The Daily Audio Bible
Today's audio is from the NRSVUE. Switch to the NRSVUE to read along with the audio.
ถ้าพบคนถูกฆ่าตาย
21 ถ้าพบคนถูกฆ่าตายนอนอยู่ในทุ่งในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน และไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่า 2 พวกผู้นำและผู้ตัดสินต้องออกไปที่นั่น และวัดระยะทางจากเมืองต่างๆไปถึงศพนั้น 3 เมืองไหนที่อยู่ใกล้ศพมากที่สุด พวกผู้นำของเมืองนั้นต้องเอาวัวสาวตัวหนึ่งมาจากฝูง ต้องเป็นวัวที่ยังไม่เคยใช้งาน และไม่เคยเทียมแอกมาก่อน 4 พวกผู้นำของเมืองนั้นต้องเอาวัวสาวตัวนี้ไปที่หุบเขาที่มีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา หุบเขาที่ยังไม่เคยไถและไม่เคยปลูกอะไรมาก่อน พวกเขาต้องหักคอวัวสาวตัวนี้ที่หุบเขานั้น 5 แล้วนักบวชที่เป็นลูกหลานของเลวีต้องออกมาข้างหน้า เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้เลือกพวกเขามารับใช้พระองค์และมาให้พรในนามของพระยาห์เวห์ และพวกเขายังมีหน้าที่ตัดสินคดีทะเลาะวิวาทและคดีทำร้ายร่างกาย 6 พวกผู้นำทุกคนที่มาจากเมืองที่อยู่ใกล้กับศพนั้นมากที่สุด จะต้องล้างมือของพวกเขาบนวัวสาวตัวที่ถูกหักคอในหุบเขานั้น 7 พวกเขาต้องพูดว่า ‘พวกเราไม่ได้ฆ่าคนๆนั้นและไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น 8 ช่วยทำให้พวกเราชาวอิสราเอลของพระองค์ พวกที่พระองค์ได้ปลดปล่อย[a]ให้เป็นอิสระแล้ว เป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยเถิด อย่าให้เราชาวอิสราเอลคนของพระองค์ต้องมารับผิดชอบที่คนบริสุทธิ์คนหนึ่งถูกฆ่าเลย’ เมื่อพวกท่านทำอย่างนี้ พวกท่านจะพ้นผิดจากการที่คนหนึ่งถูกฆ่า 9 ท่านจะขจัดความผิดที่คนบริสุทธิ์คนหนึ่งถูกฆ่าออกไปจากกลุ่มของท่านได้ เพราะท่านก็ได้ทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าถูกต้อง
ผู้หญิงที่ถูกจับในสงคราม
10 เมื่อท่านไปทำสงครามกับศัตรู และพระยาห์เวห์ได้มอบพวกเขาไว้ในมือของท่าน และท่านจับเชลยมา 11 และในหมู่เชลยนั้น ท่านเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง และท่านหลงใหลนางและต้องการเอานางมาเป็นเมีย 12 ท่านได้พานางมาที่บ้าน นางต้องโกนหัวและตัดเล็บ 13 ทิ้งเสื้อผ้าชุดเชลยที่นางใส่นั้นและอยู่ในบ้านของท่าน นางต้องร้องไห้ให้กับพ่อและแม่ของนางเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม หลังจากนั้นท่านถึงจะมีเพศสัมพันธ์กับนางได้ และท่านจะเป็นสามีของนางและนางจะเป็นภรรยาของท่าน 14 แต่ถ้าเกิดว่าท่านเบื่อนางแล้ว ท่านต้องหย่ากับนางและปล่อยให้นางไปที่ไหนก็ได้ที่นางอยากจะไป ท่านจะขายนางแลกกับเงินไม่ได้ ท่านจะทำกับนางเหมือนสินค้าไม่ได้ เพราะท่านได้ทำให้นางอับอายขายหน้า
