Print Page Options Listen to Reading
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the CSB. Switch to the CSB to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 7-8

ชาวอิสราเอลคนพิเศษของพระเจ้า

เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านนำท่านเข้าสู่แผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดเป็นเจ้าของ พระองค์จะขับไล่ชนชาติพวกนี้ออกไปต่อหน้าท่าน คือ ชาวฮิตไทต์ ชาวเกอร์กาชี ชาวอาโมไรต์ ชาวคานาอัน ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์และชาวเยบุส รวมเจ็ดชาติ ที่ใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่าท่าน เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านมอบคนพวกนั้นให้อยู่ใต้อำนาจของท่านและท่านได้เอาชนะพวกเขาแล้ว ท่านจะต้องทำลายพวกเขาให้หมดสิ้น ท่านจะต้องไม่ทำสัญญาสงบศึกใดๆกับพวกเขา และท่านจะต้องไม่แสดงความเมตตาใดๆกับพวกเขาด้วย อย่าแต่งงานกับพวกเขา อย่ายกลูกสาวให้เป็นเมียของลูกชายพวกเขา และอย่าเอาลูกสาวของพวกเขามาเป็นเมียลูกชายท่านด้วย เพราะพวกเขาจะทำให้ลูกๆของท่านหันเหไปจากเราและลูกๆของท่านก็จะไปรับใช้พวกพระอื่นๆ และพระยาห์เวห์ก็จะโกรธพวกท่านและทำลายท่านอย่างรวดเร็ว

ทำลายพวกพระเทียมเท็จ

พวกท่านจะต้องทำอย่างนี้กับพวกชนชาติเหล่านั้น คือ พวกท่านต้องรื้อแท่นบูชาของพวกเขาทิ้งและทุบเสาหิน[a] ของพวกเขาเสีย และตัดเสาเจ้าแม่อาเชราห์ของพวกเขาทิ้ง และเผาพวกรูปเคารพของพวกเขา เพราะท่านคือประชาชนที่ถูกแยกออกมาเพื่อเป็นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้เลือกท่านจากบรรดาชนชาติทั้งหมดบนโลกนี้ ให้เป็นของรักของหวงที่มีค่าของพระองค์ พระยาห์เวห์ไม่ได้รักพวกท่านและเลือกพวกท่านเพราะพวกท่านมีจำนวนมากที่สุดในบรรดาชนชาติอื่นๆทั้งหมด เพราะความจริงแล้วพวกท่านมีจำนวนน้อยที่สุด แต่เป็นเพราะพระยาห์เวห์รักพวกท่าน และเพราะพระองค์รักษาคำสัญญาที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกท่านว่าพระยาห์เวห์จะนำพวกท่านออกจากประเทศอียิปต์ ด้วยมือที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ และพระองค์ได้ปล่อยให้ท่านเป็นอิสระจากการเป็นทาส จากเงื้อมมือของฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์

ดังนั้นให้รู้ไว้ว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว เป็นพระเจ้าที่ซื่อสัตย์ที่รักษาคำสัญญา พระองค์รักคนเหล่านั้นที่รักพระองค์ และเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์ พระองค์จะรักพวกเขาไปอีกเป็นพันๆรุ่น 10 แต่พระยาห์เวห์จะลงโทษคนที่เกลียดชังพระองค์ พระองค์จะไม่ลังเลที่จะทำลายเขา พระองค์จะลงโทษคนที่เกลียดพระองค์ 11 ดังนั้นท่านต้องเชื่อฟังคำสั่งสอน กฎ และข้อบังคับที่เราได้สั่งท่านในวันนี้

12 ถ้าพวกท่านเชื่อฟังข้อบังคับเหล่านี้ และทำตามอย่างระมัดระวัง พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะรักษาข้อตกลงแห่งความรักกับท่านที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน 13 พระองค์จะรักท่านและอวยพรท่านและเพิ่มจำนวนคนของท่าน พระองค์จะอวยพรให้ท่านมีลูกหลานมากมาย และพระองค์จะอวยพรให้ที่นาเกิดผลดี พระองค์จะอวยพรท่านด้วยเมล็ดพืช เหล้าองุ่นใหม่และน้ำมัน พระองค์จะอวยพรให้ฝูงวัวและฝูงแพะแกะเกิดลูกมากมาย พระองค์จะอวยพรทั้งหมดนี้ให้กับท่าน ในแผ่นดินที่พระองค์สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่านว่าจะยกให้ท่าน

