The Daily Audio Bible
Today's audio is from the NIV. Switch to the NIV to read along with the audio.
กษัตริย์โยอาชซ่อมแซมวิหาร
(2 พกษ. 11:21-12:21)
24 โยอาชมีอายุเจ็ดปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสี่สิบปี แม่ของเขาชื่อว่าศิบียาห์ นางมาจากเบเออร์เชบา 2 ตลอดชั่วชีวิตของนักบวชเยโฮยาดา เขาทำในสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ 3 เยโฮยาดาเลือกเมียสองคนให้กับโยอาช และโยอาชก็มีลูกชายลูกสาวมากมาย
4 ต่อมาภายหลัง โยอาชตัดสินใจที่จะซ่อมแซมวิหารของพระยาห์เวห์ 5 เขาเรียกพวกนักบวชกับชาวเลวีมาชุมนุมกันและพูดกับพวกเขาว่า “ไปตามเมืองต่างๆของยูดาห์และไปรวบรวมเงินที่ชาวอิสราเอลทั้งหมดต้องจ่ายเป็นประจำทุกปี เพื่อที่จะนำมาซ่อมแซมวิหารของพระเจ้าของพวกท่าน ให้ไปเดี๋ยวนี้” แต่พวกชาวเลวีไม่ยอมทำในทันที
6 กษัตริย์จึงเรียกตัวเยโฮยาดาที่เป็นหัวหน้านักบวชมาและพูดกับเขาว่า “ทำไมท่านจึงไม่สั่งให้พวกชาวเลวีไปนำเงินภาษีจากยูดาห์และเยรูซาเล็มมา เป็นภาษีที่โมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ได้กำหนดไว้ให้กับชุมชนอิสราเอล เพื่อใช้สำหรับเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง”
7 ในอดีต พวกลูกชายของนางอาธาลิยาห์หญิงชั่ว ได้บุกเข้าไปในวิหารของพระเจ้า และได้ขนเอาข้าวของเครื่องใช้ศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นไปใช้กับพระบาอัล
8 กษัตริย์สั่งให้ทำหีบขึ้นมาใบหนึ่ง และให้นำมันไปวางไว้ที่ด้านนอกตรงประตูของวิหารของพระยาห์เวห์ 9 แล้วพวกเลวีก็ป่าวประกาศไปทั่วทั้งยูดาห์และเยรูซาเล็ม ให้พวกเขาเอาเงินภาษีมาให้กับพระยาห์เวห์ เงินภาษีนี้เป็นสิ่งที่โมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าเคยเรียกร้องจากชาวอิสราเอลในช่วงที่พวกเขาอยู่ในทะเลทราย 10 พวกเจ้าหน้าที่และประชาชนทั้งหมด ต่างนำเงินของพวกเขามาให้ด้วยความเต็มใจ พวกเขาใส่เงินเหล่านั้นไว้ในหีบใบนั้นจนเต็ม 11 เมื่อพวกเลวีนำหีบมาให้พวกเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์ และพวกเขาเห็นว่ามีเงินอยู่เต็มแล้ว เลขานุการของกษัตริย์และเจ้าหน้าที่ของหัวหน้านักบวช ก็จะเข้ามาและเอาเงินออกจากหีบ และนำหีบนั้นกลับไปไว้ที่เดิมอีกครั้ง พวกเขาทำอย่างนี้เป็นประจำและรวบรวมเงินได้เป็นจำนวนมาก 12 กษัตริย์และเยโฮยาดาเอาเงินนี้ไปจ่ายให้กับพวกคนที่ทำงานให้กับวิหารของพระยาห์เวห์ พวกเขาจ้างพวกช่างก่อตึกและช่างไม้ และยังจ้างพวกคนงานที่ชำนาญเกี่ยวกับเหล็กและทองสัมฤทธิ์ให้มาซ่อมแซมวิหารของพระยาห์เวห์
