The Daily Audio Bible
Today's audio is from the NRSVUE. Switch to the NRSVUE to read along with the audio.
เทศกาลวันปลดปล่อย
(อพย. 12:1-20; ลนต. 23:4-8)
16 ให้จดจำเดือนอาบีบ[a] และให้เฉลิมฉลองเทศกาลวันปลดปล่อย[b] เพื่อเป็นเกียรติกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะในเดือนอาบีบ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ในตอนกลางคืน 2 ให้ฆ่าสัตว์ถวายพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน สำหรับเทศกาลวันปลดปล่อย โดยเอาสัตว์จากฝูงแพะแกะหรือฝูงวัว ไปถวายในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ 3 ท่านจะต้องไม่กินอะไรที่ใส่เชื้อฟู ตอนกินเนื้อสัตว์ที่เอามาบูชาพวกนั้น ท่านต้องกินขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟูเป็นเวลาเจ็ดวัน (คนเรียกขนมปังนี้ว่า ‘ขนมปังแห่งความทุกข์ยากลำบาก’) เพราะท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์อย่างเร่งรีบ ท่านจะกินขนมปังนี้เพื่อตลอดชีวิตของท่านจะได้จดจำวันที่ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ 4 จะต้องไม่มีเชื้อฟูที่ไหนเลยในแผ่นดินของท่านเป็นเวลาเจ็ดวัน และจะต้องไม่มีเนื้อสัตว์ที่ท่านฆ่าในตอนเย็นของวันแรกเหลือค้างคืนถึงวันรุ่งขึ้น
5 ท่านไม่สามารถถวายเครื่องบูชาสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยในเมืองต่างๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน 6 ท่านต้องไปถวายในที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกสำหรับนมัสการพระองค์เท่านั้น ท่านต้องถวายเครื่องบูชานี้ในตอนเย็น หลังดวงอาทิตย์ตกดินแล้ว มันเป็นเวลาเดียวกับวันที่ท่านออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ 7 ท่านต้องทำอาหารกินในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือก แล้วในตอนเช้า ท่านถึงค่อยกลับไปเต็นท์ของท่านได้ 8 ท่านต้องกินขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูเป็นเวลาหกวัน และในวันที่เจ็ดจะมีการชุมนุมพิเศษ เพื่อให้เกียรติกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน วันนั้นท่านต้องไม่ทำงานใดๆ
เทศกาลสัปดาห์
(อพย. 34:22; ลนต. 23:15-21)
9 นับจากวันที่เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวเป็นครั้งแรกไปอีกเจ็ดอาทิตย์ 10 ให้ฉลองเทศกาลสัปดาห์[c] สำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จำนวนของเครื่องบูชาที่ท่านสมัครใจจะให้ ก็เป็นไปตามขนาดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้อวยพรท่าน 11 ท่าน ลูกชายลูกสาวของท่าน ทาสชายหญิงของท่าน ชาวเลวี ในเมืองของท่าน ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้า และแม่หม้ายในหมู่ท่าน ให้ชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ 12 จำไว้ว่าท่านเคยเป็นทาสอยู่ในอียิปต์ และให้ทำตามกฎพวกนี้ทั้งหมดอย่างระมัดระวัง
เทศกาลอยู่เพิง
(ลนต. 23:33-43; กดว. 29:12-38)
