Print Page Options Listen to Reading
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the CSB. Switch to the CSB to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
ผู้วินิจฉัย 7:1-8:17

เยรุบบาอัล (ซึ่งก็คือกิเดโอน) พร้อมกับทหารทั้งหมดที่อยู่กับเขา ก็ลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ และไปตั้งค่ายอยู่ใกล้ๆกับตาน้ำฮาโรด ส่วนค่ายของชาวมีเดียนอยู่ทางเหนือของเขา อยู่ในหุบตรงตีนเขาโมเรห์ พระยาห์เวห์พูดกับกิเดโอนว่า “ทหารที่อยู่กับเจ้ามีมากเกินกว่าที่เราจะมอบชาวมีเดียนให้อยู่ในเงื้อมมือของพวกเขา ไม่อย่างนั้น คนอิสราเอลจะยกตัวขึ้นต่อหน้าเรา และพูดว่า ‘เป็นมือข้าเอง ที่ช่วยกู้ข้าไว้’

ดังนั้นให้ประกาศอย่างนี้กับกองทัพว่า ‘ใครก็ตามที่กลัวจนตัวสั่น ก็ให้ไปจากภูเขากิเลอาด กลับบ้านไปในเช้ามืดวันพรุ่งนี้’” แล้วก็มีทหารสองหมื่นสองพันคนกลับบ้านไป เหลืออยู่หนึ่งหมื่นคน

แล้วพระยาห์เวห์พูดกับกิเดโอนว่า “ยังมีทหารมากเกินไป ให้นำพวกเขาลงไปที่น้ำ และเราจะแยกพวกเขาให้กับเจ้าที่นั่น เมื่อเราบอกว่า ‘คนนี้จะไปกับเจ้า’ เขาก็จะไปกับเจ้า แต่ถ้าคนไหนที่เราบอกว่า ‘คนนี้จะไม่ไปกับเจ้า’ เขาก็จะไม่ไป”

จากนั้นกิเดโอนก็นำพวกเขาลงไปที่น้ำ พระยาห์เวห์พูดกับเขาว่า “คนที่ใช้ลิ้นเลียน้ำเหมือนหมา ก็ให้เจ้าแยกออกมาไว้พวกหนึ่ง และคนที่คุกเข่าลงดื่มน้ำก็แยกไว้พวกหนึ่ง”

จำนวนคนที่ใช้มือวักน้ำขึ้นมาเลียมีทั้งหมดสามร้อยคน ส่วนคนที่เหลือทั้งหมดคุกเข่าลงดื่มน้ำ พระยาห์เวห์จึงพูดกับกิเดโอนว่า “เราจะช่วยเหลือพวกเจ้าโดยใช้คนสามร้อยคนนี้ที่เลียน้ำ และเราจะมอบคนมีเดียนไว้ในเงื้อมมือของเจ้า ส่วนคนที่เหลือทั้งหมดให้กลับบ้านไป”

ดังนั้นทหารสามร้อยคนนี้ก็ได้หิ้วเสบียงอาหารและถือแตรไว้ในมือ กิเดโอนสั่งชาวอิสราเอลคนอื่นที่เหลือให้กลับไปเต็นท์ของพวกเขา แต่เขาเก็บสามร้อยคนนี้ไว้กับเขา ค่ายของชาวมีเดียนอยู่ต่ำลงไปในหุบเขา ในคืนนั้นพระยาห์เวห์พูดกับเขาว่า “ลุกขึ้น ลงไปโจมตีค่ายเดี๋ยวนี้ เพราะเราได้มอบมันไว้ในมือของเจ้าแล้ว 10 แต่ถ้าเจ้ากลัว ก็อย่าเพิ่งลงไปโจมตีก็ได้ แต่ให้พาปูราห์คนรับใช้ของเจ้าลงไป 11 เจ้าจะได้ยินว่าพวกเขาพูดอะไรกัน หลังจากนั้นเจ้าจะได้เกิดความกล้ามากขึ้น แล้วค่อยลงไปตีค่ายนั้น” ดังนั้นกิเดโอนและปูราห์คนรับใช้ของเขา ก็ลงไปที่ค่ายที่อยู่ด้านนอกสุดของทหารที่ติดอาวุธพวกนั้น

