Print Page Options Listen to Reading
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the NIV. Switch to the NIV to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศ์กษัตริย์ 10:32-12:21

ฮาซาเอลเอาชนะอิสราเอลได้

32 ในสมัยนั้น พระยาห์เวห์เริ่มตัดส่วนต่างๆของอิสราเอลออก กษัตริย์ฮาซาเอลของอารัมได้เอาชนะชาวอิสราเอลตามพรมแดนของพวกเขา 33 ตั้งแต่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ดินแดนทั้งหมดของกิเลอาด รวมทั้งดินแดนที่เป็นของเผ่ากาด เผ่ารูเบนและเผ่ามนัสเสห์ และเขามีชัยตั้งแต่อาโรเออร์ที่อยู่ติดกับลำธารอารโนนไปจนถึงกิเลอาดและบาชาน

ความตายของเยฮู

34 เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเยฮู ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำไปและความสำเร็จต่างๆของเขา ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล 35 แล้วเยฮูก็ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่ในเมืองสะมาเรีย และเยโฮอาหาสลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา 36 เยฮูปกครองอิสราเอลอยู่ในเมืองสะมาเรียเป็นเวลายี่สิบแปดปี

นางอาธาลิยาห์ฆ่าพวกลูกๆของกษัตริย์

(2 พศด. 22:10-12)

11 เมื่อนางอาธาลิยาห์ซึ่งเป็นแม่ของอาหัสยาห์เห็นว่าลูกชายของนางตายแล้ว นางได้ลงมือฆ่าครอบครัวของกษัตริย์อาหัสยาห์ทั้งหมด

แต่เยโฮเชบาที่เป็นลูกสาวของกษัตริย์เยโฮรัม[a] และเป็นน้องสาวของอาหัสยาห์ได้แอบพาโยอาชลูกชายของอาหัสยาห์ไปจากพวกเจ้าชายทั้งหลายที่กำลังจะถูกฆ่า นางได้เอาตัวโยอาชและพี่เลี้ยงของเขาไปไว้ในห้องนอนห้องหนึ่งเพื่อหลบซ่อนตัวจากนางอาธาลิยาห์ โยอาชก็เลยไม่ได้ถูกฆ่าไปด้วย

โยอาชยังคงหลบซ่อนตัวกับพี่เลี้ยงของเขาอยู่ในวิหาร ของพระยาห์เวห์เป็นเวลาถึงหกปีในช่วงที่นางอาธาลิยาห์ปกครองแผ่นดินนั้น

เยโฮยาดาเจิมโยอาชเป็นกษัตริย์

(2 พศด. 23:1-21)

ในปีที่เจ็ด นักบวชเยโฮยาดาเรียกพวกผู้นำทหารของชาวคารี[b] และทหารรักษาพระองค์มา และสั่งให้พวกเขามาหาที่วิหารของพระยาห์เวห์ เขาได้ทำข้อตกลงกับคนเหล่านั้น และให้พวกเขาสาบานที่วิหารของพระยาห์เวห์ แล้วเขาถึงเอาโยอาชที่เป็นลูกชายของกษัตริย์ออกมา

เยโฮยาดาสั่งคนเหล่านั้นว่า “นี่คือสิ่งที่พวกท่านจะต้องทำ หนึ่งในสามของพวกท่าน ที่ต้องมาอยู่เวรในวันหยุดทางศาสนา จะต้องไปเฝ้าดูวังของกษัตริย์ อีกหนึ่งในสามต้องเฝ้าดูอยู่ที่ประตูสูร และอีกหนึ่งในสามที่เหลือไปอยู่ที่ประตูที่อยู่ด้านหลังทหารรักษาพระองค์ อย่างนี้พวกท่านก็จะเฝ้าดูแลวังจากทุกด้าน ส่วนพวกท่านสองกลุ่มที่ไม่ต้องอยู่เวรในวันหยุดทางศาสนา จะต้องมาคอยเฝ้าวิหารของพระยาห์เวห์และปกป้องกษัตริย์ พวกท่านจะต้องล้อมรอบกษัตริย์ไว้ ให้แต่ละคนถืออาวุธพร้อมมือ ใครก็ตามที่เข้ามาใกล้กษัตริย์ต้องถูกฆ่า ให้อยู่กับกษัตริย์ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็ตาม”

