The Daily Audio Bible
Today's audio is from the GW. Switch to the GW to read along with the audio.
47 ถ้าชาวต่างชาติหรือแขกผู้มาเยือนของเจ้าเป็นคนรวยและพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจนและขายตัวเองให้กับชาวต่างชาติหรือแขกผู้มาเยือน หรือสมาชิกในครอบครัวของชาวต่างชาติ 48 หลังจากที่เขาขายตัวเองไปแล้ว ญาติคนใดคนหนึ่งก็มีสิทธิไถ่เขาคืนมาได้ 49 หรือลุงหรือลูกพี่ลูกน้อง หรือญาติสนิทจากครอบครัวเขา ก็มีสิทธิไถ่เขาคืนมาได้ หรือถ้าเขาหาเงินมาได้เพียงพอ เขาก็สามารถไถ่ตัวเองคืนได้เหมือนกัน
50 เขาและคนซื้อเขาไป ต้องนับจำนวนปีทั้งหมด ตั้งแต่ปีที่เขาขายตัวเองไปจนถึงปีแห่งการปลดปล่อย และราคาของตัวเขาก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่เหลือนั้น เวลาที่เขาอยู่กับคนที่ซื้อเขานั้นจะนับเหมือนเวลาของลูกจ้างคนหนึ่ง 51-52 เขาจะต้องจ่ายค่าไถ่ให้กับคนที่ซื้อเขามา จะจ่ายมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่เหลือ ตั้งแต่วันที่ตกลงจะไถ่คืนจนถึงปีแห่งการปลดปล่อย ถ้ายังเหลืออีกหลายปี ก็ต้องจ่ายค่าไถ่มากหน่อย ถ้าเหลือไม่กี่ปี ก็จ่ายค่าไถ่น้อยหน่อย 53 คนที่ขายตัวเองจะอยู่กับชาวต่างชาติเหมือนกับคนงานรับจ้างรายปี ชาวต่างชาติจะต้องไม่ปกครองเขาอย่างโหดร้ายทารุณต่อหน้าเจ้า
54 แต่ถ้าเขาไม่ได้รับการไถ่ โดยวิธีใดวิธีหนึ่งที่บอกนี้ ตัวเขาและลูกๆเขาก็จะเป็นอิสระในปีแห่งการปลดปล่อย 55 เพราะประชาชนชาวอิสราเอลคือทาสของเรา พวกเขาเป็นทาสเรา เราได้นำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
รางวัลสำหรับการเชื่อฟังพระเจ้า
(ฉธบ. 7:12-24; 28:1-14)
26 อย่าทำรูปเคารพสำหรับตัวพวกเจ้าเอง อย่าสร้างรูปปั้นหรือเสาที่ระลึก[a] สำหรับตัวพวกเจ้าเอง และอย่าวางหินที่ตกแต่งแล้วในแผ่นดินของเจ้าเพื่อกราบไหว้บูชาต่อหน้ามัน เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
2 เจ้าต้องรักษาพวกวันหยุดทางศาสนาของเรา เจ้าต้องเคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา เราคือยาห์เวห์
3 ถ้าเจ้าใช้ชีวิตตามกฎเหล่านั้นของเรา และรักษาคำสั่งของเรา และทำตามสิ่งเหล่านั้น 4 เราจะให้ฝนกับเจ้าตามฤดูกาล เพื่อแผ่นดินจะผลิตพืชผล และต้นไม้ก็จะออกผล 5 พวกเจ้าจะเก็บเกี่ยวพืชผลมากมาย จะมีเมล็ดข้าวให้นวด[b] เนิ่นนานไปจนถึงเวลาเก็บผลองุ่น และจะมีผลองุ่นให้เก็บเนิ่นนานไปจนถึงฤดูเพาะปลูก แล้วเจ้าก็จะมีอาหารกินอย่างเหลือเฟือ และเจ้าจะอยู่อย่างปลอดภัยบนแผ่นดินของเจ้า 6 เราจะให้ประเทศเจ้ามีความสงบสุข เจ้าจะนอนลงด้วยความสงบสุข และไม่ต้องกลัวสิ่งใด เราจะกำจัดสัตว์ร้ายต่างๆให้หมดไปจากแผ่นดินของเจ้า และจะไม่มีกองทัพใดๆบุกมาโจมตีประเทศของเจ้า