12 ชาวมีเดียน ชาวอามาเลค และคนตะวันออกนอนอยู่ตามหุบเขา มากมายเหมือนตั๊กแตน และอูฐของพวกเขาก็มีมากจนนับไม่ถ้วนเหมือนเม็ดทรายที่ชายฝั่ง 13 เมื่อกิเดโอนมาถึงค่าย ก็มีชายคนหนึ่งกำลังเล่าความฝันของเขาให้เพื่อนฟัง เขาเล่าว่า “ข้าฝันไปว่ามีขนมปังบาร์เลย์ก้อนใหญ่ กลิ้งเข้ามาในค่ายของมีเดียน และมันก็ชนเต็นท์จนล้มลงคว่ำพังทะลายไป”

14 เพื่อนของเขาก็ตอบว่า “เรื่องนี้เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากจะเป็นดาบของกิเดโอนลูกชายโยอาชชาวอิสราเอล พระเจ้าได้มอบชาวมีเดียนและทั้งกองทัพให้อยู่ในกำมือของเขาแล้ว”

15 เมื่อกิเดโอนได้ยินพวกเขาเล่าความฝันและตีความหมายของมันแล้ว เขาก็กราบลงต่อพระเจ้า จากนั้นเขาก็กลับไปที่ค่ายของอิสราเอล และพูดว่า “ลุกขึ้น เพราะพระเจ้าได้มอบกองทัพของมีเดียนไว้ในกำมือของพวกท่านแล้ว”

16 เขาแบ่งคนสามร้อยคน ออกเป็นสามกลุ่ม และให้ทุกคนถือแตรและหม้อเปล่า แล้วเอาคบเพลิงไว้ด้านใน 17 เขาพูดกับพวกทหารว่า “ให้มองผมและทำตาม เมื่อผมเข้าไปถึงค่ายด้านนอกสุด ผมทำอะไรก็ให้ทำตามนั้น 18 เมื่อผมและคนทั้งหมดที่อยู่กับผมเป่าแตรขึ้น ก็ให้พวกท่านเป่าแตรรับล้อมรอบค่าย และร้องว่า สำหรับพระยาห์เวห์และกิเดโอน”

19 ดังนั้นกิเดโอนกับทหารหนึ่งร้อยคนที่อยู่กับเขา ก็ไปถึงด้านนอกสุดของค่าย เพิ่งเลยเที่ยงคืนไป เพิ่งเปลี่ยนเวรยาม 20 กิเดโอนและคนที่อยู่กับเขาก็เป่าแตร และทุบหม้อที่อยู่ในมือพวกเขาจนแตก และทั้งสามกลุ่มก็เป่าแตร และทุบหม้อจนแตก พวกเขาถือคบเพลิงในมือซ้ายและถือแตรที่เป่าในมือขวา และต่างก็ตะโกนว่า “ดาบสำหรับพระยาห์เวห์และกิเดโอน”

21 แต่ละคนต่างยืนประจำที่ของตนรอบค่าย และพวกทหารในค่ายทั้งหมดต่างก็กระโดดขึ้นมา แล้วร้องตะโกนวิ่งหนีไป 22 เมื่อคนของกิเดโอนเป่าแตรพร้อมๆกันทั้งสามร้อยอัน พระยาห์เวห์ก็ทำให้กองทัพของมีเดียนทั้งหมดเอาดาบฆ่าฟันกันเอง พวกทหารได้หนีไปไกลถึงเบธ-ชิทธาห์ ทางไปเมืองเศเรราห์ พวกเขาหนีไปไกลจนถึงพรมแดนของเมืองอาเบล-เมโฮลาห์ ที่อยู่ใกล้กับเมืองทับบาท

23 คนอิสราเอลจากเผ่านัฟทาลี เผ่าอาเชอร์ และเผ่ามนัสเสห์ ถูกเรียกให้ไล่ตามชาวมีเดียนไป 24 กิเดโอนส่งพวกผู้ส่งข่าวไปทั่วหุบเขาเอฟราอิม ไปแจ้งว่า “ลงมาโจมตีพวกมีเดียน และให้ยึดแหล่งน้ำจากพวกเขาไปไกลถึงเบธ-บาราห์และแม่น้ำจอร์แดน” ดังนั้นทหารของเอฟราอิมทั้งหมดถูกเรียกมา และพวกเขาก็ได้ยึดแหล่งน้ำต่างๆไปไกลถึงเบธ-บาราห์และแม่น้ำจอร์แดน