14 ท่านจะได้รับการอวยพรมากกว่าชนชาติอื่น ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและฝูงสัตว์ของท่านจะไม่เป็นหมัน 15 พระยาห์เวห์จะไม่ให้ท่านเจ็บป่วย พระองค์จะไม่ให้ท่านติดโรคที่ร้ายแรงทั้งหลายที่ท่านเคยเห็นในแผ่นดินอียิปต์ แต่พระองค์จะเอาสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดไปให้กับคนที่เกลียดชังท่าน 16 ท่านต้องทำลายประชาชนทั้งหมดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้มอบไว้ให้อยู่ใต้อำนาจของท่าน อย่าไปสงสารพวกเขา และอย่าไปบูชาพวกพระของพวกเขา เพราะมันจะเป็นกับดักสำหรับท่าน

พระยาห์เวห์ช่วยคนของพระองค์

17 ถ้าท่านพูดอยู่ในใจว่า ‘ชนชาติพวกนี้มีมากกว่าเรามาก เราจะขับไล่พวกเขาออกไปได้อย่างไร’ 18 อย่ากลัวพวกเขา ให้จำไว้ว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทำอะไรกับกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ และกับประชาชนชาวอียิปต์ทั้งหมด 19 ให้จำความทุกข์ยากอันยิ่งใหญ่ที่ท่านเห็น และให้จำเหตุการณ์พิเศษต่างๆและการอัศจรรย์ต่างๆที่พระองค์ได้ทำ และให้จำมือที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ และแขนที่ยื่นออกมาช่วย ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านใช้ในการนำท่านออกจากประเทศอียิปต์ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทำอย่างเดียวกันนี้กับทุกๆชนชาติที่ท่านกลัวอยู่นี้

20 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะส่งฝูงแตน[b] มาต่อยพวกเขา จนกว่าคนที่ยังเหลืออยู่และหลบซ่อนจากท่านจะถูกทำลายหมด 21 อย่ากลัวพวกเขา เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอยู่กับท่าน และพระองค์คือพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่และคนก็กลัวพระองค์ 22 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะขับไล่ชนชาติต่างๆที่อยู่ก่อนหน้าท่านออกไปทีละเล็กทีละน้อย ท่านอย่าเพิ่งทำลายพวกเขาทีเดียวหมด ไม่อย่างนั้นจะมีสัตว์ป่าเพิ่มมากขึ้นสำหรับท่าน 23 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะมอบชนชาติเหล่านั้นให้อยู่ใต้อำนาจของท่าน และพระองค์จะทำให้คนเหล่านั้นสับสนวุ่นวาย จนพวกเขาถูกทำลายจนหมดสิ้น 24 พระยาห์เวห์จะมอบกษัตริย์ของพวกเขาให้อยู่ในกำมือของท่าน และท่านจะฆ่าพวกเขาและทำให้พวกเขาสิ้นชื่อไปจากใต้ฟ้านี้ ไม่มีใครจะยืนขวางท่านได้ จนกว่าท่านจะทำลายพวกเขาจนหมดสิ้น

25 พวกท่านต้องเอารูปเคารพของพวกเขาไปเผาไฟ ท่านต้องไม่โลภเงินทองที่ติดอยู่กับรูปเคารพเหล่านั้น ท่านต้องไม่เอาเงินและทองนั้นมาเป็นของตัวเอง ถ้าท่านทำอย่างนั้นท่านจะติดกับดักของมัน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเกลียดชังรูปเคารพพวกนั้น 26 ท่านต้องไม่เอารูปเคารพพวกนี้ไปไว้ในบ้าน ไม่อย่างนั้นท่านจะถูกทำลายจนหมดสิ้นเหมือนรูปเคารพนั้น ท่านต้องเกลียดชังและดูถูกรูปเคารพนั้น เพราะมันต้องถูกทำลายจนหมดสิ้น

ให้จดจำถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์ทำให้

พวกท่านต้องเชื่อฟังและทำตามคำสั่งทุกข้อ ที่เราให้กับท่านในวันนี้อย่างระมัดระวัง เพื่อพวกท่านจะได้มีชีวิตและเพิ่มจำนวนมากขึ้นและได้เข้าไปเป็นเจ้าของแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน ท่านต้องจดจำถึงการเดินทางในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งตลอดสี่สิบปีที่ผ่านมา ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้นำท่าน เพื่อท่านจะได้ถ่อมตัวลง พระองค์ได้ทดสอบท่าน เพื่อจะได้รู้ว่าท่านคิดอะไรอยู่ในใจ จะได้รู้ว่าท่านจะเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์หรือไม่ พระยาห์เวห์ทำให้ท่านต้องทนทุกข์จากความหิวแล้วพระองค์ก็เลี้ยงพวกท่านด้วยมานา ที่ทั้งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน เพื่อที่พระองค์จะได้สอนท่านว่า คนเราไม่ได้มีชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว แต่คนเราจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกๆคำพูดที่ออกมาจากปากของพระยาห์เวห์ เสื้อผ้าของท่านก็ไม่ขาด เท้าของท่านก็ไม่บวมตลอดสี่สิบปีนี้ จำไว้ว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้อบรมสั่งสอนเหมือนพ่อที่อบรมสั่งสอนลูกของเขา