13 พวกคนที่ทำงานล้วนแต่เป็นคนขยัน และการซ่อมแซมก้าวหน้าไปเรื่อยๆด้วยฝีมือของพวกเขา พวกเขาสร้างวิหารของพระเจ้าขึ้นใหม่อีกครั้ง ตามแบบเดิมและทำให้มันมั่นคงแข็งแรงขึ้น 14 เมื่อพวกเขาทำเสร็จหมดแล้ว ก็นำเงินที่เหลือไปให้กับกษัตริย์และเยโฮยาดา พวกเขาเอาเงินนั้นไปทำเครื่องใช้สำหรับวิหารของพระยาห์เวห์ เป็นเครื่องใช้สำหรับงานรับใช้ และสำหรับเครื่องเผาบูชา พวกเขายังทำถ้วยและสิ่งอื่นๆจากทองคำและเงิน ตลอดระยะเวลาที่เยโฮยาดายังมีชีวิตอยู่ มีการถวายเครื่องเผาบูชาในวิหารของพระยาห์เวห์เป็นประจำ
15 ต่อมาเยโฮยาดาแก่ตัวลง และตายไปในขณะที่มีอายุหนึ่งร้อยสามสิบปี 16 เป็นเพราะความดีที่เขาทำไปในอิสราเอลเพื่อพระเจ้าและวิหารของพระองค์ ศพของเขาจึงถูกฝังไว้กับพวกกษัตริย์ในเมืองของดาวิด
โยอาชหลงไปจากพระยาห์เวห์
17 ภายหลังที่เยโฮยาดาตายไปแล้ว พวกเจ้าหน้าที่ของยูดาห์ได้มาก้มกราบต่อกษัตริย์ และกษัตริย์ก็ฟังพวกเขา 18 พวกเขาละทิ้งวิหารของพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา และหันไปสักการะบูชาพวกเสาของพระอาเชราห์ และรูปเคารพทั้งหลาย เป็นเพราะความผิดนี้ของพวกเขา ความโกรธของพระเจ้าจึงลงมาที่ยูดาห์และเยรูซาเล็ม 19 ถึงแม้พระยาห์เวห์ได้ส่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้ามาให้กับประชาชน เพื่อที่จะชักนำพวกเขากลับมาหาพระองค์ และถึงแม้พวกผู้พูดแทนพระเจ้าเหล่านั้นจะต่อว่าพวกเขาแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่ยอมฟัง
20 แล้วพระวิญญาณของพระเจ้าก็มาสถิตกับเศคาริยาห์ลูกชายของนักบวชเยโฮยาดา เขายืนอยู่ต่อหน้าประชาชนและพูดว่า “นี่คือสิ่งที่พระเจ้าพูด ‘ทำไมพวกเจ้าจึงไม่เชื่อฟังคำสั่งต่างๆของพระยาห์เวห์ พวกเจ้าจะไม่รุ่งเรืองอีกต่อไป เพราะพวกเจ้าละทิ้งพระยาห์เวห์ พระองค์ก็จะละทิ้งพวกเจ้าเหมือนกัน’”
21 แต่ประชาชนวางแผนต่อต้านเศคาริยาห์ และกษัตริย์สั่งให้ประชาชนเอาหินขว้างเขาจนตายที่ลานของวิหารของพระยาห์เวห์ 22 กษัตริย์โยอาชลืมบุญคุณที่เยโฮยาดาพ่อของเศคาริยาห์เคยมีต่อเขา และได้ฆ่าลูกชายของเยโฮยาดาตาย เมื่อเขาใกล้จะขาดใจตายนั้น เขาพูดว่า “ขอให้พระยาห์เวห์เห็นสิ่งนี้และลงโทษเจ้าด้วย”
