The Daily Audio Bible
Today's audio is from the NRSVUE. Switch to the NRSVUE to read along with the audio.
อย่านมัสการพระอื่น
13 ถ้าผู้พูดแทนพระเจ้าหรือผู้ทำนายฝัน มาหาท่านและเสนอว่าจะทำเหตุการณ์พิเศษต่างๆและสิ่งมหัศจรรย์ให้กับท่าน 2 และเหตุการณ์พิเศษต่างๆและสิ่งมหัศจรรย์ที่เขาสัญญากับท่านนั้นเกิดขึ้นจริง และเขาพูดว่า ‘ให้พวกเราไปติดตามพวกพระอื่นๆที่พวกท่านไม่รู้จักและไปบูชาพระพวกนั้นกันเถอะ’ 3 ท่านต้องไม่เชื่อคำพูดของผู้พูดแทนพระเจ้านั้น หรือคนที่ทำนายฝันนั้น เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านกำลังทดสอบท่านอยู่ เพื่อจะได้รู้ว่าพวกท่านรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดใจสุดจิตของพวกท่านหรือเปล่า 4 พวกท่านต้องติดตามพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและเกรงกลัวพระองค์ พวกท่านต้องรักษาบัญญัติต่างๆของพระองค์ไว้และเชื่อฟังพระองค์ รับใช้พระองค์และผูกพันอยู่กับพระองค์ 5 ผู้พูดแทนพระเจ้าหรือผู้ทำนายฝันนั้นต้องถูกฆ่า เพราะเขาได้บอกให้พวกท่านขัดขืนพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน ที่ได้นำพวกท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์และได้ไถ่ให้ท่านเป็นอิสระจากการเป็นทาส คนๆนั้นพยายามจะทำให้ท่านหันเหไปจากทางที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสั่งให้ท่านเดิน ท่านต้องกำจัดเอาความชั่วร้ายออกไปจากท่ามกลางพวกท่านด้วยการฆ่าคนๆนั้นซะ
6 ถ้าพี่น้องของท่าน จะเป็นลูกที่ติดพ่อมาหรือลูกที่ติดแม่มาก็ตาม หรือลูกชายลูกสาวของท่าน หรือเมียรักของท่าน หรือเพื่อนสนิทที่สุดของท่าน ได้แอบมาชักนำท่าน โดยพูดว่า ‘ให้พวกเราไปบูชาพวกพระอื่นๆกันเถอะ’ พระที่ท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน 7 เป็นพระของคนที่อยู่รอบข้างพวกท่าน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล จากสุดปลายด้านนี้ไปถึงอีกด้านหนึ่ง 8 ท่านต้องไม่เห็นด้วยกับคนๆนั้น อย่าไปฟังเขา อย่าไปสงสารเขา อย่าปล่อยเขาไป และอย่าไปปกป้องเขา 9 เพราะท่านต้องฆ่าคนๆนั้น ท่านต้องเป็นคนแรกที่ลงมือฆ่าเขา และหลังจากนั้นทุกคนต้องมาช่วยกันฆ่าคนๆนั้น 10 ท่านต้องเอาหินขว้างเขาให้ตาย เพราะเขาพยายามทำให้ท่านหันเหไปจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ผู้ที่นำท่านออกจากการเป็นทาสในแผ่นดินอียิปต์ 11 แล้วคนอิสราเอลจะได้ยินและจะได้กลัว พวกเขาจะได้ไม่ทำสิ่งชั่วร้ายอย่างนั้นในท่ามกลางท่านอีก
12 เมื่อท่านได้ยินคนพูดเกี่ยวกับเมืองใดเมืองหนึ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะให้ท่านเข้าไปอยู่นั้นว่า 13 มีพวกคนชั่วออกไปจากพวกท่านและไปชักนำชาวเมืองของเมืองนั้นให้หันเหไปจากพระเจ้า พวกนี้พูดว่า ‘พวกเราไปนมัสการพระอื่น ที่พวกท่านไม่รู้จักกันเถอะ’ 14 ท่านต้องตรวจสอบถามไถ่เรื่องราวนั้นอย่างละเอียด และถ้ามันเป็นเรื่องจริงว่า มีสิ่งที่พระเจ้าเกลียดชังอย่างนี้เกิดขึ้นท่ามกลางท่าน 