ลูกชายคนแรก
15 ถ้าชายคนหนึ่งมีเมียสองคน และเขารักคนหนึ่งและไม่ชอบอีกคนหนึ่ง และเมียทั้งสอง คือทั้งคนที่เขารักและคนที่เขาไม่ชอบ คลอดลูกชายให้เขา และลูกชายคนแรกเป็นของเมียคนที่เขาเกลียด 16 ในวันที่เขาแบ่งสมบัติให้กับลูกชายของเขานั้น เขาจะลำเอียงทำกับลูกของเมียที่เขารัก เหมือนกับลูกของเมียที่เขาไม่ชอบ ซึ่งเป็นลูกหัวปีไม่ได้ 17 แต่เขาจะต้องยอมรับลูกชายหัวปี ลูกของเมียที่เขาไม่ชอบ และให้ส่วนแบ่งกับลูกหัวปีสองเท่าของสมบัติที่เขาให้กับลูกชายคนอื่นๆ เพราะเป็นลูกชายคนแรกของเขา ดังนั้นสิทธิของลูกชายหัวปีจึงตกเป็นของเขา
ลูกที่ไม่เชื่อฟัง
18 ถ้าบางคนมีลูกชายที่ดื้อรั้นและพยศ ไม่ยอมเชื่อฟังพ่อแม่ ถึงแม้จะถูกพ่อแม่ลงโทษแล้วก็ยังไม่ยอมเชื่อฟัง 19 พ่อแม่ต้องจับเขาไปพบผู้นำของเมืองนั้นที่ประตูเมือง 20 พ่อแม่ต้องบอกผู้นำของเมืองนั้นว่า ‘ลูกชายของเราคนนี้ดื้อรั้นและพยศ ไม่ยอมเชื่อฟังเรา เขากินเติบและขี้เมา’ 21 แล้วชายทุกคนในเมืองนั้นต้องเอาหินขว้างเขาให้ตาย เมื่อท่านทำอย่างนี้ ท่านก็ได้ขจัดคนชั่วช้าออกไปจากท่ามกลางท่าน คนอิสราเอลจะได้ยินเรื่องนี้กันหมด และเกิดความกลัว
อาชญากรถูกฆ่าและถูกแขวนบนต้นไม้
22 เมื่อคนหนึ่งทำผิดบาปถึงขั้นรับโทษถึงตาย หลังจากที่เขาถูกฆ่าแล้ว ท่านก็เอาเขาไปแขวนบนต้นไม้[b] 23 ท่านต้องไม่ปล่อยให้ร่างนั้นค้างอยู่บนต้นไม้ข้ามคืน แต่ท่านต้องฝังเขาในวันนั้น เพราะคนที่ถูกแขวนอยู่บนต้นไม้นั้นถูกพระเจ้าสาปแช่ง ท่านต้องไม่ทำให้แผ่นดินของท่านไม่บริสุทธิ์ แผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่านเป็นมรดก
กฎอื่นๆ
22 เมื่อท่านเห็นวัวหรือแกะของเพื่อนบ้านกำลังจะหลงหายไป อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ท่านต้องจับส่งคืนไปให้กับเพื่อนบ้านท่าน 2 แต่ถ้าเจ้าของสัตว์นั้นอยู่ห่างไกลจากท่านหรือท่านไม่รู้ว่าเป็นของใคร ก็ให้ท่านเก็บสัตว์นั้นไว้ก่อน จนกว่าเพื่อนบ้านคนนั้นจะออกมาตามหา ท่านถึงค่อยคืนสัตว์นั้นให้กับเขาไป 3 ให้ท่านทำแบบเดียวกันนี้กับลา กับเสื้อผ้าและกับของอื่นๆที่เพื่อนบ้านของท่านทำหายและท่านไปพบเข้า อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
4 เมื่อท่านเห็นลาหรือวัวของเพื่อนบ้านล้มอยู่ที่ถนน อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ท่านต้องเข้าไปช่วยยกมันขึ้นด้วยกันกับเจ้าของมัน
5 ผู้หญิงต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าของผู้ชาย และผู้ชายต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าผู้หญิง เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านขยะแขยงทุกคนที่ทำอย่างนั้น