25 พวกเขาจับแม่ทัพของมีเดียนได้สองคน คือโอเรบและเศเอบ พวกเขาฆ่าโอเรบที่หินแห่งโอเรบ และฆ่าเศเอบที่บ่อย่ำองุ่นแห่งเศเอบ พวกเขายังคงไล่ตามพวกมีเดียนต่อไป และได้นำหัวของโอเรบและเศเอบข้ามแม่น้ำจอร์แดนมาให้กิเดโอน

คนเอฟราอิมพูดกับกิเดโอนว่า “ทำไมท่านถึงทำกับเราอย่างนี้ ตอนที่ท่านไปรบกับชาวมีเดียน ทำไมท่านถึงไม่เรียกเราไปด้วย” พวกเขาโต้เถียงกับกิเดโอนอย่างรุนแรง

กิเดโอนจึงพูดกับพวกเขาว่า “แม้แต่สิ่งเล็กน้อยที่เผ่าท่านทำนั้นก็ยังยิ่งใหญ่กว่าสิ่งทั้งหมดที่ตระกูลอาบีเยเซอร์ของผมได้ทำเสียอีก[a] สิ่งที่ผมทำตอนนี้ เปรียบเทียบกันไม่ได้เลยกับสิ่งที่พวกท่านทำไม่ใช่หรือ พระเจ้ามอบโอเรบและเศเอบ แม่ทัพของมีเดียนไว้ในมือของพวกท่าน ไม่มีอะไรเลยที่ผมทำแล้วสามารถเอาไปเปรียบเทียบกับท่านได้” เมื่อกิเดโอนพูดอย่างนี้ พวกเขาก็หายโกรธกิเดโอน

กิเดโอนจับกษัตริย์ทั้งสองของมีเดียน

เมื่อกิเดโอนมาถึงแม่น้ำจอร์แดน เขาและพวกอีกสามร้อยคนได้ข้ามแม่น้ำไป พวกเขาเหนื่อยล้า แต่ก็ยังไล่ติดตามศัตรูไป กิเดโอนพูดกับชาวสุคคทว่า “ขอขนมปังให้กับทหารที่ติดตามข้ามากินหน่อยเถอะ เพราะพวกเขาหิวจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว ข้ากำลังไล่ตามเศบาห์และศัลมุนนา กษัตริย์ของมีเดียนอยู่”

แต่พวกเจ้าหน้าที่ของสุคคทพูดกับเขาว่า “เศบาห์และศัลมุนนาอยู่ในกำมือเจ้าแล้วหรือยังไง เราถึงจะต้องให้ขนมปังกับทหารของเจ้า”

กิเดโอนพูดว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ เมื่อไหร่ที่พระยาห์เวห์มอบเศบาห์และศัลมุนนาไว้ในมือของข้าแล้วละก็ ข้าจะกลับมาเฆี่ยนพวกเจ้าด้วยหนามจากทะเลทรายและพวกต้นหนามต่างๆ”

จากที่นั่น กิเดโอนได้ขึ้นไปที่เปนูเอล และเขาได้ขอพวกนั้นอย่างเดียวกัน และชาวเปนูเอลก็ตอบเขาเหมือนกับที่ชาวสุคคทตอบ ดังนั้นกิเดโอนจึงพูดกับชาวเปนูเอลด้วยว่า “เมื่อข้าได้ชัยชนะกลับมา ข้าจะรื้อหอคอยนี้ลง”

10 ฝ่ายเศบาห์และศัลมุนนาได้หนีไปอาศัยอยู่ในเมืองคารโกรกับกองทัพของเขา เป็นกองทัพของชาวตะวันออกที่เหลืออยู่ประมาณหนึ่งหมื่นห้าพันคน หลังจากที่ทหารหนึ่งแสนสองหมื่นคนที่ถือดาบพร้อมมือถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว 11 กิเดโอนจึงใช้เส้นทางที่มีชื่อว่าเต็นท์ของพวกผู้อาศัย ที่อยู่ทางทิศตะวันออกของโนบาห์และโยกเบฮาห์ และเข้าจู่โจมทันที ในขณะที่กองทัพนั้นยังไม่ทันตั้งตัว