15 ท่านต้องฆ่าคนที่อยู่ในเมืองนั้นด้วยดาบ ทำลายเมืองนั้นและทุกสิ่งทุกอย่างในนั้นให้สิ้นซาก และให้ฆ่าสัตว์ทุกตัวทิ้งด้วยดาบ 16 เก็บรวบรวมทรัพย์สินที่มีค่าทั้งหมดของเมืองนั้นมากองไว้กลางเมือง และเอาไฟเผาเมืองนั้นและทรัพย์สินอันมีค่าทั้งหมดของเมืองนั้นทิ้ง ให้เป็นเครื่องเผาบูชาแก่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เมืองนั้นจะกลายเป็นซากของกองหินตลอดไป และอย่าสร้างเมืองนั้นขึ้นมาใหม่อีก 17 อย่าได้เก็บอะไรไว้เลย จากสิ่งที่จะเอาไปทำลายเป็นของถวายให้กับพระเจ้า เพื่อพระยาห์เวห์จะได้ไม่โกรธอีกต่อไป และพระองค์จะได้เมตตากรุณาท่าน และทำให้ชนชาติของท่านขยายใหญ่ขึ้น เหมือนที่พระเจ้าได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน 18 พระยาห์เวห์จะทำอย่างนี้ ถ้าท่านเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และรักษาบัญญัติทุกข้อของพระองค์ที่เรากำลังให้กับท่านในวันนี้ และทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเห็นว่าถูกต้อง
อิสราเอล ประชาชนพิเศษของพระเจ้า
14 พวกท่านเป็นลูกๆของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เมื่อมีใครตาย พวกท่านต้องไม่เชือดเนื้อตัวเองหรือโกนผมบนหน้าผากเพื่อแสดงความเศร้าโศก 2 เพราะท่านคือประชาชนที่ถูกแยกออกมาเพื่อเป็นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และพระยาห์เวห์ได้เลือกท่านออกมาจากประชาชนทั้งหมดในโลกเพื่อมาเป็นของรักของหวงที่มีค่าของพระองค์
อาหารที่ชาวอิสราเอลกินได้
3 ท่านต้องไม่กินของที่พระยาห์เวห์ขยะแขยง 4 ท่านกินสัตว์พวกนี้ได้ คือ พวกวัว แกะ แพะ 5 กวาง เนื้อทราย กวางลายจุดตัวเมีย แพะป่า แกะป่า ละมั่ง และแกะภูเขา 6 พวกท่านกินสัตว์อะไรก็ได้ที่มีเท้าเป็นกีบแยกเป็นสองส่วนและเคี้ยวเอื้อง[a] 7 แต่สัตว์ที่มีแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง คือเคี้ยวเอื้องหรือมีกีบแยก ท่านห้ามกิน เช่นพวกอูฐ กระต่ายป่า ตัวไฮแรกซ์[b] พวกมันเคี้ยวเอื้องก็จริง แต่กีบที่เท้าไม่แยกจากกัน พวกมันไม่บริสุทธิ์[c] สำหรับพวกท่าน 8 พวกท่านต้องไม่กินหมู หมูมีเท้าเป็นกีบแยกออกก็จริง แต่มันไม่เคี้ยวเอื้อง พวกมันไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกท่าน พวกท่านต้องไม่กินเนื้อหรือแตะต้องซากของมัน
9 สัตว์น้ำทุกชนิดที่มีครีบและเกล็ด พวกท่านสามารถกินได้ 10 แต่อย่ากินสัตว์น้ำที่ไม่มีครีบและเกล็ด มันไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกท่าน
11 พวกท่านกินนกอะไรก็ได้ที่บริสุทธิ์ 12 แต่พวกท่านห้ามกินนกต่อไปนี้คือ นกอินทรี แร้งดำ แร้งหนวด 13 เหยี่ยวขนาดเล็กและเหยี่ยวทุกชนิด 14 กาทุกชนิด 15 นกฮูก นกฮูกหูสั้น นกฮูกหูยาวและเหยี่ยวนกเขาทุกชนิด 16 นกฮูกเล็ก นกแสก นกฮูกขาว 17 นกฮูกทะเลทราย แร้งอียิปต์ นกกาน้ำ 18 นกกระสาและนกกระสาทุกชนิด นกหัวขวานและค้างคาว
