วให้พระยาห์เวห์เกิดความหวงแหน พวกเขาทำให้พระยาห์เวห์โกรธ พวกเขาได้ทำสิ่งที่เลวร้ายกว่าที่พวกบรรพบุรุษของพวกเขาเคยทำไว้เสียอีก 23 พวกเขาได้จัดตั้งสถานที่นมัสการขึ้นหลายแห่งสำหรับตัวพวกเขาเอง พวกเขาได้ตั้งก้อนหินศักดิ์สิทธิ์และพวกเสาเจ้าแม่อาเชราห์ไว้ตามเนินเขาสูงทุกแห่ง และใต้ต้นไม้ทุกต้นที่มีกิ่งก้านแผ่ออกมา 24 ยังมีพวกผู้ชายขายตัวตามพวกศาลเจ้าในแผ่นดินนั้นด้วย ประชาชนต่างทำตามเรื่องน่าสะอิดสะเอียนทั้งหลายของชนชาติเหล่านั้น ที่พระยาห์เวห์เคยขับไล่ออกไปต่อหน้าชาวอิสราเอล
25 ในปีที่ห้าของกษัตริย์เรโหโบอัม กษัตริย์ชิชักแห่งอียิปต์ได้ขึ้นมาโจมตีเมืองเยรูซาเล็ม 26 เขาได้ขนเอาทรัพย์สมบัติต่างๆไปจากวิหารของพระยาห์เวห์ และจากวังของกษัตริย์ เขาได้เอาทุกสิ่งทุกอย่างไปรวมทั้งพวกโล่ทองคำที่ซาโลมอนได้ทำขึ้นด้วย 27 ดังนั้น กษัตริย์เรโหโบอัมจึงได้สร้างโล่ทองสัมฤทธิ์ขึ้นมาแทนที่ของเหล่านั้น และมอบพวกมันไว้กับพวกทหารยามที่เข้าเวรอยู่หน้าประตูวัง 28 และทุกครั้งที่กษัตริย์จะเข้าไปที่วิหารของพระยาห์เวห์ พวกทหารยามก็จะถือโล่เหล่านี้ไปด้วย และหลังจากนั้นก็จะเอากลับไปเก็บไว้ในห้องของยาม
29 เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเรโหโบอัมและทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้หมดแล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของยูดาห์ 30 มันเป็นยุคที่มีสงครามเกิดขึ้นตลอดเวลาระหว่างเรโหโบอัมกับเยโรโบอัม
31 เรโหโบอัมก็ได้ล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ ของเขาและถูกฝังรวมกับพวกเขาอยู่ในเมืองของดาวิด แม่ของเขาชื่อนาอามาห์ นางเป็นชาวอัมโมน และอาบียัมลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
อาบียัมกษัตริย์ของยูดาห์
(2 พศด. 13:1-14:1)
15 อาบียัม[a] ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ของยูดาห์ ซึ่งตรงกับปีที่สิบแปดที่เยโรโบอัมปกครองอิสราเอล เยโรโบอัมเป็นลูกชายของเนบัท 2 อาบียัมได้ปกครองเยรูซาเล็มเป็นเวลาสามปี แม่ของเขาชื่อมาอาคาห์ นางเป็นลูกสาวของอาบีชาโลม[b]
3 อาบียัมได้ทำบาปทุกอย่างเหมือนกับที่พ่อของเขาทำไว้ก่อนหน้าเขา ใจของเขาไม่สัตย์ซื่อต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา ไม่เหมือนกับใจของดาวิดบรรพบุรุษของเขาที่สัตย์ซื่อนั้น 4 อย่างไรก็ตาม เพื่อเห็นแก่ดาวิด พระยาห์เวห์พระเจ้าของดาวิดได้ให้ตะเกียงแก่เขาหนึ่งดวงในเยรูซาเล็ม คือได้ตั้งลูกชายคนหนึ่งของดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา และทำให้เมืองเยรูซาเล็มแข็งแกร่ง 5 เพราะดาวิดได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ แล้วไม่ได้หันเหไปจากสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระองค์ได้สั่งเขาไว้ตลอดชั่วชีวิตของเขา ยกเว้นในเรื่องของอุรียาห์[c]ชาวฮิตไทต์เท่านั้น