6 ถ้าท่านกำลังเดินอยู่ และพบรังนกบนต้นไม้หรือตกอยู่บนพื้นดิน มีลูกนกหรือไข่นกอยู่ในนั้น และแม่นกกำลังกกลูกหรือไข่ของมันอยู่ ท่านต้องไม่จับทั้งแม่และลูกของมัน 7 ท่านอาจจะเก็บลูกของมันไว้ได้ แต่ต้องปล่อยแม่ของมันไป เพื่อทุกอย่างจะได้เป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน และท่านจะมีอายุยืนยาว
8 เมื่อท่านสร้างบ้านใหม่ ต้องก่ออิฐกันตกรอบดาดฟ้า ท่านจะได้ไม่มีความผิดที่ทำให้คนตกลงมาตาย
ของที่ห้ามอยู่ด้วยกัน
9 เมื่อท่านทำไร่องุ่น ท่านต้องไม่ปลูกพืชอื่นแซม ไม่อย่างนั้นทั้งพืชที่ปลูกแซมและผลองุ่นจากไร่นั้นจะกลายเป็นสมบัติของพระเจ้า ถูกส่งไปยังสถานที่นมัสการพระองค์
10 เมื่อท่านไถดิน ท่านต้องไม่เอาวัวและลามาไถพร้อมๆกัน
11 ท่านต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าที่ทอด้วยขนสัตว์และลินินเข้าด้วยกัน
12 ท่านต้องทำพู่[c] ห้อยที่ชายเสื้อคลุมทั้งสี่ด้านของท่าน
กฎของการแต่งงาน
13 ถ้าชายคนหนึ่งแต่งงานกับหญิงคนหนึ่ง และมีเพศสัมพันธ์กับนาง แล้วเกิดเกลียดนางขึ้นมา 14 เขากล่าวหาว่านางทำตัวไม่เหมาะสมและพูดให้นางเสียหายว่า “ผมได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แต่เมื่อผมมีเพศสัมพันธ์กับนาง ผมพบว่านางไม่บริสุทธิ์” 15 พ่อแม่ของหญิงสาวคนนี้จะต้องหาข้อพิสูจน์ว่านางเป็นสาวบริสุทธิ์ มาให้กับพวกผู้นำของเมืองนั้นที่ประตูเมือง 16 พ่อของหญิงสาวคนนั้นต้องพูดกับพวกผู้นำว่า “ผมได้ยกลูกสาวให้กับชายคนนี้เป็นเมีย ตอนนี้เขาเกลียดนางแล้ว 17 และดูสิ เขายังกล่าวหาว่านางทำตัวไม่เหมาะสม โดยบอกว่า ‘ผมพบว่าลูกสาวของท่านไม่บริสุทธิ์ นี่คือข้อพิสูจน์ว่าลูกสาวของผมเป็นสาวบริสุทธิ์’” แล้วเขาต้องกางผ้า[d] ผืนนั้นออกต่อหน้าพวกผู้นำของเมืองนั้น 18 แล้วพวกผู้นำของเมืองนั้นต้องเอาตัวชายคนนั้นมาเฆี่ยนตี 19 พวกเขาต้องปรับชายคนนั้นเป็นเงินหนึ่งกิโลกรัม[e] และนำเงินนั้นไปให้กับพ่อของหญิงสาวคนนั้น เพราะชายคนนั้นได้ทำลายชื่อเสียงของหญิงบริสุทธิ์ของอิสราเอล นางจะยังคงเป็นเมียเขาต่อไปและเขาจะหย่าขาดจากนางไม่ได้ตลอดชีวิต
20 แต่ถ้าเป็นจริงตามที่กล่าวหา และไม่มีอะไรมาพิสูจน์ว่านางเป็นสาวบริสุทธิ์ 21 พวกผู้นำต้องนำตัวนางไปที่ประตูบ้านของพ่อนาง และพวกผู้ชายในเมืองนั้นก็จะเอาหินขว้างนางจนตาย เพราะนางได้ทำสิ่งที่น่าอัปยศอดสูในอิสราเอล ด้วยการทำตัวเหมือนหญิงโสเภณีในบ้านพ่อของนาง เมื่อทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากท่ามกลางคนของท่าน
บาปทางเพศ