19 พวกท่านต้องไม่กินแมลงที่มีปีกทุกชนิด เพราะมันไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกท่าน 20 นกที่บริสุทธิ์ทุกชนิด พวกท่านกินได้
21 พวกท่านต้องไม่กินสัตว์ที่ตายตามธรรมชาติ แต่ท่านเอาไปให้กับชาวต่างชาติที่อยู่ในเมืองของท่านกินได้ หรืออาจจะขายให้กับชาวต่างชาติที่มาเยี่ยมเยียนท่านได้ แต่ท่านห้ามกินเพราะท่านเป็นคนที่ถูกแยกออกมาเพื่อเป็นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องไม่ต้มลูกแพะในน้ำนมของแม่มันเอง
ให้หนึ่งในสิบส่วน
22 ในทุกๆปี ท่านต้องแบ่งพืชผลที่ปลูกได้จากในทุ่งนาของท่านออกมาหนึ่งในสิบส่วน 23 ท่านต้องกินพืชผลหนึ่งในสิบที่แบ่งออกมานั้น กับเหล้าองุ่นใหม่ น้ำมันของท่านและสัตว์ที่เกิดเป็นตัวแรกในฝูงวัวและฝูงแพะแกะของท่าน ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในสถานที่นั้นที่พระองค์จะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ อย่างนี้ท่านจะได้เรียนรู้ที่จะเกรงกลัวพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอยู่เสมอ 24 แต่ถ้ามันไกลจนทำให้ท่านไม่สามารถขนพืชผลหนึ่งในสิบส่วนของพืชผลทั้งหมดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอวยพรให้นั้น เพราะสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ไกลจากท่านเกินไป 25 ท่านก็เอามันไปแลกเป็นเงินได้ แล้วเอาเงินนั้นติดตัวท่านไปยังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้ 26 แล้วเอาเงินนั้นไปซื้ออะไรก็ได้ เช่น วัว แกะ เหล้าองุ่น เบียร์หรืออะไรก็ได้ที่ท่านอยากได้ แล้วท่านและครอบครัวของท่านก็จะได้กินและสนุกสนานกันที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน 27 อย่าลืมชาวเลวีที่อยู่ในเมืองของท่าน เพราะพวกเขาไม่มีที่ดินเป็นของตัวเองเหมือนกับท่าน
28 เมื่อครบทุกๆสามปี ท่านต้องเอาหนึ่งในสิบส่วนของผลผลิตทั้งหมดที่ท่านเก็บเกี่ยวได้จากไร่นาของท่านในปีนั้น แล้วเอามาเก็บไว้ในเมือง 29 ชาวเลวีไม่มีที่ดินของตัวเองเหมือนกับท่าน ทั้งชาวเลวี ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้ายที่อยู่ในเมืองของท่าน จะได้มากินกันจนพอใจ เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะได้อวยพรท่านในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ
ปีแห่งการยกหนี้
15 เมื่อครบทุกๆเจ็ดปี ท่านต้องยกหนี้ต่างๆให้กับลูกหนี้ของท่าน 2 ท่านต้องทำตามวิธีนี้คือ เจ้าหนี้ทุกคนต้องยกหนี้ให้กับเพื่อนบ้านที่เขาให้กู้ยืมไป เขาจะต้องไม่ทวงหนี้คืนจากเพื่อนบ้านหรือญาติของเขา เพราะพระยาห์เวห์บอกให้ยกเลิกหนี้ในปีนั้น 3 ท่านสามารถทวงหนี้คืนจากชาวต่างชาติได้ แต่ท่านต้องยกหนี้ทั้งหมดให้กับพี่น้องของท่าน 4 ไม่ควรจะมีคนจนในหมู่พวกท่านเลย เพราะพระยาห์เวห์จะอวยพรท่านอย่างแน่นอนในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน 5 เพียงแต่ท่านจะต้องเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน โดยทำตามคำสั่งทุกๆข้อที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ อย่างระมัดระวัง 6 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอวยพรท่านตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ท่านก็จะมีเงินเหลือเฟือให้หลายๆชนชาติกู้ยืม โดยที่ท่านไม่ต้องไปกู้ยืมจากใคร และท่านจะได้ปกครองเหนือหลายๆชนชาติ แต่จะไม่มีใครมาปกครองเหนือท่าน