พวกผู้นำเหล่าทัพได้ทำตามที่เยโฮยาดานักบวชได้สั่งไว้ แต่ละคนได้นำทหารของเขามา ทั้งที่อยู่เวรในวันหยุดทางศาสนา และคนที่ไม่ได้อยู่เวร พวกเขาได้พากันมาหานักบวชเยโฮยาดา 10 แล้วเขาก็ได้แจกพวกหอกและโล่ให้กับพวกผู้นำเหล่าทัพนั้น มันเป็นหอกและโล่ของกษัตริย์ดาวิดที่เก็บอยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์นั่นเอง 11 เหล่าทหารรักษาพระองค์ทุกคนถืออาวุธพร้อมมือ ประจำที่ของตนรอบๆวิหาร จากด้านใต้จดด้านเหนือ พวกเขายืนอยู่รอบแท่นบูชาและวิหาร รวมทั้งยืนอยู่รอบตัวกษัตริย์ด้วย 12 เยโฮยาดาได้พาโยอาชที่เป็นลูกชายกษัตริย์ออกมาและสวมมงกุฎให้กับเขา และได้มอบสำเนาข้อตกลง[c]ที่พระเจ้าได้ทำกับคนของพระองค์ให้กับเขา พวกเขาได้เจิมโยอาชขึ้นเป็นกษัตริย์และพวกเขาก็ตบมือโห่ร้องว่า “กษัตริย์จงเจริญ”

13 เมื่อนางอาธาลิยาห์ได้ยินเสียงอึกทึกที่เหล่าทหารรักษาพระองค์และประชาชนตะโกน นางออกมาหาประชาชนที่วิหารของพระยาห์เวห์ 14 นางมองไปและเห็นกษัตริย์ยืนอยู่ข้างเสาตามประเพณี มีพวกผู้นำเหล่าทัพและคนเป่าแตรอยู่ที่ด้านข้างของกษัตริย์ และประชาชนทั้งหมดในแผ่นดินต่างก็ร่าเริงยินดีและเป่าเขาสัตว์กัน นางอาธาลิยาห์ก็ฉีกเสื้อผ้าของนางและร้องตะโกนว่า “กบฏ กบฏ”

15 นักบวชเยโฮยาดาสั่งพวกผู้นำเหล่าทัพที่ได้ตั้งให้ดูแลกองทัพว่า “นำนางออกมาจากท่ามกลางกองทหาร และฆ่าทุกคนที่ติดตามนาง” เพราะนักบวชพูดว่า “อย่าฆ่านางภายในวิหารของพระยาห์เวห์แห่งนี้”

16 พวกเขาจับตัวนางไว้ได้ ในขณะที่นางกำลังจะเข้าไปในวังทางประตูม้า และนางก็ถูกฆ่าตายที่นั่น

17 แล้วเยโฮยาดาก็ได้ทำข้อตกลงระหว่างพระยาห์เวห์กับกษัตริย์และประชาชน ว่าพวกเขาจะเป็นประชาชนของพระยาห์เวห์ เขายังได้ทำข้อตกลงระหว่างกษัตริย์กับประชาชนอีกด้วย

18 ประชาชนทั้งหมดในแผ่นดินนั้นได้ไปที่วิหารของพระบาอัลและรื้อมันทิ้งไป พวกเขาทุบพวกแท่นบูชาและรูปเคารพทั้งหมดจนแตกเป็นชิ้นๆและฆ่ามัทธานที่เป็นนักบวชของพระบาอัลที่หน้าแท่นบูชาเหล่านั้น

แล้วนักบวชเยโฮยาดาก็ให้ทหารยามอยู่เฝ้าที่วิหารของพระยาห์เวห์ 19 เขากับพวกผู้นำเหล่าทัพ คนคารี และทหารรักษาพระองค์ รวมทั้งประชาชนทั้งหมดของแผ่นดิน ได้พากษัตริย์ลงมาจากวิหารของพระยาห์เวห์ และเข้าไปในวัง ผ่านทางประตูสำหรับทหารรักษาพระองค์ แล้วกษัตริย์ก็ขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ 20 และประชาชนทั้งหมดบนแผ่นดินนั้นต่างก็เฉลิมฉลองรื่นเริงกัน และบ้านเมืองก็สงบสุข เพราะนางอาธาลิยาห์ถูกฆ่าด้วยดาบแล้วภายในวัง