13 ให้ฉลองเทศกาลอยู่เพิงเป็นเวลาเจ็ดวัน หลังจากที่ท่านได้เก็บรวบรวมผลผลิตจากลานนวดข้าวและที่บ่อย่ำองุ่น[d] ของท่าน 14 ในระหว่างงานเลี้ยง ให้ท่าน ลูกชายลูกสาวของท่าน ทาสชายหญิงของท่าน ชาวเลวี ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้ายในเมืองของท่าน ชื่นชมยินดี 15 และเฉลิมฉลองงานเทศกาลให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นเวลาเจ็ดวันในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะอวยพรท่าน ในผลผลิตทั้งหมดที่ท่านเก็บเกี่ยวและในงานทุกอย่างที่ท่านทำ และท่านจะมีความสุขอย่างครบถ้วน
16 ผู้ชายทุกคนต้องมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านปีละสามครั้ง ในสถานที่นั้นที่พระองค์จะเลือกไว้ คือในเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อฟู เทศกาลสัปดาห์และเทศกาลอยู่เพิง ชายทุกคนที่มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ต้องไม่มามือเปล่า 17 ชายแต่ละคนจะต้องให้ตามความสามารถที่เขาจะทำได้ ตามขนาดที่พระยาห์เวห์ได้ให้กับท่าน
ผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่
18 ท่านจะต้องแต่งตั้งผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่สำหรับเผ่าต่างๆของท่าน ในแต่ละเมืองที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน พวกเขาต้องตัดสินประชาชนอย่างยุติธรรม 19 ท่านต้องไม่ตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม ท่านต้องไม่ลำเอียง ท่านต้องไม่รับสินบน เพราะสินบนทำให้คนฉลาดต้องตาบอด และเปลี่ยนคนดีให้พูดหลอกลวง 20 ความยุติธรรม ท่านต้องให้แต่ความยุติธรรม เพื่อท่านจะได้มีชีวิตอยู่และเป็นเจ้าของแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะยกให้กับท่าน
พระเจ้าเกลียดรูปเคารพ
21 เมื่อท่านสร้างแท่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องไม่ตั้งเสาไม้เพื่อให้เกียรติกับพระอาเชริมที่ด้านข้างของแท่นบูชานั้น 22 ท่านต้องไม่ตั้งเสาหินอุทิศให้กับพระเทียมเท็จ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเกลียดของพวกนี้
ใช้แต่สัตว์ดีๆเป็นเครื่องบูชา
17 ท่านต้องไม่เอาวัวตัวผู้หรือแกะที่มีตำหนิหรือมีสิ่งผิดปกติมาถวายเป็นเครื่องบูชาให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเกลียด
การลงโทษคนที่บูชารูปเคารพ
2 ถ้าเจอว่าในเมืองหนึ่งเมืองใดของท่านที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน มีชายหรือหญิงในหมู่พวกท่านทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของของท่านเห็นว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายและฝ่าฝืนข้อตกลงของพระองค์ 3 คือว่าพวกเขาไปรับใช้พวกพระอื่นๆและกราบไหว้พระพวกนั้น ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์หรือดาวดวงต่างๆซึ่งเราไม่ได้สั่งให้ทำอย่างนั้น 4 ถ้ามีคนมารายงานเรื่องนี้ให้ท่านฟัง ท่านต้องสืบดูให้แน่นอน เมื่อพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง ที่มีคนทำเรื่องชั่วร้ายอย่างนี้ในอิสราเอล 5 ท่านต้องเอาตัวชายหรือหญิงคนนั้น ที่ทำเรื่องชั่วร้ายนี้มาที่ประตูเมือง ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ต้องเอาหินขว้างให้ตาย 6 แต่จะต้องมีพยานสองหรือสามคนขึ้นไปถึงจะฆ่าคนๆนั้นได้ แต่ถ้ามีพยานแค่คนเดียวก็ห้ามฆ่าเขา 7 พยานพวกนั้นจะเป็นพวกแรกที่เอาหินขว้างเพื่อฆ่าเขา และตามด้วยประชาชนทั้งหมด ด้วยวิธีนี้ ท่านจะกำจัดความชั่วร้ายไปจากท่ามกลางพวกท่าน
การตัดสินคดียากๆในศาล