7 เมื่อท่านเข้าไปอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่านแล้ว ถ้าเกิดมีพี่น้องคนหนึ่งคนใดในเมืองหนึ่งของท่านยากจนขึ้นมา ท่านต้องไม่เห็นแก่ตัว ต้องไม่ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือพี่น้องที่ยากจนคนนั้น 8 ท่านต้องใจกว้างกับเขาและให้เขายืมตามที่เขาจำเป็นต้องใช้
9 ระวังให้ดีอย่าให้ความคิดชั่วร้ายเข้ามาในจิตใจของท่านที่ว่า ‘มันใกล้จะถึงปีที่เจ็ด ซึ่งเป็นปีแห่งการยกหนี้แล้ว’ ท่านก็เลยมองพี่น้องที่ยากจนคนนั้นอย่างไม่เป็นมิตร เพื่อท่านจะได้ไม่ต้องช่วยอะไรเขาเลย และเขาจะไปบ่นว่าท่านต่อพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์จะตัดสินว่าท่านผิด
10 ท่านต้องช่วยเขาเท่าที่จะช่วยได้ และเวลาที่ช่วย ท่านต้องไม่มีจิตใจที่ชั่วร้ายด้วย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะอวยพรการงานทั้งหมดของท่านและทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ 11 เพราะจะมีคนจนอยู่เสมอในดินแดนแห่งนี้ ดังนั้นเราขอสั่งท่านว่า ท่านต้องใจกว้างกับพี่น้องของท่าน และกับคนยากจนและคนที่ขัดสนในแผ่นดินของท่าน
ปล่อยทาสให้เป็นอิสระ
(อพย. 21:2-11)
12 ถ้าพี่น้องชาวฮีบรูคนใด ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ได้ขายตัวเองให้กับท่าน คนๆนั้นจะต้องรับใช้ท่านหกปี และในปีที่เจ็ดท่านต้องปล่อยคนๆนั้นให้เป็นอิสระ 13 ตอนที่ท่านปล่อยเขาให้เป็นอิสระนั้น ท่านต้องไม่ปล่อยให้เขาไปมือเปล่าๆ 14 ท่านต้องใจกว้าง ให้ แกะ ข้าว และเหล้าองุ่นของท่านกับเขาไปด้วย ท่านต้องให้เขาตามขนาดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอวยพรให้ท่าน 15 จำเอาไว้ว่า ท่านก็เคยเป็นทาสอยู่ในแผ่นดินอียิปต์มาก่อนเหมือนกัน และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ปลดปล่อยให้ท่านเป็นอิสระ นี่เป็นเหตุที่เราถึงได้ให้คำสั่งนี้กับท่านในวันนี้
16 ถ้าทาสพูดกับท่านว่า ‘ผมจะไม่ไปจากท่าน’ เพราะเขารักท่านและครอบครัวของท่าน เพราะเขารู้สึกดีที่ได้อยู่กับท่าน 17 ท่านต้องเอาเหล็กหมาด[d] มาอันหนึ่ง และเอาหูเขาแนบกับประตูแล้วเจาะติ่งหูของทาสนั้น แล้วเขาจะเป็นทาสของท่านตลอดไป สำหรับทาสหญิงก็ให้ทำอย่างเดียวกัน
18 ไม่ต้องเสียดายที่จะปล่อยทาสของท่านให้เป็นอิสระ เพราะหกปีที่เขารับใช้ท่านก็คุ้มค่าแล้ว พอๆกับที่ท่านไปจ้างคนงานหนึ่งคน และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะอวยพรท่านในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ
กฎเกี่ยวกับสัตว์ที่เกิดเป็นตัวแรก
(ลนต. 27:26, 27; กดว. 18:15-18)