21 โยอาชมีอายุเจ็ดปีเมื่อเขาขึ้นครองราชย์

โยอาชเริ่มปกครอง

(2 พศด. 24:1-16)

12 โยอาชขึ้นครองราชย์ ตรงกับปีที่เจ็ดที่เยฮูเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล โยอาชครองราชย์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเป็นเวลาสี่สิบปี แม่ของเขาชื่อศิบียาห์ นางมาจากเมืองเบเออร์เชบา โยอาชทำในสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ตลอดชีวิตของเขา เขาทำตามที่นักบวชเยโฮยาดาได้สั่งสอนเขาไว้ แต่สถานนมัสการต่างๆก็ยังไม่ได้ถูกรื้อทิ้ง ประชาชนยังคงไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเผาเครื่องหอมที่นั่นเหมือนเดิม

โยอาชสั่งให้ซ่อมแซมวิหาร

(2 พศด. 24:1-14)

โยอาชพูดกับพวกนักบวชว่า “เงินทั้งหมดที่คนเอาเข้ามาในวิหารของพระยาห์เวห์ เพื่อถวายเป็นของขวัญศักดิ์สิทธิ์ เช่น เงินที่กำหนดให้จ่ายตามรายบุคคล เงินที่ได้มาจากการแก้บน เงินที่คนเอามาถวายด้วยความสมัครใจให้กับวิหารแห่งนี้ ให้นักบวชแต่ละคนรับเงินเหล่านั้นมาจากคนที่พวกเขาให้บริการนั้น และให้ใช้เงินเหล่านั้นในการซ่อมแซมจุดต่างๆในวิหารที่พวกเขาเห็นว่าเสียหาย”

แต่จนถึงปีที่ยี่สิบสามของกษัตริย์โยอาช พวกนักบวชก็ยังไม่ได้ซ่อมแซมวิหารนั้น กษัตริย์โยอาชจึงได้เรียกตัวนักบวชเยโฮยาดาและนักบวชคนอื่นๆเข้ามาและถามพวกเขาว่า “ทำไมพวกท่านถึงยังไม่ได้ซ่อมแซมวิหาร พวกท่านหยุดรับเงินจากคนที่พวกท่านให้บริการได้แล้ว ให้มอบเงินนั้นให้กับคนอื่นซ่อมแซมวิหารได้แล้ว”

พวกนักบวชต่างเห็นด้วยที่จะไม่เก็บเงินจากประชาชนอีก และตัดสินใจที่จะไม่ซ่อมแซมวิหารเองด้วย นักบวชเยโฮยาดาเอาหีบใส่เงินใบหนึ่งเจาะรูไว้บนฝาของมัน แล้วนำไปวางไว้ที่ด้านข้างทางขวาของแท่นบูชา หีบนี้อยู่ใกล้ประตูทางเข้าวิหารของพระยาห์เวห์ นักบวชบางคนที่เฝ้าอยู่ที่ประตูทางเข้า[d] ได้เอาเงินที่คนเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ ใส่ไว้ในหีบใบนั้น

10 เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเห็นว่ามีเงินอยู่ในหีบใบนั้นมากแล้ว เลขาของกษัตริย์และนักบวชชั้นสูงสุด ก็จะมานับเงินนั้นในวิหารของพระยาห์เวห์และใส่ไว้ในถุงหลายใบ 11 เมื่อมีจำนวนเงินมากแล้ว พวกเขาก็เอาเงินนั้นไปให้กับผู้ควบคุมงานในวิหารแห่งนั้น พวกนี้ก็จะได้เอาเงินนี้ไปจ่ายให้กับคนงานที่ทำงานอยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ เช่น ช่างไม้ ช่างก่อสร้าง 12 ช่างอิฐ และคนตัดหิน พวกเขาเอาเงินนั้นไปซื้อไม้และหินที่ตัดแต่งแล้วมาเพื่อใช้ในการซ่อมแซมวิหารของพระยาห์เวห์ รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็นในการซ่อมแซมวิหาร