7 เจ้าจะรุกไล่ศัตรูของเจ้า และเจ้าจะชนะศัตรูและฆ่าฟันพวกมันล้มลงต่อหน้า 8 พวกเจ้าห้าคนจะรุกไล่ศัตรูได้เป็นร้อย พวกเจ้าร้อยคนจะรุกไล่ศัตรูได้เป็นหมื่น เจ้าจะชนะศัตรูและฆ่าฟันพวกมันล้มลงต่อหน้า
9 แล้วเราจะเมตตาปรานีเจ้า และทำให้เจ้ามีลูกหลานเป็นทวีคูณ เราจะรักษาข้อตกลงที่เรามีกับเจ้า 10 เจ้าจะมีพืชผลเก็บไว้ในยุ้งฉาง กินไปนานแสนนาน จนถึงกับต้องเอาพืชผลเก่าทิ้ง เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับพืชผลใหม่ 11 เราจะตั้งเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ของเราท่ามกลางพวกเจ้า เราจะไม่หันไปจากพวกเจ้า 12 เราจะเดินอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า เราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า และเจ้าจะเป็นประชาชนของเรา 13 เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เราได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเจ้าจะได้ไม่ต้องเป็นทาสพวกเขาอีกต่อไป เราได้ทำลายคานของแอกบนตัวเจ้า และเราได้ทำให้เจ้าเดินเชิดหน้าได้อีก
ผลจากการไม่เชื่อฟังพระเจ้า
(ฉธบ. 28:15-68)
14 แต่ถ้าเจ้าไม่เชื่อฟังเราและไม่ทำตามคำสั่งเหล่านี้ทั้งหมด 15 ถ้าเจ้าทอดทิ้งกฎต่างๆของเรา และเจ้าเกลียดระเบียบต่างๆของเรา จนไม่ได้ทำตามคำสั่งต่างๆของเรา แต่ได้ทำลายข้อตกลงของเรา 16 เราก็จะทำอย่างนี้กับเจ้า คือ เราจะทำให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับเจ้า ทั้งโรคระบาดและเจ็บไข้ได้ป่วย มันจะทำลายดวงตาพวกเจ้าและทำลายชีวิตของเจ้าไป เจ้าจะลงแรงเพาะปลูกไปเปล่าๆเพราะศัตรูของเจ้าจะมากินพืชผลนั้น 17 เราจะต่อต้านเจ้า เจ้าจะพ่ายแพ้ศัตรูของเจ้า คนที่เกลียดเจ้าจะปกครองเหนือเจ้า เจ้าจะกลัวจนหนีแม้แต่ในเวลาที่ไม่มีใครไล่ล่าเจ้า
18 หลังจากนั้น ถ้าเจ้ายังไม่ยอมเชื่อฟังเรา เราจะตีสอนเจ้าให้หนักขึ้นไปอีกถึงเจ็ดเท่าสำหรับบาปทั้งหลายของเจ้า 19 เราจะทำลายความหยิ่งผยองที่เจ้ามีในอำนาจของเจ้า โดยทำลายแผ่นดินของเจ้า และเราจะทำให้ท้องฟ้าเจ้าเหมือนเหล็ก และแผ่นดินเจ้าเหมือนทองแดง[c] 20 เจ้าจะเหน็ดเหนื่อยเปล่าๆแผ่นดินของเจ้าจะไม่งอกพืชผลออกมา ต้นไม้บนแผ่นดินจะไม่ออกผลของมัน
