Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the NRSVUE. Switch to the NRSVUE to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
1 พงศาวดาร 26:12-27:34

12 พวกผู้นำที่เป็นผู้ชายในแผนกคนเฝ้าประตูนี้ มีหน้าที่เหมือนญาติๆของพวกเขาที่เป็นนักร้อง คือรับใช้อยู่ภายในบ้านของพระยาห์เวห์ 13 พวกเขาได้จับสลากเลือกประตูที่ต้องเฝ้าเป็นครอบครัวๆไปจนครบทุกครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่

14 สลากของประตูทางทิศตะวันออกตกเป็นของเมเชเลมิยาห์ และพวกเขาก็ได้จับสลากให้กับเศคาริยาห์ลูกชายของเมเชเลมิยาห์ เศคาริยาห์เป็นที่ปรึกษาที่เฉลียวฉลาด เขาจับสลากได้ประตูทางทิศเหนือ 15 โอเบด-เอโดมได้ประตูทางทิศใต้และพวกลูกชายของเขามีหน้าที่เฝ้าประตูห้องเก็บของ 16 ส่วนชุปปิมและโฮสาห์เฝ้าประตูทิศตะวันตกกับประตูชัลเลเคทที่อยู่บนถนนที่ลาดชันขึ้นไป ยามจากแต่ละครอบครัวจะอยู่ตามตำแหน่งของตน 17 ในแต่ละวัน ที่ประตูทิศตะวันออกมีชาวเลวีอยู่หกคน ที่ประตูทางทิศเหนือมีสี่คน ประตูทางทิศใต้มีสี่คนและที่ประตูห้องเก็บของจะมีคนเฝ้าประจำอยู่ครั้งละสองคน 18 ส่วนที่ลาน[a] ทางทิศตะวันตกจะมีคนอยู่บนถนนสี่คนและมีอยู่ที่ลานสองคน 19 คนเหล่านี้อยู่ในกลุ่มของคนเฝ้าประตู ที่เป็นชาวโคราห์และชาวเมรารี

คลังสมบัติและเจ้าหน้าที่แผนกอื่น

20 จากเผ่าของเลวี อาหิยาห์ทำหน้าที่ดูแลคลังสมบัติของบ้านของพระเจ้า และสมบัติที่เป็นของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

21 ลูกหลานของลาดานเป็นลูกหลานของชาวเกอร์โชน เยฮีเอลีเป็นผู้นำคนหนึ่งของตระกูลลาดาน 22 ลูกหลานของเยฮีเอลี คือ เศธามและโยเอลน้องชายของเศธาม พวกเขามีหน้าที่ดูแลคลังสมบัติในบ้านของพระยาห์เวห์

23 ผู้นำคนอื่นๆก็ได้รับเลือกมาจากคนอัมราม คนอิสฮาร์ คนเฮโบรนและคนอุสซีเอล 24 เชบูเอลลูกหลานของเกอร์โชมที่เป็นลูกชายของโมเสสเป็นหัวหน้าดูแลคลังสมบัติในวิหาร 25 ต่อไปนี้คือญาติๆของชูบาเอล ญาติที่สืบเชื้อสายมาจากเอลีเยเซอร์ คือ เรหับยาห์ลูกชายของเอลีเยเซอร์ เยชายาห์ลูกชายของเรหับยาห์ โยรัมลูกชายของเยชายาห์ ศิครีลูกชายของโยรัม และเชโลโมทลูกชายของศิครี 26 เชโลโมทคนนี้กับญาติๆของเขารับผิดชอบในการดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่กษัตริย์ดาวิด พวกผู้นำครอบครัวและพวกผู้บังคับบัญชากองพันและกองร้อย รวมทั้งพวกแม่ทัพของกองทัพ ได้อุทิศไว้ให้กับพระยาห์เวห์ 27 ของที่ถูกยึดมาได้จากการทำสงครามนั้น พวกเขาได้อุทิศเป็นของขวัญ เพื่อใช้ในการซ่อมแซมบ้านของพระยาห์เวห์ 28 เชโลโมทคนนี้และญาติๆของเขายังต้องรับผิดชอบดูแลของทั้งหมดที่ซามูเอลผู้ที่เห็นนิมิต[b] ซาอูลลูกชายของคีช อับเนอร์ลูกชายของเนอร์ และโยอาบลูกชายของนางเศรุยาห์ได้อุทิศไว้