8 ถ้ามีเรื่องที่ยากเกินกว่าที่ท่านจะตัดสินได้ เช่น การตายนั้นเกิดจากความตั้งใจหรือเป็นอุบัติเหตุ เป็นการฆาตกรรมหรือไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน หรือเป็นเรื่องฟ้องร้องว่าใครเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หรือเรื่องการทำร้ายร่างกายกัน เรื่องทะเลาะกัน ที่เกิดขึ้นในเมืองต่างๆของท่าน ท่านต้องไปในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้ 9 ท่านต้องไปหานักบวชที่เป็นชาวเลวีและไปหาผู้ตัดสินที่เข้าเวรอยู่ในตอนนั้น บอกปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วพวกเขาจะตัดสินปัญหานั้นให้ 10 ท่านต้องทำตามสิ่งที่เขาบอกท่าน จากสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้ และท่านต้องทำตามคำสั่งของพวกเขาอย่างระมัดระวัง 11 ท่านต้องทำตามคำแนะนำที่พวกเขาให้กับท่านและยอมรับคำตัดสินที่พวกเขาบอกท่าน ท่านต้องไม่โยกโย้คำตัดสินที่พวกเขาได้ประกาศให้กับท่านไปทางซ้ายหรือทางขวา
12 คนที่เย่อหยิ่งจองหองไม่ยอมเชื่อฟังนักบวชที่ยืนอยู่ที่นั่น ที่คอยรับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน หรือไม่ยอมฟังผู้ตัดสิน คนๆนั้นจะต้องตาย ทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากอิสราเอลได้ 13 และทุกคนจะได้ยินเรื่องนั้น แล้วจะได้ไม่กล้าเย่อหยิ่งจองหองอีกต่อไป
วิธีเลือกกษัตริย์
14 เมื่อท่านเข้าสู่แผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะให้ท่านและยึดมันเป็นเจ้าของแล้ว และได้ตั้งรกรากแล้ว และท่านได้พูดว่า ‘ให้เราตั้งกษัตริย์ปกครองเราเหมือนชนชาติอื่นๆที่อยู่รอบๆเรากันเถอะ’ 15 ท่านต้องแน่ใจว่ากษัตริย์ที่ท่านจะตั้งเหนือท่านนั้นเป็นคนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเลือก กษัตริย์องค์นั้นจะต้องมาจากพี่น้องร่วมชาติของท่านเท่านั้น ห้ามไม่ให้ตั้งคนต่างชาติที่ไม่ใช่พี่น้องร่วมชาติของท่านขึ้นมาเหนือท่าน 16 แต่กษัตริย์องค์นั้นจะต้องไม่สะสมม้ามากมายสำหรับตัวเอง และเขาจะต้องไม่ส่งคนกลับไปซื้อม้า[e]ที่อียิปต์มาเพิ่ม เพราะพระยาห์เวห์พูดกับพวกท่านไว้ว่า ‘พวกท่านจะต้องไม่หวนกลับไปทางนั้นอีก’ 17 เขาต้องไม่มีเมียหลายคน ไม่อย่างนั้นเขาจะหันเหไปจากพระยาห์เวห์ และเขาจะต้องไม่ทำให้ตนเองร่ำรวยด้วยเงินทอง
18 เมื่อเขาขึ้นนั่งบัลลังก์ เขาต้องลอกคำสอนนี้ไว้สำหรับตัวเอง เขียนลงบนม้วนกระดาษจากต้นฉบับคำสอนที่พวกนักบวชชาวเลวีเก็บรักษาไว้ 19 กษัตริย์ต้องเก็บหนังสือเล่มนั้นไว้กับตัวเขา และเขาต้องอ่านมันตลอดชีวิต เพื่อเขาจะได้เรียนรู้ที่จะเคารพยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และจะได้ทำตามทุกๆคำพูดที่เขียนไว้ในกฎ และข้อบังคับพวกนี้อย่างระมัดระวัง 20 เพื่อเขาจะได้ไม่คิดว่าตัวเขาดีกว่าพี่น้องร่วมชาติของเขา และเพื่อที่เขาจะได้ไม่หันเหจากคำสั่งนั้นไปทางใดทางหนึ่ง เพื่อกษัตริย์องค์นั้นและลูกหลานของเขาจะได้ปกครองเหนืออาณาจักรอิสราเอลไปนานๆ
เฮโรดสับสนเรื่องพระเยซู
(มธ. 14:1-12; มก. 6:14-29)
