Print Page Options Listen to Reading
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the GW. Switch to the GW to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
กันดารวิถี 6-7

พวกนาศีร์

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้บอกกับชาวอิสราเอลว่า ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงคนใดได้สาบานตนเป็นพิเศษ เป็นการสาบานเพื่อจะเป็นพวกนาศีร์[a] คือพวกที่แยกตัวออกมาเพื่อพระยาห์เวห์ คนๆนั้นจะต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่นหรือเครื่องดื่มมึนเมาอื่นๆและเขาต้องไม่กินน้ำส้มสายชูที่ทำจากเหล้าองุ่นหรือน้ำส้มสายชูที่ทำจากเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด รวมทั้งต้องไม่ดื่มน้ำองุ่น และต้องไม่กินทั้งองุ่นสดและองุ่นแห้ง ตลอดเวลาที่เขาเป็นนาศีร์ เขาต้องไม่กินสิ่งใดก็ตามที่ได้จากต้นองุ่นหรือแม้แต่เมล็ดหรือเปลือกขององุ่น

ตลอดช่วงเวลาที่เขาแยกตัวออกมาเพื่อพระยาห์เวห์ เขาต้องไม่โกนผม เขาเป็นของพระยาห์เวห์โดยเฉพาะ เขาต้องไว้ผมยาว ห้ามตัด จนกว่าจะสิ้นสุดช่วงที่เขาเป็นนาศีร์นั้น

ตลอดช่วงเวลาที่เขาแยกตัวออกมาเพื่อพระยาห์เวห์ คนๆนั้นต้องไม่เข้าใกล้ศพ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือพี่น้องชายหญิงของเขา เขาจะต้องไม่แตะต้องศพนั้น เพื่อจะไม่ทำให้ผมของเขาเป็นมลทิน เพราะผมนั้นบ่งบอกให้รู้ว่าเขาได้แยกตัวออกมาให้กับพระเจ้าโดยเฉพาะ ตลอดช่วงเวลาที่คนๆนั้นเป็นนาศีร์ เขาเป็นของพระยาห์เวห์โดยเฉพาะ

แต่ถ้าคนที่อยู่ใกล้ๆกับนาศีร์นั้นตายอย่างกระทันหัน ผมของเขาที่ได้อุทิศให้กับพระเจ้านั้นก็จะไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป หลังจากนั้นอีกเจ็ดวัน เขาจะต้องโกนผมทิ้ง ในวันเดียวกับที่เขาจะต้องชำระตัวนั้น 10 ในวันต่อมา เขาจะต้องเอานกเขาสองตัวหรือนกพิราบหนุ่มสองตัวไปให้นักบวชที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 11 นักบวชจะใช้นกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา โดยวิธีนี้นักบวชจะกำจัดความไม่บริสุทธิ์และความผิดให้กับคนนั้นที่ทำผิดพลาดไปแตะต้องถูกศพ ในวันนั้นนาศีร์คนนั้นต้องอุทิศผมบนหัวของเขาให้กับพระยาห์เวห์ใหม่ 12 เขาจะต้องสาบานที่จะอุทิศตัวเองเพื่อพระยาห์เวห์อีกครั้งหนึ่ง ตลอดเวลาที่เขาเป็นนาศีร์ และเขาจะต้องเอาลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีมาเป็นของถวายชดใช้ ส่วนช่วงก่อนหน้านี้ก็ไม่นับอีกต่อไป เพราะผมบนหัวของเขาที่ได้อุทิศให้พระยาห์เวห์นั้นไม่บริสุทธิ์แล้ว

13 นี่คือกฎสำหรับพวกนาศีร์ เมื่อเขาเป็นนาศีร์ครบตามกำหนดเวลาแล้ว ให้คนนำตัวเขาไปที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 14 นาศีร์คนนั้นจะต้องเอาเครื่องบูชาต่อไปนี้มาถวายให้พระยาห์เวห์

ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิใดๆ เพื่อเป็นเครื่องเผาบูชา

ลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิใดๆ เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง

แกะผู้หนึ่งตัวที่ไม่มีตำหนิใดๆ เป็นเครื่องสังสรรค์บูชา

15 ขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟูหนึ่งตะกร้า ขนมปังที่ทำจากแป้งอย่างดีคลุกด้วยน้ำมัน