22 ถ้าพบว่าชายคนหนึ่งนอนอยู่กับหญิงอีกคนหนึ่ง ที่เป็นเมียของคนอื่น ทั้งสองคนคือชายคนนั้นและหญิงที่เขานอนด้วยต้องตาย เมื่อทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากอิสราเอล
23 ถ้าหญิงสาวบริสุทธิ์คนหนึ่งได้รับหมั้นกับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว และมีคนหนึ่งเจอนางที่ในเมือง และมีเพศสัมพันธ์กับนาง 24 พวกท่านต้องเอาทั้งสองคนมาที่ประตูเมืองนั้น แล้วเอาหินขว้างพวกเขาให้ตาย ที่ต้องฆ่าหญิงนั้นเพราะนางไม่ได้ร้องให้คนช่วยในเมือง และที่ต้องฆ่าชายนั้นก็เพราะเขาทำให้เมียของคนอื่นเสียหาย เมื่อทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกจากท่ามกลางท่าน
25 แต่ถ้าชายคนนั้นพบหญิงที่หมั้นแล้วคนนี้ในที่โล่งนอกเมือง และชายคนนั้นก็จับนางมาข่มขืน มีแต่ชายคนนี้เท่านั้นที่ต้องตาย 26 อย่าทำอะไรกับหญิงสาวนั้น นางไม่ได้ทำบาปอะไรที่สมควรตาย เพราะกรณีนี้เหมือนกับชายที่ทำร้ายเพื่อนบ้านและฆ่าเขา 27 เพราะเขาพบนางในที่โล่งนอกเมือง หญิงที่หมั้นนี้อาจจะร้องให้คนช่วยแล้ว แต่ไม่มีใครมาช่วย
28 ถ้าชายคนหนึ่งพบหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ยังไม่ได้หมั้นและจับนางมาข่มขืน และพวกเขาถูกจับได้ 29 ชายคนที่นอนกับนางต้องให้เงินครึ่งกิโลกรัม[f] กับพ่อของหญิงสาวคนนั้น และนางจะกลายเป็นเมียของเขา เพราะเขาทำให้นางเสียหาย เขาไม่สามารถหย่ากับนางได้ตลอดชีวิตของเขา
30 ผู้ชายจะแต่งงานกับเมียเก่าของพ่อเขาไม่ได้ เพราะจะทำให้พ่อเขาอับอายขายหน้า
หมู่บ้านของชาวสะมาเรีย
51 เมื่อใกล้ถึงเวลาที่พระเยซูจะถูกรับขึ้นไปบนสวรรค์ พระองค์ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะไปเมืองเยรูซาเล็ม 52 พระองค์จึงส่งศิษย์บางคนล่วงหน้าไปก่อน พวกเขาเข้าไปที่หมู่บ้านของชาวสะมาเรีย เพื่อจัดเตรียมสิ่งต่างๆให้พร้อมสำหรับพระองค์ 53 แต่คนที่นั่นไม่ต้อนรับพระองค์ เพราะพวกเขาเห็นว่าพระองค์ตั้งใจจะไปเมืองเยรูซาเล็ม 54 เมื่อยากอบและยอห์น ศิษย์ของพระองค์เห็นอย่างนั้น ก็พูดขึ้นว่า “อาจารย์ จะให้เราสั่งไฟจากสวรรค์ลงมาเผาผลาญคนพวกนี้ให้สิ้นซากไปเลยดีไหมครับ”[a]
55 แต่พระเยซูหันมาต่อว่าพวกเขา[b] 56 แล้วออกเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านอื่น
จะติดตามพระเยซูต้องทำอย่างไร
(มธ. 8:19-22)
57 ขณะที่พวกเขากำลังเดินไปตามถนน มีชายคนหนึ่งพูดกับพระเยซูว่า “ไม่ว่าอาจารย์จะไปที่ไหน ผมจะติดตามไปด้วย”
58 พระเยซูจึงตอบไปว่า “หมาจิ้งจอกยังมีโพรง นกยังมีรัง แต่บุตรมนุษย์ไม่มีแม้แต่ที่จะซุกหัวนอน”
59 พระองค์พูดกับอีกคนหนึ่งว่า “ตามเรามา” แต่ชายคนนั้นตอบว่า “ขออนุญาตไปฝังศพพ่อก่อนนะครับ”