13 เงินที่ได้มานี้ นักบวชไม่สามารถนำไปใช้ในการทำอ่างเงิน กรรไกรตัดไส้ตะเกียง ชามสำหรับประพรม แตรเขาสัตว์ หรือข้าวของเครื่องใช้ที่ทำขึ้นจากทองคำหรือเงินสำหรับวิหารของพระยาห์เวห์ 14 แต่เขาจ่ายเงินนั้นสำหรับพวกคนงานที่ต้องใช้เงินในการซ่อมแซมวิหาร 15 พวกที่ให้เงินนี้ ไม่ได้ขอให้คนงานทำบัญชีค่าใช้จ่าย เพราะพวกคนงานเหล่านี้ล้วนไว้ใจได้

16 เงินที่ได้จากเครื่องบูชาชำระล้างและเครื่องบูชาตอบแทน ไม่ได้เอามาเก็บไว้ในวิหารเพราะมันเป็นของพวกนักบวช

โยอาชยอมสละของมีค่าให้ฮาซาเอล

17 ในเวลานั้น กษัตริย์ฮาซาเอลของอารัมได้ขึ้นมาโจมตีเมืองกัทและยึดเมืองไว้ได้ แล้วเขาก็ตั้งใจที่จะขึ้นมาโจมตีเมืองเยรูซาเล็ม

18 แต่กษัตริย์โยอาช[e] ของยูดาห์ได้เอาของทั้งหมดที่บรรพบุรุษของเขาคือเยโฮชาฟัท เยโฮรัมและอาหัสยาห์ ที่เคยเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ได้อุทิศให้กับพระยาห์เวห์ รวมทั้งของที่ตัวท่านเองได้อุทิศไว้ด้วย ตลอดจนทองคำทั้งหมดที่อยู่ในคลังของพระยาห์เวห์ และในวังของกษัตริย์ด้วย เขาเอาของมีค่าทั้งหมดนี้ส่งไปให้กับกษัตริย์ฮาซาเอลของชาวอารัม แล้วฮาซาเอลก็ได้ถอยทัพไปจากเมืองเยรูซาเล็ม

โยอาชตาย

(2 พศด. 24:23-27)

19 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในสมัยของโยอาชและสิ่งที่เขาได้ทำไปทั้งหมด ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์

20 พวกข้าราชการของโยอาช ได้รวมหัวกันวางแผนกบฏและฆ่าเขาที่เบธมิลโล บนทางที่จะลงไปสิลลา 21 พวกข้าราชการที่ได้ฆ่าเขาก็คือโยซาคาร์ลูกชายของชิเมอัทและเยโฮซาบาดลูกชายของโชเมอร์

เขาตายและถูกฝังไว้กับบรรพบุรุษของเขาในเมืองของดาวิด และอามาซิยาห์ที่เป็นลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

กิจการ 18:1-22

เปาโลในเมืองโครินธ์

18 หลังจากนั้นเปาโลก็ออกจากเมืองเอเธนส์ไปที่เมืองโครินธ์ เขาได้พบกับคนยิวชื่อ อาควิลลาที่เกิดในแคว้นปอนทัส อาควิลลากับภรรยาที่ชื่อ ปริสสิลลา เพิ่งมาจากอิตาลี เพราะจักรพรรดิคลาวดิอัส[a] สั่งให้ชาวยิวทุกคนออกจากกรุงโรม เปาโลไปหาพวกเขา เพราะเปาโลและอาควิลลาเป็นช่างเย็บหนังเหมือนกัน เปาโลก็เลยทำงานอยู่กับพวกเขา ทุกวันหยุดทางศาสนา เปาโลก็จะไปพูดโต้ตอบกันในที่ประชุมชาวยิว เพื่อพยายามชักชวนชาวยิวและชาวกรีกให้มาเชื่อในพระเยซู