6 [d] 7 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคของอาบียัม และทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้ในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของยูดาห์ มีการทำสงครามกันระหว่างอาบียัมและเยโรโบอัม 8 อาบียัมล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่ในเมืองของดาวิด และอาสาลูกชายของเขาขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
กษัตริย์อาสาของยูดาห์
(2 พศด. 14:1-2; 15:16-19)
9 ในปีที่ยี่สิบที่เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล อาสาได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ 10 เขาครองบัลลังก์อยู่ในเยรูซาเล็มเป็นเวลาสี่สิบเอ็ดปี ย่าของเขามีชื่อว่ามาอาคาห์ นางเป็นลูกสาวของอาบีชาโลม
11 อาสาทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่ดาวิดบรรพบุรุษของเขาทำ 12 เขาขับไล่พวกผู้ชายขายตัว ตามศาลเจ้าออกไปจากแผ่นดินนี้ และกำจัดพวกรูปเคารพทั้งหมดที่บรรพบุรุษของเขาได้สร้างทิ้งไว้ 13 เขายังปลดมาอาคาห์ แม่ของเขาออกจากตำแหน่งแม่ของกษัตริย์ เพราะนางได้สร้างเสาเจ้าแม่อาเชราห์ที่น่าขยะแขยงขึ้นมาต้นหนึ่ง อาสาโค่นเสาต้นนั้นทิ้งและเผาทิ้งในหุบเขาขิดโรน 14 ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้รื้อพวกสถานที่นมัสการทั้งหลายทิ้ง แต่ใจของอาสายังสัตย์ซื่อกับพระยาห์เวห์ตลอดชีวิตของเขา 15 เขานำพวกเงิน ทองและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่เขาและพ่อของเขาได้บนบานไว้ต่อพระยาห์เวห์ มาไว้ที่วิหารของพระยาห์เวห์
อาสาผูกมิตรกษัตริย์ของอารัม
(2 พศด. 16:6, 11-13)
16 ในยุคนั้น อาสากับกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอลได้ทำสงครามกันอยู่ตลอดเวลา 17 กษัตริย์บาอาชาของอิสราเอลขึ้นไปต่อสู้กับยูดาห์และได้สร้างป้อมรามาห์ขึ้น เพื่อกันไม่ให้ใครเข้าออกจากแผ่นดินของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ 18 กษัตริย์อาสาจึงเอาเงินและทองที่หลงเหลืออยู่ในคลังของวิหารของพระยาห์เวห์ และในวังของเขาเอง แล้วนำไปมอบให้กับพวกเจ้าหน้าที่ ให้เอาไปให้กับกษัตริย์เบนฮาดัดของอารัม ที่ปกครองอยู่ในเมืองดามัสกัส เบนฮาดัดเป็นลูกชายของทับริมโมน ทับริมโมนเป็นลูกชายของเฮซีโอน 19 อาสาให้คนของเขาพูดกับเบนฮาดัดว่า “เรามาเป็นพันธมิตรกันเถิด ให้เหมือนกับที่พ่อของเรากับพ่อของท่านเคยทำกันไว้ ดูสิ เราได้ส่งของขวัญเป็นเงินและทองมาให้ท่าน ขอท่านช่วยเลิกเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์บาอาชาของอิสราเอลด้วยเถิด เพื่อเขาจะได้ยกทัพกลับไปจากเรา”