21 ถ้าเจ้ายังใช้ชีวิตอย่างเป็นศัตรูกับเรา และไม่ยอมฟังเรา เราจะตีสอนเจ้าให้หนักยิ่งขึ้นถึงเจ็ดเท่าสำหรับบาปทั้งหลายของเจ้า 22 เราจะปล่อยสัตว์ที่ดุร้ายไปทำร้ายเจ้า พวกมันจะเอาลูกๆของเจ้าไป และจะทำลายฝูงสัตว์ของเจ้า มันจะฆ่าพวกเจ้าจนเหลืออยู่ไม่กี่คน จนถนนหนทางของพวกเจ้าจะรกร้างว่างเปล่า
23 และถ้าหลังจากเกิดสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว เจ้ายังไม่ยอมรับการตีสอนของเรา แต่ยังใช้ชีวิตอย่างศัตรูกับเรา 24 ถ้าอย่างนั้น เราก็จะอยู่กับเจ้าอย่างศัตรูด้วย และเราจะลงโทษเจ้าให้หนักขึ้นถึงเจ็ดเท่าสำหรับบาปทั้งหลายของเจ้า 25 เราจะให้กองทัพต่างๆมาฆ่าฟันเจ้า เพื่อแก้แค้นที่เจ้าไม่รักษาข้อตกลง ถ้าเจ้ารวมตัวกันหลบอยู่ในเมือง เราก็จะส่งโรคระบาดร้ายแรงมาท่ามกลางพวกเจ้า และเราก็จะส่งมอบเจ้าให้ไปอยู่ในกำมือของพวกศัตรูเจ้า เพื่อพวกเขาจะได้ปกครองเจ้า 26 เมื่อเราตัดเสบียงอาหารของเจ้า ขนมปังของหญิงสิบคนใช้แค่เตาอบเดียวก็พอ เพราะจะมีแป้งเหลือให้ทำขนมปังน้อยมาก เจ้าจะต้องปันส่วนขนมปังกัน และเมื่อกินแล้ว ก็จะยังหิวอยู่
27 แล้วถ้าหลังจากนี้ เจ้ายังไม่ยอมฟังเรา และยังใช้ชีวิตอย่างกับศัตรูกับเรา 28 เราก็จะอยู่กับเจ้าอย่างกับศัตรูที่โกรธแค้น และเราจะลงโทษเจ้าหนักขึ้นเป็นเจ็ดเท่าสำหรับบาปทั้งหลายของเจ้า 29 เจ้าจะหิวจนต้องกินเนื้อลูกชายลูกสาวของเจ้าเอง 30 เราจะทำลายสถานนมัสการทั้งหลายของเจ้า และจะโค่นพวกแท่นบูชาเครื่องหอมของเจ้า และจะเอาศพของเจ้าวางทับพวกรูปเคารพที่ไร้ชีวิตพวกนั้นของเจ้า และเราจะเกลียดชังเจ้า 31 เราจะทำให้เมืองต่างๆของเจ้าเป็นซากปรักหักพัง และจะทำลายสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของเจ้า และเราจะรู้สึกเหม็นต่อเครื่องบูชาต่างๆของเจ้า 32 เราจะทำลายแผ่นดินนี้ จนศัตรูที่จะเข้ามาตั้งถิ่นฐานเห็นแล้วต้องตะลึงงันเพราะมัน 33 เราจะทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปในท่ามกลางชนชาติต่างๆและจะชักดาบของเราขึ้นต่อต้านเจ้า แผ่นดินของเจ้าจะรกร้างว่างเปล่า และเมืองต่างๆของเจ้าจะถูกทำลาย
34 ตลอดเวลาที่แผ่นดินว่างเปล่า ตอนที่เจ้าไปอยู่ในแผ่นดินของพวกศัตรูเจ้า แผ่นดินก็จะได้หยุดพัก ชดเชยปีเหล่านั้นที่เจ้าไม่ยอมให้มันหยุดพัก 35 ตลอดเวลาที่มันถูกทอดทิ้งนี้ มันจะได้หยุดพัก อย่างที่มันไม่เคยได้หยุดมาก่อนในปีแห่งการหยุดพัก ตอนที่เจ้าอยู่ในแผ่นดินนี้ 36 ส่วนคนที่รอดชีวิต เราจะทำให้พวกเขามีจิตใจที่ขี้ขลาดตาขาวในดินแดนของศัตรู แค่เสียงลมพัดใบไม้ พวกเขาก็จะวิ่งหนี ราวกับมีใครไล่ล่าด้วยดาบในสงคราม พวกเขาจะล้มลงแม้ไม่มีใครไล่ตามมา 37 พวกเขาจะวิ่งล้มลุกคลุกคลานสะดุดกันเองราวกับจะหลบดาบ แม้ไม่มีใครไล่ตามมาก็ตาม เจ้าจะไม่มีเรี่ยวแรงยืนสู้กับศัตรูของเจ้า 38 พวกเจ้าจะล้มหายตายจากไปในท่ามกลางชนชาติอื่นๆและแผ่นดินของศัตรูพวกเจ้าก็จะกลืนกินพวกเจ้า 39 ส่วนผู้ที่รอดตาย[d]ก็จะทรุดโทรมตาย ไปในดินแดนของศัตรู เพราะความบาปของพวกเขา และเพราะบาปของบรรพบุรุษของพวกเขาด้วย พวกเขาจะทรุดโทรมตายไป[e]เหมือนกับบรรพบุรุษของพวกเขา
ยังคงมีความหวังเสมอ
40 แต่ถ้าหากว่า พวกเขายอมสารภาพบาปของพวกเขา และบาปของบรรพบุรุษของพวกเขา พวกเขายอมรับว่าพวกเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา และได้ใช้ชีวิตอย่างกับเป็นศัตรูกับเรา 41 เราถึงได้อยู่กับพวกเขาอย่างศัตรู และนำพวกเขาไปสู่แผ่นดินของศัตรูพวกเขา และถ้าพวกเขาถ่อมตัวลง และยอมรับการลงโทษสำหรับบาปทั้งหลายของพวกเขา 42 เราก็จะระลึกถึงข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับยาโคบ ระลึกถึงข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับอิสอัค และข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับอับราฮัม แล้วเราก็จะระลึกถึงแผ่นดินนั้น
43 แผ่นดินนั้นจะถูกทอดทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าและในเวลาที่พวกนั้นไม่อยู่ มันจะได้พักชดใช้ให้กับปีแห่งการหยุดพัก และพวกที่รอดชีวิตของเจ้าก็จะยอมรับการลงโทษ สำหรับบาปต่างๆของพวกเขา คือที่พวกเขาได้ทอดทิ้งระเบียบต่างๆของเรา และพวกเขาได้เกลียดกฎต่างๆของเรา 44 แต่หลังจากเหตุการณ์นี้แล้ว ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ในดินแดนของศัตรู เราก็จะไม่ทอดทิ้งพวกเขา และจะไม่เกลียดพวกเขา จนถึงกับทำลายพวกเขาอย่างราบคาบและทำลายข้อตกลงระหว่างเรากับพวกเขา เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า 45 แต่เราจะระลึกถึงข้อตกลงของเราที่เรามีกับบรรพบุรุษของพวกเขา ที่เราได้นำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ต่อหน้าสายตาของชนชาติอื่นๆเพื่อเราจะได้เป็นพระเจ้าของพวกเขา เราคือยาห์เวห์’”
46 สิ่งเหล่านี้คือกฎ ระเบียบและคำสอนต่างๆที่พระยาห์เวห์ทำขึ้นระหว่างพระองค์กับประชาชนชาวอิสราเอลผ่านทางโมเสส บนภูเขาซีนาย
สิ่งที่บนไว้