ขนมปังแผ่นบางๆที่ไม่ใส่เชื้อฟูและทาด้วยน้ำมัน

และเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชา

16 นักบวชต้องยื่นเครื่องบูชาเหล่านี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ และทำเครื่องบูชาชำระล้าง และเครื่องเผาบูชาให้คนๆนั้น 17 นักบวชต้องบูชาแกะตัวนั้นเป็นเครื่องสังสรรค์บูชาให้พระยาห์เวห์พร้อมๆกับขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูตะกร้านั้น พร้อมกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช และเครื่องดื่มบูชา

18 นาศีร์คนนั้นต้องโกนผมของเขาที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบและเอาผมที่เขาได้อุทิศนั้นใส่ลงในกองไฟที่อยู่ใต้เครื่องสังสรรค์บูชา

19 หลังจากนั้นนักบวชจะเอาเนื้อสันขาหน้าของแกะตัวผู้ที่ต้มแล้ว กับขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูหนึ่งก้อนจากตะกร้าและขนมปังแผ่นบางๆไม่ใส่เชื้อฟูหนึ่งชิ้นมาวางไว้บนฝ่ามือทั้งสองของนาศีร์คนนั้น หลังจากที่เขาโกนผมที่ได้อุทิศนั้นเสร็จแล้ว 20 แล้วนักบวชจะยื่นของพวกนี้ เป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ มันจะเป็นของขวัญที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักบวช พร้อมกับเนื้อส่วนอกของเครื่องยื่นบูชาและส่วนสะโพกของเครื่องบูชาของขวัญ หลังจากนี้ นาศีร์คนนั้นก็ดื่มเหล้าองุ่นได้

21 นี่เป็นกฎสำหรับคนที่สาบานตัวเป็นนาศีร์ และนั่นก็คือเครื่องบูชาที่เขาจะต้องเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ สำหรับการอุทิศตัวของเขา ถ้าคนนั้นสามารถให้ได้มากกว่านี้ และเขาสาบานว่าจะให้ ก็ให้เขาทำตามนั้น แต่อย่างน้อยเขาจะต้องให้ตามกฎของการอุทิศตัว”

การอวยพรของนักบวช

22 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 23 “ให้บอกอาโรนกับลูกชายของเขาว่า พวกเจ้าต้องอวยพรชาวอิสราเอลอย่างนี้ ให้พูดกับพวกเขาว่า

24 ‘ขอให้พระยาห์เวห์อวยพรเจ้า
    และปกป้องดูแลเจ้า
25 ขอให้ใบหน้าของพระยาห์เวห์ส่องลงบนเจ้า
    และเอ็นดูเจ้า
26 ขอให้พระยาห์เวห์มองเจ้าด้วยความเมตตาปรานี
    และให้ความสงบสุขกับเจ้า’

27 อย่างนั้นแหละ ทั้งอาโรน ลูกชายของเขา รวมทั้งพวกนักบวช จะใช้ชื่อของเราอวยพรชาวอิสราเอล และเราก็จะอวยพรพวกเขา”

อุทิศเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ให้พระยาห์เวห์

ในวันที่โมเสสตั้งเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง[b] เสร็จ เขาได้เจิมเต็นท์นั้น และอุทิศให้กับพระยาห์เวห์ เขาเจิมเต็นท์นั้น รวมทั้งเครื่องใช้ทุกอย่างที่อยู่ภายในเต็นท์ เขาเจิมแท่นบูชา และอุปกรณ์ที่ใช้กับแท่นบูชานั้น เมื่อเขาเจิมพวกมันเสร็จแล้ว มันจึงเป็นของศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระยาห์เวห์ แล้วพวกผู้นำชาวอิสราเอล ก็เอาเครื่องบูชามาถวายพระยาห์เวห์ พวกนี้เป็นผู้นำครอบครัวและผู้นำตระกูลของเขา เป็นพวกเดียวกับที่นับ[c]ประชาชน พวกเขาเอาเครื่องบูชามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ มีเกวียนที่มีหลังคาหกเล่มและวัวสิบสองตัว ผู้นำสองคนต่อเกวียนหนึ่งเล่ม และผู้นำแต่ละคนเอาวัวมาคนละตัว พวกผู้นำถวายสิ่งต่างๆเหล่านี้ให้กับพระยาห์เวห์ ที่เต็นท์นัดพบ