23 ในช่วงปลายปี กองทัพของชาวอารัมยกมาสู้รบกับโยอาช พวกนั้นบุกเข้ายูดาห์และเยรูซาเล็มและฆ่าพวกผู้นำทั้งหมดของประชาชน ชาวอารัมส่งข้าวของที่ยึดมาได้กลับไปให้กับกษัตริย์ของพวกเขาในดามัสกัส 24 ถึงแม้ว่ากองทัพของชาวอารัมจะยกกันมาไม่มาก แต่พระยาห์เวห์ก็ทำให้กองทัพขนาดใหญ่ของโยอาชต้องตกไปอยู่ในกำมือของพวกอารัม เพราะชาวยูดาห์ละทิ้งพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา คำตัดสินโทษได้ตกอยู่ที่โยอาช 25 เมื่อพวกชาวอารัมถอยทัพไปแล้ว พวกเขาก็ทิ้งโยอาชที่บาดเจ็บสาหัสไว้ พวกเจ้าหน้าที่ของโยอาชคบคิดกันทรยศเขา เพราะเขาได้ฆ่าลูกชายของนักบวชเยโฮยาดาตาย และคนพวกนั้นก็ได้ฆ่าเขาตายบนเตียงของเขาเอง ศพของโยอาชถูกฝังอยู่ในเมืองของดาวิด แต่ไม่ได้อยู่ในหลุมฝังศพของพวกกษัตริย์
26 พวกคนที่รวมหัวกันต่อต้านเขาคือ ศาบาดลูกชายของนางชิเมอัทชาวอัมโมน กับเยโฮซาบาดลูกชายของนางชิมริทชาวโมอับ 27 รายชื่อพวกลูกชายของโยอาช พวกคำพูดมากมายจากพระเจ้าที่ต่อต้านเขา และบันทึกการซ่อมแซมวิหารของพระเจ้า มีเขียนอยู่ในคำอธิบายในหนังสือพงศ์กษัตริย์ และอามาซิยาห์ลูกชายของโยอาชก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
กษัตริย์อามาซิยาห์ปกครองยูดาห์
(2 พกษ. 14:1-20)
25 อามาซิยาห์มีอายุยี่สิบห้าปี ตอนที่เขาขึ้นเป็นกษัตริย์และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเป็นเวลายี่สิบเก้าปี แม่ของเขามีชื่อว่า เยโฮอัดดาน นางมาจากเมืองเยรูซาเล็ม 2 อามาซิยาห์ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ แต่ไม่ได้ทำด้วยความจริงใจ 3 หลังจากที่อามาซิยาห์ทำให้แผ่นดินมั่นคงเป็นปึกแผ่นแล้ว เขาได้สั่งฆ่าพวกข้าราชการที่เคยฆ่ากษัตริย์ผู้เป็นพ่อของเขา 4 แต่เขาไม่ได้ฆ่าพวกลูกชายของคนเหล่านั้น เขาทำตามกฎที่เขียนไว้ในหนังสือของโมเสส ที่พระยาห์เวห์สั่งไว้ว่า “อย่าประหารพ่อแม่เพราะสิ่งที่ลูกๆเขาทำ และอย่าประหารลูกๆเพราะสิ่งที่พ่อแม่เขาทำ แต่ให้ประหารคนสำหรับบาปของเขาเองเท่านั้น”[a]
5 อามาซิยาห์เรียกประชุมชาวยูดาห์ เขาได้จัดหมวดหมู่พวกเขาตามครอบครัว และตั้งพวกนายพันนายร้อยให้ดูแลหมวดหมู่เหล่านี้ พวกผู้นำมีหน้าที่ดูแลพวกทหารทั้งหมดที่มาจากเผ่ายูดาห์และเผ่าเบนยามิน เขาเกณฑ์คนที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ซึ่งมีจำนวนสามแสนคน ที่พร้อมที่จะออกศึกพร้อมหอกและโล่ 6 อามาซิยาห์ยังจ้างนักรบอีกหนึ่งแสนคนมาจากอิสราเอลด้วยเงินหนักประมาณสามตันครึ่ง 7 แต่คนของพระเจ้าคนหนึ่งมาหาเขาและพูดว่า “ข้าแต่กษัตริย์ อย่าให้กองทัพอิสราเอลเหล่านี้ไปกับท่าน เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่กับชาวอิสราเอล และไม่ได้อยู่กับประชาชนของเอฟราอิม 8 ถึงแม้ว่าท่านจะออกไปสู้รบอย่างกล้าหาญ พระเจ้าก็จะทำให้ท่านพ่ายแพ้ต่อหน้าศัตรู เพราะพระเจ้ามีฤทธิ์อำนาจที่จะช่วยเหลือท่านหรือจะทำให้ท่านพ่ายแพ้ก็ได้” 9 อามาซิยาห์ถามคนของพระเจ้าคนนั้นว่า “แล้วเงินสามตันครึ่งที่เราได้จ่ายให้กับพวกกองทัพของชาวอิสราเอลไปแล้วล่ะ” คนของพระเจ้าตอบว่า “พระยาห์เวห์จะให้ท่านมากกว่านี้อีก”