20 เบนฮาดัดก็ตกลงเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์อาสา และส่งพวกแม่ทัพของกองทัพเขาไปโจมตีเมืองต่างๆของอิสราเอล เขาเอาชนะเมืองอิโยน เมืองดาน เมืองอาเบล-เบธมาอาคาห์ และหมู่บ้านทั้งหมดตามแถบทะเลสาบกาลิลี รวมถึงดินแดนนัฟทาลีทั้งหมดด้วย 21 เมื่อบาอาชารู้เรื่องเข้า เขาก็หยุดสร้างป้อมรามาห์และถอนทัพกลับไปที่ทีรซาห์ 22 แล้วกษัตริย์อาสาก็ได้มีคำสั่งไปถึงชาวยูดาห์ทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว ให้พวกเขาไปรื้อเอาหินและไม้ที่ป้อมรามาห์ที่บาอาชาสร้างค้างไว้ แล้วกษัตริย์อาสาก็เอาของเหล่านั้นมาสร้างเมืองเกบาขึ้นในเขตแดนของเบนยามินและสร้างเมืองมิสปาห์ด้วย
23 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นในยุคสมัยของกษัตริย์อาสา ความสำเร็จทุกอย่างของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำและเมืองต่างๆที่เขาสร้างขึ้น ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์ แต่ตอนที่เขาแก่ตัวลง เท้าทั้งสองข้างของเขาเป็นโรค 24 แล้วอาสาก็ล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่กับพวกเขาในเมืองของดาวิด บรรพบุรุษของเขา และเยโฮชาฟัทลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
เปโตรและโครเนลิอัส
10 ที่เมืองซีซารียามีนายร้อยคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัส เป็นผู้คุมกองร้อยที่มีชื่อเรียกว่า “กองทหารชาวอิตาลี” 2 เขาเป็นคนที่เคร่งศาสนามาก ทั้งเขาและครอบครัวต่างก็เคารพยำเกรงพระเจ้า เขาบริจาคช่วยเหลือคนจน และอธิษฐานต่อพระเจ้าอยู่เสมอ 3 ตอนนั้นเวลาบ่ายสามโมง โครเนลิอัสได้เห็นนิมิตอย่างชัดเจน คือเขาเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้าเข้ามาพูดกับเขาว่า “โครเนลิอัส”
4 โครเนลิอัสมองทูตสวรรค์ด้วยความเกรงกลัว และถามว่า “อะไรหรือครับท่าน” ทูตสวรรค์จึงพูดกับเขาว่า “พระเจ้าได้ยินคำอธิษฐานของคุณแล้ว และชอบใจที่คุณได้บริจาคช่วยเหลือคนจน 5 ตอนนี้ให้ส่งคนไปที่เมืองยัฟฟา ไปพาชายชื่อซีโมนที่คนเรียกว่าเปโตรมาหาคุณ 6 เขาพักอยู่กับช่างฟอกหนังชื่อซีโมน บ้านอยู่ริมทะเล” 7 เมื่อทูตสวรรค์พูดกับโครเนลิอัสแล้วก็จากไป โครเนลิอัสจึงเรียกคนใช้ในบ้านมาสองคน พร้อมกับทหารคนสนิทที่เคร่งศาสนามาคนหนึ่ง 8 และเขาก็ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้พวกเขาฟัง จากนั้นก็ส่งพวกเขาไปเมืองยัฟฟา