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้รับของขวัญเหล่านี้จากพวกผู้นำนั้น ทั้งเกวียนและวัวตัวผู้พวกนี้ และเอามาใช้ขนของในเต็นท์นัดพบ ให้แบ่งพวกของขวัญนี้กับชาวเลวีตามงานของแต่ละคน”

โมเสสได้รับเอาเกวียนและวัวตัวผู้พวกนี้ มาให้กับชาวเลวี เขาให้เกวียนสองเล่มและวัวสี่ตัวกับชาวเกอร์โชน เพราะพวกนี้ต้องใช้มันในการทำงาน เขาให้เกวียนสี่เล่มและวัวแปดตัวกับชาวเมรารี เพราะพวกนี้ต้องใช้มันในการทำงาน ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การดูแลของอิธามาร์ลูกชายนักบวชอาโรน โมเสสไม่ได้ให้เกวียนและวัวกับชาวโคฮาทเลย เพราะงานของพวกนี้คือการขนย้ายพวกของศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะต้องแบกของพวกนั้นไว้บนบ่าของพวกเขาเอง

10 ในวันที่โมเสสเจิมแท่นบูชานั้น พวกผู้นำได้นำเครื่องบูชามาถวาย สำหรับการอุทิศแท่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์ พวกเขาเอาเครื่องบูชามาไว้ตรงหน้าแท่นบูชา 11 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ในแต่ละวัน ให้ผู้นำคนหนึ่งนำเครื่องบูชาของเขามาถวายสำหรับการอุทิศแท่นบูชา”

12-83 [d] ดังนั้นผู้นำแต่ละเผ่า ทั้งสิบสองเผ่า ได้นำของขวัญพวกนี้มาถวายคือ

จานเงินที่มีน้ำหนักหนึ่งกิโลกรัมครึ่ง[e] ชามเงินสำหรับประพรมขนาดแปดขีด[f] ตามมาตรฐานการวัดอย่างเป็นทางการ[g] ทั้งสองอย่างต้องใส่แป้งอย่างดีผสมน้ำมันที่จะใช้เป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชไว้เต็ม ทัพพีทองคำหนึ่งอันหนักหนึ่งร้อยสิบห้ากรัม[h] ใส่เครื่องหอมไว้

วัวตัวผู้หนึ่งตัวจากฝูงสัตว์เลี้ยง แกะหนึ่งตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีหนึ่งตัวเพื่อใช้เป็นเครื่องเผาบูชา แพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และสำหรับเครื่องสังสรรค์บูชาใช้วัวตัวผู้สองตัว แกะห้าตัว แพะตัวผู้ห้าตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีห้าตัว

ผู้นำของแต่ละเผ่า ได้นำของขวัญมาถวาย ตามลำดับดังต่อไปนี้คือ

วันแรก นาโชนลูกชายอัมมีนาดับ ผู้นำเผ่ายูดาห์

วันที่สอง เนธันเอลลูกชายศุอาร์ ผู้นำเผ่าอิสสาคาร์

วันที่สาม เอลีอับลูกชายเฮโลน ผู้นำเผ่าเศบูลุน

วันที่สี่ เอลีซูร์ลูกชายเชเดเออร์ ผู้นำเผ่ารูเบน

วันที่ห้า เชลูมิเอลลูกชายศูริชัดดัย ผู้นำเผ่าสิเมโอน

วันที่หก เอลียาสาฟลูกชายเดอูเอล[i] ผู้นำเผ่ากาด

วันที่เจ็ด เอลีชามาลูกชายอัมมีฮูด ผู้นำเผ่าเอฟราอิม

วันที่แปด กามาลิเอลลูกชายเปดาซูร์ ผู้นำเผ่ามนัสเสห์

วันที่เก้า อาบีดันลูกชายกิเดโอนี ผู้นำเผ่าเบนยามิน

วันที่สิบ อาหิเยเซอร์ลูกชายอัมมีชัดดัย ผู้นำเผ่าดาน

วันที่สิบเอ็ด ปากีเอลลูกชายโอคราน ผู้นำเผ่าอาเชอร์

วันที่สิบสอง อาหิราลูกชายเอนัน ผู้นำเผ่านัฟทาลี

84 ในวันที่โมเสสเจิมแท่นบูชานั้น พวกผู้นำชาวอิสราเอลได้นำเครื่องบูชาเหล่านี้มาถวายคือ