27 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 2 “ให้บอกประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘ถ้ามีใครบนไว้ว่าจะถวายสิ่งนั้นสิ่งนี้แทนคนๆหนึ่ง ให้กับพระยาห์เวห์ นักบวชจะต้องตีค่าของคนๆนั้น 3 คือ ผู้ชายอายุยี่สิบปีถึงหกสิบปี จะมีราคาเป็นเงินห้าสิบเชเขล[f] ตามมาตรฐานสากล[g] 4 ถ้าเป็นผู้หญิงอายุยี่สิบปีถึงหกสิบปี จะมีราคาเป็นเงินสามสิบเชเขล 5 ถ้าเป็นคนที่มีอายุห้าปีถึงยี่สิบปี ถ้าเป็นผู้ชายจะมีราคาเป็นเงินยี่สิบเชเขล ถ้าเป็นผู้หญิงจะมีราคาเป็นเงินสิบเชเขล 6 ถ้าเป็นเด็กอายุตั้งแต่หนึ่งเดือนจนถึงห้าปี เด็กผู้ชายจะมีราคาเป็นเงินห้าเชเขล ส่วนเด็กผู้หญิงจะมีราคาเป็นเงินสามเชเขล 7 คนที่มีอายุมากกว่าหกสิบปีขึ้นไป ถ้าเป็นผู้ชายจะมีราคาเป็นเงินสิบห้าเชเขล ส่วนผู้หญิงมีราคาเป็นเงินสิบเชเขล 8 แต่ถ้าคนที่บนไว้เป็นคนยากจนมากไม่สามารถจ่ายให้ตามราคานั้น คนที่ได้บนไว้ ต้องพาคนที่ได้อุทิศให้กับพระยาห์เวห์แล้วนั้น ไปหานักบวช และนักบวชจะกำหนดราคาให้เขา ตามที่คนที่บนนั้นจะสามารถจ่ายได้
ของขวัญแด่พระยาห์เวห์
9 ถ้ามีใครบนไว้ว่าจะเอาสัตว์มาเป็นของถวายให้กับพระยาห์เวห์ สัตว์ทุกตัวที่เขาเอามาถวายให้พระยาห์เวห์นั้นจะกลายเป็นของพระองค์โดยเฉพาะ 10 เขาต้องไม่เอาสัตว์ตัวอื่นมาแทนสัตว์ตัวนั้น ไม่ว่าจะเอาตัวดีมาแทนตัวเลวหรือเอาตัวเลวมาแทนตัวดี และถ้าเขาเอาสัตว์มาแทน สัตว์ทั้งสองตัวจะกลายเป็นของพระองค์โดยเฉพาะ
11 สัตว์บางชนิดไม่สามารถเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ได้ เพราะมันไม่บริสุทธิ์ คนๆนั้นก็ต้องเอาสัตว์ตัวนั้นไปหานักบวช 12 นักบวชจะตีราคาของมัน ไม่ว่ามันจะดีหรือเลว ราคาของมันก็จะเป็นไปตามที่นักบวชกำหนดขึ้นมา 13 ถ้าคนๆนั้นต้องการซื้อมันคืน[h] เขาต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์จากราคาเดิม
พระเยซูพูดถึงความตายของพระองค์อีกครั้งหนึ่ง
(มธ. 20:17-19; ลก. 18:31-34)
32 พวกเขามุ่งหน้าไปเมืองเยรูซาเล็ม พระเยซูเดินนำหน้า พวกศิษย์ต่างก็แปลกใจ ส่วนพวกที่ติดตามมาก็หวาดกลัว พระองค์พาศิษย์ทั้งสิบสองคนปลีกตัวออกมาข้างๆและเริ่มเล่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับพระองค์ให้พวกเขาฟังอีกครั้ง 33 พระองค์บอกว่า “ฟังนะ พวกเรากำลังจะขึ้นไปเมืองเยรูซาเล็ม และบุตรมนุษย์จะถูกจับส่งตัวไปให้พวกผู้นำนักบวช และพวกครูสอนกฎปฏิบัติ พวกเขาจะตัดสินประหารชีวิตเขา และพวกนั้นจะจับเขาส่งไปให้กับคนที่ไม่ใช่ชาวยิว 34 แล้วพวกนั้นก็จะหัวเราะเยาะ ถ่มน้ำลายใส่ เฆี่ยนตี และในที่สุดก็จะฆ่าเขา แต่เขาก็จะฟื้นขึ้นจากความตายในวันที่สาม”
คำขอของยากอบกับยอห์น
(มธ. 20:20-28)
35 ยากอบและยอห์น ลูกของเศเบดีเข้ามาพูดกับพระเยซูว่า “อาจารย์ครับ ช่วยพวกเราสักเรื่องได้ไหมครับ”
36 พระเยซูถามว่า “จะให้ทำอะไรล่ะ”