9 วันต่อมาขณะที่คนพวกนี้กำลังเดินทางใกล้ถึงเมืองยัฟฟา เป็นเวลาเดียวกับที่เปโตรได้ขึ้นไปอธิษฐานบนดาดฟ้า ตอนใกล้เที่ยงวัน 10 เขาเริ่มหิวและอยากกินอาหาร ขณะที่คนในบ้านกำลังเตรียมอาหารอยู่นั้น เปโตรก็เคลิ้มหลับไป 11 เขาเห็นท้องฟ้าเปิด และเห็นสิ่งที่ดูเหมือนกับผ้าผืนใหญ่ลอยลงมา ผ้าผืนนั้นถูกยึดไว้ทั้งสี่มุมและหย่อนลงมาที่พื้นโลก 12 ในนั้นมีสัตว์ทุกชนิด ทั้งสัตว์เลื้อยคลานและนก 13 และมีเสียงพูดว่า “เปโตร ลุกขึ้นมาฆ่าสัตว์พวกนี้กินสิ” 14 เปโตรตอบว่า “ไม่ได้หรอกครับองค์เจ้าชีวิต เพราะผมไม่เคยกินสิ่งพวกนี้ที่เป็นของต้องห้ามหรือแปดเปื้อนตามกฎของโมเสส”
15 เสียงนั้นก็พูดอีกครั้งว่า “ของอะไรที่พระเจ้าทำให้สะอาดแล้ว เจ้าไม่ควรถือว่ามันไม่สะอาด” 16 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นถึงสามครั้ง แล้วของทั้งหมดก็ถูกนำกลับขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที
17 เปโตรกำลังงงงวยว่านิมิตที่เห็นนี้หมายถึงอะไร พอดีคนที่โครเนลิอัสส่งมาก็กำลังยืนอยู่ที่หน้าประตู และถามหาบ้านของซีโมน 18 ชายกลุ่มนั้นร้องถามว่า “ซีโมนที่คนเรียกว่าเปโตรพักอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ”
19 พระวิญญาณพูดกับเปโตรที่ยังคิดถึงเรื่องนิมิตอยู่ว่า “ฟังสิ มีชายสามคนมาถามหาเจ้าอยู่ 20 ลุกขึ้น ลงไปข้างล่างเถอะ และให้ไปกับพวกเขาโดยไม่ต้องลังเลอะไรเลย เพราะเราเป็นคนเรียกให้พวกเขามาเอง” 21 แล้วเปโตรก็ลงไปพูดกับพวกเขาว่า “ผมเองที่พวกคุณตามหา มีธุระอะไรหรือ”
22 พวกเขาตอบว่า “นายร้อยโครเนลิอัส เป็นคนส่งพวกเรามา เขาเป็นคนดี แล้วเขาเคารพยำเกรงพระเจ้า ชาวยิวยกย่องนับถือเขาทุกคน ทูตสวรรค์ที่ศักดิ์สิทธิ์บอกให้เขามาเชิญท่านไปที่บ้าน เพื่อจะได้ฟังเรื่องที่ท่านจะเล่า” 23 เปโตรก็เลยชวนชายทั้งสามพักที่บ้าน วันรุ่งขึ้น เปโตรได้จัดของและไปกับพวกเขา มีพี่น้องบางคนจากเมืองยัฟฟาตามไปด้วย
พี่น้องอยู่ด้วยกันอย่างกลมเกลียว
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร เพลงของดาวิด
1 มันช่างวิเศษและน่ายินดีจริงๆ
เมื่อพี่น้องอยู่ด้วยกันอย่างกลมเกลียว
2 มันเป็นเหมือนน้ำมันหอมชั้นดีที่เทลงมาเจิมหัวของอาโรน
แล้วไหลลงมาอาบเคราของเขา
แล้วไหลเรื่อยลงมาบนเสื้อคลุมของเขา
3 มันเป็นเหมือนน้ำค้างมากมายบนภูเขาเฮอร์โมน
ที่ตกลงมาบนเทือกเขาศิโยนด้วย
ที่ศิโยนนั้น พระยาห์เวห์ได้สัญญาที่จะให้พระพรแม้แต่ชีวิตที่แสนจะยืนยาว
7 การพูดดีเลิศไม่ใช่นิสัยของคนโง่
การพูดโกหกยิ่งไม่ใช่นิสัยของคนชั้นผู้นำ
8 คนที่ให้สินบนคิดว่าสินบนคือหินนำโชค
เพราะไม่ว่าเขาหันไปทางไหน ก็ประสบความสำเร็จ
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International