12 เศบาห์และศัลมุนนาก็หนี กิเดโอนก็ไล่ตามพวกเขาไป และจับเศบาห์และศัลมุนนา กษัตริย์ทั้งสองของมีเดียนได้ เขาทำให้ทั้งกองทัพขวัญกระเจิงไป 13 จากนั้นกิเดโอนลูกชายโยอาช ก็กลับจากการสู้รบ โดยใช้เส้นทางที่ชื่อว่า ทางผ่านของเฮเรส 14 เขาจับชายหนุ่มคนหนึ่งมา ซึ่งเป็นชาวเมืองสุคคท และสอบถามเขา ชายคนนั้นจึงจดรายชื่อของเจ้าหน้าที่และผู้อาวุโสของเมืองสุคคททั้งเจ็ดสิบเจ็ดคนให้กับกิเดโอน

15 แล้วกิเดโอนก็มาหาชาวเมืองสุคคท และพูดว่า “นี่ไง เศบาห์และศัลมุนนา คนที่พวกเจ้าได้พูดจาเยาะเย้ยถากถางข้าว่า ‘เศบาห์และศัลมุนนาอยู่ในกำมือของเจ้าแล้วหรือยังไง เราถึงจะต้องให้ขนมปังกับทหารที่เหน็ดเหนื่อยของเจ้า’” 16 กิเดโอนจึงจับผู้อาวุโสของเมือง และเอาหนามในทะเลทรายและต้นหนามต่างๆมาเฆี่ยนพวกเขาที่เป็นชาวเมืองสุคคท 17 และเขาก็ได้รื้อหอคอยเมืองเปนูเอลทิ้ง และฆ่าพวกผู้ชายของเมืองนั้น

ลูกา 23:13-43

พระเยซูต้องตาย

(มธ. 27:15-26; มก. 15:6-15; ยน. 18:39-19:16)

13 ปีลาตเรียกพวกหัวหน้านักบวช พวกผู้นำและประชาชนมาชุมนุมกัน 14 แล้วปีลาตบอกว่า “พวกคุณนำชายคนนี้มาหาเรา และกล่าวหาเขาว่าปลุกปั่นยุยงประชาชนให้กระด้างกระเดื่องนั้น หลังจากที่เราได้สอบสวนเขาต่อหน้าพวกคุณแล้ว ก็ไม่เห็นว่าเขาทำผิดอะไรตามที่พวกคุณกล่าวหา 15 ส่วนกษัตริย์เฮโรด ก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน พระองค์ก็เลยส่งชายคนนี้กลับมาหาเรา เขาไม่ได้ทำผิดอะไรที่สมควรตาย 16 เราจะสั่งเฆี่ยนเขาแล้วปล่อยตัวไป” 17 [a]

18 แต่ฝูงชนร้องตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่า “ฆ่ามันซะ แล้วปล่อยบารับบัสให้เรา”

19 บารับบัสถูกขังอยู่ในคุก เพราะได้ก่อการจลาจลขึ้นในเมืองเยรูซาเล็มและฆ่าคนตาย

20 ปีลาตจึงเกลี้ยกล่อมพวกเขาอีก เพราะอยากปล่อยพระเยซู 21 แต่พวกเขากลับตะโกนว่า “ตรึงมันที่กางเขน ตรึงมันที่กางเขน”

22 ปีลาตถามพวกเขาอีกเป็นครั้งที่สามว่า “ทำไม เขาทำผิดอะไร เราไม่เห็นเขาทำผิดอะไรที่สมควรตาย เราจะสั่งให้เฆี่ยนเขา แล้วก็ปล่อยตัวไป”

23 แต่พวกเขาก็ร้องตะโกนดังขึ้นๆให้ตรึงพระเยซูที่กางเขน และในที่สุดเสียงนั้นก็ชนะ

24 ปีลาตตัดสินใจทำตามที่พวกนั้นขอ 25 คือปล่อยตัวบารับบาสที่ติดคุกเพราะก่อการจลาจลและฆ่าคน และให้ทำกับพระเยซูอย่างที่พวกเขาต้องการ