เมื่อสิลาสและทิโมธีมาจากแคว้นมาซิโดเนีย เปาโลทุ่มเทเวลาทั้งหมดของเขาประกาศพระคำและพยายามจะให้ชาวยิวรู้ว่า พระเยซูคือกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อพวกนั้นต่อต้านและพูดจาหยาบคายกับเปาโล เปาโลก็สะบัดเสื้อผ้า[b] ของเขา และพูดว่า “ชีวิตใครก็รับผิดชอบกันเอาเองก็แล้วกัน ผมทำดีที่สุดแล้ว ต่อไปนี้ผมจะไปหาคนที่ไม่ใช่ยิว” เปาโลก็ออกจากที่ประชุมชาวยิวตรงไปที่บ้านของชายชื่อ ทิทิอัสยุสทัส ซึ่งไม่ใช่คนยิว แต่นับถือพระเจ้า บ้านของเขาอยู่ถัดจากที่ประชุมชาวยิว คริสปัส ซึ่งเป็นหัวหน้าที่ประชุมชาวยิว พร้อมกับสมาชิกในครอบครัวทุกคน ก็หันมาไว้วางใจในองค์เจ้าชีวิต ชาวโครินธ์อีกจำนวนมากที่ได้ฟังเปาโลพูดก็ได้ไว้วางใจด้วย และเข้าพิธีจุ่มน้ำ

คืนหนึ่งองค์เจ้าชีวิตพูดกับเปาโลในนิมิตว่า “ไม่ต้องกลัว ประกาศต่อไป อย่าเงียบเฉย 10 เพราะเราอยู่กับเจ้า จะไม่มีใครเข้ามาจู่โจมทำร้ายเจ้าได้ เพราะเรามีคนอยู่มากมายในเมืองนี้” 11 เปาโลสั่งสอนพระคำของพระเจ้าอยู่ที่เมืองนั้นต่อไปอีกหนึ่งปีครึ่ง

เปาโลถูกนำตัวไปพบกัลลิโอ

12 ตอนที่กัลลิโอ[c] เป็นผู้ว่าแคว้นอาคายา ชาวยิวรวมตัวกันเข้าทำร้ายเปาโล และพาเขาไปที่ศาล 13 พวกเขาบอกว่า “ชายคนนี้ชักชวนให้คนไปกราบไหว้พระเจ้าในทางที่ขัดกับกฎของเรา” 14 พอเปาโลจะอ้าปากพูด กัลลิโอก็พูดกับชาวยิวว่า “ถ้าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับความผิดหรือคดีร้ายแรง เราก็จะฟังพวกท่าน 15 แต่นี่มันเป็นเรื่องโต้แย้งเกี่ยวกับคำสอนต่างๆ ชื่อต่างๆและกฎปฏิบัติของพวกท่าน ไปจัดการกันเอาเองก็แล้วกัน เราไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอย่างนี้” 16 แล้วกัลลิโอก็ไล่คนทั้งหมดออกไปจากศาล

17 พวกฝูงชนจึงไปคว้าตัวโสสเธเนส ซึ่งเป็นหัวหน้าที่ประชุมชาวยิวมาทุบตีต่อหน้าศาล แต่กัลลิโอก็ไม่สนใจใยดีอะไรทั้งสิ้น

เปาโลกลับถึงเมืองอันทิโอก

18 เปาโลอยู่ที่นั่นต่อไปอีกหลายวัน แล้วจึงลาพวกพี่น้องลงเรือไปที่แคว้นซีเรีย ปริสสิลลาและอาควิลลาก็ไปกับเขาด้วย แต่ก่อนที่เปาโลจะจากไป เขาโกนหัว[d] เพราะได้สาบานตนเอาไว้กับพระเจ้าที่เมืองเคนเครีย 19 เมื่อพวกเขามาถึงเมืองเอเฟซัส เปาโลก็ปล่อยปริสสิลลาและอาควิลลาไว้ที่นั่น ในระหว่างที่เปาโลอยู่ที่นั่น เขาเข้าไปในที่ประชุมชาวยิว และพูดโต้ตอบกับพวกชาวยิวในนั้น 20 เมื่อพวกนั้นขอร้องให้เปาโลพักอยู่ที่นั่นต่อไปอีก เปาโลไม่ยอม 21 แต่ก่อนที่เขาจะจากไปเขาได้พูดว่า “ถ้าเป็นความต้องการของพระเจ้า ผมจะกลับมาหาพวกคุณอีก” แล้วเปาโลก็นั่งเรือไปจากเมืองเอเฟซัส

22 เมื่อมาถึงเมืองซีซารียา เปาโลไปทักทายหมู่ประชุมของพระเจ้าที่เมืองเยรูซาเล็มแล้วจึงลงไปที่เมืองอันทิโอก