60 พระเยซูจึงบอกว่า “ปล่อยให้คนตายฝังคนตายกันเองเถอะ ส่วนคุณให้ไปประกาศอาณาจักรของพระเจ้าเถอะ”
61 ชายอีกคนหนึ่งพูดว่า “ผมจะตามพระองค์ไปแน่ แต่ขอกลับไปร่ำลาคนที่บ้านก่อนนะครับ”
62 พระเยซูจึงตอบว่า “ถ้าคนที่จับคันไถแล้วยังห่วงหน้าพะวงหลังอยู่ คนนั้นก็ไม่เหมาะสมกับอาณาจักรของพระเจ้า”
พระเยซูส่งศิษย์เจ็ดสิบสองคนออกไป
10 ต่อมาพระเยซูเลือกศิษย์อีกเจ็ดสิบสองคน[c] แล้วส่งพวกเขาออกไปเป็นคู่ๆล่วงหน้าพระองค์ไปตามเมืองและหมู่บ้านต่างๆที่พระองค์กำลังจะไป 2 พระองค์บอกพวกเขาว่า “พืชผลที่จะให้เก็บเกี่ยวนั้นมีมากมายแต่คนงานมีน้อย ดังนั้นให้อ้อนวอนขอองค์เจ้าชีวิตผู้เป็นเจ้าของพืชผล ให้ส่งคนงานมาช่วยเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์ด้วย 3 ไปเถอะ แต่อย่าลืมนะว่าเรากำลังส่งพวกคุณออกไปเหมือนพวกลูกแกะไปอยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า 4 ไม่ต้องเอาถุงเงิน ถุงย่าม หรือรองเท้าติดตัวไป และไม่ต้องหยุดทักทายใครในระหว่างทาง 5 เมื่อเข้าบ้านไหนก็ให้อวยพรก่อนว่า ‘ขอให้บ้านนี้อยู่เย็นเป็นสุข’ 6 ถ้าบ้านนั้นมีคนที่รักความสงบสุขอยู่ พรนั้นก็จะตกเป็นของเขา แต่ถ้าไม่มี พรนั้นก็จะกลับมาอยู่กับคุณอีก 7 เมื่ออยู่บ้านไหนก็ให้อยู่บ้านนั้นตลอด อย่าย้ายไปย้ายมา เมื่อเขาเอาอะไรมาให้กินและดื่ม ก็กินเลย เพราะคนงานก็สมควรจะได้รับค่าจ้าง 8 เมื่อเข้าไปในเมืองไหน เขาเลี้ยงอะไรก็ให้กินสิ่งนั้น 9 รักษาคนที่ไม่สบายในเมืองนั้น และบอกเขาว่า ‘อาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว’ 10 แต่ถ้าเมืองไหนไม่ต้อนรับคุณ ก็ให้ไปยืนอยู่ที่ถนนแล้วพูดว่า 11 ‘แม้แต่ฝุ่นในเมืองนี้ที่ติดเท้าเรา เราก็จะปัดออกให้หมด’[d] เพื่อเป็นการเตือนพวกคุณ แต่ให้รู้เอาไว้ว่า ‘อาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว’ 12 เราจะบอกให้รู้ว่า ในวันพิพากษา โทษของเมืองนั้นจะรุนแรงกว่าโทษของเมืองโสโดมเสียอีก”
อธิษฐานให้พระเจ้ากู้ชาติ
เพลงมัสคิลของอาสาฟ
1 ข้าแต่พระเจ้า ทำไมพระองค์ถึงได้ทอดทิ้งพวกเรานานนัก
ทำไมถึงปล่อยให้ความโกรธของพระองค์เผาผลาญต่อฝูงแกะของพระองค์
2 โปรดระลึกถึงคนที่พระองค์ได้ซื้อมาตั้งนานมาแล้ว
โปรดระลึกถึงเผ่าที่พระองค์ไถ่มาและครอบครองไว้
โปรดระลึกถึงภูเขาศิโยนที่พระองค์สถิตอยู่
3 โปรดเดินเข้ามาดูซากปรักหักพังเก่าแก่เหล่านี้
โปรดกลับมายังวิหารที่พวกศัตรูทำลายจนย่อยยับ
4 พวกศัตรูได้โห่ร้องเฉลิมฉลองชัยชนะของพวกเขาในสถานที่ชุมนุมของพระองค์
พวกเขาชูธงแห่งชัยชนะทั้งหลายกัน
5 พวกเขาบุกโจมตี
ราวกับคนตัดไม้ใช้ขวานโค่นป่า
6 แล้วตอนนี้ พวกเขากำลังใช้ชะแลง
และขวานรื้อทำลายไม้แกะสลักในวิหารลง