29 เคนานิยาห์กับพวกลูกชายของเขาได้รับมอบหมายจากคนอิสฮาร์ให้ทำงานอยู่ภายนอกวิหาร เป็นเจ้าหน้าที่ศาลและผู้ตัดสินเหนือชนชาติอิสราเอล 30 ฮาชาบิยาห์กับญาติๆของเขาที่มีความสามารถรวมหนึ่งพันเจ็ดร้อยคนได้รับมอบหมายจากคนเฮโบรนให้รับผิดชอบชนชาติอิสราเอลที่อาศัยอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนในงานทุกอย่างของพระยาห์เวห์และงานรับใช้ของกษัตริย์ 31 ส่วนคนเฮโบรน มี เยรียาห์เป็นหัวหน้าตามบัญชีรายชื่อเชื้อสายของครอบครัวพวกเขา (ในปีที่สี่สิบที่ดาวิดครองราชย์นั้นพวกเขาได้ตรวจบัญชีรายชื่อ และได้พบคนที่มีความสามารถในหมู่ของพวกเขาที่เมืองยาเซอร์ในกิเลอาด) 32 เยรียาห์มีญาติสองพันเจ็ดร้อยคนซึ่งล้วนเป็นคนที่มีความสามารถและเป็นผู้นำครอบครัวทั้งสิ้น กษัตริย์ดาวิดจึงได้แต่งตั้งพวกเขาขึ้นเหนือชาวรูเบน ชาวกาดและครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ ให้ดูแลธุระทั้งหมดของพระเจ้าและของกษัตริย์

กองต่างๆของกองทัพ

27 ต่อไปนี้คือรายชื่อของชาวอิสราเอลที่เป็นผู้นำครอบครัว เป็นนายพันนายร้อย เป็นเจ้าหน้าที่ของพวกชาวอิสราเอล ที่รับใช้กษัตริย์ในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกองทหาร ที่ผลัดเปลี่ยนเวรในแต่ละเดือนตลอดปี แต่ละกองมีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน

ยาโชเบอัมลูกชายของศับดีเอล เป็นผู้รับผิดชอบกองเวรกองแรกสำหรับเดือนแรก ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน ยาโชเบอัมเป็นลูกหลานของเปเรศ เขาเป็นหัวหน้าของผู้บังคับบัญชาทั้งหมดในกองทัพ เขาเข้าเวรในเดือนที่หนึ่ง

โดดัยคนอาโหอาห์ เป็นผู้รับผิดชอบกองเวรสำหรับเดือนที่สอง มิกโลทเป็นรองหัวหน้าของกองนั้น ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน

เบไนยาห์ลูกชายของหัวหน้านักบวชเยโฮยาดา เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่สามสำหรับเดือนที่สาม ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน ลูกชายของเขาคืออัมมีซาบาดเป็นรองหัวหน้าของกองเวรนี้ เบไนยาห์คนนี้เป็นทหารกล้าอยู่ในหมู่วีรบุรุษสามสิบคน และเป็นผู้นำของสามสิบคนนั้นด้วย

อาสาเฮลที่เป็นน้องชายของโยอาบเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพที่สี่สำหรับเดือนที่สี่ และเศบาดิยาห์ลูกชายของเขาเป็นรองหัวหน้าของกองเวรนี้ ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน

ชัมหุทคนอิสราห์ เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่ห้าสำหรับเดือนที่ห้า ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน

อิราลูกชายของอิกเขชคนเทโคอา เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่หกสำหรับเดือนที่หก ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน

10 เฮเลสคนเปโลนจากเผ่าเอฟราอิม เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่เจ็ด สำหรับเดือนที่เจ็ด ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน

11 สิบเบคัยคนหุชาห์ จากครอบครัวของเศราห์ เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่แปด สำหรับเดือนที่แปด ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน

12 อาบีเยเซอร์คนอานาโธท จากเผ่าเบนยามิน เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่เก้า สำหรับเดือนที่เก้า ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน

13 มาหะรัยชาวเนโทฟาห์ จากครอบครัวเศราห์ เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่สิบ สำหรับเดือนที่สิบ ในกองเวรเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน

14 เบไนยาห์คนปิราโธน จากเผ่าเอฟราอิม เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่สิบเอ็ด สำหรับเดือนที่สิบเอ็ด ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน

15 เฮลดัยชาวเนโทฟาห์ จากครอบครัวของโอทนีเอล เป็นผู้บังคับบัญชากองเวรที่สิบสอง สำหรับเดือนที่สิบสอง ในกองเวรของเขามีทหารอยู่สองหมื่นสี่พันคน

พวกผู้นำกลุ่มครอบครัว

16 ต่อไปนี้คือรายชื่อของพวกผู้นำเผ่าต่างๆของอิสราเอล

สำหรับชาวรูเบน คือ เอลีเยเซอร์ลูกชายของศิครี

สำหรับชาวสิเมโอน คือ เชฟาทิยาห์ลูกชายของมาอาคาห์

17 สำหรับชาวเลวี คือ ฮาชาบิยาห์ลูกชายของเคมูเอล

สำหรับชาวอาโรนคือศาโดก

18 สำหรับชาวยูดาห์คือ เอลีฮู พี่ชายคนหนึ่งของดาวิด

สำหรับชาวอิสสาคาร์ คือ อมรีลูกชายของมีคาเอล

19 สำหรับชาวเศบูลุน คือ อิชมัยอาห์ลูกชายของโอบาดียาห์

สำหรับชาวนัฟทาลี คือ เยเรโมทลูกชายอัสรีเอล

20 สำหรับชาวเอฟราอิม คือ โฮเชยาลูกชายของอาซาซิยาห์

สำหรับครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ คือ โยเอลลูกชายของเปดายาห์

21 สำหรับอีกครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ในกิเลอาด คือ อิดโดลูกชายของเศคาริยาห์

สำหรับชาวเบนยามิน คือ ยาอาซีเอลลูกชายของอับเนอร์

22 สำหรับชาวดาน คือ อาซาเรลลูกชายของเยโรฮัม

คนเหล่านี้เป็นผู้นำของเผ่าต่างๆในอิสราเอล

ดาวิดนับคนอิสราเอล

23 พระยาห์เวห์ได้ทำตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ คือทำให้ชนชาติอิสราเอลมีจำนวนมากมายมหาศาลเหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า ดาวิดก็เลยไม่ได้นับคนที่มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีลงมา 24 โยอาบลูกชายของนางเศรุยาห์ได้เริ่มต้นนับชาวอิสราเอล แต่นับไม่เสร็จ[c] เพราะความโกรธของพระเจ้าในเรื่องนี้ได้ตกลงมาบนชาวอิสราเอลก่อน และจำนวนที่นับนี้ก็ไม่ได้ถูกจดบันทึกลงในหนังสือเหตุการณ์ประจำวันของกษัตริย์ดาวิด

พวกเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์

25 ต่อไปนี้คือรายชื่อของผู้ที่ดูแลพวกคลังสมบัติของกษัตริย์ คือ

อัสมาเวทลูกชายของอาดีเอล มีหน้าที่ดูแลพวกคลังสมบัติของกษัตริย์

โยนาธานลูกชายของอุสซียาห์ มีหน้าที่ดูแลคลังสมบัติในชนบท ในเมืองต่างๆในหมู่บ้านทั้งหลายและในเมืองป้อมปราการ

26 เอสะรีลูกชายของเคลูบ มีหน้าที่ดูแลพวกชาวนาที่เป็นผู้ไถนา

27 ชิเมอีชาวรามาห์ มีหน้าที่ดูแลสวนองุ่น

ศับดีชาวเชฟาม มีหน้าที่ดูแลผลผลิตในสวนองุ่นสำหรับทำเหล้าองุ่น

28 บาอัลฮานันชาวเกเดอร์ มีหน้าที่ดูแลสวนมะกอกกับสวนมะเดื่อที่ภูเขาเชเฟลาห์ทางทิศตะวันตก

โยอาช มีหน้าที่เก็บรวบรวมน้ำมันมะกอก

29 ชิตรัยชาวชาโรน มีหน้าที่ดูแลฝูงวัวในทุ่งหญ้าชาโรน

ชาฟัทลูกชายของอัดลัย มีหน้าที่ดูแลฝูงวัวตามหุบเขาต่างๆ

30 โอบิลชาวอิชมาเอล มีหน้าที่ดูแลฝูงอูฐ

เยเดยาห์ชาวเมโรโนท มีหน้าที่ดูแลฝูงลา

31 ยาซีสชาวฮาการ์ มีหน้าที่ดูแลฝูงแกะ

คนเหล่านี้คือเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลทรัพย์สมบัติของกษัตริย์ดาวิด