สดุดี 145

ขอให้ทุกชีวิตสรรเสริญพระยาห์เวห์

[a] บทเพลงสรรเสริญจากดาวิด

พระเจ้าของข้าพเจ้าผู้เป็นกษัตริย์ ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญชื่อของพระองค์ไปตลอดกาล
ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์ทุกๆวัน
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญชื่อของพระองค์ไปตลอดกาล
พระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่และควรค่าแก่การสรรเสริญยิ่งนัก
    ไม่มีใครสามารถเข้าใจความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้ทั้งหมด

คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า จะสรรเสริญพระองค์ สำหรับสิ่งที่พระองค์ทำ
    พวกเขาจะประกาศถึงการกระทำอันทรงฤทธิ์ทั้งหลายของพระองค์
ข้าพเจ้าจะใคร่ครวญครุ่นคิดถึงพระบารมีและสง่าราศีอันรุ่งโรจน์ของพระองค์
    และการกระทำอันน่าทึ่งทั้งหลายของพระองค์
ผู้คนจะกล่าวถึงฤทธิ์อำนาจที่พระองค์ใช้ทำสิ่งอันน่าเกรงขามทั้งหลาย
    ข้าพเจ้าจะเล่าถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์
พวกเขาจะเฉลิมฉลองคุณความดีอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
    พวกเขาจะร้องเพลงเกี่ยวกับความยุติธรรมของพระองค์ด้วยความยินดี

พระยาห์เวห์ใจดีและมีเมตตา
    พระองค์โกรธช้า และเต็มไปด้วยความรักที่มั่นคง
พระยาห์เวห์ดีกับทุกคน
    และพระองค์มีเมตตากับทุกอย่างที่พระองค์สร้างขึ้นมา

10 ข้าแต่พระยาห์เวห์ทุกอย่างที่พระองค์สร้างขึ้นมา จะขอบคุณพระองค์
    ทุกคนที่สัตย์ซื่อต่อพระองค์ จะสรรเสริญพระองค์
11 พวกเขาจะเล่าถึงอาณาจักรอันรุ่งเรืองของพระองค์
    พวกเขาจะพูดถึงความเกรียงไกรของพระองค์
12 เพื่อให้ทุกๆคนรู้ถึงการกระทำอันทรงฤทธิ์ทั้งหลายของพระองค์
    และสง่าราศีอันรุ่งโรจน์แห่งอาณาจักรของพระองค์
13 อาณาจักรของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป
    พระองค์จะปกครองไปตลอดรุ่นแล้วรุ่นเล่า
คำพูดทุกคำของพระยาห์เวห์นั้นเชื่อถือได้
    การกระทำทุกอย่างของพระองค์นั้นเปิดเผยถึงความรักมั่นคงของพระองค์[b]
14 พระยาห์เวห์ช่วยประคองคนเหล่านั้นที่กำลังจะล้มลง
    พระองค์ช่วยยกคนเหล่านั้นที่หลังคดงอให้ยืนตรง
15 ทุกชีวิตเฝ้ามองพระองค์อย่างรอคอย
    และพระองค์ก็ให้อาหารในเวลาอันเหมาะ
16 พระองค์แบมือออก
    และทำให้ทุกชีวิตอิ่มหนำกับอาหารที่พวกมันอยากกิน
17 ทางทั้งสิ้นของพระยาห์เวห์นั้นยุติธรรม
    การกระทำทุกอย่างของพระยาห์เวห์นั้นเปิดเผยถึงความรักมั่นคงของพระองค์
18 พระยาห์เวห์อยู่ใกล้ชิดกับทุกคนที่เรียกหาพระองค์
    คือ ทุกคนที่ร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ด้วยใจจริง
19 คนที่ยำเกรงพระองค์อยากได้อะไร พระยาห์เวห์ก็ทำให้
    พระองค์ฟังเสียงร้องขอความช่วยเหลือของพวกเขาและช่วยพวกเขาให้รอด
20 พระยาห์เวห์เฝ้าดูแลทุกคนที่รักพระองค์
    แต่พระองค์จะทำลายคนชั่วทุกคน

21 ปากข้าพเจ้าพูดสรรเสริญพระยาห์เวห์
    และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะยกย่องชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ไปตลอดกาล

สุภาษิต 18:1

18 คนแยกตัวโดดเดี่ยว เอาแต่ใจตัวเอง
    จะโกรธใส่คนที่ให้คำแนะนำเขา

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International