7 พวกเขาเผาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์วอดวายลงกับดิน
และทำให้เต็นท์ที่คนสรรเสริญชื่อของพระองค์เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป
8 พวกเขาคิดในใจว่า “พวกเราจะบดขยี้พวกมันให้แหลกละเอียด”
พวกเขาเผาสถานที่ชุมนุมของพระเจ้าทั่วแผ่นดิน
9 พวกเราไม่เห็นการอัศจรรย์ใดๆ[a] อีกแล้ว
ไม่มีพวกผู้พูดแทนพระเจ้าหลงเหลืออีก
และไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน
10 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์จะปล่อยให้พวกศัตรูหมิ่นประมาทพระองค์ไปอีกนานแค่ไหน
พระองค์จะปล่อยให้พวกเขาดูหมิ่นชื่อของพระองค์ตลอดไปหรือ
11 ทำไมพระองค์ถึงยืนกอดอกอยู่เฉยๆ
ยื่นมือขวาของพระองค์ออกไปทำลายพวกเขาให้สิ้นซากไปเลย
12 พระเจ้าคือกษัตริย์ของข้าพเจ้ามาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว
พระองค์ช่วยให้พวกเราชนะหลายต่อหลายครั้งแล้วในแผ่นดินนี้
13 ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ พระองค์ได้แยกทะเลแดงออก
พระองค์ฟาดหัวทั้งหลายของสัตว์ประหลาดในท้องทะเล
14 พระองค์ทุบหัวทั้งหลายของเลวีอาธาน[b]
แล้วเอาเนื้อของพวกมันมาเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ต่างๆในทะเลทราย
15 พระองค์ทำให้ตาน้ำและลำธารผุดขึ้นมาและไหลไป
แล้วพระองค์ก็ทำให้แม่น้ำที่ไหลอยู่เสมอเหือดแห้งไป
16 วันและคืนเป็นของพระองค์
พระองค์คือผู้สร้างดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
17 พระองค์กำหนดเขตแดนทั้งหมดบนแผ่นดินโลก
พระองค์สร้างฤดูร้อนและฤดูหนาว
18 ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าลืมว่า พวกศัตรูเย้ยหยันพระองค์
ชนชาติที่โง่เขลานั้นดูหมิ่นชื่อของพระองค์
19 อย่าปล่อยให้สัตว์ป่าพวกนี้เข่นฆ่านกเขาของพระองค์
โปรดอย่าลืมชีวิตของคนที่ถูกกดขี่ของพระองค์ตลอดไป
20 โปรดระลึกถึงคำมั่นสัญญาของพระองค์และปกป้องพวกเราไว้
เพราะความทารุณโหดร้ายมีอยู่ทั่วทุกมุมมืดบนแผ่นดินของพวกเรา
21 อย่าปล่อยให้คนทุกข์ยากต้องอับอายขายหน้า
ขอให้คนยากจนและผู้ขัดสน สรรเสริญชื่อของพระองค์
22 ข้าแต่พระเจ้า ลุกขึ้นเถิด มาแก้หน้าของพระองค์
พระองค์อย่าลืมว่าไอ้คนโง่พวกนั้นหมิ่นประมาทพระองค์ทุกวี่วัน
23 พระองค์ ขออย่าได้ลืมเสียงโห่ร้องของศัตรูเหล่านั้นของพระองค์
และเสียงโกลาหลวุ่นวายที่มีอยู่ตลอดเวลาจากคนเหล่านั้นที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับพระองค์
11 คนที่ทำงานในไร่นาของตน จะมีอาหารอย่างเหลือเฟือ
แต่คนที่ไล่ตามสิ่งที่ไร้สาระ เป็นคนที่ไม่มีสมองคิด
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International