ดังนั้นให้เชื่อฟังบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ด้วยการเดินในทางของพระองค์และเกรงกลัวพระองค์ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังนำท่านเข้าไปในดินแดนที่ดี แผ่นดินที่มีลำธาร ตาน้ำและน้ำใต้ดินที่ไหลทะลักออกมาในหุบเขาและเนินเขา เป็นแผ่นดินที่เต็มไปด้วยข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ ไร่องุ่น ต้นมะเดื่อและพวกผลทับทิม เป็นแผ่นดินที่ให้น้ำมันมะกอกและน้ำเชื่อมผลไม้ เป็นแผ่นดินที่ท่านจะไม่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างอดๆอยากๆและที่ที่ท่านจะไม่ขาดอะไรเลย แผ่นดินที่ก้อนหินเป็นเหล็กและที่ที่ท่านสามารถทำเหมืองทองแดงจากเนินเขาของมัน 10 เมื่อท่านได้กินทุกอย่างจนพอใจแล้ว ให้สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสำหรับแผ่นดินที่ดีที่พระองค์ได้ยกให้กับท่าน

อย่าลืมสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ให้ไว้

11 ระวังให้ดี อย่าลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน โดยไม่ทำตามคำสั่ง กฎและข้อบังคับของพระองค์ที่เราได้สั่งท่านไว้ในวันนี้ 12 เมื่อท่านกินทุกอย่างจนพอใจแล้ว ท่านได้สร้างบ้านที่สวยงามและเข้าไปอยู่อาศัย 13 ฝูงวัว ฝูงแพะแกะและฝูงสัตว์ของท่านเพิ่มจำนวนมากขึ้น ท่านมีเงินทองมากขึ้น และทุกอย่างที่ท่านมีได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น 14 ระวังให้ดี อย่าได้หยิ่งผยอง และลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ผู้ที่ได้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ ออกจากการเป็นทาสนั้น 15 พระองค์คือผู้ที่นำท่านไปสู่ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งที่กว้างใหญ่และน่ากลัว ที่เต็มไปด้วยงูพิษและแมงป่อง ดินแดนที่แห้งแล้งไม่มีน้ำ พระองค์คือผู้ที่ทำให้น้ำไหลออกมาจากก้อนหินแข็งเพื่อท่าน 16 พระองค์คือผู้ที่เลี้ยงดูท่านด้วยมานาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง มานาที่บรรพบุรุษท่านเองก็ไม่เคยรู้จัก เพื่อจะทำให้ท่านถ่อมตัวลง เพื่อทดสอบท่าน แล้วในที่สุดจะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรือง 17 ระวังให้ดี อย่าคิดในใจว่า ‘เป็นเพราะพลังและอำนาจของฉันเอง ที่ทำให้ฉันร่ำรวยขนาดนี้’ 18 แต่อย่าลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะพระองค์คือผู้ที่ให้อำนาจนั้น ที่ทำให้ท่านร่ำรวยขึ้นมา เพื่อพระองค์จะได้รักษาข้อตกลงที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน อย่างที่พระองค์กำลังทำอยู่ตอนนี้

19 ถ้าท่านลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และไปติดตามพระอื่น แล้วยังไปรับใช้ กราบไหว้บูชาพระพวกนั้น เราขอเตือนพวกท่านในวันนี้ว่า พวกท่านจะต้องถูกทำลายแน่ๆ 20 เหมือนชนชาติที่พระยาห์เวห์กำลังทำลายอยู่ต่อหน้าพวกท่านเมื่อท่านเข้าในแผ่นดินนั้น พวกท่านก็จะถูกทำลายแบบนั้นเหมือนกัน เพราะท่านไม่ยอมฟังเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน

ลูกา 7:36-8:3

ฟาริสีคนหนึ่งชื่อซีโมน

36 มีฟาริสีคนหนึ่งเชิญพระเยซูมากินอาหารกับเขา พระองค์ก็เลยมาที่บ้านของเขาและนั่งเอนกายอยู่ที่โต๊ะอาหาร 37 มีผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นที่รู้กันไปทั่วในเมืองนั้นว่าเป็นคนบาป นางได้ยินว่าพระเยซูกำลังกินอาหารอยู่ที่บ้านของฟาริสีคนนั้น นางก็ถือน้ำหอมในขวดสวยหรูมาด้วย 38 นางเข้าไปยืนอยู่ข้างหลังใกล้เท้าของพระเยซู แล้วร้องไห้จนเท้าของพระองค์เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา แล้วเอาผมของนางเช็ด และก้มลงจูบเท้าของพระองค์ พร้อมทั้งเทน้ำหอมลงบนเท้าทั้งสองข้างของพระองค์ 39 เมื่อฟาริสีคนที่เชิญพระเยซูเห็นก็คิดในใจว่า “ถ้าชายคนนี้เป็นผู้พูดแทนพระเจ้าจริง เขาจะต้องรู้ว่า หญิงที่แตะต้องตัวเขานี้เป็นใคร และเป็นหญิงประเภทไหน เขาจะต้องรู้ว่านางเป็นคนบาป”

40 พระเยซูพูดว่า “ซีโมน เราจะบอกอะไรให้นะ”

และซีโมนก็ตอบว่า “ว่ามาเลยครับ อาจารย์”

41 พระเยซูพูดว่า “มีคนปล่อยเงินกู้คนหนึ่ง มีลูกหนี้อยู่สองคน คนหนึ่งเป็นหนี้อยู่ห้าร้อยเหรียญเงิน[a] และอีกคนหนึ่งเป็นหนี้อยู่ห้าสิบเหรียญเงิน 42 แต่ทั้งสองไม่มีเงินใช้หนี้ เจ้าหนี้ก็เลยยกหนี้ให้ทั้งสองคน คุณคิดว่าคนไหนจะรักเจ้าหนี้คนนี้มากกว่ากัน”

43 ซีโมนตอบว่า “คนแรกที่มีหนี้มากกว่าครับ”

พระองค์ก็ตอบว่า “ถูกต้อง”

44 แล้วพระเยซูหันไปมองหญิงคนนั้น และพูดกับซีโมนว่า “เห็นหญิงคนนี้ไหม เรามาบ้านคุณ คุณก็ไม่ได้เอาน้ำมาล้างเท้าเรา แต่เธอกลับใช้น้ำตาล้างเท้าเรา และเอาผมของเธอเช็ดจนแห้ง 45 คุณไม่ได้จูบต้อนรับเรา แต่เธอไม่ได้หยุดจูบเท้าเราเลยตั้งแต่เข้ามา 46 คุณไม่ได้เอาน้ำมันใส่หัวของเรา แต่เธอเอาน้ำหอมเทใส่เท้าของเรา 47 เราจะบอกให้รู้ว่า ที่เธอแสดงความรักมากขนาดนี้ ก็เพราะเธอได้รับการยกโทษจากบาปมากมายนั่นเอง ส่วนคนอื่นที่ได้รับการยกโทษน้อย ก็มีความรักน้อย”

48 พระเยซูพูดกับนางว่า “บาปของคุณได้รับการยกโทษแล้ว” คนที่นั่งดื่มกินกับพระองค์ก็พูดกันว่า

49 “คนนี้คิดว่าเขาเป็นใครกัน ถึงได้เที่ยวยกโทษบาปให้ใครต่อใคร”

50 พระเยซูพูดกับหญิงคนนี้ว่า “ความเชื่อของคุณทำให้คุณรอดแล้ว ไปเป็นสุขเถิด”

กลุ่มที่ไปกับพระเยซู

ต่อมาพระเยซูเดินทางไปตามเมืองและหมู่บ้านต่างๆ เพื่อประกาศข่าวดีเกี่ยวกับอาณาจักรของพระเจ้า พวกศิษย์เอกทั้งสิบสองคนก็อยู่กับพระองค์ด้วย แล้วยังมีพวกผู้หญิงบางคนติดตามมาด้วย ที่พระองค์เคยขับผีชั่วและรักษาโรคต่างๆให้ คือ มารีย์ชาวมักดาลาที่พระเยซูเคยขับผีชั่วทั้งเจ็ดออกให้ นางโยอันนาเมียของคูซาผู้จัดการทรัพย์สินส่วนตัวของกษัตริย์เฮโรด และนางสูสันนากับผู้หญิงคนอื่นๆที่ใช้ทรัพย์สินส่วนตัวของพวกนางเองคอยช่วยเหลือพระเยซูกับพวกศิษย์เอกของพระองค์นั้น

สดุดี 69:1-18

คำอธิษฐานของคนที่ถูกข่มเหง

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องด้วยทำนอง “ดอกลิลลี่” เพลงของดาวิด