19 ลูกสัตว์หัวปีเพศผู้ทุกตัวที่เกิดมาในฝูงวัว ฝูงแพะและแกะของท่าน ต้องแยกออกมาไว้ให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องไม่ใช้งานวัวผู้ที่เป็นลูกหัวปี และท่านต้องไม่ตัดขนของแกะหัวปี 20 ทุกๆปี ท่านต้องเอาสัตว์หัวปีพวกนี้ ไปในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ แล้วท่านและครอบครัวของท่านจะกินมันที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
21 แต่ถ้ามันเป็นสัตว์ที่มีตำหนิ ถ้าเป็นง่อยหรือตาบอดหรือติดโรคร้าย ท่านต้องไม่ถวายมันให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน 22 ท่านเอาไปกินกันในเมืองของท่าน ใครๆก็กินได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรม เหมือนกับกินเนื้อทรายหรือกวาง 23 แต่ท่านต้องไม่กินเลือดของมัน ท่านต้องเทเลือดของมันลงบนพื้นเหมือนเทน้ำ
พระเยซูทำให้เด็กผู้หญิงฟื้นและรักษาผู้หญิงที่ตกเลือด
(มธ. 9:18-26; มก. 5:21-43)
40 เมื่อพระเยซูกลับมาถึงกาลิลี มีชาวบ้านมาคอยต้อนรับพระองค์อยู่ที่นั่น 41 ชายคนหนึ่งชื่อไยรัส เป็นหัวหน้าของที่ประชุมชาวยิว เขาได้มาก้มกราบแทบเท้าพระเยซู อ้อนวอนพระองค์ให้ไปบ้านของเขา 42 เพราะลูกสาวคนเดียวของเขา ที่มีอายุเพียงสิบสองปีกำลังจะตาย ในระหว่างทางที่พระเยซูไปนั้น ก็มีชาวบ้านเบียดเสียดพระองค์รอบด้าน 43 ในกลุ่มคนนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทนทุกข์ทรมานมากเพราะตกเลือดมาสิบสองปีแล้ว นางเสียเงินเสียทองไปกับการรักษาจนหมดเนื้อหมดตัว แต่ก็ยังไม่หาย 44 นางจึงเข้ามาทางข้างหลังพระองค์ และแตะพู่ที่ชายเสื้อคลุมพระองค์ เลือดที่ไหลอยู่ก็หยุดทันที 45 พระเยซูถามขึ้นว่า “ใครแตะตัวเรา” พวกเขาต่างปฏิเสธ เปโตรพูดว่า “อาจารย์ครับ มีคนเบียดเสียดพระองค์แน่นไปหมด”
46 แต่พระองค์ก็พูดว่า “มีคนแตะตัวเราแน่ เพราะเรารู้สึกว่ามีพลังแผ่ซ่านออกจากตัว” 47 เมื่อหญิงคนนั้นเห็นว่า นางหลบไม่พ้นแล้ว ก็ออกมาก้มกราบลงต่อหน้าพระเยซู ด้วยความกลัวจนตัวสั่นต่อหน้าคนทั้งหลาย นางอธิบายว่า ทำไมนางถึงไปแตะต้องตัวพระองค์ ซึ่งทำให้นางหายจากโรคทันที 48 แล้วพระเยซูก็พูดกับหญิงคนนั้นว่า “ลูกเอ๋ย ความเชื่อของคุณ ได้ทำให้คุณหายแล้ว ไปเป็นสุขเถิด”
49 ขณะที่พระองค์ยังพูดอยู่นั้นมีคนจากบ้านของไยรัสมาบอกเขาว่า “ลูกสาวของท่านตายแล้ว ไม่ต้องรบกวนอาจารย์อีกต่อไปแล้ว”
50 แต่พระเยซูได้ยินเรื่องนี้ ก็เลยพูดกับไยรัสว่า “ไม่ต้องกลัว ขอให้เชื่อเท่านั้น แล้วลูกสาวของคุณจะหาย”
51 เมื่อพระเยซูไปถึงบ้านไยรัส พระองค์ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปกับพระองค์เลย นอกจากเปโตร ยอห์น ยากอบ และพ่อแม่ของเด็กเท่านั้น 52 คนทั้งหลายต่างพากันร้องไห้คร่ำครวญให้กับเด็กสาว พระเยซูพูดว่า “หยุดร้องไห้ได้แล้ว เด็กคนนี้ยังไม่ตาย แค่นอนหลับเท่านั้น”