พระเยซูตายบนไม้กางเขน

(มธ. 27:32-44; มก. 15:21-32; ยน. 19:17-27)

26 ในระหว่างทางที่นำตัวพระเยซูไปนั้น พวกเขาก็จับตัวซีโมนชาวไซรีน ที่เพิ่งมาจากชนบท บังคับให้เขาแบกไม้กางเขนเดินตามหลังพระเยซูไป

27 ฝูงชนจำนวนมากเดินตามไป รวมทั้งผู้หญิงหลายคนที่ร้องห่มร้องไห้ คร่ำครวญสงสารพระเยซู 28 พระเยซูก็ได้หันไปบอกพวกนางว่า

“หญิงชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย อย่าร้องไห้ให้กับเราเลย แต่ร้องไห้ให้กับตัวเองและลูกๆของคุณเองดีกว่า 29 เวลานั้นจะมาถึง ที่คนจะพูดว่า ‘หญิงที่เป็นหมัน ไม่เคยคลอดลูก และไม่เคยเลี้ยงนมลูก ก็ได้เปรียบจริงๆ’ 30 แล้วพวกเขาก็จะขอร้องกับภูเขาว่า ‘ช่วยพังลงมาทับเราด้วย’ และอ้อนวอนกับเนินเขาว่า ‘ช่วยฝังเราหน่อย’[b] 31 เพราะถ้าพวกเขาทำอย่างนี้กับคนที่บริสุทธิ์ แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ทำผิด”[c]

32 ยังมีผู้ร้ายอีกสองคนที่ถูกนำตัวมาฆ่าพร้อมๆกับพระเยซูด้วย 33 เมื่อเขามาถึงสถานที่ที่เรียกว่า “หัวกะโหลก” พวกเขาก็ตรึงพระเยซูบนไม้กางเขนระหว่างผู้ร้ายสองคนนั้น ทางขวาคนหนึ่งและทางซ้ายคนหนึ่ง 34 แล้วพระเยซูก็พูดว่า “พระบิดา ช่วยยกโทษให้กับพวกเขาด้วย เพราะพวกเขาไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังทำอะไรลงไป”[d]

แล้วพวกเขาเอาเสื้อผ้าของพระองค์มาจับสลากแบ่งกัน 35 ประชาชนก็ยืนดูอยู่ ส่วนพวกผู้นำชาวยิวต่างพากันหัวเราะเยาะและพูดถากถางว่า “ในเมื่อเขาช่วยคนอื่นได้ ก็ให้เขาช่วยตัวเองด้วยสิ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ผู้ที่พระเจ้าได้เลือกไว้จริง”

36 พวกทหารก็พากันมาล้อเลียน พวกเขาเอาเหล้าองุ่นเปรี้ยวให้พระองค์ 37 พวกเขาพูดว่า “ถ้าแกเป็นกษัตริย์ของชาวยิวจริง ก็ช่วยตัวเองสิ”

38 เหนือตัวพระองค์ขึ้นไปมีป้ายเขียนไว้ว่า “นี่คือกษัตริย์ของชาวยิว”

39 ผู้ร้ายคนหนึ่งที่ถูกตรึงอยู่พูดเสียดสีว่า

“แกเป็นพระคริสต์ไม่ใช่หรือ ช่วยตัวแกเองและพวกเราด้วยสิ”

40 แต่ผู้ร้ายอีกคนหนึ่งห้ามเขา และพูดขึ้นว่า “แกก็มีโทษถึงตายเหมือนกับเขา แกไม่กลัวพระเจ้าหรือยังไง 41 พวกเรามันสมควรตายอยู่แล้ว แต่ชายคนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย” 42 แล้วเขาก็พูดว่า “เยซู อย่าลืมผมนะครับ เมื่อพระองค์เข้าสู่อาณาจักรของพระองค์”

43 พระองค์จึงตอบว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า วันนี้คุณจะได้อยู่กับเราในสวนสวรรค์อย่างแน่นอน”