10 อามาซิยาห์จึงไล่กองทัพที่มาจากเอฟราอิมกลับบ้านไป พวกเขาโกรธชาวยูดาห์มากและกลับบ้านไปด้วยความเคียดแค้น 11 แล้วอามาซิยาห์ก็แข็งแกร่งขึ้นและนำกองทัพของเขาไปที่หุบเขาเกลือ เขาฆ่าคนของเสอีร์ไปหนึ่งหมื่นคน 12 กองทัพของพวกยูดาห์จับเป็นคนเสอีร์ได้หนึ่งหมื่นคน และนำตัวพวกเขาขึ้นไปบนหน้าผาและโยนพวกเขาลงมา เพื่อให้ร่างกายของพวกเขาแหลกเป็นชิ้นๆ
13 ในเวลาเดียวกันนั้น กองทัพของอิสราเอลที่อามาซิยาห์ไล่กลับไป และไม่ยอมให้มีส่วนร่วมในการรบครั้งนี้ ได้เข้าบุกรุกเมืองต่างๆของชาวยูดาห์ ตั้งแต่สะมาเรียไปจนถึงเบธโฮโรน พวกเขาฆ่าประชาชนตายไปสามพันคนและขนเอาข้าวของต่างๆไปเป็นจำนวนมาก
14 เมื่ออามาซิยาห์กลับมาจากการฆ่าพวกชาวเอโดม[b] เขาได้นำเอาพระทั้งหลายของประชาชนชาวเสอีร์กลับมาด้วย เขาตั้งพระเหล่านั้นขึ้นเป็นพระประจำตัวของเขา และกราบไหว้ และเผาเครื่องหอมบูชาให้กับพระเหล่านั้นด้วย 15 ความโกรธของพระยาห์เวห์ได้เผาผลาญต่ออามาซิยาห์ พระองค์ได้ส่งผู้พูดแทนพระเจ้าคนหนึ่งมาพบเขา และพูดว่า “ทำไมเจ้าถึงไปปรึกษากับพวกพระของประชาชนเหล่านี้ ที่แม้แต่ประชาชนของพวกมันเอง ก็ยังช่วยให้พ้นจากเงื้อมมือของเจ้าไม่ได้เลย”
16 ในขณะที่เขายังพูดอยู่ กษัตริย์พูดกับเขาว่า “นี่เราแต่งตั้งให้เจ้าเป็นที่ปรึกษาของเราหรือยังไง หุบปากเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น เจ้าจะต้องตาย” ผู้พูดแทนพระเจ้าคนนั้นจึงเงียบ แต่แล้วก็พูดขึ้นมาว่า “เรารู้ว่าพระเจ้าตั้งใจที่จะทำลายท่านแล้ว เพราะท่านได้ทำสิ่งนี้ลงไปและไม่ยอมฟังคำแนะนำจากเรา”
17 แล้วอามาซิยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ได้ปรึกษากับพวกที่ปรึกษา และส่งคนไปหาเยโฮอาช กษัตริย์ของอิสราเอล ที่เป็นลูกชายของเยโฮอาหาสที่เป็นลูกชายของเยฮู ข้อความนั้นท้าทายเยโฮอาชว่า “มาสิ มาสู้กันซึ่งๆหน้า”
18 แต่กษัตริย์เยโฮอาชของอิสราเอล ตอบกษัตริย์อามาซิยาห์ของยูดาห์ว่า “ต้นหนามต้นหนึ่งในเลบานอนได้ส่งข่าวมาถึงต้นสนซีดาร์ต้นหนึ่งในเลบานอนว่า ‘ให้ยกลูกสาวของเจ้าให้แต่งงานกับลูกชายของเรา’ แต่สัตว์ป่าตัวหนึ่งในเลบานอนผ่านมา และได้เหยียบย่ำต้นหนามต้นนั้นไป 19 เจ้าว่า ‘ข้าชนะเอโดม’ และตอนนี้ใจของเจ้าก็พองโตโอ้อวด แต่เดี๋ยวนี้ เจ้าควรจะอยู่กับบ้านดีกว่า จะหาเรื่องใส่ตัวไปทำไม เดี๋ยวทั้งตัวเจ้าและเผ่ายูดาห์จะล้มลงเปล่าๆ”