53 พวกเขาหัวเราะเยาะพระองค์ เพราะรู้ว่าเด็กคนนั้นตายแล้วจริงๆ 54 ฝ่ายพระเยซูก็จับมือเด็กและเรียกเธอว่า “หนูน้อยจ๋า ลุกขึ้นเถิด” 55 แล้ววิญญาณของเธอก็กลับเข้าสู่ร่างอีกครั้ง และเธอก็ลุกขึ้นมาทันที พระเยซูจึงบอกพวกเขาให้เอาอาหารมาให้เธอกิน 56 พ่อแม่ของเธอต่างก็ประหลาดใจมาก แต่พระองค์สั่งห้ามไม่ให้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง
พระเยซูส่งศิษย์เอกสิบสองคนออกไป
(มธ. 10:5-15; มก. 6:7-13)
9 พระเยซูเรียกศิษย์เอกทั้งสิบสองคนมา แล้วพระองค์ก็ให้พวกเขามีฤทธิ์และสิทธิอำนาจเหนือผีชั่วทั้งหมด และรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ 2 แล้วพระองค์ก็ส่งพวกเขาออกไปประกาศเรื่องอาณาจักรของพระเจ้า และให้รักษาคนเจ็บป่วย 3 พระองค์สั่งว่า “ไม่ต้องเอาอะไรติดตัวไปเลย ไม่ว่าจะเป็นไม้เท้า ถุงย่าม อาหาร เงินหรือเสื้อผ้าสำรอง 4 เมื่อเข้าไปอยู่ในบ้านหลังไหนแล้ว ก็ให้อยู่ที่นั่นตลอดจนกว่าจะออกจากเมืองนั้นไป 5 ถ้าเมืองไหนไม่ต้อนรับ ก็ให้ออกจากเมืองนั้นไป แล้วสะบัดฝุ่นออกจากเท้า[a] ด้วย เพื่อเป็นการเตือนพวกเขา”
6 พวกเขาก็ได้ไปประกาศข่าวดีนี้ ทั่วทุกหมู่บ้านและรักษาคนเจ็บป่วยด้วย
คนแก่อธิษฐานขอความช่วยเหลือ
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์
ข้าพเจ้าลี้ภัยในพระองค์ อย่าให้ข้าพเจ้าต้องเสียหน้าเลย
2 ขอช่วยข้าพเจ้าและกู้ข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะพระองค์ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
โปรดเอียงหูฟังคำร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า และช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเถิด
3 ขอให้พระองค์เป็นหินกำบัง และที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า
เป็นป้อมปราการที่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด[a]
เพราะพระองค์คือหินผาและป้อมปราการของข้าพเจ้า
4 พระเจ้าของข้าพเจ้า ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากมือคนชั่ว
และพ้นจากเงื้อมมือของคนเลวและคนโหดเหี้ยม
5 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต พระองค์เป็นความหวังของข้าพเจ้า
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าไว้วางใจในพระองค์ตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นเด็ก
6 ข้าพเจ้าพึ่งพาพระองค์ตั้งแต่อยู่ในท้องแล้ว
พระองค์ช่วยดึงข้าพเจ้าออกมาจากท้องแม่
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์อยู่เสมอ
7 มีหลายคนเอาข้าพเจ้าเป็นแบบอย่าง
เพราะพระองค์เป็นที่ลี้ภัยอันมั่นคงของข้าพเจ้า
8 ปากของข้าพเจ้าเต็มไปด้วยคำสรรเสริญต่อพระองค์
ปากข้าพเจ้าพูดถึงความสง่างามยิ่งใหญ่ของพระองค์ตลอดทั้งวัน
9 ตอนนี้ที่ข้าพเจ้าแก่แล้ว ขออย่าได้โยนข้าพเจ้าทิ้งไป
ขออย่าได้ทอดทิ้งข้าพเจ้าเมื่อข้าพเจ้าหมดเรี่ยวแรง
10 พวกศัตรูของข้าพเจ้า
จ้องเอาชีวิตข้าพเจ้า ต่างปรึกษาวางแผนกันทำร้ายข้าพเจ้า
11 พวกเขาพากันพูดว่า “พระเจ้าทอดทิ้งมันแล้ว
ดังนั้นให้พวกเราไล่ล่าและตะครุบมันไว้เพราะไม่มีใครช่วยมันหรอก”