จานเงินสิบสองใบ อ่างเงินสิบสองใบ ทัพพีทองคำสิบสองอัน 85 จานเงินแต่ละใบหนักหนึ่งกิโลกรัมครึ่ง อ่างเงินแต่ละใบหนักแปดขีด รวมน้ำหนักของภาชนะที่ทำด้วยเงินทั้งหมดประมาณยี่สิบเจ็ดกิโลกรัมกับหกขีด[j] ตามมาตรฐานการวัดอย่างเป็นทางการ 86 ทัพพีทองคำทั้งสิบสองอันที่ใส่เครื่องหอมอยู่เต็ม แต่ละอันมีน้ำหนักหนึ่งร้อยสิบห้ากรัมตามมาตรฐานการวัดอย่างเป็นทางการ รวมน้ำหนักของทัพพีทองคำทั้งสิบสองอันประมาณหนึ่งกิโลกรัมสี่ขีด[k]

87 รวมจำนวนสัตว์ที่เอามาเป็นเครื่องเผาบูชา มีวัวหนุ่มสิบสองตัว แกะสิบสองตัว ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีสิบสองตัว เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชตามจำนวนที่กำหนด และแพะตัวผู้สิบสองตัวที่จะใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง 88 รวมจำนวนสัตว์ที่เอามาเป็นเครื่องสังสรรค์บูชา มีวัวหนุ่มยี่สิบสี่ตัว แกะหกสิบตัว แพะตัวผู้หกสิบตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีหกสิบตัว พวกนี้เป็นเครื่องบูชาที่ใช้สำหรับอุทิศแท่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์ หลังจากที่โมเสสเจิมมันแล้ว

89 เมื่อโมเสสต้องการพูดกับพระเจ้า เขาก็จะเข้าไปในเต็นท์นัดพบ เมื่อพระเจ้าพูดกับเขา เขาจะได้ยินเสียงของพระเจ้าดังออกมาจากช่องว่างระหว่างทูตสวรรค์ที่มีปีกสององค์ ที่อยู่บนฝา[l] ของหีบใส่คำสอนศักดิ์สิทธิ์ที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระที่อยู่ข้างใน นี่เป็นวิธีที่พระเจ้าพูดกับโมเสส

มาระโก 12:38-13:13

พระเยซูเตือนให้ระวังผู้นำศาสนาที่ไม่ดี

(มธ. 23:1-36; ลก. 11:37-52; 20:45-47)

38 พระองค์สอนว่า “ระวังพวกครูสอนกฎปฏิบัติให้ดี พวกนี้ชอบใส่เสื้อคลุมยาวๆเดินไปมาให้คนคำนับตามท้องตลาด 39 พวกนี้ชอบนั่งในที่สำคัญที่สุดในที่ประชุม และชอบนั่งหัวโต๊ะในงานเลี้ยงต่างๆ 40 พวกนี้โกงเอาบ้านของพวกแม่ม่ายไป และแกล้งทำเป็นอธิษฐานเสียยืดยาวเพื่ออวดคน คนพวกนี้จะต้องถูกลงโทษหนักกว่าคนอื่นที่ไม่ได้ทำอย่างนั้น”

เงินถวายของหญิงม่าย

(ลก. 21:1-4)

41 เมื่อพระเยซูนั่งอยู่หน้ากล่องรับเงินในวิหารนั้น พระองค์นั่งดูคนใส่เงินในกล่องกัน คนรวยๆก็ใส่เงินเข้าไปมาก 42 มีหญิงม่ายยากจนคนหนึ่ง ได้ใส่เหรียญทองแดงเล็กๆสองเหรียญ[a] ลงไป