37 พวกเขาตอบว่า “พออาจารย์ได้รับเกียรติยศอันสูงส่งอย่างกษัตริย์แล้ว ขอให้เราได้นั่งข้างขวาอาจารย์คนหนึ่งและข้างซ้ายอีกคนหนึ่งนะครับ”
38 พระเยซูตอบว่า “พวกคุณไม่รู้หรอกว่ากำลังขออะไรอยู่ พวกคุณจะดื่มจากจอก[a]ที่เราต้องดื่มนี้ได้หรือ ความทรมานนี้[b]ที่เราต้องรับ คุณจะรับได้หรือ”
39 พวกเขาตอบว่า “ได้ครับ” พระเยซูจึงพูดว่า “จริงอยู่ที่คุณจะดื่มจากจอกที่เราจะต้องดื่ม และคุณจะทนทุกข์ทรมานแบบเดียวกับที่เราจะต้องทน 40 แต่จะให้ใครนั่งทางขวาหรือทางซ้ายของเรานั้น เราไม่ได้เป็นคนเลือก พระเจ้าจะเป็นผู้เลือกเอง”
41 เมื่อศิษย์อีกสิบคนรู้เรื่องนี้ ก็โกรธยากอบและยอห์น 42 พระเยซูเลยเรียกพวกเขาเข้ามาหาและพูดว่า “พวกคุณก็รู้ว่ากษัตริย์ของพวกคนต่างชาติทำตัวเป็นเจ้าเป็นนายเหนือประชาชน และพวกข้าราชการระดับสูงก็ชอบใช้อำนาจต่อประชาชน 43 แต่ในพวกคุณมันจะไม่เป็นอย่างนั้น คนไหนที่อยากจะเป็นใหญ่ ก็ให้เขาเป็นผู้รับใช้พวกคุณ 44 และคนไหนอยากเป็นคนสำคัญที่สุด ก็ให้เขาเป็นทาสรับใช้ทุกคน 45 เพราะแม้แต่บุตรมนุษย์ ก็ยังไม่ได้มาเพื่อจะให้คนอื่นรับใช้ แต่มาเพื่อจะรับใช้คนอื่น และยอมสละชีวิตเพื่อปลดปล่อยให้คนมากมายเป็นอิสระ”
พระเยซูรักษาบารทิเมอัส
(มธ. 20:29-34; ลก. 18:35-43)
46 พระเยซูและพวกศิษย์เดินทางมาถึงเมืองเยริโค และในระหว่างที่พระองค์และพวกศิษย์กำลังเดินทางออกจากเมืองเยริโคพร้อมกับชาวบ้านนั้น ก็มีคนตาบอดคนหนึ่งชื่อบารทิเมอัสซึ่งเป็นลูกชายของทิเมอัส นั่งขอทานอยู่ริมถนน 47 เมื่อเขารู้ว่าเป็นพระเยซูชาวนาซาเร็ธ เขาก็ร้องตะโกนว่า “เยซู บุตรดาวิด สงสารผมด้วยครับ”
48 หลายคนตวาดให้เขาเงียบ แต่เขายิ่งตะโกนดังขึ้น “เยซูบุตรดาวิดสงสารผมด้วยครับ”
49 พระเยซูจึงหยุด และพูดว่า “เรียกเขามาสิ” พวกเขาก็เลยเรียกคนตาบอดนั้น และบอกเขาว่า “ดีใจได้แล้ว ลุกขึ้นสิ อาจารย์เรียกแกไปหาแล้ว” 50 คนตาบอดนั้นก็โยนเสื้อคลุมทิ้งไปข้างๆแล้วกระโดดลุกขึ้นมาหาพระเยซู
51 พระองค์ถามเขาว่า “อยากให้เราช่วยอะไร” คนตาบอดตอบว่า “ผมอยากมองเห็นครับอาจารย์”
52 พระเยซูจึงพูดว่า “ไปเถอะ ความเชื่อของคุณทำให้คุณหายแล้ว” เขาก็มองเห็นทันที และติดตามพระองค์ไป
เพลงงานวิวาห์ของกษัตริย์
ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องโดยใช้ทำนองเพลงดอกพลับพลึง สำหรับคนของตระกูลโคราห์ บทกวีแห่งมัสคิล เพลงรัก
1 จิตใจของข้าพเจ้าเต็มล้นไปด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ
ในขณะที่ข้าพเจ้าเขียนถ้อยคำเหล่านี้ให้กับกษัตริย์
ลิ้นของข้าพเจ้าเป็นเหมือนปากกาของนักเขียนผู้เชี่ยวชาญ
2 พระองค์หล่อเหลากว่าชายอื่นใด