32 โยนาธานลุงของดาวิด เป็นที่ปรึกษาที่เฉลียวฉลาดและเป็นผู้จดบันทึก[d] เยฮีเอลลูกชายฮัคโมนีดูแลพวกลูกชายของกษัตริย์ 33 อาหิโธเฟลเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ และหุชัยชาวอารคีเป็นเพื่อนของกษัตริย์ 34 ผู้ที่สืบทอดต่อจากอาหิโธเฟลคือเยโฮยาดาลูกชายของเบไนยาห์ กับอาบียาธาร์ ส่วนโยอาบได้เป็นแม่ทัพในกองทัพของกษัตริย์ดาวิด

โรม 4:13-5:5

ต้องไว้วางใจพระเจ้าจึงจะได้ตามสัญญา

13 พระเจ้าสัญญากับอับราฮัมและลูกหลานของท่านว่า พวกเขาจะได้รับโลกนี้เป็นมรดก แต่ที่พระเจ้าสัญญากับท่านอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะท่านทำตามกฎ แต่เพราะท่านไว้วางใจพระเจ้าต่างหาก พระเจ้าถึงยอมรับท่าน 14 ถ้าคนเราได้รับโลกนี้เป็นมรดกเพราะการทำตามกฎ การไว้วางใจพระเจ้าก็ไม่มีความหมายอะไรเลย และสัญญาของพระองค์ก็ต้องถูกยกเลิกไปด้วย 15 เพราะกฎนำไปสู่การลงโทษจากพระเจ้า เพราะคนทำผิดกฎเสมอ แต่ถ้าที่ไหนไม่มีกฎ ที่นั่นก็ไม่มีการทำผิดกฎ

16 ดังนั้นคำสัญญาของพระเจ้าจึงขึ้นอยู่กับความไว้วางใจ เพื่อคำสัญญานั้นจะได้เป็นของขวัญที่ให้กับเราเปล่าๆ และลูกหลานของอับราฮัมทุกคนจะได้รับสิ่งที่พระเจ้าสัญญาไว้อย่างแน่นอน ไม่ใช่แต่เฉพาะคนที่อยู่ใต้กฎเท่านั้นที่จะได้รับ แต่รวมถึงคนที่มีส่วนร่วมในความไว้วางใจของอับราฮัมด้วย เพราะท่านเป็นบรรพบุรุษของเราทุกคน 17 เหมือนกับที่พระคัมภีร์ได้เขียนไว้ว่า “เราได้ทำให้เจ้าเป็นบรรพบุรุษของคนหลายชนชาติ”[a] อับราฮัมเป็นบรรพบุรุษของเราต่อหน้าพระเจ้าที่ท่านไว้วางใจ เป็นพระเจ้าที่ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาใหม่ และทำให้สิ่งที่ยังไม่เคยมีมาก่อนเกิดขึ้น

18 เมื่อพระเจ้าสัญญากับอับราฮัมว่าเขาจะได้เป็นบรรพบุรุษของคนหลายชนชาติ ท่านก็ไว้วางใจและมีความหวังอย่างเต็มที่ ทั้งๆที่คำสัญญานั้นเหลือเชื่อ แต่ในที่สุดท่านก็ได้เป็นบรรพบุรุษของคนหลายชนชาติจริงตามที่พระเจ้าบอกกับท่านว่า “ลูกหลานของเจ้าจะมีมากมายเหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า”[b] 19 ความไว้วางใจของอับราฮัมก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย ทั้งๆที่อับราฮัมรู้ว่าร่างกายของท่านหมดสภาพเหมือนตายแล้ว (เพราะท่านมีอายุประมาณหนึ่งร้อยปี) และท่านยังรู้อีกด้วยว่าครรภ์ของนางซาราห์เมียของท่านเป็นหมันเหมือนกับตายไปแล้ว 20 แต่อับราฮัมไม่เคยสงสัยในคำสัญญาของพระเจ้าเลย กลับมีความไว้วางใจมากขึ้น ซึ่งเป็นการให้เกียรติกับพระเจ้า 21 อับราฮัมเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า พระเจ้าสามารถทำในสิ่งที่พระองค์ได้สัญญาไว้ 22 “พระเจ้าจึงนับว่าความไว้วางใจของท่านนั้นเป็นสาเหตุเพียงพอที่จะยอมรับท่าน”[c] 23 อย่างที่พระคัมภีร์เขียนไว้นั้น คำพูดเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของอับราฮัมเท่านั้น 24 แต่เกี่ยวกับพวกเราด้วย พระเจ้าจะนับว่าความไว้วางใจของเรานั้นเป็นสาเหตุเพียงพอที่จะยอมรับเราด้วย คือพวกเราที่ไว้วางใจในพระเจ้า ผู้ทำให้พระเยซูคริสต์เจ้าของเราฟื้นขึ้นจากความตาย 25 เป็นเพราะความผิดบาปของเรา พระเจ้าถึงได้มอบพระเยซูให้คนเอาไปฆ่า และพระเจ้าทำให้พระเยซูฟื้นขึ้นจากความตาย เพื่อเราจะได้เป็นคนที่พระองค์ยอมรับ