43 พระเยซูจึงเรียกพวกศิษย์เข้ามาและบอกว่า “เราจะบอกให้รู้ว่าหญิงม่ายจนๆคนนี้ได้ใส่เงินเข้าไปในกล่องรับเงินนั้นมากกว่าทุกๆคนที่เอาเงินมาใส่ 44 เพราะคนอื่นๆเอาเงินที่เหลือกินเหลือใช้มาให้ แต่หญิงม่ายจนๆคนนี้เอาเงินเลี้ยงชีพทั้งหมดของเธอมาให้”

พระเยซูทำนายว่าวิหารจะถูกทำลาย

(มธ. 24:1-25; ลก. 21:5-24)

13 เมื่อพระเยซูกำลังเดินออกจากวิหาร ศิษย์คนหนึ่งพูดขึ้นว่า “อาจารย์ ดูตึกพวกนี้สิครับ สวยจริงๆสร้างจากหินก้อนใหญ่ๆทั้งนั้น”

พระเยซูตอบเขาว่า “เห็นตึกใหญ่โตพวกนี้กันแล้วใช่ไหม มันจะถูกทำลายจนหมดสิ้น ไม่เหลือแม้แต่ซากหินเรียงซ้อนทับกันอีกเลย”

เมื่อพระเยซูนั่งอยู่บนภูเขามะกอกเทศ ที่อยู่ตรงข้ามกับวิหารนั้น เปโตร ยากอบ ยอห์น และอันดรูว์ มาถามพระองค์เป็นการส่วนตัวว่า “สิ่งต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ครับ แล้วจะมีอะไรบอกเหตุให้รู้ก่อนไหมครับว่ามันจะเกิดขึ้นแล้ว”

พระองค์ก็ตอบว่า “ระวังให้ดี อย่าให้ใครหลอกเอาล่ะ เพราะจะมีหลายคนมาแอบอ้างชื่อของเราว่าพวกเขาเป็นพระคริสต์ และจะมีหลายคนหลงเชื่อ เมื่อคุณได้ยินเสียงสงคราม หรือได้ยินข่าวลือว่าเกิดสงครามก็ไม่ต้องตกใจ เพราะมันต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่นั่นยังไม่ใช่วันสุดท้าย ชนชาติหนึ่งจะลุกฮือขึ้นต่อสู้กับอีกชนชาติหนึ่ง อาณาจักรนี้จะลุกฮือขึ้นต่อสู้กับอาณาจักรโน้น จะเกิดแผ่นดินไหวไปทั่ว และจะเกิดกันดารอาหาร นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเอง เหมือนเจ็บท้องเตือนก่อนคลอดลูก

ระวังตัวให้ดี พวกคุณจะถูกจับไปขึ้นศาล จะถูกเฆี่ยนในที่ประชุมของชาวยิว และพวกคุณจะต้องยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าเมืองและกษัตริย์เพราะคุณเป็นศิษย์ของเรา คุณจะต้องเป็นพยานเล่าเรื่องของเราให้พวกเขาฟัง 10 แต่ก่อนที่วันสุดท้ายจะมาถึง ข่าวดีจะต้องได้ประกาศออกไปทั่วทุกชนชาติเสียก่อน 11 ตอนที่พวกคุณถูกนำตัวไปขึ้นศาล ไม่ต้องห่วงว่าจะพูดแก้ตัวอย่างไร ให้พูดไปตามที่พระเจ้าบอกในเวลานั้น เพราะคนที่พูดนั้นไม่ใช่ตัวคุณเอง แต่เป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์

12 พี่น้องจะหักหลังกันเองให้ไปถูกฆ่า พ่อจะหักหลังลูกให้ไปถูกฆ่า ลูกๆจะต่อต้านพ่อแม่ และส่งพ่อแม่ให้ไปถูกฆ่า 13 ทุกคนจะเกลียดพวกคุณ เพราะคุณเป็นศิษย์ของเรา แต่ใครที่ทนได้จนถึงที่สุดก็จะได้รับความรอด