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเถิด
    เพราะน้ำขึ้นมาสูงถึงคอข้าพเจ้าแล้ว
ข้าพเจ้าจมลงสู่โคลนลึกและหาที่หยั่งเท้าไม่เจอ
    ข้าพเจ้าอยู่ในน้ำลึกและน้ำท่วมท้นข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าร้องขอให้ช่วยจนหมดแรง
    ตะโกนจนแสบคอ มองหาจนตาพร่ามัว
เพราะข้าพเจ้ารอคอยให้พระเจ้าของข้าพเจ้ามาช่วย

คนเหล่านั้นที่เกลียดข้าพเจ้าทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขามีมากยิ่งกว่าเส้นผมบนหัวของข้าพเจ้าเสียอีก
ศัตรูเหล่านั้นที่พยายามจะทำลายข้าพเจ้า
    ทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขา มีจำนวนมากมาย
    ข้าพเจ้าถูกบังคับให้ชดใช้ในสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ขโมยมา
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ล่วงรู้ถึงความผิดอย่างโง่ๆของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าไม่อาจซ่อนความผิดไปจากพระองค์ได้

องค์เจ้าชีวิต พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    ขออย่าปล่อยให้คนเหล่านั้นที่ฝากความหวังไว้กับพระองค์ต้องอับอายเพราะข้าพเจ้าเลย
พระเจ้าแห่งอิสราเอล
    ขออย่าปล่อยให้คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์ต้องเสียหน้าเพราะข้าพเจ้าเลย
ความอับอายปกคลุมใบหน้าของข้าพเจ้า
    แต่ข้าพเจ้าก็ทนอับอายเพื่อพระองค์
ข้าพเจ้ากลายเป็นเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับพี่น้องของข้าพเจ้า
    พี่น้องท้องเดียวกับข้าพเจ้าทำกับข้าพเจ้าเหมือนกับข้าพเจ้าเป็นคนต่างชาติ
เพราะความร้อนใจที่ข้าพเจ้ามีต่อวิหารของพระองค์ได้เผาผลาญข้าพเจ้า
    และคำดูถูกต่างๆของคนเหล่านั้นที่ดูถูกพระองค์ได้ตกลงมาอยู่บนข้าพเจ้า
10 ข้าพเจ้าร้องไห้และอดอาหาร แต่พวกเขากลับดูถูกข้าพเจ้า
    เพราะทำสิ่งเหล่านี้
11 เมื่อข้าพเจ้าสวมใส่ผ้ากระสอบไว้ทุกข์
    ข้าพเจ้าก็กลายเป็นตัวตลกสำหรับพวกเขา
12 ผู้คนที่อยู่แถวประตูเมืองต่างพากันนินทาข้าพเจ้า
    และคนดื่มเบียร์ก็แต่งเพลงล้อเลียนข้าพเจ้า

13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเพียงอธิษฐานขอให้พระองค์ยอมรับข้าพเจ้าเท่านั้น
    ข้าแต่พระเจ้าโปรดตอบข้าพเจ้าด้วยความรักมั่นคงของพระองค์
และด้วยฤทธิ์อำนาจแห่งการช่วยกู้ที่พึ่งพิงได้ของพระองค์
14 โปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากโคลนตมนี้ด้วยเถิด
    เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่จมลึกไปกว่านี้
โปรดช่วยข้าพเจ้าให้หนีรอดจากคนเหล่านั้นที่เกลียดชังข้าพเจ้า
    และจากน้ำที่ลึกนี้ด้วยเถิด
15 ขออย่าให้น้ำท่วมท้นข้าพเจ้า
    และอย่าให้น้ำลึกดูดกลืนข้าพเจ้าลงไป
    ขออย่าให้หลุมฝังศพงับข้าพเจ้าเลย

16 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดตอบข้าพเจ้าด้วย เพราะความรักมั่นคงของพระองค์นั้นดี
    โปรดหันหน้าของพระองค์มาทางข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะความเมตตาของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
17 โปรดอย่าได้ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์เลย
    ข้าพเจ้ากำลังตกอยู่ในความทุกข์ยาก ดังนั้น ช่วยตอบข้าพเจ้าโดยเร็วด้วยเถิด
18 โปรดเข้ามาใกล้ และไถ่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
    โปรดช่วยปลดปล่อยให้ข้าพเจ้าเป็นอิสระจากศัตรูของข้าพเจ้าด้วยเถิด

สุภาษิต 12:1

12 คนที่รักความรู้ ก็ชอบให้คนอื่นแก้ไข
    แต่คนที่เกลียดชังการตักเตือนก็เป็นคนโง่เขลา

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International