7 เมื่อเฮโรด ผู้ปกครองแคว้นกาลิลี ได้ยินเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ ก็มึนงงสงสัย เพราะมีคนบอกเขาว่าพระเยซู “เป็นยอห์นที่ฟื้นขึ้นจากความตาย” 8 บางคนก็บอกว่า “เป็นเอลียาห์ที่มาปรากฏให้เห็น” แล้วบางคนก็บอกว่าเป็น “ผู้พูดแทนพระเจ้าคนหนึ่งจากสมัยก่อนที่ฟื้นขึ้นมาใหม่” 9 แต่เฮโรดพูดว่า “เราตัดหัวยอห์นไปแล้ว แล้วคนนี้ที่เราได้ยินคนพูดถึง เป็นใครกันแน่” พระองค์ก็เลยอยากจะเจอพระเยซู
พระเยซูเลี้ยงคนห้าพันคน
(มธ. 14:13-21; มก. 6:30-44; ยน. 6:1-14)
10 เมื่อพวกศิษย์เอกกลับมา ก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่พวกเขาได้ทำและสอน ให้กับพระเยซูฟัง แล้วพระองค์จึงพาพวกเขาปลีกตัวออกไปที่เมืองเบธไซดา 11 เมื่อพวกชาวบ้านรู้เข้า ก็ตามพระองค์ไป พระองค์ก็ต้อนรับพวกเขา พร้อมกับเล่าเรื่องอาณาจักรของพระเจ้าให้ฟัง และยังได้รักษาคนที่เจ็บไข้ได้ป่วยด้วย
12 พอตกเย็น ศิษย์เอกทั้งสิบสองคนพากันมาหาพระเยซู พูดว่า “ส่งชาวบ้านพวกนี้กลับไปเถอะ พวกเขาจะได้ไปหาอาหารกินและหาที่พักตามหมู่บ้านหรือไร่นาใกล้ๆนี้ในคืนนี้ เพราะที่นี่เปลี่ยวมาก”
13 แต่พระเยซูกลับบอกว่า “พวกคุณหาอะไรมาเลี้ยงพวกเขาสิ”
พวกศิษย์ตอบว่า “พวกเรามีแค่ขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวเท่านั้น ถ้าจะให้มีอาหารพอก็ต้องไปซื้อมาเลี้ยงพวกเขาทุกคน” 14 ขณะนั้นมีผู้ชายอยู่ประมาณห้าพันคน แล้วพระเยซูก็พูดกับพวกศิษย์ว่า “ถ้างั้นไปบอกให้พวกเขานั่งกันเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละประมาณห้าสิบคน”
15 พวกเขาก็ไปทำตาม ทุกคนนั่งลงเป็นกลุ่มๆ 16 พระเยซูหยิบขนมปังห้าก้อน และปลาสองตัวขึ้นมา พร้อมแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ขอบคุณพระเจ้าสำหรับอาหาร แล้วหักขนมปังส่งให้กับพวกศิษย์ เพื่อเอาไปแบ่งให้กับทุกคน 17 พวกชาวบ้านต่างกินกันจนอิ่ม และพวกศิษย์ก็เก็บเศษอาหารที่เหลือกินได้อีกสิบสองเข่งเต็มๆ
พระเยซูคือกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
(มธ. 16:13-19; มก. 8:27-29)
18 เมื่อพระเยซูอธิษฐานอยู่คนเดียว พวกศิษย์ก็พากันมาหาพระองค์ พระองค์จึงถามว่า “ชาวบ้านพูดว่าเราเป็นใคร”
19 พวกเขาตอบว่า “บางคนว่าเป็นยอห์นคนทำพิธีจุ่มน้ำ บางคนก็ว่าเป็นเอลียาห์ แต่บางคนว่าเป็นผู้พูดแทนพระเจ้าคนหนึ่งในสมัยก่อนที่ฟื้นขึ้นมาใหม่”
20 พระองค์จึงถามพวกเขาว่า “แล้วพวกคุณล่ะว่าเราเป็นใคร”
เปโตรตอบว่า “เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า”
21 พระเยซูเตือนพวกเขาว่าอย่าบอกให้ใครรู้
พระเยซูบอกว่าพระองค์จะต้องตาย
(มธ. 16:21-28; มก. 8:31-9:1)
22 พระองค์พูดว่า “บุตรมนุษย์จะต้องทนทุกข์ทรมานหลายอย่าง พวกผู้นำชาวยิว พวกหัวหน้านักบวชและพวกครูสอนกฎปฏิบัติก็จะไม่ยอมรับพระองค์ และพระองค์จะต้องถูกฆ่า แต่พระองค์จะฟื้นขึ้นมาใหม่ในวันที่สาม”
23 แล้วพระองค์ก็พูดกับทุกคนว่า “ถ้าใครอยากจะติดตามเรา ต้องเลิกตามใจตัวเอง แล้วแบกไม้กางเขนของตัวเองตามเราทุกๆวัน 24 คนที่อยากจะเอาตัวรอดจะไม่รอด แต่คนที่ยอมสละตัวเองเพื่อเราจะรอด 25 มันจะได้กำไรตรงไหน ถ้าได้โลกทั้งใบ แต่เสียตัวตนหรือถูกทำลายไป 26 คนไหนที่อับอายที่จะยอมรับเราและถ้อยคำของเรา บุตรมนุษย์ก็จะอับอายที่จะรับคนนั้นด้วยเหมือนกันในวันที่บุตรมนุษย์เสด็จมาพร้อมกับสง่าราศีของพระองค์ สง่าราศีของพระบิดา และของพวกทูตสวรรค์ที่ศักดิ์สิทธิ์ 27 แต่เราจะบอกให้รู้ว่า มีบางคนที่ยืนอยู่ที่นี่จะยังไม่ตายจนกว่าจะได้เห็นอาณาจักรของพระเจ้าเสียก่อน”