20 แต่อามาซิยาห์ไม่ยอมฟัง เพราะพระเจ้าตั้งใจว่าจะมอบพวกเขาไว้ในมือของเยโฮอาช เพราะคนยูดาห์ไปติดตามพวกพระของคนเอโดม
21 ดังนั้นกษัตริย์เยโฮอาชแห่งอิสราเอลจึงได้ยกมาเผชิญหน้ากับกษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์ที่เบธเชเมชในยูดาห์ 22 ยูดาห์ก็พ่ายแพ้ต่ออิสราเอล และคนยูดาห์ต่างก็หนีกลับบ้านของตน 23 กษัตริย์เยโฮอาชแห่งอิสราเอลจับตัวกษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์ได้ที่เบธเชเมช กษัตริย์อามาซิยาห์เป็นลูกชายของโยอาช ซึ่งเป็นลูกชายของอาหัสยาห์ แล้วกษัตริย์เยโฮอาชนำตัวกษัตริย์แห่งยูดาห์ไปถึงเมืองเยรูซาเล็ม และทำลายกำแพงเมืองเยรูซาเล็มทิ้งไป ตั้งแต่ประตูเอฟราอิมไปจนถึงประตูตรงหัวมุม รวมความยาวได้สี่ร้อยศอก 24 เยโฮอาชเอาทองคำและเงินรวมทั้งเครื่องใช้ทั้งหมดที่พบอยู่ในวิหารของพระเจ้าซึ่งโอเบด-เอโดมดูแลอยู่ กับทรัพย์สมบัติและคนในวังหลายคนกลับไปที่สะมาเรียด้วย
25 หลังจากที่เยโฮอาชลูกชายของกษัตริย์เยโฮอาหาสแห่งอิสราเอลตายไปแล้ว อามาซิยาห์ลูกชายของกษัตริย์โยอาชแห่งยูดาห์ก็มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสิบห้าปี 26 เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของอามาซิยาห์ตั้งแต่เริ่มจนจบ ได้ถูกจดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของพวกกษัตริย์แห่งยูดาห์และอิสราเอล 27 ตั้งแต่เวลาที่อามาซิยาห์หันเหไปจากพระยาห์เวห์ พวกประชาชนได้กบฏต่อเขาในเมืองเยรูซาเล็ม และกษัตริย์ได้หลบหนีไปถึงเมืองลาคีช แต่คนเหล่านั้นได้ส่งคนตามล่าเขาถึงเมืองลาคีชและฆ่าเขาตายที่นั่น 28 และพวกเขาได้นำศพของอามาซิยาห์กลับมากับม้า และนำมาฝังไว้กับบรรพบุรุษของเขาในเมืองของดาวิด
ชีวิตที่ถูกมอบไว้กับพระเจ้า
12 ดังนั้นพี่น้องครับ พระเจ้าได้เมตตากรุณาต่อเรา ผมก็เลยขอร้องให้คุณมอบร่างกายของคุณเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอยู่ เป็นเครื่องบูชาที่บริสุทธิ์ และเป็นที่พอใจของพระเจ้า การทำอย่างนี้เป็นการนมัสการซึ่งสมกับที่พระเจ้าได้อวยพรคุณ 2 อย่าทำตามอย่างคนในโลกนี้ แต่ขอยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงคุณ คือพระองค์จะให้จิตใจใหม่กับคุณเพื่อจะได้รู้ว่าพระเจ้าต้องการอะไร สิ่งไหนดี สิ่งไหนพระองค์ชอบใจ และสิ่งไหนสมบูรณ์แบบ