สดุดี 49

อย่าวางใจในความร่ำรวย

ถึงหัวหน้านักร้อง สำหรับคนของตระกูลโคราห์ เพลงสดุดี

ชนชาติทั้งหลาย ฟังทางนี้
    ทุกคนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ ฟังให้ดี
ทุกคน ทุกชนชั้น
    ทั้งคนรวยและคนจน
ปากของข้าพเจ้าจะให้สติปัญญา
    ความคิดในใจข้าพเจ้าจะให้ความเข้าใจ
ข้าพเจ้าจะหันไปให้ความสนใจกับปัญหาเรื่องหนึ่ง
    และอธิบายปริศนาเรื่องนั้นในขณะที่ข้าพเจ้าเล่นพิณ

ทำไมข้าพเจ้าจะต้องกลัวในยามที่เจอกับความทุกข์ยาก
    เมื่อคนชั่วร้ายไล่ล่าและล้อมตัวข้าพเจ้า
พวกเขาไว้วางใจในกำลังของตน
    และโอ้อวดในความร่ำรวยของตน
ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถไถ่ชีวิตของคนอื่นจากความตายได้
    ไม่มีใครจ่ายค่าไถ่ให้กับพระเจ้าได้
ราคาค่าไถ่นั้นสูงเกินไป
    ไม่มีใครมีเงินมากพอที่จะจ่าย
เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ตลอดไป
    และไม่ต้องเจอกับหลุมฝังศพ

10 ใครๆก็รู้ว่าคนที่เฉลียวฉลาดก็จะต้องตายและเน่าเปื่อยไปเหมือนกับคนที่โง่อย่างกับควาย
    แล้วพวกเขาจะต้องทิ้งทรัพย์สมบัติของตนไว้ให้กับคนอื่น
11 หลุมศพจะกลายเป็นบ้านชั่วนิรันดร์ของเขา
    มันจะกลายเป็นที่อยู่ของเขาไปชั่วลูกชั่วหลาน
    แม้ว่าพวกเขาจะถือกรรมสิทธิ์ในแปลงที่ดินต่างๆของตน มันก็ไม่แตกต่างอะไร
12 ถึงเขาจะรวย แต่เขาก็จะไม่ยั่งยืนตลอดไป
    เขาเป็นเหมือนกับสัตว์ที่ถูกทำลายไป

13 นั่นแหละคือจุดจบของคนโง่
    คือคนที่หลงระเริงอยู่กับความร่ำรวยของตน[a] เซลาห์
14 ความตายจะนำพวกเขาไปยังหลุมศพ
    เหมือนกับผู้เลี้ยงแกะนำทางแกะ
แล้วในเช้าวันนั้น คนซื่อตรงจะมีชัยชนะเหนือพวกเขา
    ศพของพวกเขาก็จะเปื่อยเน่าในหลุมฝังศพ
    ห่างไกลจากบ้านที่หรูหราของพวกเขา
15 แต่พระยาห์เวห์จะไถ่ชีวิตของข้าพเจ้าให้พ้นจากเงื้อมมือของความตาย
    พระองค์จะเอาข้าพเจ้าไปแน่ๆ[b] เซลาห์

16 ไม่ต้องไปกลัว
    เมื่อคนอื่นร่ำรวยขึ้น หรือมีทรัพย์สมบัติเพิ่มมากขึ้น
17 เพราะเมื่อพวกเขาตายและลงไปนอนอยู่ในหลุมศพ
    ก็ไม่สามารถเอาความร่ำรวยติดตัวไปได้
18 ตอนที่พวกเขามีชีวิตอยู่ พวกเขาให้พรตัวเองว่า
    “ขอให้ทุกคนยกย่องข้า เพราะข้าประสบความสำเร็จ”
19 แต่พวกเขาจะตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา
    เขาจะไม่เห็นแสงสว่างอีกแล้ว
20 ถึงแม้เขาอาจจะร่ำรวยแต่เขาก็ไม่มีความเข้าใจ
    เขาเป็นเหมือนกับสัตว์ที่ถูกทำลายไป

สุภาษิต 10:27-28

27 การยำเกรงพระยาห์เวห์ จะต่อชีวิตให้ยืนยาวออกไป
    แต่เดือนปีของคนชั่วจะถูกตัดให้สั้นลง
28 ความหวังของคนที่ทำตามใจพระเจ้าจะจบลงอย่างมีความสุข
    แต่ความคาดหวังของคนชั่วจะไม่เป็นจริงตามนั้น

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International