สันติสุขและความชื่นชมยินดี

พระเจ้านับว่าเราเป็นคนที่พระองค์ยอมรับเพราะเราไว้วางใจ จึงเกิดความสงบสุขระหว่างเรากับพระเจ้า[d]ผ่านทางพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา พระเยซูนำเราเข้าสู่ความเมตตากรุณาที่เรามีอยู่นี้ แล้วเราก็ยังโอ้อวดอย่างชื่นชมยินดีในความหวังที่เราจะได้รับเกียรติจากพระเจ้า[e] นอกจากนั้น เรายังชื่นชมยินดีกับความทุกข์ยากต่างๆที่เราได้รับด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากต่างๆจะทำให้เราเรียนรู้ที่จะอดทน ความอดทนนี้จะทำให้เราเกิดความไว้วางใจ ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นของแท้ ซึ่งจะทำให้เราเกิดความหวัง ความหวังนั้นไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย เพราะพระเจ้าได้เทความรักของพระองค์เข้ามาในจิตใจของเรา ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระองค์ได้ให้กับเราไว้

สดุดี 14

ความชั่วช้าของมนุษย์

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด

คนโง่เขลาพูดในใจว่า “ไม่มีพระเจ้าหรอก”
    พวกเขาเสื่อมทราม
    พวกเขาทำแต่สิ่งที่น่าขยะแขยง ไม่มีสักคนที่ทำดี

พระยาห์เวห์มองลงมาจากสวรรค์ดูพวกมนุษย์
    เพื่อหาว่ายังมีมนุษย์สักคนไหมที่ทำสิ่งที่ฉลาด
    และแสวงหาพระเจ้า
แต่พวกเขาต่างนอกลู่นอกทางกันไปหมด เสื่อมทรามกันทุกคน
    ไม่มีใครเลย
    ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ทำสิ่งที่ดีๆ

คนทำชั่วเหล่านั้นทั้งหมดกลืนกินคนของเราเหมือนกินขนมปัง
    พวกเขาไม่เคยอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์
    พวกเขาไม่รู้เรื่องขนาดนี้เชียวหรือ
แต่เมื่อพระเจ้าลงโทษพวกคนชั่ว พวกเขาจะพากันตื่นกลัวสุดขีด
    เพราะพระเจ้ายืนอยู่กับคนที่ทำถูกต้อง
เจ้าพวกคนชั่วพยายามขัดขวางแผนงานของคนยากไร้
    แต่พระยาห์เวห์เป็นที่ลี้ภัยของพวกเขา

ข้าพเจ้าหวังว่าชัยชนะของชาวอิสราเอลจะมาถึงในไม่ช้านี้จากพระยาห์เวห์ที่อยู่บนภูเขาศิโยน
    เมื่อพระยาห์เวห์ทำให้คนของพระองค์กลับไปมีความสุขเหมือนเมื่อก่อน
    ครอบครัวของยาโคบจะชื่นชมยินดี ชาวอิสราเอล[a] จะดีใจ

สุภาษิต 19:17

17 การเอื้อเฟื้อต่อคนจน คือการให้พระยาห์เวห์ยืม
    และพระองค์จะตอบแทนความดีที่เขาทำ

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International