3 ตามพรสวรรค์ที่ผมได้รับมาให้เป็นศิษย์เอก ผมอยากจะขอเตือนพวกคุณทุกคนว่า อย่าคิดว่าตนเองสำคัญกว่าที่ควร คิดให้สมเหตุสมผลกับขนาดของพรสวรรค์ที่พระเจ้าได้มอบให้กับคุณแต่ละคน 4 เหมือนกับที่เรามีร่างเดียวแต่มีอวัยวะหลายส่วน และอวัยวะทั้งหลายก็ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเดียวกัน 5 เช่นเดียวกันพวกเราที่เป็นเหมือนอวัยวะต่างๆประกอบกันขึ้นมาเป็นร่างเดียวกันในพระคริสต์ และเราก็เป็นอวัยวะของกันและกันด้วย 6 พระเจ้ามีเมตตากรุณามอบพรสวรรค์ให้กับเราแต่ละคนแตกต่างกันไป ถ้าคนไหนมีพรสวรรค์ในเรื่องที่จะพูดแทนพระเจ้า ก็ให้เขาพูดตามรูปแบบความเชื่อที่เขาได้รับมา 7 ถ้าคนไหนมีพรสวรรค์ในการรับใช้ ก็ให้เขาอุทิศตัวในการรับใช้ ถ้าคนไหนมีพรสวรรค์ในการสั่งสอน ก็ให้เขาอุทิศตัวในการสั่งสอน 8 ถ้าคนไหนมีพรสวรรค์ในการให้กำลังใจ ก็ให้เขาอุทิศตัวในการให้กำลังใจ คนที่มีพรสวรรค์ในการให้ ก็ให้เขาให้อย่างเต็มใจ คนที่มีพรสวรรค์ในเรื่องการช่วยเหลือ[a] ก็ให้ทำอย่างเอาจริงเอาจัง คนที่มีพรสวรรค์ในเรื่องการแสดงความเมตตา ก็ให้แสดงความเมตตาด้วยความยินดี
9 ให้รักคนอื่นด้วยความจริงใจ เกลียดสิ่งชั่วร้าย ยึดมั่นสิ่งที่ดี 10 ให้รักกันฉันพี่น้อง ให้เกียรติกับคนอื่นมากกว่าตัวเอง 11 ให้มุ่งมั่นอย่าขี้เกียจ เอาจริงเอาจังกับพระวิญญาณ รับใช้องค์เจ้าชีวิต 12 ให้ชื่นชมยินดีในความหวังที่คุณมี ให้อดทนต่อความยากลำบาก ให้ขะมักเขม้นในการอธิษฐานอยู่เสมอ 13 ให้แบ่งปันกับคนของพระเจ้าที่ขัดสน ให้ต้อนรับแขกแปลกหน้า 14 ให้อวยพรกับคนที่ข่มเหงคุณ ให้อวยพรพวกเขาและอย่าสาปแช่งเขา 15 ให้ยินดีกับคนที่มีความสุข ให้โศกเศร้ากับคนที่กำลังเสียใจ 16 ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่าได้ถือตัวแต่ให้คบค้ากับคนที่ต่ำต้อย และอย่าคิดว่าตัวเองฉลาด 17 อย่าตอบแทนความชั่วด้วยความชั่ว ให้ทำในสิ่งที่คนอื่นเห็นว่าดี 18 ในส่วนของคุณ ให้อยู่อย่างสงบสุขกับทุกคนเท่าที่จะเป็นไปได้ 19 พี่น้องครับ อย่าแก้แค้นเลย แต่ปล่อยให้พระเจ้าลงโทษเขาเอง เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า
“เราจะเป็นผู้แก้แค้นเอง เราจะเป็นผู้ตอบแทนเอง
องค์เจ้าชีวิตบอกไว้อย่างนั้น”[b]
20 แต่
“ถ้าศัตรูของคุณหิว
ก็หาอาหารให้เขากิน
และถ้าเขากระหาย
ก็หาน้ำให้เขาดื่ม
เพราะเมื่อคุณทำอย่างนี้
คุณก็ได้สุมถ่านที่ลุกโพลงไว้บนหัวของเขา”[c][d]
21 อย่าให้ความชั่วชนะคุณ แต่ให้เอาชนะความชั่วด้วยความดี
19 ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าได้อยู่ห่างไกลข้าพเจ้า
พระองค์ผู้เป็นพละกำลังของข้าพเจ้า รีบมาช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยเถิด
20 ช่วยชีวิตข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากคมดาบ
ช่วยชีวิตเดียวที่ข้าพเจ้ามีอยู่จากฝูงหมาพวกนั้นด้วยเถิด
21 ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากปากสิงโต
พ้นจากคมเขาของฝูงวัวกระทิงเปลี่ยวด้วยเถิด พระองค์ได้ตอบข้าพเจ้าแล้ว
22 ดังนั้นข้าพเจ้าจะบอกพี่น้องของข้าพเจ้าถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุม
23 พวกเจ้าที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของยาโคบ ถวายเกียรติให้กับพระองค์เถิด
พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของอิสราเอล ยำเกรงพระองค์เถิด
24 เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้ดูถูกหรือรังเกียจความทุกข์ของคนที่เดือดร้อนคนนี้
พระองค์ไม่ได้ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้า
แต่เมื่อข้าพเจ้าร้องให้พระองค์ช่วย พระองค์ฟังข้าพเจ้า
25 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุมใหญ่สำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทำ
ข้าพเจ้าจะถวายพวกเครื่องบูชาแก้บนต่อหน้าคนทั้งหลายที่ยำเกรงพระองค์
26 คนยากจนทั้งหลาย มาเถิด มากินเครื่องบูชาแก้บนเหล่านั้นให้อิ่มหนำสำราญ
พวกเจ้าที่แสวงหาพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
และขอให้จิตใจของพวกเจ้ามีความสุขตลอดไป
27 ขอให้คนทั่วทุกมุมโลก ระลึกถึงพระยาห์เวห์และหันมาหาพระองค์
ขอให้คนทุกชาติ ก้มกราบนมัสการต่อหน้าพระองค์
28 เพราะพระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์
และครอบครองอยู่เหนือชนชาติทั้งหลาย
29 คนเหล่านั้นที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง จะกินเลี้ยงกันและก้มกราบลงต่อหน้าพระองค์
ส่วนคนที่กำลังจะตายกลับไปสู่ผงธุลีดิน และแม้แต่คนเหล่านั้นที่ตายไปแล้วก็จะก้มกราบลงต่อหน้าพระเจ้าเหมือนกัน
30 เหล่าลูกหลานของพวกเขาจะรับใช้พระองค์
คนจะพากันพูดถึงชื่อเสียงขององค์เจ้าชีวิตให้กับคนรุ่นหลังฟัง
31 พวกเขาจะเล่าให้กับคนรุ่นหลังที่ยังไม่ได้เกิดมา
ฟังเกี่ยวกับการช่วยกู้ที่พระองค์ได้ทำไป
8 กษัตริย์นั่งอยู่บนบัลลังก์ตัดสิน
พระองค์ใช้สายตากรองความชั่วออกไปหมด
9 ใครเล่าจะพูดได้ว่า “ฉันทำให้จิตใจของฉันบริสุทธิ์แล้ว
ฉันถูกชำระให้พ้นจากความผิดบาปแล้ว”
10 พระยาห์เวห์ขยะแขยง
ลูกตุ้มที่ขี้โกงและเครื่องตวงที่ผิดมาตรฐาน
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International