คำอธิษฐานให้พระเจ้าอวยพรกษัตริย์
เพลงสำหรับซาโลมอน
1 ข้าแต่พระเจ้า ช่วยกษัตริย์ตัดสินอย่างยุติธรรม เหมือนที่พระองค์ทำ
ช่วยลูกชายของกษัตริย์ให้เป็นคนดีและเที่ยงธรรมเหมือนกับพระองค์ด้วยเถิด
2 ขอให้กษัตริย์ปกครองคนของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา
และปกครองคนยากจนของพระองค์อย่างยุติธรรม
3 แล้วภูเขาต่างๆจะนำความเจริญรุ่งเรืองมาให้กับคนของพระเจ้า
และเนินเขาต่างๆก็จะให้ผลดีที่มาจากการทำตามใจพระเจ้า
4 ขอให้กษัตริย์ตัดสินคนยากจนอย่างยุติธรรมและช่วยเหลือผู้ขัดสน
แต่ขอให้กษัตริย์ลงโทษคนเหล่านั้นที่กดขี่พวกเขา
5 ขอให้ผู้คนยำเกรงและนับถือพระองค์[a] ตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
ตราบเท่าที่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ยังมีอยู่
6 ขอให้กษัตริย์เป็นเหมือนฝนที่ตกลงมาบนทุ่งหญ้าที่ตัดจนโล่งเตียนแล้ว
ขอให้เขาเป็นเหมือนห่าฝนที่ตกลงมาทำให้พื้นดินชุ่มโชก
7 ขอให้คนดีเบ่งบานขึ้น ในช่วงที่เขาปกครองนั้น
และขอให้มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างเหลือล้นตราบเท่าที่ดวงจันทร์ยังมีอยู่
8 ขอให้เขาปกครองจากทะเลหนึ่งไปถึงอีกทะเลหนึ่ง
จากแม่น้ำยูเฟรติสไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลก
9 ขอให้คนเหล่านั้นที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งก้มกราบลงต่อหน้าเขา
ขอให้พวกศัตรูของเขาเลียฝุ่นแทบเท้าของเขา
10 ขอให้พวกกษัตริย์แห่งทารชิช และหมู่เกาะที่อยู่ห่างไกลนำเครื่องบรรณาการมาให้กับเขา
ขอให้กษัตริย์แห่งเมืองเชบา[b] และเสบา[c] นำเครื่องบรรณาการมาให้ด้วย
11 ขอให้กษัตริย์ทั้งปวงก้มกราบเขา
และขอให้ชนชาติทั้งปวงมารับใช้เขา
12 เพราะว่าเขาช่วยกู้ผู้ขัดสนที่ร้องขอความช่วยเหลือ
และคนยากจนที่ไม่มีใครช่วย
13 กษัตริย์องค์นี้ให้ความเมตตากับคนอ่อนแอ
และขัดสน และช่วยชีวิตของผู้ที่ขัดสน
14 เขาจะไถ่ชีวิตของคนพวกนั้นจากการกดขี่ข่มเหงและความโหดเหี้ยม
เพราะชีวิตของคนเหล่านั้นมีค่ามากในสายตาเขา
15 ขอให้กษัตริย์มีอายุยิ่งยืนนานและได้รับทองคำที่มีค่าสูงสุดจากเชบา
ขอให้ประชาชนอธิษฐานเผื่อเขาเป็นประจำและอวยพรให้กับเขาวันยังค่ำ
16 ขอให้มีต้นข้าวขึ้นอุดมและชูรวงไหวพลิ้วไปมาแม้บนยอดเขา
ขอให้ผลไม้งอกงามดุจดังป่าแห่งเลบานอน
ขอให้ผู้คนบานสะพรั่งเต็มเมืองเหมือนกับหญ้าในท้องทุ่ง
17 ขอให้ชื่อเสียงของกษัตริย์คงอยู่ตลอดไป
และขอให้ชื่อเสียงของเขาคงอยู่ต่อไปตราบเท่าที่ดวงอาทิตย์ยังมีอยู่
ขอให้ชนชาติต่างๆใช้ชื่อของเขาอวยพรให้แก่กันและกัน
และขอให้ผู้คนถือว่าเขามีเกียรติจริงๆ
18 ขอให้พระยาห์เวห์ พระเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้รับคำสรรเสริญ
มีแต่พระองค์เท่านั้นที่ทำสิ่งที่น่าทึ่งต่างๆได้
19 ขอสรรเสริญชื่ออันยิ่งใหญ่ของพระองค์ตลอดกาล
ขอให้ทั้งโลกเต็มไปด้วยรัศมีของพระองค์
อาเมน อาเมน
20 คำอธิษฐานต่างๆของดาวิดบุตรชายของเจสซี ก็จบลงเพียงเท่านี้
8 คนที่รู้จักคิดจะได้รับการยกย่อง
แต่คนที่มีจิตใจสับสนวุ่นวายก็ย่อมเป็นที่ดูถูก
9 เป็นชาวบ้านธรรมดาๆแต่มีทาสรับใช้หนึ่งคน
ก็ดีกว่าเสแสร้งเป็นคนมีหน้ามีตาแต่ไม่มีข้าวกิน
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International