สดุดี 97-98

พระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์เหนือทุกสิ่ง

พระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์
    ขอให้แผ่นดินโลกชื่นชมยินดี ขอให้หมู่เกาะทั้งหลายเฉลิมฉลองกัน
หมู่เมฆและความมืดทึบอยู่ล้อมรอบพระองค์
    ความยุติธรรมและความเป็นธรรมเป็นรากฐานแห่งบัลลังก์ของพระองค์
เปลวไฟนำอยู่เบื้องหน้าพระองค์
    และเผาไหม้ศัตรูของพระองค์ทุกด้าน
สายฟ้าของพระองค์ทำให้โลกสว่างไสว
    แผ่นดินโลกเห็นและสั่นเทิ้ม
ภูเขาก็หลอมละลายราวกับขี้ผึ้งอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์
    ผู้เป็นองค์เจ้าชีวิตของแผ่นดินโลก

ฟ้าสวรรค์เล่าขานคุณความดีของพระองค์
    และทุกชนชาติเห็นรัศมีของพระองค์
คนเหล่านั้นที่นมัสการรูปบูชาและภาคภูมิใจในรูปเคารพของเขาจะถูกทำให้อับอายขายหน้า
    และพวกพระเจ้าทั้งหลายจะต้องก้มลงกราบพระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ศิโยนได้ยินพวกคำตัดสินต่างๆของพระองค์และเฉลิมฉลอง
    หมู่บ้านทั้งหลายของยูดาห์ต่างชื่นชมยินดีด้วยเหมือนกัน
เพราะ พระยาห์เวห์เจ้าข้า พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดเหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
    พระองค์นั้นยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้าทั้งปวงมากนัก

10 พวกเจ้าที่รักพระยาห์เวห์ ให้เกลียดชังความชั่วสิ
    พระองค์ปกป้องชีวิตของคนที่จงรักภักดีต่อพระองค์
    พระองค์ช่วยกู้เขาจากเงื้อมมือของคนชั่ว
11 แสงสว่างส่องลงมายังคนที่ทำสิ่งถูกต้อง
    และคนใจซื่อตรงจะมีความสุข
12 พวกเจ้าคนดีทั้งหลาย ให้เฉลิมฉลองกันในพระยาห์เวห์
    ให้สรรเสริญชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

ให้ทุกสิ่งทุกอย่างสรรเสริญพระยาห์เวห์

บทเพลงสดุดี

ร้องเพลงบทใหม่ให้กับพระยาห์เวห์เพราะพระองค์ทำสิ่งที่น่าทึ่งทั้งหลาย
    มือขวาอันทรงฤทธิ์และแขนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้นำชัยชนะมาสู่พระองค์
พระยาห์เวห์แสดงอำนาจในการช่วยกู้ของพระองค์
    พระองค์ได้แสดงความยุติธรรมของพระองค์ให้ชนชาติต่างๆเห็น
พระองค์ระลึกถึงความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ที่พระองค์มีต่ออิสราเอล
    ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็เห็นอำนาจในการช่วยกู้ของพระเจ้าของเรา

ชาวโลกทั้งหลายให้ตะโกนเรียกพระยาห์เวห์
    ให้เปล่งเสียงออกมาเป็นเพลงแห่งความสุขและเล่นดนตรีกันเถิด
ให้เล่นดนตรีเพื่อเป็นเกียรติแด่พระยาห์เวห์
    โดยใช้พิณและเครื่องดนตรีอื่นๆ
ให้เป่าปี่และแตรเขาสัตว์
    ต่อหน้าพระยาห์เวห์ผู้เป็นกษัตริย์

ให้ท้องทะเลและทุกชีวิตในทะเลนั้นร้องคำราม
    ให้แผ่นดินโลกและทุกชีวิตบนโลกนั้นโห่ร้อง
ให้แม่น้ำทั้งหลายปรบมือ
    ให้ภูเขาทั้งหลายเต้นรำด้วยความยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์
พระองค์กำลังมาตัดสินแผ่นดินโลกนี้ พระองค์จะตัดสินโลกนี้อย่างยุติธรรม
    และตัดสินชนชาติต่างๆอย่างเป็นธรรม

สุภาษิต 14:7-8

ให้หลีกหนีให้ห่างจากคนโง่
    เพราะเจ้าจะไม่เจอคำพูดที่ฉลาดจากเขา
คนฉลาดรู้ว่าตัวเองจะไปไหน
    แต่คนโง่คิดว่าตัวเองรู้

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International