12 ข้าแต่พระเจ้า อย่าได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า
พระเจ้าของข้าพเจ้า รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
13 ขอให้คนเหล่านั้นที่กล่าวหาข้าพเจ้าได้รับความอับอายขายหน้าและพบกับจุดจบ
ขอให้ผู้ที่จ้องจะทำร้ายข้าพเจ้าต้องทนทุกข์กับความอับอายและเสื่อมเกียรติ
14 แต่ข้าพเจ้ายังจะหวังในพระองค์ต่อไป
และจะสรรเสริญพระองค์มากยิ่งขึ้น
15 ปากของข้าพเจ้าจะเล่าถึงความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
ข้าพเจ้าจะเล่าทั้งวันถึงกิจกรรมการช่วยกู้ของพระองค์
ถึงแม้ว่ามันจะมีมากกว่าที่ข้าพเจ้ารู้ก็ตาม
16 พระยาห์เวห์เจ้าข้า ข้าพเจ้าจะมาพูดถึงเรื่องการกระทำอันทรงฤทธิ์ของพระองค์
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์สำหรับความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
จะสรรเสริญแต่พระองค์เพียงผู้เดียว
17 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ฝึกสอนข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นเด็ก
แล้วจนถึงวันนี้ข้าพเจ้ายังคงบอกคนอื่นเกี่ยวกับการกระทำที่น่าทึ่งของพระองค์
18 ข้าแต่พระเจ้า โปรดอย่าทอดทิ้งคนแก่คนนี้ที่ผมหงอกแล้ว
โปรดให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสประกาศเรื่องพลังอำนาจของพระองค์กับคนรุ่นต่อไปด้วยเถิด
และได้เล่าถึงฤทธิ์เดชของพระองค์กับทุกคนที่มาภายหลัง
19 ข้าแต่พระเจ้า ความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์ขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์เบื้องบน
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีใครเล่าเป็นเหมือนพระองค์
20 พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเจอกับความทุกข์ยากและความเดือดร้อนหลายครั้ง
โปรดให้ชีวิตใหม่กับข้าพเจ้าอีกที โปรดดึงข้าพเจ้าขึ้นมาจากที่เหวลึกของโลกอีกครั้ง
21 โปรดให้ข้าพเจ้ามีเกียรติมากกว่าเดิม
โปรดหันกลับมาช่วยปลอบโยนข้าพเจ้าอีกครั้ง
22 พระเจ้าของข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะเล่นพิณสิบสายและ สรรเสริญความซื่อสัตย์ของพระองค์ที่มีต่อเรา
ข้าแต่องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณสี่สาย
23 ริมฝีปากของข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีและร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
เพราะพระองค์ได้ช่วยกู้ข้าพเจ้า
24 ลิ้นของข้าพเจ้าจะเล่าทั้งวันถึงความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
เพราะคนที่จ้องจะทำร้ายข้าพเจ้านั้นต่างได้รับความอับอายและเสื่อมเสียเกียรติ
5 แรงจูงใจของคนที่ทำตามใจพระเจ้าล้วนแต่ถูกต้อง
แต่คำแนะนำของคนชั่วนั้นก็หลอกลวง
6 คำพูดของคนชั่วเป็นเหมือนกับการหมอบซุ่มฆ่าคน
แต่คำพูดของคนสัตย์ซื่อช่วยคนให้รอดพ้น
7 คนชั่วถูกโค่นล้มแล้วหมดสิ้นไป
แต่ครัวเรือนของคนที่ทำตามใจพระเจ้า จะตั้งมั่นคง
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International