ถ้อยคำที่ไพเราะออกมาจากปากของพระองค์
เห็นชัดๆว่าพระเจ้าอวยพรพระองค์ตลอดกาล
3 กษัตริย์ผู้เกรียงไกร เหน็บดาบของพระองค์ไว้ข้างกายเถิด
พระองค์ใส่ชุดเต็มยศเต็มไปด้วยสง่าราศีและบารมี
4 ด้วยบารมีของพระองค์ ให้ขี่รถม้ามุ่งออกไปสู่ชัยชนะ
เพื่อคงความสัตย์ซื่อไว้ ปกป้องคนต่ำต้อย และรักษาความยุติธรรม
ขอให้มือขวาของพระองค์ทำกิจกรรมอันน่าเกรงขาม
5 ลูกธนูของพระองค์ได้ลับมาจนแหลมคม
แทงทะลุเข้าไปในหัวใจของเหล่าศัตรูของกษัตริย์
ชนชาติต่างๆพากันล้มลงใต้เท้าของพระองค์
6 ข้าแต่พระเจ้า[a] บัลลังก์ของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป
พระองค์จะปกครองคนของพระองค์อย่างยุติธรรม
7 พระองค์รักความยุติธรรมและเกลียดชังความชั่วร้าย
นั่นเป็นเหตุที่พระเจ้า พระเจ้าของพระองค์ถึงแต่งตั้งพระองค์[b]เป็นกษัตริย์
และเทน้ำมันลงบนศีรษะของพระองค์ทำให้พระองค์มีความสุขมากกว่าเพื่อนๆ
8 เสื้อผ้าของพระองค์มีกลิ่นหอมของกำยาน ว่านหางจระเข้ และการบูร
เหล่านักดนตรีบรรเลงเพลงให้พระองค์ฟังอย่างมีความสุขภายในวังที่ตกแต่งด้วยงาช้าง
9 บุตรสาวของเหล่ากษัตริย์ ก็อยู่ในหมู่หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ของพระองค์
และราชินีก็ยืนอยู่เบื้องขวาของพระองค์ นางสวมเครื่องประดับทองคำจากเมืองโอฟีร์
10 ลูกสาวสุดที่รักเอ๋ย ฟังเราไว้ สังเกตดีๆ เอียงหูมาฟัง
ตอนนี้ เธอจะต้องลืมชนชาติของเธอ และครอบครัวของพ่อเธอ
11 แล้วกษัตริย์ถึงจะได้หลงใหลในความงดงามของเธอ
เพราะตอนนี้ พระองค์เป็นนายของเธอแล้ว และเธอต้องก้มกราบพระองค์
12 ผู้คนจากเมืองไทระ จะนำของกำนัลมาให้
เศรษฐีจากชนชาตินั้นพยายามจะเอาใจเธอ
13 เจ้าหญิงอยู่ในห้องของนาง
แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ถักทอด้วยทองคำ
14 เจ้าหญิงในชุดสวยงามนี้ จะถูกนำตัวไปเข้าเฝ้ากษัตริย์
และนางก็จะมีเพื่อนเจ้าสาวที่ยังเป็นสาวพรหมจารีตามหลังเธอไปด้วย พวกเขาถูกนำตัวมาเข้าเฝ้าพระองค์
15 พวกเธอถูกนำเข้าไปในวังของกษัตริย์
ด้วยความชื่นชมยินดี
16 พระองค์จะมีบุตรชายหลายคน
เพื่อเป็นกษัตริย์สืบทอดบัลลังก์ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของพระองค์
พระองค์จะตั้งพวกเขาแต่ละคนให้ไปครอบครองแผ่นดิน
17 ข้าพเจ้าจะทำให้ผู้คนรุ่นต่อๆไปจดจำชื่อของพระองค์
เพื่อว่าชนชาติต่างๆจะสรรเสริญพระองค์ตลอดไป
22 เป็นพระยาห์เวห์ที่อวยพรให้คุณมั่งคั่ง
งานหนักของคุณเองไม่ทำให้คุณมั่งคั่งกว่านั้นหรอก[a]
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International